Beranda / วาย / ดลรวีที่รัก / บทที่ ๒๗ เลิกไม่ได้ (๑๐๐%)

Share

บทที่ ๒๗ เลิกไม่ได้ (๑๐๐%)

last update Terakhir Diperbarui: 2025-01-05 18:00:54

“ขี้เกียจทำงานแล้ว...เฮ้อ”

เสียงบ่นอิดออดนั่นออกมาจากปากเพื่อนเพียงคนเดียวของไกรวิชญ์อย่างเจ้าพูนที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ไร้เรี่ยวแรงจะทำงาน ไกรวิชญ์ซึ่งชินชากับนิสัยนั้นแล้วจึงก้มหน้าก้มตาทำงานต่อไปหลังไม่ได้แตะปากกากับกระดาษมานานหลักเดือน

พันโทหรี่ตามองคุณพ่อตำรวจทำงานไฟลุกด้วยหน้าตาอันเรียบเฉย ถ้าเป็นเขาโดนหักเงินเดือนคงไม่มานั่งตั้งใจทำงานเกินค่าจ้างแบบนี้หรอก ว่าแล้วก็ถอนหายใจอีกครั้งเป็นการพ่นความเครียดที่ไม่มีอยู่จริงออกมา

‘เมื่อไหร่จะจับพวกมันให้หมดสักที รู้ไหมพวกฉันกังวลแค่ไหน!?’

‘ทำงานให้มันดี ๆ หน่อย!’

‘ถ้าจะชักช้ายืดยาดแบบนี้ก็ไม่ต้องเป็นหรอกตำรวจน่ะ!!’

พูนได้ยินเสียงโวยวายของชาวบ้านแว่วมาจากทางด้านนอกก็เอือมระอา ในตอนที่ไกรมันไม่อยู่ก็เป็นเขาที่บากหน้าออกไปรับคำดุด่าว่ากล่าวแทน เอาเข้าจริงใช่ว่าพวกเขาตลอดทั้งเดือนที่พยายามสืบหากันมาก็ทยอยจับมาได้เรื่อย ๆ แต่เพราะนี่เป็นข่าวใหญ่ที่ยังลงสื่อวิทยุและหนังสือพิมพ์ทางการ ไม่แปลกที่ผู้คนจะให้ความสนใจและเพ่งเล็งผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่างพวกเขาขนาดนี้

“เมื่อวานก็มา พวกป้

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๒๘ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า (๕๐%)

    “แหม ถือร่มมารับเลยนะครับ”“ก็ฝนตกมาตั้งแต่เช้าแล้วนี่ครับ”แผนซึ่งมาโบกธงเจอหน้าคนรักของเพื่อนพอดีจึงถือโอกาสสนทนาระหว่างด้วงมันกลับมาจากห้องน้ำ หลังจากวันที่ไอ้ด้วงเป็นลม อาจารย์คนนี้คล้ายจะประคบประหงมเป็นพิเศษเพราะรถไฟพึ่งออกและยังอยากตากลมเย็นจึงนั่งบนเก้าอี้รอไอ้ด้วงเป็นเพื่อนอาจารย์ชาวญี่ปุ่น เรื่องราวที่เขาเข้าใจกับที่เกิดขึ้นมันย้อนแย้งกันไปคนละทิศละทาง แต่อย่างไรก็โต ๆ กันแล้ว หากเพื่อนเขาตัดสินใจแบบไหนเขาก็ตามนั้นไม่ได้เป็นปัญหาอะไรหรอกเพียงแต่...เขาในฐานะเพื่อนจริง ๆ ก็คอยจับสังเกตมาตลอด เคยลองเซ้าซี้ทว่ามันกลับเอาแต่บอกว่าไม่มีอะไร ไม่นู่น ไม่นี่จนเขาเหนื่อยหน่าย ทำได้เพียงมองเมียงกลัวมันจะเป็นอะไรเข้าในสักวัน และก็เป็นไปตามคาดจริง ๆ ไม่รู้มันไปเอาความเครียดมาจากไหนเยอะแยะจนแต่ละวันน้อยครั้งนักที่จะเห็นมันยิ้มออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ ขนาดคนรักเจ้าตัวมาพูดคุยด้วยก็ยังคงทำหน้านิ่งเฉย ต่างจากสมัยยังเป็นเพื่อนผู้โดยสารลิบลับ“ขอโทษที่ต้องให้รอนะครับ”“ไม่เป็นไรครับ”แผนโบกมือลาเจ้าเพื่อนเป็นครั้งสุดท้ายของวันเพรา

    Terakhir Diperbarui : 2025-01-06
  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๒๘ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า (๑๐๐%)

    เนื่องจากตำรวจยังไม่สามารถตามจับกุมนักโทษที่หลบหนีได้ทั้งหมด แม้มันจะเหลือเพียงส่วนน้อยแล้วก็ตามแต่อย่างไรเพื่อความปลอดภัยของผู้คนในเขตนั้น ๆ เมื่อได้เบาะแสอะไรมาพวกเขาจึงต้องเอามาร่วมพิจารณา ยิ่งไปกว่านั้นคดีที่ค้างคาอยู่ก็ยังต้องนำมาพูดถึงเป็นลำดับไปสำหรับการวางแผนในอนาคตอีก“ขอบคุณทุกคนมาก กลับบ้านได้”เป็นไกรวิชญ์ที่กล่าวประโยคนั้น แม้เพื่อนร่วมงานสน.นี้จะขยันขันแข็งกันขนาดไหน แต่เขาก็เข้าใจหัวอกบางคนที่มีลูกมีเมียอยู่บ้าน หากเขารั้งไว้คงจะไม่เป็นการดีนัก“ไอ้ไกร วันนี้ไม่ใช่เวรเอ็งไม่ใช่เหรอ?”พูนกลับมาจากโต๊ะประชุมพร้อมเพื่อนในขณะที่เขาเก็บของลงกระเป๋า แต่ไกรมันกลับนั่งลงหยิบสำนวนขึ้นมาเปิดไปมาเสียอย่างนั้น“ขอทำความเข้าใจตรงนี้ก่อน”“ขี้เกียจบ้างเถอะพ่อคุณ”“ไว้ค่อยทีหลัง”“แบบนี้น้องไม่ห่วงแย่แล้วรึ?”“ด้วงจะมาห่วงอะไรฉัน”“ใช่ว่าเขามีชิ้นแล้วจะเมินเอ็งสักหน่อย”“ช่างฉันเถอะน่ะ”เพราะรำคาญเสียงจ้อกแจ้กของเพื่อนจึงบอกปัดไป ก่อนจะต่างฝ่ายต่างโบกมือลา ไกรวิชญ์จึงได้กลับมาตั้งสมาธิก

    Terakhir Diperbarui : 2025-01-07
  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๒๙ เข็มนาฬิกา (๕๐%)

    เสียงพื้นรองเท้ากระทบฝนยังคงไม่หายไปแม้เวลาจะล่วงเลยมาเกือบหนึ่งชั่วโมงนับตั้งแต่ที่ไกรวิชญ์ได้รับโทรศัพท์มาจากแม่เลี้ยงแล้วก็ตาม แน่นอนว่าเขาไม่มีกะจิตกะใจแม้แต่จะเปลี่ยนเสื้อผ้า ยังคงสวมเครื่องแบบตำรวจวิ่งตามหาไปทั่วอยู่อย่างนั้น รวมไปถึงอาจารย์ชาวญี่ปุ่นด้วยเช่นกันชายสองคนวิ่งกลับมาเจอกัน ณ หน้าจุดนัดพบหน้าบ้านเมื่อแยกกันไปหาคนละทางแต่ยังไม่พบวี่แววของคนน้องแม้สักนิด ยิ่งเวลาผ่านไปเรื่อย ๆ ยิ่งทำให้ทั้งนายตำรวจและอาจารย์เป็นห่วงขึ้นไปอีก“ผม...ขอโทษ”ดันกิกล่าวขออภัยด้วยใจรู้สึกผิด หากเขาไม่ทำแบบนั้นบางทีคุณดลรวีคงจะกลับบ้านอย่างปลอดภัยหรือไม่หากเขาทำหน้าหนาตามมาส่งสักหน่อยเรื่องแบบนี้อาจไม่เกิดขึ้นก็เป็นได้“คำนั้นเอาไว้พูดหลังหาด้วงเจอก็แล้วกัน”ไกรวิชญ์พูดด้วยความร้อนรน พลางมองหาเบาะแสที่เขาอาจพลาดไป เมื่อสักครู่เขาแยกไปดูยังเส้นทางอื่นที่น้องชายสามารถเดินกลับบ้านได้แต่ก็ไม่เจอ จึงคิดจะวกกลับไปดูอีกครั้งยังทางเข้าหลักหน้าหมู่บ้านเป็นครั้งที่สองนายตำรวจก้าวขาเดินออกไปโดยไม่ได้บอกกล่าวอาจารย์ที่อาสาตามหาเจ้าน้องด้วยกัน ทว

    Terakhir Diperbarui : 2025-01-08
  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๒๙ เข็มนาฬิกา (๑๐๐%)

    สองชายหนุ่มคนหนึ่งเป็นตำรวจคนหนึ่งเป็นอาจารย์พากันมานั่งรอรับยาหน้าโรงพยาบาล เพราะหลังจากเมื่อคืนที่ตากฝนกันไปร่วมชั่วโมงก็พลอยทำให้เชื้อหวัดลงปอดไอกะด้อกะเดี้ย น้ำมูกไหลจมูกแดงไปตาม ๆ กันไกรวิชญ์รู้เรื่องจากปากอาจารย์เจ้าว่าวันนั้นได้ทำอะไรกับน้องชายเขาไปบ้างก็มีน้ำโห กล้าทำกับผิวอันบอบบางแบบนั้นไปได้อย่างไรถึงมันจะเป็นการแสดงเพื่อให้ด้วงเลิกกับตัวเองก็เถอะดันกิเองเมื่อจัดการศัตรูที่เข้ามาและฝังกลบดินไปแล้วก็หันมามองเขม่นใส่นายตำรวจคนที่คุณดลรวีหลงนักหลงหนาแล้วมาใช้เขาเป็นตัวแทนเพื่อตัดใจ“ผมโคตรอยากต่อยคุณเลย”“เอาเข้าจริงผมก็อยากต่อยคุณเหมือนกัน”“…”“…”“สนใจมาแลกกันคนละหมัดไหม?”“ผมก็คิดอยู่แต่แบบนั้นคุณดลรวีน่าจะไม่ชอบ”“ผมก็ว่างั้น”‘ขอเชิญหมายเลข ๒๒๓ รับยาที่ช่องเจ็ดค่ะ’ ดันกิถอนหายใจออกมาพลางลุกขึ้นไปรับยาพร้อมถือกระเป๋าติดตัวไปด้วย เมื่อรับยาเสร็จทีแรกที่คุยกับไกรวิชญ์เขาว่าจะขึ้นไปเยี่ยมคุณดลรวีด้วยกัน แต่พอมาคิด ๆ ดูแล้วคนที่ไม่สามารถปกป้องเจ้าตัวได้อย่างเขาไม่มีสิทธิ์ไ

    Terakhir Diperbarui : 2025-01-09
  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๓๐ เหมือนฝัน (๕๐%)

    การกระทำที่ไม่เป็นตัวเองล้วนเกิดมาจากความกลัวภายใต้จิตสำนึกโดยที่เจ้าของร่างไม่อาจควบคุมได้ เหมือนกับการพยายามเปล่งเสียงตะโกนขอร้องความช่วยเหลือในกล่องมืดที่ไร้ซึ่งผู้คน น้องชายเขาคงเป็นเช่นนี้มาตลอด บอกใครไม่ได้เพราะกลัว หนีไม่ได้เพราะใจยังห่วง ทว่ากลับอ่อนแอจนไม่อาจมีแรงยืนหยัด ดังนั้นหนทางเดียวคือการสร้างเกราะ กีดกันทุกอย่างที่จิตใต้สำนึกสั่งให้เอาออกไปจากชีวิต‘แค่พูดคำไม่กี่คำ...’นั่นคือสาเหตุว่าทำไมน้องชายถึงได้ปฏิเสธเขาหนักหนา ด้วยแรงกดดันอันมหาศาลและสถานการณ์อันบีบคั้นส่งผลให้เด็กคนนั้นจำฝังใจมาจนถึงทุกวันนี้รักกันไม่ได้เพราะกลัวมารดาจะเป็นอันตรายรักกันไม่ได้เพราะกลัวทำครอบครัวคนอื่นแตกแยกรักกันไม่ได้เพราะกลัวหลานชายที่กำเนิดมาจะผิดหวังมันเป็นปัญหาลูกโซ่ที่สืบเนื่องมาจากคำขู่ไม่กี่คำในวัยเยาว์ ค่อย ๆ ซึมลึกลงไปยังก้นบึ้ง แตกหน่อออกผลตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาอย่างเงียบ ๆ กัดกินจิตใจเป็นอาหาร ประหนึ่งมีดคมที่ค่อย ๆ เฉือนเนื้อออกไปทีละนิดอย่างประณีตบรรจงเสียงร่ำไห้ที่เขาได้ยินเหมือนมันเป็นความโศกเศร้าตลอดร่วมสิบปี

    Terakhir Diperbarui : 2025-01-10
  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๓๐ เหมือนฝัน (๑๐๐%)

    วันนี้เป็นวันที่ไกรวิชญ์อารมณ์ที่ดีที่สุดในรอบหลายปี ไม่ว่าเรื่องอะไรหรือปัญหาแบบไหนล้วนผ่านไปได้ด้วยดีเหลือเกินนายตำรวจในผ้านุ่งเปลือยท่อนบนเดินเช็ดผมออกมาจากห้องน้ำ เสียงพรูลมหายใจเพราะความโล่งสบายถูกขับออกมาเมื่อเจ้าของห้องเดินมาพาดผ้าขนหนูกับราวไม้ในห้องตอนนี้เรียกได้ว่าเขาได้โอกาสกลับมาแล้วได้ไหมนะ... ตลอดมาด้วงปฏิเสธเขาตัวโยน ทั้งเขายังเผลอทำอะไรไม่ยั้งคิดลงไปตั้งหลายครั้ง ไม่รู้ป่านนี้เขาจะได้รับการให้อภัยแล้วรึยัง*ก๊อก ก๊อก*‘ผมเอง’เพียงแค่สองพยางค์ไกรวิชญ์ละมือจากราวผ้าเช็ดตัวเดินไปเปิดประตูให้ในทันทีโดยลืมไปว่าตัวเองลืมสวมเสื้อ แต่ด้วงนั้นไม่ได้คิดอะไรเดินเข้ามาแบบสบายใจพร้อมกล่าวหัวข้อการสนทนา โดยเป็นไกรวิชญ์เองที่ล่กเอื้อมมือไปหยิบเสื้อที่พาดอยู่มาสวมแทบไม่ทัน“พี่รู้เรื่องครูอุ่นเขารึยัง?”“หมายถึงเรื่องที่เขาเป็นทหารเหรอ?”“ใช่”ไกรวิชญ์เก็บสีหน้าเพราะเหมือนด้วงจะเข้ามาคุยเรื่องอนาคตการเรียนของลูกชายเขา ไกรวิชญ์จึงเดินไปเร่งไฟตะเกียงหัวเตียงให้สว่างพอที่จะทำการสนทนาอย่างเป็นกิจจะล

    Terakhir Diperbarui : 2025-01-11
  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๓๑ แต่เช้า (๕๐%)

    เปลือกตาสีน้ำผึ้งกะพริบถี่เมื่อม่านตาด้านใต้สัมผัสได้ถึงแสงอาทิตย์ภายนอก เพราะความเคยชินจึงยกมือขึ้นกะจะยืดเส้นยืดสาย ลูบหน้าลูบตา จนเมื่อร่างกายปรับสภาพได้แล้วลืมตาขึ้นมามองภาพตรงหน้าชัด ๆ กลับเห็นเป็นเจ้าพี่นอนเท้าคางมองอยู่ ซึ่งดูจากท่าทางคงจะทำแบบนี้มารวมหลายนาทีแล้วไกรวิชญ์นอนมองเด็กบิดขี้เกียจเพลินตา มองไปก็ยิ้มไปกระทั่งเจ้าตัวตื่นมาทำหน้ามุ่ยใส่เขาก็ยังคงยิ้มอยู่“พี่แอบมองกันมันไม่ดีนะ”“เรามานอนบนเตียงพี่เองไม่ใช่เหรอ?”“มันไม่เกี่ยวกันสักหน่อย”เมื่อคืนด้วยอารมณ์มันพาไปสุดท้ายเขาเลยไม่ได้กลับห้องตัวเอง โดนพี่นั่งกอดไปจนเที่ยงคืนกว่าจะเอนตัวลงนอนก็ปาไปตีหนึ่ง ดังนั้นจะมาบอกว่าเขามานอนเตียงเจ้าตัวไม่ได้ เพราะเป็นพี่ไกรต่างหากที่กอดเขาเป็นลูกลิงไม่ยอมปล่อยไกรวิชญ์ยังคงมองเจ้าน้องไม่วางตา ไม่รู้อีกฝ่ายมีอะไรดึงดูดเขานัก อาจเป็นท่าทางอันน่ารักยามเจ้าตัวนอนซุกไซ้ไปกับหมอนและผ้าห่ม อาจเป็นเสื้อผ้าที่ใส่ขับเน้นผิวสีน้ำผึ้ง หรืออาจเป็นใบหน้าที่มองเท่าไรก็ไม่มีวันเบื่อ ทว่าอย่างไรเขาก็ชอบมันทั้งหมด“อือ! พี่! ผมต้องรีบ

    Terakhir Diperbarui : 2025-01-12
  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๓๑ แต่เช้า (๑๐๐%)

    “แหม อารมณ์ดีมาเชียวนะวันนี้”เสียงของเพื่อนพูนกล่าวแซะแซวพ่อตำรวจที่กำลังขับรถอยู่ ตอนนี้พวกเขากำลังออกเดินทางไปลงพื้นที่จับกุมเสือร้ายสุพรรณที่ถูกทางการหมายหัวมานาน และเพราะพูนขับไม่เป็นทั้งยังเมารถเป็นทุนเดิมอีก คันที่พวกเขาสองคนขึ้นมาจึงต้องพึ่งมือหนุ่มสายเลือดพระนครอย่างผู้กำกับการ ส่วนเพื่อนร่วมทางคนอื่นนั่งรวมกับคันใหญ่จนเต็ม เหลือเพียงพวกเขาสองคนกับรถหนึ่งคัน“ก็นะ”“จ้า ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครทำให้มีความสุข-อุบ!”พูนแม้จะเมารถแต่ก็เหม็นเบื่อคนมีเมีย วันก่อนที่มันมาทำงานก็ยิ้มมาตั้งแต่หน้าสน.ทำเอาลูกนงลูกน้องกลัวขนหัวลุกคิดว่าผู้กำกับการไปโดนของมาอย่างไรอย่างนั้น หรือไม่บางกลุ่มก็นินทาว่าไอไกรมันอาจจะเป็นบ้าจริง ๆ เพราะทำงานก็นั่งยิ้ม อ่านสำนวนก็นั่งยิ้ม เดินไปกินข้าวก็ยืนยิ้ม ที่ถึงเขาเป็นเพื่อนรู้ใจอาจเชื่อก็ได้ว่ามันผีเข้า“จะว่าไปเอ็งเรียนขี่ม้าจากไหนเหรอ?”“พ่อฉันสอน เมื่อก่อนบ้านอยู่แถบภูเขาน่ะ”“ตอนฝึกก็ขอฝากด้วยนะ”“มันได้อยู่แล้ว”หึหึ! ไอ้พวกมีเมียแล้วอวดรัศมีน่ะ จะเอาให้ร้องเลยคอยดู!

    Terakhir Diperbarui : 2025-01-13

Bab terbaru

  • ดลรวีที่รัก   เรื่องในจวน ๓ ขจัดภัย

    “ตื่นมาก็ทำงานเลยหรือ?”องค์กษัตริย์ไถ่ถามมเหสี ที่เคยนอนด้วยกันปกติจะเป็นเขาที่ออกมาทันทีหลังแต่งองค์ทรงเครื่องเสร็จเนื่องจากมีราชกิจกับเหล่าเสนาบดี แต่วันนี้เนื่องจากเป็นวันดีที่จะได้ไปส่งมเหสีขึ้นเกี้ยวกลับไปเยี่ยมมารดาพวกเขาจึงตื่นสายหน่อยและให้เวลาส่วนตัวแก่มเหสีคนใหม่ จึงมาอาบน้ำด้วยตัวเอง“ข้าไม่คิดว่าท่านจะทำได้จึงมีงานวังหลังเหลืออยู่”“เช่นนั้นเจ้าก็เลือกสนมรองขึ้นมาช่วยงานสิ งานบัญชีเยอะเช่นนี้เจ้าทำคนเดียวไม่ไหวหรอก”“หากข้าเลือกขึ้นมาแล้วท่านสัญญาได้ไหมว่าจะปันเวลาให้พวกนาง”เขาไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบเดิมซ้ำสอง อย่างไรพระสนมส่วนใหญ่ถึงบางรายอาจไม่แสดงออกแต่ลึก ๆ ทุกคนล้วนต้องการความรักจากองค์จักรพรรดิทั้งสิ้น“ข้าทำไม่ได้มเหสี”“เช่นนั้นก็สมควรแล้วที่ข้าจำต้องตื่นแต่เช้ามาทำงานแต่เพียงผู้เดียว”ว่าแล้วอดีตพระสนมจึงวางพู่กันลงลุกขึ้นจากเบาะรองนั่งเดินตรงไปยังส่วนอาบน้ำโดยไม่แม้แต่จะสบตาพระสวามีผู้ทำทุกอย่างเพื่อให้ตนเองได้ปิ่นปักผมหงส์กนกมาครองแม้วันนี้พวกเขาจะมีนัดไปเยี่ยมมารดาแต่ก็ยังคงตื่

  • ดลรวีที่รัก   เรื่องในจวน ๒ ลำบากใจ

    “ท่านพี่ ท่านพี่เพคะ ท่านพี่ว่าปิ่นปักผมชิ้นนี้เข้ากับน้องไหมเพคะ?”เสียงเจื้อยแจ้วของเด็กหญิงในชุดผ้าแพรยาวสีสันสดใสพร้อมด้วยสองมวยผมที่จับมักเป็นมวยกลมตกแต่งด้วยดอกไม้หยกห้อยระย้าประดับกรอบหน้างามอย่างคุณหนูลูกสาวขุนนางใหญ่ เธอหยิบปิ่นปักผมดอกกล้วยไม้ขึ้นมาทาบศีรษะกล่าวถามเด็กหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันที่ปลอมตัวเป็นคนรวยเข้ามาเดินเล่นในชุมชนในกลางเมืองเด็กหนุ่มผมหยักศกสีน้ำตาลผินใบหน้าแววตาเหยียดมองคู่หมั้นที่ติดสอยห้อยตามเขามาด้วย ทำเอาเสียอารมณ์ไม่ใช่น้อย แทนที่จะได้เดินดูทุกข์ราษฎรแล้วเอาไปเขียนรายงานส่งท่านอาจารย์กลายเป็นต้องมาดูแลประคบประหงมลูกคุณหนูเสียอย่างนั้น“กระจกก็มีเจ้าไม่ส่องดูเอาเองล่ะ”ไร้ซึ่งความเห็นใจ เด็กหนุ่มตอบเสียงแข็งเดินสะบัดก้นหนีจนองครักษ์ซึ่งติดตามมาด้วยถึงกับทำตัวไม่ถูกเฉกเช่นเดียวกับพระคู่หมั้นที่ยืนตัวแข็งทื่อไปแล้วองค์รัชทายาทในวัยสิบสองขวบปีเดินกระชับปีกหมวกคล้องลูกปัดหลบเลี่ยงมายังตรอกซอกซอยหนึ่งโดยมีองครักษ์ในชุดชาวบ้านเดินติดสอยห้อยตามมาคุ้มครองด้วย‘เดินถัดจากตลาดมานิดเดียวก็เจอศพคนตายแล้ว’

  • ดลรวีที่รัก   เรื่องในจวน ๑ สถานะ

    ชนชั้นในสถานที่อันปวงประชาภายนอกรั้วมองเข้ามาล้วนบอกเป็นเสียงเดียวกันถึงสิ่งปลูกสร้างอันประณีตงดงาม สวนดอกไม้อันเขียวชอุ่มและอาหารเลิศรสที่สามัญชนแม้เฝ้าเก็บเงินมาทั้งชีวิตก็ไม่สามารถลิ้มลองจานของโอรสสวรรค์ได้ท่ามกลางความอู้ฟู่โอฬารเหล่านั้น ภาพสวยหรูที่ใครต่อใครซึ่งพรายกระซิบกันมาผ่านกำแพงสูงกลับถูกสกัดด้วยมุมมืดของวังหลวงแห่งนี้พระราชโอรสได้ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นกษัตริย์เมื่อพระราชบิดาสิ้นอายุขัย พระคู่หมั้นเข้าพิธีอภิเษกสมรสและได้ครอบครองปิ่นปักผมหงส์กนกซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของพระมารดาแห่งแผ่นดิน ทั้งสองปกครองเคียงคู่กันมาจนให้กำเนิดองค์รัชทายาท เป็นที่รักใคร่เอ็นดูต่อเหล่านางกำนัลน้อยใหญ่พระราชโอรสชาญฉลาดนัก ใฝ่เรียนใฝ่รู้ทุกสิ่งรอบตัวเป็นอาจิณ กระนั้นยังคงไว้ซึ่งประกายสดใสในแววตาเปล่งปลั่ง ประหนึ่งดวงตะวันน้อยที่ค่อย ๆ เจริญเติบโตและกลายมาเป็นที่พึ่งพิงของผืนฟ้าจนมาวันหนึ่ง ท่ามกลางโต๊ะไม้สักลายมังกรวางเรียงรายด้วยจานอาหาร เมื่อพระมเหสีได้ตักเนื้อข้าวเสวยเข้าไปเพียงคำเดียว เสียงช้อนเงินซึ่งค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นสีดำร่วงหล่น

  • ดลรวีที่รัก   บทพิเศษ ๑๑ หนึ่งวันธรรมดา (NC)

    "กันต์มาทำงานใกล้บ้านไม่ได้เหรอ อาไม่อยากให้เราไปอยู่ที่ไหนนาน ๆ เลย”“ผมไปอยู่นั่นแค่ปีเดียว เดี๋ยวก็ได้ย้ายมาศูนย์พระนครแล้วครับ”จนแล้วจนรอดคุณอาที่เลี้ยงดูหลานชายมาตั้งแต่ยังแบเบาะจนยามนี้มีงานมีการทำก็ยังเป็นห่วงแล้วเป็นห่วงอีก กลับมาบ้านครั้งหนึ่งก็จัดอาหารชุดใหญ่เอาไว้ให้เสียอลังการ พอจะกลับไปวิทยาลัยอาเจ้าก็เอาของกินใส่ปิ่นโตมาให้ทั้งยังหาอาหารที่เก็บได้นาน ๆ จัดใส่กระเป๋าเอาไว้ กลัวว่าหลานชายจะไม่มีอะไรกินเมื่ออยู่ที่นั่นตอนนี้กันต์ธีร์โตเป็นหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาได้พ่อ กำลังเรียนต่อชั้นป.โทจากทุนที่ได้มาทันทีหลังจบป.ตรี ขณะเดียวกันก็ทำหน้าที่เป็นหนึ่งในนักวิจัยพรรณพืชของวิทยาลัยแม้เป็นที่ภาคภูมิใจของคนในครอบครัว ทว่าคุณอาไม่ชอบใจเท่าไรที่ที่เรียนที่ทำงานไกลจากบ้านเหลือเกิน เขาอดใจรอหลานเรียนจบ หวังจะได้กลับมาเห็นหน้าค่าตาทุกวันเหมือนวันวานกลายเป็นต้องเหินห่างกันเหมือนเดิมไปอีกหนึ่งปีเสียได้“เดี๋ยวผมจะพยายามกลับมาให้ได้ทุกสัปดาห์นะครับ”“มันจะไม่รบกวนเราไปใช่ไหมกันต์?”เดินทางครั้งหนึ่งนอกจากจะมีค่าใช้จ่ายแล้วยั

  • ดลรวีที่รัก   บทพิเศษ ๑๐ ปัญหาของคนหน้าตาดี

    กันต์ธีร์ × อาจารย์น้ำหวานคุณอานายสถานีในวัยสามสิบสี่ย่างสามสิบห้านั่งปักผ้าเตรียมทำถุงหอมให้พี่ชายคนรักและกันต์ธีร์ที่จะกลับมาเยี่ยมบ้านในสัปดาห์นี้ โดยมีพี่ชายนั่งกกกอดอยู่ด้านหลังซุกไซ้ใบหน้าไปมาตามกิจวัตรอยู่บนเตียงนุ่ม แทนที่จะเรียกว่าเอือมระอาให้เรียกว่าชินชาเสียมากกว่า ทว่าอย่างไร ณ จุดจุดนี้อ้อมกอดของพี่ก็ไม่ได้ทำให้เขาปักผ้าลำบากขึ้นมากนักหรอกเห็นว่ามหาวิทยาลัยกันต์ธีร์อยู่ไกลจึงจำต้องไปอาศัยพักหอในที่ทางมหาวิทยาลัยจัดเอาไว้ให้ ดีที่เจ้าตัวเก่งพอจะได้ทุนการศึกษา ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่จึงไม่ได้หนักหนาอะไรมาก เผลอ ๆ อาจราคาพอกันกับสมัยมัธยมเลยกระมังทว่าแม้จะผ่านมาครบหนึ่งปีที่หลานชายที่รักต้องออกไปใช้ชีวิตคนเดียวก็ยังมีเรื่องที่คุณอาคนนี้กังวลใจอยู่ไม่หาย“เฮ้อ...”“ถ้าเหนื่อยก็พักก่อนก็ได้ครับ ค่อยเย็บใหม่วันพรุ่งนี้”“น้องไม่ได้เหนื่อยเรื่องนั้น น้องแค่เป็นห่วงน้องกันต์”“กันต์โตเป็นหนุ่มแล้ว ปล่อยให้เขามีชีวิตเป็นของตัวเองบ้างก็ได้ ไว้มีปัญหาพี่เชื่อว่ากันต์จะมาบอก

  • ดลรวีที่รัก   บทพิเศษ ๙ เรื่องหนวด ๆ

    “ด้วง เรามาโกนหนวดให้พี่ได้ไหมครับ?”ไกรวิชญ์ในทุกอาทิตย์มักจะเข้ามาอ้อนขอน้องชายถึงสิ่งนี้เป็นประจำ บางครั้งด้วงก็งงงวยว่าทำไมเจ้าพี่เมื่อก่อนก็จัดการเคราบนหน้าได้เองตามปกติแต่ทำไมหลังจากที่เขาโกนให้ครั้งแรกถึงได้ติดอกติดใจนัก“พี่เตรียมของไว้นะ เดี๋ยวผมตามเข้าไป”ด้วงซึ่งอาสาเช็ดโต๊ะทานอาหารหลังมื้อเช้าเสร็จบอกดังนั้นก่อนจะเห็นพี่ไกรเดินเข้าห้องอย่างอารมณ์ดี หากเทียบตัวตนของพี่ไกรวิชญ์เมื่อปีที่เรื่องราวเกิดขึ้นล้านแปดแล้วเหมือนเป็นคนละคนตอนนั้นเขามองหน้าพี่แทบไม่ติดคล้ายจะมีรังสีความน่ากลัวแผ่ออกมาตลอด คุยกันครั้งหนึ่งต้องมีทะเลาะเบาะแว้งไม่ลงรอย แต่มาเดี๋ยวนี้พี่เจ้าแค่มองหน้าเขาก็ยิ้มร่า มักจะชอบวิ่งเข้าหามาช่วยเขาไม่ว่าเรื่องนั้นเป็นเรื่องเล็กแค่ไหน จนบางครั้งก็เหมือนได้เห็นภาพซ้อนของกันต์ธีร์ในวัยเยาว์อย่างไรอย่างนั้น คิดแล้วก็ขำกับตัวเอง นี่เขาเห็นพี่มีนิสัยเหมือนเด็กเล็กอย่างนั้นหรือด้วงคิดสะระตะก่อนเดินไปพาดตากผ้าขี้ริ้วกับระเบียงด้านนอก จัดแจงเก้าอี้ให้เข้าที่แล้วจึงพาตัวเองเดินเข้าห้องนอนไปทำตามที่พี่เจ้าร้องขอไว้

  • ดลรวีที่รัก   บทพิเศษ ๘ ประชุมแบบใด

    “ไอ้ไกร ยังหมัดหนักเหมือนเดิมเลยนะ”“ขอบคุณครับ”ไกรวิชญ์รู้สึกว่าตัวเองห่างหายจากการซ้อมมวยมานานจำได้ว่าครั้งล่าสุดที่มาเห็นจะเป็นเมื่อต้นปีที่แล้วก่อนที่จะเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นจนเขาไม่มีเวลามากพอจะมาให้เวลากับการฝึกซ้อมที่นี่เป็นลานอเนกประสงค์ซึ่งตำรวจในพื้นที่หากมีเวลาก็จะมานั่งสังสรรค์พักผ่อนจากการทำงานในกรณีวันไหนไม่อยากกลับไปเจอหน้าเมีย (ไอ้พูนที่ก๊งเหล้าประจำนั้นเป็นคนบอกมา) ทว่าสำหรับเขาแล้วที่นี่เหมือนเป็นที่ออกกำลังเสียมากกว่า แถมทำไมเขาจะไม่อยากกลับเจอหน้าคนรักเล่าไกรวิชญ์ซึ่งปลดเสื้อเครื่องแบบออกเหลือเพียงเสื้อกล้ามสีขาวเปื้อนเหงื่อเดินกลับมานั่งพักบนแคร่ไม้ไผ่พลางถอดผ้าพันข้อมือ เขาค่อนข้างภาคภูมิใจมากที่วันนี้ข้อนิ้วเขาไม่ได้รับบาดเจ็บจนถลอกจากการต่อยถุงทราย ทั้งยังสภาพการณ์ดีขึ้นเยอะ แบบนี้ด้วงก็ไม่ต้องมาสละเวลานั่งทายาให้แล้ว“โอ๊ย ๆ ปวดไหล่จังเว้ย ไอ้ไกรเอ็งเมื่อก่อนมาซ้อมทุกวันเลยดิ”พูนเดินกลับมาจากลานหลังลองวัดฝีมือกับชาวบ้านในวงท่านหนึ่ง เพราะอยากรู้ว่าตัวเองอยู่ในระดับไหน แต่เอาเข้าจริงเขาที่ถนัดลอบเร้นม

  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๗ รถคันเก่า (NC)

    ย้อนกลับไปวันที่ทุกคนจะไม่อยู่บ้านเนื่องจากคุณแม่ที่กลับมาอยู่บ้านหลักสักพักก็คิดจะย้ายกลับมาอย่างเต็มตัว ยิ่งไปกว่านั้นก็อยากพาเจ้าหมึกมาพระนครด้วย ทั้งกันต์ธีร์นัดกับเพื่อนว่าจะไปนอนค้างคืนเล่นอะไรตามประสาในช่วงวันศุกร์-เสาร์ ทำให้เขาและพี่ไกรเหลือกันอยู่สองคนในบ้าน เพราะลุงแดงก็อาสาตามไปช่วยขนสัมภาระกับพี่ชมพู่เมื่อรู้ดังนั้นพวกเขาเลยตกลงกันว่าจะออกไปเที่ยวกันสองคน พี่ไกรจึงเสนอว่าจะพาไปขับรถเล่นหลังจากปล่อยรถนอนในอู่มานานหลายปีจนต้องมีล้างทำความสะอาดไล่ฝุ่นกันนิดหน่อย เมื่อลองเปิดปิดใช้งานเครื่องยนต์ก็ยังสามารถทำงานได้ดีเหมือนเดิมพี่ไกรบอกว่าจะกลับมาขับรถให้มากขึ้น เวลาพาครอบครัวไปไหนมาไหนจะได้ไม่ต้องรอระบบขนส่งสาธารณะไกรวิชญ์ในชุดพร้อมเที่ยวเปิดประตูหน้าคนขับเข้ามาในรถ เมื่อเห็นว่าเครื่องปรับอากาศทำงานได้ดีไม่ร้อนอบอ้าวเขาจึงเดินขึ้นไปตามด้วงให้ลงมา“ไปวันเดียวเอง เราขนอะไรไปเยอะจัง”“ผมไม่ชินเลย ไปกันแค่สองคน”ปกติหากไปเที่ยวจะไปกันทั้งครอบครัว หรืออย่างน้อยก็จะมีกันต์ธีร์มาด้วยอีกคนเสมอ แต่ครั้งนี้เพราะเป็นครั้งแรกมัน

  • ดลรวีที่รัก   บทพิเศษ ๖ คุณตำรวจสายตาสั้น

    ด้วงเข้าใจดีว่าพี่ชายเป็นตำรวจก็มีล้มลุกคลุกคลานบ้างเวลาไล่ตามโจรผู้ร้ายน้องชายในชุดเครื่องแบบนายสถานีพึ่งเลิกงานมาหมาด ๆ นั่งมองพี่ชายบนเตียงคนไข้ตาเขม็งโดยที่ไกรวิชญ์ไม่สามารถปฏิเสธข้อกล่าวหาได้เป็นพี่พูนที่เอาความมาเล่าสู่กันฟังกับเจ้าแผนและเขาที่สถานีรถไฟ เห็นว่าคราวนี้งานไม่ยากเย็นอะไรเพราะได้ข้อมูลครบถ้วนสมบูรณ์ ตัวพี่เองไม่ต้องลงไปอยู่ในสนามรบเองก็ได้ ทั้งพี่พูนเห็นว่าช่วงนี้พี่ไกรมีปัญหาด้านสายตา เริ่มมองระยะไกลๆ ไม่ค่อยชัด จะเอื้อมหยิบเอกสารที่อยู่ห่างออกไปสักหน่อยก็หยิบผิด ๆ ถูก ๆ เพ่งสายตามองนานเป็นนาทีก็ยังอ่านตัวอักษรบนกระดานไม่ออกซึ่งพี่พูนก็ปรามแล้วแต่พี่ไกรก็ยังดื้อแพ่งจับปืนไปลงพื้นที่โดยเมินคำเตือนเหล่านั้นจนได้กระสุนฝังหน้าขามาจนได้ แบบนี้เขาขอหยิกให้เนื้อเขียวหน่อยเถอะ“หายแล้วพี่ไปตัดแว่นใส่เลยนะ”“ไว้ค่อยรอช่างมาตัดให้แม่รอบหน้า-“ไม่ต้องเลย แล้วก็พากันต์ไปด้วย เผื่อมันส่งต่อทางพันธุกรรม”“ครับ...”ไกรวิชญ์เย็นวันนั้นกลับมาบ้านขากะเผลกจนต้องให้น้องชายช่วยประคอง ทั้งที่เมื่อก่อนสมัยยี

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status