บทที่ 2-4
หลังจากยืนไตร่ตรองอยู่สักพักเธอจึงตัดสินใจลงไปชั้นล่างเพื่อไปหยิบน้ำขวดใหม่ คิดว่าดึกป่านนี้ทุกคนคงหลับกันหมด ส่วนพี่ชายทั้งสองคนของนารินทร์จากที่เพื่อนเล่าให้ฟังไปค้างที่อื่นหนึ่งคืน เธอจึงค่อยเปิดประตูออกมาก่อนโผล่หน้าหวานมองโถงมืดสนิทค่อยผ่อนลมหายใจเดินออกไปจากห้อง
ชั้นล่างมืดสนิทเหมือนกันแต่ยังพอมองเห็นลาง ๆ จากไฟด้านนอกระเบียงทางเดินที่ส่องเข้ามา
เมื่อลงมายังชั้นล่างจึงก้มหน้าอยู่หน้าตู้เย็นหยิบน้ำเย็นขวดใหม่ออกมา รินใส่แก้วที่เตรียมไว้โดยใช้แสงไฟจากตู้เย็นที่พอมองเห็นยืนดื่มน้ำอยู่หน้าตู้เย็น
ใจยังนึกภาพเช้าวันเสาร์ แผ่นหลังกว้างสีเข้มขยับไหวบนร่างหญิงสาวคนนั้น ชีพจรเธอเต้นรัว แต่มันมีความรู้สึกอื่นอีกแทรกเข้ามา ช่างให้ความรู้สึกแปลกประหลาด อาการหน่วงในท้องเพิ่มขึ้นเมื่อนึกภาพว่า ถ้าผู้หญิงคนนั้นเป็นเธอจะเป็นเช่นไร
ปลั๊ก!!
“ว้าย!!”
เพล้ง!!
เบอาสะดุ้งสุดตัวเมื่อจู่ ๆ ไฟในครัวสว่างจ้า มือเผลอปล่อยแก้วน้ำที่กำลังยกดื่มร่วงหล่นแทบเท้า ดวงตากลมโตเบิกกว้างมองไปยังตัวต้นเหตุที่ยืนพิงขอบประตูจ้องเธอด้วยดวงตาคมกล้า
จากลักษณะของการเป็นเจ้าของบ้าน เธอคาดว่าเขาคงเป็นพี่ชายคนใดคนหนึ่งของนารินทร์ หากแต่ผู้ชายตรงหน้าเธอไม่มีส่วนใดเลยที่คล้ายกับเพื่อนของเธอ
ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ผิวสีเข้ม ใบหน้าแกร่งดวงตาคม จมูกโด่งงองุ้ม ริมฝีปากหนา ผมสีดำสนิทแม้จะหวีเรียบแต่ยังมองเห็นว่าหยักศก ร่างสูงสวมเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินเข้มปลดกระดุมสองเม็ดข้างบน พับแขนเสื้อถึงข้อศอก
เขายืนด้วยท่าทางสบาย ๆ พิงขอบประตูห้องครัวกอดอกมองเธออย่างสำรวจตรวจตราตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วหยุดที่ดวงตาของเธอ ดวงตาคมกล้าจ้องเธอไม่กระพริบจนใบหน้าเธอเห่อร้อน
กายสาวแรกรุ่นพลันรู้สึกหน่วงในท้อง ความรู้สึกแปลก ๆ คล้ายกับเช้าวันที่เธอเห็นสองคนนั้น เบอาไม่ชอบความรู้สึกนี้เอาเสียเลย มันทำให้เธอควบคุมตัวเองไม่ได้ ร่างกายวัยสาวกำลังตอบสนองต่อการจับจ้องสนิทชิดเชื้อ
เขากวาดตามองเธออีกครั้งก่อนจะหยุดตรงทรวงอก เนินทรวงพลันตอบสนองสายตาคมเข้มสั่นไหวเสียดสีเนื้อผ้า ซึ่งทำให้เธอนึกขึ้นได้ว่าเธอไม่ได้สวมเสื้อชั้นใน
“อย่าเพิ่งขยับ”
เสียงทุ้มทรงอำนาจเอ่ยขึ้นก่อนจะก้าวเข้ามาใกล้ เบอาเริ่มถอยเท้าหนีทันทีตามสัญชาตญาณจนเขาต้องฉุดข้อมือเธอไว้ ผิวของเธอช่างนุ่มนวลและขาวจัด เพียงเขากำไว้แน่นเล็กน้อยกลับทำให้เกิดรอยแดงรอบข้อมือ
ดวงตาคมดุดันมองไล่ไปยังท่อนแขนกลมกลึงแล้วหยุดตรงทรวงอกกำลังชูชันเบียดเสื้อยืด ฉับพลันกายชายขยายใหญ่ทั้ง ๆ ที่เขาเพิ่งได้ปลดปล่อยความสุขไปกับหญิงสาวที่เขาเลี้ยงดูไว้
ฝ่ามือหนาอุ่นร้อนบนข้อมือแทบทำให้เธอมอดไหม้ ดั่งกระแสไฟวิ่งปราดไปทั่วร่างกาย เขาอยู่ใกล้จนเธอได้กลิ่นบุหรี่ กลิ่นแอลกอฮอล์ และกลิ่นหอมหวานจนน่าเอียนของน้ำหอมผู้หญิง ริมฝีปากเย้ายวนเม้มนิ่งอย่างไม่ชอบใจ
“บอกให้อยู่เฉย ๆ เดี๋ยวจะเหยียบเศษแก้ว”
เบอาไม่เปล่งเสียงใดใด พยายามบิดข้อมือออก ความกลัวจากอารมณ์หวามไหวบางอย่างทำให้เธอต้องรีบหนี
“นี่ พูดไม่ฟังเลย”
คนตัวโตกว่าไม่ทันสังเกตอารมณ์ของสาวน้อยหน้าคมร่างระหงตรงหน้า เขาคว้าเอวคอดกิ่วเล็กแล้วยกร่างของเธอขึ้นจนเบอาตกตะลึง เธอจับบ่าแกร่งของเขาไว้แน่นเมื่อเขายกร่างเธอข้ามกองเศษแก้วแล้วถอยออกมา แต่ยังไม่ยอมปล่อย
นาวินทร์ยกร่างของเบอาขึ้นจนระดับสายตาของเธอพอดีกับเขา ดวงตาคมกริบลึกล้ำเปี่ยมด้วยไฟปรารถนาลุกโชนจนแม้แต่สาวไร้เดียงสาเช่นเธอยังมองออก เปลือกตาเขาหลุบต่ำมองปากเธอก่อนจะกลืนน้ำลาย ลำตัวนุ่มนิ่มแนบไปกับกายแกร่ง เขารัดเธอไว้จนแน่น
คนร่างโตแทบลืมหายใจ ร่างสาวน้อยเบาหวิวอ้อนแอ้นกว่าที่คาดคิด มือใหญ่อุ่นร้อนโอบรัดแผ่นหลังบอบบางให้เธอแนบชิดไปกับเขา ร่างของคนสองคนแนบสนิทชิดกัน ใกล้จนเขาได้กลิ่นหอมหวานของเด็กสาว
แต่กลับเบอาแล้ว ยิ่งเขาและเธอชิดใกล้กันกลิ่นน้ำหอมยิ่งฉุนกึกตลบอบอวล มือเรียวกำมือเป็นกำปั้นทุบตรงหน้าอกเขาอย่างแรง ขาห้อยต่องแต่งแกว่งไกวสะบัดไปมา
ตุบ ตุบ!
“ไอ้บ้า! ปล่อยนะ! ไม่งั้นจะร้องให้ลั่นบ้าน!”
บทที่ 2-5แทนที่คนตัวโตจะสลดแล้วปล่อยร่างของเธอ กลับกลายเป็นยิ้มกว้างกวนโมโหราวกับว่าเขากำลังสนุกที่ได้ทำเช่นนั้น“พูดได้ด้วยเหรอ นึกว่าเป็นใบ้”กายสาวของเบอาแปรปรวน ฮอร์โมนวัยสาวทำให้ร่างระหงสั่นระริก ทั้งสะท้านจากอารมณ์หวามไหวที่ปะทุขึ้น ทั้งกรุ่นโกรธจากคำพูดยียวนของคนตรงหน้าเธอเม้มริมฝีปากหน้าแดงก่ำ บิดร่างโดยใช้มือดันบ่าเขาไว้ สังเกตเห็นคนตัวโตที่กอดเธอไว้สูดลมหายใจเข้าลึกก่อนจะปล่อยร่างเธอไถลลงตามลำตัวไม่ว่าเขาจะเป็นใครเธอรู้ดีว่าคนอย่างเขาต้องการอะไรแล้วต้องได้ เธอรู้ว่าเขาต้องการเธอ มันฉายชัดอยู่ในแววตาสีดำสนิทแต่เธอยังเป็นเด็กเกินกว่าจะเล่นเกมนี้ เบอารู้ว่าตัวเองนั้นคงแพ้ตั้งแต่ยังไม่ทันเดินหมาก ฉะนั้นทางที่ดีเธอควรรีบหนีให้ไกลและผลักเขาให้อยู่ห่างจากวงโคจรของเธอให้ห่างที่สุดร่างบางรีบหันหลังกลับเตรียมวิ่งหนีขึ้นบ้านหากแต่มือแกร่งเอื้อมออกมารั้งเธอไว้หน้าหวานคมลูกครึ่งแหงนหน้าเรียวสวยขึ้นมองอย่างหาเรื่อง กำลังแย้มริมฝีปากเพื่อต่อว่า แต่คำพูดจากเสียงทุ้มต่ำทำเธอหุบปากใบหน้าซับสีแดงระเรื่อขึ้นทีละน้อยจนถึงลำคอ“มาบ้านคนอื่นก็ควรระมัดระวังการแต่งกายให้มิดชิดด้วยเด็กดี”ดวงตา
บทที่ 3-1อย่าเอาแน่เอานอนกับลมฟ้าลมฝนของภาคใต้ หลังจากตกหนักมาหลายวันติดทั้งเมื่อวาน พอมาวันนี้ท้องฟ้ากระจ่างใสดั่งไร้พายุภายในรถเงียบงันมีเพียงเสียงเพลงจากเครื่องเล่น เบอาพยายามข่มกลั้นอารมณ์ตื่นตระหนกเมื่อรู้ว่าผู้ชายคนนั้นคือนาวินทร์เขาคนนั้นกับพี่ชายของนารินทร์เป็นคน ๆ เดียวกันแขนเรียวขาวนวลกอดเป้ด้านหน้าตัวเองไว้แน่นตาจดจ้องแต่ถนนที่นาน ๆ จะมีรถผ่านมาสักคันนาวินทร์เองก็เงียบไปเช่นกัน เขาเพียงไม่อยากให้สาวน้อยที่นั่งด้านข้างตกใจไปมากกว่านี้ การปล่อยให้เธออยู่กับความคิดของตัวเองอาจเป็นสิ่งที่ดีกว่าเบอาตัวเอนเมื่อรถยนต์ปาดลงไหล่ทางเพื่อเลี้ยวเข้าสู่ทางเข้าสวนยางของที่บ้าน แล่นมาไม่นานจึงเห็นตัวบ้านหลังขนาดไม่ใหญ่แต่ก็ไม่เล็ก“ขอบคุณที่มาส่งค่ะ อื้อ ปล่อยนะคะ”นาวินทร์รวบมือที่ยกขึ้นไหว้เขาไว้ด้วยฝ่ามือเดียว“เดี๋ยวพี่จะลงไปทำความรู้จักกับพ่อแม่เบย์หน่อย”“ทำไมคะ? พ่อคงออกไปสวนแล้ว”หรือว่าเขาจะบอกเรื่องที่เราไปแอบดูสายตาสีทองหวาดระแวงทำให้นาวินทร์หัวเราะเบา ๆ เสียงทุ้มต่ำดังก้องภายในรถ สั่นสะเทือนไปทั้งกายสาว“ถ้ายังงั้นคุณแม่คงอยู่ใช่ไหม”เบอาพยักหน้าหงึก ๆ ดึงมือออกจากการเก
บทที่ 3-2“เบย์ดูโน้นสิ สวยจัง โน้นก็สวย”“อือ ใช่ ขอถ่ายรูปเก็บไว้ก่อนนะ”เบอายกกล้องถ่ายรูปขึ้นเพื่อถ่ายรูปขบวนรถแห่เทียนเข้าพรรษาประจำปีของหาดใหญ่ที่จัดอย่างยิ่งใหญ่ทุกปี ขบวนยาวเหยียดจากหัวถนนจนสุดอีกถนนเต็มไปด้วยผู้คนทั้งคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยว“เหนื่อยหรือยัง”“ยังได้อีกนิดหน่อย”เบอายังง่วนกับการถ่ายรูปจนเพลิน ไม่ทันระวังถอยหลังไปชนเข้ากับชายร่างสูงขาวหน้าตาดี เสียงหวานของนารินทร์พลันดังขึ้น“พี่วี ไปไหนมาคะ”“กำลังจะกลับรีสอร์ตแล้ว”“พอดีเลย น้องก็กำลังจะกลับแล้ว ออกมาตั้งแต่เช้าหิวจะแย่”นาวีมองเลยไปทางด้านข้างเพื่อนของนารินทร์ที่เขาไม่เคยเห็นหน้า“อ้อ พี่วี นี่เบย์เพื่อนรินทร์ไงคะ ที่เคยเล่าให้ฟัง”“สวัสดีครับน้องเบย์ เป็นไงบ้างย้ายมาอยู่ที่นี่แล้วคุ้นหรือยัง”“สวัสดีค่ะ ก็กำลังพยายามปรับตัวอยู่ค่ะ”“เดี๋ยวก็ชินครับ คนใต้เราจริงใจ มีน้ำใจและที่สำคัญหล่อทุกคน ฮ่า ฮ่า”“แหมพี่วี อันนี้ยกหางตัวเองหรือเปล่าคะ ไปกันเถอะคะน้องหิว”เบอาเดินตามหลังพี่น้องสองคนที่ดูจะสนิทสนมกันดีไม่เหมือนพี่ชายคนโตที่นารินทร์ดูจะเกรงกลัวมากกว่า“ไปรถพี่วีแล้วกัน เดี๋ยวน้องให้ลุงทองขับตามไปที่รีสอ
บทที่ 3-3ตูม กรี๊ด ว้าย!!รีสอร์ตระดับหรูห้าดาวราคาสูงแต่กลับเต็มทุกห้อง ยิ่งเทศกาลแห่เทียนเข้าพรรษายิ่งคนเน้นขนัด เบอาสวมเสื้อคลุมยืนมองสระว่ายน้ำที่มีคนจำนวนหนึ่งจับจองอยู่ก่อนแล้ว“ลงเลยก็ได้เบย์ ไม่เห็นเป็นไร”เบอาเหลือบตามองเห็นนาวีและนารินทร์ลงสระว่ายน้ำไปแล้วจึงตัดสินใจถอดเสื้อคลุมออกจากร่างสูงโปร่งวางพาดบนเตียงนอนอาบแดดสาวน้อยวัยสะพรั่งกำลังเติบโตเป็นสาวแม้ว่าจะบอบบางหากแต่ความอวบอิ่มกลับมีมากพอจนล้นขอบชุดว่ายน้ำแบบบิกีนี่สีเข้ม ยิ่งผิวขาวจัดใสดั่งทารกทำให้เธอกลายเป็นจุดสนใจรอบสระเธอรีบลดร่างลงน้ำทันทีลอยคอจนเหลือเพียงส่วนคอขึ้นไปเท่านั้น สองพี่น้องยังหยอกเย้าแกล้งกันไม่หยุดทำให้เธอผละออกมาว่ายคนเดียวไปเรื่อย ๆกลุ่มคนเริ่มทยอยเลิกเมื่อเวลาผ่านไปสักพัก เบอาว่ายต่อจนถึงอีกขอบสระจึงได้หยุดพัก ใช้ข้อศอกเท้าขอบสระไว้แล้ววางศีรษะเอนลงนอนพัก แว่วเสียงสาว ๆ อีกกลุ่มด้านข้าง“นี่ ๆ นายหัวนาวินทร์มา”เสียงผู้หญิงด้านข้างเอ่ยชื่อผู้ชายคนที่เธอไม่ต้องการเจอมากที่สุดตอนนี้ แผ่นหลังบอบบางเหยียดตึง ขนแขนลุกเกรียวจนต้องใช้ฝ่ามือลูบ พยายามหักห้ามใจตัวเองไม่ให้หันหลังกลับ“ได้ข่าวว่าเขาคั่ว
บทที่ 3-4เขาเหลือบตาไปทางสาวน้อยที่ยังไม่ยอมหันกลับมา จนกระทั่งนารินทร์ว่ายไปใกล้จึงได้ขยับตัว ร่างสูงแกร่งยืดกายสูงขึ้นเดินอ้อมไปทางบันไดทางขึ้นสระกลมขณะที่เบอาว่ายน้ำตามนารินทร์อย่างไม่เต็มใจนักนายหัวเมืองหาดใหญ่ถึงกลับสูดลมหายใจลึกสะกดกลั้นอารมณ์ปรารถนาตัณหาอันแกร่งกล้าที่พุ่งขึ้นกระทันหัน เมื่อเบอาเดินขึ้นจากสระว่ายน้ำ รูปร่างสูงโปร่งของเบอาไม่ได้ผอมบางอย่างที่เห็นภายนอกยามสวมเสื้อผ้าหากแต่เป็นสาวเต็มตัวด้วยสัดส่วนอวบอิ่มทั้งด้านบนและสะโพกที่ผายออก เอวขอดกิ่ว หน้าท้องเนียนแบนราบ บิกีนี่สีเข้มยิ่งขับเน้นสีผิวขาวจัดดั่งน้ำนมเนียนละเอียดไปทั้งตัว เขารอจนเบอาสวมเสื้อคลุมเรียบร้อยจึงเดินตามไปสมทบหน้าหวานคมดวงตาสีน้ำตาลทองยังอารมณ์ขุ่นมัวจากเรื่องเล่าลือถึงความเสเพล ในระหว่างที่นิ่งฟังยิ่งได้ยินชื่อเสียงระบือไกลนอกจากพี่ชายเพื่อนรักจะเจ้าชู้มีหญิงสาวหลายคน ยังลามไปเรื่องพลังทางเพศล้นเหลือจนใบหน้าสาวน้อยแดงซ่านขวยเขินแทนคนเล่า ผู้หญิงพวกนั้นพูดออกมาไม่กระดากปาก แม้ตัวเธอเองไม่เคยเห็นเขาเปลือยกายเต็มตาแต่สาว ๆ สาธยายจนเธอแทบรู้ตำหนิทุกส่วนสัดของเขาว่าอยู่ตรงไหนบ้าง ยังขนาดของถุงยางที
บทที่ 4-1“สวัสดีค่ะคุณน้า”เบอาก้มไหว้สวัสดีแม่ของนารินทร์ขณะที่ก้าวเข้าบ้านหลังใหญ่อีกครั้ง กวาดตามองโดยรอบหวาดระแวงแต่ไม่พบใครจึงค่อยโล่งใจ“ไหว้พระเถอะจ๊ะ เข้ามาสิ รินทร์พาเพื่อนขึ้นไปนั่งเล่นก่อนก็ได้ เย็นค่อยลงมาทานข้าว”นารินทร์จูงมือเพื่อนรักขึ้นบันไดบ้าน เบอายังหวาดระแวง อันที่จริงเธอไม่อยากมาบ้านของนารินทร์เท่าไรนัก แต่ทนความเซ้าซี้ของเพื่อนไม่ได้ โดยให้เหตุผลว่าเป็นวันปีใหม่เลยตกลงใจมาค้าง“รินทร์ ปีใหม่ไม่มีใครอยู่บ้านเหรอ”“ไม่มีหรอก พากันไปในเมืองหาดใหญ่หมด พวกหนุ่ม ๆ ก็เงี้ยเหลือเพียงแค่เรา”เบอาค่อยยิ้มออกมาได้เดินอย่างสบายใจไปทางห้องนอนของเพื่อนรัก“นี่รินทร์ แล้วคืนนี้เราจะทำอะไรกัน”“ฮ่า ฮ่า เบย์ เรามีนี่ซ่อนไว้”“เห้ย! รินทร์ นี่มันไวน์นี่นา เอามาจากไหน เรายังซื้อไม่ได้นะ”“จุ๊ ๆ เบา ๆ สิ ไปลักมาของพี่วินทร์”“ตายแล้ว ถ้าพี่วินทร์รู้เขารินทร์เธอต้องแย่แน่ ๆ”“ไม่รู้หรอก ช่วงนี้ไม่ค่อยกลับบ้าน ไม่รู้ไปอยู่ที่ไหน อีกอย่างเหล้าไวน์เต็มตู้จะรู้ได้ยังไง”เบอาหยิบขวดไวน์ราคาแพงขึ้นมาอ่าน แต่ไม่รู้เรื่องอยู่ดีว่าแต่ละอักษรบนฉลากหมายถึงอะไรบ้าง“แล้วเราจะเปิดยังไง”“เดี๋ยว
บทที่ 4-2ร่างระหงก้าวเข้าโซนเปียกอาบน้ำ ห้องน้ำบ้านนายหัวหรูหรากว่าที่บ้านของเธอมาก ซึ่งเป็นส่วนที่เธอชอบที่สุดยามมาพักที่นี่แอ๊ด!!“เสร็จแล้วรินทร์ ตัวไปอาบน้ำเถอะจะได้สร่างเมา”เบอาเดินไปพาดผ้าเช็ดตัว เอะใจเอี้ยวหน้ากลับมาดู เพื่อนรักขึ้นนอนบนที่นอนเรียบร้อยแล้ว“หลับไปสะแล้วเพื่อนรัก”เธอเดินกลับมายังเตียงนอนหยิบผ้าห่มขึ้นพาดตัวนารินทร์ก่อนจะก้มลงเก็บของบนพื้น หลังจากอาบน้ำค่อยดีขึ้น อาการเวียนหัวจากฤทธิ์ไวน์รสแรงค่อยดีขึ้นเบอาทิ้งถุงขนมลงถังขยะ หยิบไม้กวาดทำความสะอาดเรียบร้อยก่อนจะรวบรวมจานและแก้วไว้ในอ้อมแขนเดินออกจากห้องโถงทางเดินส่องสว่างด้วยไฟสีเหลืองนวล มือเล็กพยายามโอบแก้วไวน์ทั้งจานเดินลงบันได ทางล่างในครัวมืดสนิท เบอาพยายามให้ไหล่ดันเปิดปลั๊กไฟแต่ไม่อาจทำได้“เฮ้อ! เอาเถอะ ไปทั้งแบบนี้”ร่างระหงเดินคลำทางในครัวกระทั่งถึงอ่างล้างจานจึงถอนหายใจโล่งอก วางจานและแก้วลงในอ่าง เสียงฝนตกหนักยังดังต่อเนื่องเปรี้ยง!!“ว้าย!!”เบอาอุทานตกใจยกมือปิดหูรีบเดินออกจากครัวโดยไม่ทันมองชนเข้ากับบางสิ่งแข็งดั่งคอนกรีตตุบ!มือสีเข้มคว้าร่างเล็กไว้ได้ทันก่อนหงายหลัง ดึงต้นแขนเข้าหาตัว เบอ
บทที่ 4-3มือเล็กเกาะบ่าแกร่งด้านบนไว้แน่นแหงนใบหน้ารับจูบร้อนแรงแทบมอดไหม้ นาวินทร์ปล่อยคางมนกำเส้นผมอ่อนนุ่มแน่นดึงให้ใบหน้างามใต้ร่างแหงนเงยขึ้นรับจูบถนัดถนี่“จูบตอบเบย์ ใช้ลิ้นสิ”เขาพึมพำพร้อมครางออกมาเมื่อล้วงมือเข้าไปในเสื้อยืดตัวเล็กจนเกาะกุมทรวงอกอวบอิ่มเต็มมือลงแรงคลึงด้วยอารมณ์ปรารถนาเต็มเปี่ยม“ไม่ อื้อ ปล่อยเบย์”เสียงเล็กหวานนุ่มอู้อี้ในลำคอยามลิ้นสากล้วงลึกกระหวัดเกี่ยวกระทั่งเธอต้องตอบสนอง หน้าอกรวดร้าวยามเขาลงแรง ชายสูงใหญ่ด้านบนแทรกหัวเข่าลงดันจนต้นขาเธอเปิดอ้า เลื่อนใบหน้าลงสู่ทรวงอกขาวโพลนมือเบอาคว้าผมเขาไว้แน่นดึงขึ้นแต่นาวินทร์ขืนแรงจนปากประกบครอบยอดถันเล็กดั่งผลเชอรี่เสียงฝนตก กลิ่นดิน ฟ้าแลบมาเป็นระยะ ๆ เสียงลมหายใจกระชั้นจากสองหนุ่มสาว และเสียงครางหวานใสของสาวน้อยนอนระทวยยามลิ้นตวัดดูดกลืนยอดถันท่อนแกร่งแข็งแนบเนินสาวคลึงเป็นจังหวะ เบอารวดร้าวหน่วงหนึบทั่วช่องท้อง แอ่นร่างหยัดรับสัมผัสสนิทชิดเชื้อ รู้สึกเปียกชื้นด้านล่าง พลันสะดุ้งสุดตัวเมื่อมือใหญ่ล้วงเข้าไปในกางเกงขาสั้น“อื้อ ไม่ได้ ไม่ หยุดนะนายหัว”มือสีเข้มล้วงลงยกร่างขึ้นโน้มศีรษะก้มจูบปิดปากกลั้นเส
บทที่ 12-1** nc จบบริบูรณ์สาวน้อยหน้าหวานลูกครึ่งโปรตุเกสนอนหลับสนิทคว่ำหน้าบนหมอนใบนุ่มจนไม่รู้เลยว่ายังมีชายหนุ่มอีกคนนอนกระสับกระส่ายอยู่ข้าง ๆนาวินทร์เพียรพยายามทั้งลูบตัว ทั้งกระซิบและพลิกร่าง แต่สาวสวยยังนอนพลิกร่างกลับไปคว่ำตามเดิม ลูบผ่านต้นแขนจนถึงข้อมือบางกระทั่งถึงแหวนหมั้นเพชรเม็ดเล็กพอเหมาะอย่างที่เธอชอบเขาหงายตัวลงใช้มือก่ายหน้าผากสะกดกลั้นความต้องการยามเช้าที่พุ่งทะยานแม้ว่ายามค่ำคืนจะสุขสมไปแล้วเปลือกตาของเบอายังหลับพริ้มไม่รับรู้สิ่งรอบข้างจากความเหนื่อยอ่อนจนเขาต้องลุกขึ้นจากเตียงหยิบบุหรี่ออกไปสูบมือควานหาไฟแช็กในลิ้นชักโต๊ะแต่ไม่เจอ พลันนึกขึ้นได้ว่าเมื่อคืนตอนพาเบอาไปทานข้าวเขาได้ฝากไว้ที่เธอ จึงเดินกลับไปยังหน้ากระจกหยิบกระเป๋าสะพายสีดำใบเดิมที่เธอชอบใช้ขึ้นมาเขาล้วงมือควานหาและพบว่ามันอยู่ที่ก้นกระเป๋าเพราะน้ำหนักของไฟแช็กแบบซิปโป ขณะที่กำลังหยิบพลันนิ้วไปโดนแผงยาบางอย่าง ด้วยความสงสัยจึงหยิบมันออกมานาวินทร์หรี่ดวงตาคมกริบลงเมื่อเห็นแผงยาชัด ๆ ท่ามกลางแสงยามเช้าที่เริ่มสาดเข้ามาในห้อง เม็ดสีชมพูสวยบนแผงมีลูกศรชี้ว่าควรเริ่มทานจากเม็ดไหนไปถึงเม็ดไหนยาคุม!
บทที่ 11-3เขาหันกลับไปมองเห็นสาวน้อยออกมายืนอยู่ด้านข้างตัวรถห่มด้วยผ้าห่มผืนใหญ่สีขาวเหมือนเดิม สีของผ้าห่มขาวโพลนตัดกับสีของผืนป่ายามโพล้เพล้นายหัวนาวินทร์ยังเดินขึ้นบันไดบ้านต่อจนถึงร่างของไอ้สิงห์ จากนั้นเดินเลยไปยังครัวที่ทำใหม่ปลดถังแก๊สออกมาลากจนถึงกลางบ้านเทน้ำมันเบนซินโดยรอบตัวและเทเป็นทางจนเกือบถึงประตูบ้านก็หมดเสียก่อน ยืนมองร่างที่เริ่มเย็นชืดของไอ้สารเลวอีกครั้ง“ไม่ต้องกังวลไอ้สิงห์ เดี๋ยวตัวมึงก็ร้อนแล้ว”เขาหยิบซิบโปออกมาจากกระเป๋ากางเกงจุดใส่เศษกระดาษนิตยสารที่หยิบมาจากในบ้านแล้ววางให้ตรงกับคราบน้ำมันเบนซินที่เริ่มระเหยจากนั้นจึงปิดประตูบ้านแล้วลงมาจากตัวบ้านให้เร็วที่สุดวิ่งกลับไปที่รถบรึ้ม!!นาวินทร์สะดุ้งเมื่อเสียงระเบิดจากถังแก๊สดังขึ้นพร้อมกับเสียงไม้บ้านแตกลั่นเขาหันไปมองบ้านหลังเล็กที่เขาสร้างขึ้นมาเพื่อไว้พักผ่อนกับสาวๆ แต่บ้านหลังนี้กลับกลายเป็นสถานที่ที่เกือบจะทำให้เขาเสียเบอาไป“พี่วินทร์”นาวินทร์เดินกลับมาที่รถสวมกอดเบอาไว้แน่น โน้มใบหน้าลงหอมศีรษะ“ขึ้นรถเถอะ พี่จะพาไปบ้านพี่”“แต่ว่า..”“อย่าเพิ่งดื้อนะคนดี ใจพี่จะไม่ไหวแล้ว”เบอาเงยหน้ามองชายร่า
บทที่ 11-2เอี๊ยดดดด!!นาวินทร์หักหลบรถกระบะเก่าที่สวนกับเขากลางทางขณะที่กำลังออกจากถนนเข้าท้ายสวนเห็นลาง ๆ เป็นผู้ชายสองคนมีหญิงสาวอยู่ในอ้อมแขนของคนนั่งฝั่งข้างคนขับอีกหนึ่งคนเขาขับรถต่อไปอีกสักพักจึงนึกขึ้นได้ว่าถนนสายนี้เป็นทางส่วนบุคคลเข้าท้ายสวนของเขาโดยเฉพาะ และมีไม่กี่คนที่รู้ทางนี้เอี๊ยด!!นาวินทร์เหยียบเบรกกะทันหันเมื่อนึกถึงผู้หญิงที่ถูกขนาบข้าง หล่อนดูเหมือนจะนอนนิ่งไม่ไหวติง ผมสีน้ำตาลอ่อนพระเจ้า!! ระยำ ไอ้ห่าเอ้ย!!เขาหักรถเลี้ยวกลับทันที ระยะทางที่เขาขับสวนกับรถคันนั้นเพิ่งผ่านไปไม่นานแต่ใจเขากลัวเหลือเกินว่าจะไปไม่ทันนาวินทร์เหลือบตามองผู้ชายร่างสูงผอมเกร็งผิวคล้ำที่เดินสวนออกมาบนไหล่ทางเล็ก มันเดินออกมาจากบ้านท้ายสวน สบตาตื่นตระหนกของไอ้หมอนั่นด้วยตาแข็งกร้าว แต่เขาไม่หยุดรถเวลามันกระชั้นชิดเกินไป ถ้าเขาหยุดรถถามมันตอนนี้ เบอาอาจถูกทำร้ายถึงขั้นเสียชีวิตเขาจอดรถดับเครื่องก่อนที่จะถึงทางเข้าบ้าน ตั้งใจไม่ให้คนร้ายอีกคนรู้ตัว เปิดลิ้นชักรถแล้วหยิบปืนสั้นออกมา เปิดดูกระสุนในรังปืนแล้วหมุนปิดขึ้นไกนกค้างไว้นาวินทร์ลงจากรถกระบะคันเก่าสีดำ เดินอาดไม่กลัวเกรงสิ่งใดตั
บทที่ 11-1บ้านหลังเล็กหรือกระท่อมที่นาวินทร์มักเรียกดูเรียบร้อยดี กลิ่นสีทาไม้เปลี่ยนจากสีไม้แดงเป็นสีไม้โอ๊ก เตียงใหญ่เขาสั่งให้เปลี่ยนใหม่เช่นกันพร้อมกับฟูกที่นอนเขาเดินออกไปดูในห้องน้ำ ช่างขาประจำทำงานดีเหมือนเคย อ่างอาบน้ำสุดหรูติดตั้งถูกต้องและงานเนี้ยบจากนั้นจึงเดินออกมาทางห้องครัวที่ทำเพิ่ม ใจคิดไปว่าบางวันอาจชวนสาวน้อยทำบาร์บีคิวนั่งเล่นนอกบ้านบ้างรอยยิ้มมุมปากผุดขึ้นบนใบหน้าคมเข้มยามนึกไปถึงดวงหน้างามของเบอา เธอคงบ่นบ้างเวลาให้ทำกับข้าวเพราะเป็นงานที่เธอไม่ถนัด แต่เขาจะคอยช่วยเป็นลูกมืออยู่ไม่ห่าง ยิ่งถ้าให้สาวน้อยลองนั่งบนเคาน์เตอร์ครัวหลังใหม่ขนาดความสูงกำลังพอดีแล้วมีเขาที่อยู่ตรงกลางมั่นโยกคลึงบ่อย ๆ เบอาคงจะชอบงานครัวมากขึ้นนาวินทร์ปิดประตูบ้านใส่กุญแจแล้วเดินลงบันได เวลาเย็นของป่าสวนยางมืดเร็วขนาดยังไม่ทันห้าโมงครึ่งก็เกิดเงาแสงสีอ่อนทอดยาวผ่านใบไม้ของต้นยางมายังลานจอดรถบรื้น!ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ขับรถออกจากลานจอดของบ้านหลังเล็กกลางป่าท้ายสวน กลับรถวนจนล้อสะบัดเข้าสู่เลนถนนลูกรังสีแดงฝ่าสวนยางออกไปยังถนนใหญ่เพื่อไปยังสวนข้างเคียง ไปหาสาวน้อยของเขา“ไอ้ห่า ไหนว่ะ”“
บทที่ 10-4ยามเย็นของอำเภอเล็ก ๆ ขอบชายแดนสุดของภาคใต้ เบอาขับรถกลับจากอำเภอไปยังทางที่คุ้นเคยโดยไม่คิดเอะใจอารมณ์ยังขุ่นมัวจากเรื่องเมื่อบ่ายจนไม่ต้องการเห็นหน้านายหัวตัวต้นเรื่อง เสียงเอะอะโวยวายเมื่อเธอโทรศัพท์ไปบอก นึกภาพใบหน้าคมเข้มของนายหัวอารมณ์ฉุนเฉียวให้ยิ้มกริ่มในหน้าอารมณ์ดีขึ้นมาหน่อย มองไปยังเบาะด้านข้าง นอกจากเสียตัวเป็นดอกเบี้ย เธอยังต้องเอาใจซื้อของขวัญวันเกิดให้เขาอีกยายเบย์ เธอนี่มันใจง่ายจริง ๆจากวันนั้นในบ้านริมทะเลเธอเริ่มรู้สึกแล้วว่านายหัวนาวินทร์มีใจให้เธอ เขาให้คำมั่นว่าจะไม่มีใครอีกตลอดระยะสัญญาสัญญาที่ทำกันไว้หนึ่งปีแม้ดูเหมือนว่าจะนานเกินพอแต่เบอากลับไม่คิดเช่นนั้น หนึ่งปีมันช่างสั้นเหลือเกินและเธอเก็บเกี่ยวช่วงเวลานี้ให้ดีที่สุดเป็นความทรงจำไว้ในยามที่ต้องจากกันหน้าหวานคมลูกครึ่งอมยิ้ม เมื่อวันก่อนพาเธอไปทานข้าวร้านเดิมมาอีกครั้งทั้ง ๆ ที่ก็รู้ว่าเจ๊ศศิคงจะเที่ยวเอาไปเป่าประกาศ และในที่สุดเธอก็ได้ทานอาหารรสจืดสมใจแต่นายหัวกลับทำหน้าปุเลี่ยนเพราะรสชาติชืดเกินไปเธอมองไปยังข้างทางที่มีแต่ป่าสวนยางสุดลูกหูลูกตาในแถบนี้ล้วนส่วนใหญ่เป็นของนายหัวที่แบ่งให้ค
บทที่ 10-3แพรวนภากำเช็คในมือแน่น จำนวนเงินสองล้านมากโขสำหรับการตั้งต้นชีวิตใหม่ เธอลงทุนกับนายหัวไว้มากเกินกว่าจำนวนที่นายหัวเซ็นเช็คมาให้ ทั้งแรงกายแรงใจ ร่างกายของเธอพร้อมสำหรับนายหัวคนเดียวสาวร่างอวบหยิบเช็คใส่กระเป๋าสะพาย หลังจากลุกขึ้นจากโต๊ะแผนกบัญชีของโรงแรมชื่อดัง แพรวนภาไม่แน่ใจว่าคนในแผนกนี้จะสงสัยที่มาของเช็คใบนี้หรือไม่ว่าเพราะเหตุใดนายหัวถึงสั่งจ่ายเงินเป็นจำนวนมากผ่านมาแล้วเกือบอาทิตย์ที่เธอไม่พบกับนายหัวอีกเลย เขาเหมือนหายไปจากตัวเมืองหาดใหญ่จนน่าแปลกใจ เธอพาร่างเดินผ่านโถงทางเข้ากระทั่งพบกับคนรู้จักคุ้นเคย“อ้าว แพรว ไม่เจอกันนาน”ใบหน้าอย่างคนใต้ของแพรวนภาค่อนข้างตกใจเมื่อเจอกับแฟนเก่าสมัยช่วงที่เธอเลิกลากับนายหัว ผู้ชายเลวที่ตบตีเธอสารพัดและยังปอกลอกเงินที่นายหัวให้มาจนเกลี้ยงเธอจึงพยายามเดินเลี่ยงแต่มือแข็งสีเข้มดึงไว้ ใบหน้าหล่อแต่เหี้ยมโหดยิ้มกริ่ม“จะรีบไปไหน ทำเป็นคนไม่รู้จักกันไปได้”แพรวนภารู้สึกขยะแขยงเต็มทน เธอสลัดแขนจนหลุดจากการเกาะกุม มองหน้าเหี้ยมที่แฝงความหื่นกาม“ต้องการอะไร!”“ไม่เห็นยาก ดูก็รู้ว่าต้องการอะไร”“ฉันไม่มีเงินให้แกหรอกไอ้สิงห์”“โอ๊ะโ
บทที่ 10-2เธอสังเกตว่าเขาไม่ยกแก้วเบียร์ขึ้นดื่ม นั่งใช้ข้อศอกเท้าบนหัวเข่าใบหน้าครุ่นคิดแล้วจึงยืดร่างขึ้นนั่งตรงเอี้ยวใบหน้ามองเธอตรง ๆ“แพรวเอาของใช้ส่วนตัววางไว้ในบ้านริมทะเล ในตู้เสื้อผ้า”แพรวนภาหน้าแดงซ่านจากพวงแก้มลงสู่ลำคอ อับอายจากคำพูดเชิงตำหนิ สาวร่างอวบกำลังคิดหาคำพูดแก้ตัว เธอยื่นมือออกไปจับต้นขาอุ่นร้อนบีบเบา ๆ“แพรวขอโทษค่ะ แพรวคิดสั้นไปหน่อย คิดแค่ว่าวันหลังไปอีกจะได้ไม่ต้องเตรียมของไปเยอะ”สายตาคมกล้าหลุบตาลงมองมือนุ่มนิ่มเล็บตกแต่งทันสมัยจากการทำสีผิดไปจากสาวน้อยอีกคน เขาขยับตัวให้มือของแพรวเลื่อนลงจากตัก“ฉันทิ้งมันไปแล้ว เพราะมันก็ไม่กี่ชิ้น แล้วจะจ่ายเงินชดใช้ให้”เธอกลืนน้ำลายลงคอ ดวงตาเรียวคมเฉียงขึ้นมีน้ำรื้นขึ้น ชักมือกลับมาวางไว้บนตัก“ค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ นายหัวไม่ต้องให้แพรว แพรวได้เงินจากนายหัวมาเยอะแล้วค่ะ”นาวินทร์เอี้ยวหน้ามองเธออีกครั้ง จ้องสบตาเธอให้แพรวนภาเข้าใจไม่ผิดในสิ่งที่เขาจะพูดต่อจากนี้“ฉันจะให้เงินเธอก้อนหนึ่งสำหรับการตั้งต้นชีวิตใหม่ หลังจากนี้ฉันคงไม่ได้มาหาเธออีก ส่วนงานที่โรงแรมฉันไม่ขัดข้องที่เธอจะทำต่อไปเพราะเธอทำมันได้ดี”แพรวนภาสะอึก ท
บทที่ 10-1“พี่วินทร์แวะร้านขายยาให้เบย์ด้วยนะคะก่อนจะถึงโรงแรม”นาวินทร์เอี้ยวหน้ามองอย่างแปลกใจแต่ไม่ถามอะไรเมื่อเห็นร้านขายยาตรงข้างหน้าพอดีจึงจอดรถเทียบทางเท้า มองตามร่างบางที่เข้าร้านขายยาไปสักพักใหญ่จึงเห็นเธอเดินออกมาจากร้านพร้อมถุงในมือ ดูแล้วไม่ใช่ยาจำนวนมากปัง!“ไปกันเถอะค่ะ”นาวินทร์เคลื่อนล้อรถออกจากริมทาง เหลือบตามองมือของเบอาที่เอายาใส่กระเป๋าสะพายไปอย่างรวดเร็ว“ซื้อยาอะไรมาน่ะ”“ก็ยาของผู้หญิงค่ะ ไม่มีอะไร เออ วันนี้เบย์จะกลับไปบ้านเลยนะคะ แล้วพี่วินทร์ก็นัดเบย์มาแล้วกันว่าจะทำสัญญาวันไหน”“สัญญา?”“อ้าว ก็สัญญาเงินกู้ฉบับใหม่ไงคะ”เอี๊ยดดด!!เบอาใช้มือบางยันร่างของตัวเองที่คอนโซลรถเมื่อจู่ ๆ นาวินทร์หักรถเข้าทาง เธอเอี้ยวหน้ามองด้วยความสงสัย“พี่วินทร์จอดทำไมคะ”“ยังจะถามอีก แล้วห่วงอะไรกับสัญญาเงินกู้”“อ้าว ก็มันมีการเปลี่ยนแปลงนี่คะ ต้องยึดเวลาไปอีกสองปี”“ฮึ ที่แท้ก็ถวายตัวให้พี่เพราะสัญญานี่เองใช่ไหม ต้องลงรายละเอียดด้วยไหมว่าต้องเอากันกี่ครั้งต่อวันในสัญญา”“พี่วินทร์!!”หน้าหวานคมแดงซ่านเป็นลูกตำลึง ยกมือขึ้นทุบบ่านาวินทร์สองครั้ง“พี่วินทร์จะเอายังไง! ไม่ทำก
บทที่ 9-3 18+“เบย์จะกลับบ้าน ถอยไป!”“ไปตอนนี้ไม่ได้ พรุ่งนี้พี่จะไปส่ง”“พี่ไม่ต้องไปส่งก็ได้ เบย์จะเดินไปเอง แล้วถ้าเจอใครก็ขอโบกรถเข้าอำเภอ”เขาคว้าต้นแขนของเบอาไว้กระชากกลับ อกแน่นด้วยอารมณ์บางอย่างที่อธิบายไม่ถูก ทั้งรู้สึกผิด ทั้งเจ็บปวด ทั้งกลัวว่าเธอจะไม่กลับมาอีกเหมือนเมื่อห้าปีก่อน“ไม่! พี่ไม่ให้ไป”เบอาฉุนขาด เธอหันหน้ากลับมาจ้องเขาเต็มตา ความรู้สึกอัดแน่นท่วมท้นอยู่ข้างในและร้องไห้ไปแล้ว แต่เธอจะไม่ปล่อยให้เขาได้เห็นน้ำตาของเธอเด็ดขาด“นายหัวมีสิทธิ์อะไรในตัวฉัน”“สิทธิ์!!”เขากระชากเธอเข้ามาแนบกายแน่นขึ้น ชะโงกหน้าลงมองสาวน้อยที่สู้ตาไม่ถอย เธอโกรธจัดและเขาก็เช่นกัน เขากำลังจะถูกทิ้งอีกครั้ง“บอกให้ว่าสิทธิ์อะไร สิทธิ์ของการเป็นผัวยังไงล่ะ”“ฮึ ผัว ผัวงั้นเหรอ! งั้นเบย์คงมีผัวร่วมกับคนอื่นเยอะเกินไปนายหัวว่ายังงั้นไหม ปล่อย!!”“ให้ตายสิเบย์ ฟังพี่ก่อน เบย์จะให้พี่ทำยังไงก็พูดมาสิ อย่าทำแบบนี้ อย่าเดินจากไปอีก”“ทำยังไง? ทำไมนายหัวจะต้องทำด้วยคะ เบย์เป็นเพียงลูกหนี้เท่านั้น นายหัวไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ กลับไปเราจะเขียนสัญญาให้ละเอียด ต่อไปก็นัดกันที่โรงแรมแล้วกันค่ะ เบย์จะได