บทที่ 11-2
เอี๊ยดดดด!!
นาวินทร์หักหลบรถกระบะเก่าที่สวนกับเขากลางทางขณะที่กำลังออกจากถนนเข้าท้ายสวน
เห็นลาง ๆ เป็นผู้ชายสองคนมีหญิงสาวอยู่ในอ้อมแขนของคนนั่งฝั่งข้างคนขับอีกหนึ่งคน
เขาขับรถต่อไปอีกสักพักจึงนึกขึ้นได้ว่าถนนสายนี้เป็นทางส่วนบุคคลเข้าท้ายสวนของเขาโดยเฉพาะ และมีไม่กี่คนที่รู้ทางนี้
เอี๊ยด!!
นาวินทร์เหยียบเบรกกะทันหันเมื่อนึกถึงผู้หญิงที่ถูกขนาบข้าง หล่อนดูเหมือนจะนอนนิ่งไม่ไหวติง ผมสีน้ำตาลอ่อน
พระเจ้า!! ระยำ ไอ้ห่าเอ้ย!!
เขาหักรถเลี้ยวกลับทันที ระยะทางที่เขาขับสวนกับรถคันนั้นเพิ่งผ่านไปไม่นานแต่ใจเขากลัวเหลือเกินว่าจะไปไม่ทัน
นาวินทร์เหลือบตามองผู้ชายร่างสูงผอมเกร็งผิวคล้ำที่เดินสวนออกมาบนไหล่ทางเล็ก มันเดินออกมาจากบ้านท้ายสวน สบตาตื่นตระหนกของไอ้หมอนั่นด้วยตาแข็งกร้าว แต่เขาไม่หยุดรถ
เวลามันกระชั้นชิดเกินไป ถ้าเขาหยุดรถถามมันตอนนี้ เบอาอาจถูกทำร้ายถึงขั้นเสียชีวิต
เขาจอดรถดับเครื่องก่อนที่จะถึงทางเข้าบ้าน ตั้งใจไม่ให้คนร้ายอีกคนรู้ตัว เปิดลิ้นชักรถแล้วหยิบปืนสั้นออกมา เปิดดูกระสุนในรังปืนแล้วหมุนปิดขึ้นไกนกค้างไว้
นาวินทร์ลงจากรถกระบะคันเก่าสีดำ เดินอาดไม่กลัวเกรงสิ่งใดตัดผ่านลานบ้านเพราะมั่นใจว่าไอ้หมอนั่นยังไม่รู้ตัว สังเกตจากความเงียบของบ้านที่ยังปิดสนิท ไม่มีแม้แต่เสียงร้องของเบอา
เหลือบตามองบานพับกุญแจที่ถูกของมีคมฟันจนห้อยต่องแต่ง ดวงตากร้าวโกรธจัด ยกปืนขึ้นเตรียมพร้อม ใช้มืออีกข้างค่อยหมุนลูกบิดเบามือ
บ้านหลังนี้ไม่มีห้องอื่นใดเมื่อเปิดประตูออกไปจึงเห็นเตียงนอนอันดับแรก ใจเขาแทบลุกเป็นไฟโกรธจัดเมื่อเห็นร่างของเบอานอนนิ่งท่อนบนเปลือยเปล่า
อาจจะเพราะไอ้หมอนั่นยังอยากชื่นชมกายสาวจึงทำให้ไม่ทันได้ถอดกางเกงของเบอา เขามองร่างเปลือยของไอ้สารเลวที่กำลังชะโงกตัวด้านบนอยู่ตรงทรวงอกที่มีแต่รอยช้ำเป็นปื้นเขียว
ท้องไส้เขาปั่นป่วนแทบอ้วกจากอารมณ์ที่ตีขึ้น ความโกรธลุกเป็นไฟภายในแผดเผา ยกมือที่กำปืนสั้นที่ขึ้นไกนกไว้แล้วใช้สองมือประคองนิ่งค่อยเดินจรดปลายเท้าแผ่วเบาที่สุดไปใกล้จนได้ระยะ
ปัง!!
ผลุบ!!
เบอาสะดุ้งสุดตัว ใช้มือกุมศีรษะไว้รู้สึกถึงความเหนียวเหนอะบนลำตัวและร่างของผู้ชายคนหนึ่งฟุบร่างทับเธอไว้หนักอึ้ง
“อื้อ ปวดจัง”
“เบย์!!”
จู่ ๆ ร่างหนักที่ทับเธออยู่ก็ถูกเอาออกไป เธอมองเห็นนาวินทร์เลือนรางเต็มทนจากอาการมึนศีรษะ รู้สึกถึงผ้าห่มที่ห่มหุ้มเธอและร่างที่เบาหวิวลอยคว้างจนเธอต้องโอบคอหนาของชายร่างโตไว้
“พี่วินทร์”
เสียงหวานแหบพร่าส่งเสียงเบา เธอยังปะติปะต่อเรื่องราวไม่ถูกรู้เพียงถูกอุ้มออกมาจากบ้านหลังนั้นมาวางไว้ในรถ แล้วนาวินทร์ก็เดินกลับไปอีกครั้ง
เธอเปิดผ้าห่มมองตัวเองที่เปลือยอกและเลือดจำนวนมากเหนียวตัวกาย กลิ่นคาวคละคลุ้งชวนให้อาเจียน ดวงตาสีทองเบิกโพลงมองกลับไปยังบ้านหลังเล็กข้างหน้า
“พี่วินทร์”
เสียงกระซิบเบาลอดออกมาจากลำคอเมื่อพอจะคลำทางได้ว่าเกิดอะไรขึ้น ภาวนาในใจขออย่าให้นายหัวนาวินทร์ทำอะไรเกินเลยมากไปกว่านี้
พลั่ก!!
นาวินทร์ใช้เท้ากระทืบศพของชายที่เขาไม่ทราบชื่อบนพื้น ล้วงกระเป๋ากางเกงยีนส์ที่มันถอดไว้บนพื้นจนเจอกระเป๋าเงิน
สิงห์ พุกอง
แค่นามสกุลเขาก็รู้ว่ามันไม่ใช่คนท้องถิ่น เขามองหน้าสีเข้มอย่างคนใต้อีกครั้ง แล้วจึงเห็นโทรศัพท์ตกอยู่บนเตียง
ปัดหน้าจอเปิดแอพพลิเคชั่นที่มันเปิดค้างไว้เป็นกล้องถ่ายรูป ในอัลบั้มภาพมีภาพของเบอาเปลือยเปล่าหลายภาพ เขาจึงจัดการลบออกก่อนจะปัดดูรายชื่อที่มันโทรศัพท์ออกล่าสุด
แพรวนภา!!
ใจโกรธจัดมือสั่นเทาขณะที่เปิดไลน์ขึ้นดูเห็นห้องแช็ตของพวกมันสองคน ร่างใหญ่โตของนาวินทร์สะท้านเป็นระลอกเมื่ออ่านข้อความที่พวกมันสองคนส่งหากัน
นาวินทร์แหงนหน้าขึ้นมองเพดานตะโกนออกมาไม่มีเสียง ก่อนจะลั่นไกไปที่ไอ้เลวที่ตายไปแล้วอีกสองนัดตามลำตัวเพื่อระบายความโกรธ
ปัง!! ปัง!!
เขาอึดอัดในทรวงอกจนแทบคุมตัวไม่อยู่ ดวงตากร้าวแดงก่ำ อยากตรงไปหาหญิงสารเลวคนนั้นเพื่อลากตัวออกมายิงทิ้ง แต่ทำไม่ได้
มือกำบัตรประชาชนของไอ้สารเลวไว้แน่น ก้มลงเอาบัตรประชาชนป้ายเลือดของไอ้เลวแล้วโยนลงเตียง ให้สีของเลือดและบัตรตัดกับผ้าปูที่นอนสีขาว
จัดการถ่ายรูปบัตรด้วยโทรศัพท์ของไอ้โจรแล้วส่งเข้าห้องไลน์ของแพรวนภา เพียงไม่นานก็ปรากฏข้อความว่าอ่านแล้ว จากนั้นนาวินทร์จึงโยนโทรศัพท์ลงบนเตียงใกล้กับศพของไอ้สิงห์
เดินกลับออกไปจากบ้านตรงไปยังโพรงเล็กสำหรับเก็บของใช้ ช่วงนี้ช่างทาสีทิ้งของไว้จำนวนมาก เขาจึงจัดการหยิบทินเนอร์และน้ำมันสนออกมา
แต่โชคก็ยังเข้าข้างเขาเสียจริงเมื่อเหลือบตาไปเห็นขวดแก้วใส่น้ำมันเบนซินประมาณสองลิตร จึงหยิบออกมาแทน ขณะที่กำลังจะก้าวขึ้นบันไดบ้านพลันได้ยินเสียงของเบอา
“พี่วินทร์!!”
บทที่ 11-3เขาหันกลับไปมองเห็นสาวน้อยออกมายืนอยู่ด้านข้างตัวรถห่มด้วยผ้าห่มผืนใหญ่สีขาวเหมือนเดิม สีของผ้าห่มขาวโพลนตัดกับสีของผืนป่ายามโพล้เพล้นายหัวนาวินทร์ยังเดินขึ้นบันไดบ้านต่อจนถึงร่างของไอ้สิงห์ จากนั้นเดินเลยไปยังครัวที่ทำใหม่ปลดถังแก๊สออกมาลากจนถึงกลางบ้านเทน้ำมันเบนซินโดยรอบตัวและเทเป็นทางจนเกือบถึงประตูบ้านก็หมดเสียก่อน ยืนมองร่างที่เริ่มเย็นชืดของไอ้สารเลวอีกครั้ง“ไม่ต้องกังวลไอ้สิงห์ เดี๋ยวตัวมึงก็ร้อนแล้ว”เขาหยิบซิบโปออกมาจากกระเป๋ากางเกงจุดใส่เศษกระดาษนิตยสารที่หยิบมาจากในบ้านแล้ววางให้ตรงกับคราบน้ำมันเบนซินที่เริ่มระเหยจากนั้นจึงปิดประตูบ้านแล้วลงมาจากตัวบ้านให้เร็วที่สุดวิ่งกลับไปที่รถบรึ้ม!!นาวินทร์สะดุ้งเมื่อเสียงระเบิดจากถังแก๊สดังขึ้นพร้อมกับเสียงไม้บ้านแตกลั่นเขาหันไปมองบ้านหลังเล็กที่เขาสร้างขึ้นมาเพื่อไว้พักผ่อนกับสาวๆ แต่บ้านหลังนี้กลับกลายเป็นสถานที่ที่เกือบจะทำให้เขาเสียเบอาไป“พี่วินทร์”นาวินทร์เดินกลับมาที่รถสวมกอดเบอาไว้แน่น โน้มใบหน้าลงหอมศีรษะ“ขึ้นรถเถอะ พี่จะพาไปบ้านพี่”“แต่ว่า..”“อย่าเพิ่งดื้อนะคนดี ใจพี่จะไม่ไหวแล้ว”เบอาเงยหน้ามองชายร่า
บทที่ 12-1** nc จบบริบูรณ์สาวน้อยหน้าหวานลูกครึ่งโปรตุเกสนอนหลับสนิทคว่ำหน้าบนหมอนใบนุ่มจนไม่รู้เลยว่ายังมีชายหนุ่มอีกคนนอนกระสับกระส่ายอยู่ข้าง ๆนาวินทร์เพียรพยายามทั้งลูบตัว ทั้งกระซิบและพลิกร่าง แต่สาวสวยยังนอนพลิกร่างกลับไปคว่ำตามเดิม ลูบผ่านต้นแขนจนถึงข้อมือบางกระทั่งถึงแหวนหมั้นเพชรเม็ดเล็กพอเหมาะอย่างที่เธอชอบเขาหงายตัวลงใช้มือก่ายหน้าผากสะกดกลั้นความต้องการยามเช้าที่พุ่งทะยานแม้ว่ายามค่ำคืนจะสุขสมไปแล้วเปลือกตาของเบอายังหลับพริ้มไม่รับรู้สิ่งรอบข้างจากความเหนื่อยอ่อนจนเขาต้องลุกขึ้นจากเตียงหยิบบุหรี่ออกไปสูบมือควานหาไฟแช็กในลิ้นชักโต๊ะแต่ไม่เจอ พลันนึกขึ้นได้ว่าเมื่อคืนตอนพาเบอาไปทานข้าวเขาได้ฝากไว้ที่เธอ จึงเดินกลับไปยังหน้ากระจกหยิบกระเป๋าสะพายสีดำใบเดิมที่เธอชอบใช้ขึ้นมาเขาล้วงมือควานหาและพบว่ามันอยู่ที่ก้นกระเป๋าเพราะน้ำหนักของไฟแช็กแบบซิปโป ขณะที่กำลังหยิบพลันนิ้วไปโดนแผงยาบางอย่าง ด้วยความสงสัยจึงหยิบมันออกมานาวินทร์หรี่ดวงตาคมกริบลงเมื่อเห็นแผงยาชัด ๆ ท่ามกลางแสงยามเช้าที่เริ่มสาดเข้ามาในห้อง เม็ดสีชมพูสวยบนแผงมีลูกศรชี้ว่าควรเริ่มทานจากเม็ดไหนไปถึงเม็ดไหนยาคุม!
บทที่ 1-1คำก็เด็กบ้านๆ สองคำก็เด็กบ้านๆไม่ชอบก็ผ่าน ไม่ต้องการก็ไปมาว่าผมไม่ดี ผมไม่ว่าไหรแต่อย่ามาเที่ยวดูถูกหัวใจ..ของเด็กเลี้ยงวัวแว่วเสียงเพลงดังลอยมาไกล ๆ ขณะที่ร่างบอบบางในชุดนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายปั่นจักรยานกลับบ้านผ่านทางขรุขระเข้ามาในสวนยางขนาดใหญ่ที่เธอเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่อากาศของที่นี่มักร้อนชื้นจนเหนอหนะตัว แม้ว่าเธอพยายามปรับตัวเท่าไหร่แต่ยังคงไม่ชินเสียทีดวงตากลมโตมองแสงแดดลอดผ่านแมกไม้ พลางนึกถึงเมืองที่เธอจากมา ซึ่งแต่เดิมครอบครัวของเธออาศัยอยู่ในเมืองหลวงหรือกรุงเทพมหานคร พ่อทำงานรับราชการและเพิ่งปลดเกษียณได้ไม่นาน ความฝันอันสูงสุดของพ่อคือการทำไร่ทำสวน พ่อจึงได้ตัดสินใจทำตามความฝัน ลงหลักปักฐานในที่แห่งใหม่หลังเกษียณอายุด้วยอาชีพการทำสวนยางเบอา ฤทธิ์ไกร หรือ เบย์ ชื่อที่คนสนิทใช้เรียก สาวน้อยผมสั้นเลยติ่งหูมาเล็กน้อยอย่างเด็กมัธยมปลาย หน้าตารูปร่างลูกครึ่งไทยโปรตุเกส สูงโปร่งบอบบางผิวขาวราวน้ำนมกำลังลดขาตั้งจักรยานลงบนพื้นลานที่โรงเก็บรถของบ้านสองชั้นด้วยพ่อของเธอ นายเดชา ฤทธิ์ไกร เกรงว่าพวกเธอจะไม่อาจทนรับสภาพความลำบากเหล่านี้ได้จึงเลือกสร้างบ้านหลังขนาดย
บทที่ 1-2ปัง!เบอาปิดประตูห้องนอนแล้วเหวี่ยงกระเป๋าที่หยิบมาด้วยหลังจากโยนมันไปบนโซฟาในห้องนั่งเล่น กระเป๋านักเรียนหล่นแปะลงบนโต๊ะเขียนหนังสือตัวเล็กข้างเตียงนอนอย่างแม่นยำตุบ!สาวน้อยทิ้งตัวลงนอนบนเตียงขนาดเล็กผ้าปูสีชมพู เธอเอี้ยวหน้ามองข้างฝาที่ติดรูปนักร้องคนโปรดไว้นี่ถ้าฉันยังอยู่ที่กรุงเทพ ป่านนี้คงได้ไปหาพี่ฮยอนแล้วเบอาพลิกร่างนอนคว่ำหน้าคางมนเล็กเกยบนท่อนแขน ถอนหายใจยาวออกมาอีกครั้งอย่างเบื่อหน่ายเธอพยายามปรับตัวอย่างมากกับสถานที่ใหม่แต่มันช่างยากเย็นเหลือเกิน ทุกคนในโรงเรียนพูดภาษากลางไม่ชัด และพอพวกเขาพูดภาษาถิ่นเธอยิ่งฟังไม่รู้เรื่อง ทั้งเธอยังโดนล้อเรื่องหน้าฝรั่งจ๋าของเธออีกดวงตาสีน้ำตาลทองปิดสนิทลง ในทุกวันนี้ที่เธอตื่นขึ้นมาเธอไม่อยากไปโรงเรียน เธอรู้สึกแตกต่างแปลกแยกด้วยรูปร่างสูงโปร่งกว่าเด็กคนอื่น ผมสีน้ำตาลอ่อน และโดยเฉพาะสีของนัยน์ตา เธอไม่กล้าแม้แต่จะสบตาเพื่อนคนไหน“เบย์ อาบน้ำเสร็จหรือยัง พ่อกลับมาแล้วนะ”เบอากระเด้งจากที่นอนเมื่อได้ยินเสียงอัญาพรพี่สาวต่างมารดาตะโกนเรียก“ลืมเสียสนิท”หญิงสาวรีบจัดแจงอาบน้ำอย่างรวดเร็วสวมเพียงกางเกงขาสั้นและเสื้อยืดธรรมดา
บทที่ 1-3วื้อ วื้อ วื้อเบอาปั่นจักรยานออกจากบ้านมาได้สักพักแล้วตั้งแต่เช้ามืด ตั้งแต่ย้ายมาอยู่ที่อำเภอห่างไกลนี้ ทุกคนที่บ้านตื่นเช้าด้วยกิจวัตรประจำวันการทำงานเปลี่ยนไปพ่อต้องออกไปแต่เช้าเพื่อดูคนงานกรีดยาง แม่และพี่พรเข้าเมือง ส่วนเบอาถ้าวันปกติจันทร์ถึงศุกร์ไปโรงเรียน ส่วนวันนี้เป็นวันเสาร์ซึ่งเธอเป็นอิสระจะทำอะไรก็ได้แคร่ก แคร่ก พลั่ก พลั่กเสียงจักรยานที่ไม่ค่อยได้หยอดน้ำมันโซ่ดังเกือบตลอดเวลา ยิ่งปั่นไปในทางขรุขระของสวนยางกระเด็นกระดอนไปตลอดทาง รถจักรยานยิ่งดังและบางคราวราวกับว่าจะแยกชิ้นส่วนแยกร่างออกมาอย่างไรอย่างนั้นเธอมองท้องฟ้าลอดผ่านแมกไม้สูงใหญ่ของต้นยาง เบอายังไม่ชินกับภูมิอากาศของภาคใต้ที่บางวันร้อนบางวันฝนตก เหงื่อผุดตามไรผมและแผ่นหลังจนเปียกชื้นแม้ว่าลมจะพัดมาตามร่างบอบบางแม้ว่าเช้าขนาดนี้สำหรับเบอา แต่สายสำหรับคนงานที่ออกกรีดยางแต่เช้าตรู่ พวกเขานำน้ำยางที่กรีดได้ไปยังสหกรณ์เพื่อขาย ทำให้ภายในสวนเงียบสงัดมีเพียงเสียงนกเสียงสรรพสัตว์ตัวน้อยขณะถีบจักรยานเธอเองก็คิดตัดสินใจไปด้วยว่าปีหน้าเธอคงขอพ่อกับแม่ไปเรียนต่อที่กรุงเทพ แต่จะเรียนสาขาอะไรนั้นเธอยังตัดสินใจไม
บทที่ 1-4เบอารีบขดตัวแน่นด้วยความกลัว เธอเคยแต่อยู่ในเมืองหลวงเพิ่งจะย้ายมาอยู่บ้านนอกแบบนี้ใครจะรู้ว่าสวนยางอาจจะมีผี บรื้อ!!!กึก กึก กึกเสียงบางอย่างดังขึ้นอีกจนเบอาเริ่มเอะใจ ยืนถอยหลังออกมาจากผนังบ้าน มองพิจารณาถี่ถ้วนจนเห็นม่านหน้าต่างขยับไหวเบา ๆ ดั่งลมพัดด้วยความอยากรู้อยากเห็นตามประสาเด็กสาว ร่างสูงโปร่งจึงนั่งคุกเข่าลงค่อยคลานหลบไม่ให้ศีรษะโผล่พ้นขอบหน้าต่างจนกระทั่งถึงมุมม่านที่กระพือไหว คุกเข่าติดผนังยืดร่างขึ้น ใช้มือเรียวบางเกาะขอบบัวหน้าต่างไว้โผล่แค่ศีรษะที่ปกคลุมไปด้วยเส้นผมสีน้ำตาลอ่อน มองลอดผ่านผ้าม่านเข้าไปยังข้างในบ้านท้องฟ้ายามนี้แม้ว่าเริ่มสว่างแล้วหากแต่ภายในห้องยังมืดสลัว เธอมองเห็นเสื้อผ้าที่พื้นก่อนอันดับแรกแล้วจึงไล่สายตากลมโตไปทั่วห้อง มีเงามืดร่างของคนสองคนบนเตียงนอน ผ้าปูที่นอนยับย่น ผ้าห่มผืนหนาห้อยจะหล่นแหล่ไม่หล่นแหล่ตรงขอบเตียง“อือ อา อ่า นาวินทร์!!”เสียงกรีดร้องหวานแหลมดังขึ้นจนเบอาต้องหรี่ตามองเงามืดของทั้งสองคน คนตัวโตกว่าสีผิวเข้มอย่างคนทางใต้แผ่นหลังกว้างใหญ่กำลัง..อื้อออออ!เบอาใช้มือทั้งสองข้างอุดปากไว้กลั้นเสียงร้องด้วยความตกใจ ดวงตาส
บทที่ 1-5แปะ แปะ แปะเสียงบางอย่างนอกกระท่อมทำให้ชายร่างสูงใหญ่ลุกขึ้นจากเตียง เขาคว้าเช็ดตัวขึ้นปิดด้านหน้าส่วนล่าง รีบเดินไปยังหน้าต่างตรงระเบียงหน้าบ้านมือแกร่งสีเข้มแหวกม่านออกเพียงเล็กน้อย มองลอดออกไปเห็นสาวน้อยนางหนึ่งกำลังวิ่งลงจากบันไดบ้านไปยังลานจอดรถ ตรงไปยังโคนต้นยางที่จอดจักรยานอยู่ เสียงน้ำจากรองเท้าเตะดังไปตลอดทางที่เจ้าหล่อนออกวิ่งรูปร่างสูงโปร่งผิวขาวจัดดั่งน้ำนม ผมสีน้ำตาลอ่อนสั้นประมาณติ่งหู หญิงสาวแปลกหน้า เธอไม่ใช่คนในอำเภอนี้ เขารู้จักคนแถวนี้แทบทุกคนหรือจะพูดให้ถูกคือเขารู้จักทุกคนในอำเภอเล็ก ๆ และเขาไม่เคยเห็นหญิงสาวคนนี้แม้แต่น้อยเด็กสาว? จากลักษณะรูปร่างและทรงผมเธอคงอยู่ชั้นมัธยมปลาย อาจจะอายุประมาณสิบแปดปีเท่านั้น“มีอะไรหรือเปล่าคะนาวินทร์”นาวินทร์ปล่อยม่านลงละสายตาจากร่างสาวน้อยที่กำลังปั่นจักรยานออกไปตามทางขรุขระของสวนยางผ่านรั้วกั้นระหว่างสวนยางข้างเคียงเจ้าของคนใหม่“ไม่มีอะไรหรอกพีช เสียงลมน่ะ”เขาเดินกลับมาที่เตียงก้มลงหยิบเสื้อผ้าที่เขาถอดโยนทิ้งลงพื้นไว้ตั้งแต่เมื่อคืน“นาวินทร์ขับไปส่งพีชที่หาดใหญ่นะคะ พีชไม่อยากให้ใครเห็น”เขากลับมาที่เตียงก้
บทที่ 2-1เบอานอนฟุบหน้าลงกับโต๊ะเรียนหนังสือ กลิ่นไม้เก่าปะทะจมูกอยู่เนื่อง ๆ กลิ่นอับชื้นและกลิ่นดินสอที่ขีดเขียนวาดรูปอยู่บนโต๊ะเธอกรีดนิ้วไปตามร่องตัวหนังสือคำว่า LOVE ที่คาดว่าเป็นฝีมือนักเรียนรุ่นพี่คนก่อนได้ทำเครื่องหมายไว้ด้วยมีดคัตเตอร์ภาพสองหนุ่มสาวในวันฝนตกหนักเมื่อเช้าวันเสาร์ยังติดตาตรึงใจไม่จางหายไปโดยง่าย เธอยอมรับว่าใจสาวน้อยที่กำลังเติบโตพลุ่งพล่านด้วยฮอร์โมนของสาวสะพรั่ง ทั้งตื่นเต้น ทั้งอยากรู้ แม้กระทั่งตอนนี้แค่เพียงนึกภาพเธอก็พลันชีพจรรัวราวกลองตี“เบอา!”“อุ๊ย!!”เบอาสะดุ้งตกใจรีบลุกพรวดยืนมองไปรอบห้องเรียนในช่วงพักกลางวันที่ทุกคนต่างลงไปทานอาหารกลางวันที่โรงอาหาร“นอนเหม่ออะไรอยู่ กินข้าวยัง”เธอมองเห็นเพื่อนร่วมห้องที่ตัวเตี้ยกว่าเธอยืนอยู่ข้างโต๊ะ หน้าตาหน้ารักจิ้มลิ้มปากนิดจมูกหน่อยผิวขาวอย่างคนจีน“กินแล้ว นารินทร์มีอะไรเหรอ”“เราก็แค่เห็นเบอาดูเหงา ๆ เลยอยากชวนคุย”เบอานั่งลงที่เก้าอี้ตามเดิม มองเพื่อนร่วมชั้นลากเก้าอี้ข้าง ๆ มานั่งด้วย“เบอาเคยชินกับอำเภอของเราหรือยัง”เธอส่ายหน้าแทนคำตอบ จึงทำให้นารินทร์ฉีกยิ้มกว้าง“งั้นเดี๋ยวเราพาเที่ยวเอง”“หื้อ เที
บทที่ 12-1** nc จบบริบูรณ์สาวน้อยหน้าหวานลูกครึ่งโปรตุเกสนอนหลับสนิทคว่ำหน้าบนหมอนใบนุ่มจนไม่รู้เลยว่ายังมีชายหนุ่มอีกคนนอนกระสับกระส่ายอยู่ข้าง ๆนาวินทร์เพียรพยายามทั้งลูบตัว ทั้งกระซิบและพลิกร่าง แต่สาวสวยยังนอนพลิกร่างกลับไปคว่ำตามเดิม ลูบผ่านต้นแขนจนถึงข้อมือบางกระทั่งถึงแหวนหมั้นเพชรเม็ดเล็กพอเหมาะอย่างที่เธอชอบเขาหงายตัวลงใช้มือก่ายหน้าผากสะกดกลั้นความต้องการยามเช้าที่พุ่งทะยานแม้ว่ายามค่ำคืนจะสุขสมไปแล้วเปลือกตาของเบอายังหลับพริ้มไม่รับรู้สิ่งรอบข้างจากความเหนื่อยอ่อนจนเขาต้องลุกขึ้นจากเตียงหยิบบุหรี่ออกไปสูบมือควานหาไฟแช็กในลิ้นชักโต๊ะแต่ไม่เจอ พลันนึกขึ้นได้ว่าเมื่อคืนตอนพาเบอาไปทานข้าวเขาได้ฝากไว้ที่เธอ จึงเดินกลับไปยังหน้ากระจกหยิบกระเป๋าสะพายสีดำใบเดิมที่เธอชอบใช้ขึ้นมาเขาล้วงมือควานหาและพบว่ามันอยู่ที่ก้นกระเป๋าเพราะน้ำหนักของไฟแช็กแบบซิปโป ขณะที่กำลังหยิบพลันนิ้วไปโดนแผงยาบางอย่าง ด้วยความสงสัยจึงหยิบมันออกมานาวินทร์หรี่ดวงตาคมกริบลงเมื่อเห็นแผงยาชัด ๆ ท่ามกลางแสงยามเช้าที่เริ่มสาดเข้ามาในห้อง เม็ดสีชมพูสวยบนแผงมีลูกศรชี้ว่าควรเริ่มทานจากเม็ดไหนไปถึงเม็ดไหนยาคุม!
บทที่ 11-3เขาหันกลับไปมองเห็นสาวน้อยออกมายืนอยู่ด้านข้างตัวรถห่มด้วยผ้าห่มผืนใหญ่สีขาวเหมือนเดิม สีของผ้าห่มขาวโพลนตัดกับสีของผืนป่ายามโพล้เพล้นายหัวนาวินทร์ยังเดินขึ้นบันไดบ้านต่อจนถึงร่างของไอ้สิงห์ จากนั้นเดินเลยไปยังครัวที่ทำใหม่ปลดถังแก๊สออกมาลากจนถึงกลางบ้านเทน้ำมันเบนซินโดยรอบตัวและเทเป็นทางจนเกือบถึงประตูบ้านก็หมดเสียก่อน ยืนมองร่างที่เริ่มเย็นชืดของไอ้สารเลวอีกครั้ง“ไม่ต้องกังวลไอ้สิงห์ เดี๋ยวตัวมึงก็ร้อนแล้ว”เขาหยิบซิบโปออกมาจากกระเป๋ากางเกงจุดใส่เศษกระดาษนิตยสารที่หยิบมาจากในบ้านแล้ววางให้ตรงกับคราบน้ำมันเบนซินที่เริ่มระเหยจากนั้นจึงปิดประตูบ้านแล้วลงมาจากตัวบ้านให้เร็วที่สุดวิ่งกลับไปที่รถบรึ้ม!!นาวินทร์สะดุ้งเมื่อเสียงระเบิดจากถังแก๊สดังขึ้นพร้อมกับเสียงไม้บ้านแตกลั่นเขาหันไปมองบ้านหลังเล็กที่เขาสร้างขึ้นมาเพื่อไว้พักผ่อนกับสาวๆ แต่บ้านหลังนี้กลับกลายเป็นสถานที่ที่เกือบจะทำให้เขาเสียเบอาไป“พี่วินทร์”นาวินทร์เดินกลับมาที่รถสวมกอดเบอาไว้แน่น โน้มใบหน้าลงหอมศีรษะ“ขึ้นรถเถอะ พี่จะพาไปบ้านพี่”“แต่ว่า..”“อย่าเพิ่งดื้อนะคนดี ใจพี่จะไม่ไหวแล้ว”เบอาเงยหน้ามองชายร่า
บทที่ 11-2เอี๊ยดดดด!!นาวินทร์หักหลบรถกระบะเก่าที่สวนกับเขากลางทางขณะที่กำลังออกจากถนนเข้าท้ายสวนเห็นลาง ๆ เป็นผู้ชายสองคนมีหญิงสาวอยู่ในอ้อมแขนของคนนั่งฝั่งข้างคนขับอีกหนึ่งคนเขาขับรถต่อไปอีกสักพักจึงนึกขึ้นได้ว่าถนนสายนี้เป็นทางส่วนบุคคลเข้าท้ายสวนของเขาโดยเฉพาะ และมีไม่กี่คนที่รู้ทางนี้เอี๊ยด!!นาวินทร์เหยียบเบรกกะทันหันเมื่อนึกถึงผู้หญิงที่ถูกขนาบข้าง หล่อนดูเหมือนจะนอนนิ่งไม่ไหวติง ผมสีน้ำตาลอ่อนพระเจ้า!! ระยำ ไอ้ห่าเอ้ย!!เขาหักรถเลี้ยวกลับทันที ระยะทางที่เขาขับสวนกับรถคันนั้นเพิ่งผ่านไปไม่นานแต่ใจเขากลัวเหลือเกินว่าจะไปไม่ทันนาวินทร์เหลือบตามองผู้ชายร่างสูงผอมเกร็งผิวคล้ำที่เดินสวนออกมาบนไหล่ทางเล็ก มันเดินออกมาจากบ้านท้ายสวน สบตาตื่นตระหนกของไอ้หมอนั่นด้วยตาแข็งกร้าว แต่เขาไม่หยุดรถเวลามันกระชั้นชิดเกินไป ถ้าเขาหยุดรถถามมันตอนนี้ เบอาอาจถูกทำร้ายถึงขั้นเสียชีวิตเขาจอดรถดับเครื่องก่อนที่จะถึงทางเข้าบ้าน ตั้งใจไม่ให้คนร้ายอีกคนรู้ตัว เปิดลิ้นชักรถแล้วหยิบปืนสั้นออกมา เปิดดูกระสุนในรังปืนแล้วหมุนปิดขึ้นไกนกค้างไว้นาวินทร์ลงจากรถกระบะคันเก่าสีดำ เดินอาดไม่กลัวเกรงสิ่งใดตั
บทที่ 11-1บ้านหลังเล็กหรือกระท่อมที่นาวินทร์มักเรียกดูเรียบร้อยดี กลิ่นสีทาไม้เปลี่ยนจากสีไม้แดงเป็นสีไม้โอ๊ก เตียงใหญ่เขาสั่งให้เปลี่ยนใหม่เช่นกันพร้อมกับฟูกที่นอนเขาเดินออกไปดูในห้องน้ำ ช่างขาประจำทำงานดีเหมือนเคย อ่างอาบน้ำสุดหรูติดตั้งถูกต้องและงานเนี้ยบจากนั้นจึงเดินออกมาทางห้องครัวที่ทำเพิ่ม ใจคิดไปว่าบางวันอาจชวนสาวน้อยทำบาร์บีคิวนั่งเล่นนอกบ้านบ้างรอยยิ้มมุมปากผุดขึ้นบนใบหน้าคมเข้มยามนึกไปถึงดวงหน้างามของเบอา เธอคงบ่นบ้างเวลาให้ทำกับข้าวเพราะเป็นงานที่เธอไม่ถนัด แต่เขาจะคอยช่วยเป็นลูกมืออยู่ไม่ห่าง ยิ่งถ้าให้สาวน้อยลองนั่งบนเคาน์เตอร์ครัวหลังใหม่ขนาดความสูงกำลังพอดีแล้วมีเขาที่อยู่ตรงกลางมั่นโยกคลึงบ่อย ๆ เบอาคงจะชอบงานครัวมากขึ้นนาวินทร์ปิดประตูบ้านใส่กุญแจแล้วเดินลงบันได เวลาเย็นของป่าสวนยางมืดเร็วขนาดยังไม่ทันห้าโมงครึ่งก็เกิดเงาแสงสีอ่อนทอดยาวผ่านใบไม้ของต้นยางมายังลานจอดรถบรื้น!ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ขับรถออกจากลานจอดของบ้านหลังเล็กกลางป่าท้ายสวน กลับรถวนจนล้อสะบัดเข้าสู่เลนถนนลูกรังสีแดงฝ่าสวนยางออกไปยังถนนใหญ่เพื่อไปยังสวนข้างเคียง ไปหาสาวน้อยของเขา“ไอ้ห่า ไหนว่ะ”“
บทที่ 10-4ยามเย็นของอำเภอเล็ก ๆ ขอบชายแดนสุดของภาคใต้ เบอาขับรถกลับจากอำเภอไปยังทางที่คุ้นเคยโดยไม่คิดเอะใจอารมณ์ยังขุ่นมัวจากเรื่องเมื่อบ่ายจนไม่ต้องการเห็นหน้านายหัวตัวต้นเรื่อง เสียงเอะอะโวยวายเมื่อเธอโทรศัพท์ไปบอก นึกภาพใบหน้าคมเข้มของนายหัวอารมณ์ฉุนเฉียวให้ยิ้มกริ่มในหน้าอารมณ์ดีขึ้นมาหน่อย มองไปยังเบาะด้านข้าง นอกจากเสียตัวเป็นดอกเบี้ย เธอยังต้องเอาใจซื้อของขวัญวันเกิดให้เขาอีกยายเบย์ เธอนี่มันใจง่ายจริง ๆจากวันนั้นในบ้านริมทะเลเธอเริ่มรู้สึกแล้วว่านายหัวนาวินทร์มีใจให้เธอ เขาให้คำมั่นว่าจะไม่มีใครอีกตลอดระยะสัญญาสัญญาที่ทำกันไว้หนึ่งปีแม้ดูเหมือนว่าจะนานเกินพอแต่เบอากลับไม่คิดเช่นนั้น หนึ่งปีมันช่างสั้นเหลือเกินและเธอเก็บเกี่ยวช่วงเวลานี้ให้ดีที่สุดเป็นความทรงจำไว้ในยามที่ต้องจากกันหน้าหวานคมลูกครึ่งอมยิ้ม เมื่อวันก่อนพาเธอไปทานข้าวร้านเดิมมาอีกครั้งทั้ง ๆ ที่ก็รู้ว่าเจ๊ศศิคงจะเที่ยวเอาไปเป่าประกาศ และในที่สุดเธอก็ได้ทานอาหารรสจืดสมใจแต่นายหัวกลับทำหน้าปุเลี่ยนเพราะรสชาติชืดเกินไปเธอมองไปยังข้างทางที่มีแต่ป่าสวนยางสุดลูกหูลูกตาในแถบนี้ล้วนส่วนใหญ่เป็นของนายหัวที่แบ่งให้ค
บทที่ 10-3แพรวนภากำเช็คในมือแน่น จำนวนเงินสองล้านมากโขสำหรับการตั้งต้นชีวิตใหม่ เธอลงทุนกับนายหัวไว้มากเกินกว่าจำนวนที่นายหัวเซ็นเช็คมาให้ ทั้งแรงกายแรงใจ ร่างกายของเธอพร้อมสำหรับนายหัวคนเดียวสาวร่างอวบหยิบเช็คใส่กระเป๋าสะพาย หลังจากลุกขึ้นจากโต๊ะแผนกบัญชีของโรงแรมชื่อดัง แพรวนภาไม่แน่ใจว่าคนในแผนกนี้จะสงสัยที่มาของเช็คใบนี้หรือไม่ว่าเพราะเหตุใดนายหัวถึงสั่งจ่ายเงินเป็นจำนวนมากผ่านมาแล้วเกือบอาทิตย์ที่เธอไม่พบกับนายหัวอีกเลย เขาเหมือนหายไปจากตัวเมืองหาดใหญ่จนน่าแปลกใจ เธอพาร่างเดินผ่านโถงทางเข้ากระทั่งพบกับคนรู้จักคุ้นเคย“อ้าว แพรว ไม่เจอกันนาน”ใบหน้าอย่างคนใต้ของแพรวนภาค่อนข้างตกใจเมื่อเจอกับแฟนเก่าสมัยช่วงที่เธอเลิกลากับนายหัว ผู้ชายเลวที่ตบตีเธอสารพัดและยังปอกลอกเงินที่นายหัวให้มาจนเกลี้ยงเธอจึงพยายามเดินเลี่ยงแต่มือแข็งสีเข้มดึงไว้ ใบหน้าหล่อแต่เหี้ยมโหดยิ้มกริ่ม“จะรีบไปไหน ทำเป็นคนไม่รู้จักกันไปได้”แพรวนภารู้สึกขยะแขยงเต็มทน เธอสลัดแขนจนหลุดจากการเกาะกุม มองหน้าเหี้ยมที่แฝงความหื่นกาม“ต้องการอะไร!”“ไม่เห็นยาก ดูก็รู้ว่าต้องการอะไร”“ฉันไม่มีเงินให้แกหรอกไอ้สิงห์”“โอ๊ะโ
บทที่ 10-2เธอสังเกตว่าเขาไม่ยกแก้วเบียร์ขึ้นดื่ม นั่งใช้ข้อศอกเท้าบนหัวเข่าใบหน้าครุ่นคิดแล้วจึงยืดร่างขึ้นนั่งตรงเอี้ยวใบหน้ามองเธอตรง ๆ“แพรวเอาของใช้ส่วนตัววางไว้ในบ้านริมทะเล ในตู้เสื้อผ้า”แพรวนภาหน้าแดงซ่านจากพวงแก้มลงสู่ลำคอ อับอายจากคำพูดเชิงตำหนิ สาวร่างอวบกำลังคิดหาคำพูดแก้ตัว เธอยื่นมือออกไปจับต้นขาอุ่นร้อนบีบเบา ๆ“แพรวขอโทษค่ะ แพรวคิดสั้นไปหน่อย คิดแค่ว่าวันหลังไปอีกจะได้ไม่ต้องเตรียมของไปเยอะ”สายตาคมกล้าหลุบตาลงมองมือนุ่มนิ่มเล็บตกแต่งทันสมัยจากการทำสีผิดไปจากสาวน้อยอีกคน เขาขยับตัวให้มือของแพรวเลื่อนลงจากตัก“ฉันทิ้งมันไปแล้ว เพราะมันก็ไม่กี่ชิ้น แล้วจะจ่ายเงินชดใช้ให้”เธอกลืนน้ำลายลงคอ ดวงตาเรียวคมเฉียงขึ้นมีน้ำรื้นขึ้น ชักมือกลับมาวางไว้บนตัก“ค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ นายหัวไม่ต้องให้แพรว แพรวได้เงินจากนายหัวมาเยอะแล้วค่ะ”นาวินทร์เอี้ยวหน้ามองเธออีกครั้ง จ้องสบตาเธอให้แพรวนภาเข้าใจไม่ผิดในสิ่งที่เขาจะพูดต่อจากนี้“ฉันจะให้เงินเธอก้อนหนึ่งสำหรับการตั้งต้นชีวิตใหม่ หลังจากนี้ฉันคงไม่ได้มาหาเธออีก ส่วนงานที่โรงแรมฉันไม่ขัดข้องที่เธอจะทำต่อไปเพราะเธอทำมันได้ดี”แพรวนภาสะอึก ท
บทที่ 10-1“พี่วินทร์แวะร้านขายยาให้เบย์ด้วยนะคะก่อนจะถึงโรงแรม”นาวินทร์เอี้ยวหน้ามองอย่างแปลกใจแต่ไม่ถามอะไรเมื่อเห็นร้านขายยาตรงข้างหน้าพอดีจึงจอดรถเทียบทางเท้า มองตามร่างบางที่เข้าร้านขายยาไปสักพักใหญ่จึงเห็นเธอเดินออกมาจากร้านพร้อมถุงในมือ ดูแล้วไม่ใช่ยาจำนวนมากปัง!“ไปกันเถอะค่ะ”นาวินทร์เคลื่อนล้อรถออกจากริมทาง เหลือบตามองมือของเบอาที่เอายาใส่กระเป๋าสะพายไปอย่างรวดเร็ว“ซื้อยาอะไรมาน่ะ”“ก็ยาของผู้หญิงค่ะ ไม่มีอะไร เออ วันนี้เบย์จะกลับไปบ้านเลยนะคะ แล้วพี่วินทร์ก็นัดเบย์มาแล้วกันว่าจะทำสัญญาวันไหน”“สัญญา?”“อ้าว ก็สัญญาเงินกู้ฉบับใหม่ไงคะ”เอี๊ยดดด!!เบอาใช้มือบางยันร่างของตัวเองที่คอนโซลรถเมื่อจู่ ๆ นาวินทร์หักรถเข้าทาง เธอเอี้ยวหน้ามองด้วยความสงสัย“พี่วินทร์จอดทำไมคะ”“ยังจะถามอีก แล้วห่วงอะไรกับสัญญาเงินกู้”“อ้าว ก็มันมีการเปลี่ยนแปลงนี่คะ ต้องยึดเวลาไปอีกสองปี”“ฮึ ที่แท้ก็ถวายตัวให้พี่เพราะสัญญานี่เองใช่ไหม ต้องลงรายละเอียดด้วยไหมว่าต้องเอากันกี่ครั้งต่อวันในสัญญา”“พี่วินทร์!!”หน้าหวานคมแดงซ่านเป็นลูกตำลึง ยกมือขึ้นทุบบ่านาวินทร์สองครั้ง“พี่วินทร์จะเอายังไง! ไม่ทำก
บทที่ 9-3 18+“เบย์จะกลับบ้าน ถอยไป!”“ไปตอนนี้ไม่ได้ พรุ่งนี้พี่จะไปส่ง”“พี่ไม่ต้องไปส่งก็ได้ เบย์จะเดินไปเอง แล้วถ้าเจอใครก็ขอโบกรถเข้าอำเภอ”เขาคว้าต้นแขนของเบอาไว้กระชากกลับ อกแน่นด้วยอารมณ์บางอย่างที่อธิบายไม่ถูก ทั้งรู้สึกผิด ทั้งเจ็บปวด ทั้งกลัวว่าเธอจะไม่กลับมาอีกเหมือนเมื่อห้าปีก่อน“ไม่! พี่ไม่ให้ไป”เบอาฉุนขาด เธอหันหน้ากลับมาจ้องเขาเต็มตา ความรู้สึกอัดแน่นท่วมท้นอยู่ข้างในและร้องไห้ไปแล้ว แต่เธอจะไม่ปล่อยให้เขาได้เห็นน้ำตาของเธอเด็ดขาด“นายหัวมีสิทธิ์อะไรในตัวฉัน”“สิทธิ์!!”เขากระชากเธอเข้ามาแนบกายแน่นขึ้น ชะโงกหน้าลงมองสาวน้อยที่สู้ตาไม่ถอย เธอโกรธจัดและเขาก็เช่นกัน เขากำลังจะถูกทิ้งอีกครั้ง“บอกให้ว่าสิทธิ์อะไร สิทธิ์ของการเป็นผัวยังไงล่ะ”“ฮึ ผัว ผัวงั้นเหรอ! งั้นเบย์คงมีผัวร่วมกับคนอื่นเยอะเกินไปนายหัวว่ายังงั้นไหม ปล่อย!!”“ให้ตายสิเบย์ ฟังพี่ก่อน เบย์จะให้พี่ทำยังไงก็พูดมาสิ อย่าทำแบบนี้ อย่าเดินจากไปอีก”“ทำยังไง? ทำไมนายหัวจะต้องทำด้วยคะ เบย์เป็นเพียงลูกหนี้เท่านั้น นายหัวไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ กลับไปเราจะเขียนสัญญาให้ละเอียด ต่อไปก็นัดกันที่โรงแรมแล้วกันค่ะ เบย์จะได