บทที่ 28สองสาวแอบมองคนพวกนั้นจนคนทั้งหมดเดินจากไป จึงพากันกลับมานั่งที่โต๊ะในห้อง ปิงปิงเอาสมุดรายชื่อที่เธอบันทึกไว้ออกมาทำแผนผังแบบที่เธอชอบทำ และเริ่มอธิบายให้เล่อเล่อฟังไปด้วย"ผู้ชายที่เข้ามาคุยกับพี่อิงอิงชื่อ เติ้งคุน เป็นคู่หมั้นของ กู้ฟางเซียน... ""...ที่เคยบอกว่าเป็นป้าของเธอ แล้วจะมาแย่งพ่อเธอไปใช่ไหม" เล่อเล่อมีท่าทางตกใจที่ได้ยินแซ่กู้ เพราะมันเป็นแซ่ของแม่แท้ ๆ ของปิงปิง"ใช่ สองคนที่แอบอยู่อีกมุมคือ กู้ฟางเซียน และ กู้เฟยหลง ญาติผู้พี่ของฉันเอง" ปิงปิงบอกเพื่อนทันที"สรุปให้ฉันฟังที เอาที่เข้าใจง่าย ๆ ด้วย" เล่อเล่ออยากรู้รายละเอียดมากกว่านี้ ตอนแรกเธอทำตามที่เพื่อนบอกเพราะคิดว่ามันสนุกและแปลกใหม่ แต่ตอนนี้เธออยากรู้เรื่องแล้วว่ามันเกี่ยวข้องกับยัยขี้เหร่ยังไง"มันมีแบบที่ฉันคาดเดากับเรื่องจริง... ฉันจะบอกเรื่องจริงก่อน เติ้งคุนเป็นคู่หมั้นของกู้ฟางเซียน การหมั้นที่เกิดขึ้นเป็นเพราะผู้ใหญ่ อันนี้คือเรื่องจริงแน่นอน แต่ที่ฉันคาดเดาคือ อีตาเติ้งคุนมาชอบพี่อิงอิง และฉันก็เดาอีกว่ายัยกู้ฟางเซียนคงสงสัยถึงได้ตามมาแอบดูอย่างที่เราเห็น... อย่าถามว่ายัยกู้ฟางเซียนรู้ได้ยังไง
บทที่ 29ตอนนี้ปิงปิงและเล่อเล่อกำลังทดลองใช้ครีมบำรุงและกันแดดตัวใหม่ ในหนังสือบอกว่ามีคุณสมบัติป้องกันแสงแดดและป้องกันน้ำ พวกเธอสองคนเลยจะไปพิสูจน์แถวริมแม่น้ำ ในเมื่อคนอื่นยุ่งกับการทำลิปสติกส่งลูกค้า เธอสองคนเลยอาสาทดลองครีมตัวนี้เอง"ปิงปิง วันจันทร์ก็ต้องไปแข่งแล้ว เธอยังจะมาทดลองครีมวันนี้เนี่ยนะ" เล่อเล่อบ่นไปด้วย ละเลงครีมทาตัวไปด้วย"ครีมมันดีไม่ต้องกลัวหรอก ฉันทดลองมาก่อนแล้ว เหลือแต่กันแดดกันน้ำเนี่ยแหละ" ปิงปิงบอก"เออ... เชื่อก็ได้"ทั้งสองพากันเดินไปที่ริมน้ำซึ่งเป็นทางน้ำไหลและสามารถเดินลงไปนั่งเล่นได้ บางคนก็เอาผ้ามาซักที่บริเวณนี้ ทั้งสองตัดสินใจเดินขึ้นไปทางต้นน้ำจะได้ไม่ต้องมานั่งเล่นน้ำที่เขาซักผ้าล้างผ้ากัน"ทำไมช่วงนี้ไม่ค่อยเห็นพี่ชายหานเลย""เห็นบอกว่าไปทำงานต่างเมือง""เขาไม่เรียนแล้วเหรอ" "ไม่รู้เหมือนกัน ไม่อยู่ก็คงไม่เรียนละมั้ง" ปิงปิงก็ไม่เคยถาม รู้แต่ว่าเขาต้องไปทำงานให้ครอบครัวต่างเมือง ไม่ค่อยได้กลับมา"เธอไม่คิดถึงพี่ชายหานเหรอ ปกติเขาต้องมาตามเธอต้อย ๆ " "ก็มีคิดบ้าง" ตอนนี้ขนมแบบที่เคยได้กินทุกวันกลับได้กินน้อยลงกว่าเดิม เพราะเธอไม่อยากใช้เงินตัว
บทที่ 30หลังผ่านเหตุการณ์ระหว่างความเป็นความตายกันมาก็ทำให้ปิงปิงพิสูจน์เรื่องกิเลนเลือดสำเร็จ บางครั้งเจ้ากิเลนตัวนี้ก็ออกมาวิ่งวนรอบ ๆ แต่ส่วนใหญ่จะกลายเป็นสร้อยข้อมือมากกว่า ปิงปิงเคยถามพี่สาวในห้องหนังสือว่ากิเลนตัวนี้ต้องกินอาหารไหม คำตอบที่ได้ทำเอาเธอขนลุกไปเลย กิเลนตัวนี้กินเลือดของเธอทุกวัน จะไม่ให้ขนลุกได้ยังไง และพี่สาวยังบอกอีกว่าถึงมันจะกินเลือดเธอ แต่ก็ไม่ทำให้เธอเสียเลือดมากถึงขนาดตายได้ แต่ยังไงมันก็น่าขนลุกอยู่ดี"คายออกมา... " จุนหายแบมือและยื่นไปที่ปากเด็กอ้วนที่จับขนมยัดเข้าไปเต็มปากจนแก้มพอง ไม่รู้ทำไมถึงได้ยัดเข้าไปขนาดนี้ปิงปิงยอมคายขนมออกมาใส่มือพี่ชายหาน พร้อมหัวเราะไปด้วย จะให้บอกได้ยังไงว่ามัวแต่คิดเรื่องกิเลนจนจับขนมยัดเข้าปากแบบไม่คิดชีวิตแบบนี้"เอาถุงขนมมานี่... เดี๋ยวพี่ป้อนเอง" จุนหานไม่อยากดุยัยเด็กอ้วนนี่แล้ว ดุไปก็เป็นเหมือนเดิมทุกที ทางที่ดีเขาป้อนเองนี่แหละดีที่สุดปิงปิงส่งขนมให้พร้อมกับโน้มตัวอ้าปากรอรับขนมจากพี่ชายหาน"ใจเย็น ๆ กินมากเดี๋ยวกินอย่างอื่นไม่ได้"ปากห้ามแต่มือก็ส่งขนมเข้าปากเด็กอ้วนพร้อมทั้งคอยเช็ดปากที่เลอะน้ำตาลออกให้ด้วย บางทีเ
บทที่ 31ปิงปิงกับเล่อเล่อกำลังเตรียมตัวเข้าสอบแข่งขันเพื่อให้ตัวเองมีสิทธิ์สอบจบชั้นต้น มันคือการสอบเทียบให้จบเร็วขึ้นกว่าเดิม ถ้าเธอผ่านตรงนี้ไปได้ เธอก็จะสอบเทียบจบชั้นปลายได้ ที่ปิงปิงรีบเพราะเธอคิดจะไปทวงสมบัติในส่วนของแม่เธอ และในเมื่อจะไปเธอก็ต้องย้ายเมือง เธอไม่อยากเสียเวลาไปหาที่เรียนใหม่หรือปรับตัวใหม่ แค่ไปทำลายความหวังของยัยป้านั่นเธอก็แทบไม่มีเวลาแล้ว เธอเลยคิดสอบเทียบจบชั้นปลายให้เรียบร้อย พ่อแม่พี่น้องจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง และที่เล่อเล่อมาด้วยเพราะยัยนี่ต้องการไปกับเธอด้วย เล่อเล่อต้องทำให้ที่บ้านมั่นใจว่าลูกของตัวเองเรียนจบชั้นปลายแล้วจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้เล่อเล่อผู้ที่ไม่ชอบการอ่านหนังสือสอบ ยอมที่จะนั่งอ่านหนังสือกับเธอเพื่อมาสอบ เพราะยัยนี่บอกว่าจะปล่อยให้เธอไปสนุกคนเดียวได้ยังไง ดังนั้นพวกเธอเลยต้องมานั่งที่ห้องสอบพร้อมกันแบบนี้แหละเล่อเล่อที่ไม่ค่อยมั่นใจในตอนแรก พอมาอ่านแบบทดสอบก็ทำให้เธอยิ้มได้ มันเป็นแบบที่ปิงปิงสรุปไว้ทั้งหมด เธอเลยรีบทำทันที ทั้งสองสาวใช้เวลาในการสอบแข่งขันตามเวลาที่กำหนด ที่บอกว่าสอบแข่งขันเพราะมันไม่ใช่ว่าทุกคนสอบผ่านแล้
บทที่ 32หลังจากสองสาวไปสอบเทียบจบชั้นต้นแล้วก็เหลือไปสอบเทียบจบชั้นปลาย ตอนนี้สินค้าที่ปิงปิงทดลองทำนั้นขายดีมากจนต้องจ้างคนและหาโกดังเพื่อทำเป็นที่ผลิตสินค้าของครอบครัว นอกจากนั้น เธอยังต้องยุ่งกับการช่วยเล่อเล่อทำเครื่องประดับขายด้วย มันคือความฝันของเล่อเล่อที่อยากทำขาย และที่สำคัญ ตอนที่เธอหาอาชีพเพื่อให้ครอบครัวได้ทำ เล่อเล่อก็มาช่วยทำมาช่วยทดลองตลอด ไม่เคยทิ้งเธอไปไหนเลย ตอนนี้ถึงเวลาที่เธอต้องช่วยเล่อเล่อแล้ว"เล่อเล่อ เธอต้องทำสัญลักษณ์เฉพาะ อย่างเช่นตัวหนังหรืออะไรก็ได้ ให้รู้ว่าสินค้านี้เป็นของเธอ แล้วเราต้องไปที่เขตเพื่อจดลิขสิทธิ์สินค้าเหมือนลิปสติกกับครีมบำรุงของฉัน" ปิงปิงรีบแนะนำเพื่อนทันที"เดี๋ยว! อะไรลิข ๆ นะ เอาที่เข้าใจง่าย ๆ ได้ไหม" เล่อเล่ออยากตบหัวสักที บอกไม่เคยจำว่าให้พูดภาษาที่เธอเข้าใจง่าย ไม่ใช่ท่องตามหนังสือ และภาษาหนังสือที่ปิงปิงอ่านส่วนมากก็มีแต่คำแปลกประหลาดเข้าใจยากด้วย"ไปจดทะเบียนเพื่อแสดงว่าเราเป็นเจ้าของสินค้าตัวนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้ใครแอบอ้างสิทธิ์ และก็ทำสัญลักษณ์เพื่อให้รู้ว่าสินค้านี้เป็นของเรา ถ้าไม่มีสัญลักษณ์แปลว่าไม่ใช่ของเรา เหมือนที่ฉัน
บทที่ 33ตอนนี้ปิงปิงอยู่ในอาการตกใจอ้าปากค้าง นั่งนิ่งกับคำพูดของพี่ชายหาน ทำไมเธอจะไม่เข้าใจประโยคนี้ เพราะเธอซ้อมประโยคนี้บ่อยมาก เธอวางแผนว่าถ้าเจอพี่ชายหาน เธอจะขอหมั้น แต่พอมาเจอปัญหากับเล่อเล่อเธอเลยไม่กล้า แต่ที่ไม่รู้คือเขาอยากหมั้นกับเธอเพราะรู้สึกแบบไหนกับเธอกันแน่ ในเมื่ออยากรู้ก็ต้องถามเพื่อให้ได้คำตอบ"พี่ชายหานคะ... พี่รักปิงปิงเหรอคะ""พี่แสดงออกชัดเจนนะ แต่ถ้าเด็กอ้วนอยากได้ยิน พี่ก็พร้อมจะบอก""พี่รักปิงปิง... รักมานานมาก" จุนหานบอกพร้อมกับก้มลงมาจูบที่ริมฝีปากนุ่มเบา ๆ แล้วถอยกลับไปนั่งท่าเดิม เพราะเด็กอ้วนยังเด็ก และตอนนี้เขายังไม่ใช่คู่หมั้น ถ้าเขาได้ตำแหน่งนั้นมาเมื่อไร เขาไม่ทำแค่นี้แน่นอนปิงปิงที่ถูกบอกรักและยังจะเอาปากมาชนปากเธออีกเลยทำให้เธออยู่ในอาการตกตะลึง มือจับที่หน้าอกข้างซ้ายเพราะตอนนี้หัวใจเธอเต้นแรงมาก เหมือนมันจะทะลุออกมาข้างนอกให้ได้ ปิงปิงรีบคว้ามือพี่ชายหานให้มาจับดูว่าหัวใจของเธอมันเต้นจนจะทะลุออกมาแล้ว โดยไม่มองดูหน้าจุนหานที่แดงระเรื่อขึ้นทันที เพราะบริเวณที่จับมันคือหน้าอกด้านซ้ายของเด็กอ้วน ซึ่งจากที่สัมผัส มันไม่เด็กเลย มันค่อนข้างโตกว่าอา
บทที่ 34จุนหานกำลังรอเวลาที่จะส่งของขวัญไปให้คนตระกูลกู้ ตอนแรกเขาตั้งใจจะเข้าไปด้วยตัวเอง แต่พอมาคิดถึงปัญหาที่จะตามมาแล้วมันไม่คุ้ม เพราะเรื่องมันไม่จบอยู่แค่สองตระกูล มันยังมีอีกเรื่องที่เด็กอ้วนของเขาอยากจะทำ เขารอออกตัวช่วยตอนนั้นก็ยังทัน"นายน้อยครับ... คนของเราพร้อมแล้วครับ" คนสนิทของจุนหานเข้ามารายงาน"อยู่กันครบไหม" จุนหานต้องการให้อยู่กันพร้อมหน้า"แค่ผู้อาวุโสตระกูลกู้ครับ... ส่วนเด็กแฝดไม่อยู่ครับ" คนสนิทรายงาน"ไปลากตัวมันมา ต้องอยู่ให้ครบพ่อแม่ลูก" จุนหานออกคำสั่งทันที"อาเหลียง เข้าไปจัดการเก็บรายละเอียดทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน" จุนหานสั่งคนสนิทอีกคนให้เข้าไปในตระกูลกู้อาเหลียงที่ว่านี้คือ คนที่จุนหานเคยช่วยไว้ตั้งแต่เด็กและถูกเลี้ยงดูมาพร้อมกับเขา อาเหลียงเพิ่งกลับมาช่วยงานจุนหาน เพราะเขาถูกส่งไปเรียนรู้งานกับพวกต่างชาติ เกี่ยวกับการเก็บภาพถ่าย ทั้งที่เคลื่อนไหวได้และภาพนิ่ง ซึ่งเป็นเรื่องแปลกใหม่ต้องไปเรียนรู้กับคนต่างชาติ และต้องสั่งซื้อของพวกนี้จากต่างชาติในราคาที่สูงมาก แต่เมื่อเอามาใช้ประโยชน์ได้ จุนหานก็ไม่ลังเลที่จะจ่าย"ครับนาย" อาเหลียงรับคำและก้มศีรษะแสดงความเ
บทที่ 35บทเรียนที่กู้ม่านชิงได้รับดูไม่หนักเท่าหลิวหยางที่ต้องสูญเสียคนรัก สูญเสียหลาย ๆ อย่างตลอดสิบกว่าปี สิ่งที่จุนหานมอบให้มันเล็ก ๆ น้อย ๆ แค่ให้โรงพิมพ์ พิมพ์เรื่องอื้อฉาวของกู้ม่านชิงออกแจกประชาชนทั่วไป รวมถึงติดประกาศรอบเมืองจนตอนนี้ลามไปหลายเมืองที่รู้จักตระกูลกู้แล้ว งานนี้จุนหานไม่ได้ทำแค่เมืองใดเมืองหนึ่ง เขาแจกหนังสือให้ทั่วพร้อมทั้งติดภาพของกู้ม่านชิงให้ประชาชนทั่วไปได้รู้จักด้วย ตอนนี้กู้ม่านชิงกลายเป็นคนดังที่ไม่กล้าแม้แต่จะก้าวออกนอกห้องนอนตัวเอง คนตระกูลกู้เริ่มตัดขาดไม่นับญาติด้วยหลายคน ไม่ใช่แค่กู้ม่านชิงที่ใช้ชีวิตลำบาก แม้แต่กู้ฟางเซียนก็ไม่กล้าแม้แต่จะออกนอกบ้าน เธอถูกเพื่อนตัดขาด จากที่เคยมีเพื่อนเยอะตอนนี้เหลือแค่ไม่กี่คน คนที่กล้าออกนอกบ้านก็มีแค่กู้เฟยหลงที่เขาไม่สนใจและไม่ใส่ใจว่าคนอื่นจะมองเขายังไง ทางด้านผู้อาวุโสตระกูลกู้ก็ไม่มีเวลามาใส่ใจกู้ม่านชิงเพราะมัวแต่ยุ่งกับการดูแลธุรกิจที่เกิดความเสียหายจากข่าวของกู้ม่านชิง ในสังคมตอนนี้เน้นเรื่องชื่อเสียงดีงามจึงจะทำธุรกิจร่วมกันได้ แต่ถ้ามีชื่อเสียงไม่ดี เน่าเฟะ คนอื่น ๆ ก็ไม่คิดจะร่วมทำธุรกิจด้วย"นายน้อย.
ตอนพิเศษ"โอ๊ย!! ไม่ไหวแล้ว!! " ปิงปิงเริ่มโวยวายเสียงดัง เนื่องจากตอนนี้เธอเริ่มเจ็บท้องคลอดแล้ว"ฟู่ ๆ ๆ หายใจลึก ๆ นะ" จุนหานกำลังพยายามปลอบใจเพื่อให้ภรรยาใจเย็นลงตอนนี้เจ้าหน้าที่กำลังเตรียมห้องคลอด เนื่องจากท้องนี้ต้องใช้หมอต่างชาติมาทำการผ่าตัดคลอด พยาบาลได้ฉีดยาเพื่อทำให้ภรรยาของเขาหลับแล้ว แต่ภรรยาของเขายังไม่หลับและยังไม่สลบ ไม่รู้เพราะยายังไม่ออกฤทธิ์หรือเพราะความเจ็บปวดที่มากเกินไป ทำให้ภรรยาของเขาเริ่มเสียงดังโวยวาย"ไม่เอาแล้ว มันเจ็บ ฮือ ๆ ๆ ๆ " ปิงปิงเริ่มร้องไห้และเริ่มโวยวายเสียงดัง จุนหานจึงต้องคอยกอดและปลอบใจ พร้อมกับส่งสายตากดดันเจ้าหน้าที่ทั้งหลายที่ทำงานไม่ทันใจเขาเอาเสียเลย จุนหานค่อย ๆ ลูบหลังคนที่เจ็บท้องเพื่อปลอบโยนจนคนตัวเล็กที่บ่นพึมพำเสียงเบาลงเรื่อย ๆ จนเงียบไป หมอไม่อนุญาตให้เขาเข้าไปข้างในห้องผ่าตัด แต่จุนหานยืนยันที่จะเข้าไป เขาไม่มีทางปล่อยให้ภรรยาคลอดเพียงลำพังแน่นอน หมอที่ต้องรีบทำการผ่าคลอดก็ต้องยอมและทำงานด้วยอาการเกร็ง เพราะจุนหานมองอย่างไม่ละสายตา ทำให้หมอต้องรีบผ่าคลอดให้สำเร็จ ไม่อย่างนั้นต้องตกอยู่ในสถานการณ์กดดันจากญาติคนไข้เป็นเวลานานแน่น
บทที่ 51 บทส่งท้ายวันนี้คือวันแต่งงานของปิงปิง เธอต้องตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมตัว ต้องบอกว่าแทบไม่ได้นอนทั้งคืน เพราะเธอต้องดูแลว่าที่เจ้าบ่าวของเธอที่ตอนนี้อาการหนักพอสมควร เหตุเกิดจากเขาอีกนั่นแหละ เธอเลยไม่ค่อยสงสารเขาสักเท่าไร"ไหวไหมคะ" ปิงปิงถามแม่ฟางเหนียงที่เข้ามาดูว่าเธอแต่งตัวเสร็จหรือยัง เพราะทางบ้านหยางจ้างช่างแต่งหน้าแต่งตัวไว้ทั้งหมด เธอมีหน้าที่แค่ยืนนิ่ง ๆ หรือนั่งนิ่ง ๆ ให้เขาแต่งตัวให้เท่านั้นเอง"ก็ยังอาเจียนออกมาตลอด" ฟางเหนียงพูดแล้วก็อดหัวเราะไม่ได้ที่เห็นคนนิ่ง ๆ แบบจุนหานมีอาการแบบนี้"ปิงปิงไม่ค่อยสงสารเขาเท่าไรหรอกค่ะ" เธอพูดตามที่คิด"แหม! ยัยขี้เหร่! ใครไม่เป็นไม่รู้หรอกว่ามันทรมานมากแค่ไหน" เล่อเล่อที่นั่งกินผลไม้อยู่รีบออกตัวอย่างแรง เพราะสองคนนี้มีอาการอย่างเดียวกัน"กินเยอะ ๆ นะแม่หมา... " ปิงปิงเอามือลูบท้องนูน ๆ ของเพื่อนที่หมอบอกว่าท้องได้ประมาณสามเดือนแล้ว"ไม่ต้องห่วงเรื่องกินของฉัน... ฉันกำลังสงสัยว่าตกลงจัดพิธีแบบไหนเนี่ย! จะแบบโบราณก็ไม่ใช่ จะแบบต่างชาติก็ไม่ใช่" เล่อเล่อมองดูงานที่ถูกจัดในโรงแรม แขกทุกคนก็นอนกันที่นี่ทั้งหมด"ตอนงานหมั้นเขาตามใจ
บทที่ 50ปิงปิงถูกเคี่ยวกรำทั้งวันทั้งคืนเกือบทั้งอาทิตย์ ไม่ได้ออกจากห้องไปไหน แม้แต่ตอนกินข้าวก็ยังต้องอยู่แต่ในห้อง บทลงโทษนี้ทำให้เธอลุกไม่ไหว แถมในช่วงวันแรก ๆ เธอระบมไปทั้งตัว เหมือนจะมีไข้ ไอ้คนใจร้ายก็ให้เธอกินยา แต่แทนที่จะได้นอนพัก เขากลับทำให้เธอเหมือนโดนดูดพลังออกไปจนหมด พี่ชายหานต้องเป็นคนอุ้มเธอไปอาบน้ำและแต่งตัว เขาทำให้เธอแทบทุกอย่าง..."ให้ปิงปิงกลับบ้านได้ไหมคะ" ปิงปิงพูดขึ้นขณะที่กำลังนั่งกินข้าวต้มอยู่"ไม่อยากลุกจากเตียงใช่ไหม" จุนหานที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามพูดขึ้น"ปิงปิงไม่ได้ออกจากห้องนี้มาเป็นอาทิตย์แล้วนะคะ พ่อต้องเป็นห่วงแน่นอน เล่อเล่อด้วย ต้องเป็นห่วงแน่ ๆ และที่สำคัญ ปิงปิงต้องไปเรียน""รีบกิน เรื่องพวกนั้นจัดการให้แล้ว""เรื่องไหน... จัดการยังไงคะ" "พ่อจ้าวยังไม่กลับ เล่อเล่ออยู่บ้านคู่หมั้น ส่วนเรื่องวิทยาลัยแจ้งไปแล้วว่าช่วงนี้กำลังเตรียมงานแต่ง เลยไม่ได้เข้าเรียน"จุนหานจัดการทุกอย่างโดยเป็นคนสั่งให้ลูกน้องดำเนินการ ส่วนเรื่องงานแต่ง เขาเป็นคนไปบอกครอบครัวของเขาให้เตรียมจัดงานได้เลย ถ้าอยากอุ้มหลานเร็ว ๆ ให้จัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย เพราะช่วงนี้เขาไม่
บทที่ 49ปิงปิงยังคงนอนนิ่งเหมือนกับเล่อเล่อที่ยังหลับสนิท หมอเข้ามาตรวจร่างกายจนละเอียดก็ไม่พบว่ามีอะไรผิดปกติ คนอื่น ๆ ของตระกูลจ้าวต่างก็ออกไปส่งแขก เนื่องจากหมดเวลาเลี้ยงรับรองแล้ว พวกเขายังทำทุกอย่างตามปกติ แม้แต่คนสามคนที่หายไปก็ไม่มีคนสงสัยเลยหลังจากส่งแขกแล้วก็เหลือแค่คนตระกูลจ้าวกับหยางจุนหานที่กำลังรอฟังเรื่องราวที่เขาไม่รู้ เขาเลยต้องปล่อยให้ปิงปิงนอนอยู่ในห้องรับรองกับเล่อเล่อสองคน แล้วสั่งให้คนเฝ้าไว้ ถ้าปิงปิงตื่นแล้วให้รีบแจ้งเขาทันที ก่อนที่เขาและจ้าวหลิวหยางจะพากันเดินไปที่ห้องโถงของตระกูลจ้าว"คงมีแค่ไม่กี่คนที่รู้เรื่องนี้" หลิวหยางพูดขึ้นระหว่างที่เดินไป"บางทีก็แปลกใจ... แทนที่จะบอกพวกเรา ทำไมถึงไม่บอก ชอบทำอะไรที่เสี่ยงอันตราย หากตื่นขึ้นมา ผมขออนุญาตลงโทษปิงปิงในการทำผิดครั้งนี้ด้วยนะครับ" จุนหานรีบบอกทันที"ได้!! ครั้งนี้มันเสี่ยงถึงชีวิต ลงโทษได้เลย พ่อจะไม่อยู่บ้าน... เพราะถ้าอยู่คงทำใจไม่ได้" หลิวหยางยอมให้จุนหานลงโทษลูกสาวเขา ต่อไปจะได้ไม่ต้องทำอะไรเสี่ยงแบบนี้อีก เขาคิดว่าจุนหานคงไม่กล้าทำอะไรรุนแรงถึงขั้นซ้อมลูกสาวเขาแน่นอน แต่จะลงโทษแบบไหน เขาก็ไม่อยากร
บทที่ 48เวลาเดียวกันนั้น จ้าวหลิวหยางได้พาคนทั้งสามเดินลงไปที่ห้องใต้ดิน ตอนนี้ห้องนี้ไม่ใช่ห้องต้องห้ามแล้ว ตั้งแต่ที่ลูกสาวของเขาเข้าไป เขาหวังว่าหนึ่งในสามคนนี้จะเป็นคนที่พวกเขาตามหา"นายท่านครับ" เสียงดังออกมาจากทางเดินอีกมุมหนึ่ง ก่อนที่จ้าวหลิวหยางจะให้คนทั้งสามเดินเข้าไปในห้องลับนั้นก่อน"เข้าไปกันได้เลย... สำรวจได้ตามสบาย" หลิวหยางหันไปบอกทั้งสามคน"ถ้าอย่างนั้นพวกผมเข้าไปก่อนนะครับ" เติ้งคุนเป็นคนบอกกับหลิวหยางทันที เขาก็อยากเห็นว่าในนั้นมีอะไรบ้าง โอกาสดี ๆ แบบนี้ไม่ได้มีง่าย ๆ ถึงจะรู้ว่ามันเป็นแผน แต่เขาก็ยังอยากจะเข้าไปดูห้องนั้นอยู่ดีทั้งสามคนเดินเข้าไปที่ห้องลับ โดยมีจ้าวหลิวหยางยืนมองคนทั้งสาม แต่ที่แปลกคือกู้ฟางเซียนไม่สามารถเข้าไปในนั้นได้ พอสองคนนั้นเข้าไปแล้ว ประตูก็ปิดสนิททันที กู้ฟางเซียนพยายามเปิดแล้วก็เปิดไม่ได้ จึงหันไปทางจ้าวหลิวหยางอย่างสงสัย"มันเปิดไม่ได้" กู้ฟางเซียนพูดขึ้นทันที"ไปเอากุญแจมา" หลิวหยางหันไปบอกคนสนิท... ซึ่งก็รู้อยู่แล้วว่าต้องไปตามหยางจุนหานมาด้วยแต่ที่แปลกไปกว่านั้นคือประตูมันล็อก เหมือนตอนที่ลูกสาวเขาเข้าไปครั้งแรก ซึ่งมันเริ่มไม่เป็
บทที่ 47หลังจากได้พูดคุยวางแผนกันแล้ว ทุกคนก็กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ เพราะต้องรอยืนยันก่อนว่าคนคนนั้นคือใคร ซึ่งหน้าที่นั้นตกเป็นของพี่ชายหาน ตอนนี้เธอมีหน้าที่เรียน ช่วยงานเล่อเล่อ และไปทำงานกับพี่ชายหาน ส่วนมากยังเหมือนเดิม แต่ที่แตกต่างจากเดิมคือ พ่อจ้าวกับพี่ชายหานไม่ปล่อยให้เธออยู่คนเดียว จะต้องมีใครคนใดคนหนึ่งอยู่กับเธอตลอด เพราะพวกเขาคิดว่ายังไงคนคนนั้นก็พยายามเข้าหาเธออย่างแน่นอน โดยเฉพาะพี่ชายหานที่ให้คนมาคอยตามดูแลเธอตลอดเวลาจนเธอกระดิกตัวไปไหนไม่ได้เลย แต่ถ้าจะไปไหน พวกเขาจะไปเป็นเพื่อน จากตอนแรกที่รู้สึกอึดอัด หลัง ๆ เธอเริ่มชินแล้ว..."พูดถึงนี่ก็ผ่านมาหลายเดือนแล้วนะ... พี่ชายหานยังไม่รู้ว่าเป็นคนไหนอีกเหรอ" เล่อเล่อที่กำลังนั่งวาดแบบเครื่องประดับเพื่อจะส่งโรงงานผลิตเงยหน้าหันมาคุยกับเพื่อน"รู้แล้ว... แต่ต้องรอเวลาและต้องใจเย็น ๆ " ปิงปิงบอกไปตามความจริง ตอนนี้แค่รอเวลาเท่านั้น รอให้เหยื่อมาติดเบ็ด มองเหมือนพวกเขาปล่อยไปนานเกินไป แต่จริง ๆ พวกเขาแค่อยากให้ทุกอย่างออกมาดีและเสียหายน้อยที่สุดเลยไม่รีบร้อน เหยื่อจะได้หลงเชื่อว่าทางเราไม่ระแคะระคายเรื่องพวกนี้ พอทางนั้นชะล่า
บทที่ 46ปิงปิงเตรียมไขกุญแจเข้าห้องอย่าทุลักทุเล... แต่ที่น่าตกใจคือประตูเปิดออกเอง ทั้งที่เธอยังไม่ได้เสียบกุญแจเลยด้วยซ้ำ ปิงปิงเลยจุดคบเพลิงตามที่ปู่ทวดบอกแล้วถือเดินตามทางเดินเข้าไป ภายในห้องกว้างมีกลิ่นดอกไม้หอมคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ ปิงปิงเดินไปจนถึงที่จุดคบเพลิงที่ติดอยู่กับผนัง เธอจึงจุดเพิ่มเพื่อที่จะได้มองเห็นรอบ ๆ แสงสว่างค่อย ๆ สว่างขึ้นทีละนิด พอทั้งห้องเริ่มสว่างก็เกิดเสียงดัง ปัง!! พร้อมกับประตูทางเข้าปิดสนิท เหมือนว่าตอนนี้เธอถูกขังอยู่ในห้องนี้แล้ว...ชั่วขณะที่ปิงปิงสำรวจ ห้องนี้ที่มีขนาดกว้างพอสมควร แต่พอสำรวจจนทั่วก็ทำให้หัวใจของเธอกระตุกวูบ เพราะว่าห้องนี้เหมือนกับลานกว้างในฝันของเธอนั่นเอง ลานกว้างที่มีแท่นบูชา... ถ้าให้เดาคงเป็นสถานที่ที่เทพธิดาอักษรจบชีวิตลงแน่นอน ปิงปิงเดินเข้าไปที่แท่นบูชาที่มีดอกเหมยกุยสีแดงขึ้นอยู่เต็มและกำลังเบ่งบานชูช่อสวยงาม เธอค่อย ๆ เอามือลูบไล้ตามพื้นของแท่น สัมผัสดูเรื่อย ๆ สายตาก็สำรวจสิ่งของที่วางบนแท่นบูชา มีตะเกียงแก้ววางอยู่... ถัดมาเป็นหนังสือเล่มสีแดง... สิ่งสุดท้ายคือกริชโบราณแบบที่แทงเข้าไปในหัวใจของธิดาอักษร แบบเดียวกันกับท
บทที่ 45หลังจากได้รับคำตอบรับจากผู้อาวุโสตระกูลจ้าวแล้ว จ้าวหลิวหยางเลยพาทุกคนมาที่ตระกูลหลัก ปิงปิงเดินเข้าบ้านไปพร้อมกับทุกคน ส่วนคนติดตามหรือคนสนิทต้องรออยู่นอกบ้านเพราะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปข้างใน ตอนแรกเธอไม่ได้มีอาการกลัวแต่อย่างใด แต่พอมาอยู่ท่ามกลางสายตาของคนตระกูลจ้าวหลายสิบคน จึงทำให้เธอรู้สึกเกร็งอยู่บ้างปิงปิงทำความเคารพผู้อาวุโสทุกท่านตามที่พ่อจ้าวแนะนำจนครบทุกคน ตอนนี้มีคนตระกูลจ้าวหลายคนที่สนใจรอดูผลทดสอบว่าจะออกมาเป็นแบบไหนยังไงบ้าง... ปู่ทวดเรียกเธอให้เข้าไปยืนบริเวณตรงกลางซึ่งมีผู้อาวุโสนั่งล้อมรอบเป็นวงกลม"จ้าวปิงปิง... มันคือพิธีที่สืบทอดมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ไม่ต้องกลัว มันไม่มีอะไรเลย""ปู่ทวดคะ... ให้ทุกคนอยู่ด้วยได้ไหมคะ" ปิงปิงอยากให้พ่อ พี่ชายหาน และเล่อเล่ออยู่ด้วย มันจะทำให้เธออุ่นใจมากกว่าอยู่คนเดียว"ตอนนี้อยู่ได้... แต่ถ้าผ่านการทดสอบ ต้องเข้าไปในห้องลับนั้นเพียงคนเดียว... มันคือความเชื่อและคำทำนายที่ส่งต่อให้แก่ผู้นำตระกูล""ปู่ทวดเล่าให้ฟังได้ไหมคะ""เดี๋ยวก็รู้... ลูกหลานตระกูลจ้าวล้วนเชื่อและทำตามมาตลอดตั้งแต่อดีตจนถึงตอนนี้""ปู่ขอถามปิงปิงหน่อยได
บทที่ 44ปิงปิงได้อ่านหนังสือเล่มแดงของพี่ชายหานแล้ว เธอคิดว่ามันต้องมีหนังสืออีกเล่มหรือสองเล่มแน่ ๆ เพราะมันเหมือนยังไม่จบ ปิงปิงได้บอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเธอให้พี่ชายหานได้ฟังทั้งหมด ไม่มีปิดบังสักเรื่อง ถึงมันจะดูเหลือเชื่อ แต่พี่ชายหานก็เชื่อเธอ เพราะเขาก็ได้เข้าไปที่ห้องหนังสือเช่นเดียวกันกับเธอ...หนังสือเล่มนั้นมันเหมือนเป็นเรื่องราวบันทึกคล้าย ๆ เล่มของเธอ หนังสือบอกไว้ว่า... ก่อนที่ธิดาอักษรจะยอมเป็นเครื่องสังเวยให้จอมมาร เธอได้แบ่งดวงจิตออกเป็นร้อย ๆ ดวงเพื่อส่งไปจุติตามโลกหนังสือต่าง ๆ ที่ธิดาอักษรสร้างขึ้น หนังสือต่าง ๆ ที่ว่านี้ก็เปรียบเสมือนอีกโลกหนึ่ง มิติหนึ่งที่ต่างเวลาและต่างสถานที่... เพื่อที่จะไม่ได้ดวงจิตถูกทำลายไปทั้งหมด... เหลือไว้เพียงดวงจิตเดียวในโลกนี้ซึ่งต้องใช้สังเวยให้กับจอมมาร... แต่เรื่องที่น่าสนใจมันอยู่ตรงที่ เหมือนธิดาอักษรจะมีคนคอยช่วย นั่นคือ ธิดาบุปผา ที่มาช่วยก่อนที่ดวงจิตจะแตกสลายจากการสละญาณบารมีทั้งหมด โดยได้เก็บเศษเสี้ยวดวงจิตใส่ตะเกียงแก้วและส่งให้กับตระกูลที่เทพมังกรจะถือกำเนิด พร้อมกับบอกว่า... ธิดาอักษรจะหวนคืน..."คิดออก