Share

บทที่ ๒ สนธยาช้ำใจ (๕๐%)

ด้วงสูดลมหายใจเข้าเมื่อวิ่งมาถึงยังหน้าชานชาลาในการดูแล อีกไม่นานรถไฟขบวนแรกจากชุมพรก็จะเข้าเทียบ เขาต้องมีสมาธิจดจ่อกับหน้าที่และผู้คนเพื่อมองหาใครคนนั้นให้เจอ

ทว่าเหมือนที่เขาแกล้งหัวเราะอาจารย์แกไปเมื่อครู่จะโดนเอาคืน เพราะจู่ ๆ หมวกประจำตำแหน่งก็ถูกถอดออกทำให้เขาต้องหันไปมองจนเห็นว่าเป็นคุณอุ่นที่ยืนถือหมวกเขาอยู่ก่อนจะรีบเดินเข้ามาสวมหมวกให้เหมือนเดิมเมื่อเห็นสีหน้าอันไม่พอใจ

“ผมแกล้งหนักไปเหรอครับ?”

“ถามมาได้”

นายสถานีเม้มปากไม่พอใจ เขาหัวเราะนิดเดียวเองดันมาแกล้งถึงเนื้อถึงตัวกันเสียได้ ไหนเจ้าตัวบอกคนญี่ปุ่นเรียบร้อยตามขนบอย่างไรเล่า

“วันนี้ขอให้โชคดีนะครับ”

สิ่งที่อาจารย์กล่าวก่อนจะขึ้นตู้สื่อถึงคนที่เขากำลังเฝ้าตามหาอยู่ ถึงเขาจะไม่ได้ป่าวประกาศว่ากำลังตามหาคนแต่ก็ไม่ได้ปิดเป็นความลับแก่คนใกล้ชิด

ด้วงถอนหายใจเฮือกใหญ่ ดึงสติกลับมาอยู่กับเนื้อกับตัว กระชับปีกหมวกประจำตำแหน่งให้เข้าที่เพราะอีกไม่ถึงนาทีจะถึงเวลารถไฟรอบแรกของวันเข้าเทียบ นัยน์ตาสีดำประกายม่วงไร้แวว มองหัวรถจักร สดับฟังเรียงหวูดอย่างเหม่อลอย เสียงพูดคุยเซ็งแซ่โอื้ออึงอยู่ในหัวผนวกกับเสียงเดินของผู้คนนับสิบนับร้อยซึ่งเดินขวักไขว่ ตรงข้ามกับเขาที่ยืนมองภาพตรงหน้าด้วยสายตาเรียบเฉย

แม้จะรู้สึกสิ้นหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่าในทุกเย็นเมื่อไม่เห็นคนผู้นั้นก้าวเดินลงมาจากตู้รถไฟ แต่เมื่อรุ่งอรุณมาถึง จิตใจเขาจะไม่ยอมแพ้และเฝ้ารอต่อไป โดยหวังว่าสักวันความปรารถนาของเขาจะเป็นจริง

แต่คนแล้วคนเล่า ที่เดินถือกระเป๋าลงมาไม่ว่าจะมาแต่เพียงผู้เดียวหรือเป็นหมู่คณะก็ไม่มีคนหน้าคล้ายเลยสักนิด เขามั่นใจว่าหน้าตาตั้งแต่สมัยวัยเยาว์ของบุคคลนั้นเมื่อโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่จะยังคงไว้ซึ่งความงามชวนเสน่หา

ทว่าสงสัยวันนี้มันคงเป็นดังเช่นทุกวัน

จะไม่มีเสียงอันไพเราะน่าฟัง

ไม่มีรอยยิ้มอันน่ามอง

ไม่มี...

"นพ เดี๋ยวครูนั่งรอตรงนี้นะ"

เสียงทุ้มหวานแว่วผสมปนเปมากับเสียงจ้อกแจ้กของคนรอบข้าง ไอบรรยากาศอันคุ้นหู จังหวะการพูดอันเนิบช้าชวนคิดถึงดึงให้นายสถานีหันไปยังต้นเสียง ทันใดนั้นดวงตาจึงสะท้อนภาพของร่างผอมเพรียวในเสื้อแขนยาวกางเกงสีกรมท่า ดวงตากลมดำประกายแสงภายใต้กรอบแว่น และเส้นผมยาวจับเป็นช่อนั้นเขายังคงจำมันได้ดี แม้ทรวดทรง ดวงหน้าจะเปลี่ยนไปเล็กน้อยแต่องค์รวมกลับยังคงเหมือนภาพในอดีตไม่มีผิด

ขายาวก้าวไปข้างหน้าอย่างเป็นไปเองก่อนจะเร่งความเร็วขึ้น เขาไม่กล้าแม้แต่จะกะพริบตาเพราะกลัวว่าคนตรงหน้าจะอันตรธานหายไป

รองเท้าหนังสีดำด้านหยุดลงหน้าม้านั่งที่มีโฉมงามนั่งก้มหน้าก้มตาดูสัมภาระอยู่แต่เพียงผู้เดียว ก่อนจะพยายามเค้นเนื้อเสียงเอ่ยชื่อบุคคลในความทรงจำ

"ไอ้แก้ว..."

ด้วงเอ่ยเรียกนามอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ โดยคาดหวังให้คนตรงหน้าเป็นเพื่อนสมัยเด็กของตน จนเมื่อเจ้าของหางม้ายาวเริ่มหันซ้ายหันขวา ความคาดหวังของเขาก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวี สุดท้ายเมื่อสบสายตากัน คนบนเก้าอี้จึงได้ตัวกระตุกตกใจตาเบิกโพลง

ยิ่งเขามองความใคร่คิดถึง ความเป็นห่วง และความโล่งใจก็พวยพุ่งขึ้นมาเป็นน้ำสีใสที่เอ่อรอบดวงตา

"ไอ้ด้วง..."

น้ำเสียงทุ้มหวานที่เอ่ยเรียกชื่อยิ่งพิสูจน์ให้เขาเห็นว่าตลอดนานนับสิบปีที่เขาได้แต่เฝ้ารอเหมือนคนโง่ ในที่สุดความพยายามของเขาก็เห็นผล

"ไอ้แก้ว...ไอ้แก้วจริง ๆ ใช่ไหม"

ด้วงพร่ำไถ่ถามคนตรงหน้าเพื่อยืนยันว่าสิ่งที่เขากำลังเห็นอยู่ไม่ได้เป็นเพียงห้วงฝัน

"ใช่ ทำไมเอ็ง-*ฟึบ*

เพียงพยางค์แรกที่ถูกเอ่ย คนในชุดเครื่องแบบก็โผเข้ากอดแม่นางรำอย่างไม่อายว่าจะมีใครมองมา ทว่าคนบนเก้าอี้ที่ยังคงทำตัวไม่ถูกก็ได้แต่อ้ำ ๆ อึ้ง ๆ

"ฉันคิดถึงเอ็ง...คิดถึงเอ็งมาตลอดสิบปี ดีใจมากเลยที่ได้มาเห็นเอ็งยังอยู่ดีแบบนี้"

"อะ...ไอ้ด้วงเอ็ง- ปล่อยก่อน"

ตรีศูลเห็นเพื่อนในเก่าเข้ามาแนบชิดตกอกตกใจ เขาไม่คิดว่าจู่ ๆ คนแข็งกร้าวอย่างเพื่อนคนนี้จะเข้ามาส่งเสียงสะอื้นไห้

*พลั่ก!*

"ไอ้โรคจิต แกจะทำอะไรอาจารย์น่ะ!"

เสียงเด็กจิ๋วโพล่งขึ้นมาพร้อมแรงผลักดันสีข้างส่งให้ตัวเขาเซลงไปนั่งทักทายพื้นกระเบื้อง และด้วยเสียงที่ดังจึงทำให้ผู้คนรอบข้างหันมาให้ความสนใจกับสถานการณ์ดังกล่าว พร้อมกับเจ้าหน้าที่กำลังพุ่งตัวเข้ามาคุมสถานการณ์ ทว่าไม่นานเจ้าของชื่อ ‘แก้ว’ ก็รีบคว้ามือคนบนพื้นให้กลับมายืนดังเดิม

"เกิดอะไรขึ้นครับ?"

แผนที่อยู่กะเดียวกันเดินเข้ามาถามก่อนจะสังเกตเห็นถึงเพื่อนสนิทตัวเองซึ่งกำลังถูกใครบางคนพยุงตัวขึ้น

"ไม่มีอะไร เอ็งไปทำงานเถอะ"

"ดะ...เดี๋ยว!? ไอ้ด้วงนี่เอ็ง!"

คนเป็นเพื่อนงงงวย จู่ ๆ มันพูดอะไรออกมา

เจ้าแผนยิ้มแห้งปนอึ้ง เขาไม่เคยเห็นเพื่อนเป็นแบบนี้มาก่อน เห็นมันยิ้มปากแทบฉีกถึงรูหูแล้วก็ขนลุกซู่ ถ้าไม่ติดว่าที่นี่เป็นที่ทำงานเขาจะถือว่ามันปกติ แต่เวลาอยู่สถานีใคร ๆ ก็รู้ว่านายดลรวี ก้องภัชรกุลจะเป็นคนจริงจัง ตั้งใจทำงาน ตอนอยู่กับใคร ๆ มักจะทำหน้าดุเป็นยักษ์ กระทั่งผู้โดยสารมาถามทางมันยังทำหน้าถมึงทึงใส่แต่นี่อะไร คุยไปยิ้มไปอย่างกับคนบ้า

"เอ็งเป็นอย่างไรบ้าง"

ด้วงไม่สนใจสายตาของไอ้แผนที่มองมา รวมไปถึงเสียงเจี๊ยวจ๊าวของเจ้านพที่กระโดดโหยงเหยงโวยวายอยู่ทั้งสองข้าง ดวงตาคมกริบจดจ้องไปที่โฉมงามตรงหน้าแต่เพียงอย่างเดียว

"ก็...สบายดี"

คล้ายว่าเจ้าตัวจะยังคงจับต้นชนปลายไม่ถูก จู่ ๆ ก็มาเจอเพื่อนสนิทที่ห่างกันไปนานแสนนาน ทำตัวไม่ถูกถือเป็นเรื่องสามัญและเขาพึ่งมารู้ตัวว่าตนอุกอาจเกินควรจึงถอนมือที่จับถือแขนออกมายืนอย่างเก้ ๆ กัง ๆ

"ฉันขอโทษ เอ็งยังกลัวอยู่หรือเปล่า"

เขาย้อนนึกไปถึงอดีต มันคงจะไม่ง่ายหากเจ้าตัวที่เคยประสบเรื่องร้ายมาจะปรับตัวได้ทันท่วงทีในสถานการณ์แบบนี้

"ไม่กลัว แล้วตอนนี้เอ็งเป็นอย่างไรบ้าง"

"กะ...ก็สบายดี"

"ฮ่า ๆ อย่าลอกคำตอบกันสิ"

คู่สนทนาหัวเราะเสียงใส เป็นที่ชื่นใจของนายสถานี ยิ่งมองยิ่งคิดถึง คุ้มแล้วกับสิบปีที่รอมาตลอด

"แก้ว... เอ็งไปกับฉั-

"อาจารย์ ไปกันได้แล้วนะ"

เสียงของเจ้าเด็กปากแจ๋วพูดขึ้นพร้อมกระตุกข้อมือของอาจารย์เจ้าตัวให้เดินออกรั้วกั้นตามกันไป

"ฉันต้องไปแล้ว ลาก่อนนะ"

ด้วงไม่ชอบคำนี้เอาเสียเลย ประหนึ่งว่าการพบกันครั้งนี้มันจะเป็นครั้งสุดท้าย เขาไม่อยากให้มันจบลงเท่านี้ เขาอยากสานสัมพันธ์ต่อ อยากพูดคุยให้มากกว่านี้

"เราจะยังได้เจอกันอยู่ใช่ไหม!?"

"อื้อ ได้สิ เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันมาหา"

เสียงใสตอบรับก่อนจะผละมือออกแล้วเปลี่ยนมาเป็นโบกมือลาง่าย ๆ ดวงหน้ากลมเผยรอยยิ้มสดใสเจิดจ้า

ด้วงยืนโบกมือส่งคนงามไปจนลับสายตา นัยน์ตาดำมืดยังคงจับจ้องไปยังทางเดินเรียบอันว่างเปล่าด้วยความคะนึงหา แววเนตรเหม่อลอยคล้ายคนไร้สติจนเพื่อนอย่างเจ้าแผนที่แอบซุ่มมองสถานการณ์มาสักพักเข้ามาทัก

"ไอ้ด้วง"

แผนพูดเสียงปกติทว่าไอ้เพื่อนยากก็ดูจะไม่มีปฏิกิริยาตอบรับเอาแต่มองทางข้างหน้าอย่างเหม่อลอย

"ไอ้ด้วง!!"

"เอ็งจะตะโกนทำไม"

"ก็เอ็งมัวแต่เหม่อ"

"เฮ้อ ไปทำงานได้แล้วไป"

ด้วงทอดถอนหายใจออกมาก่อนจะนึกถึงคำของแม่คนงามเมื่อครู่ที่กล่าวว่า 'เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันมาหา' แล้วจึงคิดเรื่องดี ๆ ออก

"วันนี้ฉันลา พรุ่งนี้ก็ด้วย"

"เอ้า?"

คนเป็นเพื่อนอย่างแผนงงกับท่าทีอันผิดแผกของไอ้ด้วง นับตั้งแต่ใช้ชีวิตเป็นเพื่อนกันมาเขาไม่เคยได้ยินคำว่า ลา ออกมาจากปาก เป็นอะไรของมันวะ หรือเมื่อกี้ลื่นล้มจนสมองกลับไปแล้วหรือ? แต่เมื่อคิดดี ๆ ที่มันยิ้มหน้าบานเป็นกระด้งต่อหน้าสุดสวยคนนั้น ถ้าไม่ใช่ว่าที่เมียมันแล้วจะเป็นใครได้

!!!

ไอ้ด้วงมันเจอคนที่มันรอแล้วเหรอ!?ผู้ชายคนนั้นน่ะนะ!

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status