ณ.ร้านK.lin เบอเกอรี่
เวลา20:12นาที
นรินทร์ที่พึ่งจะเก็บร้านเสร็จกำลังจะทำการปิดและเช็กล็อกประตูร้านให้เรียบร้อยเป็นต้องสะดุ้งตกใจเมื่ออยู่ๆร่างของชายหนุ่มตัวสูงคนรักเก่าก็มาโผล่อีกฝั่งของประตูร้านด้วยสภาพที่สะบักสะบอมเต็มไปด้วยคราบเลือดและคราบดินตามเนื้อตัว
"คีย์!"เสียงทุ้มใสสถบชื่อของชายหนุ่มตรงหน้าที่หายหน้าหายตาไปนานนับเดือนหลังจากที่รับรู้ว่าคิรินเป็นลูกชายของตัวเอง นลินที่หายตกใจและได้สติก็รีบเอื้อมมือไปเปิดประตูร้านแล้วก้าวออกจากร้านไปเช็กดูอาการของฐิระเชษฐ์ด้วยใบหน้าตื่นๆ เมื่อเห็นคนตัวสูงนั้นเซแล้วทรุดลงกับนั่งกับพื้นดิน
"นึกว่าลินจะไม่ออกมาดูคีย์ซะแล้ว"คีย์เอ่ยพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหอบพลันริมฝีปากคลี่ยิ้มน้อยๆส่งให้คนตัวเล็กตรงหน้าที่ในตอนน
หลายเดือนผ่านไปเวลา20:42นาทีหลังจากวันที่ฐิระเชษฐ์โดนคนดักรุมทำร้ายวันนั้น ในตอนนี้ก็ผ่านพ้นมาสองสามเดือนแล้วและในตลอดระยะเวลาสองสามเดือนที่ผ่านมาฐิระเชษฐ์ยังคงแวะเวียนมาที่ร้านK.linเบอเกอรี่แทบจะทุกวันเพื่อมาพูดคุยเล่นกับลูกชายตัวน้อยและเหตุผลหลักในการมาที่ร้านขนมหวานของคีย์ไม่เพียงแค่มาเล่นกับลูกชาย แต่มันคือการที่เขามาเจอและมองใบหน้าหวานของอดีตคนรักของเขาต่างหาก คนรักของเขาที่มันไม่เคยเป็นอดีตเลย เขายังคงรักและคิดถึงนลินตลอดหกปีที่ผ่านมาและไม่เคยมีใครได้มายืนแทนที่ของนลินเลยแม้แต่น้อย"คุณคีย์ผมจะปิดร้านแล้วคุณกลับไปได้แล้ว"เสียงใสเอ่ยดังขึ้นด้านหลังของคนตัวสูงและเด็กชายตัวน้อยที่กำลังนั่งเล่นกันอยู่อย่างสนุกสนานพลันนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนก็มองภาพที่ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนนั้นกำลังยิ้มหัวเราะคิกคักกับผู้เป็นพ่ออย่างมีความสุขแค่น้องคิรินมีความสุขมี
ณ.ลานจอดรถของร้านK.linเบเกอรี่"นลินแด๊ดจะไม่พูดซ้ำ แด๊ดปล่อยมันมานานแล้ว น้องถอยไป"เสียงทุ้มเข้มทรงอำนาจเอ่ยพูดกับผู้เป็นลูกชายคนโตด้วยน้ำเสียงนิ่งๆพลางนัยน์ตาคมก็จ้องมองไปยังฐิระเชษฐ์ด้วยแววตาแข็งกร้าวด้านนรินทร์ที่ได้ยินน้ำเสียงและเห็นสีหน้าที่จริงจังของผู้เป็นบิดาก็พลางก้มหน้าลงเล็กน้อยและเบี่ยงสายตาหลบสายตาคมของฟิลิปป์ที่จ้องมาที่ตนและคีย์ ก่อนที่สองเท้าเล็กจะก้าวเดินออกจากด้านหลังของคีย์และเดินตรงไปหาผู้เป็นตามคำเอ่ยสั่ง แต่ยังไม่ทันที่ร่างบางจะก้าวเดินผ่านร่างของคีย์มือหนาของฐิระเชษฐ์ก็เอื้อมมาจับข้อแขนเล็กรั้งเอาไว้เสียก่อนพร้อมกับเอ่ยห้ามนลิน"นลินอย่าไปนะ"ฐิระเชษฐ์เอ่ยขึ้นพร้อมกับนัยน์ตาคมจ้องมองสบดวงตาสวยด้วยแววตาอ้อนวอน แต่ท้ายที่สุดนลินก็ต้องสะบัดมือออกจากการจับกุมของมือใหญ่เมื่อเสียงทรงอำนาจของผู้เป็นบิดาเอ่ยย้ำขึ้นมาอีกครั้ง&nb
ฐิระเชษฐ์ฐิระเชษฐ์ที่กำลังนอนนิ่งไร้สติอยู่บนเตียงนอนคนไข้ในโรงพยาบาลเอกชนที่ไหนสักแห่งค่อยๆรู้สึกตัวและลืมตาตื่นขึ้นอย่างช้าๆ แต่แล้วคนที่พึ่งจะเปิดเปลือกตาขึ้นเป็นต้องกะพริบเปลือกตาอย่างถี่รัวเมื่อแสงสว่างจ้าภายในห้องกำลังเล่นงานเขา ดวงตาคมที่คุ้นเคยกับแสงสว่างภายในห้องแล้วเริ่มกวาดตาสังเกตมองรอบๆห้องสีขาวที่ไม่คุ้นเคยนี้ ก่อนที่นัยน์ตาคมจะมาหยุดมองที่หลังมือด้านขวาของตัวเองที่มีเข็มน้ำเกลือเจาะอยู่และสิ่งนี้บ่งบอกเขาได้เป็นอย่างดี ว่าตัวเขาในตอนนี้นั้นอยู่ที่ใด"ที่นี้คงเป็นโรงพยาบาลสินะ"น้ำเสียงแหบพร่าถสบพูดกับตัวเองเสียงเบา ก่อนที่คนป่วยบนเตียงจะค่อยๆดันร่างกายที่ปวดร้าวของตัวเองลุกขึ้นนั่งแกร็กเสียงเปิดประตูดังขึ้นเรียกความสนใจของคนที่พึ่งจะดันตัวลุกขึ้นนั่งได้สำเร็จให้หันไปมอง และทันทีที่ร่างของหญิงสาวที่คุ้นเคยปรากฏใ
อีกด้านเช้าวันต่อมา"หม่ามี้ฮะทำไมเมื่อคืนปะป๊าไม่โทรมาเล่านิทานให้น้องฟังก่อนนอน ทำไมปะป๊าโกหกน้อง"เสียงเด็กชายตัวน้อยเอ่ยถามผู้เป็นมารดาขึ้นระหว่างกำลังทานอาหารเช้าด้วยน้ำเสียงและสีหน้าเศร้าๆ ด้านนลินที่ได้ยินคำถามของลูกชายตัวน้อยที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของโต๊ะอาหารก็พลันชะงักมือที่กำลังตักข้าวต้มพลางใบหน้าหวานก็เงยหน้าขึ้นมาสบตากับดวงตาใสซื่อบริสุทธิ์ที่ในตอนนี้ดวงตานั้นแสดงความผิดหวังให้เขาเห็นอย่างชัดเจน"คือน้องคิรินครับ เมื่อคืนปะป๊าบอกกับหม่ามี้ก่อนกลับว่าปะป๊ามีธุระด่วนที่ต้องไปทำ เลยโทรมาเล่านิทานให้น้องฟังไม่ได้ หม่ามี้ขึ้นมาจะบอกน้องแล้วนะ แต่เมื่อคืนน้องหลับไปก่อน"นรินทร์เอ่ยอธิบายให้ลูกชายฟังพลางเอื้อมมือบางไปลูบหัวทุยของเด็กชายตัวน้อยที่ในตอนนี้ก็ยังแสดงสีหน้าเสียใจและน้อยใจผู้เป็นพ่อที่ผิดสัญญาที่ให้ไว้กับเขา
ณ.โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งแกร๊ก"คีย์เราจะไปไหนน่ะ คีย์หยุดนะพี่บอกให้หยุด คีย์จะถอดสายน้ำเกลือออกเองแบบนี้ไม่ได้นะ คีย์พี่บอกให้เราหยุดไง"คานะเอ่ยพูดกับน้องชายด้วยน้ำเสียงและสีหน้าตื่นตระหนก เมื่อเจ้าตัวเปิดประตูห้องเข้ามาเจอน้องชายกำลังจะถอดสายน้ำเกลือออกจากแขนตัวเอง จนหล่อนต้องรีบวิ่งเข้ามาห้ามอย่างรวดเร็ว ด้านเรียวตะที่นั่งก้มดูมือถือและคุยกับคีย์อยู่ดีๆ ก็มีสีหน้าตื่นตระหนกไม่ต่างกับหญิงสาว"เห้ย!ไอ้คีย์มึงเป็นบ้าไปแล้วหรือไงวะ"เรียวตะที่พึ่งจะเงยหน้าจากมือถือและหันไปเห็นว่าเพื่อนสนิทของตัวเองกำลังถอดสายน้ำเกลือออกก็ร้องถามขึ้นอย่างงตกอกตกใจพร้อมกับพุ่งตัวไปจับแขนของฐิระเชษฐ์ล็อกไว้ ส่วนคีย์ที่โดนเรียวตะจับล็อกตัวไว้ก็ร้องโวยวายขึ้น"ปล่อยนะโว้ยยยยยกูบอกให้ปล่อยไง!!!"เสียงทุ้มร้องตะโกนขึ้นพร้อมกับพยายามสะบัดตัวออกจากการจับ
ด้านนรินทร์"หม่ามี้ฮะเราจะไม่กลับไปค้างที่ร้านขนมแล้วหรอฮะ"เด็กน้อยวัย5ขวบเศษๆเอ่ยถามผู้เป็นมารดาด้วยน้ำเสียงและสีหน้าเศร้าหมองเล็กน้อย นัยน์ตาบริสุทธิ์จ้องมองผู้เป็นแม่อย่างต้องการคำตอบ เพราะตั้งแต่วันนั้นวันที่ผู้เป็นพ่อสัญญากับคิรินว่าจะโทรมาเล่านิทานให้ฟังเช้าวันถัดมาคุณตาคุณยายก็เดินทางมารับเด็กน้อยกับผู้เป็นแม่ของเขามาค้างที่บ้านใหญ่ทันที จนในตอนนี้เวลาก็ผ่านมาเป็นอาทิตย์แล้วที่เด็กน้อยนามว่าคิรินกับผู้เป็นแม่อย่างนลินมานอนค้างที่บ้านใหญ่ตระกูลNT"กลับครับ แต่ยังไม่ใช่วันนี้นะ น้องคิรินเป็นเด็กดีใช่มั้ยครับถ้างั้นน้องต้องไม่ดื้อนะครับ"น้ำเสียงทุ้มหวานเอ่ยกับลูกชายตัวน้อยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนพลางใบหน้าหวานก็คลี่ยิ้มส่งให้ลูกชายบางๆ แต่แล้วใบหน้าหวานที่คลี่ยิ้มก็ต้องหุบลงแล้วหันไปด้านหลังของตัวเองเมื่อได้ยินเสียงผู้ที่ให้กำเนิดตนเองดังขึ้นอยู่ด้านหลัง"น้องจะกลับไปที่ร้านวันไหน มี้จะให้คนไปคุ้มกัน"เสียงใสของร่างบางวัยกลางคนเอ่ยถามขึ้นจากด้านหลังของสองแม่ลูกที่นั่งคุยกันอยู่ห้องโถง นลินที่ได้ยินเสียงของผู้เป็นแม่ก็หันไปมอง ก่อนที่จะหันกลับมามอ
บทนำ"พี่คีย์ เขาคนนี้เป็นใคร...ทำไม ทำไมพี่คีย์ถึงมายืนกอดกับเขา"เสียงใสเอ่ยถามแฟนหนุ่มรุ่นน้องที่มักจะให้ตัวเขาเอ่ยเรียกว่าพี่อยู่เป็นประจำด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ พลางนัยน์ตากลมโตก็จ้องมองภาพของชายหนุ่มตัวสูงที่เป็นคนรักของตัวเองยืนกอดกลมเกลียวกับผู้หญิงคนอื่นอยู่ภายในห้องพักของพวกเขาทั้งสองที่ใช้อาศัยอยู่ด้วยกันมานานเกือบจะสามปีพลันในหัวก็เกิดคำถามขึ้นว่านี้มันเรื่องบ้าอะไรกัน ทำไมเขาถึงได้เปิดประตูห้องมาเจอแฟนของเขาที่คบกันมานานนับสามปียืนกอดกับผู้หญิงคนอื่นอยู่ภายในห้องพักของพวกเขา"นลิน พี่ต้องกลับไปที่ญี่ปุ่นแล้วนะ"เสียงทุ้มเข้มของแฟนหนุ่มที่เด็กกว่าหนึ่งปีเอ่ยพึมพำขึ้นมาเสียงเบา พลางใบหน้าหล่อเหล่าก็ก้มมองพื้นห้องไม่ได้ชายตาขึ้นมาจ้องมองคนที่ขึ้นชื่อว่าแฟนอย่างนลินเลยว่าตอนนี้ใบหน้าสวยนั้นได้อาบไปด้วยน้ำสีใสแล้ว"กลับไปกับเขาคนนี้น่ะหรอ กลับไปกับผู้หญิงคนนี้น่ะหรอพี่คีย์"นรินทร์เอ่ยถามคนรักขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาพลางในใจก็พยายามข่มอารมณ์ที่กำลังคุกรุ่นและความเสียใจที่เริ่มจะปะทุขึ้นไว้ภายในใจ"ครับพี่ต้องกลับไปกับเขา"คีย์ยังคงเอ่ยตอบนลินโดยที่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองหรือสบตา เ
ณ.ร้านK.linเบเกอรี่เวลา15:34นาที"นลินทำไมแกยังอยู่ที่ร้านอยู่เนี่ย นี่มันบ่ายสามกว่าแล้วนะทำไมยังไม่ออกไปรับคิริน"เพื่อนสาวที่ชื่อยิ้มหวานเอ่ยถามเพื่อนสนิทตัวเล็กขึ้นอย่างตกใจ เมื่อเจ้าตัวที่ตรงดิ่งจากบ้านมาเพื่อจะมาเฝ้าร้านแทนกลับเปิดประตูร้านเข้าเจอเพื่อนตัวเล็กเจ้าของร้านยังคงยืนสาละวนยุ่งอยู่กับขนมหวานข้างๆพนักงานชายอีกคนแทนที่ในตอนนี้เพื่อนของเขาควรจะถึงกลางทางในการไปรับลูกชายที่โรงเรียนที่อยู่ห่างจากร้าน10กว่ากิโลเมตรแล้ว"เห๊ยยยลินลืมดูเวลาเลยหวาน ตายๆทำไงดีต้องไปรับคิรินสายแน่ๆ"นลินร้องขึ้นอย่างตกใจในทันทีที่ได้ยินเพื่อนสาวเอ่ยทักบอกเวลา พลางร่างบางก็รีบถอดผ้ากันเปื้อนออกจากตัวและรีบคว้าเอากุญแจรถและสิ่งของสำคัญ ก่อนที่จะรีบกุรีกุจอนออกจากร้านไปโดยมีเสียงของหญิงสาวเพื่อนสนิทอย่างยิ้มหวานตะโกนเตือนไล่หลัง"รีบได้แต่ก็ต้องขับรถอย่างระวังนะนลิน..."...เวลา15:55นาที"ให้ตายเถอะนลิน ทำไมถึงได้ละเลยแบบนี้"นรินทร์สถบด่าตัวเองออกมาเบาๆพลางนิ้วเรียวงามก็เคาะลงกับพวงมาลัยรถอย่างคนร้อนใจ ภายในใจก็พลันร้อนหงุดหงิดภาวนาให้ไฟจราจรเปลี่ยนเป็นสีเขียวเร็วๆ เพราะตอนนี้ตัวเขานั้นจอดติดไฟแดง
ด้านนรินทร์"หม่ามี้ฮะเราจะไม่กลับไปค้างที่ร้านขนมแล้วหรอฮะ"เด็กน้อยวัย5ขวบเศษๆเอ่ยถามผู้เป็นมารดาด้วยน้ำเสียงและสีหน้าเศร้าหมองเล็กน้อย นัยน์ตาบริสุทธิ์จ้องมองผู้เป็นแม่อย่างต้องการคำตอบ เพราะตั้งแต่วันนั้นวันที่ผู้เป็นพ่อสัญญากับคิรินว่าจะโทรมาเล่านิทานให้ฟังเช้าวันถัดมาคุณตาคุณยายก็เดินทางมารับเด็กน้อยกับผู้เป็นแม่ของเขามาค้างที่บ้านใหญ่ทันที จนในตอนนี้เวลาก็ผ่านมาเป็นอาทิตย์แล้วที่เด็กน้อยนามว่าคิรินกับผู้เป็นแม่อย่างนลินมานอนค้างที่บ้านใหญ่ตระกูลNT"กลับครับ แต่ยังไม่ใช่วันนี้นะ น้องคิรินเป็นเด็กดีใช่มั้ยครับถ้างั้นน้องต้องไม่ดื้อนะครับ"น้ำเสียงทุ้มหวานเอ่ยกับลูกชายตัวน้อยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนพลางใบหน้าหวานก็คลี่ยิ้มส่งให้ลูกชายบางๆ แต่แล้วใบหน้าหวานที่คลี่ยิ้มก็ต้องหุบลงแล้วหันไปด้านหลังของตัวเองเมื่อได้ยินเสียงผู้ที่ให้กำเนิดตนเองดังขึ้นอยู่ด้านหลัง"น้องจะกลับไปที่ร้านวันไหน มี้จะให้คนไปคุ้มกัน"เสียงใสของร่างบางวัยกลางคนเอ่ยถามขึ้นจากด้านหลังของสองแม่ลูกที่นั่งคุยกันอยู่ห้องโถง นลินที่ได้ยินเสียงของผู้เป็นแม่ก็หันไปมอง ก่อนที่จะหันกลับมามอ
ณ.โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งแกร๊ก"คีย์เราจะไปไหนน่ะ คีย์หยุดนะพี่บอกให้หยุด คีย์จะถอดสายน้ำเกลือออกเองแบบนี้ไม่ได้นะ คีย์พี่บอกให้เราหยุดไง"คานะเอ่ยพูดกับน้องชายด้วยน้ำเสียงและสีหน้าตื่นตระหนก เมื่อเจ้าตัวเปิดประตูห้องเข้ามาเจอน้องชายกำลังจะถอดสายน้ำเกลือออกจากแขนตัวเอง จนหล่อนต้องรีบวิ่งเข้ามาห้ามอย่างรวดเร็ว ด้านเรียวตะที่นั่งก้มดูมือถือและคุยกับคีย์อยู่ดีๆ ก็มีสีหน้าตื่นตระหนกไม่ต่างกับหญิงสาว"เห้ย!ไอ้คีย์มึงเป็นบ้าไปแล้วหรือไงวะ"เรียวตะที่พึ่งจะเงยหน้าจากมือถือและหันไปเห็นว่าเพื่อนสนิทของตัวเองกำลังถอดสายน้ำเกลือออกก็ร้องถามขึ้นอย่างงตกอกตกใจพร้อมกับพุ่งตัวไปจับแขนของฐิระเชษฐ์ล็อกไว้ ส่วนคีย์ที่โดนเรียวตะจับล็อกตัวไว้ก็ร้องโวยวายขึ้น"ปล่อยนะโว้ยยยยยกูบอกให้ปล่อยไง!!!"เสียงทุ้มร้องตะโกนขึ้นพร้อมกับพยายามสะบัดตัวออกจากการจับ
อีกด้านเช้าวันต่อมา"หม่ามี้ฮะทำไมเมื่อคืนปะป๊าไม่โทรมาเล่านิทานให้น้องฟังก่อนนอน ทำไมปะป๊าโกหกน้อง"เสียงเด็กชายตัวน้อยเอ่ยถามผู้เป็นมารดาขึ้นระหว่างกำลังทานอาหารเช้าด้วยน้ำเสียงและสีหน้าเศร้าๆ ด้านนลินที่ได้ยินคำถามของลูกชายตัวน้อยที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของโต๊ะอาหารก็พลันชะงักมือที่กำลังตักข้าวต้มพลางใบหน้าหวานก็เงยหน้าขึ้นมาสบตากับดวงตาใสซื่อบริสุทธิ์ที่ในตอนนี้ดวงตานั้นแสดงความผิดหวังให้เขาเห็นอย่างชัดเจน"คือน้องคิรินครับ เมื่อคืนปะป๊าบอกกับหม่ามี้ก่อนกลับว่าปะป๊ามีธุระด่วนที่ต้องไปทำ เลยโทรมาเล่านิทานให้น้องฟังไม่ได้ หม่ามี้ขึ้นมาจะบอกน้องแล้วนะ แต่เมื่อคืนน้องหลับไปก่อน"นรินทร์เอ่ยอธิบายให้ลูกชายฟังพลางเอื้อมมือบางไปลูบหัวทุยของเด็กชายตัวน้อยที่ในตอนนี้ก็ยังแสดงสีหน้าเสียใจและน้อยใจผู้เป็นพ่อที่ผิดสัญญาที่ให้ไว้กับเขา
ฐิระเชษฐ์ฐิระเชษฐ์ที่กำลังนอนนิ่งไร้สติอยู่บนเตียงนอนคนไข้ในโรงพยาบาลเอกชนที่ไหนสักแห่งค่อยๆรู้สึกตัวและลืมตาตื่นขึ้นอย่างช้าๆ แต่แล้วคนที่พึ่งจะเปิดเปลือกตาขึ้นเป็นต้องกะพริบเปลือกตาอย่างถี่รัวเมื่อแสงสว่างจ้าภายในห้องกำลังเล่นงานเขา ดวงตาคมที่คุ้นเคยกับแสงสว่างภายในห้องแล้วเริ่มกวาดตาสังเกตมองรอบๆห้องสีขาวที่ไม่คุ้นเคยนี้ ก่อนที่นัยน์ตาคมจะมาหยุดมองที่หลังมือด้านขวาของตัวเองที่มีเข็มน้ำเกลือเจาะอยู่และสิ่งนี้บ่งบอกเขาได้เป็นอย่างดี ว่าตัวเขาในตอนนี้นั้นอยู่ที่ใด"ที่นี้คงเป็นโรงพยาบาลสินะ"น้ำเสียงแหบพร่าถสบพูดกับตัวเองเสียงเบา ก่อนที่คนป่วยบนเตียงจะค่อยๆดันร่างกายที่ปวดร้าวของตัวเองลุกขึ้นนั่งแกร็กเสียงเปิดประตูดังขึ้นเรียกความสนใจของคนที่พึ่งจะดันตัวลุกขึ้นนั่งได้สำเร็จให้หันไปมอง และทันทีที่ร่างของหญิงสาวที่คุ้นเคยปรากฏใ
ณ.ลานจอดรถของร้านK.linเบเกอรี่"นลินแด๊ดจะไม่พูดซ้ำ แด๊ดปล่อยมันมานานแล้ว น้องถอยไป"เสียงทุ้มเข้มทรงอำนาจเอ่ยพูดกับผู้เป็นลูกชายคนโตด้วยน้ำเสียงนิ่งๆพลางนัยน์ตาคมก็จ้องมองไปยังฐิระเชษฐ์ด้วยแววตาแข็งกร้าวด้านนรินทร์ที่ได้ยินน้ำเสียงและเห็นสีหน้าที่จริงจังของผู้เป็นบิดาก็พลางก้มหน้าลงเล็กน้อยและเบี่ยงสายตาหลบสายตาคมของฟิลิปป์ที่จ้องมาที่ตนและคีย์ ก่อนที่สองเท้าเล็กจะก้าวเดินออกจากด้านหลังของคีย์และเดินตรงไปหาผู้เป็นตามคำเอ่ยสั่ง แต่ยังไม่ทันที่ร่างบางจะก้าวเดินผ่านร่างของคีย์มือหนาของฐิระเชษฐ์ก็เอื้อมมาจับข้อแขนเล็กรั้งเอาไว้เสียก่อนพร้อมกับเอ่ยห้ามนลิน"นลินอย่าไปนะ"ฐิระเชษฐ์เอ่ยขึ้นพร้อมกับนัยน์ตาคมจ้องมองสบดวงตาสวยด้วยแววตาอ้อนวอน แต่ท้ายที่สุดนลินก็ต้องสะบัดมือออกจากการจับกุมของมือใหญ่เมื่อเสียงทรงอำนาจของผู้เป็นบิดาเอ่ยย้ำขึ้นมาอีกครั้ง&nb
หลายเดือนผ่านไปเวลา20:42นาทีหลังจากวันที่ฐิระเชษฐ์โดนคนดักรุมทำร้ายวันนั้น ในตอนนี้ก็ผ่านพ้นมาสองสามเดือนแล้วและในตลอดระยะเวลาสองสามเดือนที่ผ่านมาฐิระเชษฐ์ยังคงแวะเวียนมาที่ร้านK.linเบอเกอรี่แทบจะทุกวันเพื่อมาพูดคุยเล่นกับลูกชายตัวน้อยและเหตุผลหลักในการมาที่ร้านขนมหวานของคีย์ไม่เพียงแค่มาเล่นกับลูกชาย แต่มันคือการที่เขามาเจอและมองใบหน้าหวานของอดีตคนรักของเขาต่างหาก คนรักของเขาที่มันไม่เคยเป็นอดีตเลย เขายังคงรักและคิดถึงนลินตลอดหกปีที่ผ่านมาและไม่เคยมีใครได้มายืนแทนที่ของนลินเลยแม้แต่น้อย"คุณคีย์ผมจะปิดร้านแล้วคุณกลับไปได้แล้ว"เสียงใสเอ่ยดังขึ้นด้านหลังของคนตัวสูงและเด็กชายตัวน้อยที่กำลังนั่งเล่นกันอยู่อย่างสนุกสนานพลันนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนก็มองภาพที่ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนนั้นกำลังยิ้มหัวเราะคิกคักกับผู้เป็นพ่ออย่างมีความสุขแค่น้องคิรินมีความสุขมี
ณ.ร้านK.lin เบอเกอรี่เวลา20:12นาทีนรินทร์ที่พึ่งจะเก็บร้านเสร็จกำลังจะทำการปิดและเช็กล็อกประตูร้านให้เรียบร้อยเป็นต้องสะดุ้งตกใจเมื่ออยู่ๆร่างของชายหนุ่มตัวสูงคนรักเก่าก็มาโผล่อีกฝั่งของประตูร้านด้วยสภาพที่สะบักสะบอมเต็มไปด้วยคราบเลือดและคราบดินตามเนื้อตัว"คีย์!"เสียงทุ้มใสสถบชื่อของชายหนุ่มตรงหน้าที่หายหน้าหายตาไปนานนับเดือนหลังจากที่รับรู้ว่าคิรินเป็นลูกชายของตัวเอง นลินที่หายตกใจและได้สติก็รีบเอื้อมมือไปเปิดประตูร้านแล้วก้าวออกจากร้านไปเช็กดูอาการของฐิระเชษฐ์ด้วยใบหน้าตื่นๆ เมื่อเห็นคนตัวสูงนั้นเซแล้วทรุดลงกับนั่งกับพื้นดิน"นึกว่าลินจะไม่ออกมาดูคีย์ซะแล้ว"คีย์เอ่ยพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหอบพลันริมฝีปากคลี่ยิ้มน้อยๆส่งให้คนตัวเล็กตรงหน้าที่ในตอนน
ด้านฐิระเชษฐ์"นายน้อยครับเดี๋ยวก่อนครับ นายน้อยครับ นายน้อยเดี๋ยวก่อนครับ"เสียงaยกลางคนเอ่ยเรียกคนตัวสูงที่ยังคงก้าวเดินไม่หยุดและไม่สนคำเอ่ยเรียกของคนด้านหลังที่วิ่งตามเขาอย่างเหนื่อยหอบ"นายน้อยยยครับรอผมก่อน""จิ๊!น่ารำคาญจริง!"ฐิระเชษฐ์หยุดเท้าพลางหันหลังกลับมาเผชิญหน้ามองลูกน้องคนสนิทของผู้เป็นบิดาของเขาที่เอาแต่วิ่งแหกปากร้องเรียกเขาไม่หยุดหย่อนด้วยใบหน้าเหนื่อยอ่อน"นายน้อยจะกลับไปที่ประเทศนั้นอีกแล้วหรอครับ แต่ว่านายน้อยยะ..."เคนจิผู้ที่เป็นลูกน้องคนสนิทของคุณพ่อของฐิระเชษฐ์เอ่ยถามนายน้อยของบ้านด้วยความเป็นห่วง แต่ยังไม่ทันที่เคนจิจะได้เอ่ยถามคีย์จบประโยคดีก็โดนผู้เป็นนายน้อยเอ่ยแทรกขึ้นมาเสียก่อน
วันเวลาผ่านไปสองอาทิตย์นรินทร์หลังจากวันที่คีย์ได้รับรู้ความจริงว่าเด็กน้อยที่ชื่อคิรินเป็นลูกชายของเขากับนลิน ในตอนนี้เวลาก็ผ่านพ้นมาสองอาทิตย์แล้วที่ฐิระเชษฐ์หายหน้าหายตาไม่โผล่มาให้นรินทร์เห็นที่ร้านเบเกอรี่อีกเลย"สองอาทิตย์แล้วใช่มั้ยที่อีตาเด็กคีย์อะไรนั้นหายหน้าหายตาไปหลังจากที่รู้ว่าน้องคิรินเป็นลูกของมันกับลิน"เสียงใสของหญิงสาวที่ชื่อยิ้มหวานเอ่ยถามเพื่อนสนิทตัวเล็กเจ้าของร้าน K.linเบอเกอรี่ขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจเป็นอย่างมาก พลางใบหน้าสวยก็แสดงสีหน้าบูดบึ้งให้เพื่อนตัวเล็กเห็นได้ชัดเมื่อพูดถึงชายหนุ่มอดีตคนรักของนลิน"ไม่เอาสิยิ้ม จะเรียกเขาว่ามันแบบนี้ไม่ได้นะเดี๋ยวน้องคิรินมาได้ยินแล้วจะจำเอาไปพูดกับคนอื่น""ซิ! ลินก็เป็นซะแบบนี้ชอบปกป้องอีตาเด็กนั้นทุกทีเวลายิ