ในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาที สมาชิกพันธมิตรเกือบสิบคนได้ย้ายไปอยู่ฝั่งของแพทริค เรย์โนลด์เป็นที่เรียบร้อย แต่ละคนสรรหาคำพูดที่ดูถูกตนเองมากกว่าคำพูดของคนก่อนหน้าเมื่อเห็นว่าสมาชิกพันธมิตรเกือบครึ่งปิดเปือนคำพูดเพื่อย้ายไปยังฝ่ายศัตรู มาร์คัส คอลลินส์และเทอร์รี่ แซนเดอร์มีท่าทีไม่พอใจอย่างยิ่ง“ตระกูลวอลเลซ ขอยอมจำนนต่อมิสเตอร์เรย์โนลด์เช่นกัน”“มิสเตอร์เรย์โนลด์เป็นคนใจดี ได้โปรดปล่อยให้ตระกูลวอลเลซมีชีวิตอยู่ต่อไปด้วย”ทันใดนั้น เจมส์ วอลเลซ ซึ่งเป็นทายาทรุ่นที่สามของตระกูลวอลเลซก็เริ่มเดินไปตามทิศทางของแพทริค เรย์โนลด์ด้วย มาร์คัส คอลลินส์ และเทอร์รี่ แซนเดอร์เดือดดาลในทันทีนอกจากข้อเท็จจริงที่ว่ากองกำลังอื่น ๆ ภายในกลุ่มพันธมิตรแห่งเมืองริเวอร์วิลล์ได้ยอมจำนนต่ออิทธิพลของแพทริคเรย์โนลด์แล้ว เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้สำหรับ หนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ ที่จะทำเช่นเดียวกัน ที่สำคัญกว่านั้น ครอบครัววอลเลซเพิ่งถูกทุบตีอย่างรุนแรงเมื่อไม่กี่วันก่อนเป็นเรื่องน่ารังเกียจสำหรับเจมส์ วอลเลซที่จะทรยศต่อคนที่มีนามสกุลเดียวกับตนเอง ด้วยการร่วมมือกับแพทริค เรย์โนลด์ ส่อให้เห็นว่า พฤติกรรมของเจมส์ วอล
ใบหน้าของเทอร์รี่ แซนเดอร์เริ่มมืดมนในทันที "มิสเตอร์ วอร์ด เราตกลงราคากันตั้งแต่แรก แล้วไม่ใช่เหรอ? มันไม่สมเหตุสมผลไปหน่อยเหรอ ที่นายจะเรียกร้องราคาที่สูงขึ้นอย่างกระทันหัน?”เฮคเตอร์ วอร์ดสูดลมหายใจ “เมื่อฉัน เฮคเตอร์ วอร์ดเป็นผู้นำแล้ว แน่นอนว่าฉันสามารถจัดการมันได้อย่างแม่นยำ ด้วยเหตุนี้ ฉันเพียงผู้เดียวช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายสำหรับนักสู้ผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากได้ เพียงแค่การเพิ่มเงินฉันขอมากไปเหรอ?”บางทีอาจเป็นเพราะว่า เฮคเตอร์ วอร์ด มีภูมิหลังของศิลปะการต่อสู้เส้าหลินกังฟู ที่ควบคู่ไปกับสถิติการชนะการแข่งขันฉากต่อสู้ใต้ดินสามสิบหกนัดติดต่อกัน นั่นทำให้เขามั่นใจในความสามารถของตัวเองมากอันที่จริง ระดับของความมั่นใจของเขาเกินคำว่าอวดดีและยังมั่นใจในตัวเองสุด ๆในขณะเดียวกัน เทอร์รี่ แซนเดอร์เองก็นึกไม่ถึงว่าเฮคเตอร์ วอร์ดจะเรียกร้องราคาที่สูงขึ้นอย่างไร้ยางอาย ทั้ง ๆที่พวกเขาได้ตกลงราคาไปแล้วก่อนหน้านี้ในขณะที่เทอร์รี่ แซนเดอร์ลังเล มาร์คัส คอลลินส์ก็เริ่มพูดขึ้น “นายแน่ใจใช่ไหม ว่านายจะเอาชนะคน ๆ นั้นได้?”“ถ้าฉันทำไม่ได้ ฉันคงไม่พูดมันอย่างมั่นใจ” เฮคเตอร์ วอร์ดกล่าว
ผู้คนต่างหวาดกลัวเจค มอร์ริส หลังจากที่ได้เห็นเขาเพียงแค่นัดเดียว เมื่อเขาเรียกหาคู่ต่อสู้ แต่ดูเหมือนไม่มีใครอยากขึ้นเวที แม้ว่าจะมีเสียงพูดคุยกันในส่วนของพันธมิตรก็ตาม ทุกสิ่งกลายเป็นเรื่องน่าอึดอัดใจ"เกิดอะไรขึ้น? คนขี้ขลาดไร้ประโยชน์แห่งเมืองริเวอร์วิลล์กลัวการขึ้นมาบนนี้เหรอ?” เจค มอร์ริสเริ่มหงุดหงิดเมื่อดูเหมือนว่า ไม่มีใครก้าวออกมา จากการยั่วยุในคำพูดของเขาในขณะเดียวกัน มาร์คัส คอลลินส์และเจด ลอเรลก็เริ่มรู้สึกตื่นตระหนก เมื่อไทร์ ซัมเมอร์ ยังคงไม่ปรากฏตัว และไม่มีสมาชิกพันธมิตรคนใดกล้าพอที่จะท้าทายเจค มอร์ริสในสนามต่อสู้ ใบหน้าของมาร์คัส คอลลินส์กลายเป็นสีแดงด้วยความอับอาย เนื่องจากที่เขาเป็นผู้นำกลุ่มพันธมิตรแห่งเมืองริเวอร์วิลล์"ก้าวออกมา ทำไมไม่มีใครก้าวขึ้นมาบนเวที? มัวรออะไรกันอยู่? เมืองริเวอร์วิลล์ไม่ควรจะมีคนขี้ขลาด”เมื่อสตีเฟน โคล ซึ่งนั่งอยู่แถวหลังเห็นสิ่งนี้ เขารู้สึกว่าใบหน้าของเขาร้อนขึ้นเช่นกัน ด้วยกำปั้นที่กำแน่น เขากระวนกระวายจนอยากจะขึ้นไปอัดเจค มอร์ริสบนเวที“ไม่มีใครในฝั่งพันธมิตรสามารถเอาชนะเจค มอร์ริสได้” ไทร์ ซัมเมอร์กล่าว เมื่อได้ฟัง สตีเฟน
ทันทีที่ฝ่ามือของเจค มอร์ริสตบหัวของเสือดำจนได้ยินไปถึงกระดูกที่กำลังแตกแคร็ก!พยัคฆ์ดำจ้องตรงไปข้างหน้า ขณะที่เลือดเริ่มเข้าตา จากนั้นเลือดก็เริ่มไหลออกมาจากรูจมูกและมุมปากของเขาเช่นกันพลั่กราชามวยแห่งเรือดอกไม้พ่ายแพ้!นี่มัน…ทุกคนตกอยู่ในความเงียบที่น่าขนลุกอีกครั้ง อันที่จริง ผู้ชมหลายคนอาจรู้สึกขนลุกไปทั้งตัวและศีรษะ ราชามวยแห่งเรือดอกไม้จะแพ้ได้ยังไง? อันที่จริงมันเป็นความพ่ายแพ้ที่ชัดเจนมาก เจค มอร์ริสเตะพยัคฆ์ดำอีกครั้ง ดูเหมือนว่าเขากำลังเตะสุนัขที่ตายแล้วออกจากเวที หัวใจของสมาชิกชั้นสูงทุกคนของเมืองริเวอร์วิลล์เริ่มเต้นแรง “เจค มอร์ริสมีพลังมากเกินไป”มาร์คัส คอลลินส์และเจด ลอเรลตกตะลึง ในขณะเดียวกันใบหน้าของสตีฟ แฮมเมอร์ก็ซีดเซียว ราชามวยแห่งเรือดอกไม้ คือไพ่ใบลับของเขา ซึ่งเขาเตรียมการอย่างลับ ๆ มาเป็นเวลาสองปี หากแพทริค เรย์โนลด์ไม่ปรากฏตัว สตีฟตั้งใจจะใช้ พยัคฆ์เสือดำ เพื่อการกลับมาของเขา เพื่อที่เขาจะได้ครอบครองอำนาจในการเป็นผู้นำกลุ่มพันธมิตรแห่งเมืองริเวอร์วิลล์จากทั้งสี่ตระกูลที่โดดเด่นแต่แล้วการใช้ไพ่ตายก็ต้องล้มเหลวในที่สุด ในขณะนั้น เจค มอร์ริสกล
ทันใดนั้น ทุกสายตาจับจ้องไปที่ไทร์ ซัมเมอร์ เจคอบตัวสั่นและรีบเรียกตามหลังของไทร์ ซัมเมอร์ ทันที “นายกำลังจะทำอะไรไทร์ ซัมเมอร์? นายเป็นบ้าเหรอ?”สตีเฟน โคล และ พอล โคล ต่างก็ตกตะลึงเช่นกัน“ไอ้ขี้ขลาดไร้ประโยชน์ นายกำลังจะทำอะไร? พวกเขากำลังเรียกหามิสเตอร์ ซัมเมอร์ ไม่ใช่นาย กลับมาที่นี่เดี๋ยวนี้”แม้ว่าสตีเฟน โคลและพอล โคลจะไม่ค่อยชอบขี้หน้าไทร์ ซัมเมอร์ แต่พวกเขาก็ไม่ต้องการให้ไทร์ตายโดยเปล่าประโยชน์แต่ทว่า ไทร์ ซัมเมอร์ ไม่สนใจคำพูดของพวกเขาและยังคงเดินไปข้างหน้าถึงเวลานั้น ทุกคนในห้องรับรอง ก็เริ่มพูดคุยกันอย่างเผ็ดร้อน พวกเขาตอบสนองในลักษณะเดียวกับที่ สตีเฟน โคลและมาร์คัส คอลลินส์ทำในครั้งแรกเมื่อเขาพบไทร์ ซัมเมอร์ เมื่อผู้คนเห็นว่าเขามีร่างกายที่บางและใบหน้าที่มีเสน่ห์ พวกเขาเริ่มดูถูก“ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร? เขาขึ้นไปที่นั่นเพื่ออะไร?”"นั่นสิ หรือเขาจะเป็นมิสเตอร์ ซัมเมอร์? ล้อกันเล่นใช่ไหม?” “ดูจากร่างกายของเขาแล้ว เขาอาจจะไม่สามารถต้านทานการจู่โจมของเจค มอร์ริสได้แม้แต่ครั้งเดียว”ไทร์ ซัมเมอร์ ไม่ตอบสนองต่อความคิดเห็นที่เฉียบขาดจากผู้คนรอบตัวเขาในไม่ช้าเขาก็เด
อันที่จริง เจค มอร์ริสมีพลังมาก ไม่ว่าจะเป็นความเร็วหรือความแข็งแกร่ง เขาได้มาถึงระดับความเชี่ยวชาญขั้นสูงสุดแล้ว แต่ทว่า โชคไม่ดีที่ไทร์ ซัมเมอร์เป็นคู่ต่อสู้ของเขาไทร์ ซัมเมอร์ คือไอ้โรคจิตบ้าคลั่งของแท้!"ช้าเกินไป!" ไทร์ ซัมเมอร์พ่นลมออกมาเบา ๆแม้จะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วเหนือมนุษย์ แต่เจค มอร์ริส ก็ยังเรียกได้ว่า ช้าเกินไปสำหรับไทร์ ซัมเมอร์ไทร์ ซัมเมอร์คว้าเจค มอร์ริสด้วยข้อนิ้วของเขาแล้วบิดแรงด้วยมือข้างเดียว แคร็ก! เช่นเดียวกับที่เจค มอร์ริสหักแขนของเฮคเตอร์ วอร์ด ในก่อนหน้านี้ ข้อมือของเจคแตกออกเป็นสองส่วน ในขณะที่กระดูกของเขามองเห็นได้บางส่วน ก่อนที่เจค มอร์ริสจะตอบสนอง มือที่ว่างของไทร์ ซัมเมอร์ก็ซัดเข้าไหล่ของเจค มอร์ริสแคร็ก!เจครู้สึกราวกับว่ากระแสไฟฟ้าไหลผ่านข้อมือไปถึงหัวไหล่ของเขา หลังจากเสี้ยววินาที เขาก็รู้สึกเจ็บปวดไปทั่วแขนกระดูกทั้งหมดในแขนของเขาถูกบดขยี้!อ๊าก!เจค มอร์ริสร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดอย่างไรก็ตาม นั่นไม่ใช่จุดจบของความทุกข์ทรมานของเขาไทร์ ซัมเมอร์ดึงแขนที่หักของเจค ต่อกลับเข้าไป ก่อนที่จะเหวี่ยงเขาด้วยกำลังเต็มที่ ขึ้นเหนือศีรษะขอ
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า” พอล โคลหัวเราะออกมาด้วยเสียงอันดังในตอนนั้นในขณะเดียวกันสตีเฟน โคลและเจคอบ ซีก็รีบพยักหน้าตอบรับเนื่องจากไทร์ ซัมเมอร์ต้องการเก็บเป็นความลับระหว่างลูกผู้ชาย แน่นอนว่า พอล โคลและคนอื่น ๆ ก็จะทำตามที่เขาต้องการเป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองเทศกาลแข่งเรือมังกร ครอบครัวโคลเตรียมงานฉลองในตอนเย็น ที่โต๊ะอาหารสตีเฟนโคลและพอล โคลได้แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงทัศนคติที่พวกเขามีต่อไทร์ ซัมเมอร์ โดยสิ้นเชิง แทนที่จะเรียกไทร์ ซัมเมอร์ว่าเป็นคนขี้ขลาดไร้ประโยชน์ สตีเฟน โคลปฏิบัติต่อ ไทค์ ซัมเมอร์อย่างสุภาพมากขึ้น นอกจากนี้ ยังเห็นได้ชัดว่าสตีเฟน โคลยกย่องไทร์ ซัมเมอร์ด้วยความเคารพในระดับใหม่ในขณะเดียวกัน อารมณ์ของพอล โคลดูเหมือนจะดีขึ้นเป็นอย่างมาก ตลอดมื้ออาหาร เขาไม่หยุดที่จะตักอาหารให้ไทร์ซัมเมอร์เลย อันที่จริง พอล โคลพูดถึงไทร์ ซัมเมอร์ซ้ำ ๆ ว่าเป็นหลานเขยของเขาคริสติน, วินนี่เฟรด ซี และคนอื่น ๆ ต่างก็งุนงงกับเหตุการณ์นี้ เหตุใด เหล่าผู้ชายในครอบครัวจึงเปลี่ยนวิธีที่พวกเขาปฏิบัติต่อไทร์ ซัมเมอร์โดยสิ้นเชิง? แม้ว่าพวกเขาจะรู้สึกสับสน แต่คริสตินและคนอื่น ๆ ก็ไม่ได้ถามคำถามใ
หลังจากการหมุนสามครั้ง แลนด์โรเวอร์ก็ชนเข้ากับต้นไม้ใกล้ ๆ เพอร์รี่และชายชุดดำปีนออกจากรถโดยที่ศีรษะเต็มไปด้วยเลือดและดูเละเทะ ส่วนคนขับเสียชีวิตทันทีในความมืดมิดของราตรี ภาพเงาของชายผู้หนึ่ง ดูเหมือนเทพเจ้าแห่งความตายได้เดินเข้ามา ขณะที่เขามองดูสภาพที่ทรุดโทรมของเพอร์รี่ ริมฝีปากของเขาก็โค้งเป็นรอยยิ้มที่แปลกประหลาด ชายผู้นี้คือไทร์ ซัมเมอร์“เพอร์รี่ ดูนายสิ นายลืมสิ่งที่ฉันพูดอีกแล้ว นายอยู่บ้านรอให้ฉันไปฆ่านายอย่างเชื่อฟังดีกว่าไหม ทำไมนายต้องทำให้มันยากขึ้น? ในตอนนี้…นายกลัวความตายรึยัง?”เส้นเลือดบนหน้าผากของเพอร์รี่แตกออก ในขณะนั้นเขารู้สึกเหมือนกำลังมองดูผีมารชั่วร้าย ในขณะที่เขามองดูไทร์“ฆ่ามัน!” เพอร์รี่คำราม และชายที่อยู่ข้าง ๆ ของเขาก็ลุกขึ้นทันทีชายคนนั้นเดินไปหาไทร์ ขณะที่มือของเขาคลำหาเสื้อคลุมเพื่อดึงปืนออกมา และชี้ปากกระบอกปืนไปที่ไทร์ แล้วเหนี่ยวไกโดยไม่ลังเลปัง!ปืนติดตั้งเครื่องเก็บเสียง ดังนั้นเสียงจึงไม่ชัดเจน แต่มีควันจากปากกระบอกปืนไทร์โน้มตัวลงมาเล็กน้อย ไม่แน่ใจว่าเป็นทักษะหรือโชค แต่กระสุนนั้นไม่โดนไทร์แม้แต่น้อย ชายชุดดำไม่มีโอกาสได้ยิงอีกนัด