Home / แฟนตาซี / ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ / บทที่ 1 จักรพรรดิกลับคืนถิ่น

Share

ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ
ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ
Author: บัณฑิตติดบ้าน

บทที่ 1 จักรพรรดิกลับคืนถิ่น

Author: บัณฑิตติดบ้าน
last update Huling Na-update: 2024-10-29 19:42:56
“นายท่าน ท่านจะกลับไปจริง ๆ ใช่ไหม?”

ณ เกาะขนาดใหญ่ในใจกลางมหาสมุทร เป็นที่ประทับตั้งตระหง่านของพระราชวัง สถานที่แห่งนี้เป็นของอาณาจักรที่กว้างใหญ่ไพศาลที่สุด ตำหนักราชันย์

ในเวลานี้ ห้ากษัตริย์และเหล่านายพลทั้งสิบแปดคนมารวมตัวกันที่ห้องโถง ขณะที่พวกเขาให้ความสนใจไปที่ชายหนุ่มผู้ซึ่งอยู่เบื้องหน้าพวกเขา ชายหนุ่มผู้นี้มีนามว่า ไทร์ ซัมเมอร์ เจ้าของที่แท้จริงของตำหนักราชันย์

“ใช่” ไทร์กล่าวหนักแน่น “เมื่อหกปีก่อน ฉันถูกไล่ออกมาจากคฤหาสน์ตระกูลซัมเมอร์ ถูกปล่อยให้เดินเตร่อยู่กลางถนนในเมืองคานห์ ถูกวางยาโดยใครบางคนและจบลงที่ฉันมีเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ กับเธอคนนนั้น”

“หลังจากนั้นฉันก็ได้พบกับผู้ช่วยชีวิต ผู้ซึ่งพาฉันมาที่แห่งนี้ และด้วยสองมือของฉัน ฉันสร้างตำหนักราชันย์ขึ้นมา ถึงอย่างไรตอนนี้ฉันก็มีอำนาจสูงสุดในโลกนี้ ร่วมกับสถานะและความร่ำรวยของฉันที่เคยได้ให้สัญญากับเธอไว้ ว่าฉันจะรับผิดชอบเธอและกลับไปเพื่อแต่งงานกับเธอ” ไทร์มองไปที่รูปภาพในมือของเขาขณะสายตาอ่อนโยนลง

หญิงสาวในรูปภาพนั้นอยู่ในช่วงอายุก่อนจะย่างเข้ายี่สิบ ดวงตาของเธอสีสดราวกับภาพวาด จมูกของเธอยาวงุ้ม และริมฝีปากของเธออ่อนนุ่มและอวบอิ่ม เธอนั้นสวยงดงามเป็นที่สุด เขาสงสัยว่าเธอจะเป็นอย่างไรบ้างในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

“หลังจากฉันไปแล้ว ตำหนักแห่งนี้จะอยู่ภายใต้การดูแลของนายชั่วคราว” ไทร์กลับมารักษาท่าทีของเขาและกล่าวกับชายที่มีภูมิฐานดี

ชายผู้นั้นมีนามว่า คลิฟฟอร์ด ฮานน์ ผู้นำของห้ากษัตริย์

“ก็ได้ครับ” คลิฟฟอร์ดกล่าวตอบอย่างช่วยไม่ได้ “ในเมื่อท่านยืนยันที่จะกลับไป เราก็จะไม่ห้ามท่าน ผมได้จัดการกับสถานการณ์ในเมืองคานห์แห่งจักรวรรดิเซเลสเชียลให้ท่านเรียบร้อย ผมได้ซื้อศูนย์การค้าระหว่างประเทศไว้ในใจกลางเมือง และชายผู้ที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองคานห์ เดรก ทัคเกอร์ ผู้ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นผู้ติดตามของผม เมื่อท่านไปถึงเขาจะเป็นผู้รับใช้ท่าน”

“คลิฟฟอร์ด ฉันจะกลับไปหาภรรยาของฉันเพื่อใช้ชีวิตที่เหลืออย่างมีความสุข นายจะซื้อศูนย์การค้าระหว่างประเทศไปทำไม?” ไทร์รู้สึกหงุดหงิดที่น้ำเสียงของเขาดูเต็มไปด้วยความโกรธ

คลิฟฟอร์ดมอบรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ให้กับเขา “นายท่าน ท่านบอกเองว่าท่านอยากจะให้พระราชวังราชันย์กลับคืนไปสู่ที่ดั่งเดิมของมัน และกลับไปจักรวรรดิเซเลสเชียล ในเมื่อตอนนี้ที่ท่านจะกลับไป มันจะไม่สะดวกกว่าหรือ ที่จะตั้งฐานสาขาของตำหนักในระว่างที่ท่านอยู่ที่นั่น?”

“เ-ี่ย!” ไทร์เตะคลิฟฟอร์ด เพราะแบบนี้เอง เขาแค่จะใช้ให้นายท่านให้ทำงานหนัก

“ฉันไปล่ะ อย่าคิดถึงฉันกันให้มากนักล่ะเด็ก ๆ!”

ด้านหลังเขาเหล่าห้ากษัตริย์และนายผลทั้งสิปแปดคนทำท่าตะเบ๊ะไทร์พร้อมทั้งน้ำตาในขณะที่มองรถ Jeep ค่อย ๆ เลือนหายไปในระยะทาง

วันต่อมา ในเมืองคานห์แห่งจักรวรรดิเซเลสเชียล

“นี่แหละ” ไทร์ยืนอยู่หน้าประตูของคฤหาสน์ตระกูลซี ขณะที่เขาคร่ำครวญ หลังจากคืนนั้น ไทร์ได้บอกกับหญิงสาวไว้ว่าเมื่อเขาทำสำเร็จเขาจะกลับมาหาเธออย่างแน่นอน

“วินนี่เฟรด ฉันกลับมาหาเธอแล้ว” ไทร์สูดลมหายใจเข้า เขารู้สึกประหม่าอย่างไม่คาดคิด

ในระหว่างที่เขาตื่นเต้นว่าเขาจะเข้าคฤหาสน์อย่างไร ทันใดประตูก็เปิดออก มีหญิงอ้วนท้วมอายุราวสี่สิบเดินออกมาพร้อมกับถาดขนมปังที่เธอกำลังจะนำไปทิ้งที่ถังขยะด้านนอกของประตู นี่จะต้องเป็นแม่บ้านของตระกูลซีแน่

ตามหลังเธอมาคือเด็กหญิงอายุราวหกขวบ เด็กน้อยดูซีดเสียวและผอมเพรียว ดูขาดสารอาหารอย่างชัดเจน แต่ถึงอย่างไรคุณลักษณะของเธอก็ดูมีภูมิฐาน โดยเฉพาะดวงตาที่เปล่งประกายราวกับดวงดาวของเธอ แม้ว่าเธอจะเป็นเพียงแค่เด็ก แต่เธอก็มีลักษณะของหญิงสาวที่สวยงาม

“คุณ… คุณยายคอลลินส์ คุณช่วยแบ่งขนมปังสักชิ้นหนึ่งให้แบลร์ได้ไหม? แบลร์... หิวมาก” สาวน้อยมองไปที่ขนมปังในมือของหญิงอ้วนท้วม บางทีเพราะความหิวกระหายมาก สาวน้อยเอาแต่กลืนน้ำลายของเธอ เธอดูน่าสงสาร

หญิงอ้วนท้วมยิ้มแฉ่ง ทว่ากลับมีเล่ห์เหลี่ยมคมกริบฉายบนใบหน้าของเธอ “เจ้าหนูน้อยแบลร์อยากจะกินขนมปังสักหน่อยงั้นรึ?”

“ใช่” สาวน้อยพยักหน้าหนักแน่นด้วยความกระตือรือร้นในดวงตา

“ขนมปังธรรมดาคงจะรสจัดไม่พอ เดี๋ยวฉันจะปรุงให้เธอเพิ่มอีกสักนิดนึง” หญิงอ้วนท้วมคนนั้นฉีกเศษขนมปังออกมา เดินไปที่ถังขยะและเช็ดเศษขนมปังข้างในถังขยะก่อนจะยื่นให้สาวน้อย “เอานี่ แบลร์ ขนมปังสำหรับเธอ มันอร่อยมาก”

การได้เห็นสิ่งนี้ทำให้ไทร์หน้านิ่วความเดือดดาลกำลังเติบโตในใจเขา เธอเป็นคนใจร้ายแบบนี้ได้อย่างไร ถึงมาทำสิ่งที่น่ารังเกียจกับเด็กสาวอายุเพียงแค่ห้าขวบ?

สาวน้อยมองไปที่เศษขนมปังในมือของหญิงอ้วนท้วม ดูมึนงงเล็กน้อย เธอรู้ดีว่าเศษขนมปังนั้นสกปรก แต่เธอนั้นโหยกระหาย มือของเธอเอื้อมไปหยิบขนมปังโดยไม่รู้ตัว

​“กินเร็วเข้าสิ ถ้ายังไม่พอ ฉันมีอีก” หญิงอ้วนท้วมยิ้มไปที่สาวน้อยขณะเธอกำลังเทขนมปังทั้งถาดทิ้งลงไปในถังขยะก่อนจะหยิบเศษขนมปังจากในนั้นขึ้นมาอีกครั้ง

“อย่ากินมัน มันสกปรกเกินไป!” การที่ได้เห็นสาวน้อยกำลังจะกัดกินขนมปัง ไทร์กระโดดเข้ามาและโยนขนมปังในมือของเธอทิ้ง

“แต่ แบลร์หิวข้าว...” ดวงตาของสาวน้อยเป็นประกาย น้ำเสียงของเธอดูไม่พอใจ

ทันใดนั้น ไทร์รู้สึกเหมือนมีเข็มทิ่มแทงเข้าไปในอกของเขา เขาหันไปมองที่นางมารร้ายและกล่าวเสียงทุ้ม “เธอเป็นปีศาจรึไง?”

“แกเป็นใคร? อย่ามายุ่งเรื่องชาวบ้าน!” หญิงอ้วนท้วมหน้านิ่วใส่ไทร์ น้ำเสียงของเธอนั้นถ่มถุย “นั่นมันก็แค่ลูกนอกสมรสจากตระกูลซี ฉันจะทำกับเธอยังไงได้ตามใจฉัน”

“ลูกนอกสมรสของตระกูลซี?” ไทร์ตะลึง “ลูกใคร?”

หญิงอ้วนท้วมเปล่งเสียงออกทางจมูก “คุณหนูที่สามของตระกูลซีกับไอ้ขอทาน พวกเขานำความอับอายมาสู่ตระกูลซีอย่างมากในสมัยนั้น”

เสียงอื้ออึงปะทุอยู่ในหัวของไทร์ เขามองไปที่สาวน้อยโดยไม่ตั้งใจ และสัมผัสได้ถึงคลื่นความเป็นครอบครัวมาปะทะกับเขาลักษณะเด่นทั้งหลายนั้นดูเหมือนจะถอดแบบมาจากเขาและวินนี่เฟรดราวกับเงา หรือนี่จะเป็นลูกสาวของเขาและวินนี่เฟรด

ไทร์รู้สึกเหมือนกับโดนฟ้าผ่า

“คุณหนูคนที่สามของตระกูลซีมีชื่อว่าอะไร?”

หญิงอ้วนท้วมบุ้ยปาก “จะใครซะอีก? ก็วินนี่เฟรด ซี ไง”

ดั่งนั้นนี่คือลูกสาวของเขาและวินนี่เฟรด ความโกรธแค้นขุ่นเคืองก็ปะทุขึ้นมาภายในอกของเขาทันที ไทร์ไม่สามารถจะจิตนาการถึงชะตากรรมชีวิตของคู่แม่ลูกคู่นี้ได้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แม้กระทั่งแม่บ้านที่ไหนก็ไม่รู้ยังมาข่มเหงรังแกลูกสาวของเขาได้

“ฉันอยากจะเห็นกับตาตัวเองในวันนี้ว่าไอ้คนจิตใจดุร้ายจากตระกูลซีนี้มันเป็นคนยังไง พวกมันถึงกล้ามาทำกับลูกสาวของฉันแบบนี้” ในเวลานั้น สีหน้าของไทร์เคร่งขรึมราวกับปีศาจที่โกรธแค้น พร้อมที่จะหลุดออกมา เขาอุ้มสาวน้อยขึ้นมาอยู่ในอ้อมแขน และเตะประตูคฤหาสน์ตระกูลซีเปิดออก

“ลูก... ลูกสาวแก?” หญิงอ้วนท้วมอ้าปากค้าง “หรือแกจะเป็นไอ้ขอทานเมื่อตอนนั้น?”

อย่างไรก็ตาม สาวน้อยกล่าวขึ้นอย่างอ่อนโยนบอกว่า “คุณลุง หนู... หนูหิวข้าว! หนูอยากไปข้างนอก ไปหาแม่”

“แม่ไม่ได้อยู่ข้างในเหรอ?” ไทร์ตะลึง

หญิงอ้วนท้วมหลุดปากเย้ยหยัน “วินนี่เฟรด ซี ตอนนี้อยู่ที่ สนามหยกทองคำ กำลังมีความสุขสำราญกับนักเลง เธอจะไปมีเวลามาเลี้ยงดูลูกสาวได้ยังไง? ฉันนี่แหละแม่นักบุญที่ให้ขนมปังเธอกิน ไม่อย่างงั้นเธอคงได้ตายจากความหิวโซ!”

“ฉันว่า จริง ๆ แกมัน...”

เพี้ยะ! เสียงตบดังก่อนที่หญิงอ้วนจะกล่าวจบประโยค ไทร์ยกมือของเขาและตบเข้าไปอย่างแรงในทันที มีรอยช้ำเลือดอยู่ห้าริ้วปรากฏบนใบหน้าของหญิงอ้วนท้วม มันเป็นภาพที่น่ากลัวที่ได้เห็น

“แก… แกกล้าดียังไง...”

ตุบ! จากนั้นไทร์ก็ยกหญิงสาวที่หนักเจ็ดสิบห้ากิโลกรัมขึ้นด้วยแขนข้างเดียวแล้วโยนร่างกายท่อนบนของเธอปักลงไปในถังขยะ

ไทร์รู้สึกโกลาหลอยู่ภายในใจ ไม่ใช่เพียงแค่เขาต้องกลับมาเห็นลูกสาวตัวเองกินขนมปังจากถังขยะ แต่ก็ยังเพราะว่าผู้หญิงที่เขาเฝ้าคิดถึงอย่างสุดซึ้งมาหกปีได้ละทิ้งลูกสาวให้ดูแลตัวเอง หรือว่าเธอจะออกไปหาความสำราญกับชายไม่เลือกหน้าจริง ๆ ? เขาอาจจะตัดสินเธอผิดไปเมื่อหกปีก่อน?
Mga Comments (1)
goodnovel comment avatar
Sakchai R Rainhua
เรื่องนี้ไม่จบนะ ก่อนจะอ่าน คิดดีดีก่อน
Tignan lahat ng Komento

Kaugnay na kabanata

  • ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ   บทที่ 2 มองดูฉันให้ดีว่าฉันเป็นใคร?

    เมื่อมองไปที่ลูกสาวที่ขาดสารอาหารและผอมแห้ง ไทร์รู้สึกได้ถึงความโกรธแค้นภายในจิตใจของเขา“หนู… หนูชื่ออะไร?” หลังจากเขามั่นใจว่าสาวน้อยคนนี้นั้นคือลูกสาวของเขา ไทร์รู้สึกประหม่าและวอกแวกว่าเขาควรจะทำตัวอย่างไรกับเธอ“คุณลุง หนูมีชื่อว่า แบลร์ ซี”ไทร์อุ้มแบลร์ขึ้นมาในอ้อมแขนและถาม “เดี๋ยวลุงจะพาหนูไปกินข้าว โอเคไหม?”แบลร์พยักหน้าปลื้มใจ แม้ว่าเธอจะยังค่อนข้างกลัวคุณลุงแปลกหน้าคนนี้อยู่ แต่เธอนั้นหิวเกินไป“หลังจากเรากินข้าวกันเสร็จแล้ว เดี๋ยวลุงจะพาหนูไปหาแม่”ไทร์เจอเข้ากับร้าน McDonald ที่ใกล้ที่สุด และซื้ออาหารมากมายให้แบลร์ตัวน้อย เมื่อเขามองไปที่แบลร์สวาปามอาหาร เขารู้สึกหัวใจสั่น เธอจะต้องหิวมากแน่ ๆ จากสิ่งที่เธอฝ่าฟันมา “ค่อย ๆ กิน ถ้ามันยังไม่พอ เดี๋ยวลุงสั่งเพิ่มให้อีก”ในที่สุดแบลร์ก็เต็มอิ่ม คิดว่าไทร์คงไม่ได้สังเกตุ เธอแอบหยิบน่องไก่ใส่กระเป๋าของเธอ“แบลร์ นั่นเธอกำลังทำอะไร?” ไทร์นั้นสะดุ้งตกใจแบลร์ตระหนกเล็กน้อยขณะมองไปที่เทียร์สายตาหวาดกลัว “คุณลุง หนูไม่ได้พยายามขโมยอะไรทั้งนั้น หนูแค่อยากจะเอาน่องไก่กลับไปให้แม่...”เอาไปให้... แม่... ไทร์เจ็บปวดร้าวหัวใจ

  • ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ   บทที่ 3 เรียกพ่อสิ

    วินนี่เฟรดจับจ้องสายตาจดจ่อไปที่ใบหน้ารูปงามของไทร์ สามวินาทีต่อมา ราวกับสายฟ้าฟาดผ่าลงมาเหนือหัวของเธอ ใจของเธอก็เริ่มสั่นสะเทือน “นายคือ...ไทร์ ซัมเมอร์...”ในที่สุดวินนี่เฟรดก็จำไทร์ได้ชายผู้ซึ่งเคยบอกเธอไว้ว่าเขาจะกลับมาสู่ขอเธอชายผู้เปลี่ยนชะตาชีวิตของเธอและให้เธอเฝ้ารอถึงหกปีในหัวของวินนี่เฟรดนั้นว่างเปล่าก่อนจะปวดร้าวไปด้วยความโกลาหล บรรยากาศรอบ ๆ พวกเขาถึงจุดเย็นยะเยือกพูดตามตรง ในหัวของไทร์เองก็ยุ่งเหยิง แม้ว่าเขาจะใช้เวลาเพียงหนึ่งคืนกับหญิงสาวคนนี้ในสภาพมึนเมา แต่มันก็เหมือนรักแรกพบสำหรับเขา หลังจากนั้นหนึ่งคืนเขาก็ตัดสินใจว่าเธอคือคนที่ใช่สำหรับเขา เขาใช้เวลาถึงหกปีปราถนาและโหยหาเธอ แต่เมื่อเขามาเจอเธออีกครั้ง เธอนั้นแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิงกับสิ่งที่เขาฝันถึง“แม้ว่าเธอจะไม่ได้วางแผนที่จะรอฉันกลับมาอีกแล้ว ทำไมเธอถึงได้ละเลยลูกสาวของเรา?” ในเวลาที่ไทร์กล่าว เขากลับเสียใจกับสิ่งที่พูดเพราะเบื้องหน้าดวงตาของเขา วินนี่เฟรนล้มลงเศร้าโศก น้ำตาไหลพรั่งพรูออกมาอย่างไม่แยแส เธอร้องห่มร้องไห้ออกมาสุดแสนลำบากใจ และจากนั้น...เพี๊ยะ... วินนี่เฟรดตบฉาดใหญ่ไปที่หน้าของไทร์

  • ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ   บทที่ 4 ฉันคือราชินี

    เวลาเที่ยงคืน ภายในคฤหาสน์หรูหราในเมืองคานห์ ผู้หญิงวัยกลางคนกับผ้าพันแผลปิดตาข้างขวาสวมใส่ชุดสง่างามและราคาแพง ขณะเธอนั่งอยู่บนเก้าอี้นวมหนังแท้ ในมือของเธอมีรูปภาพ เป็นรูปภาพของแบลร์ ซีสาวน้อยในรูปภาพนั้นมีหน้าตาสวยงดงามเป็นอย่างมาก เธอนั้นสวยกว่าเด็กที่เป็นนักแสดงเสียอีก โดยเฉพาะดวงตาใหญ่โตคู่นั้นของเธอ มันช่างงดงามเกินไปจริง ๆ ดุจประกายราวกับดวงดาวพร่างพราว มันคงจะไม่มีคู่ดวงตาแบบนี้อีกต่อไปแล้ว ไม่ว่าคน ๆ หนึ่งจะเสาะแสวงหายากเย็นแค่ไหน“สวยมาก สวยงามมากเกินไป” ผู้หญิงคนนี้คือ แชนนอน หลุยส์ นิ้วของเธอจรดไปที่ดวงตาของแบลร์ที่อยู่ในรูปภาพขณะเธอจ้องมองมันอย่างโหยหา“พี่สาว สิ่งที่พี่ต้องการคือกระจกตาของเธอ ไม่ใช่รูม่านตาของเธอ ฉะนั้นมันไม่มีประโยชน์ที่จะหลงรักดวงตาของเธอ ยิ่งไปกว่านั้นดวงตาของพี่มันก็สวยมากพออยู่แล้ว” ถัดจากเธอไปก็มีเสียงของผู้ชายที่มีโพรงจมูกหนาและพูดกระสับกระส่ายในคำพูดของเขา“กระจกตาของเธอมันช่างน่ารัก” แชนนอนเงยหัวของเธอขึ้นมามองไปที่ชายผู้ซึ่งมีผ้าพันแผลพันคลุมรอบทั้งหัว แชนนอนหน้าบึ้ง “เกิดอะไรขึ้นกับนาย?”ชายผู้นี้คือสตีฟ ฮัดสัน สตีฟขุ่นเคืองขณะเขากล่าว “

  • ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ   บทที่ 5 บังคับสูญหาย

    ผู้ที่เข้ามาใหม่คือคนที่มั่งคั่งที่สุดในเมืองคานห์ เดรก ทัคเกอร์ ข้าง ๆ เขานั้นมีกลุ่มคนขนาดใหญ่"ราชาแห่งสื่อยุคใหม่แห่งเมืองคานห์ เฮนรี่ วอคเกอร์" "ราชินีอัญมณีแห่งเมืองคานห์ เจด ลอเรล""ผู้นำนักพัฒนาด้านอสังหาริมทรัพย์ชั้นสูงแห่งเมืองคานห์ โดนัล เลวิส..."คนเหล่านี้ต่างเป็นชนชั้นนำของเมืองคานห์ เพียงแค่พวกเขากระทืบเท้าก็ทำให้สั่นสะเทือนไปทั้งเมือง แต่ละคนสามารถที่จะเปลี่ยนแชนนอนให้กลายเป็นผงธุลีได้ และตอนนี้ผู้ทรงเกียรติ เดรก ทัคเกอร์ ผู้มั่งคั่งที่สุดในเมือง กับเหล่าผู้นำด้านต่าง ๆ มารวมตัวกัน มันเกิดอะไรขึ้น?ในทันใดความหยิ่งสโยของแชนนอนก็เลือนหายไปในอากาศ แทนที่ด้วยความรู้สึกหวาดกลัว"แชนนอน เธอนี่มันไม่ธรรมดาจริง ๆ เธอเพิ่งจะแต่งตั้งตัวเองเป็นราชินีแห่งเมืองคานห์งั้นรึ? ถ้าเธอพูดแล้วคนอื่นก็จะไม่กล้าขัด?" น้ำเสียงของเดรกเต็มด้วยความประชดประชัน แม้แต่คนที่ร่ำรวยที่สุดอย่างเขาก็ยังไม่กล้าที่จะกล่าวอ้างแบบนั้น หนังศีรษะของแชนนอนชาไปทั้งหัวในความกลัว สตีฟผู้ยืนอยู่ใกล้ ๆ รู้สึกตัวเย็นเฉียบ นี่มันเกิดอะไรขึ้น? ชายคนนี้เป็นใคร ไทร์ ซัมเมอร์ และเขายังสามารถที่จะเรียกผู้มีอิทธิ

  • ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ   บทที่ 6 ทรัพย์สินล้านล้านและเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว

    ไทร์พยักหน้าเห็นด้วยแต่ห้ามตัวเองไม่ได้ที่จะกล่าวถาม "ตระกูลซีได้รังแกข่มเหงพวกเธอสองคนมาตลอดหลายปี ทำไมเธอถึงยังไม่ตัดขาดกับพวกเขา?""เพราะเลือดมันข้นกว่าน้ำ อีกอย่างพ่อแม่ฉันไม่ได้ทำงานแล้วและแบลร์ก็จำเป็นต้องเข้าโรงเรียน แม้ว่าครอบครัวจะไม่ชอบขี้หน้าเรา การได้ทำงานในบริษัทของตระกูลซีพวกเขาก็ยังคงให้เงินเดือนที่ฉันสมควรจะได้อยู่"ไทร์ไม่ได้ถามต่อ พวกเขาสองคนมุ่งหน้าไปที่คฤหาสน์ของตระกูลซีพร้อมกับของขวัญในมือภายในห้องนั่งเล่นของคฤหาสน์ตระกูลซี บรรดาสมาชิกคนในครอบครัวนั้นได้นั่งประจำที่เรียบร้อย มันยังมีโต๊ะอยู่สองสามตัวกางออกมาเพื่อกินเลี้ยง ในวันนี้ตระกูลซีได้เตรียมตัวจัดงานเลี้ยง ไม่ใช่เพราะต้องการจะต้อนรับไทร์แต่เพื่อคุณหนูอีกคนของครอบครัวซี ไอลิส ซี และแฟนหนุ่มของเธอ ทราวิส เจนเซ่น "เธอมาแล้ว" ในทันทีที่พวกเขาเข้ามา พวกเขาได้ยินเสียงของชายชรา ชายชราผู้นี้คือเสาหลักของตระกูลซี คุณปู่ของวินนี่เฟรด จอร์จ ซี"คุณปู่" วินนี่เฟรดรีบเร่งพาไทร์ไปด้วย ขณะที่พวกเขามอบของขวัญที่พิถีพิถันเลือกมาจากซูเปอร์มาเก็ตก่อนหน้านี้ "คุณปู่ นี่คือของขวัญที่ไทร์ตั้งใจเลือกมาให้คุณปู่เป็นพิเศษ""เ

  • ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ   บทที่ 7 ไม่ว่าเธอจะอยู่ทึ่ไหน ฉันก็จะขออยู่เคียงข้างเธอ

    การกระทำของไอริสเป็นการดูถูกเหยีดยหยามอย่างมาก อย่างไรก็ตามจอร์จกำลังหลงไหลไปกับชิ้นส่วนของโสมป่า ที่เขานั้นไม่เคยตั้งใจจะใช้เงินซื้อมันมา มันเหมือนกับว่าเขายินยอมอย่างเงียบ ๆ กับกระทำของไอลิสวินนี่เฟรดงุนงง หยั่งรากลึกไปถึงแก่นและรู้สึกกระวนกระวาย นั่นมันคือของขวัญที่เธอและไทร์พิถีพิถันเลือกมาสำหรับจอร์จ แต่ของพวกนั้นกลับถูกมองว่าเป็นขยะ"กินข้าวกันเถอะ" เมื่อทุกคนมาถึง จอร์จก็ประกาศว่าได้เวลาเริ่มรับประทานอาหารทั้งตระกูลนั่งลง วินนี่เฟรดและไทร์ได้นั่งโต๊ะร่วมกับจอร์จ เธอนั้นคือเชื้อสายโดยตรงของครอบครัวสมาชิกตระกูลซีดังนั้นมันจีงเป็นเรื่องธรรมดาที่เธอจะนั่งตรงนี้ อย่างไรก็ตาม สักพักหนึ่งหลังจากที่พวกเขานั่งลง ไอริสเอามือมาบังปิดจมูกในท่าทางเสียดสี ขณะเธอบ่น "ทำไมโต๊ะนี้มันมีกลิ่นสาปแปลก ๆ ? กลิ่นเหมือนกับถังขยะ"ทันใดนั้นทุกคนต่างมองไปที่ไทร์ การกล่าวขึ้นมาลอย ๆ แบบนี้ มันชัดเจนที่หมายถึงว่าไทร์นั้นเป็นขอทาน และไม่มีใครอยากจะร่วมโต๊ะอาหารกับขอทาน"วินนี่เฟรด พาไทร์ไปกับเธอและไปกินตรงนู้น" จอร์จกล่าวและชี้ไปที่โต๊ะเล็ก ๆ นั่นมันเป็นโต๊ะของเหล่าคนรับใช้เพื่อรับประทานอาหารวินน

  • ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ   บทที่ 8 เทพบุตรในฝัน

    ไทร์ไม่เต็มใจที่จะหยุด ทำให้วินนี่เฟรดไม่พอใจ"ไทร์หยุดพูดจาไร้สาระสักที มันไม่มีทางที่ฉันจะได้สิทธินั้น"ไทร์ส่ายหัว "เธอจะรู้ได้ยังไงถ้ายังไม่ได้ลอง?" ไทร์ก็อยากจะบอกว่าเขานั้นคือเจ้าของคนใหม่ผู้ที่ได้เข้าซื้อศูนย์กลางเมือง วินนี่เฟรดเธอคือภรรยาของฉัน ขอแค่เธอยืนยันว่าอยากจะได้มัน การที่มอบให้เธอทั้งศูนย์กลางเมืองไปเลยก็ไม่ใช่ปัญหา ยังน้อยกว่าสิทธิที่จะได้ภายในนั้นเสียอีกอย่างไรก็ตามไทร์ก็ไม่เคยที่จะได้กล่าวเสียงดัง เขารู้ดีว่าพวกเขาก็คงจะทำการเย้าแหย่ใส่อีกรอบ ถึงอย่างไรบทสนทนาของทั้งสองก็ไปจับความสนใจของใคนบางคนเข้าไอริสตั้งใจกล่าวถามสีหน้าเยาะเย้ย "พวกแกกำลังคุยอะไรกันอยู่? นี่พวกแกก็พยายามจะหาสิทธิ์นั้นด้วยงั้นเหรอ?"หลังจากเธอกล่าวจบทั้งห้องก็ระเบิดหัวเราะขึ้นมาอีกครั้ง"ฮ่าฮ่าฮ่า พวกแกไม่เข้าใจคำว่า 'ประเมินตัวเองสูงเกินไป' รึยังไง?""นี่มันไม่ใช่การประเมินตัวเองสูงเกินไป นี่มันคือฝันเฟื่อง""ทำไมแกไม่หันไปมองดูตัวเองให้ดี ๆ? แม้กระทั่งการคิดว่าจะไปทำความรู้จักกับเจ้าของและจะได้เลื่อนขั้น มันช่างไร้สาระ"หน้าของวินนี่เฟรดกลายเป็นสีแดงเพราะความอับอายถึงอย่างไรไทร์ก็กล

  • ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ   บทที่ 9 มหกรรมการลงทุนผู้ค้า

    เดรกเข้าใจทันทีในความหมายของไทร์ ทราวิส เจนเซ่น และไอริส ซี ทั้งคู่คงได้ไปล่วงเกินไทร์ เดรกไม่กล้าที่จะขัดคำสั่ง เขาจึงรีบตอบตกลงกับคำแนะนำของไทร์ไทร์กล่าวต่อ "อีกอย่างหนึ่ง นายเคยเห็นรูปของภรรยาฉันแล้ว วินนี่เฟรด ซี มอบสิทธิสัญญาการลงทุนให้กับเธอสำหรับกลุ่มเครือซี และให้เธอเป็นคนเซ็นสัญญา"“เข้าใจแล้วครับ ลูกพี่ไทร์”หลังจากมื้อเช้า ไทร์ไปเข้าร่วมมหกรรมการลงทุนผู้ค้ากับวินนี่เฟรด ระหว่างเดินทางไป วินนี่เฟรดรู้สึกประหม่าเหมือนกับว่าเธอกำลังจะไปสอบในสนามสำคัญ“อย่ากังวลไปเลย วินนี่เฟรด เธอจะต้องได้ร่วมทำสัญญาอย่างแน่นอน”“จริงหรือ?”“ใช่ เชื่อฉันสิ”งานมหกรรมการลงทุนผู้ค้านี้จัดขึ้นที่ตึกออฟฟิสชั้นนำที่เดรกเป็นเจ้าของ ในตอนที่ไทร์และวินนี่เฟรดไปถึง คนก็แน่นเต็มงาน ลานจอดรถด้านนอกเต็มไปด้วยรถยนต์หรูหรามากมายหลายแบบ และคนที่ออกมาจากรถเหล่านั้นต่างเป็นเจ้าของธุรกิจที่มีรายได้สุทธิแต่ละคนเป็นหลักสิบถึงร้อยล้าน เมื่อเทียบกับคนพวกนั้นแล้ว ไทร์และวินนี่เฟรดที่เดินทางมาโดยรถแท็กซี่นั้น ก็ดูยาจกขึ้นมาทันที“ว้าว วินนี่เฟรด เธอมาจริง ๆด้วย” ที่ด้านหลังของพวกเขา ไอริสและทราวิสลงมาจากรถ Me

Pinakabagong kabanata

  • ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ   บทที่ 240 ราชาแห่งเซาท์ริเวอร์ตายแล้ว

    เมื่อไทร์ได้ยินข่าวนี้ สีหน้าของเขาไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ราวกับว่าเขารู้มาตลอด “ต้องทำขนาดนั้นเลยเหรอ?” ไทร์พึมพำกับตัวเองก่อนจะตอบว่า “ผ่อนคลาย ทำสิ่งที่พวกนายต้องทำต่อไป แค่ทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น” “แต่บราเธอร์ไทร์” เดรก ทัคเกอร์กล่าว “ฉันจะจัดการเอง” ในตอนท้ายของการโทร เดรกไม่กล้าพูดอะไรอีก ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงวางสายเท่านั้น ในยุคนี้ ที่วิธีการกระจายข้อมูลได้รับการพัฒนาเป็นอย่างดี ข้อมูลต่าง ๆ สามารถแพร่กระจายไปทั่วประเทศได้ทันที บุคคลสำคัญของเมืองคานห์มีการติดต่อทางธุรกิจกับเมืองไพร์มไม่น้อยและหลายคนยังเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจ ดังนั้น เมื่อข่าวการเสียชีวิตของกษัตริย์แห่งเซาท์ริเวอร์แพร่กระจายไปทั่วเมืองไพร์ม เมืองคานห์ก็จะได้รับข่าวคราวเช่นกัน หลังจากการโทรครั้งแรกจากเดรก ไทร์ยังได้รับสายจากบุคคลอื่น เช่น โนอาห์ ลี, แซคเคอรี่ สมิธ, โดนัลด์ ลูอิส, และเจด ลอเรล อย่างต่อเนื่อง แต่ละคนต่างก็ดูวิตกกังวลและเป็นห่วงไทร์ เหตุการณ์นี้ร้ายแรงเกินไป เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการตายของราชาแห่งเซาท์ริเวอร์ คาร์สัน ยอร์ก ไทร์ได้ให้คำตอบกับบุคคลสำคัญในเมืองคานห์เหล่านี้แบบเดี

  • ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ   บทที่ 239 หน้าต่างมีหูประตูมีช่อง

    ถึงตอนนี้ มีเพียงคาร์สัน ยอร์ก ไทร์ ซัมเมอร์และเจมสัน ซิงค์ ซึ่งรับผิดชอบการเทไวน์ข้าง ๆ พวกเขาเท่านั้น ที่ถูกทิ้งไว้ในห้องอาหาร “ไทร์ อย่าไปสนใจเธอเลย ผู้หญิงคนนั้นเป็นแบบนั้นเสมอมา คุณป้าเควลซ์ของคุณจะให้ความกระจ่างแก่เธอเอง ถ้าเธอพยายามจะรบกวนคุณอีก ผมจะเป็นคนดูแลเธอเอง” คาร์สันกล่าว ไทร์ยิ้มและตอบ “ไม่เป็นไรคุณลุงยอร์ก” “มาเถอะ วันนี้เราใช้โอกาสดี ๆ นี้เพื่อดื่มกัน” คาร์สันหันไปหาเจมสัน “เจมสัน ไปที่ห้องเก็บไวน์และหยิบไวน์ขวดเก่าที่ฉันเก็บไว้มา คืนนี้ไทร์และฉันจะดื่มจนกว่าเราจะเมากันไปข้างหนึ่ง” เจมสันพยักหน้าทันทีก่อนจะรีบไปที่ห้องเก็บไวน์ เมื่อเขาจากไป มีเพียงคาร์สันและไทร์เท่านั้นที่ถูกทิ้งไว้ในห้องอาหาร ในขณะนั้น คาร์สันที่ยิ้มแย้มแจ่มใสในตอนแรก ใบหน้าของเขาแสดงถึงความจริงจังออกมาชั่วครู่ก่อนที่รอยยิ้มของเขาจะกลับคืนมา เพียงชั่วพริบตานั้น ไทร์ก็เข้าใจความหมายของเขาทันที คาร์สันขยับแก้วไวน์ต่อหน้าเขา เขาใช้ไวน์หนึ่งหยดจากแก้วของเขาเขียนลงบนโต๊ะอย่างรวดเร็วว่า 'หน้าต่างมีหูประตูมีช่อง' ขณะที่เขาเขียน เขาพูดต่อว่า “ไทร์ ผมต้องขอบคุณคุณ ที่รักษาป้าเควลซ์ของคุณให้หายดี

  • ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ   บทที่ 238 ฉันโกรธเคืองมาก

    ไทร์ ซัมเมอร์และคอนนี่ ยอร์กจึงนั่งลงด้วยกัน ในขณะที่พ่อบ้านเจมสันยืนอยู่ข้าง ๆ พวกเขาเพื่อรินเครื่องดื่ม “พี่ชายที่รัก คุณแม่ของฉันดีกับคุณมาก ฉันมักจะขอให้เธอทำอาหารเหล่านี้ แต่เธอไม่ทำอาหารให้ฉันเลย เมื่อคุณอยู่ที่นี่ เธอกำลังแสดงทักษะการทำอาหารทั้งหมดของเธอให้คุณเห็น ในที่สุดฉันก็สามารถได้ทานอาหารเหล่านี้” จะว่าไปแล้ว คอนนี่ไม่ได้สนใจภาพลักษณ์ของเธอเลย เธอคว้าปีกไก่จากบนโต๊ะแล้วเคี้ยวมันทันที สีหน้าของคาร์สัน ยอร์กมืดลงในทันทีและเขาก็ตะคอกเธอ “ดูเธอทำ แขกของเธอยังไม่ได้เริ่มรับทานเลย แต่เธอกำลังกินอาหารด้วยมือเปล่า วางมันลงเดี๋ยวนี้ มารยาทของเธออยู่ไหนหมด?” เธอไม่สะทกสะท้านกับคำดุว่าของพ่อของเธอ คอนนี่ยังคงเคี้ยวไก่ของเธอต่อไป เธอคว้าอีกอันหนึ่งใส่ในชามของไทร์ และเคี้ยวในขณะที่เธอพูดว่า “พี่ชายที่รัก คุณก็กินด้วยสิ ฝีมือการทำอาหารของคุณแม่ของฉันยอดเยี่ยมมาก” ไทร์รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย พฤติกรรมของหญิงสาวคนนี้แตกต่างจากใบหน้าที่งดงามของเธอ คาร์สันไม่รู้ว่าจะทำเช่นไรกับลูกสาวของเขา ดังนั้นเขาจึงทำได้แค่ถอนหายใจ “ไทร์ คุณไม่ต้องไปสนใจเธอ เธอไม่เป็นกุลสตรีเอาซะเลย” เขาส่งสายตา

  • ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ   บทที่ 237 สร้างความบาดหมาง

    ไทร์ ซัมเมอร์รู้สึกหนาวไปที่กระดูกสันหลังของเขา ผู้หญิงสมัยนี้ตรงไปตรงมาขนาดนี้ได้ยังไง? อันที่จริง ตั้งแต่ที่ วินนี่เฟรดเข้ามาในชีวิตเขา ไทร์ก็ไม่ได้สนใจผู้หญิงคนอื่นอีกเลย แต่ถ้าเขาได้พบกับคอนนี่ ยอร์กก่อนวินนี่เฟรด บางทีเขาอาจจะถูกดึงดูดโดยผู้หญิงที่สวยและงดงามคนนี้แทน ถึงแม้ว่า ไทร์จะได้พบกับหญิงสาวผู้มั่งคั่งและเจ้าหญิงผู้งดงามมากมายและเขายังได้พบกับคนดังระดับโลกมานับไม่ถ้วน แต่ก็ไม่มีใครที่สวยได้เท่าคอนนี่ผู้นี่ ผู้หญิงคนนี้เป็นผลงานชิ้นเอกที่แกะสลักและสร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันโดยพระเจ้า อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ไทร์มีเพียงแค่วินนี่เฟรดเท่านั้น รถคาดิลแลคของเขามุ่งหน้าไปยังคฤหาสน์ยอร์ก ในขณะที่ เจย์ เบลด ถูกทิ้งให้ยืนแข็งทื่ออยู่เช่นนั้น เขายังคงตะลึงงันในขณะที่เขาจ้องไปที่รถคาดิลแลคที่พุ่งออกไปด้วยดวงตาที่แดงก่ำ เปลวเพลิงแห่งความโกรธแผดเผาหัวใจของเขา ลูกน้องของเข้าเดินเข้ามาหาเขาและถามด้วยความเป็นห่วงว่า “บราเธอร์เจย์ คุณโอเคไหม?” ผัวะ… เจย์ปล่อยหมัดเข้าที่ท้องของลูกน้อง ชายผู้นั้นรู้สึกได้ถึงตะคริวที่หน้าท้องและเขาก็ล้มลงกับพื้นแล้วจับหน้าท้องเอาไว้ด้วยความเจ็บปวด “แม่ง

  • ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ   บทที่ 236 ฉันจะแต่งงานกับคุณคนเดียวเท่านั้น

    เมื่อพูดถึงคาร์สัน ยอร์ก ใบหน้าของเจย์ เบลดก็กระตุกเล็กน้อย แม้ว่าเขาจะเป็นนายน้อยซาร์แห่งเมืองไพร์ม แต่เขาก็ต้องเกรงกลัวคาร์สัน ยอร์ก ที่เป็นราชาแห่งเซาท์ริเวอร์อยู่มาก ในเวลานี้ เขาตาบอดอย่างสิ้นเชิงเพราะความรักที่เขามีต่อคอนนี่ ยอร์ก เขาเห็นไทร์เป็นคู่ต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขา เมื่อคาร์สันเชิญไทร์ไปทานอาหารเย็น เจย์รู้สึกว่าตำแหน่งของเขาถูกคุกคาม เมื่อจิตนาการถึงคอนนี่และไทร์ ที่กำลังมีความสุขอยู่ด้วยกัน มันบีบคั้นหัวใจของเขาและจุดประกายความโกรธของเขา เขาไม่สามารถทนเห็นมันได้ “ไทร์ ซัมเมอร์! ฉันไม่สนใจว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น แต่ถ้าแกยังกล้าที่จะเข้ามาเหยียบเมืองไพร์มอีก ฉันจะฆ่าแก!” เมื่อมองดูท่าทางที่คุกคามของเจย์ ไทร์กลับคิดว่ามันไร้สาระ “ฉันไม่ได้สนใจมิสยอร์กของนาย ขอร้องเถอะเจย์ อย่ามายุ่งกับฉัน” ไทร์ไม่สนใจคนเหล่านี้ในขณะที่เขากลับไปที่รถคาดิลแลคของเขา พวกเขาโชคดีที่เป็นคนของคาร์สัน ยอร์ก ถ้าไม่เช่นนั้น ไทร์จะไม่เมตตาพวกเขาอย่างแน่นอน “ฉันไม่สน ว่าแกจะสนใจเธอหรือเปล่า แต่เธอต้องการแต่งงานกับแก และนั่นคือความกังวลของฉัน! ฉันจะให้โอกาสแกเป็นครั้งสุดท้าย กลับเมือง

  • ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ   บทที่ 235 ไสหัวไปจากเมืองไพร์ม

    “นายบอกว่า ระหว่างนายกับคอนนี่ ยอร์ก ไม่มีอะไรไม่ใช่เหรอ? ทำไมพ่อของเธอถึงชวนนายไปที่นั่น? ไม่น่าแปลกใจที่นายจะมั่นใจมาก ๆ ว่าบริษัทต่าง ๆ ในเมืองไพร์มจะต้องมาอ้อนวอนเรา ใครจะรู้ว่านายกำลังคิดที่จะทยานขึ้นไปด้วยความช่วยเหลือจากตระกูลยอร์ก” ไทร์ ซัมเมอร์ขมวดคิ้ว วินนี่เฟรดแสดงออกถึงพฤติกรรมแปลก ๆ ไม่เหมือนวินนี่เฟรดคนเดิม เธอกลายเป็นคนไร้เหตุผล บางทีคอนนี่ ยอร์กอาจจะโดดเด่นเกินไป ด้วยหน้าตาที่ดูดีและภูมิหลังของตระกูลที่โดดเด่นของเธอ ที่ทำให้วินนี่เฟรดต้องเป็นกังวลอยู่ตลอดเวลา สิ่งนี้เกิดขึ้น เมื่อผู้หญิงคนหนึ่งห่วงใยผู้ชายของเธออย่างแท้จริง ซึ่งหมายความว่าไทร์ ซัมเมอร์ มีจุดที่ลบไม่ออกอยู่ในหัวใจของวินนี่เฟรด ซี “ฉันจะโกรธถ้าเธอยังเป็นแบบนี้ต่อไป วินนี่เฟรด” วินนี่เฟรดถอนหายใจและเปลี่ยนทัศนคติของเธอในทันใด เธอหัวเราะ "ฉันแค่ล้อเล่น! แต่ว่าแบลร์กับฉัน เราจะไม่ไปกับนาย คาร์สัน ยอร์ก อาจจะต้องการเชิญนายคนเดียวเท่านั้น” “เขาไม่ใช่คนแบบนั้น” ไทร์ตอบตามสัญชาตญาณ แต่แล้ว จู่ ๆ ความตระหนักก็แวบเข้ามาในใจของเขา เฉกเช่นแสงแวววาบจากสวรรค์ หรือเพื่อให้แม่นยำยิ่งขึ้น สัมผัสที่หก ที

  • ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ   บทที่ 234 คำเชิญของ คาร์สัน ยอร์ก

    เสียงฟ้าร้องดังก้องอยู่ข้างนอก ท่าทางของวินนี่เฟรดมืดมนลง ไทร์ถึงกับพูดไม่ออก เขายกมือขึ้นตามสัญชาตญาณด้วยเสียงฟ้าร้องฉับพลันและเขาก็เอามือลงหลังจากนั้น ในขณะนั้น เกรแฮม เดวิสโทรมา เพื่อแจ้งว่าลูกค้าจากเมืองไพร์มมาถึงแล้วและกำลังรออยู่ที่ชั้นล่าง วินนี่เฟรดจ้องเขม็งไปที่ไทร์ก่อนจะเดินออกจากออฟฟิศไป ไทร์นั่งลงบนเก้าอี้ของวินนี่เฟรด จากนั้นเขาหยิบโทรศัพท์มือถือของเขาออกมาและโทรไปหาฮวน เยตส์ ในอีกด้านหนึ่งของการโทรวิดีโอ ฮวนกำลังมีช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการผ่อนคลาย ในที่ดินของเขาที่แฟนทั้งสองคนมอบให้แก่เขา “ฮวน ภรรยาของฉันมีอาการหึงหวง ฉันควรจะทำยังไงดี?" ไทร์ถาม บนหน้าจอ ฮวนตกใจเล็กน้อย “นายท่าน ท่านลืมคำแนะนำของผมไปแล้วเหรอ?” “ไสหัวไปซะ” ถ้าหากพวกเขาอยู่ใกล้กัน ไทร์จะทำให้ฮวนต้องพ่ายแพ้อย่างที่เขาจะไม่มีวันลืม เมื่อเห็นท่าทางบูดบึ้งของไทร์ ฮวนรู้ดีว่าเขาควรจะเข้าข้างเจ้านายของเขาและหุบปาก “นายท่าน ถ้าเธอหึงหวง แสดงว่าเธอห่วงใย ยิ่งความหึงหวงมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งห่วงใยมากเท่านั้น! ท่านจะต้องพูดจาหวาน ๆ กับเธอ แล้วสาบานด้วยชีวิตของท่านว่าท่านไม่ได้ทำอะไรผิดต่อเธอ หลังจ

  • ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ   บทที่ 233 ฟ้าร้องในฤดูร้อน

    เชลดอน เฮย์ส และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งสองออกไปตามที่ได้รับคำสั่ง จากนั้น ความเงียบสงัดก็เกิดขึ้นภายในสำนักงาน ไม่เพียงแค่เชลดอนที่ประหลาดใจเท่านั้น แต่คอนนี่ ยอร์กซึ่งอยู่นอกสนามก็ตกใจกับสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นเช่นกัน จนถึงตอนนี้ เธอไม่เคยเห็นใครที่มีพลังมากพอที่จะส่งเจย์ เบลด บินออกไปได้ด้วยหมัดเพียงหมัดเดียว "คุณเป็นใคร?" เธอมองไทร์ ซัมเมอร์อย่างระมัดระวัง พูดตามตรง เธอสนใจไทร์ ที่หล่อเหลาได้ถึงเพียงนี้ "เธอเป็นใคร?" ไทร์ถามกลับ คอนนี่ตรงไปตรงมากับความตั้งใจของเธอ “ฉันคือ คอนนี ยอร์ก ลูกสาวของคาร์สัน ยอร์ก ธิดาของกษัตริย์แห่งเซาท์ริเวอร์ ฉันมาเพื่อตามหาไทร์ ซัมเมอร์ เพื่อแต่งงานกับเขา” อะไรนะ? ไทร์รู้สึกสับสนอย่างบอกไม่ถูก ลูกสาวของราชาแห่งเซาท์ริเวอร์ ต้องการแต่งงานกับเขา? นี่เป็นเรื่องตลกที่น่ารังเกียจแบบไหน? เดี๋ยวก่อน แล้วใครคือ ราชาแห่งเซาท์ริเวอร์ อีก? คาร์สัน ยอร์ค? ไทร์รับรู้ได้อย่างฉับพลัน เขาเป็นสามีของป้าเควลช์ไม่ใช่เหรอ? ผลงานชิ้นเอกของพระเจ้าคนนี้คือลูกสาวที่ไร้ค่าของเฮเธอร์ เควลซ์? "ออกไปเถอะ ฉันไม่เห็นด้วย” ไทร์ตอบอย่างตรงไปตรงมาหลังจา

  • ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ   บทที่ 232 ช่วยหย่ากับไทร์ ซัมเมอร์ด้วย

    อะไรนะ?” วินนี่เฟรดเกือบทำกาน้ำชาในมือของเธอหก เธอมองไปที่คอนนี่ ยอร์ก ด้วยความงุนงงและพยายามทำความเข้าใจกับคำที่เธอเพิ่งได้ยิน ผู้หญิงคนนี้กล้ามาก! เธอกล้าแสดงความรักในที่สาธารณชนกับชายที่แต่งงานแล้วต่อหน้าภรรยาของเขาได้ยังไง? ความไร้เดียงสาของคอนนี่มันไร้สาระเกินไป "มิสยอร์ก มันไม่ตลกนะคะ” ทัศนคติที่จริงใจของวินนี่เฟรดหายไปทันที ความประทับใจที่ดีของเธอที่มีต่อคอนนี่ลดลง ในทางกลับกัน คอนนี่พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “มิสวินนี่เฟรด ฉันมาที่นี่วันนี้ด้วยความตั้งใจจริง ฉันไม่ได้ล้อเล่นกับคุณ ฉันไม่มีวันเปลี่ยนใจที่จะแต่งงานกับไทร์ ซัมเมอร์ ช่วยหย่ากับเขาด้วย แน่นอน ฉันจะชดเชยความสูญเสียที่เกิดขึ้น หนึ่งร้อยล้านดอลลาร์เป็นยังไง? เพียงพอสำหรับคุณไหม?” วินนี่เฟรดกำลังต่อสู้เพื่อระงับความโกรธของเธอ แต่ข้อเสนอของคอนนี่ที่จะจ่ายให้เป็นฟางเส้นสุดท้าย เธอกำลังคิดอะไรอยู่? การจ่ายเงินให้เพื่อแลกกับสามี? “กรุณาเคารพการแต่งงานของเราด้วย มิสยอร์ก” น้ำเสียงของวินนี่เฟรดเย็นชา ถึงยังไงคอนนี่ก็ไม่ยอมเปลี่ยนแปลง "มิสวินนี่เฟรด เหตุผลที่คุณปล่อยไทร์ไปไม่ได้ เป็นเพราะลูกสาวของคุณใช่ไหม? ไม่เ

DMCA.com Protection Status