หน้าหลัก / วาย / ดลรวีที่รัก / บทที่ ๒๖ ยินดี (๕๐%)

แชร์

บทที่ ๒๖ ยินดี (๕๐%)

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-02 18:00:55

ในคราวแรกเนื่องจากเขาและพี่ไกรต้องออกไปทำงานจึงไม่ได้จ้างอาจารย์เจ้ามาสอนตลอดทั้งสัปดาห์แม้กันต์ธีร์จะต้องการก็ตามเพราะอย่างไรเจ้าตัวก็ถือเป็นคนนอก คนที่อยู่บ้านมีเพียงแม่และลุงแดงพ่อบ้านมีอายุจึงไม่เป็นที่วางใจเท่าไรนัก แต่ในเมื่อตอนนี้พี่ต้องอยู่บ้านตลอดตามคำสั่งศาลพวกเขาจึงตกลงกับครูอุ่นอีกครั้งเรื่องมาสอนทั้งสัปดาห์และหยุดวันอาทิตย์แทนจนกว่าจะจบหนังสือม.๑ ที่หลานรักจำต้องเข้าใจก่อนเลื่อนระดับชั้น

ทีแรกเขาบอกปากเปียกปากแฉะว่าอยากให้ทั้งอาจารย์ทั้งศิษย์หยุดพักสองวันเสาร์-อาทิตย์ แต่เหมือนยิ่งสนิทยิ่งเข้ากันเป็นปี่ขลุ่ยพูดจาน้ำไหลไฟดับเกลี้ยกล่อมเขาให้ตามใจจนได้ ดังนั้นเมื่อถึงเวลามื้อเที่ยงวันเสาร์เขาจึงอาสาเป็นคนเอาสำรับอาหารไปให้ทั้งสองซึ่งกำลังเรียนอยู่บริเวณโถงชั้นล่าง

ศิษย์อาจารย์นั่งพูดคุยในขณะที่ก้มหน้ามองตัวอักษรในกระดาษ หลานคนเก่งเมื่อได้ฟังก็พยักหน้าเข้าใจบ้าง ถามเมื่อสงสัยบ้าง เป็นบรรยากาศการเรียนการสอนที่ชวนให้อบอุ่นหัวใจ

“กันต์ พักมาทานมื้อเที่ยงก่อนมา อาจารย์ก็ด้วยนะครับ”

“คร้าบ”

“ถ้าคุณไม่ลงมาผมคงลืมเวลาไปแล้วนะเนี่ย”

บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๒๖ ยินดี (๑๐๐%)

    “เครื่องแบบไม่มีที่เป็นแขนยาวสำหรับหน้าหนาวเหรอครับ?”“พวกเราใส่แบบเดียวกันตลอดทั้งปี ไม่มีแยกตามฤดูกาลหรอกครับ”“แบบนี้ก็ไม่ดีน่ะสิ”“ฮ่า ๆ ประเทศนี้ถ้าหนาวมาทีก็ถือว่าบุญส่งแล้วครับ ปกติร้อนเกือบทั้งปี”ด้วงรู้สึกว่าตัวเองตอบคำถามไม่ค่อยเป็นธรรมชาติสักเท่าไรเมื่อเทียบกับเมื่อก่อนทั้งตอนนี้คุณอุ่นยังเป็นคนเริ่มบทสนทนาอยู่ฝ่ายเดียว เขากลัวอีกฝ่ายจะตั้งแง่สงสัย อย่างน้อยเขาก็ควรเป็นฝ่ายถามกลับไปบ้าง“ถุงหอมที่ให้ไปเป็นยังไงบ้างครับ?”“หอมผ่อนคลายมากเลยครับ ผมห้อยติดกระเป๋าไว้ตลอดเลย”ว่าแล้วอาจารย์แกก็ยกกระเป๋าถือขึ้นมาให้เขาดู บริเวณโลหะข้อต่อหูกระเป๋ามีตาข่ายถุงหอมห้อยอยู่ ด้วงเห็นแล้วก็สะกิดใจ ทั้งที่มันแขวนให้เขาเห็นมาตลอดแต่กลับไม่ได้สังเกตเลย สงสัยต่อจากนี้เขาควรใส่ใจคุณอุ่นให้มากกว่าที่เป็นอยู่เสียแล้ว“ขอบคุณที่เดินมาส่งถึงหน้าบ้านอีกแล้วนะครับ”“ผมก็ขอบคุณที่ให้ผมเดินมาส่งเช่นกันครับ”ก่อนที่อาจารย์เจ้าจะไป ด้วงก็บังเอิญสังเกตไปยังสีท้องฟ้าวันนี้ แล้วจึงหันมาแอบมองนาฬิกาข้อมือของอาจารย์ ไหน ๆ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-03
  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๒๗ เลิกไม่ได้ (๕๐%)

    ‘แม่พึ่งถักแล้วซักเสร็จ ลูกเอาไปใส่ด้วยนะ’แม่บอกเขามาเช่นนั้นพร้อมมอบผ้าพันคอไหมพรมสีเทามาให้ ปกติแล้วบ้านเราไม่ค่อยมีของพวกนี้เท่าไรนักเพราะหน้าหนาวประเทศไทยก็ใช่ว่าจะหนาวมากมาย เผลอ ๆ บางวันร้อนเหมือนเตาถ่าน ทว่าวันนี้เพียงตื่นมาก็ต้องขนลุกซู่เพราะลมหวิวที่แทรกเข้ามาตามช่องไม้ เขาจึงปฏิเสธไม่ได้ที่จะรับมันมานายสถานีหลังทานข้าวต้มมื้อเช้าเสร็จก็ผูกผ้าพันคอเดินลงมาสวมรองเท้าคู่ใจออกจากบ้านตามปกติ บรรยากาศวันนี้ค่อนข้างอึมครึมพิกล ทั้งมือเขายังรู้สึกเจ็บแปล๊บ ๆ ทุกครั้งที่ขยับ อาจเพราะความเย็นกัดผิวก็เป็นได้ เขาหวังว่าเจ็ดโมงที่สถานีจะมีคนต้มน้ำอุ่นเอาไว้จิบคลายความหนาวเดินไปเรื่อยจู่ ๆ ก็รู้สึกหิวทั้งที่พึ่งกินมา จะว่าไปเมื่อเช้าแทบไม่ได้แตะอะไรไปเท่าไรนัก ข้าวในถ้วยก็น้อยนิดแต่กว่าจะฝืนกินจนหมดก็นานโข กินอะไรไม่ลงแบบนี้ค่อนข้างส่งผลร้ายต่อร่างกายหลายด้านเลยเชียวยิ่งไปกว่านั้นเมื่อคืนเขาก็ดันฝันถึงเรื่องเดิม ๆ จนสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึกอีกแล้ว ตอนแรกคิดว่าอาจเพราะชอบนอนคุดคู้เอาหน้าซุกผ้าห่มจนหายใจไม่ออกแต่มันไม่ใช่เลย ที่ฝันร้ายนั่นกลับม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-04
  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๒๗ เลิกไม่ได้ (๑๐๐%)

    “ขี้เกียจทำงานแล้ว...เฮ้อ”เสียงบ่นอิดออดนั่นออกมาจากปากเพื่อนเพียงคนเดียวของไกรวิชญ์อย่างเจ้าพูนที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ไร้เรี่ยวแรงจะทำงาน ไกรวิชญ์ซึ่งชินชากับนิสัยนั้นแล้วจึงก้มหน้าก้มตาทำงานต่อไปหลังไม่ได้แตะปากกากับกระดาษมานานหลักเดือนพันโทหรี่ตามองคุณพ่อตำรวจทำงานไฟลุกด้วยหน้าตาอันเรียบเฉย ถ้าเป็นเขาโดนหักเงินเดือนคงไม่มานั่งตั้งใจทำงานเกินค่าจ้างแบบนี้หรอก ว่าแล้วก็ถอนหายใจอีกครั้งเป็นการพ่นความเครียดที่ไม่มีอยู่จริงออกมา‘เมื่อไหร่จะจับพวกมันให้หมดสักที รู้ไหมพวกฉันกังวลแค่ไหน!?’‘ทำงานให้มันดี ๆ หน่อย!’‘ถ้าจะชักช้ายืดยาดแบบนี้ก็ไม่ต้องเป็นหรอกตำรวจน่ะ!!’พูนได้ยินเสียงโวยวายของชาวบ้านแว่วมาจากทางด้านนอกก็เอือมระอา ในตอนที่ไกรมันไม่อยู่ก็เป็นเขาที่บากหน้าออกไปรับคำดุด่าว่ากล่าวแทน เอาเข้าจริงใช่ว่าพวกเขาตลอดทั้งเดือนที่พยายามสืบหากันมาก็ทยอยจับมาได้เรื่อย ๆ แต่เพราะนี่เป็นข่าวใหญ่ที่ยังลงสื่อวิทยุและหนังสือพิมพ์ทางการ ไม่แปลกที่ผู้คนจะให้ความสนใจและเพ่งเล็งผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่างพวกเขาขนาดนี้“เมื่อวานก็มา พวกป้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-05
  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๒๘ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า (๕๐%)

    “แหม ถือร่มมารับเลยนะครับ”“ก็ฝนตกมาตั้งแต่เช้าแล้วนี่ครับ”แผนซึ่งมาโบกธงเจอหน้าคนรักของเพื่อนพอดีจึงถือโอกาสสนทนาระหว่างด้วงมันกลับมาจากห้องน้ำ หลังจากวันที่ไอ้ด้วงเป็นลม อาจารย์คนนี้คล้ายจะประคบประหงมเป็นพิเศษเพราะรถไฟพึ่งออกและยังอยากตากลมเย็นจึงนั่งบนเก้าอี้รอไอ้ด้วงเป็นเพื่อนอาจารย์ชาวญี่ปุ่น เรื่องราวที่เขาเข้าใจกับที่เกิดขึ้นมันย้อนแย้งกันไปคนละทิศละทาง แต่อย่างไรก็โต ๆ กันแล้ว หากเพื่อนเขาตัดสินใจแบบไหนเขาก็ตามนั้นไม่ได้เป็นปัญหาอะไรหรอกเพียงแต่...เขาในฐานะเพื่อนจริง ๆ ก็คอยจับสังเกตมาตลอด เคยลองเซ้าซี้ทว่ามันกลับเอาแต่บอกว่าไม่มีอะไร ไม่นู่น ไม่นี่จนเขาเหนื่อยหน่าย ทำได้เพียงมองเมียงกลัวมันจะเป็นอะไรเข้าในสักวัน และก็เป็นไปตามคาดจริง ๆ ไม่รู้มันไปเอาความเครียดมาจากไหนเยอะแยะจนแต่ละวันน้อยครั้งนักที่จะเห็นมันยิ้มออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ ขนาดคนรักเจ้าตัวมาพูดคุยด้วยก็ยังคงทำหน้านิ่งเฉย ต่างจากสมัยยังเป็นเพื่อนผู้โดยสารลิบลับ“ขอโทษที่ต้องให้รอนะครับ”“ไม่เป็นไรครับ”แผนโบกมือลาเจ้าเพื่อนเป็นครั้งสุดท้ายของวันเพรา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-06
  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๒๘ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า (๑๐๐%)

    เนื่องจากตำรวจยังไม่สามารถตามจับกุมนักโทษที่หลบหนีได้ทั้งหมด แม้มันจะเหลือเพียงส่วนน้อยแล้วก็ตามแต่อย่างไรเพื่อความปลอดภัยของผู้คนในเขตนั้น ๆ เมื่อได้เบาะแสอะไรมาพวกเขาจึงต้องเอามาร่วมพิจารณา ยิ่งไปกว่านั้นคดีที่ค้างคาอยู่ก็ยังต้องนำมาพูดถึงเป็นลำดับไปสำหรับการวางแผนในอนาคตอีก“ขอบคุณทุกคนมาก กลับบ้านได้”เป็นไกรวิชญ์ที่กล่าวประโยคนั้น แม้เพื่อนร่วมงานสน.นี้จะขยันขันแข็งกันขนาดไหน แต่เขาก็เข้าใจหัวอกบางคนที่มีลูกมีเมียอยู่บ้าน หากเขารั้งไว้คงจะไม่เป็นการดีนัก“ไอ้ไกร วันนี้ไม่ใช่เวรเอ็งไม่ใช่เหรอ?”พูนกลับมาจากโต๊ะประชุมพร้อมเพื่อนในขณะที่เขาเก็บของลงกระเป๋า แต่ไกรมันกลับนั่งลงหยิบสำนวนขึ้นมาเปิดไปมาเสียอย่างนั้น“ขอทำความเข้าใจตรงนี้ก่อน”“ขี้เกียจบ้างเถอะพ่อคุณ”“ไว้ค่อยทีหลัง”“แบบนี้น้องไม่ห่วงแย่แล้วรึ?”“ด้วงจะมาห่วงอะไรฉัน”“ใช่ว่าเขามีชิ้นแล้วจะเมินเอ็งสักหน่อย”“ช่างฉันเถอะน่ะ”เพราะรำคาญเสียงจ้อกแจ้กของเพื่อนจึงบอกปัดไป ก่อนจะต่างฝ่ายต่างโบกมือลา ไกรวิชญ์จึงได้กลับมาตั้งสมาธิก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-07
  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๒๙ เข็มนาฬิกา (๕๐%)

    เสียงพื้นรองเท้ากระทบฝนยังคงไม่หายไปแม้เวลาจะล่วงเลยมาเกือบหนึ่งชั่วโมงนับตั้งแต่ที่ไกรวิชญ์ได้รับโทรศัพท์มาจากแม่เลี้ยงแล้วก็ตาม แน่นอนว่าเขาไม่มีกะจิตกะใจแม้แต่จะเปลี่ยนเสื้อผ้า ยังคงสวมเครื่องแบบตำรวจวิ่งตามหาไปทั่วอยู่อย่างนั้น รวมไปถึงอาจารย์ชาวญี่ปุ่นด้วยเช่นกันชายสองคนวิ่งกลับมาเจอกัน ณ หน้าจุดนัดพบหน้าบ้านเมื่อแยกกันไปหาคนละทางแต่ยังไม่พบวี่แววของคนน้องแม้สักนิด ยิ่งเวลาผ่านไปเรื่อย ๆ ยิ่งทำให้ทั้งนายตำรวจและอาจารย์เป็นห่วงขึ้นไปอีก“ผม...ขอโทษ”ดันกิกล่าวขออภัยด้วยใจรู้สึกผิด หากเขาไม่ทำแบบนั้นบางทีคุณดลรวีคงจะกลับบ้านอย่างปลอดภัยหรือไม่หากเขาทำหน้าหนาตามมาส่งสักหน่อยเรื่องแบบนี้อาจไม่เกิดขึ้นก็เป็นได้“คำนั้นเอาไว้พูดหลังหาด้วงเจอก็แล้วกัน”ไกรวิชญ์พูดด้วยความร้อนรน พลางมองหาเบาะแสที่เขาอาจพลาดไป เมื่อสักครู่เขาแยกไปดูยังเส้นทางอื่นที่น้องชายสามารถเดินกลับบ้านได้แต่ก็ไม่เจอ จึงคิดจะวกกลับไปดูอีกครั้งยังทางเข้าหลักหน้าหมู่บ้านเป็นครั้งที่สองนายตำรวจก้าวขาเดินออกไปโดยไม่ได้บอกกล่าวอาจารย์ที่อาสาตามหาเจ้าน้องด้วยกัน ทว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-08
  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๒๙ เข็มนาฬิกา (๑๐๐%)

    สองชายหนุ่มคนหนึ่งเป็นตำรวจคนหนึ่งเป็นอาจารย์พากันมานั่งรอรับยาหน้าโรงพยาบาล เพราะหลังจากเมื่อคืนที่ตากฝนกันไปร่วมชั่วโมงก็พลอยทำให้เชื้อหวัดลงปอดไอกะด้อกะเดี้ย น้ำมูกไหลจมูกแดงไปตาม ๆ กันไกรวิชญ์รู้เรื่องจากปากอาจารย์เจ้าว่าวันนั้นได้ทำอะไรกับน้องชายเขาไปบ้างก็มีน้ำโห กล้าทำกับผิวอันบอบบางแบบนั้นไปได้อย่างไรถึงมันจะเป็นการแสดงเพื่อให้ด้วงเลิกกับตัวเองก็เถอะดันกิเองเมื่อจัดการศัตรูที่เข้ามาและฝังกลบดินไปแล้วก็หันมามองเขม่นใส่นายตำรวจคนที่คุณดลรวีหลงนักหลงหนาแล้วมาใช้เขาเป็นตัวแทนเพื่อตัดใจ“ผมโคตรอยากต่อยคุณเลย”“เอาเข้าจริงผมก็อยากต่อยคุณเหมือนกัน”“…”“…”“สนใจมาแลกกันคนละหมัดไหม?”“ผมก็คิดอยู่แต่แบบนั้นคุณดลรวีน่าจะไม่ชอบ”“ผมก็ว่างั้น”‘ขอเชิญหมายเลข ๒๒๓ รับยาที่ช่องเจ็ดค่ะ’ ดันกิถอนหายใจออกมาพลางลุกขึ้นไปรับยาพร้อมถือกระเป๋าติดตัวไปด้วย เมื่อรับยาเสร็จทีแรกที่คุยกับไกรวิชญ์เขาว่าจะขึ้นไปเยี่ยมคุณดลรวีด้วยกัน แต่พอมาคิด ๆ ดูแล้วคนที่ไม่สามารถปกป้องเจ้าตัวได้อย่างเขาไม่มีสิทธิ์ไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-09
  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๓๐ เหมือนฝัน (๕๐%)

    การกระทำที่ไม่เป็นตัวเองล้วนเกิดมาจากความกลัวภายใต้จิตสำนึกโดยที่เจ้าของร่างไม่อาจควบคุมได้ เหมือนกับการพยายามเปล่งเสียงตะโกนขอร้องความช่วยเหลือในกล่องมืดที่ไร้ซึ่งผู้คน น้องชายเขาคงเป็นเช่นนี้มาตลอด บอกใครไม่ได้เพราะกลัว หนีไม่ได้เพราะใจยังห่วง ทว่ากลับอ่อนแอจนไม่อาจมีแรงยืนหยัด ดังนั้นหนทางเดียวคือการสร้างเกราะ กีดกันทุกอย่างที่จิตใต้สำนึกสั่งให้เอาออกไปจากชีวิต‘แค่พูดคำไม่กี่คำ...’นั่นคือสาเหตุว่าทำไมน้องชายถึงได้ปฏิเสธเขาหนักหนา ด้วยแรงกดดันอันมหาศาลและสถานการณ์อันบีบคั้นส่งผลให้เด็กคนนั้นจำฝังใจมาจนถึงทุกวันนี้รักกันไม่ได้เพราะกลัวมารดาจะเป็นอันตรายรักกันไม่ได้เพราะกลัวทำครอบครัวคนอื่นแตกแยกรักกันไม่ได้เพราะกลัวหลานชายที่กำเนิดมาจะผิดหวังมันเป็นปัญหาลูกโซ่ที่สืบเนื่องมาจากคำขู่ไม่กี่คำในวัยเยาว์ ค่อย ๆ ซึมลึกลงไปยังก้นบึ้ง แตกหน่อออกผลตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาอย่างเงียบ ๆ กัดกินจิตใจเป็นอาหาร ประหนึ่งมีดคมที่ค่อย ๆ เฉือนเนื้อออกไปทีละนิดอย่างประณีตบรรจงเสียงร่ำไห้ที่เขาได้ยินเหมือนมันเป็นความโศกเศร้าตลอดร่วมสิบปี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-10

บทล่าสุด

  • ดลรวีที่รัก   บทพิเศษ ๔ ประธาน

    เขาไม่อยากจะเชื่อที่ตนเองจู่ ๆ ก็ได้ขึ้นเป็นประธานนักเรียนแบบฟลุกๆ เพียงแค่ท่องจำบทพูดที่ให้พ่อเป็นคนช่วยเขียนไปพูดหน้าเสาธง แค่นั้นคนก็แห่เทคะแนนเสียงให้แล้วกันต์ธีร์ในวัยสิบห้าย่างสิบหกหัวจะปวด ตอนแรกเพื่อน ๆ แค่เสนอชื่อเพราะผู้สมัครมันน้อยเกินสรุปตัวเองกลายเป็นม้ามืดด้วยคะแนนเสียงร้อยละแปดสิบเฉยเลย สรุปสุดท้ายในเมื่อเขาคือตัวแทนนักเรียนก็ต้องเป็นผู้นำทำหน้าที่ทุกอย่างจนหัวหมุนไปหมด ยิ่งเป็นกิจกรรมไม่ต้องพูดถึง ไม่ต้องเรียนกันแล้วตัวเรากันต์ธีร์อยากจะร้องไห้ ไม่น่ายืนกรานให้พ่อเป็นคนช่วยเขียนปราศรัยเลย ทั้งเจ้าตัวยังบอกอีกนะว่า ‘ได้ข่าวว่าลูกเป็นที่นิยมในหมู่นักเรียนอยู่แล้วนี่ ไม่ต้องให้พ่อช่วยก็ได้นะ’ เขาน่าจะเชื่อมันตั้งแต่แรก ไม่อย่างนั้นคงไม่ต้องมานั่งทำงานจำบทพูดงก ๆ แบบนี้หรอก!เนื่องจากเดือนมกราคมของทุกปี ทางโรงเรียนจะมีการจัดกิจกรรมเทศน์มหาชาติ นอกจากเขาจะต้องเป็นคนนำสวดมนต์ดำเนินรายการในช่วงเช้าแล้ว ยังต้องเข้าร่วมฟังเทศน์ทั้งวันร่วมกับคณะกรรมการนักเรียนบางส่วน ทั้งที่ใจเขาอยากขึ้นไปเรียนกับเพื่อนกับฝูงแท้ ๆ“พี่ธ

  • ดลรวีที่รัก   บทพิเศษ ๓ เสื้อไหมพรม (NC)

    การกลับมาของคุณแม่ทำให้สถานการณ์ทางบ้านเปลี่ยนไปหลายอย่าง จากทุกสิ้นปีพวกเขาจะเดินทางไปเยี่ยมเจ้าหล่อนโดยแวะพักทานอาหารกลางวันในร้านใหญ่แทนมื้อพิเศษทีเดียว ทว่าคราวนี้สิ้นปีมาถึง แทนที่จะกลับบ้านนาทุกคนในบ้านลงคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ว่าอยากไปเที่ยวต่างจังหวัดกระนั้นก็เลือกลำบากว่าจะไปจังหวัดไหน เพราะบ้านนี้ไม่ค่อยเที่ยว มากที่สุดก็เป็นด้วงที่คอยพาน้องกันต์ไปเที่ยวรอบเมือง จนเมื่อกันต์ธีร์รู้มาว่าเพื่อนตัวเองทำโรงแรมอยู่ชลบุรี เมื่อนั้นทุกคนจึงเตรียมเสื้อกันหนาวไปเที่ยวกันอย่างพร้อมเพรียง เพราะไม่รู้ว่าตอนนี้ที่นั่นจะอากาศหนาวสักแค่ไหนกันเชียวต้องขอบคุณเส้นสายของกันต์ธีร์ที่โทรศัพท์ประสานกับเพื่อนให้จนพวกเขาได้ตารางการท่องเที่ยวและร้านอาหารมากมายมาอยู่ในกำมือโดยไม่ต้องหาเองให้วุ่นวาย เนื่องจากการเข้าพักโรงแรมต้องไปลงพื้นที่อย่างเดียวจึงจะรู้ หากสุ่มโดนที่ไร้คุณภาพแล้วละก็มันคงเป็นฝันร้ายตลอดการท่องเที่ยวเลยเชียวหากเป็นจังหวัดใกล้เคียงไกรวิชญ์คงขับรถไฟเองแต่คราวนี้เล่นไปไกล พวกเขาจึงพากันถือกระเป๋ามาขึ้นรถไฟ“พี่ มื้อเช้าจะซื้อของบนรถไฟกินไห

  • ดลรวีที่รัก   บทพิเศษ ๒ ของเก่าเก็บ

    ย้อนไปเมื่อคราวที่เขาตกลงปลงใจจะมานอนร่วมห้องกับพี่ไกรและยกห้องนอนของตัวเองให้เป็นห้องนอนส่วนตัวของแม่มาลีอย่างเต็มตัว เขานั้นจำต้องเก็บข้าวเก็บของทำความสะอาดครั้งใหญ่และตรวจทานทุกอย่างภายในห้องให้สะอาดพร้อมใช้แม่เขาก็ดีอกดีใจมีห้องนอนเป็นของตัวเองหลังจากต้องนอนห้องเขาบ้างห้องหลานชายบ้างแล้วแต่อารมณ์ว่าวันไหนอยากนอนกับลูก วันไหนอยากนอนกับหลานทว่าแม่เจ้าผู้มีประสบการณ์มากกว่าเมื่อรู้วันที่เขาจะเข้าไปนอนกับพี่ก็บอกเคล็ดลับนู่นนี่ตามฉบับอดีตภรรยานายตำรวจให้เขาฟังจนเขินหน้าแดงไปหมด ตอนนั้นเขายังไม่ได้คิดไปถึงเรื่องราวแบบนั้นเลยเสียด้วยซ้ำ นี่แม่อยากทำให้เขาหมกมุ่นลามกหรือไรด้วงในช่วงสายของวันเสาร์ทยอยยกสัมภาระ กล่องรวมของกระจุกกระจิกและชุดเครื่องอาบน้ำส่วนตัวย้ายเข้าห้องจนมาถึงการขนย้ายเสื้อผ้าซึ่งเป็นส่วนสุดท้ายและง่ายเป็นอันดับแรก เพราะก็มีแค่ชุดทำงานชุดนอนกับชุดสุภาพอีกไม่กี่ชุดเดินเวียนสองสามรอบก็หมดตู้ จนเมื่อคราวเขาจะพับเก็บผ้าขนหนูสำรองใช้ ณ ลิ้นชักชั้นล่างของตู้เสื้อผ้าก็บังเอิญไปเห็นเข้ากับกล่องปริศนาบางอย่างซ่อนเอาไว้ยังด้านในสุดด้

  • ดลรวีที่รัก   บทพิเศษ ๑ ความรักครั้งถัดไปของอาจารย์

    ดันกิ × เจียมดันกิจำได้เป็นแม่นเหมาะว่าเมื่อราว ๆ หนึ่งปีก่อนซึ่งเป็นช่วงที่เขาย้ายตัวเองจากการเป็นสายสืบรายการลับที่ต่างจังหวัดในประเทศไทยเข้ามายังพระนคร นอกจากจะต้องตะบี้ตะบันหางานทำในสภาวะที่คนไทยต่างก็รังเกียจคนญี่ปุ่นที่เข้ามารุกรานอยู่นั้นเองในที่สุดเขาก็ได้เข้าสู่รอบสัมภาษณ์การเป็นอาจารย์ประจำภาควิชาภาษาต่างประเทศ เอกภาษาญี่ปุ่น ประจำวิทยาลัยแห่งหนึ่งในเขตใกล้เคียงทว่ารู้แต่ที่อยู่ตอนที่ส่งจดหมายไปสมัครไป แต่ไม่รู้วิธีการเดินทางมันก็เท่านั้น เขาได้แต่เดินอย่างสิ้นหวัง เขาว่าก็สื่อสารภาษาไทยได้พอสมควรจากการสอนส่วนตัวตามบ้านเศรษฐีและการตระเวนชิมอาหารไปทั่วทุกสารทิศ แต่ทำไมพอได้ยินสำเนียงแปร่งหูแม่ค้ารายทางจำต้องทำหน้าขยะแขยงหอบข้าวหอบของหนีกันเป็นแถว หรือว่าเขาหล่อไม่พอหรือเปล่า หรือว่าเขาแต่งตัวไม่เนียนพอจะเป็นครู หรือจริง ๆ แล้วมีชาวบ้านสืบรู้มาว่าเขาเป็นทหารก่อนจะเอามาบอกปากต่อปากคุณครูชาวญี่ปุ่นผู้อาภัพนั่งเหี่ยวหดอยู่ยังขั้นบันไดที่ไหนสักแห่ง เพราะเขาเหนื่อยเกินกว่าจะเงยหน้าขึ้นมองป้าย หรือถึงมองก็อ่านไม่

  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๓๕ บรรจบ (จบบริบูรณ์) (๑๐๐%)

    ฤดูหนาววนมาบรรจบกันอีกครั้งในอีกหลายปีต่อมา อากาศในย่านครึกครื้นของพระนครยังคงอุดมไปด้วยลมเย็นและไอแห้งผากชวนให้นายสถานีในเครื่องแบบสีกากีและผ้าพันคอสีม่วงแก่รู้สึกเย็นยะเยือกขึ้นมาโดยพลันเมื่อรถไฟที่เข้ามาพาลมแรงมาด้วยด้วงกระชับผ้าพันคอผืนใหม่ของปีนี้ให้ชิดขึ้น ตลอดช่วงเวลาตั้งแต่แม่มาลีย้ายข้าวของกลับมาอยู่บ้านที่เมืองหลวงอย่างเต็มตัว นอกจากจะพกเสื้อผ้า สัมภาระ และแมวมาด้วยแล้วยังมีงานอดิเรกใหม่นั่นคือการถักไหมพรม เจ้าหล่อนชื่นชอบในการนั่งตากพัดลมเชยชมธรรมชาติรอบบ้านไปพร้อมกับการนั่งฟังวิทยุและถักเส้นไหมพรมเป็นข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ มากในตอนแรกสิ่งที่ถักได้ก็เป็นสิ่งของเครื่องใช้เครื่องแขวนเล็ก ๆ เช่นที่รองแก้ว ปลอกคอแมว ที่ห้อยพวงกุญแจ แต่เดี๋ยวนี้เจ้าหล่อนมีฝีมือมากขึ้นทั้งยังได้ทำความรู้จักกับสมาคมแม่บ้านในชุมชนตำรวจจึงได้แบ่งปันประสบการณ์ในครัวเรือนกัน จนตอนนี้หญิงเจ้าสามารถถักไหมพรมทำเป็นเสื้อทั้งตัวได้แล้วด้วงที่ได้รับมันมาพร้อมกับผ้าพันคอผืนใหม่คิดจะใส่มาสถานีเพื่อกันหนาว แต่คิดอีกทีมันคงจะเกะกะรุงรังน่าดูเพราะมันยาวลงมาปิดต้นขาไม่ต่าง

  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๓๕ บรรจบ (จบบริบูรณ์) (๕๐%)

    “อือ...อื้อ...”ไอร้อนจากอากาศนอกหน้าต่างชวนให้คนที่ยังนอนคุดคู้อยู่ใต้ผ้าห่มต้องลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ทว่าเมื่อหรี่ตาขึ้นมองบรรยากาศแวดล้อมห้องยังคงมืดสนิท แต่สิ่งที่ทำให้รู้ว่าตอนนี้เป็นเวลากลางวันคงจะเป็นแสงที่เล็ดลอดเข้ามาผ่านรูหน้าต่างด้วงในตอนนี้รู้สึกปวดเนื้อปวดตัวมากกว่าเมื่อคืนหลังร่วมเตียงกันเสร็จใหม่ ๆ เสียอีก แต่มันก็ใช่จะทำให้เขาเดินไม่ได้แต่ถ้าเลือกได้ก็ขอนอนอยู่เฉย ๆ จนกว่าจะหายปวดดีกว่าเมื่อคืนเขาไม่ได้ส่องกระจกตรวจสภาพตัวเองชัด ๆ เพราะกว่าจะจบคืนเขาก็ง่วงงุนจนคิดอยากจะนอนลูกเดียว ทว่าหากให้เดาบนผิวส่วนที่คันยุบยิบไม่หยุดมาตั้งแต่ตื่นคงจะเต็มไปด้วยรอยฝังเขี้ยวของพี่ไกรเป็นแน่ด้วยนิสัยอยากรู้อยากเห็นด้วงจึงมุดตัวเข้าไปในผ้าห่มเพื่อลองกดนิ้วไปตามจุดต่าง ๆ ของร่างกาย“อึก!”เจ็บ...ทุกตรงเลยด้วงพลิกตัวเพราะความเมื่อยล้าบริเวณหลัง พอได้นอนคว่ำแบบนี้แล้วค่อยสบายขึ้นมาหน่อยถึงแผลช่วงอกจะถูกทับจนคันขึ้นมาบ้างก็ตามตอนนี้พี่ไกรไม่อยู่ในห้อง และเขาได้ยินเสียงพูดคุยระหว่างสองย่าหลานแว่วเข้ามา กัน

  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๓๔ เฝ้าถนอม (NC) (๑๐๐%)

    สองเต้าเต่งตึงจากการบีบเคล้นด้วยแรงมหาศาล แต่งแต้มด้วยรอยขบเม้มฝังเขี้ยวมากเกินจะบรรยาย การที่เขาติดใจมันมากถึงขนาดนี้คงเพราะทุกครั้งที่ได้ลิ้มรสเหมือนตัวเองกำลังได้กัดกินก้อนแป้งนุ่มหยุ่นอย่างไรอย่างนั้น“อ๊ะ!”นั่นส่งผลให้ไม่ว่าจะเป็นการลากนิ้วผ่านหรือแตะเบา ๆ ไปยังยอดอกชูชัน เจ้าของร่างบนตักจึงเปล่งเสียงครางหวานออกมาให้สดับฟังได้ตลอดเวลาไกรวิชญ์ตลอดการนั่งฟังน้องชายอธิบายใช่ว่าจะกักเก็บอารมณ์ได้มิดชิดเพราะมันไปรวมกันยังส่วนกลางกายจนครั้งนี้มันบ

  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๓๔ เฝ้าถนอม (NC) (๕๐%)

    ไกรวิชญ์อดทนมาตลอด ไม่ใช่แค่ตอนที่น้องชายเปลี่ยนมาใส่เสื้อผ้าวับ ๆ แวม ๆ ทว่าตั้งแต่วันแรกที่ได้นอนเตียงเดียวกัน เขาไม่อยากเป็นตาแก่ตัณหากลับในสายตาด้วงจึงควบคุมอารมณ์ที่พลุ่งพล่านของตัวเองมาเสมอมา ไหนจะเรื่องในอดีตที่เป็นปมฝังใจ แม้จะไม่ถึงขั้นถูกกระทำชำเราแต่เพียงแค่รู้ว่าร่างกายตัวเองมีคนจ้องจะเอาเปรียบอยู่ ด้วงก็คงเสียความรู้สึกไปไม่ใช่น้อย และเขาไม่อยากเป็นคนคนนั้นในวันที่เขาเปิดประตูเข้ามาแล้วพบว่าด้วงไม่ได้สวมกางเกง ทั้งยังสะลึมสะลือตื่นขึ้นมานั่งคุดคู้บอกต้อนรับเขาเป็นสิ่งที่น่ารักน่าชังเกินจะบรรยาย ทว่าเขารู้ตัวเองดีว่าหากมองไปมากกว่านี้มันจะไม่จบแค่กล่าวราตรีสวัสดิ์แล้วเข้านอนแน่ ๆ เขาจึงรีบโผเข้าไปคว้าผ้าห่มมาห่อตัวน้องชายเอาไว้มิดชิด ปิดตาสนิทไม่ให้มันไปแทะโลมสัดส่วนโค้งเว้าใต้เสื้อตัวบาง จัดแจงหากางเกงกันหนา

  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๓๓ อ้อย (๑๐๐%)

    เนื่องจากตลอดมาสน.ของพวกเรารับแต่งานหนัก ๆ เข้ามากันทั้งนั้น วันนี้จึงเหมือนเป็นวันสรุปรวบยอดผลงานทั้งหมดที่ทำเพื่อส่งไปให้สำนักงานใหญ่ประเมินไหนตอนกลางวันยังมีเรื่องแปลก ๆ ของชาวบ้านที่เข้ามาร้องทุกข์ใส่ร้ายคนอื่นว่าเป็นปอบมาขโมยไก่อีก เป็นเรื่องวุ่นวายเพราะต่างคนต่างตีกันไม่เลิกกลางสน. กว่าจะจัดการอะไรเสร็จก็ปาไปสองทุ่มเศษ สุดท้ายกว่าเขาจะพาตัวเองเข้าบ้านมาได้ก็ปาไปสามทุ่มตรง อยากนอนกอดด้วงจะตายอยู่แล้ว!’ไกรวิชญ์หอบร่างกายอันเหนื่อยอ่อนของตัวเองขึ้นมายังชั้นสอง เพราะทานมื้อเย็นเป็นของฝากจากเพื่อนตำรวจมาแล้วจึงสามารถอาบน้ำเข้านอนได้เลยทันที ดูจากการที่ไม่มีไฟออกมาจากร่องประตูบานเลื่อน ป่านนี้ทุกคนในบ้านคงเข้านอนกันหมดแล้วกระมังคุณพ่อตำรวจเดินเข้าไปเปิดไฟกลางบ้านให้มองเห็นอะไรได้ชัด ๆ วางกระเป๋าบนโต๊ะทานข้าว วกกลับมาล็อกกลอนประตูระหว่างชั้นสองกับระเบียง กะจะจุดตะเกียงเดินไปปิดไฟอีกครั้ง ทว่าเมื่อทั้งบ้านมีเพียงแสงตะเกียง เขากลับสังเกตเห็นว่าหลังบานประตูห้องนอนเขายังมีแสงลอดออกมาอยู่ ป่านนี้แล้วด้วงยังไม่เข้านอนอีกหรือไรไกรวิชญ์เดินถือตะเกี

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status