บทที่ 7-3
ตื๊ด ตื๊ด ตื๊ด ตื๊ด
หญิงสาวลูกครึ่งนิ่วหน้าเมื่อเสียงรอสายดังนานสักพักใหญ่ เธอกำลังคิดวางสายแต่เสียงทุ้มดังขึ้นเสียงก่อนคล้ายกำลังเดินไปด้วย
“ว่าไงครับ”
“ฉันอยู่ที่หาดใหญ่ ทีนี้คงสะดวกนัดฉันแล้วใช่ไหม”
“พูดชื่อสิ”
“เบย์จะขอนัดนายหัว สะดวกกี่โมงคะ”
เบอาพูดผ่านไรฟันพยายามทำเสียงให้ราบเรียบเข้าไว้ อย่างไรเธอควรทำให้เขาโกรธน้อยที่สุดเพื่อผลดีต่อตัวเธอเอง เบอาได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอ มือเรียวจึงกำโทรศัพท์แน่นเข้าอารมณ์หึงหวงยังคุกรุ่นในทรวงอก ในเมื่อยังอยู่กับผู้หญิงคนนั้นเธอก็จะนัดเขาวันนี้เลย!
“วันนี้ไม่ว่าง”
“ถ้างั้นแค่นี้นะคะเพราะฉันก็จะไม่ว่างแล้ว”
นาวินทร์มองโทรศัพท์ในมือเมื่อสาวน้อยที่เขาฝันถึงเรื่อยมาหลายปีวางหูใส่เขา รอยยิ้มกว้างแทนที่จะฉุนเฉียวผุดขึ้นบนใบหน้าแกร่ง กดเบอร์ต่อสายหาเธออีกครั้ง เขาพูดใส่โทรศัพท์ทันทีเมื่อเธอรับสาย
“อย่าฉุนเฉียวไปสิคนดี จะไปรับที่โรงแรมตอนห้าโมงเย็น”
เบอามองโทรศัพท์เมื่อเขาพูดจบก็วางหูไปโดยที่ไม่ถามว่าเธอพักอยู่ที่ไหน นี่เขามันเป็นพวกมาเฟียหรือไงถึงรู้ไปทุกเรื่องในจังหวัด
นาวินทร์เดินกลับมายังห้องทำงานอีกครั้งในโรงแรมหลังจากวางสาย รอยยิ้มยังเกลื่อนใบหน้าขณะที่นั่งลงหลังโต๊ะทำงาน
“อะไรนะทำให้นายหัวของแพรวยิ้มกว้างได้ขนาดนี้”
นาวินทร์เหลือบตามองหญิงสาวตรงหน้า สงสัยเขาคงทำให้เธอเข้าใจอะไรผิดไปถึงความสัมพันธ์ที่มีอยู่
“ผมว่าเราควรคุยเรื่องงานกันต่อเลยดีกว่าครับ แผนงานประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวที่แพรวทำมาใช้ได้ ไม่ทราบว่าสามารถเริ่มโปรโมทโปรโมชั่นนี้ได้เมื่อไรครับ”
น้ำเสียงเป็นงานเป็นการดับความหวังของแพรวนภา หญิงสาวหน้าคมเจื่อนลงเล็กน้อยเธอรับแฟ้มเอกสารกลับมาจากมือของนาวินทร์
“แล้วเย็นนี้งานสมาคมที่จัดเปิดงานมหกรรมอาหารวันแรก”
“วันนี้ผมไม่ว่างแล้ว แต่เดี๋ยวผมจะให้เลขาเป็นคนแจ้งสมาคมเอง อีกอย่างต่อไปเราคงไม่สะดวกไปไหนมาไหนด้วยกัน ถ้ามีอะไรผมจะไปหาที่บ้านเอง”
แพรวนภาพยักหน้าเบา ๆ หน้าหวานสลดลงอย่างเห็นได้ชัดก่อนจะลุกขึ้นขอตัวออกจากห้องทำงานนายหัว
เธอปิดประตูห้องทำงานด้วยแรงอ่อนล้า นัยน์ตาคมรื้นน้ำตาเล็กน้อย ก่อนจะกลั้นมันไว้เดินเชิดหน้าไปยังเลขาหน้าห้องและยื่นเอกสารให้
“เย็นนี้งานมหกรรมอาหาร คุณแพรวไปกับนายหัวหรือเปล่าคะ”
เสียงเลขาสาวหน้าห้องเอ่ยคำถามบาดใจแพรวนภา แม้ภายในยังกรีดร้องแต่เธอพยายามยิ้มหวานแบบฝืดเฝือน
“นายหัวไม่ว่างค่ะ แพรวคงไปคนเดียว”
“อ้าวเหรอคะ”
“ขอตัวนะคะ”
แพรวนภาผละออกมาจากโต๊ะของเลขาส่วนตัวนายหัวนาวินทร์ คนในจังหวัดต่างรับรู้ว่าเธอและนายหัวมีสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน และพากันเข้าใจผิดไปว่าเธออาจได้เป็นนายหญิงของผาสุกแลนด์อินดัสทรี
ร่างอวบอิ่มเดินลงชั้นล่างของโรงแรมผ่านโถงต้อนรับ เธอรีบสาวเท้าไปยังรถที่จอดอยู่ลาน ใจของเธอกำลังเจ็บปวดเกินทน
ปัง!!
ทันทีที่แพรวนภาเข้ามานั่งในรถจึงได้ปล่อยน้ำตาให้รินไหล ทั้งหมดที่ผ่านมาคงเป็นเธอคิดไปเองคนเดียว เธอรู้ว่าเขาไม่ได้มีแค่เธอ คนทั้งจังหวัดก็รู้เช่นกัน เพียงแต่เธอยังคงอยู่ได้นานกว่าคนอื่นและนายหัวนาวินทร์ซื้อบ้านและรถให้เธอ
ความรู้สึกของคืนก่อนที่เขามอบให้ทั้งรุนแรงและหนักหน่วงจนเธอคิดว่ามันใช่ เขาอาจจะรู้สึกต่อเธอบ้าง
แต่เปล่าเลย นายหัวนาวินทร์ยังคงเป็นดั่งเดิม แข็งกร้าวและเย็นชา ฉะนั้นทุกอย่างขึ้นอยู่กับเธอแล้วว่าจะยังเดินหน้าต่อหรือจะพอแค่นี้
แพรวนภาเงยหน้าขึ้นหลังจากก้มลงปล่อยให้น้ำตาหยดลงบนตักมาสักพัก สูดหายใจหยิบกระดาษขึ้นมาเช็ดคราบบนใบหน้า
ตอนเรียนเธอนั่นยังสาวและคิดว่าเขาคงติดใจเธอไม่น้อย แต่พอเลิกกันไปเป็นเธอเองที่ติดใจในรสสวาทของเขา ไม่ว่าผู้ชายกี่คนที่เข้ามาไม่เคยมีคนทำให้เธอพอใจและสุขสมได้เช่นนายหัว
เมื่อกลับมาเจอกันอีกครั้งเธอจึงทำทุกอย่างให้เขาพึงพอใจ งัดกลเม็ดเด็ดพรายที่ทำให้เขาเร่าร้อนจนถึงขีดสุด
เธอเสียเวลาเปล่ามาเกือบสองปี ฉะนั้นไม่มีทางที่เธอจะหันหลังกลับ ไม่ได้เป็นนายหญิงของสวนผาสุกก็ขอเป็นเมียเก็บแบบนี้ตลอดไปเธอก็ยอมทน
บทที่ 8-1เบอายืนรออยู่ตรงโถงหน้าของโรงแรมระดับรองจากโรงแรมของนายหัวนาวินทร์ แต่ก็ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันหญิงสาวรูปร่างสูงโปร่งสวมเดรสเนื้อผ้าซีฟองสีน้ำตาลอ่อนยาวแค่เลยเข่าบานออกเล็กน้อย เสื้อสายเดี่ยวกันโป๊ด้วยเสื้อคลุมตัวสั้นเอวลอยสีน้ำตาลเข้ม สวมรองเท้าสานสูงหนึ่งนิ้วครึ่ง ในมือถือกระเป๋าสะพายไหล่แบบหนังสีดำราคาไม่แพงเธอบรรจงแต่งตัวให้ดูน่าทะนุถนอมผิดไปจากทุกวันที่สวมเพียงกางเกงยีนส์ ซึ่งเบอาจงใจที่ทำแบบนี้เพราะต้องการให้นายหัวมีท่าทีอ่อนลงบ้างเลือกแต่งหน้าบางเบาดูธรรมชาติเพราะโครงสร้างของเธอคมชัดมากพออยู่แล้ว เน้นเพียงลิปสติกริมฝีปากสีชมพูนู้ดนิ้วเรียวยาวปราศจากเครื่องประดับยกมือแตะต่างหูทรงห้อยที่ทำให้เน้นใบหน้าเรียวยาวรูปไข่ ก่อนจะปัดผมสีน้ำตาลอ่อนที่ยาวสยายถึงกลางหลังดัดลอนอ่อน ลูบสร้อยเพรชปลอมแต่ดีไซน์เก๋ด้วยความประหม่าคนผ่านไปผ่านมาในโรงแรมมองภายนอกเห็นเพียงหญิงสาวท่าทางมั่นใจหน้าตาลูกครึ่งสวยจัดคนหนึ่ง แต่ใครจะรู้ว่าภายในของเบอานั้นเต็มไปด้วยอาการประหม่าตื่นเต้น ครั้งนี้จะเป็นครั้งที่สองที่เธอจะได้เจอเขาหลังจากผ่านมาห้าปีเธอยืนรอเพียงสักครู่รถหรูสีดำทรงเฉี่ยวจึง
บทที่ 8-2เธอปล่อยให้ความเงียบดำเนินไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งได้กลิ่นอาหารจึงหันกลับมาเบอามองปลาทะเลทอดน้ำปลา และปลาหมึกผัดน้ำพริกเผาอย่างที่เธอชอบ“พี่จำได้ว่าเวลาเบย์ไปบ้านแม่ชอบทำกับข้าวพวกนี้บ่อย ๆ ทานเถอะ”เป็นอย่างที่นายหัวนาวินทร์บอกจริง ๆ ร้านอาหารร้านนี้ของสดมากและรสชาติจัดจ้านสมกับเป็นคนใต้ เธอเผ็ดจนสูดปากเอื้อมมือหยิบน้ำขึ้นทานทีเดียวจนหมด เห็นนายหัวกวักมือเรียกพนักงานขอน้ำอุ่นมาหนึ่งแก้วจึงขมวดคิ้วด้วยความสงสัย“ดื่มน้ำอุ่น ๆ จะได้หายเผ็ด”นาวินทร์ยิ้มมุมปากเล็กน้อยเมื่อเบอายกมือขึ้นพัดปาก เขาลืมไปเลยว่าหญิงสาวตรงหน้าไม่ทานเผ็ดจึงไม่ได้สั่งกำชับไปพนักงานวางน้ำอุ่นลงตรงหน้าเบอารีบจัดการยกดื่มพลันสะดุ้งเพราะเมื่อน้ำอุ่นเจอกับของเผ็ดยิ่งดูเหมือนปากจะกลายเป็นนรก“คุณหลอกฉัน!”นาวินทร์กลั้นหัวเราะต่อไปไม่ไหว เขายิ้มกว้างหยิบกระดาษเช็ดปากยื่นไปฝั่งตรงข้ามเช็ดปากเธอที่เลอะเทอะไปด้วยน้ำ“ฉันเช็ดเองค่ะ!”เบอารีบคว้ากระดาษไว้เหลือบตามองโดยรอบ สังเกตว่าคนในร้านต่างมองมาทางเธอเป็นระยะ ๆ“พี่ไม่ได้หลอกนะ รออีกเดี๋ยวก็หายเผ็ด”เธอยกน้ำอุ่นขึ้นดื่มอีกครั้งและพบว่ามันค่อย ๆ หายเผ็ดอย่างที่เข
บทที่ 8-3เธอมองทางเลียบทะเลที่เป็นทางลาดยาง นาวินทร์มาทางลัดจนโผล่ถนนอีกเส้นหนึ่งตรงไปยังบ้านหลังขนาดไม่ใหญ่มากข้างหน้า เธอนึกไปถึงเสียงทะเลที่แทรกเข้ามาในโทรศัพท์และเสียงผู้หญิง“บ้านใครน่ะ! พี่พาเบย์มาที่นี่ทำไม!”นาวินทร์ตวัดรถเข้าจอดติดกับตัวบ้านที่ไม่มีรั้ว หันมองเบอาเต็มตัวก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้าง“บ้านของพี่เอง ลงไปสิ อยากจะจ่ายดอกเบี้ยไม่ใช่เหรอ”เบอาสะอึก มือเรียวเอี้ยวไปด้านข้างเพื่อเปิดประตูรถแต่นาวินทร์กดล็อคอัตโนมัติไว้ที่ฝั่งคนขับทำให้เธอเปิดไม่ได้ สีหน้าตื่นตระหนกเอี้ยวร่างกลับไปทั้งตัวเพื่อจับที่เปิดประตูทั้งสองมือเขย่าอย่างแรง“ไม่นะ เปิดประตูนายหัว!!”เขาโน้มชะโงกลงทาบมือร้อนลงบนมือเรียวบางอย่างใจเย็น แขนอีกข้างเท้าข้อศอกบนพนักพิงเบาะรถจนกลายเป็นขังเธอไว้กลาย ๆ“จำไม่ได้เหรอว่าพี่บอกว่ายังไงเมื่อคราวที่เจอกันครั้งก่อน ถ้าขืนเบย์ยังอยู่ที่นี่พี่จะถือว่าเบย์เต็มใจที่จะแบให้พี่ ใช่ไหม?”เบอาตวัดหน้ากลับมองเขาเต็มตา นัยน์ตาสีทองเจิดจ้าจนนาวินทร์ตาพร่า เขาหลุบตามองริมฝีปากที่ลิปสติกเลอะออกจนหมดแล้วตั้งแต่อยู่ในร้านเพราะเบอาเช็ดออกอย่างแรง เผยให้เห็นสีธรรมชาติชมพู
บทที่ 9-1***เบอาไม่อาจละสายตาออกจากเขาได้ดั่งมนต์สะกด เสียงฝีเท้าเดินขึ้นบันไดไม้แบบยกพื้นขึ้นมาไม่กี่ขั้น เสียงเขาเปิดประตูบ้านโดยไม่แวะถอดรองเท้า ลำแสงยามเย็นที่ทอดยาวผ่านชายคาตกกระทบพื้นระเบียงไม้สีทองบ้านชั้นเดียวแบบบ้านพักผ่อนชายทะเลที่มีให้เห็นเกลื่อนทั่วไป ทำจากไม้ทั้งหลัง เสียงฝีเท้าหนักแน่นหากแต่มั่นคงย่ำลงกระทั่งถึงห้องนอนนาวินทร์วางเบอาให้นั่งลงบนเตียงก่อนจะคุกเข่าลงกลับพื้นเพื่อถอดรองเท้าสาน“ม่ะ ไม่เบย์ถอดเองได้ค่ะ”“ไม่เป็นไร พี่มีเวลาถอดให้เบย์แค่ปีเดียว ให้พี่ทำเถอะ”ร่างบางสะท้านจากคำพูดทุ้มต่ำ เธอก้มลงมองชายหนุ่มนายหัวของทุกคนในจังหวัดกำลังถอดรองเท้าของเธออย่างช้า ๆ ด้วยความอ่อนโยนทั้งสองข้าง เธอมองศีรษะผมหยักศกดกหนาก้มลงจูบเธอที่หลังเท้า“พี่วินทร์!!”มือเขายื้อข้อเท้าเธอไว้เมื่อเบอาพยายามกระชากกลับ เขายังพรมจูบขึ้นไปยังข้อเท้าเรื่อยขึ้นถึงปลีน่อง วนไออุ่นร้อนตรงข้อพับด้านในสาวน้อยปลายเท้าสั่นเทายามเขาพรมจูบขึ้นมาเหนือหัวเข่า มือร้อนค่อยเลื่อนชุดเดรสขึ้นทีละนิดก่อนจะผละออกโน้มใบหน้าหวานละมุนลงมาจุมพิตหนักหน่วงในอกนาวินทร์แน่นด้วยไฟรักท่วมท้น ชีพจรเต้นรัวจนแทบระ
บทที่ 9-2“อาบน้ำก่อนนะคนดี เดี๋ยวจะหลับ”“อื้อ เบย์ง่วงจัง”อกแกร่งด้านล่างกระเพื่อมเบา ๆ เขาขยับตัวลงจากเตียงแล้วค่อยอุ้มสาวน้อยขึ้นมาพาเดินไปยังห้องน้ำแขนเรียวขาวนวลโอบรอบท้ายทอยเขาไว้ซบหน้าลงบ่าแกร่ง ร่างกายอ่อนเพลียจากบทรักหนักหน่วง ตัวเอนเล็กน้อยเมื่อเขาวางเธอลงตรงใต้ฝักบัว“อาบก่อนอย่าเพิ่งหลับ”นาวินทร์จับร่างของเบอาให้ตั้งตรงเพราะเธอเอาแต่เอนซบบ่าเขาไว้ มือที่เกาะเกี่ยวเขาไว้ดูไร้เรี่ยวแรง“นอนก่อนก็ได้นะคะ อันที่จริงเบย์ก็สะอาดอยู่แล้ว”นาวินทร์หัวเราะออกมาแล้วจริง ๆ เมื่อได้ยินสาวน้อยบ่ายเบี่ยง เขาไม่เคยเห็นมุมน่ารักของเบอาแบบนี้มาก่อน เสียงหวานออดอ้อนเพื่อให้ได้ดั่งใจตัวเองเขาปล่อยให้เธอเอนซบแบบนั้นแล้วพาอาบทีเดียวสองคน ใช้สบู่ชำระคราบเปื้อนไปทั่วร่างกาย“อืม เบา ๆ สิคะ”“เจ็บเหรอ โทษทีมือพี่สากไปหน่อย”“ฮึ ทำเป็นขอโทษ”นาวินทร์ปิดน้ำหยิบผ้าเช็ดตัวที่พาดอยู่บนราวห่อรางของเบอาไว้แล้วอุ้มออกมาโดยที่เขาเดินตัวเปลือยเปล่า วางเธอลงหน้าตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่“เช็ดตัวก่อนเดี๋ยวจะเป็นหวัด”เบอายืนนิ่งหลับตายอมให้นาวินทร์เช็ดแต่โดยดี“ทำไมมือเบย์ถึงเป็นแบบนี้ หื้อ”เบอาชักมือกลับทัน
บทที่ 9-3 18+“เบย์จะกลับบ้าน ถอยไป!”“ไปตอนนี้ไม่ได้ พรุ่งนี้พี่จะไปส่ง”“พี่ไม่ต้องไปส่งก็ได้ เบย์จะเดินไปเอง แล้วถ้าเจอใครก็ขอโบกรถเข้าอำเภอ”เขาคว้าต้นแขนของเบอาไว้กระชากกลับ อกแน่นด้วยอารมณ์บางอย่างที่อธิบายไม่ถูก ทั้งรู้สึกผิด ทั้งเจ็บปวด ทั้งกลัวว่าเธอจะไม่กลับมาอีกเหมือนเมื่อห้าปีก่อน“ไม่! พี่ไม่ให้ไป”เบอาฉุนขาด เธอหันหน้ากลับมาจ้องเขาเต็มตา ความรู้สึกอัดแน่นท่วมท้นอยู่ข้างในและร้องไห้ไปแล้ว แต่เธอจะไม่ปล่อยให้เขาได้เห็นน้ำตาของเธอเด็ดขาด“นายหัวมีสิทธิ์อะไรในตัวฉัน”“สิทธิ์!!”เขากระชากเธอเข้ามาแนบกายแน่นขึ้น ชะโงกหน้าลงมองสาวน้อยที่สู้ตาไม่ถอย เธอโกรธจัดและเขาก็เช่นกัน เขากำลังจะถูกทิ้งอีกครั้ง“บอกให้ว่าสิทธิ์อะไร สิทธิ์ของการเป็นผัวยังไงล่ะ”“ฮึ ผัว ผัวงั้นเหรอ! งั้นเบย์คงมีผัวร่วมกับคนอื่นเยอะเกินไปนายหัวว่ายังงั้นไหม ปล่อย!!”“ให้ตายสิเบย์ ฟังพี่ก่อน เบย์จะให้พี่ทำยังไงก็พูดมาสิ อย่าทำแบบนี้ อย่าเดินจากไปอีก”“ทำยังไง? ทำไมนายหัวจะต้องทำด้วยคะ เบย์เป็นเพียงลูกหนี้เท่านั้น นายหัวไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ กลับไปเราจะเขียนสัญญาให้ละเอียด ต่อไปก็นัดกันที่โรงแรมแล้วกันค่ะ เบย์จะได
บทที่ 10-1“พี่วินทร์แวะร้านขายยาให้เบย์ด้วยนะคะก่อนจะถึงโรงแรม”นาวินทร์เอี้ยวหน้ามองอย่างแปลกใจแต่ไม่ถามอะไรเมื่อเห็นร้านขายยาตรงข้างหน้าพอดีจึงจอดรถเทียบทางเท้า มองตามร่างบางที่เข้าร้านขายยาไปสักพักใหญ่จึงเห็นเธอเดินออกมาจากร้านพร้อมถุงในมือ ดูแล้วไม่ใช่ยาจำนวนมากปัง!“ไปกันเถอะค่ะ”นาวินทร์เคลื่อนล้อรถออกจากริมทาง เหลือบตามองมือของเบอาที่เอายาใส่กระเป๋าสะพายไปอย่างรวดเร็ว“ซื้อยาอะไรมาน่ะ”“ก็ยาของผู้หญิงค่ะ ไม่มีอะไร เออ วันนี้เบย์จะกลับไปบ้านเลยนะคะ แล้วพี่วินทร์ก็นัดเบย์มาแล้วกันว่าจะทำสัญญาวันไหน”“สัญญา?”“อ้าว ก็สัญญาเงินกู้ฉบับใหม่ไงคะ”เอี๊ยดดด!!เบอาใช้มือบางยันร่างของตัวเองที่คอนโซลรถเมื่อจู่ ๆ นาวินทร์หักรถเข้าทาง เธอเอี้ยวหน้ามองด้วยความสงสัย“พี่วินทร์จอดทำไมคะ”“ยังจะถามอีก แล้วห่วงอะไรกับสัญญาเงินกู้”“อ้าว ก็มันมีการเปลี่ยนแปลงนี่คะ ต้องยึดเวลาไปอีกสองปี”“ฮึ ที่แท้ก็ถวายตัวให้พี่เพราะสัญญานี่เองใช่ไหม ต้องลงรายละเอียดด้วยไหมว่าต้องเอากันกี่ครั้งต่อวันในสัญญา”“พี่วินทร์!!”หน้าหวานคมแดงซ่านเป็นลูกตำลึง ยกมือขึ้นทุบบ่านาวินทร์สองครั้ง“พี่วินทร์จะเอายังไง! ไม่ทำก
บทที่ 10-2เธอสังเกตว่าเขาไม่ยกแก้วเบียร์ขึ้นดื่ม นั่งใช้ข้อศอกเท้าบนหัวเข่าใบหน้าครุ่นคิดแล้วจึงยืดร่างขึ้นนั่งตรงเอี้ยวใบหน้ามองเธอตรง ๆ“แพรวเอาของใช้ส่วนตัววางไว้ในบ้านริมทะเล ในตู้เสื้อผ้า”แพรวนภาหน้าแดงซ่านจากพวงแก้มลงสู่ลำคอ อับอายจากคำพูดเชิงตำหนิ สาวร่างอวบกำลังคิดหาคำพูดแก้ตัว เธอยื่นมือออกไปจับต้นขาอุ่นร้อนบีบเบา ๆ“แพรวขอโทษค่ะ แพรวคิดสั้นไปหน่อย คิดแค่ว่าวันหลังไปอีกจะได้ไม่ต้องเตรียมของไปเยอะ”สายตาคมกล้าหลุบตาลงมองมือนุ่มนิ่มเล็บตกแต่งทันสมัยจากการทำสีผิดไปจากสาวน้อยอีกคน เขาขยับตัวให้มือของแพรวเลื่อนลงจากตัก“ฉันทิ้งมันไปแล้ว เพราะมันก็ไม่กี่ชิ้น แล้วจะจ่ายเงินชดใช้ให้”เธอกลืนน้ำลายลงคอ ดวงตาเรียวคมเฉียงขึ้นมีน้ำรื้นขึ้น ชักมือกลับมาวางไว้บนตัก“ค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ นายหัวไม่ต้องให้แพรว แพรวได้เงินจากนายหัวมาเยอะแล้วค่ะ”นาวินทร์เอี้ยวหน้ามองเธออีกครั้ง จ้องสบตาเธอให้แพรวนภาเข้าใจไม่ผิดในสิ่งที่เขาจะพูดต่อจากนี้“ฉันจะให้เงินเธอก้อนหนึ่งสำหรับการตั้งต้นชีวิตใหม่ หลังจากนี้ฉันคงไม่ได้มาหาเธออีก ส่วนงานที่โรงแรมฉันไม่ขัดข้องที่เธอจะทำต่อไปเพราะเธอทำมันได้ดี”แพรวนภาสะอึก ท
บทที่ 12-1** nc จบบริบูรณ์สาวน้อยหน้าหวานลูกครึ่งโปรตุเกสนอนหลับสนิทคว่ำหน้าบนหมอนใบนุ่มจนไม่รู้เลยว่ายังมีชายหนุ่มอีกคนนอนกระสับกระส่ายอยู่ข้าง ๆนาวินทร์เพียรพยายามทั้งลูบตัว ทั้งกระซิบและพลิกร่าง แต่สาวสวยยังนอนพลิกร่างกลับไปคว่ำตามเดิม ลูบผ่านต้นแขนจนถึงข้อมือบางกระทั่งถึงแหวนหมั้นเพชรเม็ดเล็กพอเหมาะอย่างที่เธอชอบเขาหงายตัวลงใช้มือก่ายหน้าผากสะกดกลั้นความต้องการยามเช้าที่พุ่งทะยานแม้ว่ายามค่ำคืนจะสุขสมไปแล้วเปลือกตาของเบอายังหลับพริ้มไม่รับรู้สิ่งรอบข้างจากความเหนื่อยอ่อนจนเขาต้องลุกขึ้นจากเตียงหยิบบุหรี่ออกไปสูบมือควานหาไฟแช็กในลิ้นชักโต๊ะแต่ไม่เจอ พลันนึกขึ้นได้ว่าเมื่อคืนตอนพาเบอาไปทานข้าวเขาได้ฝากไว้ที่เธอ จึงเดินกลับไปยังหน้ากระจกหยิบกระเป๋าสะพายสีดำใบเดิมที่เธอชอบใช้ขึ้นมาเขาล้วงมือควานหาและพบว่ามันอยู่ที่ก้นกระเป๋าเพราะน้ำหนักของไฟแช็กแบบซิปโป ขณะที่กำลังหยิบพลันนิ้วไปโดนแผงยาบางอย่าง ด้วยความสงสัยจึงหยิบมันออกมานาวินทร์หรี่ดวงตาคมกริบลงเมื่อเห็นแผงยาชัด ๆ ท่ามกลางแสงยามเช้าที่เริ่มสาดเข้ามาในห้อง เม็ดสีชมพูสวยบนแผงมีลูกศรชี้ว่าควรเริ่มทานจากเม็ดไหนไปถึงเม็ดไหนยาคุม!
บทที่ 11-3เขาหันกลับไปมองเห็นสาวน้อยออกมายืนอยู่ด้านข้างตัวรถห่มด้วยผ้าห่มผืนใหญ่สีขาวเหมือนเดิม สีของผ้าห่มขาวโพลนตัดกับสีของผืนป่ายามโพล้เพล้นายหัวนาวินทร์ยังเดินขึ้นบันไดบ้านต่อจนถึงร่างของไอ้สิงห์ จากนั้นเดินเลยไปยังครัวที่ทำใหม่ปลดถังแก๊สออกมาลากจนถึงกลางบ้านเทน้ำมันเบนซินโดยรอบตัวและเทเป็นทางจนเกือบถึงประตูบ้านก็หมดเสียก่อน ยืนมองร่างที่เริ่มเย็นชืดของไอ้สารเลวอีกครั้ง“ไม่ต้องกังวลไอ้สิงห์ เดี๋ยวตัวมึงก็ร้อนแล้ว”เขาหยิบซิบโปออกมาจากกระเป๋ากางเกงจุดใส่เศษกระดาษนิตยสารที่หยิบมาจากในบ้านแล้ววางให้ตรงกับคราบน้ำมันเบนซินที่เริ่มระเหยจากนั้นจึงปิดประตูบ้านแล้วลงมาจากตัวบ้านให้เร็วที่สุดวิ่งกลับไปที่รถบรึ้ม!!นาวินทร์สะดุ้งเมื่อเสียงระเบิดจากถังแก๊สดังขึ้นพร้อมกับเสียงไม้บ้านแตกลั่นเขาหันไปมองบ้านหลังเล็กที่เขาสร้างขึ้นมาเพื่อไว้พักผ่อนกับสาวๆ แต่บ้านหลังนี้กลับกลายเป็นสถานที่ที่เกือบจะทำให้เขาเสียเบอาไป“พี่วินทร์”นาวินทร์เดินกลับมาที่รถสวมกอดเบอาไว้แน่น โน้มใบหน้าลงหอมศีรษะ“ขึ้นรถเถอะ พี่จะพาไปบ้านพี่”“แต่ว่า..”“อย่าเพิ่งดื้อนะคนดี ใจพี่จะไม่ไหวแล้ว”เบอาเงยหน้ามองชายร่า
บทที่ 11-2เอี๊ยดดดด!!นาวินทร์หักหลบรถกระบะเก่าที่สวนกับเขากลางทางขณะที่กำลังออกจากถนนเข้าท้ายสวนเห็นลาง ๆ เป็นผู้ชายสองคนมีหญิงสาวอยู่ในอ้อมแขนของคนนั่งฝั่งข้างคนขับอีกหนึ่งคนเขาขับรถต่อไปอีกสักพักจึงนึกขึ้นได้ว่าถนนสายนี้เป็นทางส่วนบุคคลเข้าท้ายสวนของเขาโดยเฉพาะ และมีไม่กี่คนที่รู้ทางนี้เอี๊ยด!!นาวินทร์เหยียบเบรกกะทันหันเมื่อนึกถึงผู้หญิงที่ถูกขนาบข้าง หล่อนดูเหมือนจะนอนนิ่งไม่ไหวติง ผมสีน้ำตาลอ่อนพระเจ้า!! ระยำ ไอ้ห่าเอ้ย!!เขาหักรถเลี้ยวกลับทันที ระยะทางที่เขาขับสวนกับรถคันนั้นเพิ่งผ่านไปไม่นานแต่ใจเขากลัวเหลือเกินว่าจะไปไม่ทันนาวินทร์เหลือบตามองผู้ชายร่างสูงผอมเกร็งผิวคล้ำที่เดินสวนออกมาบนไหล่ทางเล็ก มันเดินออกมาจากบ้านท้ายสวน สบตาตื่นตระหนกของไอ้หมอนั่นด้วยตาแข็งกร้าว แต่เขาไม่หยุดรถเวลามันกระชั้นชิดเกินไป ถ้าเขาหยุดรถถามมันตอนนี้ เบอาอาจถูกทำร้ายถึงขั้นเสียชีวิตเขาจอดรถดับเครื่องก่อนที่จะถึงทางเข้าบ้าน ตั้งใจไม่ให้คนร้ายอีกคนรู้ตัว เปิดลิ้นชักรถแล้วหยิบปืนสั้นออกมา เปิดดูกระสุนในรังปืนแล้วหมุนปิดขึ้นไกนกค้างไว้นาวินทร์ลงจากรถกระบะคันเก่าสีดำ เดินอาดไม่กลัวเกรงสิ่งใดตั
บทที่ 11-1บ้านหลังเล็กหรือกระท่อมที่นาวินทร์มักเรียกดูเรียบร้อยดี กลิ่นสีทาไม้เปลี่ยนจากสีไม้แดงเป็นสีไม้โอ๊ก เตียงใหญ่เขาสั่งให้เปลี่ยนใหม่เช่นกันพร้อมกับฟูกที่นอนเขาเดินออกไปดูในห้องน้ำ ช่างขาประจำทำงานดีเหมือนเคย อ่างอาบน้ำสุดหรูติดตั้งถูกต้องและงานเนี้ยบจากนั้นจึงเดินออกมาทางห้องครัวที่ทำเพิ่ม ใจคิดไปว่าบางวันอาจชวนสาวน้อยทำบาร์บีคิวนั่งเล่นนอกบ้านบ้างรอยยิ้มมุมปากผุดขึ้นบนใบหน้าคมเข้มยามนึกไปถึงดวงหน้างามของเบอา เธอคงบ่นบ้างเวลาให้ทำกับข้าวเพราะเป็นงานที่เธอไม่ถนัด แต่เขาจะคอยช่วยเป็นลูกมืออยู่ไม่ห่าง ยิ่งถ้าให้สาวน้อยลองนั่งบนเคาน์เตอร์ครัวหลังใหม่ขนาดความสูงกำลังพอดีแล้วมีเขาที่อยู่ตรงกลางมั่นโยกคลึงบ่อย ๆ เบอาคงจะชอบงานครัวมากขึ้นนาวินทร์ปิดประตูบ้านใส่กุญแจแล้วเดินลงบันได เวลาเย็นของป่าสวนยางมืดเร็วขนาดยังไม่ทันห้าโมงครึ่งก็เกิดเงาแสงสีอ่อนทอดยาวผ่านใบไม้ของต้นยางมายังลานจอดรถบรื้น!ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ขับรถออกจากลานจอดของบ้านหลังเล็กกลางป่าท้ายสวน กลับรถวนจนล้อสะบัดเข้าสู่เลนถนนลูกรังสีแดงฝ่าสวนยางออกไปยังถนนใหญ่เพื่อไปยังสวนข้างเคียง ไปหาสาวน้อยของเขา“ไอ้ห่า ไหนว่ะ”“
บทที่ 10-4ยามเย็นของอำเภอเล็ก ๆ ขอบชายแดนสุดของภาคใต้ เบอาขับรถกลับจากอำเภอไปยังทางที่คุ้นเคยโดยไม่คิดเอะใจอารมณ์ยังขุ่นมัวจากเรื่องเมื่อบ่ายจนไม่ต้องการเห็นหน้านายหัวตัวต้นเรื่อง เสียงเอะอะโวยวายเมื่อเธอโทรศัพท์ไปบอก นึกภาพใบหน้าคมเข้มของนายหัวอารมณ์ฉุนเฉียวให้ยิ้มกริ่มในหน้าอารมณ์ดีขึ้นมาหน่อย มองไปยังเบาะด้านข้าง นอกจากเสียตัวเป็นดอกเบี้ย เธอยังต้องเอาใจซื้อของขวัญวันเกิดให้เขาอีกยายเบย์ เธอนี่มันใจง่ายจริง ๆจากวันนั้นในบ้านริมทะเลเธอเริ่มรู้สึกแล้วว่านายหัวนาวินทร์มีใจให้เธอ เขาให้คำมั่นว่าจะไม่มีใครอีกตลอดระยะสัญญาสัญญาที่ทำกันไว้หนึ่งปีแม้ดูเหมือนว่าจะนานเกินพอแต่เบอากลับไม่คิดเช่นนั้น หนึ่งปีมันช่างสั้นเหลือเกินและเธอเก็บเกี่ยวช่วงเวลานี้ให้ดีที่สุดเป็นความทรงจำไว้ในยามที่ต้องจากกันหน้าหวานคมลูกครึ่งอมยิ้ม เมื่อวันก่อนพาเธอไปทานข้าวร้านเดิมมาอีกครั้งทั้ง ๆ ที่ก็รู้ว่าเจ๊ศศิคงจะเที่ยวเอาไปเป่าประกาศ และในที่สุดเธอก็ได้ทานอาหารรสจืดสมใจแต่นายหัวกลับทำหน้าปุเลี่ยนเพราะรสชาติชืดเกินไปเธอมองไปยังข้างทางที่มีแต่ป่าสวนยางสุดลูกหูลูกตาในแถบนี้ล้วนส่วนใหญ่เป็นของนายหัวที่แบ่งให้ค
บทที่ 10-3แพรวนภากำเช็คในมือแน่น จำนวนเงินสองล้านมากโขสำหรับการตั้งต้นชีวิตใหม่ เธอลงทุนกับนายหัวไว้มากเกินกว่าจำนวนที่นายหัวเซ็นเช็คมาให้ ทั้งแรงกายแรงใจ ร่างกายของเธอพร้อมสำหรับนายหัวคนเดียวสาวร่างอวบหยิบเช็คใส่กระเป๋าสะพาย หลังจากลุกขึ้นจากโต๊ะแผนกบัญชีของโรงแรมชื่อดัง แพรวนภาไม่แน่ใจว่าคนในแผนกนี้จะสงสัยที่มาของเช็คใบนี้หรือไม่ว่าเพราะเหตุใดนายหัวถึงสั่งจ่ายเงินเป็นจำนวนมากผ่านมาแล้วเกือบอาทิตย์ที่เธอไม่พบกับนายหัวอีกเลย เขาเหมือนหายไปจากตัวเมืองหาดใหญ่จนน่าแปลกใจ เธอพาร่างเดินผ่านโถงทางเข้ากระทั่งพบกับคนรู้จักคุ้นเคย“อ้าว แพรว ไม่เจอกันนาน”ใบหน้าอย่างคนใต้ของแพรวนภาค่อนข้างตกใจเมื่อเจอกับแฟนเก่าสมัยช่วงที่เธอเลิกลากับนายหัว ผู้ชายเลวที่ตบตีเธอสารพัดและยังปอกลอกเงินที่นายหัวให้มาจนเกลี้ยงเธอจึงพยายามเดินเลี่ยงแต่มือแข็งสีเข้มดึงไว้ ใบหน้าหล่อแต่เหี้ยมโหดยิ้มกริ่ม“จะรีบไปไหน ทำเป็นคนไม่รู้จักกันไปได้”แพรวนภารู้สึกขยะแขยงเต็มทน เธอสลัดแขนจนหลุดจากการเกาะกุม มองหน้าเหี้ยมที่แฝงความหื่นกาม“ต้องการอะไร!”“ไม่เห็นยาก ดูก็รู้ว่าต้องการอะไร”“ฉันไม่มีเงินให้แกหรอกไอ้สิงห์”“โอ๊ะโ
บทที่ 10-2เธอสังเกตว่าเขาไม่ยกแก้วเบียร์ขึ้นดื่ม นั่งใช้ข้อศอกเท้าบนหัวเข่าใบหน้าครุ่นคิดแล้วจึงยืดร่างขึ้นนั่งตรงเอี้ยวใบหน้ามองเธอตรง ๆ“แพรวเอาของใช้ส่วนตัววางไว้ในบ้านริมทะเล ในตู้เสื้อผ้า”แพรวนภาหน้าแดงซ่านจากพวงแก้มลงสู่ลำคอ อับอายจากคำพูดเชิงตำหนิ สาวร่างอวบกำลังคิดหาคำพูดแก้ตัว เธอยื่นมือออกไปจับต้นขาอุ่นร้อนบีบเบา ๆ“แพรวขอโทษค่ะ แพรวคิดสั้นไปหน่อย คิดแค่ว่าวันหลังไปอีกจะได้ไม่ต้องเตรียมของไปเยอะ”สายตาคมกล้าหลุบตาลงมองมือนุ่มนิ่มเล็บตกแต่งทันสมัยจากการทำสีผิดไปจากสาวน้อยอีกคน เขาขยับตัวให้มือของแพรวเลื่อนลงจากตัก“ฉันทิ้งมันไปแล้ว เพราะมันก็ไม่กี่ชิ้น แล้วจะจ่ายเงินชดใช้ให้”เธอกลืนน้ำลายลงคอ ดวงตาเรียวคมเฉียงขึ้นมีน้ำรื้นขึ้น ชักมือกลับมาวางไว้บนตัก“ค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ นายหัวไม่ต้องให้แพรว แพรวได้เงินจากนายหัวมาเยอะแล้วค่ะ”นาวินทร์เอี้ยวหน้ามองเธออีกครั้ง จ้องสบตาเธอให้แพรวนภาเข้าใจไม่ผิดในสิ่งที่เขาจะพูดต่อจากนี้“ฉันจะให้เงินเธอก้อนหนึ่งสำหรับการตั้งต้นชีวิตใหม่ หลังจากนี้ฉันคงไม่ได้มาหาเธออีก ส่วนงานที่โรงแรมฉันไม่ขัดข้องที่เธอจะทำต่อไปเพราะเธอทำมันได้ดี”แพรวนภาสะอึก ท
บทที่ 10-1“พี่วินทร์แวะร้านขายยาให้เบย์ด้วยนะคะก่อนจะถึงโรงแรม”นาวินทร์เอี้ยวหน้ามองอย่างแปลกใจแต่ไม่ถามอะไรเมื่อเห็นร้านขายยาตรงข้างหน้าพอดีจึงจอดรถเทียบทางเท้า มองตามร่างบางที่เข้าร้านขายยาไปสักพักใหญ่จึงเห็นเธอเดินออกมาจากร้านพร้อมถุงในมือ ดูแล้วไม่ใช่ยาจำนวนมากปัง!“ไปกันเถอะค่ะ”นาวินทร์เคลื่อนล้อรถออกจากริมทาง เหลือบตามองมือของเบอาที่เอายาใส่กระเป๋าสะพายไปอย่างรวดเร็ว“ซื้อยาอะไรมาน่ะ”“ก็ยาของผู้หญิงค่ะ ไม่มีอะไร เออ วันนี้เบย์จะกลับไปบ้านเลยนะคะ แล้วพี่วินทร์ก็นัดเบย์มาแล้วกันว่าจะทำสัญญาวันไหน”“สัญญา?”“อ้าว ก็สัญญาเงินกู้ฉบับใหม่ไงคะ”เอี๊ยดดด!!เบอาใช้มือบางยันร่างของตัวเองที่คอนโซลรถเมื่อจู่ ๆ นาวินทร์หักรถเข้าทาง เธอเอี้ยวหน้ามองด้วยความสงสัย“พี่วินทร์จอดทำไมคะ”“ยังจะถามอีก แล้วห่วงอะไรกับสัญญาเงินกู้”“อ้าว ก็มันมีการเปลี่ยนแปลงนี่คะ ต้องยึดเวลาไปอีกสองปี”“ฮึ ที่แท้ก็ถวายตัวให้พี่เพราะสัญญานี่เองใช่ไหม ต้องลงรายละเอียดด้วยไหมว่าต้องเอากันกี่ครั้งต่อวันในสัญญา”“พี่วินทร์!!”หน้าหวานคมแดงซ่านเป็นลูกตำลึง ยกมือขึ้นทุบบ่านาวินทร์สองครั้ง“พี่วินทร์จะเอายังไง! ไม่ทำก
บทที่ 9-3 18+“เบย์จะกลับบ้าน ถอยไป!”“ไปตอนนี้ไม่ได้ พรุ่งนี้พี่จะไปส่ง”“พี่ไม่ต้องไปส่งก็ได้ เบย์จะเดินไปเอง แล้วถ้าเจอใครก็ขอโบกรถเข้าอำเภอ”เขาคว้าต้นแขนของเบอาไว้กระชากกลับ อกแน่นด้วยอารมณ์บางอย่างที่อธิบายไม่ถูก ทั้งรู้สึกผิด ทั้งเจ็บปวด ทั้งกลัวว่าเธอจะไม่กลับมาอีกเหมือนเมื่อห้าปีก่อน“ไม่! พี่ไม่ให้ไป”เบอาฉุนขาด เธอหันหน้ากลับมาจ้องเขาเต็มตา ความรู้สึกอัดแน่นท่วมท้นอยู่ข้างในและร้องไห้ไปแล้ว แต่เธอจะไม่ปล่อยให้เขาได้เห็นน้ำตาของเธอเด็ดขาด“นายหัวมีสิทธิ์อะไรในตัวฉัน”“สิทธิ์!!”เขากระชากเธอเข้ามาแนบกายแน่นขึ้น ชะโงกหน้าลงมองสาวน้อยที่สู้ตาไม่ถอย เธอโกรธจัดและเขาก็เช่นกัน เขากำลังจะถูกทิ้งอีกครั้ง“บอกให้ว่าสิทธิ์อะไร สิทธิ์ของการเป็นผัวยังไงล่ะ”“ฮึ ผัว ผัวงั้นเหรอ! งั้นเบย์คงมีผัวร่วมกับคนอื่นเยอะเกินไปนายหัวว่ายังงั้นไหม ปล่อย!!”“ให้ตายสิเบย์ ฟังพี่ก่อน เบย์จะให้พี่ทำยังไงก็พูดมาสิ อย่าทำแบบนี้ อย่าเดินจากไปอีก”“ทำยังไง? ทำไมนายหัวจะต้องทำด้วยคะ เบย์เป็นเพียงลูกหนี้เท่านั้น นายหัวไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ กลับไปเราจะเขียนสัญญาให้ละเอียด ต่อไปก็นัดกันที่โรงแรมแล้วกันค่ะ เบย์จะได