มีอะไรให้ขอเยอะแยะ ทำไมเด็กนี่ถึงชอบขออะไรสุ่มเสี่ยงอยู่เรื่อยเลยวะ?
ถามว่าให้ไหม…จะเหลือเหรอ!
หมับ…
เมธากรจัดให้ตามคำขอของสาวน้อยร้อนรัก มือหนาจับมั่นที่ต้นคอเธอก่อนรั้งเข้าไปฉกฉวยริมฝีปากอิ่มในเวลาเพียงเสี้ยววินาที จนคนที่เป็นฝ่ายอยากได้อยากโดนตั้งตัวไม่ทัน
“อื้อ” ดวงตาที่กลมโตอยู่แล้วเบิกกว้างมากขึ้นเมื่อเขาจูบเธออย่างเร่าร้อน และรุนแรงมากกว่าตอนนั่งจูบนั่งล้วงกันในผับหลายเท่า
เรียวลิ้นเขาเสาะแสวงหาดื่มกินความหวานจากปากสาวน้อยอย่างต้องการจะเก็บเกี่ยวความเย้ายวนใจนี้ให้ได้มากที่สุด เช่นเดียวกับเธอ เมื่อได้สติก็จูบตอบเขาอย่างเร่าร้อนไม่แพ้กัน ทั้งกลิ่นกายและลมหายใจอุ่นที่เป่ารดใบหน้าของขวัญเมษามันทำให้คนอ่อนประสบการณ์อย่างเธอเตลิดไปไกลถึงไหนต่อไหน ยิ่งเมื่อคนตรงหน้าดูดเม้มริมฝีปากล่างเธออย่างแรง ก่อนจะวกไปดูดดึงที่ริมฝีปากบน และหวนกลับมาตวัดเรียวลิ้นเล็กของเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่อย่างนั้น
บอกตามตรงว่าขวัญเมษาเพิ่งเข้าใจคำว่า ‘น้ำเดิน’ ก็คราวนี้
เดี๋ยว! ยังฟินอยู่ อย่าพึ่งหยุด
ทว่าจู่ๆ คนจูบเก่งก็ค่อยๆ ถอนริมฝีปากออก นัยน์ตาเขายังเต็มไปด้วยไฟปรารถนาที่ขวัญเมษาเองก็ดูออกว่าอารมณ์เขากำลังขึ้นอย่างเต็มที่ไม่ต่างกัน
“พอใจหรือยังเด็กขี้อ่อย” ชายหนุ่มโยกศีรษะคนตัวเล็กด้วยความเอ็นดู แม้จะอยากให้เธอได้ ‘ดูเอ็น’ เขามากแค่ไหน แต่ต้องหยุด เขาไม่อยากทำอะไรที่ตัวเองจะต้องเสียใจหรือทำร้ายเธอในภายหลัง เธอยังเด็ก ส่วนเขาก็ไม่ชอบความสัมพันธ์ข้ามคืนแบบนี้
“คะ?” ขวัญเมษากะพริบตาถี่รัว แล้วคิดได้ว่าก็เธอเป็นคนขอจูบครั้งสุดท้ายจากเขาเองนี่นา ตอนนี้เขาก็ทำให้แล้ว จากนี้เธอก็ควรจะลงจากรถโดยไม่ต้องหาเรื่องโยกโย้ไปมา
หยุดเถอะเมษ์ ถ้าเขาจะเอาก็คงเอาไปนานแล้ว!
แม้นหญิงสาววัยน่าขยี้ที่รู้ตัวดีว่าตัวเอง ‘น่าเอา’ มากแค่ไหนจะยังคงงุนงงอยู่ว่าทำไมเขาถึงไม่ยอมเอาเธอ แต่เรื่องในคืนนี้มันก็จบเพียงแค่นี้แล้ว
“ยังไงก็ดีใจที่เราได้เจอกันนะคะพี่หมอก พี่ทำให้เมษ์มีความสุขมากๆ ในรอบปีนี้เลยค่ะ” เธอเอ่ยทิ้งท้ายเสียงหวาน ก่อนจะยินยอมลงจากรถเขาแต่โดยดี
บ้า บ้า ต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ!
เมื่อคืนนี้ขวัญเมษานอนไม่หลับเอาแต่พลิกตัวไปมา ไม่ว่าจะพลิกซ้าย พลิกขวา ในหัวสมองก็เอาแต่คิดถึงหน้าแดดดี้สุดหล่อกร้าวใจคนนั้น
ทั้งคำพูด น้ำเสียง สายตาที่มีอำนาจทำลายล้างสูง ที่สำคัญคือรสจูบของเขา…แม้มันจะเป็นการจูบกับผู้ชายครั้งแรก แต่ขวัญเมษาก็พอจะเดาได้ว่าผู้ชายคนนี้จัดว่าเป็นคนจูบเก่งมากคนหนึ่ง มาก ๆๆ ถึงมากที่สุด
จูบยังทำเสียวสะท้านซ่านทรวงได้ขนาดนี้ ถ้าทำมากกว่านี้เธอไม่ตัวเหลวหรือหลอมละลายไปเลยเหรอ! เอาเป็นว่าเธอขอตั้งฉายาให้เขาว่า พี่หมอกคนจูบสูบวิญญาณก็แล้วกัน
“หยุดๆ เลิกคิดได้แล้วยัยเมษ์” ขวัญเมษาพยายามดึงวิญญาณให้กลับเข้าร่าง
ใช่! เธอต้องเลิกคิดทะลึ่งกับผู้ชายได้แล้ว แต่ก็นะเกิดมาตั้ง 23 ปี แฟนคนแรกก็ยังไม่มี ประสบการณ์ใกล้ชิดผู้ชายก็อย่าฝัน พอเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ในวัยที่เป็นสาวสะพรั่งเต็มตัว มันก็อดไม่ได้ที่จะจินตนาการถึงริมฝีปากคู่นั้นยามที่มันแตะลงมาที่ต้นคอเธอ หรือแม้แต่มือเรียวหนายามที่สัมผัสผิวกายเธออย่างแผ่วเบา น้ำเสียงอ่อนทุ้มมีเสน่ห์ยามที่เรียกชื่อเธอด้วยความหอบกระเส่า
มันคงจะเซ็กซี่ไม่น้อยเลย…
“กรี๊ดดดดดด นี่แกจะหลงรักผู้ชายที่เจอคืนเดียวจนอยากนอนกับเขาไม่ได้นะเมษ์” หญิงสาวเด้งตัวขึ้นนั่งเรียกสติตัวเอง แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรไอ้ความคิดถึงที่มีต่อพี่หมอกของเธอมันก็ไม่หายไปไหนเลย
“ฮือ” แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าหากเขาชอบเธอสักนิดเขาคงไม่ปฏิเสธกันแบบนั้น แต่อีกใจก็แย้งขึ้นมาว่าถ้าเขาไม่สนใจเธอเลยก็คงไม่เลี้ยงเหล้าแถมยังจูบเธออย่างดูดดื่มแบบนั้นแน่ๆ
คนอย่างเขาย่อมต้องเจอผู้หญิงสวยถูกใจมามากมาย แต่กับเธอ…กว่าจะเจอคนที่รูปร่างหน้าตาตรงสเปกมันง่ายซะที่ไหนกัน เพราะฉะนั้นขวัญเมษาคิดดีแล้วว่า…
เอาวะ! หมดยุคเหนียมอาย หากอยากได้ก็ต้องลุย
นั่นจึงเป็นเหตุผลให้เธอตัดสินใจควบมอเตอร์ไซค์คันโปรดมุ่งหน้าไปยังผับที่เมื่อคืนเธอได้เจอกับเขา ทั้งที่คืนนี้ไม่มีคิวต้องขึ้นร้องเพลง เพราะเธอต้องเตรียมตัวเดินทางไปเกาะเสม็ดวันพรุ่งนี้ หากแต่หัวใจมันสั่งให้เธอมา ด้วยความหวังที่ว่าจะเจอชายหนุ่มอีกครั้ง
วันนี้นักร้องสาวสวมชุดหนังสีดำ แต่งหน้าจางๆ ขัดกับลุควันที่เธอขึ้นร้องเพลงราวกับคนละคน แต่ถึงอย่างนั้นทันทีที่เธอย่างก้าวเข้ามาด้านในสายตาหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ก็ไม่วายหันมากระจุกอยู่ที่เธอ
ขวัญเมษาสบตาทุกคนอย่างตรงไปตรงมาไม่หลบซ่อน ใช่ว่าจะอ่อย ใช่ว่าจะให้ท่า แต่เธอกำลังตามหาเขาคนนั้นต่างหาก!
“จริงด้วย เขาบอกว่าไม่ได้มาบ่อยๆ นี่นา” เธอถอนหายใจออกมาเมื่อมองหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอพี่หมอกคนจูบเก่ง ขวัญเมษาเลยตัดสินใจเดินไปหาการ์ดหน้าร้าน มั่นใจว่าพวกเขาจะต้องจำลูกค้าคนสำคัญของเจ้าของผับได้เป็นอย่างดี
“เอ่อพี่คะ หนูเมษ์นะ นักร้องนำที่นี่”
“อ้อ น้องเมษ์พี่จำได้ แต่วันนี้ไม่มีคิวเราไม่ใช่เหรอ”
“แหม จำแม่นจังเลยนะคะ งั้นหนูมาถามพี่ถูกต้องแล้ว” ขวัญเมษาผลิยิ้มอย่างมีความหวัง การ์ดที่ภาคย์เลือกมาความจำดีใช้ได้เลย
“แล้วมีอะไรให้พี่ช่วยเหรอ”
“คือว่าหนูมาหาพี่คนหนึ่งค่ะ ไม่แน่ใจว่าเขามาไหม ชื่อพี่หมอก เป็นเพื่อนกับพี่ภาคย์ เขาเป็นเจ้าของผับอยู่ที่ไหนสักแห่ง เมื่อคืนนี้เขาก็มานะคะ คืนนี้พี่เห็นเขาหรือเปล่า”
“อืม…ถ้าบอกว่าเพื่อนคุณภาคย์พี่คิดว่าไม่มีคนชื่อนี้นะ หมอกงั้นเหรอ…” คุ้นๆ ว่าไม่มีแฮะ มีแต่ ‘หมอเมธ’ สงสัยเธอคงจะโดนพวกสวมรอยมาหลอกหวังเอาชื่อเสียงภาคย์ไปทำให้เธอสมยอมเป็นแน่
“ไม่มีครับ พี่ว่าน้องเมษ์โดนหลอกแล้วล่ะ เดี๋ยวนี้พวกผู้ชายมันมุกเยอะ เรายิ่งสวยๆ อยู่ มีแต่คนจ้อง ต้องระวังตัวนะ”
เอ่อ…หนูนี่แหละที่จ้องจะเอาเขา ไม่ใช่เขาจ้องจะเอาหนู
“ไม่นะคะ เมษ์ยังเห็นว่า…ช่างเถอะค่ะ แต่คืนนี้พี่ภาคย์เข้ามาไหมคะ” ขอถอนคำพูด แปลว่าการ์ดของภาคย์ไม่ได้ความจำดีอะไรมากมาย ทั้งที่เมื่อคืนเธอเห็นเต็มสองตาว่าภาคย์เข้าไปคุยกับพ่อหนุ่มทรงแดดดี้ของเธอถึงโต๊ะ แถมยังยื่นกล่องถุงยางอนามัยให้ด้วย แล้วกล่องถุงยางอนามัยนั่นก็ยังอยู่ที่เธอ
แบบนี้จะเอาอะไรมาไม่รู้จักกัน แต่เหนื่อยจะเถียงขวัญเมษาขอคุยกับภาคย์โดยตรงเลยคงจะได้เรื่องกว่า!
“คืนนี้คุณภาคย์ไม่เข้านะ น่าจะไปธุระที่ญี่ปุ่นกลับอีกทีก็อาทิตย์หน้าเลย”
หา…นานโคตร! ถึงตอนนั้นเธอคงลืมพี่หมอกไปได้แล้ว นั่นหมายความว่าโชคชะตาของเธอกับเขามันดลให้เรามาเจอกันแค่นี้สินะ…แค่เพื่อให้ได้จูบไม่กี่ครั้งแต่จดจำตลอดไป
ขวัญเมษาพยักหน้ายกมือไหว้ขอบคุณการ์ดด้วยสีหน้าเศร้า คงต้องทำใจจริงๆ แล้วว่าคืนนี้เธอคงไม่ได้เจอชายหนุ่มในดวงใจแน่ๆ
แต่เอาเถอะ! ไม่แน่ว่าพอกลับจากเกาะเสม็ดแล้วอาจมีสักคืนที่เขามาเที่ยวที่ผับภาคย์อีก จากตอนแรกที่คิดว่าถ้าได้งานประจำทำเมื่อไหร่จะเบางานร้องเพลงลง กลายเป็นว่าขวัญเมษาไม่กล้าเบาแล้ว เพราะอยากเจอพี่หมอก
เห้อ…เป็นเอามากจริงๆ นะเรา!
กลับสู่โลกแห่งความเป็นจริง ต่อให้เศร้าแค่ไหนแต่ชีวิตก็ต้องไปต่อ…ขวัญเมษากลับห้องมาเก็บกระเป๋าเตรียมเดินทางในวันพรุ่งนี้ เธอหยิบชุดเดรสสายเดี่ยวสีชมพูอ่อนความยาวเหนือเข่าเก็บเข้ากระเป๋า พร้อมด้วยรองเท้าส้นสูงสีเข้ากันกับชุด บอกตามตรงว่างานแต่งงานครั้งนี้เป็นงานที่ขวัญเมษาตื่นเต้นมากที่สุด แม้เธอจะเคยรับงานร้องเพลงในงานแต่งหลายต่อหลายครั้งก็ตาม แต่อย่างที่บอกว่างานนี้คืองานของเพื่อนในคณะเธอมันจะไม่น่าตื่นเต้นและตื้นตันใจได้อย่างไรกัน ในเมื่อเธอดันอยู่ในช่วงเวลาที่บ่าวสาวได้จีบกันไปจนถึงขั้นขอกันแต่งงานเจ้าบ่าวเป็นหมอส่วนเจ้าสาวเพื่อนของเธอเป็นพยาบาล ใครต่อใครคงคิดว่าทั้งคู่คงเจอกันที่โรงพยาบาลแน่ๆ แต่เปล่าเลย ทั้งสองคนเจอกันที่เกาะเสม็ด แล้วก็พบรักกันในรีสอร์ตที่จัดงาน มากกว่านั้นทั้งคู่ดันเจอกันในวันที่ต่างคนต่างเมาหัวทิ่มและมีวันไนท์สแตนด์กัน!จากวันไนท์สแตนด์ในวันนั้น…สู่ความสัมพันธ์ที่พร้อมจะจับมือก้าวไปด้วยกันในวันนี้กรี๊ดดดดด! โรแมนติกเป็นบ้า แค่นั่งคิดก็ยิ้มตามแล้ว แต่พอย้อนกลับมาว่าทำไมตัวเองไม่โชคดีแบบเพื่อนสาวบ้างนะ แค่นั้นรอยยิ้มของเธอก็พลันหุบลงทันทีอยากมีรักแท้ในคืน
1 เมษายน วัน April Fool’s Day@ผับ Falling in Youกลิ่นอายอบายมุขนี่มันหอมคละคลุ้งเยียวยาหัวใจได้ดีจริงๆ!นั่นเป็นความคิดแรกของ ‘นายแพทย์เมธากร เขมาภิวัฒน์’ หรือที่หลายคนเรียกว่า ‘อาจารย์หมอเมธ’ ทันทีที่ก้าวเข้ามายังผับสุดหรูของเพื่อนสนิทอย่าง ‘ภาคย์’ ใครจะคิดละว่านายแพทย์อย่างเขาที่ควรจะเข้านอนตั้งแต่สองทุ่ม รับประทานอาหารสุขภาพ และตื่นมาออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอตามคำแนะนำที่บอกคนไข้ทุกราย แท้จริงแล้ว...วิธีผ่อนคลายที่ดีสุดๆ มันจะมีอะไรไปได้นอกเสียจาก ‘การร่ำสุรา’ร่างสูงโปร่งดูสง่าดุดันแต่งกายด้วยเสื้อเชิ้ตสีดำสนิท กางเกงยีนส์รัดรูปตัวโปรด ทรงผมเซ็ตเสยอย่างเป็นธรรมชาติ เดินตรงเข้าไปยังโต๊ะวีไอพีที่มีไอ้เจ้าของผับหน้าเข้มนั่งรออยู่ก่อนแล้ว มิวายข้างกายมันยังมีสาวสวยอีกสองคนนั่งขนาบข้าง ดูผ่านๆ ไม่ต่างจากแฮมเบอร์เกอร์ที่มีเนื้อชิ้นใหญ่แปะอยู่ตรงกลาง“หึ” นายแพทย์หนุ่มใหญ่ยกยิ้มมองเพื่อนด้วยสายตาเคยชิน“ไงไอ้หมอ! ลมอะไรหอบมึงมาหากูที่นี่คืนนี้วะ” ภาคย์ทักเพื่อนพลางหันไปหอมแก้มสาวๆ คนละฟอดอย่างเท่าเทียมกัน“กูหิวเหล้า” เขาตอบนิ่งๆ หย่อนกายนั่งลงที่โซฟาตัวข้างกันกับภาคย์ เหล่มองสาว
“สวัสดีค่าาา วันนี้วันที่ 1 เมษายน เป็นวัน April Fool’s Day และในวันแบบนี้จะพบกับวงดนตรีไหนไม่ได้นอกจากพวกเรา วง April Fool’s Dayพวกเราจะมามอบความสุขสนุกสนานให้กับทุกคนในค่ำคืนนี้ ใครเป็นคอเพลงร็อคในตำนานลุกขึ้นเต้นแล้วก็ช่วยกันร้องได้นะค้าาา”เสียงหวานปลายแหบอย่างมีเสน่ห์ของนักร้องนำเรียกให้คุณหมอหนุ่มใหญ่หันไปมองหน้าเธอ เพราะฟังแค่เสียงพูดเขาก็รับรู้ได้แล้วว่าเธอคนนี้ต้องร้องเพลงออกมาได้อย่างไม่ธรรมดาเป็นแน่ และเมื่อได้เห็นหน้าเธอเขาก็ไม่ผิดหวังจริงๆ ริมฝีปากหยักกระตุกยิ้มอย่างถูกใจนักร้องสาวแต่งกายด้วยเสื้อสายเดี่ยว กระโปรงยีนส์สั้นทับด้วยแจ็คเก็ตหนัง ผมยาวสวยถูกย้อมเป็นสีชมพูมัดรวบเป็นหางม้า เผยให้เห็นใบหูที่ถูกเจาะประดับด้วยต่างหูสีเงินเป็นแนวยาว ในมือของเธอถือไมโครโฟนสีชมพูช็อกกิ้งพิงค์สะท้อนแสงมาแต่ไกลแต่ที่สะดุดตาแพทย์หนุ่มที่สุดเห็นทีจะเป็นสไตล์การแต่งหน้าของเธอ สาวน้อยบนเวทีกรีดตาสีดำเข้ม และทาปากสีม่วงจี๊ดจ๊าด เรียกได้ว่ามีเสน่ห์และอินดี้สมกับงานที่เธอทำอยู่ และทันทีที่เจ้าตัวร้องเพลง เมธากรก็ไม่ผิดหวังจริงๆ เพราะเสียงเธอดีถึงขั้นเป็นนักร้องออกอัลบั้มได้เลย!ร่างบางโยก
เมธากรขับไล่ความ ‘หน้าบาง’ ออกไป ปกติแล้วเขาก็ไม่ใช่พวกชอบแคร์คำพูดหรือความคิดใครเท่าไหร่นัก แต่คำพูดของแม่นักร้องสาวหัวชมพูคนนั้น มันทำให้นายแพทย์อย่างเขารู้สึกราวกับโดนหยามเกียรติอย่างบอกไม่ถูกทำไมวะ…สี่สิบยังแซ่บไม่ได้หรือไง!รอยยิ้มกระตุกขึ้นบนใบหน้าของหนุ่มใหญ่ที่เพิ่งโดนเรียกว่า ‘ลุง’ เมธากรจะทำให้ยัยนักร้องปากแจ๋วคนนี้ได้เห็นว่าลุงอย่างเขานี่แหละ ที่ไม่ธรรมดาจนเธอต้องขอถอนคำพูดให้ได้“ไอ้เมธ มึงจะไปไหนวะ” เจ้าของผับมองเพื่อนที่เวลานี้เดินมุ่งหน้าไปยังเวทีที่นักร้องสาวกำลังโยกย้ายส่ายสะโพกอย่างสนุกสนาน สายตาของเมธากรจับจ้องไปยังแม่สาวร่างบางแน่นิ่ง หากแต่มันไม่ใช่ดวงตาที่เต็มไปด้วยความหลงใหล แววตาของเขาเต็มไปด้วยความท้าทายต่างหากเห็นทีคืนนี้คงมีอะไรสนุกๆ ให้ได้เห็นอีกแล้วทันทีที่มาถึงด้านหน้าเวที เมธากรก็สบตากับขวัญเมษาที่กำลังมองมาด้วยสายตาตั้งคำถาม เขายิ้มมุมปากก่อนจะยื่นมือไปยังไมโครโฟนสีช้อกกี้พิงค์ที่เจ้าตัวถืออยู่ พลางยักคิ้วให้เธออย่างสื่อความนัยไปว่า…ไมโครโฟนสีสวยอันนั้นขอพี่เถอะ“นี่ลุงมันจนถึงขั้นอยากขอร้องเองเลยเหรอ”บอกตามตรงว่านักร้องสาวออกจะถูกใจกับหนุ่มใ
“อืม เคยเป็นนักร้องให้กับวงที่มหาลัยมาก่อน” คนโดนเรียกว่า ‘ลุง’ ตอบเธอเสียงสะบัด ทั้งที่เขาก็แสดงออกให้เห็นแล้วว่าตัวเองยังหนุ่มยังแน่นแล้วก็แรงดีไม่ต่างจากวัยรุ่นอย่างเธอแค่ไหน แต่มิวายยังเรียกเขาว่าลุงอยู่ได้ ฟังแล้วมันแสลงหูชะมัด!“ว้าว โคตรเท่เลยค่ะ ดูสิ มีแต่สาวๆ มองลุง” ไม่เว้นแม้แต่เธอ ที่ไม่สามารถละสายตาจากลุงคนนี้ได้เลยเพียงสักเสี้ยววินาที“นี่ ขอถามอะไรหน่อยสิ” เอาวะ…ถ้าอยากดื่มกันยาวๆ ก็ต้องปรับความคิดกันใหม่หน่อย“คะ?” คนตัวเล็กเอียงคอมองเขาด้วยความสงสัย“ผมดูแก่ขนาดนั้นเลยหรือไง ดูให้เต็มตา หล่อเข้ม กล้ามแน่น แรงดีไม่มีตกขนาดนี้ยังจะเรียกว่าลุงอีกเหรอ? เผลอๆ ไอ้หนุ่มน้อยคนอื่นมันยังไม่แซ่บเท่าผมเลยด้วยซ้ำ” เมธากรพูดออกมาอย่างหัวเสีย แต่แทนที่หญิงสาวจะสำนึกผิดรีบขอโทษ เธอกลับมองมาด้วยตาโตๆ คู่นั้น แถมยังกลั้นยิ้มราวกับว่าเรื่องที่พูดเมื่อกี้มันตลกสิ้นดีตลกตรงไหนวะ! เรื่องอายุอานามและความแก่มันไม่ใช่เรื่องพูดเล่นเลยสักนิดนะยัยเด็กบ้า“ตลก?” เขาปั้นเสียงเข้มถามกลับด้วยความดุดันไม่ต่างจากตอนดุนักศึกษาแพทย์ จนเธอต้องหุบยิ้มในทันที“โอเคๆ ขอโทษค่ะ หนูชื่อขวัญเมษานะคะ จะ
ทั้งสองนั่งดื่มนั่งดริ้งค์พร้อมกับพูดคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้กันอย่างสนุกสนาน แม้ไม่รู้ว่าเรื่องไหนเชื่อได้บ้างก็เถอะ!การพบเจอกันในวันแห่งการโกหกแบบนี้มันก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย แต่สำหรับเมธากรที่ชีวิตพบเจอแต่อะไรน่าเบื่อ ซ้ำซากจำเจทุกวี่วัน บอกตามตรงว่าการได้พบกับแม่นักร้องสาวแสนสวยคนนี้กลายเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นสำหรับเขาอย่างมากเลยทีเดียว!โดยเฉพาะรอยยิ้มที่แสนสดใส น้ำเสียงทรงเสน่ห์ชวนเคลิบเคลิ้มที่คอยเล่าเรื่องราวของตัวเองให้เขาฟังตกลงเด็กบ้านี่ตั้งใจจะอ่อยโคแก่อย่างเขาหรือไงกันนะ! นั่น…ดูสายตาหวานเยิ้มที่กำลังจ้องมองเขาอย่างหลงใหลในตอนนี้สิ“ที่จริงพี่หมอกน่าจะมาที่นี่บ่อยๆ นะคะ” ขวัญเมษาว่าพลางยกแก้วเหล้าแก้วที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้กระดกเข้าปาก“ทำไม เราจะได้มีเพื่อนดื่มงั้นเหรอ”“ใช่ค่ะ” หญิงสาวตอบไปตามความจริง“ต่อให้ไม่มีพี่ คนอย่างเมษ์ก็น่าจะมีคนเสนอตัวดื่มเป็นเพื่อนเยอะแยะไม่ใช่หรือไง นักร้องสาวมากเสน่ห์อะไรทำนองนั้น” เมธากรยักไหล่ ที่เขารู้ก็เพราะตอนที่เธออยู่บนเวที สายตาหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ต่างมองแม่นักร้องสาวราวจะกลืนกินก็ไม่ปาน ไม่เว้นแม้แต่ตัวเขาเองที่เจอเธอครั้งแรก
“สวยขนาดนั้น?” เออ เธอสวยขนาดนั้นเลยแหละ…แม้จะรู้อยู่เต็มอก แต่ทว่าคนเจ้าเล่ห์อย่างเขาก็อดแซวขวัญเมษาไม่ได้“เห้อ ไม่ช่วยก็ไม่ช่วย ไม่ง้อแล้ว…อ๊ะ!”ไม่ทันที่เธอจะได้เขยิบตัวออกห่างจากคนใจร้าย ลำแขนแกร่งข้างหนึ่งของเขาก็เข้ามาโอบกอดเธอไปแนบชิดกับกายแกร่งโดยที่คนตัวเล็กไม่ทันตั้งตัว“พี่หมอก” เรียวแขนข้างหนึ่งของเธอปะทะเข้ากับหน้าอกแน่นหนั่น เลยพลอยทำให้หัวใจของสาวน้อยที่ไม่เคยได้ใกล้ชิดชายใดอย่างขวัญเมษาเต้นรัวแรงจนกลัวว่าอีกฝ่ายจะได้ยินมันความตื่นเต้น วาบหวิวตามอารมณ์ทางเพศมันเป็นแบบนี้เองสินะ!“ใครบอกว่าพี่ไม่ช่วย...ถ้าจะเป็นเด็กพี่ก็ต้องนั่งใกล้พี่แบบนี้ เราโอเคไหม?” ทำไมคนอย่างเขาจะดูไม่ออกละว่าแม่สาวน้อยคนนี้ตื่นเต้นแค่ไหน เพราะไม่ใช่แค่เธอที่ตื่นเต้นแต่นายแพทย์ที่ผ่านประสบการณ์มากมายอย่างเขาก็ตื่นเต้นไม่แพ้กันก็ไอ้ร่างกายนุ่มนิ่มของเธอมันมีกลิ่นหอมเย้ายวนดีเหลือเกิน ปกติเมธากรไม่ใช่เด็กหนุ่มที่จะมาเล่นสนุกกับเรื่องพรรค์นี้ ทว่า...คืนนี้เขาขอแหกกฎตัวเองหน่อยแล้วกัน เพราะแม่กระต่ายน้อยในอ้อมกอดนั้นยั่วเก่งดีเหลือเกิน“โอเคค่ะ ขอแค่พี่หมอกช่วยเล่นให้สมบทบาทก็พอ” เอาวะ...มาถึงขนาดน
“พี่หมอกเล่นสมบทบาทเหมือนกันนะคะ” น้ำเสียงขวัญเมษาเบาราวกับเสียงกระซิบที่ฟังดูเซ็กซี่และยั่วยวนที่สุดเท่าที่เจ้าของเสียงเคยรู้สึกเธอไม่ได้ตั้งใจอ่อย…และก็ไม่ได้มีนิสัยขี้อ่อย หากแต่อารมณ์บางอย่างที่เกิดขึ้นมันเป็นตัวชักนำให้เธอชื่นชอบสัมผัสเขาเสียจนไม่อาจปิดบังได้“แล้วชอบไหม” อารมณ์ของแพทย์หนุ่มใหญ่พุ่งกระฉูดเพียงแค่ได้สบตากับคนตัวเล็กที่มองเขาด้วยสายตาฉ่ำเยิ้มราวกับเจ้าตัวกำลังส่งสัญญาณให้กัน ไม่พอแค่นั้น มือเล็กที่เคยลูบไล้แผ่นอกก็เริ่มซุกซนหนักข้อขึ้นด้วยการเปลี่ยนเป้าหมายมาลูบที่หน้าขาแกร่งของเขาแทนกลายเป็นว่าเวลานี้ทั้งเขาและเธอกำลังลูบไล้ล้วงกันอย่างไม่มีใครห้ามใครและไอ้ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีที่ก่อนหน้านี้เคยมีอยู่สูงทะลุเพดานก็ได้พังทลายกลายเป็นต่ำเตี้ยเรี่ยดิน เมธากรไม่อยากสนใจอะไรอีกแล้วนอกจากสาวสวยตรงหน้าไม่สนว่าเธอคือคนแปลกหน้า ไม่สนว่ากำลังเล่นละคร เขาสนแต่อารมณ์หื่นกระหายที่กำลังถูกปลุกเร้าด้วยสายตาและสัมผัสจากคนข้างๆ เท่านั้น“ชอบค่ะ เมษ์ชอบ…มาก”สิ้นคำตอบของเธอ มือหนาก็คืบคลานเข้าไปภายในกระโปรงสั้นจิ๋ว สัมผัสกับเนื้อผ้าบางเบาที่เป็นเกราะป้องกันจุดอ่อนไหวที่
กลับสู่โลกแห่งความเป็นจริง ต่อให้เศร้าแค่ไหนแต่ชีวิตก็ต้องไปต่อ…ขวัญเมษากลับห้องมาเก็บกระเป๋าเตรียมเดินทางในวันพรุ่งนี้ เธอหยิบชุดเดรสสายเดี่ยวสีชมพูอ่อนความยาวเหนือเข่าเก็บเข้ากระเป๋า พร้อมด้วยรองเท้าส้นสูงสีเข้ากันกับชุด บอกตามตรงว่างานแต่งงานครั้งนี้เป็นงานที่ขวัญเมษาตื่นเต้นมากที่สุด แม้เธอจะเคยรับงานร้องเพลงในงานแต่งหลายต่อหลายครั้งก็ตาม แต่อย่างที่บอกว่างานนี้คืองานของเพื่อนในคณะเธอมันจะไม่น่าตื่นเต้นและตื้นตันใจได้อย่างไรกัน ในเมื่อเธอดันอยู่ในช่วงเวลาที่บ่าวสาวได้จีบกันไปจนถึงขั้นขอกันแต่งงานเจ้าบ่าวเป็นหมอส่วนเจ้าสาวเพื่อนของเธอเป็นพยาบาล ใครต่อใครคงคิดว่าทั้งคู่คงเจอกันที่โรงพยาบาลแน่ๆ แต่เปล่าเลย ทั้งสองคนเจอกันที่เกาะเสม็ด แล้วก็พบรักกันในรีสอร์ตที่จัดงาน มากกว่านั้นทั้งคู่ดันเจอกันในวันที่ต่างคนต่างเมาหัวทิ่มและมีวันไนท์สแตนด์กัน!จากวันไนท์สแตนด์ในวันนั้น…สู่ความสัมพันธ์ที่พร้อมจะจับมือก้าวไปด้วยกันในวันนี้กรี๊ดดดดด! โรแมนติกเป็นบ้า แค่นั่งคิดก็ยิ้มตามแล้ว แต่พอย้อนกลับมาว่าทำไมตัวเองไม่โชคดีแบบเพื่อนสาวบ้างนะ แค่นั้นรอยยิ้มของเธอก็พลันหุบลงทันทีอยากมีรักแท้ในคืน
มีอะไรให้ขอเยอะแยะ ทำไมเด็กนี่ถึงชอบขออะไรสุ่มเสี่ยงอยู่เรื่อยเลยวะ?ถามว่าให้ไหม…จะเหลือเหรอ!หมับ…เมธากรจัดให้ตามคำขอของสาวน้อยร้อนรัก มือหนาจับมั่นที่ต้นคอเธอก่อนรั้งเข้าไปฉกฉวยริมฝีปากอิ่มในเวลาเพียงเสี้ยววินาที จนคนที่เป็นฝ่ายอยากได้อยากโดนตั้งตัวไม่ทัน“อื้อ” ดวงตาที่กลมโตอยู่แล้วเบิกกว้างมากขึ้นเมื่อเขาจูบเธออย่างเร่าร้อน และรุนแรงมากกว่าตอนนั่งจูบนั่งล้วงกันในผับหลายเท่าเรียวลิ้นเขาเสาะแสวงหาดื่มกินความหวานจากปากสาวน้อยอย่างต้องการจะเก็บเกี่ยวความเย้ายวนใจนี้ให้ได้มากที่สุด เช่นเดียวกับเธอ เมื่อได้สติก็จูบตอบเขาอย่างเร่าร้อนไม่แพ้กัน ทั้งกลิ่นกายและลมหายใจอุ่นที่เป่ารดใบหน้าของขวัญเมษามันทำให้คนอ่อนประสบการณ์อย่างเธอเตลิดไปไกลถึงไหนต่อไหน ยิ่งเมื่อคนตรงหน้าดูดเม้มริมฝีปากล่างเธออย่างแรง ก่อนจะวกไปดูดดึงที่ริมฝีปากบน และหวนกลับมาตวัดเรียวลิ้นเล็กของเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่อย่างนั้นบอกตามตรงว่าขวัญเมษาเพิ่งเข้าใจคำว่า ‘น้ำเดิน’ ก็คราวนี้เดี๋ยว! ยังฟินอยู่ อย่าพึ่งหยุดทว่าจู่ๆ คนจูบเก่งก็ค่อยๆ ถอนริมฝีปากออก นัยน์ตาเขายังเต็มไปด้วยไฟปรารถนาที่ขวัญเมษาเองก็ดูออกว่าอารมณ์เ
“เดี๋ยวพี่ไปส่ง” เมธากรลงจากรถแล้วเปิดประตูให้นักร้องสาวที่ยังคงยืนนิ่งที่เดิมไม่ยอมเดินขึ้นรถเขาเสียที จนหมอหนุ่มใหญ่ต้องสรรหาข้ออ้างให้กับการกระทำของตัวเอง“ไหนๆ คืนนี้เราก็เล่นเป็นแฟนกันแล้ว แฟนคงไม่ทิ้งให้แฟนกลับคนเดียวหรอกนะ” เขายักไหล่พูดอย่างกับมันไม่ใช่เรื่องจริงจังอะไร พอเธอพยักหน้าและยอมขึ้นรถแต่โดยดี เมื่อนั้นเขาจึงลอบถอนหายใจออกมาหาเรื่องเข้าตัวจนได้ไอ้หมอเมธ!อบอุ่นชะมัด…พอได้มานั่งอยู่บนรถกับชายหนุ่มสองต่อสอง เขาไม่พูดอะไร ส่วนเธอก็ไม่พูดอะไรเช่นกัน ที่ไม่พูดเพราะเวลานี้เอาแต่เพ้อถึงการกระทำเมื่อครู่ของเขา บอกตามตรงว่าไอ้คำพูดที่สุดแสนจะกระด้างของเขามันสวนทางกับการกระทำสิ้นดี ผู้ชายคนนี้อบอุ่นแล้วก็ใจดีกว่าที่เธอคิด“แฮ่ม บ้านเมษ์อยู่ไหน” เมธากรตัดสินใจเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าหญิงสาวเอาแต่เงียบ ส่วนเขาก็ไม่รู้จะพูดอย่างไรเพราะสับสนกับตัวเองเหลือเกิน การได้อยู่บนรถกับเธอสองต่อสองมันโคตรจะอันตราย ทว่าที่เขากลับไปรับเธอนั้นไม่ใช่เพราะเปลี่ยนใจอยากพาสาวน้อยขึ้นเตียง แต่ที่ทำมันเป็นเพราะเขาห่วงเธอต่างหากอีกไม่นานไอ้นักร้องที่ชื่อธนามันก็คงจะลงจากเวทีแล้ว หากมันเห็นเธอยืนเหงาหงอย
“พี่…แต่งงานแล้วเหรอคะ”“ยัง” หมอหนุ่มขมวดคิ้วกับคำถามเธอ หากเขาแต่งงานมีเมียแล้วคงไม่มีอารมณ์มาเที่ยวสังสรรค์แบบนี้หรอก สู้อยู่บ้านนอนกกเมียคงจะดีกว่ากันเยอะ“งั้นแปลว่ามีแฟน”“เปล่า…”เหตุผลข้อแรกไม่ใช่ หมายความว่าเหตุผลที่สองอาจมีความเป็นไปได้สินะ!ดวงตากลมโตเผลอมองต่ำลงไปที่กึ่งกลางกายของชายหนุ่มโดยอัตโนมัติ ก่อนจะสบตาเขาอย่างไม่อยากจะเชื่อ ผู้ชายรูปหล่อ โพรไฟล์เลิศ ไม่มีพันธะใด แต่กลับมีปัญหาเรื่องน้องชายมันเป็นอะไรที่น่าสงสารจริงๆ นะ“มองอะไร” เมธากรมองสาวน้อยตรงหน้าอย่างไม่ไว้วางใจ โดยเฉพาะสายตาลุกลี้ลุกลนของเธอที่เอาแต่มองเป้ากางเกงเขาสลับกับมองหน้าไปมา“โอเคค่ะ หนูเข้าใจแล้ว จริงๆ ก็…ถ้าพี่หมอกมีปัญหาเรื่องอย่างว่าปรึกษาเมษ์ได้นะคะ เมษ์พอจะมีเพื่อนที่เรียนจบหมออยู่บ้าง เผื่อจะลองถามๆ ดูให้” หญิงสาวว่าพลางชี้ไปที่อาวุธลับของเขาอย่างกระดากอาย แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็มองว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติไม่ใช่เรื่องน่าอายเลยสักนิด อีกอย่างหากปัญหามันเกิดแล้วก็ควรจะแก้ไข ไม่ใช่มัวแต่เขินอายกันอยู่“ปัญหามีไว้แก้ค่ะพี่ ลองหาหมอดูไหมเพื่อชีวิตที่สดใสซู่ซ่า”“ว่าไงนะ? แล้วทำไมพี่ต้องหาหมอ
คุณหมอหนุ่มใหญ่เริ่มไม่ค่อยชอบวันนี้เสียแล้ว เพราะมันทำให้ความคิดในหัวเขาตีกันไปหมด ว่าเรื่องไหนจริง เรื่องไหนหลอกกันแน่!“พี่ว่าพี่กลับก่อนดีกว่า” เมธากรทำท่าจะลุกขึ้นยืนก่อนที่อะไรๆ จะเลยเถิดไปมากกว่านี้“เดี๋ยวค่ะ พี่เล่นเป็นแฟนเมษ์แล้วก็ต้องเล่นให้จบสิ” ขวัญเมษาจับแขนชายหนุ่มไว้แน่น มองเขาอย่างตัดพ้อ เกิดมาเธอไม่เคยเว้าวอนผู้ชายคนไหนเท่าเขามาก่อนเลยจริงๆ และเธอก็ไม่คิดเหมือนกันว่าตัวเองจะกล้าถึงขนาดนี้…กล้าที่จะเป็นฝ่ายจูบผู้ชายก่อน!หมับ…ดวงตาทรงเสน่ห์เบิกกว้างขึ้นเมื่อจู่ๆ นักร้องสาวก็เกี่ยวรั้งต้นคอเขาเข้าไปหา และกระแทกริมฝีปากอิ่มเข้ามาบดขยี้ปากเขาอย่างไม่ทันตั้งตัว เวลานี้เสียงนักร้องบนเวทีที่เคยฟังเพราะเสนาะหูได้เพี้ยนผิดคีย์ไปจนเมธากรมั่นใจว่าคนทั้งร้านคงงุนงงแน่ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับธนาคงจะมีก็แต่เมธากรและสาวร้อนรักคนนี้ที่รู้ดีว่ามันกำลังช็อกจนร้องเพลงเพี้ยน! และไม่ใช่แค่มันที่ช็อกเพราะเมธากรเองก็ไม่ต่างกัน แถมเขายังต้องต่อสู้กับปณิธานในใจและความร้อนรุ่มตรงหน้านี้อีกยิ่งเธอพยายามขบเม้มและกัดริมฝีปากเขาเบาๆ เพื่ออ้อนวอนให้เขายอมเปิดปากรับการรุกรานจากเธอ มันยิ่งทำให
“พี่หมอกเล่นสมบทบาทเหมือนกันนะคะ” น้ำเสียงขวัญเมษาเบาราวกับเสียงกระซิบที่ฟังดูเซ็กซี่และยั่วยวนที่สุดเท่าที่เจ้าของเสียงเคยรู้สึกเธอไม่ได้ตั้งใจอ่อย…และก็ไม่ได้มีนิสัยขี้อ่อย หากแต่อารมณ์บางอย่างที่เกิดขึ้นมันเป็นตัวชักนำให้เธอชื่นชอบสัมผัสเขาเสียจนไม่อาจปิดบังได้“แล้วชอบไหม” อารมณ์ของแพทย์หนุ่มใหญ่พุ่งกระฉูดเพียงแค่ได้สบตากับคนตัวเล็กที่มองเขาด้วยสายตาฉ่ำเยิ้มราวกับเจ้าตัวกำลังส่งสัญญาณให้กัน ไม่พอแค่นั้น มือเล็กที่เคยลูบไล้แผ่นอกก็เริ่มซุกซนหนักข้อขึ้นด้วยการเปลี่ยนเป้าหมายมาลูบที่หน้าขาแกร่งของเขาแทนกลายเป็นว่าเวลานี้ทั้งเขาและเธอกำลังลูบไล้ล้วงกันอย่างไม่มีใครห้ามใครและไอ้ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีที่ก่อนหน้านี้เคยมีอยู่สูงทะลุเพดานก็ได้พังทลายกลายเป็นต่ำเตี้ยเรี่ยดิน เมธากรไม่อยากสนใจอะไรอีกแล้วนอกจากสาวสวยตรงหน้าไม่สนว่าเธอคือคนแปลกหน้า ไม่สนว่ากำลังเล่นละคร เขาสนแต่อารมณ์หื่นกระหายที่กำลังถูกปลุกเร้าด้วยสายตาและสัมผัสจากคนข้างๆ เท่านั้น“ชอบค่ะ เมษ์ชอบ…มาก”สิ้นคำตอบของเธอ มือหนาก็คืบคลานเข้าไปภายในกระโปรงสั้นจิ๋ว สัมผัสกับเนื้อผ้าบางเบาที่เป็นเกราะป้องกันจุดอ่อนไหวที่
“สวยขนาดนั้น?” เออ เธอสวยขนาดนั้นเลยแหละ…แม้จะรู้อยู่เต็มอก แต่ทว่าคนเจ้าเล่ห์อย่างเขาก็อดแซวขวัญเมษาไม่ได้“เห้อ ไม่ช่วยก็ไม่ช่วย ไม่ง้อแล้ว…อ๊ะ!”ไม่ทันที่เธอจะได้เขยิบตัวออกห่างจากคนใจร้าย ลำแขนแกร่งข้างหนึ่งของเขาก็เข้ามาโอบกอดเธอไปแนบชิดกับกายแกร่งโดยที่คนตัวเล็กไม่ทันตั้งตัว“พี่หมอก” เรียวแขนข้างหนึ่งของเธอปะทะเข้ากับหน้าอกแน่นหนั่น เลยพลอยทำให้หัวใจของสาวน้อยที่ไม่เคยได้ใกล้ชิดชายใดอย่างขวัญเมษาเต้นรัวแรงจนกลัวว่าอีกฝ่ายจะได้ยินมันความตื่นเต้น วาบหวิวตามอารมณ์ทางเพศมันเป็นแบบนี้เองสินะ!“ใครบอกว่าพี่ไม่ช่วย...ถ้าจะเป็นเด็กพี่ก็ต้องนั่งใกล้พี่แบบนี้ เราโอเคไหม?” ทำไมคนอย่างเขาจะดูไม่ออกละว่าแม่สาวน้อยคนนี้ตื่นเต้นแค่ไหน เพราะไม่ใช่แค่เธอที่ตื่นเต้นแต่นายแพทย์ที่ผ่านประสบการณ์มากมายอย่างเขาก็ตื่นเต้นไม่แพ้กันก็ไอ้ร่างกายนุ่มนิ่มของเธอมันมีกลิ่นหอมเย้ายวนดีเหลือเกิน ปกติเมธากรไม่ใช่เด็กหนุ่มที่จะมาเล่นสนุกกับเรื่องพรรค์นี้ ทว่า...คืนนี้เขาขอแหกกฎตัวเองหน่อยแล้วกัน เพราะแม่กระต่ายน้อยในอ้อมกอดนั้นยั่วเก่งดีเหลือเกิน“โอเคค่ะ ขอแค่พี่หมอกช่วยเล่นให้สมบทบาทก็พอ” เอาวะ...มาถึงขนาดน
ทั้งสองนั่งดื่มนั่งดริ้งค์พร้อมกับพูดคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้กันอย่างสนุกสนาน แม้ไม่รู้ว่าเรื่องไหนเชื่อได้บ้างก็เถอะ!การพบเจอกันในวันแห่งการโกหกแบบนี้มันก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย แต่สำหรับเมธากรที่ชีวิตพบเจอแต่อะไรน่าเบื่อ ซ้ำซากจำเจทุกวี่วัน บอกตามตรงว่าการได้พบกับแม่นักร้องสาวแสนสวยคนนี้กลายเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นสำหรับเขาอย่างมากเลยทีเดียว!โดยเฉพาะรอยยิ้มที่แสนสดใส น้ำเสียงทรงเสน่ห์ชวนเคลิบเคลิ้มที่คอยเล่าเรื่องราวของตัวเองให้เขาฟังตกลงเด็กบ้านี่ตั้งใจจะอ่อยโคแก่อย่างเขาหรือไงกันนะ! นั่น…ดูสายตาหวานเยิ้มที่กำลังจ้องมองเขาอย่างหลงใหลในตอนนี้สิ“ที่จริงพี่หมอกน่าจะมาที่นี่บ่อยๆ นะคะ” ขวัญเมษาว่าพลางยกแก้วเหล้าแก้วที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้กระดกเข้าปาก“ทำไม เราจะได้มีเพื่อนดื่มงั้นเหรอ”“ใช่ค่ะ” หญิงสาวตอบไปตามความจริง“ต่อให้ไม่มีพี่ คนอย่างเมษ์ก็น่าจะมีคนเสนอตัวดื่มเป็นเพื่อนเยอะแยะไม่ใช่หรือไง นักร้องสาวมากเสน่ห์อะไรทำนองนั้น” เมธากรยักไหล่ ที่เขารู้ก็เพราะตอนที่เธออยู่บนเวที สายตาหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ต่างมองแม่นักร้องสาวราวจะกลืนกินก็ไม่ปาน ไม่เว้นแม้แต่ตัวเขาเองที่เจอเธอครั้งแรก
“อืม เคยเป็นนักร้องให้กับวงที่มหาลัยมาก่อน” คนโดนเรียกว่า ‘ลุง’ ตอบเธอเสียงสะบัด ทั้งที่เขาก็แสดงออกให้เห็นแล้วว่าตัวเองยังหนุ่มยังแน่นแล้วก็แรงดีไม่ต่างจากวัยรุ่นอย่างเธอแค่ไหน แต่มิวายยังเรียกเขาว่าลุงอยู่ได้ ฟังแล้วมันแสลงหูชะมัด!“ว้าว โคตรเท่เลยค่ะ ดูสิ มีแต่สาวๆ มองลุง” ไม่เว้นแม้แต่เธอ ที่ไม่สามารถละสายตาจากลุงคนนี้ได้เลยเพียงสักเสี้ยววินาที“นี่ ขอถามอะไรหน่อยสิ” เอาวะ…ถ้าอยากดื่มกันยาวๆ ก็ต้องปรับความคิดกันใหม่หน่อย“คะ?” คนตัวเล็กเอียงคอมองเขาด้วยความสงสัย“ผมดูแก่ขนาดนั้นเลยหรือไง ดูให้เต็มตา หล่อเข้ม กล้ามแน่น แรงดีไม่มีตกขนาดนี้ยังจะเรียกว่าลุงอีกเหรอ? เผลอๆ ไอ้หนุ่มน้อยคนอื่นมันยังไม่แซ่บเท่าผมเลยด้วยซ้ำ” เมธากรพูดออกมาอย่างหัวเสีย แต่แทนที่หญิงสาวจะสำนึกผิดรีบขอโทษ เธอกลับมองมาด้วยตาโตๆ คู่นั้น แถมยังกลั้นยิ้มราวกับว่าเรื่องที่พูดเมื่อกี้มันตลกสิ้นดีตลกตรงไหนวะ! เรื่องอายุอานามและความแก่มันไม่ใช่เรื่องพูดเล่นเลยสักนิดนะยัยเด็กบ้า“ตลก?” เขาปั้นเสียงเข้มถามกลับด้วยความดุดันไม่ต่างจากตอนดุนักศึกษาแพทย์ จนเธอต้องหุบยิ้มในทันที“โอเคๆ ขอโทษค่ะ หนูชื่อขวัญเมษานะคะ จะ