คนของผม ก็คือคนของผม!!
แสงแดดอ่อนๆ เล็ดรอดเข้ามาทางกระจกหน้าต่างเรือที่มีไว้มองออกไปทางด้านนอกจะได้พบกับท้องทะเลสีครามสุดลูกหูลูกตา แสงแดดอ่อนกระทบกับร่างบางเปลือยเปล่าที่นอนคุดคู้อยู่บนเตียงหนา ร่างบางตื่นขึ้นหลังจากผ่านคืนอันเร่าร้อนมาด้วยอาการปวดระบมไปทั่วร่างกาย ภายในห้องเงียบสนิท เธอกวาดสายตามองไปรอบๆ ไม่พบกับใครเลยหรือแม้กระทั่งกับเสื้อผ้าของตัวเอง เธอคิดย้อนไปถึงเหตุการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมา เธอโดนวางยา หนีออกมาจากเสี่ยอำนาจ มาพบกับบชายหนุ่มผู้ที่มีสายตาเย็นชา และเธอก็ได้สูญเสียสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตไป แต่แปลกที่เธอเองกลับไม่รู้สึกเสียใจเลย ‘พรุ่งนี้อย่ามาเรียกร้องหาความรับผิดชอบงี่เง่าจากฉัน!!’ เสียงของเขายังดังก้องอยู่ในหัวของเธอ เซรินพยุงร่างอันระบมขึ้นจากเตียงอันหนานุ่มเพื่อไปยังห้องน้ำอย่างยากลำบาก ขาที่อ่อนแรง พร้อมกับการเจ็บตรงช่วงใจกลางสาว เธอจัดการล้างตัวให้เรียบร้อยและค้นหาเสื้อผ้าของตนเองแต่ก็ไม่พบ จึงถือโอกาสหยิบเชิ้ตขาวของชายหนุ่มคนเมื่อคืนมาสวมใส่เพื่อออกจากห้องนี้ให้ไวที่สุด “ยืมก่อนนะคะ ไม่คืนนะคะ เพราะเราไม่น่าจะมีโอกสได้พบกันแล้ว” คนตัวเล็กพึมพำ สวมเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ของเขา ทำให้ดูเหมือนว่าเธอกำลังใส่มินิเดรสไปเลย เซรินแอบหลบออกมาจากห้อง คิดเพียงแค่ว่าต้องหลบซ่อนตัวจากเสี่ยอำนาจจนกว่าเรือลำนี้จะเทียบท่าเข้าฝั่ง เธอถึงจะมีโอกาสรอด จะขอให้ชายคนเมื่อคืนช่วยก็คงไม่ได้เพราะเขาได้ออกปากไว้ว่าจะไม่ช่วยตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว หญิงสาวเดินออกจากห้องเดินไปตามทางเดินระเบียงเรือ เห็นชายฉกรรจ์ใส่ชุดสีดำหลายสิบคน แต่เธอเองก็ไม่กล้าขอความช่วยเหลือเพราะเธอก็ไม่รู้ว่า ชายเหล่านี้เป็นพวกเดียวกับเสี่ยอำนาจหรือไม่ หญิงสาวเดินหลบขึ้นไปบนดาดฟ้า คิดว่าดาดฟ้าน่าจะเป็นที่เงียบสงบทำให้เธอได้ใช้อาศัยหลบซ่อนตัวจนกว่าเรือจะเทียบฝั่ง แต่ทว่า…เธอคิดผิด!!! เมื่อเธอขึ้นมาถึงชั้นดาดฟ้าเรือ กลับพบว่ามีโต๊ะอาหารขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางแจ้งริมขอบเรือ มีชายชุดดำหลายสิบคนยืนเฝ้าอยู่ทั่วดาดฟ้า ที่โต๊ะอาหารมีคน 2 คนนั่งสนทนากันอยู่เหมือนกับว่ากำลังนั่งคุยเจรจาอะไรบางอย่าง หญิงสาวมองไปยังโต๊ะอาหารพบกับชายหนุ่มคนเมื่อคืนที่นั่งหันหน้าเข้ามาทางเรือหันหลังให้กับท้องทะเล เขามองมาทางและสบสายตาเข้ากับเธอพอดี ชายอีก 1 คน คู่สนทนาของเขามีลักษณะร่างท้วมนั่งหันหน้าไปทางทะเล หันหลังให้กับตัวเรือ เธอจำได้แม่นยำว่านั่นคือ เสี่ยอำนาจ!! เมื่อสบกับสายตาดุและเย็นชานั้น เธอรู้สึกเย็นวาบไปทั่วร่างกาย ร่างบางถอยหลังเตรียมออกไปจากที่อันตรายนี้ให้เร็วที่สุด แต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อแผ่นหลังไปชนปะทะเข้ากับแผงอกของใครบางคน! “ขึ้นมาที่นี่ได้ยังไง?” เจ้าของแผงอกเอ่ยถาม “ขะ ขอโทษค่ะ ฉันหลงทาง” “เอ๊ะ!!!นี่มันนังนั่นที่หนีไปเมื่อคืนนี้นี่” เสียงชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่หลังเสี่ยอำนาจตะโกนขึ้น ทำให้ทั้งเสี่ยอำนาจและเจ้าของสายตาเย็นชานั้นหันมาทางเธอเป็นจุดเดียว “จับมันมา!!!” เสี่ยอำนาจออกคำสั่ง แต่ก่อนที่คนของเสี่ยอำนาจจะได้ถูกตัวเธอ เสียงทรงอำนาจของคนเย็นชาก็ดังขึ้น เรียกชื่อใครบางคนและใช้สายตาออกคำสั่ง “พายุ!!!” สิ้นเสียงของคนเย็นชา คนที่เซรินชนแผงอกก็คว้ามือเธอไว้และชักปืนออกมาเล็งไปยังลูกน้องของเสี่ยอำนาจที่กำลังจะเข้ามาจับตัวเธอตามคำสั่งของเจ้านาย “นี่มันอะไรกันครับคุณวินเนอร์?” เสี่ยอำนาจหันไปถามคนเย็นชา “หึ!! โทษทีนะเสี่ย แต่นั่นคนของผม!!” “คนของคุณ? จะเป็นแบบนั้นได้ยังไงล่ะครับคุณวินเนอร์ ก็นังนี่เป็นคนของผมแล้วมันหนีไปเมื่อคืน” เสี่ยอำนาจโวยวาย เพราะอยู่ดีๆ หญิงสาวที่น่าจะได้เป็นของเขากลับหนีไปแล้วมาถูกกล่าวหาว่าเป็นคนของคนอื่นไปแบบหน้าตาเฉย “คนของผมก็คือคนของผม ดูชุดที่เธอใส่สิครับ” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นและส่งยิ้มเย็นยะเยือกให้กับอีกฝ่าย เสี่ยร่างท้วมรู้สึกเสียวสันหลังวาบกับรอยยิ้มนั้นและหันไปมองหญิงสาวที่ถูกพาเดินมาทางเจ้านายของคนชื่อพายุ เขามองไปที่ปกเสื้อเชิ้ตที่หญิงสาวสวมใส่พบกับตัวอักษร WN ปักด้วยด้ายสีทองบ่งบอกว่าใครคือเจ้าของเสื้อตัวนี้ “เป็นไปไม่ได้หรอกครับคุณวินเนอร์ ก็นังคนนี้คือหลานชายของเพื่อนผม แล้วนังนี่ก็เอาตัวเองมาแลกเงินไปช็อปปิ้งเป็นประจำ” เสี่ยอำนาจโกหกออกไปด้วยเสียงตะกุกตะกัก เขาต้องโกหกไปเช่นนั้นเพื่อทำทุกวิถีทางให้ได้ตัวเธอกลับมา “หึ!! เอาตัวเข้าแลกเป็นประจำเลยหรอ?” วินเนอร์หัวเราะในลำคอ เอ่ยถสมทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่ามันคือคำโกหก เพราะครั้งแรกของเธอเขาได้มันมาแล้วเมื่อคืน “มะ ไม่ใช่นะ!! ฉันไม่ได้เป็นอย่างที่มันพูด” หญิงสาวปฏิเสธเสียงสั่น “นังนี่คือเมียของผม คุณวินเนอร์โทรไปถามลุงของมันก็ได้ คืนมันมาให้ผม แล้วเรื่องที่เราคุยกันวันนี้ผมจะตกลงตามที่คุณเสนอแล้วกัน ถือว่าเป็นการต้อนรับที่เมียผมกลับมา” เสี่ยอำนาจเอ่ย วินเนอร์มองเสี่ยอำนาจด้วยสายตานิ่งไม่บ่งบอกความรู้สึกใดๆ ไม่มีใครคาดเดาได้จากสายตาคู่นั้น ข้อตกลงที่เขาคุยกับเสี่ยในครั้งนี้คือ การที่เขาเจรจาขอซื้อหุ้นส่วนทั้งหมดที่เสี่ยอำนาจถือไว้ทุกบริษัทในเครือ WN กรุ๊ป เครือ WN กรุ๊ป เป็นบริษัทที่ทำเกี่ยวกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยมี เวนอล มาเฟียใหญ่เป็นผู้ก่อตั้งขึ้น ซึ่งเวนอลก็คือพ่อของเขานั่นเอง เขาต้องการกวาดซื้อหุ้นทั้งหมดจากผู้ถือหุ้นเพื่อให้ WN กรุ๊ปเป็นของตระกูลเขาแต่เพียงตระกูลเดียว และหุ้นสุดท้ายก็คือหุ้นที่เสี่ยอำนาจถือไว้นั่นเอง ถ้าหากวันนี้เขาคืนหญิงสาวคนนี้ให้กับเสี่ย เขาจะได้หุ้นทั้งหมด แต่หากเขาเลือกจะช่วยเหลือหญิงสาวจากน้ำมือเสี่ยตัณหากลับ เครือ WN กรุ๊ปก็จะยังมีเสี่ยอำนาจถือหุ้นร่วมกับเขาอยู่อีกต่อไปเรื่อยๆ “มะ ไม่นะ ฉันไม่ไป อย่าให้ฉันไปกับตาเสี่ยนี่เลยนะ!! ฉันไม่ใช่เมียของมัน ฉันไม่กลับไปกับมันเด็ดขาด!!” ร่างบางร้องบอกเสียงสั่น มือบางกำแขนเสื้อเขาไว้แน่น ชายหนุ่มเหลือบมองคนตัวเล็กนิดนึง ก่อนเอ่ยเสียงเรียบ “ทำไมฉันถึงต้องไม่คืนเธอให้เขา ในเมื่อเขาบอกว่าเธอ คือ เมีย” “ไม่ใช่!! ฉันไม่ใช่เมียของมัน และไม่ใช่เมียของใครทั้งนั้น” คนตัวสูงชะงัก เมื่อได้ยินคำว่า ‘ไม่ใช่เมียของใครทั้งนั้น’ จะไม่ใช่เมียของใครได้ยังไง ในเมื่อเมื่อคืนเธอเป็นเมียของเขา!! “ไปเอามันมา!!” เสี่ยอำนาจสั่งลูกน้องให้ไปพาตัวหญิงสาวมา แต่ยังไม่ทันได้ถึงตัวหญิงสาว เธอก็ปล่อยมือจากแขนเสื้อของคนตัวสูง แล้วถอยหลังไปชิดขอบเรือ “ไม่ไป…ยังไงฉันก็จะไม่ยอมกลับไปเป็นเมียของไอ้เสี่ยอ้วนนี่เด็ดขาด!! ถ้าฉันต้องกลับไปตกนรกนั่น ฉันยอมตายซะยังดีกว่า!!!” ต้นประโยคหญิงสาวเอ่ยพึมพำเสียงเบาๆ และค่อยๆ ดัง จนกลายเป็นตะโกนพร้อมกับน้ำใสๆ ไหลลงอาบสองแก้ม ชายหนุ่มรู้สึกเจ็บแปลบที่หน้าอกเมื่อเห็นน้ำตาของคนตัวเล็ก เขาไม่เข้าใจความรู้สึกแบบนี้สักเท่าไร แต่ยังไม่ทันได้คิดอะไรมากมาย ภาพคนตัวเล็กที่ใส่เสื้อเชิ้ตของเขาเพียงตัวเดียวที่มีน้ำตาอาบแก้มก็หายวับไปจากขอบเรือ ตู้มมมมมมม ม ม!!! เสียงกระทบกับผืนน้ำ ตามด้วยเสียงสบถของคนตัวสูง “บ้าชิบ!!!” “นายครับ!!!” เสียงของพายุตะโกนเรียกเจ้านายของตัวเอง เมื่อเห็นเจ้านายของตัวเองทำสิ่งที่ไม่คาดคิด คือกระโดดลงไปในทะเลโดยไม่ห่วงชีวิตตัวเองเพื่อช่วยผู้หญิงที่ไม่รู้จัก “ไอ้ดิน ไปสั่งหยุดเรือ!!” พายุสั่งเพื่อนที่เป็นคนสนิทอีกคนของมาเฟียหนุ่ม “พวกมึงไปเอาเรือเล็กออก กุจะไปตามหานาย!!” พายุสั่งลูกน้อง เขาขับเรือยอร์ชไปตามหาผู้เป็นนาย โชคดีที่ตอนนี้เป็นเวลากลางวันทำให้มองหาได้ง่ายกว่าตอนกลางคืนที่มืดสนิท แต่จะโชคดีอีกหรือไม่ถ้านายของเขาไม่ถูกแรงดูดเข้าไปใต้ท้องเรือลำมหึมา และจะดีเป็นอย่างยิ่งถ้าหากคนที่นายของเขากระโดดเสี่ยงชีวิตโดยไม่คิดลงไปช่วยจะมีชีวิตรอดกลับมาด้วยเหมือนกัน…ดอกไม้ข้างทาง“นายครับ จะกลับขึ้นเรือ หรือเข้าฝั่งกลับเพ้นท์เฮ้าส์ดีครับ” พายุมือขวาของมาเฟียหนุ่มเอ่ยถาม หลังจากช่วยผู้เป็นนายและหญิงสาวขึ้นจากทะเล“ไป Win Club!!” วินเนอร์สั่งลูกน้องคนสนิท“นายจะพาเธอไปด้วยหรอครับ?” พายุเอ่ยถาม เพราะ Win Club เป็นทั้งบ่อนคาสิโน ทั้งผับ ทั้งสถานบันเทิง ทั้งโรงแรมที่ให้ความสุขแก่แขกในวงการสีเทาแบบครบวงจร ตั้งอยู่บนเกาะส่วนตัวของวินเนอร์ ที่นายของเขายังไม่เคยพาผู้หญิงเข้าไปยังสถานที่แห่งนี้เลยสักคน นอกจากพนักงานหญิงที่เมื่อเข้ามาทำงานที่นี่แล้วจะไม่มีโอกาศได้ออกไปนอกเกาะ จะได้ออกไปอีกครั้งก็ต่อเมื่อไม่ได้ทำงานที่เกาะแห่งนี้อีกแล้วนั่นเอง“กูจะไปเช็คของกับพวกไอ้คาร์โก้ ไม่อยากเสียเวลา”“ครับ” พายุรับคำสั่งและออกเรือมุ่งหน้าไปยังที่หมายตามคำสั่งโดยไม่ถามอะไรมาก เพราะเขาเป็นเพียงลูกน้องที่มีหน้าที่ทำตามคำสั่งเท่านั้นชายหนุ่มยืนมองหญิงสาวที่นอนตัวเปียกสวมเพียงเสื้อเชิ้ตของเขากับแพนตี้ตัวจิ๋วอยู่บนที่นั่งบนเรือยอร์ช เสื้อสีขาวเมื่อเปียกแล้วทำให้บางและแนบติดลำตัวจนเห็นเป็นตรูปร่าง ทรวดทรง เอวคอดได้อย่างชัดเจน หญิงสาวแค่ผล็อยหลับไปเท่านั้น หลังจากที่เขาช่วยเ
ใช่ว่าที่ลูกสะใภ้แม่หรือเปล่าเซรินตื่นขึ้นมาจากอาการไข้พบว่าตัวเองนอนอยู่ในห้องที่ตกแต่งด้วยโทนสีดำด้วยสภาพไม่ใส่อะไรเลยมีเพียงผ้าห่มสีดำปิดเรือนร่างอันเปลือยเปล่า เธอมองขึ้นไปบนเพดานมีหลอดไฟหรูหราแต่เรียบง่ายติดอยู่ ‘ไม่ใช่ในเรือ ไม่ใช่โรงพยาบาล…ที่นี่ที่ไหนกันนะ?’ เธอคิดในใจ แต่ยังไม่ทันได้คิดไปไหนไกล เสียงเปิดประตูก็ดังขึ้นแกร็ก!! เสียงลูกบิดประตูถูกบิดและเปิดออก ด้วยฝีมือของชายแปลกหน้าที่เธอคุ้นเคยดี…ชายที่ได้ความบริสุทธิ์ของเธอไปนั่นเอง“คะคุณช่วยฉันไว้หรอคะ?”“ฉันแค่เอาที่ช้อนปลาตักเธอขึ้นมาจากทะเล…”“ห๊ะ!! พูดเล่นใช่ไหมเนี่ย?” เซรินตกใจคำตอบของเขา“คุณช่วยฉันขึ้นมาทำไมคะ? จะส่งฉันไปให้ไอ้เสี่ยอ้วนนั่นหรอคะ?”“เสียของ”“อะไรนะ อะไรคือเสียของ?”“จะส่งเธอให้เสี่ยอำนาจน่ะเสียของ” วินเนอร์ปลายหางตามองหญิงสาวที่ตอนนี้อยู่ในท่านั่งบนเตียงคิงไซส์ด้วยท่อนบนเปลือยเปล่ามีเพียงผ้าห่มผืนดำคลุมปิดท่อนล่างไว้ ดูเหมือนเซรินเองจะยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าอกกลมสวยทั้งสองข้างของเธอได้ออกมาอวดโฉมแก่สายตาชายหนุ่ม“หมายความว่าคุณจะไม่ส่งฉันไปให้เสี่ยอำนาจจริงๆ ใช่ไหมคะ?”“มีแต่คำถามเต็มไปหมด” วินเนอร์
หน้าที่ของเธอคือ “เมียฉัน” @ สนามยิงปืน WIN CLUB “วันนี้ไอ้วินมาไวเว้ย” เจคอร์ปเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นวินเนอร์เดินเข้ามา น้อยครั้งที่พวกเขาจะได้เห็นวินเนอร์จะออกมาเช็คของ รับของด้วยตัวเอง “กูมาเร็วไม่ดีใช่ไหม?” วินเนอร์ตอบกลับไปแบบหน่ายๆ จริงๆ เขาไม่ชอบมาทำอะไรแบบนี้ ส่วนมากจะให้พายุหรือดินมาแทน “ดี!! ปกติไม่เคยจะเห็นหัว ทำงานบ้าง ข้างบ้านจะสงสัย ไม่ใช่ส่งแต่ไอ้ยุกับไอ้ดินมา” เจคอร์ปตอบ “ส่งแต่ไอ้ยุไปเช็คของจนคู่ค้าเขาคิดว่ามันเป็นเจ้านายไปละ” มังกรพูดเหน็บคนเป็นเพ่อนแบบติดตลก “พูดมาก” วินเนอร์ตอบสั้นๆ ด้วยสีหน้าเรียบเฉย “สงสัยวันนี้ฝนจะตก ถ้าวันนี้ฝนตกกูยกน้องนีน่าให้มึงเลย” น้องนีน่าที่คาร์โก้พูดถึงคือ สาวสวยนางแบบหุ่นแซ่บคู่ขาของคาร์โก้ที่เขาควงด้วยบ่อยๆ ในช่วงนี้ “ไม่เป็นไร ขอบใจ มึงเก็บไว้กินคนเดียวนั่นอหละดีแล้ว กินให้อิ่ม เดี๋ยวพอมีเมียแล้วจะไม่ได้กิน” “คนอย่างกูหรอจะมีเมีย มึงคิดได้ไง กูไม่เอาปลอกคอมาใส่หรอก กูไม่ชอบให้ใครมาทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของกู” คาร์โก้ปฏิเสธแบบร่ายยาว เพราะคำว่า ‘เมีย’ สำหรับเพลย์บอยอย่างเขามันเป็นเรื่องน่ารำคาญ “แล้วทำไมต้องร่ายยาว” วิน
ทดลองงาน “คุณคะ? คุณ…เซต้องเริ่มงานคืนนี้เลยหรอคะ? เริ่มยังไงคะ?” เซรินเดินตามเข้ามาในส่วนของห้องนอน เธอไม่ได้สนใจว่าชายหนุ่มกำลังเดินไปไหน แต่สนใจแค่กับสิ่งที่เธอต้องทำต่อจากนี้ต่างหาก หมับ! พรึ่บ! ในขณะที่เซรินกำลังเร่งเดินตามชายหนุ่มเพื่อมาถามคำถามเขา วินเนอร์ก็หันกลับมาจับแขนเรียวเหวี่ยงเธอไปบนที่นอนนุ่มไม่แรงมากนัก “อ๊ะ!” เซรินร้องออกมาเสียงหลงไม่ใช่เพราะเจ็บแต่ตกใจเมื่อถูกเหวี่ยงขึ้นบนเตียงแบบไม่ทันได้ตั้งตัว “อื้อ!!” ริมฝีปากหนาประกบลงบนปากบาง แรงบดขยี้ดุเดือดจากแรงจูบของคนบนร่างที่ตอนนี้คือ ‘นายจ้าง’ ของเธอ หัวใจของคนตัวเล็กเต้นไม่เป็นจังหวะเหมือนจะระเบิดออกมาเต้นอยู่นอกอกเลยก็ว่าได้ วินเนอร์บดขยี้จูบคนตัวเล็ก รสชาติจูบของเซรินช่างหอมหวานสำหรับเขามาก กลิ่นตัวของเธอก็ชนจมูกจนกลิ่นหอมเย้ายวนปลุกอารมณ์ความหลงใหลได้อย่างที่เขาไม่สามารถบังคับตัวเองได้ ท่อนกายแกร่งที่อยู่ในกางเกงเริ่มปวดหนึบ เขาอยากจะยัดมันใส่เข้าไปในตัวเธอซะตอนนี้ มือแกร่งข้างหนึ่งเลื่อนมาจับเอวบาง ลูบไล้สอดเข้าไปใต้เสื้อเชิ้ตตัวใหญ่เพียงตัวเดียวปราศจากชิ้นอื่นใดที่เธอสวมใส่อยู่ มือหนาเลื่อนขึ้นมาจับเ
ความจริงเพียงครึ่งเดียว ‘น่ารักชะมัด’ วินเนอร์อยู่ในท่านั่งพิงหัวเตียง มีคนตัวเล็กนอนคว่ำวงแขนเรียวเล็กพาดกอดเอวหนา หลับตาพริ้ม วินเนอร์ตื่นได้สักพัก เขานั่งมองร่างบางที่กำลังหลับ แล้วยกมือถือขึ้นมากดหาคนสนิทเพื่อสั่งงานให้จัดหาของให้กับเซริน “อื้ออออ แม่ขา อุ่นจังเลย” เซรินละเมอออกมาเบาๆ “เด็กน้อย!” เขาเอ่ยอย่างเอ็นดู ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น คงจะเป็นพายุเอาของที่เขาสั่งให้จัดหามาให้ “เข้ามา!” เขาไม่เดินไปเปิดประตูเพราะกลัวว่าถ้าเขาขยับ คนตัวเล็กใต้ผ้าห่มที่กอดเอวเขาไว้จะตื่นขึ้นมา พายุเดินเข้ามาในส่วนของห้องนอนเห็นภาพบนเตียงแต่ก็ไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไรหรือไม่คิดจะยุ่งเรื่องของนาย มือหนาของวินเนอร์ดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมให้ร่างบางจนเกือบมิดหัว เพราะลูกน้องของเขาเป็นผู้ชาย “ผมเอาของที่นายสั่งมาให้แล้วนะครับวางอยู่ด้านนอก ไอ้ดินกลับมาแล้วครับ นี่เอกสารที่นายให้หา” พายุยื่นซองเอกสารสีน้ำตาลให้ผู้เป็นนาย ภายในซองสีน้ำตาลคงจะเป็นข้อมูลของคนตัวเล็กบนเตียงเขา เขารับเอกสารจากพายุ “อือ พรุ่งนี้กูจะกลับ คืนนี้จะไปคลับไปหาไอ้พวกคาร์โก้สักหน่อย มึงไปจัดการเรื่องที่
สยบเสือยิ้มยาก ก๊อก ก๊อก ก๊อก “นายครับๆ” เสียงพายุดังขึ้นหลังจากเคาะประตูเหมือนมีเรื่องด่วน วินเนอร์และเซรินที่นอนอยู่บนเตียงหนาลืมตาตื่นขึ้นเพราะเสียงดังจากนอกห้อง เซรินสะดุ้งตื่นดูตกใจ กลัวคนภายนอกจะรับรู้ว่าเมื่อสักครู่ทั้งสองทำอะไรมา เพราะทั้งเขาและเธอไม่ได้สวมอะไรเลย แต่ชายหนุ่มข้างๆ ยังคงความสงบนิ่งดูจะไม่ทุกข์ร้อนใดๆ เลย “นายครับๆ” เสียงพายุยังดังขึ้นอีก แต่ก็ยังไม่เปิดประตูเข้ามา ด้วยความที่ยังไม่ได้ยินเสียงอนุญาตจากผู้เป็นนาย “ตาวิน! ถ้าไม่ตอบ มี๊จะเปิดเข้าไปแล้วนะ” เสียงของแม่เขา ‘นี่สินะที่ทำให้ไอ้พายุเคาะประตูอย่างบ้าคลั่งเหมือนฟ้าจะถล่ม นี่แม่ของเขาถึงขนาดลงทุนมาเหยียบที่เกาะ WIN CLUB ด้วยตัวเองเลยหรอเนี่ย’ ผวะ !!! เสียงเปิดประตูห้องนอนจากมือของหญิงที่ดูแล้วน่าจะอยู่ในวัยกลางคนแต่ลักษณะบุคคลิก หน้าตา การแต่งตัวในชุดเดรสสั้นสีแดงสดทันสมัย โฉบเฉี่ยว ทำให้ดูยังสาวรุ่นๆ ราว26-27 เมื่อมีคนเปิดเข้ามา เซรินที่อยู่ในผ้าห่มก็เกิดอาการตกใจรีบซบใบหน้าหลบไปที่อกของวินเนอร์โดยอัตโนมัติ ทำให้ชายหนุ่มอมยิ้ม ชอบใจในการกระทำของคนตัวเล็กไม่น้อย “อุ๊ย!! มี๊เข้ามาผิดจังหวะไ
มึงขยับ มึงร่วง @ WIN CLUB ห้อง VIP พิเศษ “ไอ้วิน! ทำไมวันนี้มึงเลือกห้องกระจกวะ?” เจคอร์ปถามขึ้น เพราะปกติเขาไม่ชอบห้องกระจกที่มองเห็นทั่วคลับ เขาให้เหตุผลว่า มันน่ารำคาญ เขาชอบอยู่ในห้องที่มิดชิดที่ไม่มีใครรบกวน “อยากเปลี่ยนบรรยากาศมองสาวหรอวะ?” มังกรพูดด้วยน้ำเสียงขำๆ “กูว่าไม่น่าใช่! มันเอาไว้นั่งดูแม่มันมากกว่า” คาร์โก้พูดขึ้น เมื่อมองไปด้านล่างพบกับคุณยูริเมียของลุงเวนอลแม่ของเพื่อนเขา ทุกคนหันสายตาไปยังจุดเดียวกัน คือ แม่ของวินเนอร์ที่นั่งโยกเบาๆ อยู่ด้านล่างกับผู้หญิงตัวเล็กหน้าตาน่ารักๆ ผิวขาว ผมยาวในชุดมินิเดรสแหวกขา รัดรูป สีดำที่เมื่อใส่แล้วขับผิวขาวสะท้อนแสงไฟในคลับทำให้ดูเด่นมาก “เห้ย!! แม่มันอ่ะสวยก็จริง แต่กูชอบสาวตัวเล็กที่นั่งข้างๆ ว่ะ น่ารักชิบหาย” เจคอร์ปพูดขึ้น โดยที่สายตายังไม่ละออกจากคนตัวเล็กเบื้องล่าง “แล้วพ่อมึงล่ะวะ? เป็นไปได้ไงปล่อยน้ายูริมาคนเดียวได้” คาร์โก้ถาม “เดี๋ยวก็มา! ไม่เกิน 20 นาที!!” วินเนอร์ตอบสั้นๆ เพราะเขารู้ว่าถ้าพ่อเขารู้แม่ของเขาอยู่ในคลับ รับรองมาอย่างไว “ยังไงก็เถอะพวกมึง! กูอยากได้น้องชุดดำนั่น! เดี๋ยวกูมานะ ลงไปไหว้แม่
คนเมางอแง “ไอ้วิน! แม่มึงเมา ไปดูไหม? เดี๋ยวกูดูแลทางนี้ให้” เจคอร์ปพูดขึ้นในขณะที่สายตายังไม่ละจากภาพของเพื่อนที่ยืนโอบเอวหญิงสาวร่างเล็กชุดดำตรงหน้าเขา เขานึกชอบคนตัวเล็กหน้าตาจิ้มลิ้มคนนี้เหลือเกิน ทำไมนะ? ทำไมรู้สึกถูกชะตา ถูกใจและอยากได้มาครอบครอง ทั้งๆ ที่รู้ดีว่าผู้หญิงคนนี้เป็นเป็นของเพื่อน “ไม่ต้อง!” เสียงวินเนอร์พูดด้วยน้ำเสียงเรียบ เบนสายตาไปยังชายวัยกลางคนหุ่นสมาร์ทมาดนิ่งเดินตรงเข้ามาที่พวกเขายืนอยู่ บุคคลที่เขารู้จักดี ‘พ่อ’ ของเขานั่นเอง “สวัสดีครับลุงเวนอล” มังกรเอ่ยทักทายบุคคลที่เข้ามาใหม่ มาเฟียใหญ่พยักหน้ารับคำทักทาย “แม่แก?” เวนอลเอ่ยขึ้นสั้นๆ ถามผู้เป็นลูกชาย ดูก็รู้ว่าวินเนอร์ถอดแบบนิสัยการพูดน้อยมาจากใคร วินเนอร์ไม่ได้ตอบอะไรกลับ แต่ใช้สายตามองไปยังเป้าหมายของผู้เป็นพ่อที่ตอนนี้กำลังเต้นโยกอยู่หน้าเวทีโดยมีเวหาและสิชลหิ้วปีก พ่อของเขาเห็นดังนั้นก็ทำได้แค่ส่ายหน้าและเดินไปหาคนเมาชุดแดง “สวัสดีครับ ผมชื่อเจคอร์ป เป็นเพื่อนกับไอ้วิน” เจคอร์ปพูดกับคนตัวเล็กในอ้อมแขนของเพื่อนเขา หญิงสาวแหงนหน้ามองเจคอร์ปเล็กน้อย “สวัสดีค่า~~ คุณเจคอร์ป เซชื่อเซรินค่ะ
special happiness ดวงตากลมใสค่อยๆเปิดเปลือกตาลืมขึ้น เปลือกตาที่ค่อยๆเปิด กระพริบถี่ๆเพื่อปรับรับแสงที่สาดส่องรอดผ่านกระจกบานใสเข้ามาภายในห้องที่ดูคุ้นตามาตลอดระยะเวลา 3 เดือนที่เธอคลอดลูกสาวมา นี่ไม่ใช่ห้องนอนของเธอ แต่เป็นห้องเลี้ยงเด็กอ่อนที่วินเนอร์ทำขึ้นเอาไว้เธอและพี่เลี้ยงคอยเลี้ยงลูกสาว ห้องค่อนข้างโปร่ง ภายในห้องเต็มไปด้วยข้าวของเครื่องใช้ของเด็กทั้งยังมีกลิ่นบางอย่างที่ค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์นั่นก็คือ กลิ่นนม กลิ่นแป้งเด็ก เหตุการณ์ก่อนหน้านี้ฉายเข้ามาในความคิด เซรินเผลอหลับไประหว่างที่มองพี่เลี้ยงกำลังนั่งเล่นกับเด็กน้อยอย่างเพลินๆจนเผลอหลับไปเมื่อไรไม่รู้ตัว รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกทีก็เพราะเสียงเด็กที่ร้องอ้อแอ้ข้างหูกับพร้อมกับเสียงทุ้มนุ่มของผู้ชายคนหนึ่งที่คล้ายกำลังหยอกล้อกันอยู่ เซรินจำเสียงนี้ได้ดี เมื่อตอนได้ยินเสียงนั้นครั้งแรกในห้องคลอด แม้จะเป็นเสียงร้องไห้ของเด็กแรกเกิด แต่เสียงนี้กลับกลายเป็นน้ำชะโลมหัวใจของเธอให้ชุ่มชื่นมากขึ้น แต่การเลี้ยงเด็กอ่อนไม่ใช่เรื่องสบาย แม้เธอจะมีพี่เลี้ยงคอยช่วยอยู่ก็ตาม ความเหนื่อยล้าที่สั่งสมมาจึงทำให้ร่างบางเผลอหลับไป
แต่งงานกันนะ "ขึ้นมาสิ" วินเนอร์จูงมือของเซรินขึ้นไปบนดาดฟ้าของเรือสำราญ เรือลำที่เขสและเธอพบเจอกันครั้งแรก สถานที่ต้นกำเนิดความรักของพวกเขาทั้งสองคน "มีอะไรหรือเปล่าคะเฮีย ทำไมต้องพาเซมาที่นี่ด้วย?" เซรินยังไม่ยอมเดินตามการจับจูงของคนตัวใหญ่ เพราะเธอรู้สึกว่าวันนี้วินเนอร์มีท่าทางแปลกไป ดูลุกลี้ลุกลนและพูดมากผิดปกติ ที่ผ่านมาจะพูดจะคุยกับเธอแต่ละคำราวกับกลัวดอกพิกุลจะร่วง "ขึ้นมาเถอะ" เขาบอกกับเธออีกรอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน เธอมองหน้าและสบตากับเขา พบกับสายตาวิบวับของคนตัวใหญ่ เซรินเองก็อยากรู้เหมือนกันว่ามีอะไรอยู่บนดาดฟ้าเรือกันแน่ทำไมเขาถึงอยากให้เธอขึ้นไปนัก สุดท้ายเธอก็ทนต่อสายตาอ้อนๆของเขาไม่ไหว จึงยอมเดินตามการจับจูงของเขาขึ้นไปบนดาดฟ้าของเรือ เมื่อเซรินก้าวขึ้นไปบนดาดฟ้าเรือ เธอก็เห็นโต๊ะตัวหนึ่งตั้งอยู่กลางดาดฟ้า มันถูกปูด้วยผ้าสีขาวดูสะอาดตา ตรงกลางโต๊ะมีแจกันใบโตวางอยู่ และในแจกันก็มีดอกทานตะวันดอกใหญ่หนึ่งดอกเสียบอยู่ในนั้น ดอกทานตะวันสีเหลืองทอง ดอกใหญ่ดูเด่นอยู่กลางโต๊ะ ทำให้เป็นที่ดึงดูดสายตาของเธอเหลือเกิน เก้าอี้สองตัวถูกวางไว้ข้าง ๆ โต๊ะ เซรินมองหน้าเขาด้
ต่อแขน ต่อขา เซรินกลับมาบริหารบริษัทของพ่อกับแม่ที่เหลือทิ้งไว้ให้เธอ ก่อนหน้านี้ตกไปอยู่ในมือของผู้เป็นอา บริหารจนบริษัทเกือบล้มละลาย ตอนนี้เธอกลับมากอบกู้มันขึ้นมาโดยมีวินเนอร์ มาเฟียผู้เป็นสามีคอยให้คำแนะนำ ให้คำปรึกษาและเอาบริษัทของตัวเองมาร่วมลงทุนกับบริษัทของเธอด้วย อีกทั้งยังมีบริษัทคู่ค้าด้วยอีกหลายบริษัทที่้ป็นบริษัทของเจคอร์ป พี่ชายบุญธรรมของเธอและเหล่าเพื่อนของวินเนอร์ที่ให้การสนับสนุนซัพพอร์ตเธอเป็นอย่างดี ทำให้บริษัทของเธอฟื้นตัวขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว ทุกอย่างกำลังลงตัว ทางครอบครัวของผู้เป็นอา ทั้งภรรยาและลูกของอา เซรินก็ไม่เอาผิดเพราะเขาไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับการกระทำของอาเธอเลย บ้านที่ทั้ฃสองอาศัยอยู่ ทั้งรถ เธอก็ยกให้ พร้อมทั้งให้เงินก้อนจำนวนหนึ่งที่พอจะให้ทั้งสองตั้งตัว มีอยู่มีกิน มีใช้ต่อไปได้สักพักใหญ่ๆ ถ้ารู้จักอดออม ประหยัดและหาเงินเข้ามาใช้จ่ายได้เพิ่มเอง ส่วนเรื่องผู้เป็นอา เธอให้คำตอบกับสองแม่ลูกเพียงแค่ว่า อาหายไปโดยที่ไม่มีใครรู้ ผู้เป็นภรรยาของเขาก็ไม่สงสัย ติดใจอะไรเพราะรู้ดีว่าผู้เป็นสามีของตนนั้น เป็นคนเช่นไร มีศัตรูเยอะเพียงใด หายไปก็คงเพราะศัตรูค
จบที่เรา เบาที่สุด ในห้องพักคนป่วยที่เงียบสงัดจนได้ยินแค่เสียงหายใจของหนุ่มสาวสองคนที่อยู่ภายในห้อง หลังจากวินเนอร์และเพื่อนๆ ของเขาเดินออกจากห้องไปตามคำขอของเซริน เพื่อปล่อยให้เธอและเจคอร์ปได้เคลียร์ใจกันเพียงลำพัง เพราะเขาเชื่อใจผู้หญิงของเขาที่จะต้องหาทางออกที่ดีสำหรับทั้งสองฝ่ายได้แน่ๆ และเขาก็ไว้ใจเพื่อนของเขาที่รู้ว่าอะไรควร อะไรไม่ควร และจะหาบทสรุปให้กับเหตุการณ์นี้ได้เช่นกัน "พี่เจค เจ็บตรงไหนไหมคะ?" เซรินเป็นฝ่ายทำลายความเงียบเริ่มบทสนทนาขึ้นมาก่อน "พี่ปลอดภัยแล้ว น้องรินไม่ต้องห่วง และไม่ต้องกังวลว่าที่พี่เป็นแบบนี้เพราะตัวน้องริน" เขารู้ว่าหญิงสาวเป็นห่วงและกังวลใจว่าตัวเองจะเป็นสาเหตุให้เขาต้องบาดเจ็บ และด้วยปมที่ติดอยู่ในใจของหญิงสาวยิ่งทำให้เขาเองเกิดความกังวลไปด้วยว่าหญิงสาวจะเป็นเช่นไรหลังจากเกิดเหตุการณ์ที่เขาเอาตัวเองบังกระสุนแทนเธอ และพูดว่าจะ ‘ปกป้อง’ ซึ่งเป็นคำต้องห้าม แต่กลับกัน หญิงสาวตัวเล็กไม่เป็นอะไรเลย ไม่คลุ้มคลั่งอีกต่อไปแล้ว เพราะความทรงจำของเธอกลับมา และอาการแพนิค คลุ้มคลั่งบังคับตัวเองไม่ได้ก็หายไปด้วยเนื่องจากเธอรู้ความจริงและมีสติอยู่กับตัวเ
พี่ชาย...ใช่ไหม? ภายในห้องพักผู้ป่วย ห้องพิเศษของโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ห้องพิเศษที่ไม่มีคนนอกได้มีโอกาสเข้ามาใช้บริการ เนื่องจากทั้งชั้นในชั้นนี้เป็นห้องพักผู้ป่วยส่วนตัวของเจ้าของโรงพยาบาล ซึ่งเป็นของตระกูลใหญ่ที่มีทั้งหมอส่วนตัว โรงพยาบาลเอกชน มีชั้นรักษา มีชั้นพักฟื้นส่วนตัว ภายในห้องพักกว้าง ตกแต่งเรียบง่ายแต่มีครบทุกเครื่องอำนวยความสะดวก และครบทุกเครื่องมือแพทย์ คนป่วยนอนนิ่งอยู่บนเตียงผู้ป่วย รายล้อมไปด้วยผู้คนหลากหลายอิริยาบท ประมาณ5-6 คน “กูคิดว่ามึงจะไม่ตื่นขึ้นมาดูโลกอันสดใสอีกครั้งซะแล้ว 555” คาร์โก้เปิดฉากบทสนทนาด้วยน้ำเสียงขบขันแกมหยอกล้อเพื่อนสนิท “พวกมึงก็ไปช่วยกูช้าจริง” คนบนเตียงสวนกลับในทันที แม้จะไม่เต็มเสียงมากนัก เพราะเขาเองก็เพิ่งจะฟื้นและออกมาจากห้อง ICU เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา “สำออยจริง มึงออกมาได้ ช่วยเหลือตัวเองได้ ทำไมมึงไม่ลุยออกมาวะ?” มังกรปิดท้ายประโยคด้วยคำถาม เขาเองรู้จักฝีมือเพื่อนดี สถานการณ์หนักกว่านี้เขาก็หนีออกมาได้ เขาก็จัดการได้ แต่นี่เขาไม่ทำ มันเกิดอะไรขึ้น เหตุผลอะไรที่ทำให้เพื่อนของเขายอมเอาตัวเองไปตกอยู่ในอันตราย “น้องริน...”
เกิดใหม่... แพขนตาหนา ค่อยๆ ขยับ เปลือกตาบางเปิดขึ้น พร้อมกระพริบถี่เพื่อปรับรับแสงสว่างที่กระทบเข้ามาที่สายตา เพราะหลับตาเป็นเวลานานจึงต้องใช้เวลาในการปรับสภาพอยู่สักพักหนึ่ง เมื่อปรับได้แล้ว หญิงสาวกวาดสายตาไปรอบๆ ภายในห้องเงียบกริบเหมือนกับว่าไม่มีคนอยู่ แต่จริงๆ แล้วมีร่างหนานั่งอยู่ข้างเตียง ซบหน้าหลับกับแขนของเธอ ‘ทำไมไม่ไปนอนดีๆ นะ’ เซรินคิดในใจ อยากจะขยับตัวให้คนร่างใหญ่รู้สึกตัว่าเธอตื่นแล้ว แต่ก็กลัวจะรบกวนเวลานอนของเขา ซึ่งคิดดูแล้วช่วงที่เธอยังไม่ตื่นเขาน่าจะไม่ได้พักผ่อนไม่ได้นอนแน่ๆ เพราะไม่งั้นเขาคงไม่มานั่งหลับตรงนี้หรอก ‘จะปลุกหรือจะแกล้งดีนะ ทำโทษคนโกหก’ หญิงสาวปิดเปลือกตาลง ลองแกล้งขยับแขนที่ทำให้ดูเหมือนจะฟื้นแต่ยังไม่ฟื้น พอให้คนข้างๆ รู้สึกตัว และก็ดูเหมือนจะได้ผล คนข้างๆ ค่อยๆ ขยับตัวตื่นขึ้น “เซ ฟื้นแล้วหรอ ตื่นแล้วใช่ไหม” วินเนอร์ลุกขึ้นยืน เขารู้สึกเหมือนร่างบางเริ่มขยับ เขาคิดว่าเธอคงฟื้นแล้ว แต่กลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น หญิงสาวยังคงนอนนิ่ง อยู่บนเตียง เปลือกตาบางยังปิดสนิท มีแพขนตาปกคลุมหนาเป็นแพสวยงามแม้ยามไม่ได้แต่งแต้มเครื่องสำอางค์บนใบหน้า ‘เซ
อย่าทิ้งพี่ไป... เปลือกตาหนา ค่อยๆ เปิดขึ้น พร้อมกระพริบถี่ๆ เพื่อปรับรับแสงสว่างภายในห้อง ภาพแรกที่เขาเห็นเมื่อลืมตาขึ้นคือเพดานขาวมีหลอดไฟที่เปิดให้แสงสว่าง กับเสาน้ำเกลือที่คาดว่าน่าจะเป็นเสาน้ำเกลือที่เจาะอยู่ที่แขนเขาเอง เปลือกตาหนาปิดลงอีกครั้ง พร้อมน้ำใสๆ ไหลลงข้างแก้ม เมื่อเขาคิดถึงคำพูดของหมอก่อนที่ทุกอย่างจะดำมืดไป มันยากเกินที่เขาจะรับความจริงไหว ถ้าต่อจากนี้ไม่มีเธอ เขาจะอยู่ไหวได้ยังไง "ตื่นแล้วก็ลืมตาเถอะ" เสียงของผู้หญิงดังขึ้น แค่หลับตาฟังเสียงเขาก็รู้แล้วว่าเจ้าของเสียงคือใคร ยูริ ผู้เป็นแม่ของเขา ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ ก่อนที่จะได้เจอกับเซริน ยูริจะเป็นผู้หญิงคนเดียวที่มีบทบาทสำคัญในชีวิตเขา แต่พอมีเซรินเข้ามาเป็นดอกไม้ในชีวิตเขา ผีเสื้ออย่างเขาก็ขาดดอกไม้ไม่ได้ไปเสียแล้ว “ดูท่าน่าจะหนักครับ” เสียงผู้ชาย เขาจำได้แม้ไม่ได้ลืมตามามอง เสียงของคาร์โก้เพื่อนเขาเอง “คงหนักแหละ ถึงขนาดร้องไห้ให้กับดอกไม้ที่ย้ำนักย้ำหนาว่าแค่ดอกไม้ข้างทาง สภาพตอนนี้คือ?” “ขาดไม่ได้เลยดิ” เสียงพวกเพื่อนของเขาพากันตอกย้ำซ้ำเติมในการเป็นหมาโบ้ที่กลืนน้ำลายตัวเอง “พวกมึงก็หยุดซ้ำเติมมั
ดอกไม้...ตายแล้ว ห้องฉุกเฉินโรงพยาบาล "ญาติคนไข้รอด้านนอกนะคะ" เสียงพยาบาลคนหนึ่งพูดขึ้น ก่อนจะช่วยกันกับพยาบาลอีกหลายคนดันเตียงคนไข้2เตียงเข้าห้องฉุกเฉิน หมอหลายท่านและพยาบาลวิ่งเข้าวิ่งออกห้องพยาบาลอยู่หลายรอบ ด้วยความรีบร้อนใจ ไม่ต่างอะไรจากบรรดาญาติคนไข้ที่อยู่ด้านนอก "หมอ ช่วยเมียกับเพื่อนผมด้วย" วินเนอร์คว้าข้อมือหมอที่กำลังจะเข้าห้องฉุกเฉิน "หมอจะทำเต็มที่สุดความสามารถครับ" หมอพูดจบแล้วเดินเข้าห้องฉุกเฉินไป "ไอ้วินๆ มึงก็ปล่อยให้หมอรีบไปช่วยพวกมันก่อน" คาร์เตอร์แทรกขึ้นหลังจากหมอเดินหายเข้าไป เขารู้ว่าเพื่อนเขาเป็นห่วงเมีย เขาเองก็เป็นห่วงเพื่อนของเขาที่อยู่ข้างในด้วยเหมือนกัน "เซรินจะเป็นอะไรไหมวะ?" วินเนอร์รำพึงออกมาแผ่วเบาๆ คล้ายคนละเมอ แต่ยังไม่ทันที่เพื่อนๆ จะได้ตอบอะไร "เข้าห้องฉุกเฉินไปแล้วใช่ไหมวะ?" เสียงของคนใหม่ที่วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาก็ร้องถามขึ้น "ไอ้หมอ ช่วยเมียกูกับไอ้เจคด้วย" วินเนอร์ถลาเข้าไปหาคนมาใหม่ที่เป็นเพื่อนของเขาเอง "เออ !!! เพื่อนกูเหมือนกัน พวกมึงรอข้างนอก อย่าเพิ่งไปไหน เผื่อมีอะไรจะต้องช่วยตัดสินใจ" พูดเสร็จเขาก็รีบเดินเข้าห
ตอกย้ำความจริง ดูเหมือนสถานการณ์ทุกอย่างจะคลี่คลาย และสงบจบลงด้วยดี เสี่ยอำนาจได้รับกรรมตามที่ตัวเองก่อไว้ สำหรับเขามาเฟียอย่างวินเนอร์ชีวิตต้องแลกด้วยชีวิตเท่านั้น เมื่อมันพรากลมหายใจไปใคร มันก็ต้องเอาลมหายใจของตัวเองไปไถ่บาปเท่านั้น “รีบไป ไอ้เจคท่าไม่ค่อยดี เอามันไปโรงพยาบาลด่วน” เสียงมังกรตะโกนเร่งลูกน้อง หลังจากเห็นพวกวินเนอร์มุ่งตรงมาที่เหลือที่พวกเขาจอดรออยู่ “เฮีย! ฮึก..เซคิดถึงเฮีย..ฮืออ” เซรินร้องไห้ออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ “เฮียรู้ไหมว่าเซกลัวแค่ไหน..เซกลัว กลัวว่าเฮียจะเป็นอันตราย..ฮึก” “ไม่เป็นไรนะ เฮียอยู่นี่แล้ว” ร่างสูงเอ่ยพร้อมกับกอดปลอบหญิงสาว “เฮีย…เฮียช่วยลูกของเราด้วยนะ ช่วยลูกด้วย...” เซรินพูดพร้อมกับกุมมือหนา เอามาวางไว้ที่หน้าท้องของตนเอง ขาสองข้างเต็มไปด้วยเลือดที่ไหลออกมา “ลูกหรอ เมื่อกี้เซพูดว่าลูกใช่ไหม!!” สำหรับสถานการณ์ในตอนนี้ทุกอย่างมันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วไปหมด หัวใจของชายหนุ่มเต้นตึกตักพร้อมทั้งความคิดในหัวที่ตีรวนเมื่อได้รับรู้ว่าตนเองกำลังจะเป็นพ่อคนแล้ว ทั้งความรู้สึกดีใจ ผสมปนเปไปกับความรู้สึกโกรธเคืองและเคียดแค้นเสี่ยอำนาจที่เกือบจ