๒๙ความจริงเป็นสิ่งที่ต้องเผชิญหลายวันต่อมาพณณกรได้รับอนุญาตให้ไปส่งสองแฝดที่โรงเรียนยังความดีใจแก่เด็กชายภูตะวันและเด็กหญิงศศินาเป็นอย่างยิ่งโดยไม่รู้สถานะที่แท้จริงว่าบิดาซึ่งเคยถามถึงคือคุณลุงแสนใจดีในสายตาของเด็กน้อยนั่นเองดวงตาคมชะเง้อคอยอยู่หน้าร้านหวังเห็นลูกเดินลงมาพร้อมหญิงที่เฝ้าคิดถึงทว่าต้องผิดหวังเมื่อบานเย็นจูงหลานลงมาแทนใบหน้าคมยกยิ้มให้บุตรขณะที่เด็กหญิงรีบวิ่งมาจับมือคุณลุงพลางยิ้มแก้มปริไม่ต่างจากเด็กชายซึ่งคุ้นเคยกับร่างสูงรีบคว้ามืออีกข้างที่ว่างทันที"ป่ะ ไปโรงเรียนกัน” เขาค้อมศีรษะให้บานเย็นแล้วพาลูกเดินออกจากร้านไม่วายหันมามองหวังจะเห็นใบหน้าหวานก็ต้องผิดหวังพาลูกไปยังโรงเรียนเตรียมอนุบาลซึ่งอยู่ใกล้บ้านแทนบุลลาที่แอบอยู่บนชั้นสองก็ค่อยๆเปิดม่านแอบมองเขาอุ้มลูกขึ้นรถก่อนจะรีบปิดม่านลงเพราะใบหน้าคมเงยขึ้นมามองอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยก่อนจะถอนหายใจโล่งอกเมื่อคิดว่าเขาคงไม่เห็นตนหลายวันที่ผ่านมาถึงจะตกลงกับเขาแต่ดูเหมือนว่าชายหนุ่มจะไม่ยอมทำตามข้อตกลงเรื่องสถานะ เขาเริ่มใช้ความเป็นพ่อเป็นข้ออ้างมายังร้านของหล่อนตามใจชอบ ทั้งมาเสิร์ฟอาหารช่วยจนหลายวันก่อนมีลูกค้าผ
๓๐ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องเอาด้วยกลหนึ่งสัปดาห์ผ่านไปโดยที่แผนการยังไม่เดินหน้าแม้แต่น้อยเนื่องจากปัจจัยสำคัญที่ขัดขวางคือบิดามารดาของพณณกรที่ตอนนี้ได้ทำการซื้อบ้านจัดสรรใกล้อาคารพาณิชย์ที่เขาอาศัยโดยให้เหตุผลว่าต้องการใกล้ชิดกับหลานทำเอาร่างสูงต้องกุมขมับอีกครั้งเช้าวันเสาร์ที่แสนสดใสสำหรับเด็กน้อยกลับมืดมนในความคิดของสัตวแพทย์หนุ่ม เขาลางานในฟาร์มโดยจัดแจงหน้าที่ให้คนงานเป็นที่เรียบร้อยเพื่อปฏิบัติการโผล่หน้ามาให้ว่าที่เมียในอนาคตเห็น“รับอะไรดีครับ" พนักงานจำเป็นเดินถือสมุดขนาดเล็กไปถามเมนูจากลูกค้าหญิงสองคนซึ่งเพียงแค่สบดวงตาคมก็ทำเอาแก้มแดงอย่างไม่อาจห้ามได้ เขาว่ายิ่งอายุเยอะเสน่ห์ยิ่งแรงท่าจะจริงเพราะตอนนี้ร้านอาหารคลาคล่ำไปด้วยลูกค้าสาวจนแทบไม่มีโต๊ะให้นั่งบุลลาที่เพิ่งพาลูกลงมาเล่นข้างล่างชะงักขาพลันใบหน้าบึ้งตึงทันทียามเห็นรอยยิ้มกว้างมอบให้ผู้หญิงที่กำลังสั่งอาหาร เคยไล่เขาแล้วครั้งหนึ่งแต่ร่างสูงก็หน้าหนาเกินทนเพราะวันต่อมายังเอาใบหน้าหล่อเหลาพร้อมแววตาทรงชวนละลายมาให้เห็น“รอสักครู่นะครับ” รับรายการอาหารแล้วไปยื่นให้บานเย็นที่ขะมักเขม้นกับการเป็นแม่ครัวไม่นานคุณพสุธาก็เ
๓๑ไม่ได้ใจเธอสักทีร่างสูงที่อยู่ในชุดคนไข้ของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังประจำอำเภอคอยมองประตูรอหญิงสาวผู้เป็นที่รักมาเยี่ยมตามคำสัญญาที่ให้ไว้ทว่าเวลาเคลื่อนคล้อยไปบ่ายกว่าแล้วหล่อนกลับไม่ปรากฏกายราวกับไม่เคยมาหาจนคนใจร้อนทนไม่ไหวกระชากสายน้ำเกลือออกจนกองทัพซึ่งมองดูรีบเข้าไปห้าม"เฮ้ยไอ้เอิร์ธ มึงจะทำอะไร"รีบเข้ามาขวางเอาไว้ทันทีเมื่อเห็นว่าสัตวแพทย์หนุ่มจะก้าวออกจากห้องแห่งนี้"กูจะไปหาบัว บางทีอาจเกิดอะไรขึ้นกับเมียกูก็ได้"สีหน้าเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัดจนกองทัพต้องเอ่ยปรามพร้อมขันอาสาออกไปดูให้เอง"ไม่ต้อง มึงอยู่ที่นี่ห้ามไปไหน เดี๋ยวกูไปหาคุณบัวแล้วจะพามา"ใบหน้าซีดเซียวจากอาการไข้เพราะโหมงานหนักยังแสดงความกังวลความจริงพณณกรเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเนื่องจากเป็นไข้เพราะโหมงานหนักทั้งวันทั้งคืนแทบไม่ได้พักผ่อนจึงล้มหมอนนอนเสื่อเขาจะไม่ลงทุนขนาดนี้เลยถ้าทางโรงพยาบาลยอมให้ยืมห้องทว่าผู้บริหารคนใหม่ไม่อ่อนข้อให้กลุ่มนักธุรกิจหากไม่เจ็บป่วยก็ไม่สามารถนอนโรงพยาบาลได้แล้วคนอย่างเขาหรือจะยอม ชายหนุ่มจึงทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้เข้ารับการรักษาแผนที่วางเอาไว้ให้ร่างบางใจอ่อนจึงได้เริ่มขึ้น"แต่
๓๒ทุกอย่างเป็นใจการพูดว่าจะเดินหน้าจีบของพณณกรทำให้บุลลาหนีหน้าเขาไปหลายวัน ทั้งงานที่ฟาร์มก็ยุ่งจนแทบปลีกตัวมาไม่ได้จึงไร้ความคืบหน้าระหว่างความสัมพันธ์ของสองหนุ่มสาวสองเดือนผ่านไปโดยที่ชายหนุ่มทำได้แค่เพียงเอาดอกไม้มาวางที่หน้าร้านพร้อมเขียนคำว่ารักและลงชื่อเอาไว้แต่เท่านั้นก็พอจะทำให้หล่อนเขินอายไปได้หลายวันแล้วสองแฝดเล่าให้แม่ฟังว่าตอนนี้ตนมีลุงเอิร์ธเป็นพ่อจะเอาไปเล่าให้เพื่อนฟังว่าพ่อดูดีและเท่มากแค่ไหน“พ่อเอิร์ธขี่ม้าเก่ง”ขณะนั่งกินข้าวอยู่ชั้นสองของบ้านโดยมีบุลลานั่งปอกส้มเพื่อให้สองแฝดกินหลังรับประทานอาหารเย็นเสร็จ“หล่อมากด้วย”ส่งรับกันอย่างดีราวถูกเตรียมมาโดยเฉพาะจนหล่อนต้องหรี่ตามองเพื่อจับผิด“แล้วมาบอกแม่ทำไม หือ” ลอกใยส้มออกเพื่อง่ายต่อการกินมองหน้าหนูจันทร์ที่เคี้ยวข้าวจนแก้มพองอย่างเอ็นดู“ก็พ่อเอิร์ธบอกให้ชมต่อหน้าแม่บัว” เจ้าเด็กน้อยไม่เก็บความลับที่คุณพ่อไหว้วานเลยสักนิดกลับบอกโต้งๆจนคนพี่ต้องรีบจับแขนแล้วเอานิ้วชี้ขึ้นจุ๊ปากเป็นการบอกให้เงียบ เด็กหญิงรีบวางช้อนยกมือขึ้นปิดปากตนเองทั้งเบิกตากลมโตให้กว้างขึ้นอย่างตกใจบุลลาหัวเราะร่วนขำกับท่าทีนั้นไม่มีอาการ
ตอนพิเศษ..ทวงคืนพี่เอิร์ธให้พี่ทัพสวัสดีชาวแฟนเพจบ้านเอิร์ธทัพค่ะ หลังจากที่เรารับรู้มาสักพักว่าพี่เอิร์ธได้มีเจ้าของเป็นตัวเป็นตนแต่ไม่ขอเอ่ยนามน้องนีคนนั้นแล้วกัน เราพยายามเงียบมาโดยตลอดแต่สิ่งที่ทำให้เราต้องออกมาพูดเพราะเห็นใบหน้าอันเศร้าสร้อยของพี่ทัพซึ่งเรายอมไม่ได้! พวกเราจะต้องทวงคืนพี่เอิร์ธกลับมาให้พี่ทัพค่ะ ใครมีภาพหรือโมเม้นท์อะไรสาดมาเลยค่ะ เดี๋ยวจะทำการรวบรวมแล้วนำไปให้พี่ทัพเอง “ดูไรน่ะ” หนุ่มหล่อของห้องเดินถือขนมมาชะโงกดูโทรศัพท์ของผู้หญิงร่วมห้องเพราะเห็นแวบๆ ว่าเป็นรูปของตนเองกับเพื่อนสนิทอย่างกองทัพที่มัวแต่สนใจเกมในโทรศัพท์จนไม่เป็นอันทำอะไร “เปล่าสักหน่อย” เธอกำลังจะปิดหน้าจอแต่ร่างสูงก็ไว้กว่ารีบคว้าเอาไว้ยกขึ้นมาอ่านอย่างถี่ถ้วนทำเอาเพื่อนผู้หญิงทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก อยู่ห้องเดียวกันมาเข้าปีที่สองแล้วเธอยังใจเต้นให้กับความหล่อของเพื่อนร่วมห้องคนนี้อยู่ตลอดเวลา ไม่อยากยอมรับหรอกว่าแอบหลงรักผู้ชายที่ไม่มีวันมองตนเองเกินสถานะเพื่อนร่วมห้อง “โอ้โห จริงจังกันขนาดนี้เลยเหรอ” ดวงตาเรียวไล่อ่านคอมเม้นอย่า
ตอนพิเศษ...ผู้หญิงเลี้ยวซ้าย ผู้ชายเลี้ยวขวาภายในรถยนต์คันหรูซึ่งแล่นไปตามถนนในเมืองหลวงที่แม้จะเปิดเพลงรักคลอเสียงเบาก็ยังไม่สามารถทำลายบรรยากาศอึมครึมที่คู่รักมีให้กันได้ หนุ่มนักศึกษาคณะสัตวแพทย์มีใบหน้าเรียบเฉยในขณะที่ผู้หญิงข้างกายก็ไม่ต่างกันนักมือหนาหมุนพวงมาลัยเลี้ยวเข้าเติมน้ำมันเมื่อเห็นว่ามันใกล้หมดโดยไม่ได้เอ่ยอะไรกับผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่าคนรัก“เต็มถัง” ลดกระจกบอกพนักงานโดยไม่แม้แต่จะหันหน้าไปมองด้วยซ้ำทำเอาหญิงสาวที่มาใหม่โค้งศีรษะรับคำก่อนจะเดินไปทำหน้าที่ของตนเองด้วยท่าทีเงอะงะจนคนที่มองอยู่ต้องเดินมาแย่งงานด้วยความรู้สึกไม่ชอบใจ“จะไปทำอะไรก็ไป ตรงนี้ฉันทำเอง” ร่างบางตอบรับแล้วเดินเลี่ยงไปอีกทางทันทีในขณะที่ชายหนุ่มบนรถหันไปมองหน้าแฟนสาว“เลิกงี่เง่าสักทีได้ไหมปลาย ก็บอกแล้วไงว่ามันไม่มีอะไร” ในที่สุดคนทนไม่ไหวก็เป็นเขาซึ่งไม่ถนัดในการเล่นสงครามเย็นแบบนี้เลยสักนิดมันพาลจะให้หงุดหงิด“ใครกันแน่ที่งี่เง่า ปลายแค่ขอให้เอิร์ธเลิกไปงานอาสาบ้าบออะไรนั่น เอิร์ธทำให้ปลายไม่ได้เลยเหรอ” หันไปจ้องตาเขาด้วยอารมณ์โกรธไม่ต่างกันก่อนจะยื่นบัตรเครดิตให้พนักงาน“บอกไปหลายครั้งแล้วว
ตอนพิเศษ...น้องใหม่ครับผมวันแรกของการรับน้องที่คณะสัตวแพทย์ศาสตร์เหล่านิสิตนั่งอยู่หน้าอาคารเรียนกันแต่เช้าเพราะรุ่นพี่นัดซึ่งแต่ละคนก็ใส่เสื้อยืดสีประจำมหาวิทยาลัยห้อยป้ายชื่อเล่นไล่ตามสีที่โดนพี่ปีอื่นกำหนดให้เพื่อแบ่งเป็นกลุ่มตามกิจกรรมที่ได้เล่น“มาครบรึยังคะ” พี่ปีสามเดินมาด้านหน้าแล้วตะโกนถามน้องซึ่งแต่ละคนก็มองหน้ากันเลิ่กลั่กเนื่องจากไม่รู้ว่ามาครบหรือเปล่า“ยังค่ะ” ปีสองที่ดูแลน้องปีหนึ่งโดยเฉพาะเอ่ยตอบจนรุ่นพี่ต้องดูนาฬิกา“นี่มันเจ็ดโมงครึ่งแล้วนะคะ คุณนัดน้องกี่โมง” เมื่อเล่นงานน้องไม่ได้จึงเอ่ยถามพี่แทน“นัดเจ็ดโมงค่ะ” เอ่ยตอบเสียงเบาจนพี่แต่ละคนถอนหายใจเนื่องจากเวลาที่กำหนดใกล้มามากแล้วกลัวกำหนดการจะคลาดเคลื่อน“น้องมีทั้งหมดกี่คน”“น้องปีหนึ่งมีทั้งหมด 73 คนค่ะ ผู้หญิง 44 คน ผู้ชาย 29 คนค่ะ” ตอบรายละเอียดจนคนฟังพยักหน้าแล้วเริ่มให้น้องเริ่มนับเลขว่าตอนนี้มีกี่คนแล้ว“71”“72” แต่ละคนนับตัวเลขจนกระทั้งหยุดที่คนสุดท้ายคือ 72 นั่นแสดงว่าเหลือน้องอีกเพียงหนึ่งคนเท่านั้นที่ยังไม่มา“ขออนุญาตครับ!”ร่างสูงซึ่งวิ่งเข้ามาใหม่เรียกความสนใจจากคนทั้งคณะให้หันไปมอง ผู้หญิงหลาย
ตอนพิเศษ...ถ่ายแบบครอบครัว..ไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจเลยสักนิด!ร่างสูงนั่งกอดอกอยู่ภายในสตูดิโอถ่ายภาพซึ่งเป็นห้องหนึ่งในบริษัทของบิดาตนเอง ดวงตาคมมองไปภายในฉากด้วยความรู้สึกร้อนรุ่มในอกแต่ต้องอดทนไว้จนเขาต้องถามตัวเองว่า..จะทนไปเพื่ออะไรในเมื่อผู้หญิงและเด็กฝาแฝดที่กำลังเป็นนางแบบนายแบบขณะนี้คือเมียกับลูกของเขา!"ดีมาก คราวนี้ขอมองตาหวานซึ้งนะ”เท่านั้นยังไม่พอตากล้องที่สั่งเสียงหวานยังเป็นบิดาของเขาอีกด้วย พ่อที่ไหนจ้างนายแบบมาเล่นเป็นครอบครัวกับเมียคนอื่นวะใบหน้าคมบึ้งตึงจนไม่มีใครกล้าเข้าไปใกล้เพราะปล่อยรังสีอำมหิตตลอดเวลา กว่าหนึ่งชั่วโมงที่ผ่านไปแต่ละคนแทบไม่เป็นอันทำงานต้องคอยหันมามองว่าพ่อเจ้าประคุณจะลุกมาพังฉากเมื่อไหร่หรืองานจะล่มตอนไหน"โอเคดีมากเลย เดี๋ยวเปลี่ยนไปถ่ายชุดอื่นนะ” คุณพสุธาเอ่ยขึ้นพลางหันหลังเพื่อไปดูภาพที่จอคอมพิวเตอร์ก็ต้องชะงักเพราะเห็นบุตรชายตนเองจ้องเขม็งราวจะฆ่าแกงกันเสียอย่างนั้น“มองอย่างนั้นหาเรื่องเหรอ”พณณกรไม่ตอบบิดาแต่ลุกขึ้นเดินไปหาลูกตนเองที่ตอนนี้ขึ้นอนุบาลหนึ่งที่โรงเรียนดังในตัวอำเภอ สองแฝดดูเหมือนจะมีความสุขกับการมาเมืองหลวงครั้งแรกเมื่อวานก็พ