Home / แฟนตาซี / ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ / บทที่ 5 บังคับสูญหาย

Share

บทที่ 5 บังคับสูญหาย

Author: บัณฑิตติดบ้าน
last update Last Updated: 2024-10-29 19:42:56
ผู้ที่เข้ามาใหม่คือคนที่มั่งคั่งที่สุดในเมืองคานห์ เดรก ทัคเกอร์ ข้าง ๆ เขานั้นมีกลุ่มคนขนาดใหญ่

"ราชาแห่งสื่อยุคใหม่แห่งเมืองคานห์ เฮนรี่ วอคเกอร์"

"ราชินีอัญมณีแห่งเมืองคานห์ เจด ลอเรล"

"ผู้นำนักพัฒนาด้านอสังหาริมทรัพย์ชั้นสูงแห่งเมืองคานห์ โดนัล เลวิส..."

คนเหล่านี้ต่างเป็นชนชั้นนำของเมืองคานห์ เพียงแค่พวกเขากระทืบเท้าก็ทำให้สั่นสะเทือนไปทั้งเมือง แต่ละคนสามารถที่จะเปลี่ยนแชนนอนให้กลายเป็นผงธุลีได้ และตอนนี้ผู้ทรงเกียรติ เดรก ทัคเกอร์ ผู้มั่งคั่งที่สุดในเมือง กับเหล่าผู้นำด้านต่าง ๆ มารวมตัวกัน มันเกิดอะไรขึ้น?

ในทันใดความหยิ่งสโยของแชนนอนก็เลือนหายไปในอากาศ แทนที่ด้วยความรู้สึกหวาดกลัว

"แชนนอน เธอนี่มันไม่ธรรมดาจริง ๆ เธอเพิ่งจะแต่งตั้งตัวเองเป็นราชินีแห่งเมืองคานห์งั้นรึ? ถ้าเธอพูดแล้วคนอื่นก็จะไม่กล้าขัด?" น้ำเสียงของเดรกเต็มด้วยความประชดประชัน แม้แต่คนที่ร่ำรวยที่สุดอย่างเขาก็ยังไม่กล้าที่จะกล่าวอ้างแบบนั้น

หนังศีรษะของแชนนอนชาไปทั้งหัวในความกลัว สตีฟผู้ยืนอยู่ใกล้ ๆ รู้สึกตัวเย็นเฉียบ นี่มันเกิดอะไรขึ้น? ชายคนนี้เป็นใคร ไทร์ ซัมเมอร์ และเขายังสามารถที่จะเรียกผู้มีอิทธิพลทุกคนในเมืองนี้มารวมตัวกันโดยมี เดรก ทัคเกอร์ เป็นผู้นำพวกเขา?

"ลูกพี่ไทร์"

"ลูกพี่ไทร์... ลูกพี่ไทร์..."

ทั่วทั้งห้องต่างกล่าวคำทักทาย ทุกคนต่างนอมน้อมและแสดงความเคารพขณะก้มโค้งคำนับให้กับ ไทร์

จากการที่ได้เห็นสิ่งนี้ ร่างกายของแชนนอนอ่อนปวกเปียก เธอได้ไปล่วงเกินคนชนชั้นสูงแบบไหน? ตามมาด้วยเสียงกระทบพื้น แชนนอนคุกเข่า "ฉันขอโทษ ลูกพี่ไทร์ ฉันขอโทษ ฉันไม่รู้ว่าแบลร์ ซี คือลูกของท่าน ได้โปรดให้อภัยฉัน ได้โปรดละเว้นชีวิตฉันด้วย ฉันขอโทษ" แชนนอนยอมจำนนในทันทีขณะเธอคุกเข่าอ้อนวอน

อย่างไรก็ตาม ไทร์รู้สึกบันเทิงใจ ผู้หญิงคนนี้สำนักผิดก็เพียงแค่เพราะแบลร์เป็นลูกสาวของเขา ถ้าหากสาวน้อยคนนั้นเป็นลูกคนอื่นล่ะ? ถ้าสาวน้อยคนนั้นไม่มีตระกูลที่ยิ่งใหญ่หรือครอบครัวช่วยหนุนอยู่ข้างหลัง ครอบครัวของเธอก็คงจะถูกทำลายด้วยเงื้อมมือของผู้หญิงคนนี้? และครอบครัวนั้นก็จะต้องรู้สึกซาบซึ้งและขอบคุณผู้หญิงคนนี้แทน

"งี่เง่า" ไทร์แค่นเสียง "ก่อนที่พระอาทิตย์จะขึ้นฉันไม่อยากจะเห็นหน้าผู้หญิงคนนี้หรืออะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับเธออีกต่อไป"

"รับทราบครับ ลูกพี่ไทร์!"

ด้านนอกของคฤหาสน์ ภายในส่วนขยายของรถ Lincoln ไทร์นั่งอยู่เบาะหลังขณะเขาเล่นเกมส์ Sokoban บนมือถือของเขา

เดรกนั่งอยู่ข้าง ๆ เขาและกล่าวอย่างนอมน้อม "ลูกพี่ไทร์ ผมชื่อว่าเดรก ทัคเกอร์ เพราะลูกพี่ใหญ่คลิฟฟอร์ด เป็นคนบอกให้ผมมาตามหาท่าน นับจากวันนี้ต่อไปในเมืองคานห์ ผมจะติดตามการนำทางของท่าน การที่ได้รับใช้ท่านนั้นถือเป็นเกรียติของผม"

"ได้" ไทร์พยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะกลับไปเล่นเกมส์ต่อ

เดรกเสริม "ลูกพี่ไทร์ ศูนย์กลางของเมืองตอนนี้ได้อยู่ภายใต้นามของท่าน มันมีกลุ่มของโรงแรม, ร้านเครื่องประดับอัญมณี, ของโบราณและร้านค้ายี่ห้อหรูหรามากมาย รวมอยู่ในศูนย์กลางการค้าชั้นนำ ในอนาคตเรามีแผนจะรวบรวมยี่ห้อที่โด่งดังจากทั่วทุกมุมโลก ในตอนนี้ที่ลูกพี่ไทร์กลับมาแล้ว เราก็สามารถจะมองหาหุ้นส่วนต่างประเทศเพื่อร่วมทำงานด้วยกันได้ครับ"

ไทร์เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้า "ศูนย์กลางของเมืองจะอยู่ภายใต้การดูแลของนาย ถ้าหากไม่มีอะไรพิเศษ ก็ไม่จำเป็นต้องมารบกวนฉัน"

"ได้ครับ ลูกพี่ไทร์ แต่ศูนย์กลางของเมืองกำลังจะเป็นเจ้าภาพจัดงานมหกรรมการลุงทุนผู้ค้า ในฐานะของเจ้าของสถานที่ ท่านอยากจะไปร่วมงานด้วยตัวเองไหม?"

ไทร์หน้าบุ้ย "เดรก นายเข้าใจภาษาคนไหม?"

เดรกตัวสั่น รีบกล่าวตอบ "ผมเข้าใจแล้ว ลูกพี่ไทร์"

***

ในเช้าวันต่อมา วินนี่เฟรดตื่นขึ้นมาเช้ากว่าปกติ ในเวลาที่ไทร์ตื่นขึ้นมา วินนี่เฟรดได้จัดเตรียมอาหารเช้าไว้เรียบร้อยแล้ว และแบลร์ก็ได้ล้างหน้าล้างตาและรออยู่ที่โต๊ะรับประทานอาหาร

"ฉันขอโทษ เมื่อคืนฉันเข้านอนดึก ฉันเลยตื่นสาย" ไทร์ได้นอนตอนตีสามของเมื่อเช้า เขาจึงตื่นสายในเช้านี้ "แบลร์จะต้องไปสถานรับเลี้ยงเด็กวันนี้หรือเปล่า เดี๋ยวฉันจะพาเธอไปเอง" ไทร์กล่าวขณะเดินไปหาแบลร์

อย่างไรก็ตามก่อนที่เขาจะได้เข้าใกล้ แบลร์เงยหน้ามองขึ้นมาที่ไทร์ กับสีหน้าที่หวาดกลัวก่อนจะงอแงร้องออกมา

"แบลร์ มีอะไรผิดปกติงั้นเหรอ?" ไทร์ตกใจและสับสน

เมื่อวินนี่เฟรดหันมามองที่ไทร์ เธอก็หวาดผวาเช่นกัน "ไทร์... นาย..."

"อะไรผิดปกติ?" ไทร์รีบเข้าห้องน้ำไปส่องกระจก นอกเหนือไปจากดวงตาของเขาที่แดงก่ำเล็กน้อย ไม่มีอะไรที่ดูแตกต่างไป มีเพียงรังสีสังหารของเขาเท่านั้นที่หนาแน่นเกินไป

"คงจะเป็นเพราะมันเกิดขีดความอดทนของฉันไหลรั่วออกมาถึงได้ทำให้แบลร์ตกใจ" ไทร์พึมพัมกับตัวเอง "ที่นี่มันจักรวรรดิเซเลสเชียล ไม่ใช่ดินแดนต่างประเทศ ฉันจะต้องควบคุมรังสีสังหารนี่ไว้ให้ได้"

"ยิ้ม"

"สงบ"

"อดทน"

ไทร์มองกระจกและยิ้มแฉ่ง

สักพักหนึ่งไทร์ก็กลับออกมาจากห้องน้ำ รังสีสังหารที่เผยออกมาเมื่อสักครู่นี้ถูกปกปิดไว้เรียบร้อย คราวนี้แบลร์ไม่ร้องไห้ มันเป็นความจริงที่ว่าเธอหวาดผวากับรังสีของเขาก่อนหน้านี้

หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ ไทร์และวินนี่เฟรดก็ไปส่งแบลร์ที่สถานรับเลี้ยงเด็กด้วยกัน เมื่อพวกเขากลับมา ไทร์มองไปที่วินนี่เฟรดและกล่าว "วันนี้เธอดูอารมณ์ดีจัง เป็นเพราะว่าฉันกลับมาหรือเปล่า?"

"อย่าหลงตัวเองไปหน่อยเลย" วินนี่เฟรดกล่าว "นายยังไม่เห็นข่าวรึไง? เมื่อคืนเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นในบ้านของแชนนอน"

"ฮืมมม?"

"แชนนอน หลุยส์ ตายแล้ว และสตีฟ ฮัดสัน ก็ตายด้วย ทรัพย์สินทั้งหมดของเธอถูกยึด เขาลือว่ามีใครบางคนได้เข้าไปแก้แค้นเธอ ผู้หญิงคนนั้นได้ทำเรื่องชั่วร้ายมากมายตอนมีชีวิตอยู่ ในที่สุดก็มีคนจัดการเธอ นี่มันคือข่าวดี ในตอนนี้เธอก็ไม่สามารถมาทำอะไรแบลร์ได้อีก"

วินนี่เฟรด ในตอนนี้เธอรู้สึกสบายใจหายห่วง ก่อนหน้านี้เธอถูกต้อนให้จนมุมแต่ตอนนี้แบลร์ปลอดภัยแล้ว

รอยยิ้มอ่อน ๆ ปรากฎอยู่บนใบหน้าของไทร์ "อย่างที่ฉันบอกก่อนหน้านี้ ว่าฉันจะปกป้องพวกเธอสองคนเอง"

วินนี่เฟรดนั้นมึนงง เธอมองอย่างเหลือเชื่อไปที่ไทร์ "หรือว่าที่แชนนอนเสียชีวิตก็เพราะ..."

"ใช่แล้ว..."

ไทร์กล่าวเพียงแค่สองคำ เมื่อวินนี่เฟรดเหลือบมองเดือดดาลมาที่ไทร์ "หยุดล้อเล่นสักที ไทร์นายหายไปไหนมาตลอดหลายปีมานี้?" วินนี่เฟรด ไม่เชื่อว่าไทร์คือคนที่ทำให้แชนนอนหายไป

ไทร์อยากจะสารภาพความจริงทั้งหมดเกี่ยวกับตัวตนและเบื้องหลังของเขา แต่หลังจากที่ไตร่ตรองแล้ว เขารู้สึกว่ามันยังเร็วเกินไป ถึงแม้ว่าเขาจะบอกความจริงกับเธอแล้ว วินนี่เฟรดก็คงจะไม่เชื่อเขา ถ้าเขาคะยั้นคะยออธิบายตัวเขาเอง วินนี่เฟรดก็อาจจะไม่ชอบเขาและคิดว่าเขาเป็นคนตอแหลแทน "ฉันข้ามน้ำข้ามทะเลไปต่างแดน และตรากตรำทำงานอยู่ไม่กี่ปี ในตอนนี้ฉันพอจะมีเงินเก็บแล้ว ฉันจึงกลับมาหาเธอ"

"โอเค" วินนี่เฟรดไม่ได้ถามอะไรต่อ

หลังจากนั้น เธอพาไทร์ไปซูเปอร์มาร์เก็ตและซื้อยาบำรุงสำหรับผู้สูงอายุ "คุณปู่โทรมาหาฉันเมื่อเช้านี้ เขารู้ว่านายกลับมาแล้ว เขาเลยขอให้ฉันพานายไปพบเขา หลังจากนั้นถ้าหากคุณปู่หรือทุก ๆคนเริ่มไม่เป็นมิตร พยายามอดทนเข้าไว้และหลีกเลี่ยงข้อพิพาท ถึงอย่างไรพวกเขาก็เป็นผู้อาวุโสของพวกเรา"

Related chapters

  • ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ   บทที่ 6 ทรัพย์สินล้านล้านและเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว

    ไทร์พยักหน้าเห็นด้วยแต่ห้ามตัวเองไม่ได้ที่จะกล่าวถาม "ตระกูลซีได้รังแกข่มเหงพวกเธอสองคนมาตลอดหลายปี ทำไมเธอถึงยังไม่ตัดขาดกับพวกเขา?""เพราะเลือดมันข้นกว่าน้ำ อีกอย่างพ่อแม่ฉันไม่ได้ทำงานแล้วและแบลร์ก็จำเป็นต้องเข้าโรงเรียน แม้ว่าครอบครัวจะไม่ชอบขี้หน้าเรา การได้ทำงานในบริษัทของตระกูลซีพวกเขาก็ยังคงให้เงินเดือนที่ฉันสมควรจะได้อยู่"ไทร์ไม่ได้ถามต่อ พวกเขาสองคนมุ่งหน้าไปที่คฤหาสน์ของตระกูลซีพร้อมกับของขวัญในมือภายในห้องนั่งเล่นของคฤหาสน์ตระกูลซี บรรดาสมาชิกคนในครอบครัวนั้นได้นั่งประจำที่เรียบร้อย มันยังมีโต๊ะอยู่สองสามตัวกางออกมาเพื่อกินเลี้ยง ในวันนี้ตระกูลซีได้เตรียมตัวจัดงานเลี้ยง ไม่ใช่เพราะต้องการจะต้อนรับไทร์แต่เพื่อคุณหนูอีกคนของครอบครัวซี ไอลิส ซี และแฟนหนุ่มของเธอ ทราวิส เจนเซ่น "เธอมาแล้ว" ในทันทีที่พวกเขาเข้ามา พวกเขาได้ยินเสียงของชายชรา ชายชราผู้นี้คือเสาหลักของตระกูลซี คุณปู่ของวินนี่เฟรด จอร์จ ซี"คุณปู่" วินนี่เฟรดรีบเร่งพาไทร์ไปด้วย ขณะที่พวกเขามอบของขวัญที่พิถีพิถันเลือกมาจากซูเปอร์มาเก็ตก่อนหน้านี้ "คุณปู่ นี่คือของขวัญที่ไทร์ตั้งใจเลือกมาให้คุณปู่เป็นพิเศษ""เ

  • ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ   บทที่ 7 ไม่ว่าเธอจะอยู่ทึ่ไหน ฉันก็จะขออยู่เคียงข้างเธอ

    การกระทำของไอริสเป็นการดูถูกเหยีดยหยามอย่างมาก อย่างไรก็ตามจอร์จกำลังหลงไหลไปกับชิ้นส่วนของโสมป่า ที่เขานั้นไม่เคยตั้งใจจะใช้เงินซื้อมันมา มันเหมือนกับว่าเขายินยอมอย่างเงียบ ๆ กับกระทำของไอลิสวินนี่เฟรดงุนงง หยั่งรากลึกไปถึงแก่นและรู้สึกกระวนกระวาย นั่นมันคือของขวัญที่เธอและไทร์พิถีพิถันเลือกมาสำหรับจอร์จ แต่ของพวกนั้นกลับถูกมองว่าเป็นขยะ"กินข้าวกันเถอะ" เมื่อทุกคนมาถึง จอร์จก็ประกาศว่าได้เวลาเริ่มรับประทานอาหารทั้งตระกูลนั่งลง วินนี่เฟรดและไทร์ได้นั่งโต๊ะร่วมกับจอร์จ เธอนั้นคือเชื้อสายโดยตรงของครอบครัวสมาชิกตระกูลซีดังนั้นมันจีงเป็นเรื่องธรรมดาที่เธอจะนั่งตรงนี้ อย่างไรก็ตาม สักพักหนึ่งหลังจากที่พวกเขานั่งลง ไอริสเอามือมาบังปิดจมูกในท่าทางเสียดสี ขณะเธอบ่น "ทำไมโต๊ะนี้มันมีกลิ่นสาปแปลก ๆ ? กลิ่นเหมือนกับถังขยะ"ทันใดนั้นทุกคนต่างมองไปที่ไทร์ การกล่าวขึ้นมาลอย ๆ แบบนี้ มันชัดเจนที่หมายถึงว่าไทร์นั้นเป็นขอทาน และไม่มีใครอยากจะร่วมโต๊ะอาหารกับขอทาน"วินนี่เฟรด พาไทร์ไปกับเธอและไปกินตรงนู้น" จอร์จกล่าวและชี้ไปที่โต๊ะเล็ก ๆ นั่นมันเป็นโต๊ะของเหล่าคนรับใช้เพื่อรับประทานอาหารวินน

  • ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ   บทที่ 8 เทพบุตรในฝัน

    ไทร์ไม่เต็มใจที่จะหยุด ทำให้วินนี่เฟรดไม่พอใจ"ไทร์หยุดพูดจาไร้สาระสักที มันไม่มีทางที่ฉันจะได้สิทธินั้น"ไทร์ส่ายหัว "เธอจะรู้ได้ยังไงถ้ายังไม่ได้ลอง?" ไทร์ก็อยากจะบอกว่าเขานั้นคือเจ้าของคนใหม่ผู้ที่ได้เข้าซื้อศูนย์กลางเมือง วินนี่เฟรดเธอคือภรรยาของฉัน ขอแค่เธอยืนยันว่าอยากจะได้มัน การที่มอบให้เธอทั้งศูนย์กลางเมืองไปเลยก็ไม่ใช่ปัญหา ยังน้อยกว่าสิทธิที่จะได้ภายในนั้นเสียอีกอย่างไรก็ตามไทร์ก็ไม่เคยที่จะได้กล่าวเสียงดัง เขารู้ดีว่าพวกเขาก็คงจะทำการเย้าแหย่ใส่อีกรอบ ถึงอย่างไรบทสนทนาของทั้งสองก็ไปจับความสนใจของใคนบางคนเข้าไอริสตั้งใจกล่าวถามสีหน้าเยาะเย้ย "พวกแกกำลังคุยอะไรกันอยู่? นี่พวกแกก็พยายามจะหาสิทธิ์นั้นด้วยงั้นเหรอ?"หลังจากเธอกล่าวจบทั้งห้องก็ระเบิดหัวเราะขึ้นมาอีกครั้ง"ฮ่าฮ่าฮ่า พวกแกไม่เข้าใจคำว่า 'ประเมินตัวเองสูงเกินไป' รึยังไง?""นี่มันไม่ใช่การประเมินตัวเองสูงเกินไป นี่มันคือฝันเฟื่อง""ทำไมแกไม่หันไปมองดูตัวเองให้ดี ๆ? แม้กระทั่งการคิดว่าจะไปทำความรู้จักกับเจ้าของและจะได้เลื่อนขั้น มันช่างไร้สาระ"หน้าของวินนี่เฟรดกลายเป็นสีแดงเพราะความอับอายถึงอย่างไรไทร์ก็กล

  • ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ   บทที่ 9 มหกรรมการลงทุนผู้ค้า

    เดรกเข้าใจทันทีในความหมายของไทร์ ทราวิส เจนเซ่น และไอริส ซี ทั้งคู่คงได้ไปล่วงเกินไทร์ เดรกไม่กล้าที่จะขัดคำสั่ง เขาจึงรีบตอบตกลงกับคำแนะนำของไทร์ไทร์กล่าวต่อ "อีกอย่างหนึ่ง นายเคยเห็นรูปของภรรยาฉันแล้ว วินนี่เฟรด ซี มอบสิทธิสัญญาการลงทุนให้กับเธอสำหรับกลุ่มเครือซี และให้เธอเป็นคนเซ็นสัญญา"“เข้าใจแล้วครับ ลูกพี่ไทร์”หลังจากมื้อเช้า ไทร์ไปเข้าร่วมมหกรรมการลงทุนผู้ค้ากับวินนี่เฟรด ระหว่างเดินทางไป วินนี่เฟรดรู้สึกประหม่าเหมือนกับว่าเธอกำลังจะไปสอบในสนามสำคัญ“อย่ากังวลไปเลย วินนี่เฟรด เธอจะต้องได้ร่วมทำสัญญาอย่างแน่นอน”“จริงหรือ?”“ใช่ เชื่อฉันสิ”งานมหกรรมการลงทุนผู้ค้านี้จัดขึ้นที่ตึกออฟฟิสชั้นนำที่เดรกเป็นเจ้าของ ในตอนที่ไทร์และวินนี่เฟรดไปถึง คนก็แน่นเต็มงาน ลานจอดรถด้านนอกเต็มไปด้วยรถยนต์หรูหรามากมายหลายแบบ และคนที่ออกมาจากรถเหล่านั้นต่างเป็นเจ้าของธุรกิจที่มีรายได้สุทธิแต่ละคนเป็นหลักสิบถึงร้อยล้าน เมื่อเทียบกับคนพวกนั้นแล้ว ไทร์และวินนี่เฟรดที่เดินทางมาโดยรถแท็กซี่นั้น ก็ดูยาจกขึ้นมาทันที“ว้าว วินนี่เฟรด เธอมาจริง ๆด้วย” ที่ด้านหลังของพวกเขา ไอริสและทราวิสลงมาจากรถ Me

  • ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ   บทที่ 10 สิทธิสัญญาการลงทุนเป็นของคุณ

    ภายในสำนักงาน เมื่อเดรกมองไปที่ไอริสครั้งแรก เขาก็ไม่ชอบเธอทันทีกับบุคลิกภาพบ้าตัณหา มันไม่น่าสงสัยเลยว่าทำไมไทร์ไม่ชอบเธอ!“ได้โปรดนั่งลง” เดรกกล่าวจากนิสัยเฉยเมยไอริสรีบนั่งลงตรงข้ามเดรก เมื่อเธอนั่งลงไอริส อดทนรอไม่ไหวที่จะแนะนำตัวเอง “สวัสดี คุณลุงทัคเกอร์ ฉันชื่อ ไอริส ซี เถ้าแก่หนุ่ม ทราวิส เจนเซ่นแห่งสำนักเภสัชสมุนไพรร้อยปีเขาคือ...”อย่างไรก็ตามก่อนที่ไอริสจะพูดจบประโยคเธอก็ถูกขัดจังหวะโดยเดรก“ตารางงานของเราวันนี้ยุ่งมาก ดังนั้นคุณช่วยตัดบทสนทนาเล็ก ๆ น้อย ๆ ออกไปที มีหลายคนที่รออยู่ด้านนอก”ไอริสเริ่มมึนงงก่อนจะหยักหน้า “ได้เลย คุณทัคเกอร์”หลังจากนั้นไอริสก็จ้องมองไปที่เดรกอย่างคาดหวัง เธอรอให้เขายื่นมอบสัญญาสิทธิการลงทุนให้เธอเซ็น อย่างไรก็ตามเดรกไม่ได้ทำตามที่เธอหวังไว้ เขามองกลับมาที่ไอริสและถาม “คุณซี สิ่งของที่คุณเตรียมมามันอยู่ไหน?”“สิ่งของ? สิ่งของอะไร?” ไอริสสับสน “คุณทัคเกอร์ เราไม่ได้ส่งใครบางคนมาเพื่อมอบสิ่งของพวกนั้นไปก่อนแล้วหรอกหรอ?”“ผมหมายถึงเอกสารที่คุณเตรียมมา คุณคงไม่สามารถคิดที่จะได้สัญญาสิทธิการลงทุนโดยไม่มีเอกสารใด ๆ เกี่ยวกับการแนะนำและข้อมูล

  • ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ   บทที่ 11 ภรรยาของฉันยอดเยี่ยมที่สุด

    วินนี่เฟรดอึ้งไปเลย เธอรู้สึกเหมือนกับว่าทั้งหมดนี้เป็นแค่ความฝัน เธอได้รับสิทธิ์ในการลงทุนนี้อย่างง่ายดายซึ่งครอบครัวซีได้กล่าวว่ามันยากเสียกว่าการได้ขึ้นสวรรค์อีก วินนี่เฟรดลืมไปเลยว่าเธอได้เดินออกจากตึกสำนักงานมาได้ยังไง ข้างนอก ไทร์ยืนอยู่ตรงนั้นและมองเธอด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม มันราวกับว่าเขารู้อยู่แล้วว่าเธอจะต้องทำสำเร็จ “ไทร์ ฉันได้รับสัญญาสิทธิ์การลงทุนแล้ว” วินนี่เฟรดโบกมืออย่างตื่นเต้นไปที่ไทร์ และในเวลาต่อมาเขาก็เดินตรงเข้าไปกอดเธอ “ฉันรู้ว่าเธอจะทำสำเร็จ” “แต่ ฉันรู้สึกว่ามันง่ายเกินไป เหมือนมีอะไรผิดปกติ” “ไม่มีอะไรผิดปกติกับมันหรอกนะ คนที่ทุ่มเทมักจะได้รับรางวัลอยู่แล้ว นี่ไม่ใช่งานยากสำหรับการเริ่มต้น” ในเวลาเดียวกัน ภายในห้องประชุมผู้บริหารระดับสูงของซีกรุ๊ป กลุ่มผู้บริหารระดับสูงทุกคนได้รับเชิญให้มารวมตัวกันที่นี่โดยจอร์จ แม้แต่ทราวิสและไอริสก็อยู่ด้วย จอร์จเรียกประชุมด่วนครั้งนี้เพราะแผนการลงทุนในใจกลางเมืองล้มเหลว ดังนั้นพวกเขาจึงต้องหามาตรการรับมือใหม่เพื่อชดเชยหรือมองหาโอกาสอื่นแทน ขณะที่ทุกคนรู้สึกท้อแท้และผิดหวัง ประตูห้องประชุมก็ได้ถูกผลักและเปิดอ

  • ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ   บทที่ 12 เดรก ทัคเกอร์ มาถึงแล้ว

    วินนี่เฟรดอึ้งไปเลย พวกคุณคงไม่มีใครเห็นว่าที่ผ่านมาฉันทำงานหนักแค่ไหนมาโดยตลอดสินะ? แม้ว่าฉันจะได้ทำสัญญานั้นด้วยความสามารถของฉันจริง ๆ พวกคุณทุกคนจะยังคิดว่าฉันลงทุนโดยไม่ต้องใช้แรงหรือความคิดใด ๆ คงคิดว่าใช้ความคิดของไอริสเหรอ? วินนี่เฟรดรู้สึกปวดร้าวราวกับมีดกรีดที่หัวใจของเธอ ไทร์เองก็โกรธจัดเหมือนกัน เขาดูเย็นชาและไม่พอใจที่เขาไม่สามารถตบหน้าแต่ละคนได้และทุกคนในที่นี้เป็นคนโง่เง่ามาก เนื่องจากพวกแกอยากเล่นแบบนั้น เอาล่ะ ฉัน ไทร์ ซัมเมอร์ จะขอตบหน้าพวกสารเลวทุกคนอย่างแรงเลยคอยดู! “คุณปู่ วินนี่เฟรดเป็นคนที่ชนะสัญญานี้จริง ๆ แต่คุณกำลังวางแผนที่จะให้เครดิตกับไอริสแทนเหรอ? จะเกิดอะไรขึ้นถ้า เดรก ทัคเกอร์ ชื่นชมความสามารถของวินนี่เฟรดจริง ๆ และให้สัญญากับเธอด้วยเหตุผลนั้นล่ะ?” “พรสวรรค์เหรอ? แกหมายถึงพรสวรรค์ในการเข้าใจเลือกคนเหรอ?” ไอริสหัวเราะเยาะ เธอเล่าถึงเหตุการณ์ที่วินนี่เฟรดและไทร์ ซึ่งเป็นขอทานได้เมื่อหกปีก่อน สีหน้าของไทร์เย็นลงเมื่อเขาจ้องไปที่ไอริส ไอริสสะดุ้งทันทีเมื่อเห็นสิ่งนี้ “ในเมื่อไม่มีใครเชื่อ งั้นให้เรียกเดรก ทัคเกอร์ มาเพื่อถามเขา ถามเขาว่าเขาเข้าใจผิด

  • ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ   บทที่ 13 ทำตามสัญญาของเขา

    วินนี่เฟรดรู้สึกประหลาดใจ ไทร์กลับมีความสุขกับตัวเอง ในขณะที่เขามองดูใบหน้าที่อับอายขายหน้าของผู้บริหารแต่ละคน เดรก ทัคเกอร์ ทำได้ดีมาก! จอร์จรู้สึกกังวลทันทีและพูดว่า “มิสเตอร์ทัคเกอร์ วินนี่เฟรดเป็นเสาหลักของซีกรุ๊ปเลยล่ะ เราจะไม่ชอบเธอได้ยังไง? เมื่อกี้นี้ เรากำลังคุยกันเรื่องการสนับสนุนวินนี่เฟรดให้เป็นผู้จัดการแผนกออกแบบและเพิ่มเงินเดือนเธอ ใช่ไหม ทุกคน?” “ใช่แล้ว ใช่แล้ว…” เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร ทุกคนรอบ ๆ พยักหน้าอย่างต่อเนื่อง “ตอนนี้ฉันขอประกาศว่าวินนี่เฟรดเป็นผู้จัดการฝ่ายออกแบบของซีกรุ๊ปอย่างเป็นทางการ” ทว่าเดรกไม่สนใจคำพูดเหล่านั้น เขามองไปที่วินนี่เฟรดและพูดว่า “มิสวินนี่เฟรด ถ้าหากคุณจะเป็นผู้จัดการแผนกออกแบบที่นี่ แต่ความสามารถของคุณก็สูญเปล่า หากคุณยินดีที่จะมาทำงานให้กับทัคเกอร์กรุ๊ป ฉันสามารถให้ตำแหน่งที่สูงขึ้นกับคุณได้ทันทีและเพิ่มเงินเดือนของคุณเป็นสิบเท่า” วิ้งงง… เสียงหึ่ง ๆ ดังขึ้นในจิตใจของจอร์จและกลุ่มสมาชิกของเขา พวกเขาไม่ได้กลัวที่วินนี่เฟรดจะจากไปแต่กลับกลัวว่าจะเสียสิทธิ์ในการลงทุนไป “วินนี่เฟรด บริษัทต้องการเธอ” จอร์จขอร้อง วินนี่เฟรดสูดหาย

Latest chapter

  • ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ   บทที่ 240 ราชาแห่งเซาท์ริเวอร์ตายแล้ว

    เมื่อไทร์ได้ยินข่าวนี้ สีหน้าของเขาไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ราวกับว่าเขารู้มาตลอด “ต้องทำขนาดนั้นเลยเหรอ?” ไทร์พึมพำกับตัวเองก่อนจะตอบว่า “ผ่อนคลาย ทำสิ่งที่พวกนายต้องทำต่อไป แค่ทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น” “แต่บราเธอร์ไทร์” เดรก ทัคเกอร์กล่าว “ฉันจะจัดการเอง” ในตอนท้ายของการโทร เดรกไม่กล้าพูดอะไรอีก ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงวางสายเท่านั้น ในยุคนี้ ที่วิธีการกระจายข้อมูลได้รับการพัฒนาเป็นอย่างดี ข้อมูลต่าง ๆ สามารถแพร่กระจายไปทั่วประเทศได้ทันที บุคคลสำคัญของเมืองคานห์มีการติดต่อทางธุรกิจกับเมืองไพร์มไม่น้อยและหลายคนยังเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจ ดังนั้น เมื่อข่าวการเสียชีวิตของกษัตริย์แห่งเซาท์ริเวอร์แพร่กระจายไปทั่วเมืองไพร์ม เมืองคานห์ก็จะได้รับข่าวคราวเช่นกัน หลังจากการโทรครั้งแรกจากเดรก ไทร์ยังได้รับสายจากบุคคลอื่น เช่น โนอาห์ ลี, แซคเคอรี่ สมิธ, โดนัลด์ ลูอิส, และเจด ลอเรล อย่างต่อเนื่อง แต่ละคนต่างก็ดูวิตกกังวลและเป็นห่วงไทร์ เหตุการณ์นี้ร้ายแรงเกินไป เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการตายของราชาแห่งเซาท์ริเวอร์ คาร์สัน ยอร์ก ไทร์ได้ให้คำตอบกับบุคคลสำคัญในเมืองคานห์เหล่านี้แบบเดี

  • ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ   บทที่ 239 หน้าต่างมีหูประตูมีช่อง

    ถึงตอนนี้ มีเพียงคาร์สัน ยอร์ก ไทร์ ซัมเมอร์และเจมสัน ซิงค์ ซึ่งรับผิดชอบการเทไวน์ข้าง ๆ พวกเขาเท่านั้น ที่ถูกทิ้งไว้ในห้องอาหาร “ไทร์ อย่าไปสนใจเธอเลย ผู้หญิงคนนั้นเป็นแบบนั้นเสมอมา คุณป้าเควลซ์ของคุณจะให้ความกระจ่างแก่เธอเอง ถ้าเธอพยายามจะรบกวนคุณอีก ผมจะเป็นคนดูแลเธอเอง” คาร์สันกล่าว ไทร์ยิ้มและตอบ “ไม่เป็นไรคุณลุงยอร์ก” “มาเถอะ วันนี้เราใช้โอกาสดี ๆ นี้เพื่อดื่มกัน” คาร์สันหันไปหาเจมสัน “เจมสัน ไปที่ห้องเก็บไวน์และหยิบไวน์ขวดเก่าที่ฉันเก็บไว้มา คืนนี้ไทร์และฉันจะดื่มจนกว่าเราจะเมากันไปข้างหนึ่ง” เจมสันพยักหน้าทันทีก่อนจะรีบไปที่ห้องเก็บไวน์ เมื่อเขาจากไป มีเพียงคาร์สันและไทร์เท่านั้นที่ถูกทิ้งไว้ในห้องอาหาร ในขณะนั้น คาร์สันที่ยิ้มแย้มแจ่มใสในตอนแรก ใบหน้าของเขาแสดงถึงความจริงจังออกมาชั่วครู่ก่อนที่รอยยิ้มของเขาจะกลับคืนมา เพียงชั่วพริบตานั้น ไทร์ก็เข้าใจความหมายของเขาทันที คาร์สันขยับแก้วไวน์ต่อหน้าเขา เขาใช้ไวน์หนึ่งหยดจากแก้วของเขาเขียนลงบนโต๊ะอย่างรวดเร็วว่า 'หน้าต่างมีหูประตูมีช่อง' ขณะที่เขาเขียน เขาพูดต่อว่า “ไทร์ ผมต้องขอบคุณคุณ ที่รักษาป้าเควลซ์ของคุณให้หายดี

  • ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ   บทที่ 238 ฉันโกรธเคืองมาก

    ไทร์ ซัมเมอร์และคอนนี่ ยอร์กจึงนั่งลงด้วยกัน ในขณะที่พ่อบ้านเจมสันยืนอยู่ข้าง ๆ พวกเขาเพื่อรินเครื่องดื่ม “พี่ชายที่รัก คุณแม่ของฉันดีกับคุณมาก ฉันมักจะขอให้เธอทำอาหารเหล่านี้ แต่เธอไม่ทำอาหารให้ฉันเลย เมื่อคุณอยู่ที่นี่ เธอกำลังแสดงทักษะการทำอาหารทั้งหมดของเธอให้คุณเห็น ในที่สุดฉันก็สามารถได้ทานอาหารเหล่านี้” จะว่าไปแล้ว คอนนี่ไม่ได้สนใจภาพลักษณ์ของเธอเลย เธอคว้าปีกไก่จากบนโต๊ะแล้วเคี้ยวมันทันที สีหน้าของคาร์สัน ยอร์กมืดลงในทันทีและเขาก็ตะคอกเธอ “ดูเธอทำ แขกของเธอยังไม่ได้เริ่มรับทานเลย แต่เธอกำลังกินอาหารด้วยมือเปล่า วางมันลงเดี๋ยวนี้ มารยาทของเธออยู่ไหนหมด?” เธอไม่สะทกสะท้านกับคำดุว่าของพ่อของเธอ คอนนี่ยังคงเคี้ยวไก่ของเธอต่อไป เธอคว้าอีกอันหนึ่งใส่ในชามของไทร์ และเคี้ยวในขณะที่เธอพูดว่า “พี่ชายที่รัก คุณก็กินด้วยสิ ฝีมือการทำอาหารของคุณแม่ของฉันยอดเยี่ยมมาก” ไทร์รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย พฤติกรรมของหญิงสาวคนนี้แตกต่างจากใบหน้าที่งดงามของเธอ คาร์สันไม่รู้ว่าจะทำเช่นไรกับลูกสาวของเขา ดังนั้นเขาจึงทำได้แค่ถอนหายใจ “ไทร์ คุณไม่ต้องไปสนใจเธอ เธอไม่เป็นกุลสตรีเอาซะเลย” เขาส่งสายตา

  • ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ   บทที่ 237 สร้างความบาดหมาง

    ไทร์ ซัมเมอร์รู้สึกหนาวไปที่กระดูกสันหลังของเขา ผู้หญิงสมัยนี้ตรงไปตรงมาขนาดนี้ได้ยังไง? อันที่จริง ตั้งแต่ที่ วินนี่เฟรดเข้ามาในชีวิตเขา ไทร์ก็ไม่ได้สนใจผู้หญิงคนอื่นอีกเลย แต่ถ้าเขาได้พบกับคอนนี่ ยอร์กก่อนวินนี่เฟรด บางทีเขาอาจจะถูกดึงดูดโดยผู้หญิงที่สวยและงดงามคนนี้แทน ถึงแม้ว่า ไทร์จะได้พบกับหญิงสาวผู้มั่งคั่งและเจ้าหญิงผู้งดงามมากมายและเขายังได้พบกับคนดังระดับโลกมานับไม่ถ้วน แต่ก็ไม่มีใครที่สวยได้เท่าคอนนี่ผู้นี่ ผู้หญิงคนนี้เป็นผลงานชิ้นเอกที่แกะสลักและสร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันโดยพระเจ้า อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ไทร์มีเพียงแค่วินนี่เฟรดเท่านั้น รถคาดิลแลคของเขามุ่งหน้าไปยังคฤหาสน์ยอร์ก ในขณะที่ เจย์ เบลด ถูกทิ้งให้ยืนแข็งทื่ออยู่เช่นนั้น เขายังคงตะลึงงันในขณะที่เขาจ้องไปที่รถคาดิลแลคที่พุ่งออกไปด้วยดวงตาที่แดงก่ำ เปลวเพลิงแห่งความโกรธแผดเผาหัวใจของเขา ลูกน้องของเข้าเดินเข้ามาหาเขาและถามด้วยความเป็นห่วงว่า “บราเธอร์เจย์ คุณโอเคไหม?” ผัวะ… เจย์ปล่อยหมัดเข้าที่ท้องของลูกน้อง ชายผู้นั้นรู้สึกได้ถึงตะคริวที่หน้าท้องและเขาก็ล้มลงกับพื้นแล้วจับหน้าท้องเอาไว้ด้วยความเจ็บปวด “แม่ง

  • ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ   บทที่ 236 ฉันจะแต่งงานกับคุณคนเดียวเท่านั้น

    เมื่อพูดถึงคาร์สัน ยอร์ก ใบหน้าของเจย์ เบลดก็กระตุกเล็กน้อย แม้ว่าเขาจะเป็นนายน้อยซาร์แห่งเมืองไพร์ม แต่เขาก็ต้องเกรงกลัวคาร์สัน ยอร์ก ที่เป็นราชาแห่งเซาท์ริเวอร์อยู่มาก ในเวลานี้ เขาตาบอดอย่างสิ้นเชิงเพราะความรักที่เขามีต่อคอนนี่ ยอร์ก เขาเห็นไทร์เป็นคู่ต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขา เมื่อคาร์สันเชิญไทร์ไปทานอาหารเย็น เจย์รู้สึกว่าตำแหน่งของเขาถูกคุกคาม เมื่อจิตนาการถึงคอนนี่และไทร์ ที่กำลังมีความสุขอยู่ด้วยกัน มันบีบคั้นหัวใจของเขาและจุดประกายความโกรธของเขา เขาไม่สามารถทนเห็นมันได้ “ไทร์ ซัมเมอร์! ฉันไม่สนใจว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น แต่ถ้าแกยังกล้าที่จะเข้ามาเหยียบเมืองไพร์มอีก ฉันจะฆ่าแก!” เมื่อมองดูท่าทางที่คุกคามของเจย์ ไทร์กลับคิดว่ามันไร้สาระ “ฉันไม่ได้สนใจมิสยอร์กของนาย ขอร้องเถอะเจย์ อย่ามายุ่งกับฉัน” ไทร์ไม่สนใจคนเหล่านี้ในขณะที่เขากลับไปที่รถคาดิลแลคของเขา พวกเขาโชคดีที่เป็นคนของคาร์สัน ยอร์ก ถ้าไม่เช่นนั้น ไทร์จะไม่เมตตาพวกเขาอย่างแน่นอน “ฉันไม่สน ว่าแกจะสนใจเธอหรือเปล่า แต่เธอต้องการแต่งงานกับแก และนั่นคือความกังวลของฉัน! ฉันจะให้โอกาสแกเป็นครั้งสุดท้าย กลับเมือง

  • ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ   บทที่ 235 ไสหัวไปจากเมืองไพร์ม

    “นายบอกว่า ระหว่างนายกับคอนนี่ ยอร์ก ไม่มีอะไรไม่ใช่เหรอ? ทำไมพ่อของเธอถึงชวนนายไปที่นั่น? ไม่น่าแปลกใจที่นายจะมั่นใจมาก ๆ ว่าบริษัทต่าง ๆ ในเมืองไพร์มจะต้องมาอ้อนวอนเรา ใครจะรู้ว่านายกำลังคิดที่จะทยานขึ้นไปด้วยความช่วยเหลือจากตระกูลยอร์ก” ไทร์ ซัมเมอร์ขมวดคิ้ว วินนี่เฟรดแสดงออกถึงพฤติกรรมแปลก ๆ ไม่เหมือนวินนี่เฟรดคนเดิม เธอกลายเป็นคนไร้เหตุผล บางทีคอนนี่ ยอร์กอาจจะโดดเด่นเกินไป ด้วยหน้าตาที่ดูดีและภูมิหลังของตระกูลที่โดดเด่นของเธอ ที่ทำให้วินนี่เฟรดต้องเป็นกังวลอยู่ตลอดเวลา สิ่งนี้เกิดขึ้น เมื่อผู้หญิงคนหนึ่งห่วงใยผู้ชายของเธออย่างแท้จริง ซึ่งหมายความว่าไทร์ ซัมเมอร์ มีจุดที่ลบไม่ออกอยู่ในหัวใจของวินนี่เฟรด ซี “ฉันจะโกรธถ้าเธอยังเป็นแบบนี้ต่อไป วินนี่เฟรด” วินนี่เฟรดถอนหายใจและเปลี่ยนทัศนคติของเธอในทันใด เธอหัวเราะ "ฉันแค่ล้อเล่น! แต่ว่าแบลร์กับฉัน เราจะไม่ไปกับนาย คาร์สัน ยอร์ก อาจจะต้องการเชิญนายคนเดียวเท่านั้น” “เขาไม่ใช่คนแบบนั้น” ไทร์ตอบตามสัญชาตญาณ แต่แล้ว จู่ ๆ ความตระหนักก็แวบเข้ามาในใจของเขา เฉกเช่นแสงแวววาบจากสวรรค์ หรือเพื่อให้แม่นยำยิ่งขึ้น สัมผัสที่หก ที

  • ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ   บทที่ 234 คำเชิญของ คาร์สัน ยอร์ก

    เสียงฟ้าร้องดังก้องอยู่ข้างนอก ท่าทางของวินนี่เฟรดมืดมนลง ไทร์ถึงกับพูดไม่ออก เขายกมือขึ้นตามสัญชาตญาณด้วยเสียงฟ้าร้องฉับพลันและเขาก็เอามือลงหลังจากนั้น ในขณะนั้น เกรแฮม เดวิสโทรมา เพื่อแจ้งว่าลูกค้าจากเมืองไพร์มมาถึงแล้วและกำลังรออยู่ที่ชั้นล่าง วินนี่เฟรดจ้องเขม็งไปที่ไทร์ก่อนจะเดินออกจากออฟฟิศไป ไทร์นั่งลงบนเก้าอี้ของวินนี่เฟรด จากนั้นเขาหยิบโทรศัพท์มือถือของเขาออกมาและโทรไปหาฮวน เยตส์ ในอีกด้านหนึ่งของการโทรวิดีโอ ฮวนกำลังมีช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการผ่อนคลาย ในที่ดินของเขาที่แฟนทั้งสองคนมอบให้แก่เขา “ฮวน ภรรยาของฉันมีอาการหึงหวง ฉันควรจะทำยังไงดี?" ไทร์ถาม บนหน้าจอ ฮวนตกใจเล็กน้อย “นายท่าน ท่านลืมคำแนะนำของผมไปแล้วเหรอ?” “ไสหัวไปซะ” ถ้าหากพวกเขาอยู่ใกล้กัน ไทร์จะทำให้ฮวนต้องพ่ายแพ้อย่างที่เขาจะไม่มีวันลืม เมื่อเห็นท่าทางบูดบึ้งของไทร์ ฮวนรู้ดีว่าเขาควรจะเข้าข้างเจ้านายของเขาและหุบปาก “นายท่าน ถ้าเธอหึงหวง แสดงว่าเธอห่วงใย ยิ่งความหึงหวงมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งห่วงใยมากเท่านั้น! ท่านจะต้องพูดจาหวาน ๆ กับเธอ แล้วสาบานด้วยชีวิตของท่านว่าท่านไม่ได้ทำอะไรผิดต่อเธอ หลังจ

  • ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ   บทที่ 233 ฟ้าร้องในฤดูร้อน

    เชลดอน เฮย์ส และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งสองออกไปตามที่ได้รับคำสั่ง จากนั้น ความเงียบสงัดก็เกิดขึ้นภายในสำนักงาน ไม่เพียงแค่เชลดอนที่ประหลาดใจเท่านั้น แต่คอนนี่ ยอร์กซึ่งอยู่นอกสนามก็ตกใจกับสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นเช่นกัน จนถึงตอนนี้ เธอไม่เคยเห็นใครที่มีพลังมากพอที่จะส่งเจย์ เบลด บินออกไปได้ด้วยหมัดเพียงหมัดเดียว "คุณเป็นใคร?" เธอมองไทร์ ซัมเมอร์อย่างระมัดระวัง พูดตามตรง เธอสนใจไทร์ ที่หล่อเหลาได้ถึงเพียงนี้ "เธอเป็นใคร?" ไทร์ถามกลับ คอนนี่ตรงไปตรงมากับความตั้งใจของเธอ “ฉันคือ คอนนี ยอร์ก ลูกสาวของคาร์สัน ยอร์ก ธิดาของกษัตริย์แห่งเซาท์ริเวอร์ ฉันมาเพื่อตามหาไทร์ ซัมเมอร์ เพื่อแต่งงานกับเขา” อะไรนะ? ไทร์รู้สึกสับสนอย่างบอกไม่ถูก ลูกสาวของราชาแห่งเซาท์ริเวอร์ ต้องการแต่งงานกับเขา? นี่เป็นเรื่องตลกที่น่ารังเกียจแบบไหน? เดี๋ยวก่อน แล้วใครคือ ราชาแห่งเซาท์ริเวอร์ อีก? คาร์สัน ยอร์ค? ไทร์รับรู้ได้อย่างฉับพลัน เขาเป็นสามีของป้าเควลช์ไม่ใช่เหรอ? ผลงานชิ้นเอกของพระเจ้าคนนี้คือลูกสาวที่ไร้ค่าของเฮเธอร์ เควลซ์? "ออกไปเถอะ ฉันไม่เห็นด้วย” ไทร์ตอบอย่างตรงไปตรงมาหลังจา

  • ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ   บทที่ 232 ช่วยหย่ากับไทร์ ซัมเมอร์ด้วย

    อะไรนะ?” วินนี่เฟรดเกือบทำกาน้ำชาในมือของเธอหก เธอมองไปที่คอนนี่ ยอร์ก ด้วยความงุนงงและพยายามทำความเข้าใจกับคำที่เธอเพิ่งได้ยิน ผู้หญิงคนนี้กล้ามาก! เธอกล้าแสดงความรักในที่สาธารณชนกับชายที่แต่งงานแล้วต่อหน้าภรรยาของเขาได้ยังไง? ความไร้เดียงสาของคอนนี่มันไร้สาระเกินไป "มิสยอร์ก มันไม่ตลกนะคะ” ทัศนคติที่จริงใจของวินนี่เฟรดหายไปทันที ความประทับใจที่ดีของเธอที่มีต่อคอนนี่ลดลง ในทางกลับกัน คอนนี่พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “มิสวินนี่เฟรด ฉันมาที่นี่วันนี้ด้วยความตั้งใจจริง ฉันไม่ได้ล้อเล่นกับคุณ ฉันไม่มีวันเปลี่ยนใจที่จะแต่งงานกับไทร์ ซัมเมอร์ ช่วยหย่ากับเขาด้วย แน่นอน ฉันจะชดเชยความสูญเสียที่เกิดขึ้น หนึ่งร้อยล้านดอลลาร์เป็นยังไง? เพียงพอสำหรับคุณไหม?” วินนี่เฟรดกำลังต่อสู้เพื่อระงับความโกรธของเธอ แต่ข้อเสนอของคอนนี่ที่จะจ่ายให้เป็นฟางเส้นสุดท้าย เธอกำลังคิดอะไรอยู่? การจ่ายเงินให้เพื่อแลกกับสามี? “กรุณาเคารพการแต่งงานของเราด้วย มิสยอร์ก” น้ำเสียงของวินนี่เฟรดเย็นชา ถึงยังไงคอนนี่ก็ไม่ยอมเปลี่ยนแปลง "มิสวินนี่เฟรด เหตุผลที่คุณปล่อยไทร์ไปไม่ได้ เป็นเพราะลูกสาวของคุณใช่ไหม? ไม่เ

DMCA.com Protection Status