ดอกไม้ข้างทาง
“นายครับ จะกลับขึ้นเรือ หรือเข้าฝั่งกลับเพ้นท์เฮ้าส์ดีครับ” พายุมือขวาของมาเฟียหนุ่มเอ่ยถาม หลังจากช่วยผู้เป็นนายและหญิงสาวขึ้นจากทะเล “ไป Win Club!!” วินเนอร์สั่งลูกน้องคนสนิท “นายจะพาเธอไปด้วยหรอครับ?” พายุเอ่ยถาม เพราะ Win Club เป็นทั้งบ่อนคาสิโน ทั้งผับ ทั้งสถานบันเทิง ทั้งโรงแรมที่ให้ความสุขแก่แขกในวงการสีเทาแบบครบวงจร ตั้งอยู่บนเกาะส่วนตัวของวินเนอร์ ที่นายของเขายังไม่เคยพาผู้หญิงเข้าไปยังสถานที่แห่งนี้เลยสักคน นอกจากพนักงานหญิงที่เมื่อเข้ามาทำงานที่นี่แล้วจะไม่มีโอกาศได้ออกไปนอกเกาะ จะได้ออกไปอีกครั้งก็ต่อเมื่อไม่ได้ทำงานที่เกาะแห่งนี้อีกแล้วนั่นเอง “กูจะไปเช็คของกับพวกไอ้คาร์โก้ ไม่อยากเสียเวลา” “ครับ” พายุรับคำสั่งและออกเรือมุ่งหน้าไปยังที่หมายตามคำสั่งโดยไม่ถามอะไรมาก เพราะเขาเป็นเพียงลูกน้องที่มีหน้าที่ทำตามคำสั่งเท่านั้น ชายหนุ่มยืนมองหญิงสาวที่นอนตัวเปียกสวมเพียงเสื้อเชิ้ตของเขากับแพนตี้ตัวจิ๋วอยู่บนที่นั่งบนเรือยอร์ช เสื้อสีขาวเมื่อเปียกแล้วทำให้บางและแนบติดลำตัวจนเห็นเป็นตรูปร่าง ทรวดทรง เอวคอดได้อย่างชัดเจน หญิงสาวแค่ผล็อยหลับไปเท่านั้น หลังจากที่เขาช่วยเธอขึ้นจากทะเลได้แล้วจึงปฐมพยาบาลให้เธอฟื้น แต่เพราะความเพลียจากการนอนน้อยและหมดแรงจากการว่ายน้ำเอาตัวรอด เสื้อเปียกๆ ของเธอทำให้เห็นทุกอย่างบนเรือนร่าง ถึงแม้ในเรือจะมีแค่เขา พายุ และลูกน้องอีกไม่กี่คน แต่ทั้งหมดก็เป็นผู้ชาย ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดไม่อยากให้ใครได้เห็นนอกจากเขาคนเดียว “พายุ มึงถอดเสื้อออกมา” มาเฟียหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ “ห๊ะ!!!นายจะดูซิกแพ๕ผมหรอ? คิดอะไรกับผมหรือเปล่าเนี่ย?” “ไอ้พายุ!!มึงจะถอดดีๆ ไหม?” เขาหันไปมองลูกน้องคนสนิทแวบหนึ่ง แล้วดึงสายตากลับมายังจุดเดิม “หื้อออ นาย! อยากดูหัวนมผมก็ไม่บอกตรงๆ” พายุพูดแกมหยอกผู้เป็นนาย แต่มือก็ทำการปลดกระดุม ถอดเสื้อส่งให้มาเฟียหนุ่ม ที่เขาสามารถพูดเล่นกับวินเนอร์ได้เพราะทั้งเขา วินเนอร์ และดิน คนสนิทของมาเฟียหนุ่มอีกคนเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก พ่อของพายุและดินเป็นลูกน้องคนสนิทของเวนอล มาเฟียรุ่นใหญ่ พ่อของวินเนอร์ เขาทั้งสองจึงเป็นทั้งลูกน้องและเพื่อนของมาเฟียหนุ่ม มาเฟียหนุ่มรับเสื้อมาจากลูกน้องคนสนิทและนำไปคลุมให้คนตัวเล็กที่หลับไม่รู้เรื่อง เขาเองก็ไม่เข้าใจในความรู้สึกแปลกใหม่ที่เกิดขึ้นกับคนตัวเล็ก ทั้งๆ ที่เขาเองก็เพิ่งจะรู้จักเธอแค่คืนเดียว ชื่อก็ไม่รู้จัก แต่เดาได้ว่าเธอน่าจะชื่อ ‘เซ’ เพราะได้ยินเธอแทนตัวเองในคืนนั้น “กูอยากได้ประวัติเธอ” เขาเอ่ยขึ้นกับพายุ หลังจากรับเสื้อมาคลุมให้เธอ “ได้ครับนาย ผมจะบอกให้ไอ้ดินจัดการ แล้วค่อยตามไปสมทบที่ Win Club” พายุรับคำสั่งก่อนยกมือถือกดโทรไปหาบุคคลที่เขาพูดถึงเพื่อมอบหมายหน้าที่ที่ได้รับคำสั่งมา “เร็วที่สุด!!” มาเฟียหนุ่มย้ำอีกครั้ง เขาอยากรู้เรื่องของเธอทั้งหมดและเร็วที่สุด “ครับ” พายุรับคำสั่ง “นายครับ คุณคาร์โก้ คุณเจคอร์ป คุณมังกร อยู่ที่คลับแล้วนะครับ” มาเฟียหนุ่มฟังรายงานจากลูกน้อง แต่ไม่ได้ตอบรับใดๆ ชื่อบุคคลที่ลูกน้องของเขาพูดถึงนั้น คือ เหล่าเพื่อนของเขาที่นัดเช็คสินค้ากันที่คลับของเขาในคืนนี้ และที่แน่ๆ คือ เพื่อนของเขาก็เป็นมาเฟียด้วยเช่นกัน เขามองออกไปยังเส้นทางเรือด้านหน้าที่กกำลังมุ่งไปยังเกาะที่ตั้งคลับของเขา เขาคิดถูกหรือคิดผิดกันแน่นะที่พาตัวหญิงสาวคนนี้ไปในที่แบบนั้นด้วย… WIN CLUB ภายในห้อง VIP ของผับที่เป็น 1 ในสถานบริการใน วินคลับ มีชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาอยู่ 4 คนและหญิงสาวพนักงานอีก 2 คนที่กำลังทำหน้าที่บริการเครื่องดื่มและดูแลเหล่าบรรดามาเฟียหนุ่ม “พวกมึงมาคุยงานกับกู หรือมาหาที่ระบายความอยาก?” วินเนอร์พูดขึ้นทำลายความเบื่อหน่าย เขาคุ้นชินกับภาพตรงหน้าที่เพื่อนของเขามักจะนัวเนียอยู่กับสาวๆ เพราะในกลุ่มของพวกเขานั้นยังไม่มีใครมีเมียเป็นตัวเป็นตน หรือแม้แต่จะคิดจริงจังเลยแม้แต่คนเดียว “ก็คุยดวะ คุยด้วย สนุกด้วย” เจคอร์ปเอ่ยขึ้นแล้วหันไปจูบดูดดื่มกับพนักงานสาวต่อ “สินค้าล็อตนี้มีมีดสั้นกับปืนสั้นแบบพกพา ที่กูเป็นคนออกแบบเอง ทั้งรูปลักษณ์และการใช้งานที่ง่ายแต่ใช้ได้ดี เหมาะสำหรับผู้หญิงมากๆ” คาร์โก้พูดขึ้นพร้อมทั้งอธิบายสินค้าที่พวกเขาร่วมกันผลิตในล็อตนี้ “มึงตั้งใจตีตลาดผู้หญิงหรอวะ?” มังกรเอ่ยถาม “เออ!! ตอนนี้เหล่าบรรดานักธุรกิจรายใหญ่ๆ ให้ความสำคัญกับลูกและเมียมากขึ้น เพราะวงการนี้เมื่อเอาตัวเข้ามาแล้วไม่มีคำว่าปลอดภัย มีแต่คำว่าลอบกัดได้ให้รีบลอบกัด พวกมันเลยต้องหาคนมาป้องกันคนสำคัญของมันและก็ต้องให้คนของพวกมันป้องกันตัวเองด้วย” “อืม…ความคิดดี” วินเนอร์กล่าว และกระดกวิสกี้ขึ้นเบาๆ “วันนี้กูเอาแค่สินค้าตัวอย่างมาให้มึงดูและทดลอง พรุ่งนี้สินค้าทั้งหมดจะมาถึงที่เกาะนี้” เจคอร์ปพูดขึ้นในขณะที่กำลังสารวนอยู่กับสาวอกโต วินเนอร์เบนสายมองไปยังเพื่อนของเขา ก่อนดึงสายตากลับมาที่วิสกี้ตรงหน้าดังเดิม คล้ายกับว่าวิสกี้สำคัญกว่าคำพูดของเพื่อนเขา พายุเปิดประตูห้องเข้ามา กระซิบกับผู้เป็นนาย “นายครับ เธอฟื้นแล้วครับ” มาเฟียหนุ่มพยักหน้า แล้วดันตัวลุกขึ้น “มึงจะกลับแล้วหรอ?” มังกรเอ่ยถามเมื่อเห็นเพื่อนลุกขึ้นยืน “เออ!!กูอยากพักผ่อน ไม่ได้นอนตั้งแต่เมื่อวาน” “เออๆ อย่าลืมมารับของ เช็คของกับพวกกูพรุ่งนี้ด้วยล่ะ ไม่ใช่ส่งแต่ไอ้พายุกับไอ้ดินมา หัดทำงานบ้างมึงอ่ะ” วินเนอร์มองเพื่อนด้วยหางตา ก่อนเหมุนตัวเตรียมเดินออกจากห้อง “พรุ่งนี้กูจะถอนหุ้นออกจากธุรกิจของพวกมึง” วินเนอร์พูดทิ้งท้ายไว้แค่นั้นแล้วเดินออกจากห้องไป “เอ๊า!!ไอ้นี่ กูสงสัยจริงๆ มันรอดตีนจนโตมาขนาดนี้ได้ไงวะ? ไม่ค่อยพูด แต่เวลาพูดมาทีหนึ่งกูอยากเอามีดสับปากชิบ!!” เจคอร์ปพูดอย่างหมั่นใส้ในคำพูดของคนเย็นชา วินเนอร์กลับมาที่เพ้นท์เฮ้าส์ส่วนตัวขนาดย่อมที่เขาสร้างไว้บนเกาะเพื่อเอาไว้พักเวลามาดูกิจการ เกาะส่วนตัวแห่งนี้ที่เขาเป็นเจ้าของ มีทุกสิ่งทุกอย่าง คล้ายเป็นหมู่บ้านเล็กๆ หมู่บ้านหนึ่ง ที่เอาไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวนั่นเอง เขาเปิดประตูเพ้นท์เฮ้าส์เข้ามา พบกับห้องโถงเป็นห้องแรก มีโซฟา และเครื่องอำนวยความสะดวกแบบครบครัน ด้านหน้าห้องโถงเป็นกระจกที่มีวิวเมื่อมองออกไปเป็นทะเลสุดลูกหูลูกตา เขาเดินตรงเข้าไปด้านในเป็นห้องนอนที่ตอนนี้เขาพาหญิงสาวมานอนพักที่นี่ เมื่อเปิดประตูเข้าไปยังคงพบกับคนตัวเล็กยังนอนอยู่บนที่นอน ‘ไหนไอ้พายุบอกว่าฟื้นแล้ว?’ เขาเดินตรงไปยังเตียงหนา เพื่อจะดึงตัวเธอลุกขึ้นจากเตียง ลูกน้องของเขาบอกว่าเธอฟื้นแล้ว เขาคิดว่าเธออาจจะแกล้งทำเป็นหลับเพื่อหลีกเลี่ยงกาพูดคุยกับเขาเรื่องที่เกิดขึ้น แต่เมื่อเขาแตะถูกตัวเธอกลับพบว่าตัวหญิงสาวร้อนจี๋เพราะพิษไข้ ‘ไข้ขึ้น’ “ผู้หญิงนี่อ่อนแอจังวะ?” เขาพึมพำ ก่อนล้วงมือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกง ต่อสายหาลูกน้อง “ไอ้พายุ ตัวเธอร้อน” ‘เธอน่าจะมีไข้ครับนาย คงเพราะตัวเปียกเป็นเวลานาน’ “ต้องทำยังไง” เขาถามสั้นๆ ‘ต้องเช็ดตัว ทำให้ตัวเธอเย็นเพื่อให้ไข้ลดลงครับ’ “มึงมาจัดการ เช็ดตัวให้เธอ เอายามาด้วย” ‘ผมเอายาไปให้ได้ครับ แต่เช็ดตัวนายต้องทำเอง เพราะถ้าให้ผมทำ ผมต้องถอดเสื้อผ้าเธอออกทุกชิ้นนะครับ’ พายุส่งเสียงมาตามสายแอบอมยิ้มน้อยๆ เขาคิดว่านายของเขาต้องไม่ยอมแน่ๆ ปลายสายเงียบไปพักหนึ่งก่อนพูดสั่งขึ้น “เอาอุปกรณ์กับยามาให้กู บอกวิธีทำด้วย” เขาเอ่ยเสียงเรียบ ‘ครับ’ พายุรับคำสั่งด้วยรอยยิ้มปนขำในการกระทำของเจ้านายตัวเอง สงสัยงานนี้เขาคงมีนายหญิงก่อนคนอื่นในแก๊งค์มาเฟียหนุ่มแน่ๆ มาเฟียหนุ่มรับอุปกรณ์มาจากลูกน้อง ยืนมองคนตัวเล็กอยู่ครู่หนึ่ง ถึงแม้จะฟังวิธีการทำมาจากพายุแล้ว แต่เขาก็ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนก่อนดี “ฮืออออ คุณแม่ขา คุณพ่อขา ฮึก ฮึก ฮืออ~ ~อย่าปกป้องหนู อย่างทิ้งหนูไป…” คนตัวเล็กละเมอเพราะพิษไข้ ยกมือขึ้นโบกสะเปะสะปะเหมือนกำลังไขว่คว้าหาอะไรบางอย่างอยู่กลางอากาศ และก็สามารถคว้าชายเสื้อของมาเฟียหนุ่มไว้ได้ เธอกำไว้แน่นเหมือนกับว่ากลัวมันจะหลุดหายไป เหงื่อมากมายผุดขึ้นเต็มหน้าผากมน เขาได้แต่ยืนมองและพยายามจับใจความคำพูดของคนตัวเล็กท่ะลเมอออกมา แต่ก็ไม้สามารถเข้าใจได้ ‘ทำไมฉันถึงต้องมาทำอะไรแบบนี้กับคนที่ไม่รู้จัก ทำไมฉันต้องมาอยากรู้เบื้องลึกของชีวิตเธอด้วยนะ? ทั้งๆ ที่เธอเองก็เป็นแค่เพียงดอกไม้ที่ขึ้นอยู่ข้างทางแล้วฉันบังเอิญเด็ดเธอมา แค่นั้นเอง…’ใช่ว่าที่ลูกสะใภ้แม่หรือเปล่าเซรินตื่นขึ้นมาจากอาการไข้พบว่าตัวเองนอนอยู่ในห้องที่ตกแต่งด้วยโทนสีดำด้วยสภาพไม่ใส่อะไรเลยมีเพียงผ้าห่มสีดำปิดเรือนร่างอันเปลือยเปล่า เธอมองขึ้นไปบนเพดานมีหลอดไฟหรูหราแต่เรียบง่ายติดอยู่ ‘ไม่ใช่ในเรือ ไม่ใช่โรงพยาบาล…ที่นี่ที่ไหนกันนะ?’ เธอคิดในใจ แต่ยังไม่ทันได้คิดไปไหนไกล เสียงเปิดประตูก็ดังขึ้นแกร็ก!! เสียงลูกบิดประตูถูกบิดและเปิดออก ด้วยฝีมือของชายแปลกหน้าที่เธอคุ้นเคยดี…ชายที่ได้ความบริสุทธิ์ของเธอไปนั่นเอง“คะคุณช่วยฉันไว้หรอคะ?”“ฉันแค่เอาที่ช้อนปลาตักเธอขึ้นมาจากทะเล…”“ห๊ะ!! พูดเล่นใช่ไหมเนี่ย?” เซรินตกใจคำตอบของเขา“คุณช่วยฉันขึ้นมาทำไมคะ? จะส่งฉันไปให้ไอ้เสี่ยอ้วนนั่นหรอคะ?”“เสียของ”“อะไรนะ อะไรคือเสียของ?”“จะส่งเธอให้เสี่ยอำนาจน่ะเสียของ” วินเนอร์ปลายหางตามองหญิงสาวที่ตอนนี้อยู่ในท่านั่งบนเตียงคิงไซส์ด้วยท่อนบนเปลือยเปล่ามีเพียงผ้าห่มผืนดำคลุมปิดท่อนล่างไว้ ดูเหมือนเซรินเองจะยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าอกกลมสวยทั้งสองข้างของเธอได้ออกมาอวดโฉมแก่สายตาชายหนุ่ม“หมายความว่าคุณจะไม่ส่งฉันไปให้เสี่ยอำนาจจริงๆ ใช่ไหมคะ?”“มีแต่คำถามเต็มไปหมด” วินเนอร์
หน้าที่ของเธอคือ “เมียฉัน” @ สนามยิงปืน WIN CLUB “วันนี้ไอ้วินมาไวเว้ย” เจคอร์ปเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นวินเนอร์เดินเข้ามา น้อยครั้งที่พวกเขาจะได้เห็นวินเนอร์จะออกมาเช็คของ รับของด้วยตัวเอง “กูมาเร็วไม่ดีใช่ไหม?” วินเนอร์ตอบกลับไปแบบหน่ายๆ จริงๆ เขาไม่ชอบมาทำอะไรแบบนี้ ส่วนมากจะให้พายุหรือดินมาแทน “ดี!! ปกติไม่เคยจะเห็นหัว ทำงานบ้าง ข้างบ้านจะสงสัย ไม่ใช่ส่งแต่ไอ้ยุกับไอ้ดินมา” เจคอร์ปตอบ “ส่งแต่ไอ้ยุไปเช็คของจนคู่ค้าเขาคิดว่ามันเป็นเจ้านายไปละ” มังกรพูดเหน็บคนเป็นเพ่อนแบบติดตลก “พูดมาก” วินเนอร์ตอบสั้นๆ ด้วยสีหน้าเรียบเฉย “สงสัยวันนี้ฝนจะตก ถ้าวันนี้ฝนตกกูยกน้องนีน่าให้มึงเลย” น้องนีน่าที่คาร์โก้พูดถึงคือ สาวสวยนางแบบหุ่นแซ่บคู่ขาของคาร์โก้ที่เขาควงด้วยบ่อยๆ ในช่วงนี้ “ไม่เป็นไร ขอบใจ มึงเก็บไว้กินคนเดียวนั่นอหละดีแล้ว กินให้อิ่ม เดี๋ยวพอมีเมียแล้วจะไม่ได้กิน” “คนอย่างกูหรอจะมีเมีย มึงคิดได้ไง กูไม่เอาปลอกคอมาใส่หรอก กูไม่ชอบให้ใครมาทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของกู” คาร์โก้ปฏิเสธแบบร่ายยาว เพราะคำว่า ‘เมีย’ สำหรับเพลย์บอยอย่างเขามันเป็นเรื่องน่ารำคาญ “แล้วทำไมต้องร่ายยาว” วิน
ทดลองงาน “คุณคะ? คุณ…เซต้องเริ่มงานคืนนี้เลยหรอคะ? เริ่มยังไงคะ?” เซรินเดินตามเข้ามาในส่วนของห้องนอน เธอไม่ได้สนใจว่าชายหนุ่มกำลังเดินไปไหน แต่สนใจแค่กับสิ่งที่เธอต้องทำต่อจากนี้ต่างหาก หมับ! พรึ่บ! ในขณะที่เซรินกำลังเร่งเดินตามชายหนุ่มเพื่อมาถามคำถามเขา วินเนอร์ก็หันกลับมาจับแขนเรียวเหวี่ยงเธอไปบนที่นอนนุ่มไม่แรงมากนัก “อ๊ะ!” เซรินร้องออกมาเสียงหลงไม่ใช่เพราะเจ็บแต่ตกใจเมื่อถูกเหวี่ยงขึ้นบนเตียงแบบไม่ทันได้ตั้งตัว “อื้อ!!” ริมฝีปากหนาประกบลงบนปากบาง แรงบดขยี้ดุเดือดจากแรงจูบของคนบนร่างที่ตอนนี้คือ ‘นายจ้าง’ ของเธอ หัวใจของคนตัวเล็กเต้นไม่เป็นจังหวะเหมือนจะระเบิดออกมาเต้นอยู่นอกอกเลยก็ว่าได้ วินเนอร์บดขยี้จูบคนตัวเล็ก รสชาติจูบของเซรินช่างหอมหวานสำหรับเขามาก กลิ่นตัวของเธอก็ชนจมูกจนกลิ่นหอมเย้ายวนปลุกอารมณ์ความหลงใหลได้อย่างที่เขาไม่สามารถบังคับตัวเองได้ ท่อนกายแกร่งที่อยู่ในกางเกงเริ่มปวดหนึบ เขาอยากจะยัดมันใส่เข้าไปในตัวเธอซะตอนนี้ มือแกร่งข้างหนึ่งเลื่อนมาจับเอวบาง ลูบไล้สอดเข้าไปใต้เสื้อเชิ้ตตัวใหญ่เพียงตัวเดียวปราศจากชิ้นอื่นใดที่เธอสวมใส่อยู่ มือหนาเลื่อนขึ้นมาจับเ
ความจริงเพียงครึ่งเดียว ‘น่ารักชะมัด’ วินเนอร์อยู่ในท่านั่งพิงหัวเตียง มีคนตัวเล็กนอนคว่ำวงแขนเรียวเล็กพาดกอดเอวหนา หลับตาพริ้ม วินเนอร์ตื่นได้สักพัก เขานั่งมองร่างบางที่กำลังหลับ แล้วยกมือถือขึ้นมากดหาคนสนิทเพื่อสั่งงานให้จัดหาของให้กับเซริน “อื้ออออ แม่ขา อุ่นจังเลย” เซรินละเมอออกมาเบาๆ “เด็กน้อย!” เขาเอ่ยอย่างเอ็นดู ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น คงจะเป็นพายุเอาของที่เขาสั่งให้จัดหามาให้ “เข้ามา!” เขาไม่เดินไปเปิดประตูเพราะกลัวว่าถ้าเขาขยับ คนตัวเล็กใต้ผ้าห่มที่กอดเอวเขาไว้จะตื่นขึ้นมา พายุเดินเข้ามาในส่วนของห้องนอนเห็นภาพบนเตียงแต่ก็ไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไรหรือไม่คิดจะยุ่งเรื่องของนาย มือหนาของวินเนอร์ดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมให้ร่างบางจนเกือบมิดหัว เพราะลูกน้องของเขาเป็นผู้ชาย “ผมเอาของที่นายสั่งมาให้แล้วนะครับวางอยู่ด้านนอก ไอ้ดินกลับมาแล้วครับ นี่เอกสารที่นายให้หา” พายุยื่นซองเอกสารสีน้ำตาลให้ผู้เป็นนาย ภายในซองสีน้ำตาลคงจะเป็นข้อมูลของคนตัวเล็กบนเตียงเขา เขารับเอกสารจากพายุ “อือ พรุ่งนี้กูจะกลับ คืนนี้จะไปคลับไปหาไอ้พวกคาร์โก้สักหน่อย มึงไปจัดการเรื่องที่
สยบเสือยิ้มยาก ก๊อก ก๊อก ก๊อก “นายครับๆ” เสียงพายุดังขึ้นหลังจากเคาะประตูเหมือนมีเรื่องด่วน วินเนอร์และเซรินที่นอนอยู่บนเตียงหนาลืมตาตื่นขึ้นเพราะเสียงดังจากนอกห้อง เซรินสะดุ้งตื่นดูตกใจ กลัวคนภายนอกจะรับรู้ว่าเมื่อสักครู่ทั้งสองทำอะไรมา เพราะทั้งเขาและเธอไม่ได้สวมอะไรเลย แต่ชายหนุ่มข้างๆ ยังคงความสงบนิ่งดูจะไม่ทุกข์ร้อนใดๆ เลย “นายครับๆ” เสียงพายุยังดังขึ้นอีก แต่ก็ยังไม่เปิดประตูเข้ามา ด้วยความที่ยังไม่ได้ยินเสียงอนุญาตจากผู้เป็นนาย “ตาวิน! ถ้าไม่ตอบ มี๊จะเปิดเข้าไปแล้วนะ” เสียงของแม่เขา ‘นี่สินะที่ทำให้ไอ้พายุเคาะประตูอย่างบ้าคลั่งเหมือนฟ้าจะถล่ม นี่แม่ของเขาถึงขนาดลงทุนมาเหยียบที่เกาะ WIN CLUB ด้วยตัวเองเลยหรอเนี่ย’ ผวะ !!! เสียงเปิดประตูห้องนอนจากมือของหญิงที่ดูแล้วน่าจะอยู่ในวัยกลางคนแต่ลักษณะบุคคลิก หน้าตา การแต่งตัวในชุดเดรสสั้นสีแดงสดทันสมัย โฉบเฉี่ยว ทำให้ดูยังสาวรุ่นๆ ราว26-27 เมื่อมีคนเปิดเข้ามา เซรินที่อยู่ในผ้าห่มก็เกิดอาการตกใจรีบซบใบหน้าหลบไปที่อกของวินเนอร์โดยอัตโนมัติ ทำให้ชายหนุ่มอมยิ้ม ชอบใจในการกระทำของคนตัวเล็กไม่น้อย “อุ๊ย!! มี๊เข้ามาผิดจังหวะไ
มึงขยับ มึงร่วง @ WIN CLUB ห้อง VIP พิเศษ “ไอ้วิน! ทำไมวันนี้มึงเลือกห้องกระจกวะ?” เจคอร์ปถามขึ้น เพราะปกติเขาไม่ชอบห้องกระจกที่มองเห็นทั่วคลับ เขาให้เหตุผลว่า มันน่ารำคาญ เขาชอบอยู่ในห้องที่มิดชิดที่ไม่มีใครรบกวน “อยากเปลี่ยนบรรยากาศมองสาวหรอวะ?” มังกรพูดด้วยน้ำเสียงขำๆ “กูว่าไม่น่าใช่! มันเอาไว้นั่งดูแม่มันมากกว่า” คาร์โก้พูดขึ้น เมื่อมองไปด้านล่างพบกับคุณยูริเมียของลุงเวนอลแม่ของเพื่อนเขา ทุกคนหันสายตาไปยังจุดเดียวกัน คือ แม่ของวินเนอร์ที่นั่งโยกเบาๆ อยู่ด้านล่างกับผู้หญิงตัวเล็กหน้าตาน่ารักๆ ผิวขาว ผมยาวในชุดมินิเดรสแหวกขา รัดรูป สีดำที่เมื่อใส่แล้วขับผิวขาวสะท้อนแสงไฟในคลับทำให้ดูเด่นมาก “เห้ย!! แม่มันอ่ะสวยก็จริง แต่กูชอบสาวตัวเล็กที่นั่งข้างๆ ว่ะ น่ารักชิบหาย” เจคอร์ปพูดขึ้น โดยที่สายตายังไม่ละออกจากคนตัวเล็กเบื้องล่าง “แล้วพ่อมึงล่ะวะ? เป็นไปได้ไงปล่อยน้ายูริมาคนเดียวได้” คาร์โก้ถาม “เดี๋ยวก็มา! ไม่เกิน 20 นาที!!” วินเนอร์ตอบสั้นๆ เพราะเขารู้ว่าถ้าพ่อเขารู้แม่ของเขาอยู่ในคลับ รับรองมาอย่างไว “ยังไงก็เถอะพวกมึง! กูอยากได้น้องชุดดำนั่น! เดี๋ยวกูมานะ ลงไปไหว้แม่
คนเมางอแง “ไอ้วิน! แม่มึงเมา ไปดูไหม? เดี๋ยวกูดูแลทางนี้ให้” เจคอร์ปพูดขึ้นในขณะที่สายตายังไม่ละจากภาพของเพื่อนที่ยืนโอบเอวหญิงสาวร่างเล็กชุดดำตรงหน้าเขา เขานึกชอบคนตัวเล็กหน้าตาจิ้มลิ้มคนนี้เหลือเกิน ทำไมนะ? ทำไมรู้สึกถูกชะตา ถูกใจและอยากได้มาครอบครอง ทั้งๆ ที่รู้ดีว่าผู้หญิงคนนี้เป็นเป็นของเพื่อน “ไม่ต้อง!” เสียงวินเนอร์พูดด้วยน้ำเสียงเรียบ เบนสายตาไปยังชายวัยกลางคนหุ่นสมาร์ทมาดนิ่งเดินตรงเข้ามาที่พวกเขายืนอยู่ บุคคลที่เขารู้จักดี ‘พ่อ’ ของเขานั่นเอง “สวัสดีครับลุงเวนอล” มังกรเอ่ยทักทายบุคคลที่เข้ามาใหม่ มาเฟียใหญ่พยักหน้ารับคำทักทาย “แม่แก?” เวนอลเอ่ยขึ้นสั้นๆ ถามผู้เป็นลูกชาย ดูก็รู้ว่าวินเนอร์ถอดแบบนิสัยการพูดน้อยมาจากใคร วินเนอร์ไม่ได้ตอบอะไรกลับ แต่ใช้สายตามองไปยังเป้าหมายของผู้เป็นพ่อที่ตอนนี้กำลังเต้นโยกอยู่หน้าเวทีโดยมีเวหาและสิชลหิ้วปีก พ่อของเขาเห็นดังนั้นก็ทำได้แค่ส่ายหน้าและเดินไปหาคนเมาชุดแดง “สวัสดีครับ ผมชื่อเจคอร์ป เป็นเพื่อนกับไอ้วิน” เจคอร์ปพูดกับคนตัวเล็กในอ้อมแขนของเพื่อนเขา หญิงสาวแหงนหน้ามองเจคอร์ปเล็กน้อย “สวัสดีค่า~~ คุณเจคอร์ป เซชื่อเซรินค่ะ
นายหญิงน้อย รถสปอร์ตหรูสีดำขลับแล่นบนถนนโล่งด้วยความเร็ว เนื่องจากเวลานี้เป็นเวลาเกือบเที่ยงคืน ทำให้บนท้องถนนยามราตรีแทบไม่มีรถแม้แต่คันเดียว ภายในรถหรูวินเนอร์สวมเสื้อเชิ้ตดำสนิทสีเดียวกับรถ บนตักแกร่งของมาเฟียหนุ่มมีสาวน้อยร่างบางหลับพริ้มมาได้สักพักแล้ว คนตัวเล็กคงเพลียกับการเดินทางที่ยาวนานตลอดวัน ทั้งขึ้นเรือ นั่งรถ ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ “ไอ้ดิน! ถอดสูทมึงมา!” มาเฟียหนุ่มเอ่ยสั่งคนสนิทที่นั่งอยู่เบาะหน้าข้างพายุที่เป็นคนขับ “ห๊ะ? นายจะเอาไปทำอะไรครับ?” ดินถามคนเป็นนายด้วยความสงสัย แต่คนขับแอบอมยิ้ม เพราะรู้ว่านายของเขาให้เพื่อนเขาถอดเสื้อไปทำอะไร ก็จะไม่รู้ได้ยังไงล่ะ ในเมื่อเขาเองก็เคยโดนแบบนี้มาแล้ว “ถอด!!” ดินมองหน้าเจ้านายแบบ งงๆ แต่ก็ยอมถอดยื่นให้ตามคำสั่ง วินเนอร์รับเสื้อเอามาคลุมให้เซริน เพราะคนตัวเล็กอยู่ในชุดมินิเดรสสั้นรัดรูปที่พายุเป็นคนจัดหามาให้ “ถ้าครั้งหน้ามึงหาเสื้อผ้าแบบนี้มาอีก กูจะให้มึงไปรับเงินเดือนจากแม่กู” “โถ่…นาย ผมขัดอะไรนายหญิงใหญ่ได้บ้างครับ?” ก็จริงของมันนั่นแหละ มันไม่มีทางขัดแม่เขาได้ ไม่ใช่แค่มัน แต่เป็นทุกคน! “นายจะไปไหนดีครับวันนี้ เ
special happiness ดวงตากลมใสค่อยๆเปิดเปลือกตาลืมขึ้น เปลือกตาที่ค่อยๆเปิด กระพริบถี่ๆเพื่อปรับรับแสงที่สาดส่องรอดผ่านกระจกบานใสเข้ามาภายในห้องที่ดูคุ้นตามาตลอดระยะเวลา 3 เดือนที่เธอคลอดลูกสาวมา นี่ไม่ใช่ห้องนอนของเธอ แต่เป็นห้องเลี้ยงเด็กอ่อนที่วินเนอร์ทำขึ้นเอาไว้เธอและพี่เลี้ยงคอยเลี้ยงลูกสาว ห้องค่อนข้างโปร่ง ภายในห้องเต็มไปด้วยข้าวของเครื่องใช้ของเด็กทั้งยังมีกลิ่นบางอย่างที่ค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์นั่นก็คือ กลิ่นนม กลิ่นแป้งเด็ก เหตุการณ์ก่อนหน้านี้ฉายเข้ามาในความคิด เซรินเผลอหลับไประหว่างที่มองพี่เลี้ยงกำลังนั่งเล่นกับเด็กน้อยอย่างเพลินๆจนเผลอหลับไปเมื่อไรไม่รู้ตัว รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกทีก็เพราะเสียงเด็กที่ร้องอ้อแอ้ข้างหูกับพร้อมกับเสียงทุ้มนุ่มของผู้ชายคนหนึ่งที่คล้ายกำลังหยอกล้อกันอยู่ เซรินจำเสียงนี้ได้ดี เมื่อตอนได้ยินเสียงนั้นครั้งแรกในห้องคลอด แม้จะเป็นเสียงร้องไห้ของเด็กแรกเกิด แต่เสียงนี้กลับกลายเป็นน้ำชะโลมหัวใจของเธอให้ชุ่มชื่นมากขึ้น แต่การเลี้ยงเด็กอ่อนไม่ใช่เรื่องสบาย แม้เธอจะมีพี่เลี้ยงคอยช่วยอยู่ก็ตาม ความเหนื่อยล้าที่สั่งสมมาจึงทำให้ร่างบางเผลอหลับไป
แต่งงานกันนะ "ขึ้นมาสิ" วินเนอร์จูงมือของเซรินขึ้นไปบนดาดฟ้าของเรือสำราญ เรือลำที่เขสและเธอพบเจอกันครั้งแรก สถานที่ต้นกำเนิดความรักของพวกเขาทั้งสองคน "มีอะไรหรือเปล่าคะเฮีย ทำไมต้องพาเซมาที่นี่ด้วย?" เซรินยังไม่ยอมเดินตามการจับจูงของคนตัวใหญ่ เพราะเธอรู้สึกว่าวันนี้วินเนอร์มีท่าทางแปลกไป ดูลุกลี้ลุกลนและพูดมากผิดปกติ ที่ผ่านมาจะพูดจะคุยกับเธอแต่ละคำราวกับกลัวดอกพิกุลจะร่วง "ขึ้นมาเถอะ" เขาบอกกับเธออีกรอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน เธอมองหน้าและสบตากับเขา พบกับสายตาวิบวับของคนตัวใหญ่ เซรินเองก็อยากรู้เหมือนกันว่ามีอะไรอยู่บนดาดฟ้าเรือกันแน่ทำไมเขาถึงอยากให้เธอขึ้นไปนัก สุดท้ายเธอก็ทนต่อสายตาอ้อนๆของเขาไม่ไหว จึงยอมเดินตามการจับจูงของเขาขึ้นไปบนดาดฟ้าของเรือ เมื่อเซรินก้าวขึ้นไปบนดาดฟ้าเรือ เธอก็เห็นโต๊ะตัวหนึ่งตั้งอยู่กลางดาดฟ้า มันถูกปูด้วยผ้าสีขาวดูสะอาดตา ตรงกลางโต๊ะมีแจกันใบโตวางอยู่ และในแจกันก็มีดอกทานตะวันดอกใหญ่หนึ่งดอกเสียบอยู่ในนั้น ดอกทานตะวันสีเหลืองทอง ดอกใหญ่ดูเด่นอยู่กลางโต๊ะ ทำให้เป็นที่ดึงดูดสายตาของเธอเหลือเกิน เก้าอี้สองตัวถูกวางไว้ข้าง ๆ โต๊ะ เซรินมองหน้าเขาด้
ต่อแขน ต่อขา เซรินกลับมาบริหารบริษัทของพ่อกับแม่ที่เหลือทิ้งไว้ให้เธอ ก่อนหน้านี้ตกไปอยู่ในมือของผู้เป็นอา บริหารจนบริษัทเกือบล้มละลาย ตอนนี้เธอกลับมากอบกู้มันขึ้นมาโดยมีวินเนอร์ มาเฟียผู้เป็นสามีคอยให้คำแนะนำ ให้คำปรึกษาและเอาบริษัทของตัวเองมาร่วมลงทุนกับบริษัทของเธอด้วย อีกทั้งยังมีบริษัทคู่ค้าด้วยอีกหลายบริษัทที่้ป็นบริษัทของเจคอร์ป พี่ชายบุญธรรมของเธอและเหล่าเพื่อนของวินเนอร์ที่ให้การสนับสนุนซัพพอร์ตเธอเป็นอย่างดี ทำให้บริษัทของเธอฟื้นตัวขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว ทุกอย่างกำลังลงตัว ทางครอบครัวของผู้เป็นอา ทั้งภรรยาและลูกของอา เซรินก็ไม่เอาผิดเพราะเขาไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับการกระทำของอาเธอเลย บ้านที่ทั้ฃสองอาศัยอยู่ ทั้งรถ เธอก็ยกให้ พร้อมทั้งให้เงินก้อนจำนวนหนึ่งที่พอจะให้ทั้งสองตั้งตัว มีอยู่มีกิน มีใช้ต่อไปได้สักพักใหญ่ๆ ถ้ารู้จักอดออม ประหยัดและหาเงินเข้ามาใช้จ่ายได้เพิ่มเอง ส่วนเรื่องผู้เป็นอา เธอให้คำตอบกับสองแม่ลูกเพียงแค่ว่า อาหายไปโดยที่ไม่มีใครรู้ ผู้เป็นภรรยาของเขาก็ไม่สงสัย ติดใจอะไรเพราะรู้ดีว่าผู้เป็นสามีของตนนั้น เป็นคนเช่นไร มีศัตรูเยอะเพียงใด หายไปก็คงเพราะศัตรูค
จบที่เรา เบาที่สุด ในห้องพักคนป่วยที่เงียบสงัดจนได้ยินแค่เสียงหายใจของหนุ่มสาวสองคนที่อยู่ภายในห้อง หลังจากวินเนอร์และเพื่อนๆ ของเขาเดินออกจากห้องไปตามคำขอของเซริน เพื่อปล่อยให้เธอและเจคอร์ปได้เคลียร์ใจกันเพียงลำพัง เพราะเขาเชื่อใจผู้หญิงของเขาที่จะต้องหาทางออกที่ดีสำหรับทั้งสองฝ่ายได้แน่ๆ และเขาก็ไว้ใจเพื่อนของเขาที่รู้ว่าอะไรควร อะไรไม่ควร และจะหาบทสรุปให้กับเหตุการณ์นี้ได้เช่นกัน "พี่เจค เจ็บตรงไหนไหมคะ?" เซรินเป็นฝ่ายทำลายความเงียบเริ่มบทสนทนาขึ้นมาก่อน "พี่ปลอดภัยแล้ว น้องรินไม่ต้องห่วง และไม่ต้องกังวลว่าที่พี่เป็นแบบนี้เพราะตัวน้องริน" เขารู้ว่าหญิงสาวเป็นห่วงและกังวลใจว่าตัวเองจะเป็นสาเหตุให้เขาต้องบาดเจ็บ และด้วยปมที่ติดอยู่ในใจของหญิงสาวยิ่งทำให้เขาเองเกิดความกังวลไปด้วยว่าหญิงสาวจะเป็นเช่นไรหลังจากเกิดเหตุการณ์ที่เขาเอาตัวเองบังกระสุนแทนเธอ และพูดว่าจะ ‘ปกป้อง’ ซึ่งเป็นคำต้องห้าม แต่กลับกัน หญิงสาวตัวเล็กไม่เป็นอะไรเลย ไม่คลุ้มคลั่งอีกต่อไปแล้ว เพราะความทรงจำของเธอกลับมา และอาการแพนิค คลุ้มคลั่งบังคับตัวเองไม่ได้ก็หายไปด้วยเนื่องจากเธอรู้ความจริงและมีสติอยู่กับตัวเ
พี่ชาย...ใช่ไหม? ภายในห้องพักผู้ป่วย ห้องพิเศษของโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ห้องพิเศษที่ไม่มีคนนอกได้มีโอกาสเข้ามาใช้บริการ เนื่องจากทั้งชั้นในชั้นนี้เป็นห้องพักผู้ป่วยส่วนตัวของเจ้าของโรงพยาบาล ซึ่งเป็นของตระกูลใหญ่ที่มีทั้งหมอส่วนตัว โรงพยาบาลเอกชน มีชั้นรักษา มีชั้นพักฟื้นส่วนตัว ภายในห้องพักกว้าง ตกแต่งเรียบง่ายแต่มีครบทุกเครื่องอำนวยความสะดวก และครบทุกเครื่องมือแพทย์ คนป่วยนอนนิ่งอยู่บนเตียงผู้ป่วย รายล้อมไปด้วยผู้คนหลากหลายอิริยาบท ประมาณ5-6 คน “กูคิดว่ามึงจะไม่ตื่นขึ้นมาดูโลกอันสดใสอีกครั้งซะแล้ว 555” คาร์โก้เปิดฉากบทสนทนาด้วยน้ำเสียงขบขันแกมหยอกล้อเพื่อนสนิท “พวกมึงก็ไปช่วยกูช้าจริง” คนบนเตียงสวนกลับในทันที แม้จะไม่เต็มเสียงมากนัก เพราะเขาเองก็เพิ่งจะฟื้นและออกมาจากห้อง ICU เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา “สำออยจริง มึงออกมาได้ ช่วยเหลือตัวเองได้ ทำไมมึงไม่ลุยออกมาวะ?” มังกรปิดท้ายประโยคด้วยคำถาม เขาเองรู้จักฝีมือเพื่อนดี สถานการณ์หนักกว่านี้เขาก็หนีออกมาได้ เขาก็จัดการได้ แต่นี่เขาไม่ทำ มันเกิดอะไรขึ้น เหตุผลอะไรที่ทำให้เพื่อนของเขายอมเอาตัวเองไปตกอยู่ในอันตราย “น้องริน...”
เกิดใหม่... แพขนตาหนา ค่อยๆ ขยับ เปลือกตาบางเปิดขึ้น พร้อมกระพริบถี่เพื่อปรับรับแสงสว่างที่กระทบเข้ามาที่สายตา เพราะหลับตาเป็นเวลานานจึงต้องใช้เวลาในการปรับสภาพอยู่สักพักหนึ่ง เมื่อปรับได้แล้ว หญิงสาวกวาดสายตาไปรอบๆ ภายในห้องเงียบกริบเหมือนกับว่าไม่มีคนอยู่ แต่จริงๆ แล้วมีร่างหนานั่งอยู่ข้างเตียง ซบหน้าหลับกับแขนของเธอ ‘ทำไมไม่ไปนอนดีๆ นะ’ เซรินคิดในใจ อยากจะขยับตัวให้คนร่างใหญ่รู้สึกตัว่าเธอตื่นแล้ว แต่ก็กลัวจะรบกวนเวลานอนของเขา ซึ่งคิดดูแล้วช่วงที่เธอยังไม่ตื่นเขาน่าจะไม่ได้พักผ่อนไม่ได้นอนแน่ๆ เพราะไม่งั้นเขาคงไม่มานั่งหลับตรงนี้หรอก ‘จะปลุกหรือจะแกล้งดีนะ ทำโทษคนโกหก’ หญิงสาวปิดเปลือกตาลง ลองแกล้งขยับแขนที่ทำให้ดูเหมือนจะฟื้นแต่ยังไม่ฟื้น พอให้คนข้างๆ รู้สึกตัว และก็ดูเหมือนจะได้ผล คนข้างๆ ค่อยๆ ขยับตัวตื่นขึ้น “เซ ฟื้นแล้วหรอ ตื่นแล้วใช่ไหม” วินเนอร์ลุกขึ้นยืน เขารู้สึกเหมือนร่างบางเริ่มขยับ เขาคิดว่าเธอคงฟื้นแล้ว แต่กลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น หญิงสาวยังคงนอนนิ่ง อยู่บนเตียง เปลือกตาบางยังปิดสนิท มีแพขนตาปกคลุมหนาเป็นแพสวยงามแม้ยามไม่ได้แต่งแต้มเครื่องสำอางค์บนใบหน้า ‘เซ
อย่าทิ้งพี่ไป... เปลือกตาหนา ค่อยๆ เปิดขึ้น พร้อมกระพริบถี่ๆ เพื่อปรับรับแสงสว่างภายในห้อง ภาพแรกที่เขาเห็นเมื่อลืมตาขึ้นคือเพดานขาวมีหลอดไฟที่เปิดให้แสงสว่าง กับเสาน้ำเกลือที่คาดว่าน่าจะเป็นเสาน้ำเกลือที่เจาะอยู่ที่แขนเขาเอง เปลือกตาหนาปิดลงอีกครั้ง พร้อมน้ำใสๆ ไหลลงข้างแก้ม เมื่อเขาคิดถึงคำพูดของหมอก่อนที่ทุกอย่างจะดำมืดไป มันยากเกินที่เขาจะรับความจริงไหว ถ้าต่อจากนี้ไม่มีเธอ เขาจะอยู่ไหวได้ยังไง "ตื่นแล้วก็ลืมตาเถอะ" เสียงของผู้หญิงดังขึ้น แค่หลับตาฟังเสียงเขาก็รู้แล้วว่าเจ้าของเสียงคือใคร ยูริ ผู้เป็นแม่ของเขา ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ ก่อนที่จะได้เจอกับเซริน ยูริจะเป็นผู้หญิงคนเดียวที่มีบทบาทสำคัญในชีวิตเขา แต่พอมีเซรินเข้ามาเป็นดอกไม้ในชีวิตเขา ผีเสื้ออย่างเขาก็ขาดดอกไม้ไม่ได้ไปเสียแล้ว “ดูท่าน่าจะหนักครับ” เสียงผู้ชาย เขาจำได้แม้ไม่ได้ลืมตามามอง เสียงของคาร์โก้เพื่อนเขาเอง “คงหนักแหละ ถึงขนาดร้องไห้ให้กับดอกไม้ที่ย้ำนักย้ำหนาว่าแค่ดอกไม้ข้างทาง สภาพตอนนี้คือ?” “ขาดไม่ได้เลยดิ” เสียงพวกเพื่อนของเขาพากันตอกย้ำซ้ำเติมในการเป็นหมาโบ้ที่กลืนน้ำลายตัวเอง “พวกมึงก็หยุดซ้ำเติมมั
ดอกไม้...ตายแล้ว ห้องฉุกเฉินโรงพยาบาล "ญาติคนไข้รอด้านนอกนะคะ" เสียงพยาบาลคนหนึ่งพูดขึ้น ก่อนจะช่วยกันกับพยาบาลอีกหลายคนดันเตียงคนไข้2เตียงเข้าห้องฉุกเฉิน หมอหลายท่านและพยาบาลวิ่งเข้าวิ่งออกห้องพยาบาลอยู่หลายรอบ ด้วยความรีบร้อนใจ ไม่ต่างอะไรจากบรรดาญาติคนไข้ที่อยู่ด้านนอก "หมอ ช่วยเมียกับเพื่อนผมด้วย" วินเนอร์คว้าข้อมือหมอที่กำลังจะเข้าห้องฉุกเฉิน "หมอจะทำเต็มที่สุดความสามารถครับ" หมอพูดจบแล้วเดินเข้าห้องฉุกเฉินไป "ไอ้วินๆ มึงก็ปล่อยให้หมอรีบไปช่วยพวกมันก่อน" คาร์เตอร์แทรกขึ้นหลังจากหมอเดินหายเข้าไป เขารู้ว่าเพื่อนเขาเป็นห่วงเมีย เขาเองก็เป็นห่วงเพื่อนของเขาที่อยู่ข้างในด้วยเหมือนกัน "เซรินจะเป็นอะไรไหมวะ?" วินเนอร์รำพึงออกมาแผ่วเบาๆ คล้ายคนละเมอ แต่ยังไม่ทันที่เพื่อนๆ จะได้ตอบอะไร "เข้าห้องฉุกเฉินไปแล้วใช่ไหมวะ?" เสียงของคนใหม่ที่วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาก็ร้องถามขึ้น "ไอ้หมอ ช่วยเมียกูกับไอ้เจคด้วย" วินเนอร์ถลาเข้าไปหาคนมาใหม่ที่เป็นเพื่อนของเขาเอง "เออ !!! เพื่อนกูเหมือนกัน พวกมึงรอข้างนอก อย่าเพิ่งไปไหน เผื่อมีอะไรจะต้องช่วยตัดสินใจ" พูดเสร็จเขาก็รีบเดินเข้าห
ตอกย้ำความจริง ดูเหมือนสถานการณ์ทุกอย่างจะคลี่คลาย และสงบจบลงด้วยดี เสี่ยอำนาจได้รับกรรมตามที่ตัวเองก่อไว้ สำหรับเขามาเฟียอย่างวินเนอร์ชีวิตต้องแลกด้วยชีวิตเท่านั้น เมื่อมันพรากลมหายใจไปใคร มันก็ต้องเอาลมหายใจของตัวเองไปไถ่บาปเท่านั้น “รีบไป ไอ้เจคท่าไม่ค่อยดี เอามันไปโรงพยาบาลด่วน” เสียงมังกรตะโกนเร่งลูกน้อง หลังจากเห็นพวกวินเนอร์มุ่งตรงมาที่เหลือที่พวกเขาจอดรออยู่ “เฮีย! ฮึก..เซคิดถึงเฮีย..ฮืออ” เซรินร้องไห้ออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ “เฮียรู้ไหมว่าเซกลัวแค่ไหน..เซกลัว กลัวว่าเฮียจะเป็นอันตราย..ฮึก” “ไม่เป็นไรนะ เฮียอยู่นี่แล้ว” ร่างสูงเอ่ยพร้อมกับกอดปลอบหญิงสาว “เฮีย…เฮียช่วยลูกของเราด้วยนะ ช่วยลูกด้วย...” เซรินพูดพร้อมกับกุมมือหนา เอามาวางไว้ที่หน้าท้องของตนเอง ขาสองข้างเต็มไปด้วยเลือดที่ไหลออกมา “ลูกหรอ เมื่อกี้เซพูดว่าลูกใช่ไหม!!” สำหรับสถานการณ์ในตอนนี้ทุกอย่างมันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วไปหมด หัวใจของชายหนุ่มเต้นตึกตักพร้อมทั้งความคิดในหัวที่ตีรวนเมื่อได้รับรู้ว่าตนเองกำลังจะเป็นพ่อคนแล้ว ทั้งความรู้สึกดีใจ ผสมปนเปไปกับความรู้สึกโกรธเคืองและเคียดแค้นเสี่ยอำนาจที่เกือบจ