“พี่…แต่งงานแล้วเหรอคะ”
“ยัง” หมอหนุ่มขมวดคิ้วกับคำถามเธอ หากเขาแต่งงานมีเมียแล้วคงไม่มีอารมณ์มาเที่ยวสังสรรค์แบบนี้หรอก สู้อยู่บ้านนอนกกเมียคงจะดีกว่ากันเยอะ
“งั้นแปลว่ามีแฟน”
“เปล่า…”
เหตุผลข้อแรกไม่ใช่ หมายความว่าเหตุผลที่สองอาจมีความเป็นไปได้สินะ!
ดวงตากลมโตเผลอมองต่ำลงไปที่กึ่งกลางกายของชายหนุ่มโดยอัตโนมัติ ก่อนจะสบตาเขาอย่างไม่อยากจะเชื่อ ผู้ชายรูปหล่อ โพรไฟล์เลิศ ไม่มีพันธะใด แต่กลับมีปัญหาเรื่องน้องชายมันเป็นอะไรที่น่าสงสารจริงๆ นะ
“มองอะไร” เมธากรมองสาวน้อยตรงหน้าอย่างไม่ไว้วางใจ โดยเฉพาะสายตาลุกลี้ลุกลนของเธอที่เอาแต่มองเป้ากางเกงเขาสลับกับมองหน้าไปมา
“โอเคค่ะ หนูเข้าใจแล้ว จริงๆ ก็…ถ้าพี่หมอกมีปัญหาเรื่องอย่างว่าปรึกษาเมษ์ได้นะคะ เมษ์พอจะมีเพื่อนที่เรียนจบหมออยู่บ้าง เผื่อจะลองถามๆ ดูให้” หญิงสาวว่าพลางชี้ไปที่อาวุธลับของเขาอย่างกระดากอาย แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็มองว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติไม่ใช่เรื่องน่าอายเลยสักนิด อีกอย่างหากปัญหามันเกิดแล้วก็ควรจะแก้ไข ไม่ใช่มัวแต่เขินอายกันอยู่
“ปัญหามีไว้แก้ค่ะพี่ ลองหาหมอดูไหมเพื่อชีวิตที่สดใสซู่ซ่า”
“ว่าไงนะ? แล้วทำไมพี่ต้องหาหมอ พี่ไม่ได้เป็นอะไร!”
อีกอย่างกูนี่แหละครับหมอ! ไม่ใช่หมอธรรมดา แต่ยังเป็นอาจารย์หมอแล้วก็เจ้าของโรงพยาบาลด้วย
“ก็ตรงนั้นของพี่มัน….เสื่อมสมรรถภาพอยู่ไม่ใช่เหรอคะ” ขวัญเมษาพยายามหาคำพูดที่ฟังดูดีที่สุดสื่อความไปว่า ‘ไข่เขาไม่แข็ง นกเขาไม่ขัน’
ทว่าสายตาของชายหนุ่มที่มองมากลับอึ้งเมื่อถึงบางอ้อว่าเธอกำลังพูดถึงอะไร
“ดะเดี๋ยว อะไรทำให้เธอคิดว่าพี่ไม่…ไม่แข็ง” ยุบหนอ พองหนอ เย็นไว้ไอ้หมออย่าวู่วาม
“เดี๋ยวเถอะ! ถ้าเจอตอนมันแข็งขึ้นมาแล้วจะครางจนเสียงแหบ” เมธากรแกล้งพูดลอดไรฟัน
“ก็พี่อยากรีบกลับ…ทำเหมือนว่าพี่รังเกียจเมษ์ ทั้งที่ไม่มีแฟนแบบนี้จะให้คิดยังไงล่ะคะ” อยากจะบอกตามตรงว่าลุคคุณพี่มันดูเหมือนป๋ามาล่าเด็กไม่มีผิด ไหนจะรถหรูคันงามที่บ่งบอกสถานะทางการเงินนั่นอีก ผู้ชายหล่อรวยเพียบพร้อมอย่างเขาเป็นไปได้หรือที่จะไม่มาเที่ยวเพื่อหวังสนุกกับสาวๆ บนเตียง
ขวัญเมษาไม่ใช่คนโลกสวย!
“เห้อ ฟังนะเมษ์ ไอ้นั่นของพี่ยังแข็งเป็นปกติดียังไงก็ขอขอบคุณสำหรับความเป็นห่วง” หมอหนุ่มพยายามพูดอย่างใจเย็นที่สุด ทั้งที่ในใจรู้สึกมันเขี้ยวขวัญเมษาเต็มทีแล้ว
เด็กนี่ไม่เพียงแต่ปลุกเร้าอารมณ์ดิบในตัวเขา เจ้าหล่อนยังมาพูดจาหยามเกียรติบุรุษเพศผู้อย่างเขาอีก ทั้ง ๆ ที่ตอนเธอเอาร่างเล็กๆ มาเบียดไอ้สิ่งที่เธอกล่าวหาว่าไม่แข็ง มันทำท่าจะพองตัวขึ้นมาเสียให้ได้ตลอดเวลา
ต้องยับยั้งใจแทบตาย!
หญิงสาวรับฟังคำพูดพร้อมสบตาชายหนุ่มที่บ่งบอกได้ว่าเขาไม่ได้โกหก ถ้าอย่างนั้นการที่เขาปฏิเสธเธอมันอาจจะมีเหตุผลที่สาม นั่นก็คือเธอไม่ใช่สเปกเขา
อืม…ชัดแล้วล่ะ! แค่คิดก็ปวดใจแล้ว สวยเซ็กซ์เอ็กซ์สะบัดแบบนี้ ต่อให้ตัวเล็กไปหน่อยแต่ขวัญเมษาก็มั่นใจว่าเธอมีดีพอตัวอยู่นะ
“เมษ์ตัวเล็กเกินไปใช่ไหม พี่เลยไม่อยากเอาเมษ์” เธอโพล่งออกไปอย่างสุดจะทน อยากรู้เหมือนกันจะได้หายค้างคาใจ
“ใช่! พี่ไม่อยากเอาเมษ์” แพทย์หนุ่มใหญ่ตอบอย่างไม่คิด ไหนๆ วันนี้มันก็คือวันแห่งการโกหกอยู่แล้ว โกหกอีกสักเรื่องคงไม่เป็นอะไร ทั้งที่ความจริงเขาอยากเอาเธอจะแย่ ถ้าไม่ติดที่อุดมการณ์และเกรงว่าจะมีปัญหาตามมาทีหลังล่ะก็ เขาคงลากเธอไปสำเร็จโทษบนรถให้มันจบๆ ไปแล้ว
“เห้อ…พี่นี่มันพูดตรง ตอบได้เจ็บแสบจริงๆ” พอได้ฟังคำตอบจากเขา ไอ้ใจที่คิดอยากสนุกและมอบกายให้กับผู้ชายที่ตรงสเปกตรงหน้านี้ก็พลันมลายหายไปโดยสิ้นเชิง แต่ก็แฟร์ดีเหมือนกัน ในเมื่อเขาไม่ได้ใจตรงกัน ดีกว่าเขามาเอารัดเอาเปรียบเธอ
อีกอย่างจะว่าไปแล้วคืนนี้เธอเองก็มีความสุขมากเพียงแค่ได้ร้องเพลงแล้วก็พูดคุยกับเขาไม่กี่ชั่วโมง
ได้เท่านี้ก็ดีแค่ไหนแล้ว ไม่ต้องจบที่บนเตียงก็ได้นี่นา…
แม้จะปลอบใจตัวเองแบบนั้นแต่บอกตามตรงว่าโคตรจะเศร้าเลย!
“ในเมื่อพี่เป็นคนซื่อตรงกับความรู้สึก และไม่คิดโกหกเมษ์แบบนี้ ถ้างั้นเมษ์ก็มีเรื่องจะสารภาพ คือ…วันนี้เป็นวันแห่งการโกหก จริงๆ แล้วไม่ใช่วันเกิดเมษ์หรอกค่ะ วันเกิดของเมษ์จริงๆ คืออาทิตย์หน้า”
“นี่หมายความว่าเราโกหกพี่เพราะอยากกินเหล้าฟรีงั้น?”
“จะว่างั้นก็ได้ค่ะ” เรื่องเหล้าน่ะเรื่องรอง แต่เรื่องหลักคือเธออยากหาเรื่องได้ใกล้ชิดผู้ชายคนนี้ต่างหากล่ะ
“อืม งั้นก็ไม่เป็นไรเพราะว่า…”
“อ่อแล้วก็…ที่เราจูบกันเมื่อกี้ พี่จูบไม่เก่ง เมษ์ไม่เห็นจะเคลิ้มเลย บอกไว้เผื่อพี่จะปรับปรุงไปใช้กับผู้หญิงที่ชอบ” อันนี้เธอโกหก เพราะความจริงแล้วเธอเคลิ้มอย่างมากมายและคิดว่าจะเก็บเอารสจูบของเขาไปฝันต่ออีกหลายคืน
“ฮะ!” และคำพูดของเธอก็ทำเอานายแพทย์หนุ่มใหญ่อ้าปากค้างอีกครั้ง ทว่าเขารู้ดีกว่าใครว่ายัยเด็กนี่กำลังโกหกเขาอยู่! ไม่เคลิ้มก็บ้าแล้ว อีกนิดเดียวจะได้โชว์หนังสดให้คนทั้งผับดูแบบนี้ไม่เรียกเคลิ้มคงเรียกว่าสติหลุดล่ะมั้ง
“โอเค งั้นถือว่าไม่มีอะไรค้างคาต่อกันแล้ว พี่ไปก่อนล่ะ” เมธากรตัดสินใจขึ้นรถยนต์ส่วนตัวของตัวเอง พยายามไม่สนใจร่างเล็กที่กำลังยืนจ้องมองเขาเคลื่อนรถออกไปช้าๆ อย่างตาละห้อย
สิ่งที่คุณหมอหนุ่มใหญ่คิดไว้คือ จะใจแข็งและขับรถหนีแม่สาวดาวยั่วคนนี้ไปให้ไกล ทว่าเพียงแค่มองกระจกหลัง เห็นเธอเอาแต่นิ่งไม่ยอมขยับตัวไปไหน วางสายตาจับจ้องรถเขาด้วยความอาลัยอาวรณ์ ไอ้ความเด็ดเดี่ยวตอนแรกก็ถูกทำลายลงจนพังทันที เมธากรไม่รู้ว่าตัวเอง ‘แพ้เด็ก’ ตั้งแต่เมื่อไหร่
รู้ตัวอีกทีเขาก็หยุดรถ และตัดสินใจถอยรถกลับไปหาคนตัวเล็กที่มองเขาอย่างดีใจระคนงุนงง
ไม่ต้องมาทำเป็นงง ทั้งที่ตัวเองทำสายตาออดอ้อนเสียขนาดนี้!
“พี่มีอะไรเหรอคะ” ขวัญเมษามองหน้าชายหนุ่มตาปริบๆ ทั้งที่หัวใจเธอเต้นระรัวเมื่อเห็นว่าเขาย้อนกลับมาหา มันรู้สึกเหมือนว่าเธอมีความหวัง แม้มันจะค่อนข้างริบหรี่ก็ตามที่
“เดี๋ยวพี่ไปส่ง” เมธากรลงจากรถแล้วเปิดประตูให้นักร้องสาวที่ยังคงยืนนิ่งที่เดิมไม่ยอมเดินขึ้นรถเขาเสียที จนหมอหนุ่มใหญ่ต้องสรรหาข้ออ้างให้กับการกระทำของตัวเอง“ไหนๆ คืนนี้เราก็เล่นเป็นแฟนกันแล้ว แฟนคงไม่ทิ้งให้แฟนกลับคนเดียวหรอกนะ” เขายักไหล่พูดอย่างกับมันไม่ใช่เรื่องจริงจังอะไร พอเธอพยักหน้าและยอมขึ้นรถแต่โดยดี เมื่อนั้นเขาจึงลอบถอนหายใจออกมาหาเรื่องเข้าตัวจนได้ไอ้หมอเมธ!อบอุ่นชะมัด…พอได้มานั่งอยู่บนรถกับชายหนุ่มสองต่อสอง เขาไม่พูดอะไร ส่วนเธอก็ไม่พูดอะไรเช่นกัน ที่ไม่พูดเพราะเวลานี้เอาแต่เพ้อถึงการกระทำเมื่อครู่ของเขา บอกตามตรงว่าไอ้คำพูดที่สุดแสนจะกระด้างของเขามันสวนทางกับการกระทำสิ้นดี ผู้ชายคนนี้อบอุ่นแล้วก็ใจดีกว่าที่เธอคิด“แฮ่ม บ้านเมษ์อยู่ไหน” เมธากรตัดสินใจเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าหญิงสาวเอาแต่เงียบ ส่วนเขาก็ไม่รู้จะพูดอย่างไรเพราะสับสนกับตัวเองเหลือเกิน การได้อยู่บนรถกับเธอสองต่อสองมันโคตรจะอันตราย ทว่าที่เขากลับไปรับเธอนั้นไม่ใช่เพราะเปลี่ยนใจอยากพาสาวน้อยขึ้นเตียง แต่ที่ทำมันเป็นเพราะเขาห่วงเธอต่างหากอีกไม่นานไอ้นักร้องที่ชื่อธนามันก็คงจะลงจากเวทีแล้ว หากมันเห็นเธอยืนเหงาหงอย
มีอะไรให้ขอเยอะแยะ ทำไมเด็กนี่ถึงชอบขออะไรสุ่มเสี่ยงอยู่เรื่อยเลยวะ?ถามว่าให้ไหม…จะเหลือเหรอ!หมับ…เมธากรจัดให้ตามคำขอของสาวน้อยร้อนรัก มือหนาจับมั่นที่ต้นคอเธอก่อนรั้งเข้าไปฉกฉวยริมฝีปากอิ่มในเวลาเพียงเสี้ยววินาที จนคนที่เป็นฝ่ายอยากได้อยากโดนตั้งตัวไม่ทัน“อื้อ” ดวงตาที่กลมโตอยู่แล้วเบิกกว้างมากขึ้นเมื่อเขาจูบเธออย่างเร่าร้อน และรุนแรงมากกว่าตอนนั่งจูบนั่งล้วงกันในผับหลายเท่าเรียวลิ้นเขาเสาะแสวงหาดื่มกินความหวานจากปากสาวน้อยอย่างต้องการจะเก็บเกี่ยวความเย้ายวนใจนี้ให้ได้มากที่สุด เช่นเดียวกับเธอ เมื่อได้สติก็จูบตอบเขาอย่างเร่าร้อนไม่แพ้กัน ทั้งกลิ่นกายและลมหายใจอุ่นที่เป่ารดใบหน้าของขวัญเมษามันทำให้คนอ่อนประสบการณ์อย่างเธอเตลิดไปไกลถึงไหนต่อไหน ยิ่งเมื่อคนตรงหน้าดูดเม้มริมฝีปากล่างเธออย่างแรง ก่อนจะวกไปดูดดึงที่ริมฝีปากบน และหวนกลับมาตวัดเรียวลิ้นเล็กของเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่อย่างนั้นบอกตามตรงว่าขวัญเมษาเพิ่งเข้าใจคำว่า ‘น้ำเดิน’ ก็คราวนี้เดี๋ยว! ยังฟินอยู่ อย่าพึ่งหยุดทว่าจู่ๆ คนจูบเก่งก็ค่อยๆ ถอนริมฝีปากออก นัยน์ตาเขายังเต็มไปด้วยไฟปรารถนาที่ขวัญเมษาเองก็ดูออกว่าอารมณ์เ
กลับสู่โลกแห่งความเป็นจริง ต่อให้เศร้าแค่ไหนแต่ชีวิตก็ต้องไปต่อ…ขวัญเมษากลับห้องมาเก็บกระเป๋าเตรียมเดินทางในวันพรุ่งนี้ เธอหยิบชุดเดรสสายเดี่ยวสีชมพูอ่อนความยาวเหนือเข่าเก็บเข้ากระเป๋า พร้อมด้วยรองเท้าส้นสูงสีเข้ากันกับชุด บอกตามตรงว่างานแต่งงานครั้งนี้เป็นงานที่ขวัญเมษาตื่นเต้นมากที่สุด แม้เธอจะเคยรับงานร้องเพลงในงานแต่งหลายต่อหลายครั้งก็ตาม แต่อย่างที่บอกว่างานนี้คืองานของเพื่อนในคณะเธอมันจะไม่น่าตื่นเต้นและตื้นตันใจได้อย่างไรกัน ในเมื่อเธอดันอยู่ในช่วงเวลาที่บ่าวสาวได้จีบกันไปจนถึงขั้นขอกันแต่งงานเจ้าบ่าวเป็นหมอส่วนเจ้าสาวเพื่อนของเธอเป็นพยาบาล ใครต่อใครคงคิดว่าทั้งคู่คงเจอกันที่โรงพยาบาลแน่ๆ แต่เปล่าเลย ทั้งสองคนเจอกันที่เกาะเสม็ด แล้วก็พบรักกันในรีสอร์ตที่จัดงาน มากกว่านั้นทั้งคู่ดันเจอกันในวันที่ต่างคนต่างเมาหัวทิ่มและมีวันไนท์สแตนด์กัน!จากวันไนท์สแตนด์ในวันนั้น…สู่ความสัมพันธ์ที่พร้อมจะจับมือก้าวไปด้วยกันในวันนี้กรี๊ดดดดด! โรแมนติกเป็นบ้า แค่นั่งคิดก็ยิ้มตามแล้ว แต่พอย้อนกลับมาว่าทำไมตัวเองไม่โชคดีแบบเพื่อนสาวบ้างนะ แค่นั้นรอยยิ้มของเธอก็พลันหุบลงทันทีอยากมีรักแท้ในคืน
1 เมษายน วัน April Fool’s Day@ผับ Falling in Youกลิ่นอายอบายมุขนี่มันหอมคละคลุ้งเยียวยาหัวใจได้ดีจริงๆ!นั่นเป็นความคิดแรกของ ‘นายแพทย์เมธากร เขมาภิวัฒน์’ หรือที่หลายคนเรียกว่า ‘อาจารย์หมอเมธ’ ทันทีที่ก้าวเข้ามายังผับสุดหรูของเพื่อนสนิทอย่าง ‘ภาคย์’ ใครจะคิดละว่านายแพทย์อย่างเขาที่ควรจะเข้านอนตั้งแต่สองทุ่ม รับประทานอาหารสุขภาพ และตื่นมาออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอตามคำแนะนำที่บอกคนไข้ทุกราย แท้จริงแล้ว...วิธีผ่อนคลายที่ดีสุดๆ มันจะมีอะไรไปได้นอกเสียจาก ‘การร่ำสุรา’ร่างสูงโปร่งดูสง่าดุดันแต่งกายด้วยเสื้อเชิ้ตสีดำสนิท กางเกงยีนส์รัดรูปตัวโปรด ทรงผมเซ็ตเสยอย่างเป็นธรรมชาติ เดินตรงเข้าไปยังโต๊ะวีไอพีที่มีไอ้เจ้าของผับหน้าเข้มนั่งรออยู่ก่อนแล้ว มิวายข้างกายมันยังมีสาวสวยอีกสองคนนั่งขนาบข้าง ดูผ่านๆ ไม่ต่างจากแฮมเบอร์เกอร์ที่มีเนื้อชิ้นใหญ่แปะอยู่ตรงกลาง“หึ” นายแพทย์หนุ่มใหญ่ยกยิ้มมองเพื่อนด้วยสายตาเคยชิน“ไงไอ้หมอ! ลมอะไรหอบมึงมาหากูที่นี่คืนนี้วะ” ภาคย์ทักเพื่อนพลางหันไปหอมแก้มสาวๆ คนละฟอดอย่างเท่าเทียมกัน“กูหิวเหล้า” เขาตอบนิ่งๆ หย่อนกายนั่งลงที่โซฟาตัวข้างกันกับภาคย์ เหล่มองสาว
“สวัสดีค่าาา วันนี้วันที่ 1 เมษายน เป็นวัน April Fool’s Day และในวันแบบนี้จะพบกับวงดนตรีไหนไม่ได้นอกจากพวกเรา วง April Fool’s Dayพวกเราจะมามอบความสุขสนุกสนานให้กับทุกคนในค่ำคืนนี้ ใครเป็นคอเพลงร็อคในตำนานลุกขึ้นเต้นแล้วก็ช่วยกันร้องได้นะค้าาา”เสียงหวานปลายแหบอย่างมีเสน่ห์ของนักร้องนำเรียกให้คุณหมอหนุ่มใหญ่หันไปมองหน้าเธอ เพราะฟังแค่เสียงพูดเขาก็รับรู้ได้แล้วว่าเธอคนนี้ต้องร้องเพลงออกมาได้อย่างไม่ธรรมดาเป็นแน่ และเมื่อได้เห็นหน้าเธอเขาก็ไม่ผิดหวังจริงๆ ริมฝีปากหยักกระตุกยิ้มอย่างถูกใจนักร้องสาวแต่งกายด้วยเสื้อสายเดี่ยว กระโปรงยีนส์สั้นทับด้วยแจ็คเก็ตหนัง ผมยาวสวยถูกย้อมเป็นสีชมพูมัดรวบเป็นหางม้า เผยให้เห็นใบหูที่ถูกเจาะประดับด้วยต่างหูสีเงินเป็นแนวยาว ในมือของเธอถือไมโครโฟนสีชมพูช็อกกิ้งพิงค์สะท้อนแสงมาแต่ไกลแต่ที่สะดุดตาแพทย์หนุ่มที่สุดเห็นทีจะเป็นสไตล์การแต่งหน้าของเธอ สาวน้อยบนเวทีกรีดตาสีดำเข้ม และทาปากสีม่วงจี๊ดจ๊าด เรียกได้ว่ามีเสน่ห์และอินดี้สมกับงานที่เธอทำอยู่ และทันทีที่เจ้าตัวร้องเพลง เมธากรก็ไม่ผิดหวังจริงๆ เพราะเสียงเธอดีถึงขั้นเป็นนักร้องออกอัลบั้มได้เลย!ร่างบางโยก
เมธากรขับไล่ความ ‘หน้าบาง’ ออกไป ปกติแล้วเขาก็ไม่ใช่พวกชอบแคร์คำพูดหรือความคิดใครเท่าไหร่นัก แต่คำพูดของแม่นักร้องสาวหัวชมพูคนนั้น มันทำให้นายแพทย์อย่างเขารู้สึกราวกับโดนหยามเกียรติอย่างบอกไม่ถูกทำไมวะ…สี่สิบยังแซ่บไม่ได้หรือไง!รอยยิ้มกระตุกขึ้นบนใบหน้าของหนุ่มใหญ่ที่เพิ่งโดนเรียกว่า ‘ลุง’ เมธากรจะทำให้ยัยนักร้องปากแจ๋วคนนี้ได้เห็นว่าลุงอย่างเขานี่แหละ ที่ไม่ธรรมดาจนเธอต้องขอถอนคำพูดให้ได้“ไอ้เมธ มึงจะไปไหนวะ” เจ้าของผับมองเพื่อนที่เวลานี้เดินมุ่งหน้าไปยังเวทีที่นักร้องสาวกำลังโยกย้ายส่ายสะโพกอย่างสนุกสนาน สายตาของเมธากรจับจ้องไปยังแม่สาวร่างบางแน่นิ่ง หากแต่มันไม่ใช่ดวงตาที่เต็มไปด้วยความหลงใหล แววตาของเขาเต็มไปด้วยความท้าทายต่างหากเห็นทีคืนนี้คงมีอะไรสนุกๆ ให้ได้เห็นอีกแล้วทันทีที่มาถึงด้านหน้าเวที เมธากรก็สบตากับขวัญเมษาที่กำลังมองมาด้วยสายตาตั้งคำถาม เขายิ้มมุมปากก่อนจะยื่นมือไปยังไมโครโฟนสีช้อกกี้พิงค์ที่เจ้าตัวถืออยู่ พลางยักคิ้วให้เธออย่างสื่อความนัยไปว่า…ไมโครโฟนสีสวยอันนั้นขอพี่เถอะ“นี่ลุงมันจนถึงขั้นอยากขอร้องเองเลยเหรอ”บอกตามตรงว่านักร้องสาวออกจะถูกใจกับหนุ่มใ
“อืม เคยเป็นนักร้องให้กับวงที่มหาลัยมาก่อน” คนโดนเรียกว่า ‘ลุง’ ตอบเธอเสียงสะบัด ทั้งที่เขาก็แสดงออกให้เห็นแล้วว่าตัวเองยังหนุ่มยังแน่นแล้วก็แรงดีไม่ต่างจากวัยรุ่นอย่างเธอแค่ไหน แต่มิวายยังเรียกเขาว่าลุงอยู่ได้ ฟังแล้วมันแสลงหูชะมัด!“ว้าว โคตรเท่เลยค่ะ ดูสิ มีแต่สาวๆ มองลุง” ไม่เว้นแม้แต่เธอ ที่ไม่สามารถละสายตาจากลุงคนนี้ได้เลยเพียงสักเสี้ยววินาที“นี่ ขอถามอะไรหน่อยสิ” เอาวะ…ถ้าอยากดื่มกันยาวๆ ก็ต้องปรับความคิดกันใหม่หน่อย“คะ?” คนตัวเล็กเอียงคอมองเขาด้วยความสงสัย“ผมดูแก่ขนาดนั้นเลยหรือไง ดูให้เต็มตา หล่อเข้ม กล้ามแน่น แรงดีไม่มีตกขนาดนี้ยังจะเรียกว่าลุงอีกเหรอ? เผลอๆ ไอ้หนุ่มน้อยคนอื่นมันยังไม่แซ่บเท่าผมเลยด้วยซ้ำ” เมธากรพูดออกมาอย่างหัวเสีย แต่แทนที่หญิงสาวจะสำนึกผิดรีบขอโทษ เธอกลับมองมาด้วยตาโตๆ คู่นั้น แถมยังกลั้นยิ้มราวกับว่าเรื่องที่พูดเมื่อกี้มันตลกสิ้นดีตลกตรงไหนวะ! เรื่องอายุอานามและความแก่มันไม่ใช่เรื่องพูดเล่นเลยสักนิดนะยัยเด็กบ้า“ตลก?” เขาปั้นเสียงเข้มถามกลับด้วยความดุดันไม่ต่างจากตอนดุนักศึกษาแพทย์ จนเธอต้องหุบยิ้มในทันที“โอเคๆ ขอโทษค่ะ หนูชื่อขวัญเมษานะคะ จะ
ทั้งสองนั่งดื่มนั่งดริ้งค์พร้อมกับพูดคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้กันอย่างสนุกสนาน แม้ไม่รู้ว่าเรื่องไหนเชื่อได้บ้างก็เถอะ!การพบเจอกันในวันแห่งการโกหกแบบนี้มันก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย แต่สำหรับเมธากรที่ชีวิตพบเจอแต่อะไรน่าเบื่อ ซ้ำซากจำเจทุกวี่วัน บอกตามตรงว่าการได้พบกับแม่นักร้องสาวแสนสวยคนนี้กลายเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นสำหรับเขาอย่างมากเลยทีเดียว!โดยเฉพาะรอยยิ้มที่แสนสดใส น้ำเสียงทรงเสน่ห์ชวนเคลิบเคลิ้มที่คอยเล่าเรื่องราวของตัวเองให้เขาฟังตกลงเด็กบ้านี่ตั้งใจจะอ่อยโคแก่อย่างเขาหรือไงกันนะ! นั่น…ดูสายตาหวานเยิ้มที่กำลังจ้องมองเขาอย่างหลงใหลในตอนนี้สิ“ที่จริงพี่หมอกน่าจะมาที่นี่บ่อยๆ นะคะ” ขวัญเมษาว่าพลางยกแก้วเหล้าแก้วที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้กระดกเข้าปาก“ทำไม เราจะได้มีเพื่อนดื่มงั้นเหรอ”“ใช่ค่ะ” หญิงสาวตอบไปตามความจริง“ต่อให้ไม่มีพี่ คนอย่างเมษ์ก็น่าจะมีคนเสนอตัวดื่มเป็นเพื่อนเยอะแยะไม่ใช่หรือไง นักร้องสาวมากเสน่ห์อะไรทำนองนั้น” เมธากรยักไหล่ ที่เขารู้ก็เพราะตอนที่เธออยู่บนเวที สายตาหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ต่างมองแม่นักร้องสาวราวจะกลืนกินก็ไม่ปาน ไม่เว้นแม้แต่ตัวเขาเองที่เจอเธอครั้งแรก
กลับสู่โลกแห่งความเป็นจริง ต่อให้เศร้าแค่ไหนแต่ชีวิตก็ต้องไปต่อ…ขวัญเมษากลับห้องมาเก็บกระเป๋าเตรียมเดินทางในวันพรุ่งนี้ เธอหยิบชุดเดรสสายเดี่ยวสีชมพูอ่อนความยาวเหนือเข่าเก็บเข้ากระเป๋า พร้อมด้วยรองเท้าส้นสูงสีเข้ากันกับชุด บอกตามตรงว่างานแต่งงานครั้งนี้เป็นงานที่ขวัญเมษาตื่นเต้นมากที่สุด แม้เธอจะเคยรับงานร้องเพลงในงานแต่งหลายต่อหลายครั้งก็ตาม แต่อย่างที่บอกว่างานนี้คืองานของเพื่อนในคณะเธอมันจะไม่น่าตื่นเต้นและตื้นตันใจได้อย่างไรกัน ในเมื่อเธอดันอยู่ในช่วงเวลาที่บ่าวสาวได้จีบกันไปจนถึงขั้นขอกันแต่งงานเจ้าบ่าวเป็นหมอส่วนเจ้าสาวเพื่อนของเธอเป็นพยาบาล ใครต่อใครคงคิดว่าทั้งคู่คงเจอกันที่โรงพยาบาลแน่ๆ แต่เปล่าเลย ทั้งสองคนเจอกันที่เกาะเสม็ด แล้วก็พบรักกันในรีสอร์ตที่จัดงาน มากกว่านั้นทั้งคู่ดันเจอกันในวันที่ต่างคนต่างเมาหัวทิ่มและมีวันไนท์สแตนด์กัน!จากวันไนท์สแตนด์ในวันนั้น…สู่ความสัมพันธ์ที่พร้อมจะจับมือก้าวไปด้วยกันในวันนี้กรี๊ดดดดด! โรแมนติกเป็นบ้า แค่นั่งคิดก็ยิ้มตามแล้ว แต่พอย้อนกลับมาว่าทำไมตัวเองไม่โชคดีแบบเพื่อนสาวบ้างนะ แค่นั้นรอยยิ้มของเธอก็พลันหุบลงทันทีอยากมีรักแท้ในคืน
มีอะไรให้ขอเยอะแยะ ทำไมเด็กนี่ถึงชอบขออะไรสุ่มเสี่ยงอยู่เรื่อยเลยวะ?ถามว่าให้ไหม…จะเหลือเหรอ!หมับ…เมธากรจัดให้ตามคำขอของสาวน้อยร้อนรัก มือหนาจับมั่นที่ต้นคอเธอก่อนรั้งเข้าไปฉกฉวยริมฝีปากอิ่มในเวลาเพียงเสี้ยววินาที จนคนที่เป็นฝ่ายอยากได้อยากโดนตั้งตัวไม่ทัน“อื้อ” ดวงตาที่กลมโตอยู่แล้วเบิกกว้างมากขึ้นเมื่อเขาจูบเธออย่างเร่าร้อน และรุนแรงมากกว่าตอนนั่งจูบนั่งล้วงกันในผับหลายเท่าเรียวลิ้นเขาเสาะแสวงหาดื่มกินความหวานจากปากสาวน้อยอย่างต้องการจะเก็บเกี่ยวความเย้ายวนใจนี้ให้ได้มากที่สุด เช่นเดียวกับเธอ เมื่อได้สติก็จูบตอบเขาอย่างเร่าร้อนไม่แพ้กัน ทั้งกลิ่นกายและลมหายใจอุ่นที่เป่ารดใบหน้าของขวัญเมษามันทำให้คนอ่อนประสบการณ์อย่างเธอเตลิดไปไกลถึงไหนต่อไหน ยิ่งเมื่อคนตรงหน้าดูดเม้มริมฝีปากล่างเธออย่างแรง ก่อนจะวกไปดูดดึงที่ริมฝีปากบน และหวนกลับมาตวัดเรียวลิ้นเล็กของเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่อย่างนั้นบอกตามตรงว่าขวัญเมษาเพิ่งเข้าใจคำว่า ‘น้ำเดิน’ ก็คราวนี้เดี๋ยว! ยังฟินอยู่ อย่าพึ่งหยุดทว่าจู่ๆ คนจูบเก่งก็ค่อยๆ ถอนริมฝีปากออก นัยน์ตาเขายังเต็มไปด้วยไฟปรารถนาที่ขวัญเมษาเองก็ดูออกว่าอารมณ์เ
“เดี๋ยวพี่ไปส่ง” เมธากรลงจากรถแล้วเปิดประตูให้นักร้องสาวที่ยังคงยืนนิ่งที่เดิมไม่ยอมเดินขึ้นรถเขาเสียที จนหมอหนุ่มใหญ่ต้องสรรหาข้ออ้างให้กับการกระทำของตัวเอง“ไหนๆ คืนนี้เราก็เล่นเป็นแฟนกันแล้ว แฟนคงไม่ทิ้งให้แฟนกลับคนเดียวหรอกนะ” เขายักไหล่พูดอย่างกับมันไม่ใช่เรื่องจริงจังอะไร พอเธอพยักหน้าและยอมขึ้นรถแต่โดยดี เมื่อนั้นเขาจึงลอบถอนหายใจออกมาหาเรื่องเข้าตัวจนได้ไอ้หมอเมธ!อบอุ่นชะมัด…พอได้มานั่งอยู่บนรถกับชายหนุ่มสองต่อสอง เขาไม่พูดอะไร ส่วนเธอก็ไม่พูดอะไรเช่นกัน ที่ไม่พูดเพราะเวลานี้เอาแต่เพ้อถึงการกระทำเมื่อครู่ของเขา บอกตามตรงว่าไอ้คำพูดที่สุดแสนจะกระด้างของเขามันสวนทางกับการกระทำสิ้นดี ผู้ชายคนนี้อบอุ่นแล้วก็ใจดีกว่าที่เธอคิด“แฮ่ม บ้านเมษ์อยู่ไหน” เมธากรตัดสินใจเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าหญิงสาวเอาแต่เงียบ ส่วนเขาก็ไม่รู้จะพูดอย่างไรเพราะสับสนกับตัวเองเหลือเกิน การได้อยู่บนรถกับเธอสองต่อสองมันโคตรจะอันตราย ทว่าที่เขากลับไปรับเธอนั้นไม่ใช่เพราะเปลี่ยนใจอยากพาสาวน้อยขึ้นเตียง แต่ที่ทำมันเป็นเพราะเขาห่วงเธอต่างหากอีกไม่นานไอ้นักร้องที่ชื่อธนามันก็คงจะลงจากเวทีแล้ว หากมันเห็นเธอยืนเหงาหงอย
“พี่…แต่งงานแล้วเหรอคะ”“ยัง” หมอหนุ่มขมวดคิ้วกับคำถามเธอ หากเขาแต่งงานมีเมียแล้วคงไม่มีอารมณ์มาเที่ยวสังสรรค์แบบนี้หรอก สู้อยู่บ้านนอนกกเมียคงจะดีกว่ากันเยอะ“งั้นแปลว่ามีแฟน”“เปล่า…”เหตุผลข้อแรกไม่ใช่ หมายความว่าเหตุผลที่สองอาจมีความเป็นไปได้สินะ!ดวงตากลมโตเผลอมองต่ำลงไปที่กึ่งกลางกายของชายหนุ่มโดยอัตโนมัติ ก่อนจะสบตาเขาอย่างไม่อยากจะเชื่อ ผู้ชายรูปหล่อ โพรไฟล์เลิศ ไม่มีพันธะใด แต่กลับมีปัญหาเรื่องน้องชายมันเป็นอะไรที่น่าสงสารจริงๆ นะ“มองอะไร” เมธากรมองสาวน้อยตรงหน้าอย่างไม่ไว้วางใจ โดยเฉพาะสายตาลุกลี้ลุกลนของเธอที่เอาแต่มองเป้ากางเกงเขาสลับกับมองหน้าไปมา“โอเคค่ะ หนูเข้าใจแล้ว จริงๆ ก็…ถ้าพี่หมอกมีปัญหาเรื่องอย่างว่าปรึกษาเมษ์ได้นะคะ เมษ์พอจะมีเพื่อนที่เรียนจบหมออยู่บ้าง เผื่อจะลองถามๆ ดูให้” หญิงสาวว่าพลางชี้ไปที่อาวุธลับของเขาอย่างกระดากอาย แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็มองว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติไม่ใช่เรื่องน่าอายเลยสักนิด อีกอย่างหากปัญหามันเกิดแล้วก็ควรจะแก้ไข ไม่ใช่มัวแต่เขินอายกันอยู่“ปัญหามีไว้แก้ค่ะพี่ ลองหาหมอดูไหมเพื่อชีวิตที่สดใสซู่ซ่า”“ว่าไงนะ? แล้วทำไมพี่ต้องหาหมอ
คุณหมอหนุ่มใหญ่เริ่มไม่ค่อยชอบวันนี้เสียแล้ว เพราะมันทำให้ความคิดในหัวเขาตีกันไปหมด ว่าเรื่องไหนจริง เรื่องไหนหลอกกันแน่!“พี่ว่าพี่กลับก่อนดีกว่า” เมธากรทำท่าจะลุกขึ้นยืนก่อนที่อะไรๆ จะเลยเถิดไปมากกว่านี้“เดี๋ยวค่ะ พี่เล่นเป็นแฟนเมษ์แล้วก็ต้องเล่นให้จบสิ” ขวัญเมษาจับแขนชายหนุ่มไว้แน่น มองเขาอย่างตัดพ้อ เกิดมาเธอไม่เคยเว้าวอนผู้ชายคนไหนเท่าเขามาก่อนเลยจริงๆ และเธอก็ไม่คิดเหมือนกันว่าตัวเองจะกล้าถึงขนาดนี้…กล้าที่จะเป็นฝ่ายจูบผู้ชายก่อน!หมับ…ดวงตาทรงเสน่ห์เบิกกว้างขึ้นเมื่อจู่ๆ นักร้องสาวก็เกี่ยวรั้งต้นคอเขาเข้าไปหา และกระแทกริมฝีปากอิ่มเข้ามาบดขยี้ปากเขาอย่างไม่ทันตั้งตัว เวลานี้เสียงนักร้องบนเวทีที่เคยฟังเพราะเสนาะหูได้เพี้ยนผิดคีย์ไปจนเมธากรมั่นใจว่าคนทั้งร้านคงงุนงงแน่ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับธนาคงจะมีก็แต่เมธากรและสาวร้อนรักคนนี้ที่รู้ดีว่ามันกำลังช็อกจนร้องเพลงเพี้ยน! และไม่ใช่แค่มันที่ช็อกเพราะเมธากรเองก็ไม่ต่างกัน แถมเขายังต้องต่อสู้กับปณิธานในใจและความร้อนรุ่มตรงหน้านี้อีกยิ่งเธอพยายามขบเม้มและกัดริมฝีปากเขาเบาๆ เพื่ออ้อนวอนให้เขายอมเปิดปากรับการรุกรานจากเธอ มันยิ่งทำให
“พี่หมอกเล่นสมบทบาทเหมือนกันนะคะ” น้ำเสียงขวัญเมษาเบาราวกับเสียงกระซิบที่ฟังดูเซ็กซี่และยั่วยวนที่สุดเท่าที่เจ้าของเสียงเคยรู้สึกเธอไม่ได้ตั้งใจอ่อย…และก็ไม่ได้มีนิสัยขี้อ่อย หากแต่อารมณ์บางอย่างที่เกิดขึ้นมันเป็นตัวชักนำให้เธอชื่นชอบสัมผัสเขาเสียจนไม่อาจปิดบังได้“แล้วชอบไหม” อารมณ์ของแพทย์หนุ่มใหญ่พุ่งกระฉูดเพียงแค่ได้สบตากับคนตัวเล็กที่มองเขาด้วยสายตาฉ่ำเยิ้มราวกับเจ้าตัวกำลังส่งสัญญาณให้กัน ไม่พอแค่นั้น มือเล็กที่เคยลูบไล้แผ่นอกก็เริ่มซุกซนหนักข้อขึ้นด้วยการเปลี่ยนเป้าหมายมาลูบที่หน้าขาแกร่งของเขาแทนกลายเป็นว่าเวลานี้ทั้งเขาและเธอกำลังลูบไล้ล้วงกันอย่างไม่มีใครห้ามใครและไอ้ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีที่ก่อนหน้านี้เคยมีอยู่สูงทะลุเพดานก็ได้พังทลายกลายเป็นต่ำเตี้ยเรี่ยดิน เมธากรไม่อยากสนใจอะไรอีกแล้วนอกจากสาวสวยตรงหน้าไม่สนว่าเธอคือคนแปลกหน้า ไม่สนว่ากำลังเล่นละคร เขาสนแต่อารมณ์หื่นกระหายที่กำลังถูกปลุกเร้าด้วยสายตาและสัมผัสจากคนข้างๆ เท่านั้น“ชอบค่ะ เมษ์ชอบ…มาก”สิ้นคำตอบของเธอ มือหนาก็คืบคลานเข้าไปภายในกระโปรงสั้นจิ๋ว สัมผัสกับเนื้อผ้าบางเบาที่เป็นเกราะป้องกันจุดอ่อนไหวที่
“สวยขนาดนั้น?” เออ เธอสวยขนาดนั้นเลยแหละ…แม้จะรู้อยู่เต็มอก แต่ทว่าคนเจ้าเล่ห์อย่างเขาก็อดแซวขวัญเมษาไม่ได้“เห้อ ไม่ช่วยก็ไม่ช่วย ไม่ง้อแล้ว…อ๊ะ!”ไม่ทันที่เธอจะได้เขยิบตัวออกห่างจากคนใจร้าย ลำแขนแกร่งข้างหนึ่งของเขาก็เข้ามาโอบกอดเธอไปแนบชิดกับกายแกร่งโดยที่คนตัวเล็กไม่ทันตั้งตัว“พี่หมอก” เรียวแขนข้างหนึ่งของเธอปะทะเข้ากับหน้าอกแน่นหนั่น เลยพลอยทำให้หัวใจของสาวน้อยที่ไม่เคยได้ใกล้ชิดชายใดอย่างขวัญเมษาเต้นรัวแรงจนกลัวว่าอีกฝ่ายจะได้ยินมันความตื่นเต้น วาบหวิวตามอารมณ์ทางเพศมันเป็นแบบนี้เองสินะ!“ใครบอกว่าพี่ไม่ช่วย...ถ้าจะเป็นเด็กพี่ก็ต้องนั่งใกล้พี่แบบนี้ เราโอเคไหม?” ทำไมคนอย่างเขาจะดูไม่ออกละว่าแม่สาวน้อยคนนี้ตื่นเต้นแค่ไหน เพราะไม่ใช่แค่เธอที่ตื่นเต้นแต่นายแพทย์ที่ผ่านประสบการณ์มากมายอย่างเขาก็ตื่นเต้นไม่แพ้กันก็ไอ้ร่างกายนุ่มนิ่มของเธอมันมีกลิ่นหอมเย้ายวนดีเหลือเกิน ปกติเมธากรไม่ใช่เด็กหนุ่มที่จะมาเล่นสนุกกับเรื่องพรรค์นี้ ทว่า...คืนนี้เขาขอแหกกฎตัวเองหน่อยแล้วกัน เพราะแม่กระต่ายน้อยในอ้อมกอดนั้นยั่วเก่งดีเหลือเกิน“โอเคค่ะ ขอแค่พี่หมอกช่วยเล่นให้สมบทบาทก็พอ” เอาวะ...มาถึงขนาดน
ทั้งสองนั่งดื่มนั่งดริ้งค์พร้อมกับพูดคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้กันอย่างสนุกสนาน แม้ไม่รู้ว่าเรื่องไหนเชื่อได้บ้างก็เถอะ!การพบเจอกันในวันแห่งการโกหกแบบนี้มันก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย แต่สำหรับเมธากรที่ชีวิตพบเจอแต่อะไรน่าเบื่อ ซ้ำซากจำเจทุกวี่วัน บอกตามตรงว่าการได้พบกับแม่นักร้องสาวแสนสวยคนนี้กลายเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นสำหรับเขาอย่างมากเลยทีเดียว!โดยเฉพาะรอยยิ้มที่แสนสดใส น้ำเสียงทรงเสน่ห์ชวนเคลิบเคลิ้มที่คอยเล่าเรื่องราวของตัวเองให้เขาฟังตกลงเด็กบ้านี่ตั้งใจจะอ่อยโคแก่อย่างเขาหรือไงกันนะ! นั่น…ดูสายตาหวานเยิ้มที่กำลังจ้องมองเขาอย่างหลงใหลในตอนนี้สิ“ที่จริงพี่หมอกน่าจะมาที่นี่บ่อยๆ นะคะ” ขวัญเมษาว่าพลางยกแก้วเหล้าแก้วที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้กระดกเข้าปาก“ทำไม เราจะได้มีเพื่อนดื่มงั้นเหรอ”“ใช่ค่ะ” หญิงสาวตอบไปตามความจริง“ต่อให้ไม่มีพี่ คนอย่างเมษ์ก็น่าจะมีคนเสนอตัวดื่มเป็นเพื่อนเยอะแยะไม่ใช่หรือไง นักร้องสาวมากเสน่ห์อะไรทำนองนั้น” เมธากรยักไหล่ ที่เขารู้ก็เพราะตอนที่เธออยู่บนเวที สายตาหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ต่างมองแม่นักร้องสาวราวจะกลืนกินก็ไม่ปาน ไม่เว้นแม้แต่ตัวเขาเองที่เจอเธอครั้งแรก
“อืม เคยเป็นนักร้องให้กับวงที่มหาลัยมาก่อน” คนโดนเรียกว่า ‘ลุง’ ตอบเธอเสียงสะบัด ทั้งที่เขาก็แสดงออกให้เห็นแล้วว่าตัวเองยังหนุ่มยังแน่นแล้วก็แรงดีไม่ต่างจากวัยรุ่นอย่างเธอแค่ไหน แต่มิวายยังเรียกเขาว่าลุงอยู่ได้ ฟังแล้วมันแสลงหูชะมัด!“ว้าว โคตรเท่เลยค่ะ ดูสิ มีแต่สาวๆ มองลุง” ไม่เว้นแม้แต่เธอ ที่ไม่สามารถละสายตาจากลุงคนนี้ได้เลยเพียงสักเสี้ยววินาที“นี่ ขอถามอะไรหน่อยสิ” เอาวะ…ถ้าอยากดื่มกันยาวๆ ก็ต้องปรับความคิดกันใหม่หน่อย“คะ?” คนตัวเล็กเอียงคอมองเขาด้วยความสงสัย“ผมดูแก่ขนาดนั้นเลยหรือไง ดูให้เต็มตา หล่อเข้ม กล้ามแน่น แรงดีไม่มีตกขนาดนี้ยังจะเรียกว่าลุงอีกเหรอ? เผลอๆ ไอ้หนุ่มน้อยคนอื่นมันยังไม่แซ่บเท่าผมเลยด้วยซ้ำ” เมธากรพูดออกมาอย่างหัวเสีย แต่แทนที่หญิงสาวจะสำนึกผิดรีบขอโทษ เธอกลับมองมาด้วยตาโตๆ คู่นั้น แถมยังกลั้นยิ้มราวกับว่าเรื่องที่พูดเมื่อกี้มันตลกสิ้นดีตลกตรงไหนวะ! เรื่องอายุอานามและความแก่มันไม่ใช่เรื่องพูดเล่นเลยสักนิดนะยัยเด็กบ้า“ตลก?” เขาปั้นเสียงเข้มถามกลับด้วยความดุดันไม่ต่างจากตอนดุนักศึกษาแพทย์ จนเธอต้องหุบยิ้มในทันที“โอเคๆ ขอโทษค่ะ หนูชื่อขวัญเมษานะคะ จะ