EP.24ตอนนี้พี่นธีนั่งทำงานอยู่ตรงโซฟา เห็นเขาตั้งใจแบบนั้นฉันจึงไม่อยากกวนแต่เส้นผมที่เพิ่งถูกสระของเขาดูจะน่ารำคาญไม่น้อยเลยเพราะมันเกะกะไม่เป็นทรงจนต้องเสยมันขึ้นหลายรอบ ฉันเห็นแบบนั้นจึงเดินไปหยิบยางรัดผมมาและนั่งบนโซฟาซึ่งเขานั่งอยู่บนพรมด้านล่าง"มีอะไร" พี่นธีหันมาถาม"เนยจะมัดให้ มันจะได้ไม่เกะกะไง" ฉันแอบกลัวว่าจะไปวุ่นวายให้เขารำคาญเพิ่มเล็กน้อย แต่เขาแค่มองยางรัดผมในมือเมื่อเขาไม่ว่าอะไรฉันก็เอื้อมมือไปรวบผมด้านบนของเขาขณะที่เจ้าตัวนั่งเงียบเงยหน้ามองฉันอยู่ พอมัดเสร็จฉันก็ยิ้มออกมาแล้วหัวเราะเบา ๆน่ารักเหมือนเด็กสามขวบเลยแต่เป็นเด็กหน้ามึนนะ"ขำอะไร" คนหน้ามึนถามต่อแล้วมองฉันอย่างจับผิด คิ้วเข้มขยับเข้าหากัน"เปล่าค่ะ พี่นธีน่ารักดี" ฉันอมยิ้มตอบกลับไปแล้วหยัดตัวลุกขึ้น ก่อนจะตกใจเมื่อร่างเซถลาลงไปคร่อมตัวเพราะมือหนาที่ดึงรั้งข้อมือความนุ่มที่สัมผัสได้ด้วยจมูกทำให้รีบดันตัวออกแต่พี่นธีกลับโอบเอวฉันไว้พลางเอนพิงกับโซฟาอีกด้าน"หายไข้ยัง" "คะ ? ยะ... ยังค่ะ" สายตาเป็นประกายนั่นทำให้ฉันต้องตอบด้วยความหวั่นใจ "..." มือหนาเลื่อนมาแตะหน้าผากฉันก่อนจะยกยิ้มมุมปาก ฉันอยากเห็
EP.25ในที่สุดก็ถึงวันที่เราต้องออกเดินทาง ฉัน ใบเฟิร์น และพี่คิวมากับรถพี่นธี ญานินไปกับพี่ทศกัณฐ์ ส่วนพี่ฮ่องเต้น่าจะมากับผู้หญิงอีกคันเพราะได้ยินพี่คิวคุยกับพี่นธีแบบนั้นทางขึ้นเขาค่อนข้างคดเคี้ยวและชันมาก แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของฉันเลยไม่น่ากลัวเท่าไร อีกอย่างพี่นธีก็ขับรถเก่งฉันก็เลยสบายใจ"เราจะจองบ้านหนึ่งหลังนะ เผื่อเอาไว้ อีกอย่างสะดวกตอนใช้ห้องน้ำด้วย แล้วก็มีเต็นท์อีกสี่หลัง" ใบเฟิร์นอธิบายให้ทุกคนฟังหลังจากที่เรามาถึงอุทยาน ที่นี่เป็นป่าสนมีมุมให้ถ่ายรูปสวย ๆ เยอะมาก"ก็ดีเหมือนกัน มึงกับกูใช่ไหมไอ้ธี" พี่คิวพยักหน้าเห็นด้วยก่อนจะหันไปถามพี่นธีที่ทำหน้านิ่งอยู่ตรงที่นั่งยาว ๆ อีกฝั่ง"ทำไมต้องกูกับมึง" พี่นธีพูดเสียงเรียบ"หรือมึงจะไปดีลกับน้อง ๆ" พี่คิวถามแล้วหันมามองทางฉันกับใบเฟิร์นพร้อมกับรอยยิ้ม "พี่ล้อเล่น""..." ฉันหลุดขำออกมาแต่พอหันไปสบสายตานิ่ง ๆ ของพี่นธีก็ต้องเบือนหน้าหนีไปเพราะอาจจะโดนจับจ้องจากคนรอบตัว แล้วเขาก็หยิบกระเป๋าของตัวเองเดินออกไปจากตรงนี้ไม่พูดไม่จาแล้วพวกเราก็มากางเต็นท์กันที่ลานกว้าง นอนกันเป็นคู่ ญานินกับพี่ทศกัณฐ์ พี่ฮ่องเต้กับพี่ใบชาผู้หญิงที
EP.26พอเริ่มดึกมันก็เริ่มหนาว เริ่มเมาและมึนนิดหน่อย ทั้งที่พี่นธีก็ดื่มอีกครึ่งแก้วที่ฉันโดนแล้ว"ไปเข้าห้องน้ำนะ" ฉันหันไปบอกใบเฟิร์นแล้วลุกขึ้นจากตรงนั้น ตอนลุกมันก็มีเซเล็กน้อยแต่คงไม่มีใครเห็นหรอกฉันเดินมาจนถึงบ้านหลังที่เช่าไว้ก็รีบเข้าห้องน้ำและแปรงฟันจนเสร็จเรียบร้อยแล้วออกมา"ตะ... ตกใจหมด" พอออกมาจากห้องน้ำก็แทบจะหัวใจวายเพราะพี่นธีมายืนกอดอกจ้องเขม็งอยู่หน้าห้องน้ำ "พี่มาตอนไหนคะ""..." เขาขมวดคิ้วมองมาด้วยสายตาดุ ๆ "มาคนเดียวทำไม""มันใกล้แค่นี้เนยไม่อยากรบกวนใคร" ฉันตอบแล้วยิ้มให้เขา "พี่มาเข้าห้องน้ำเหรอ""เปล่า" เขาตอบแล้วขยับตัวเข้ามาใกล้"มีอะไรกับเนยหรือเปล่า" ถ้าไม่มาเข้าห้องน้ำก็แปลว่ามาหาฉัน"คืนนี้... ไม่ได้นอนด้วย" เขาพูดออกมาแบบนั้นแต่หน้านิ่งมาก ไม่รู้ว่าเขากำลังรู้สึกยังไง"คะ""มานี่" เขาสั่งเสียงเรียบก่อนจะดึงรั้งฉันเข้าไปใกล้แล้วทาบทับริมฝีปากลงมาบดขยี้ริมฝีปากอวบอิ่มของฉัน มือหนารั้งศีรษะเข้าไปใกล้อีกและออกแรงกดท้ายทอยเอาไว้จนริมฝีปากฉันแทบจะฝังอยู่กับปากของเขากลิ่นแอลกอฮอล์ลอยเข้ามาในจมูกผสมกับกลิ่นมิ้นท์จากยาสีฟันของฉันปะปนกันไปหมด เขายังคงบดจูบและค่
EP.27หลายวันต่อมา"เปิดช้าจังวะ มึงมัวทำอะไร""...""แล้วมึงทำเสร็จยังงานที่ลูกค้าสั่ง กูจะได้เอาไปลงระบบกูต่อ ฮะ... เฮ้ย !""อย่าเสียงดังได้ไหม" "นั่นมันน้องนิเนยไม่ใช่เหรอ" บทสนทนาของคนสองคนดังเข้ามาในโสตประสาททำให้ฉันตื่นขึ้นมาจากภวังค์ ค่อย ๆ ขยับเปลือกตาขึ้นมาช้า ๆ รู้สึกเหมือนยังหลับไม่เต็มอิ่มเลย แสดงว่าเช้าอยู่เหรอ แล้วใครมา..."มึงบอกกูมาว่าตั้งแต่ตอนไหน" เสียงของพี่คิวนี่ !ฉันหรี่ตามองคนที่ยืนเอามือเท้าเอวมองพี่นธีสลับกับฉันแต่เขาคงไม่รู้ว่าฉันตื่นแล้ว "เสือก" พี่นธีตอบสั้น ๆ เหมือนรำคาญแล้วเดินไปที่โต๊ะทำงาน ก่อนจะหันไปพูดเรื่องงานต่อ "กูทำเสร็จแล้วเดี๋ยวทำไฟล์ส่งให้ ไหนแผงวงจรที่สั่ง""อยู่ในกล่อง" พี่คิวจำใจเลิกสงสัยแล้วเดินไปคุยเรื่องงานกับพี่นธี ส่วนฉันก็แกล้งหลับต่อเพราะไม่กล้าเผชิญหน้ากับพี่คิวตอนนี้เริ่มมีคนรู้เรื่องของเราแล้วตั้งแต่วันที่ไปเที่ยวดอยและบ้านของใบเฟิร์น แต่ไม่รู้ว่าญานินกับใบเฟิร์นจะรู้หรือเปล่าไม่นานพี่คิวก็ออกจากห้องไป ฉันจึงค่อย ๆ ขยับตัวออกจากผ้าห่มผืนหนาสีเทาเข้ม วันนี้เขาตื่นเช้ามาทำงานอีกแล้ว เพิ่งเคยเห็นมุมนี้ของเขาช่วงสองสามวันที่ผ่านม
EP.28ฉันมาถึงหน้าห้องประชุมกับใบเฟิร์นเกือบบ่าย ตอนนี้มีคนอยู่ด้านในแล้วจึงผลักประตูเข้าไปและขออนุญาตตามมารยาท"เชิญครับ น้อง... นิเนย" รุ่นพี่ผู้ชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่หัวโต๊ะพูดขึ้นแล้วผายมือให้ เขาทำท่าครุ่นคิดชื่อฉันอยู่หลายวินาทีก่อนจะพูดและยิ้มออกมา"ค่ะ"ถ้าจำไม่ผิดพี่เขาน่าจะเป็นนายกสโมสรนักศึกษา ชื่อว่าพี่โก้ หน้าตาดีมีความสามารถเรียนอยู่ปีสี่คณะบริหารตอนนี้ใบเฟิร์นรออยู่ร้านกาแฟใต้ตึกเรียนรวมเพราะไม่อยากเข้ามาในห้องประชุมให้คนอื่นมอง แล้วทุกคนที่เกี่ยวข้องก็เริ่มทยอยกันเข้ามา ผู้หญิงที่จะถ่ายกับฉันมีอยู่สามคนเรียนอยู่ปีหนึ่งสองคนและรุ่นพี่ปีสองอีกคน แล้วยังมีผู้ชายอีกสี่คนเป็นรุ่นพี่ปีสองและปีสามต่างคณะกันไป จนเวลาบ่ายโมงคนก็มาเกือบครบ เหลือช่างภาพอีกคนที่ได้ยินพี่โก้ถามถึง สักพักประตูก็เปิดเข้ามาคิดว่าคงเป็นคนนั้นร่างสูงที่เดินเข้ามาทำให้ฉันนิ่งค้างไปครู่หนึ่ง แล้วเจ้าของใบหน้าลูกครึ่งก็หันมาสบตากับฉันก่อนจะยิ้มออกมา 'พี่ฟิน' คนที่ขอไลน์ฉันวันนั้น "มากันครบแล้ว พี่จะเริ่มคุยรายละเอียดของงานนะครับ" แล้วพี่โก้ก็เริ่มคุยงานสีหน้าจริงจัง "เสื้อกีฬาที่เราจะให้น้อง ๆ ถ่ายมีส
EP.29"..." พอยัยแพรวาออกไปแล้วพี่นธีก็หันมาเอาเรื่องฉันทันที "พามาทำไม""เนยเปล่านะ ยัยนั่นตามมาเอง" "..." เขาไม่พูดอะไรต่อเดินหันหลังกลับไปทำงานของตัวเองเงียบ ๆ ฉันจึงเดินไปนั่งเล่นกับปุยนุ่นเพื่อไม่ให้กวนเขา ไม่ได้เล่าเรื่องของแพรวาก่อนหน้านี้ให้เขาฟังเพราะกลัวจะหงุดหงิดกว่าเดิม เอาไว้อารมณ์ดี ๆ ค่อยเล่าให้ฟัง"ปุยนุ่น อย่าไปกวนพ่อนะ เขาอารมณ์ไม่ดี" ฉันเปลี่ยนสถานะของพี่นธีเป็นพ่อจำเป็นของปุยนุ่นไปแล้วเมี้ยว ~ เจ้าปุยนุ่นร้องออกมาเหมือนรับฟังแล้วคลอเคลียฉันอย่างที่ชอบทำก่อนจะเดินนวยนาดไปนอนบนพรมในห้อง คนก็เย็นชาแมวยังจะเย็นชาอีก ฉันจะคุยกับใครล่ะทีนี้ FIN : ไงขณะที่กำลังมองตามปุยนุ่นสลับกับมองพี่นธีที่นั่งตั้งหน้าตั้งตาทำงาน เสียงไลน์ก็ดังขึ้นมา FIN : เล่นเป็นหรือเปล่าฉันขมวดคิ้วมองข้อความนั้นแล้วตอบกลับไปสั้น ๆ และเขาก็ตอบกลับมาทันทีNinoey : คะ ?FIN : วันก่อนเห็นบอกไม่เล่นไลน์ นึกว่าเพิ่งหัดเล่น Ninoey: (สติ๊กเกอร์เกอร์หน้ามึน)ฉันเก็บมือถือหลังจากที่ตอบข้อความนั้นไปก่อนจะเดินไปนั่งเก้าอี้ข้างพี่นธี"มีอะไรให้เนยช่วยไหม""ไม่มี ไปนอนเล่นไปอย่าเพิ่งกวน" เขาหันมามองแล้วบอ
EP.30หลายวันต่อมาในที่สุดวันนี้ก็วันเสาร์และฉันบอกกับพี่นธีว่ามีนัดคุยเรื่องกิจกรรมงานสปอร์ตเดย์กับพี่ ๆ ในคณะ และบอกเผื่อเอาไว้แล้วว่างานนี้ไม่มีญานินไปด้วยเพราะยัยนั่นแสดงคนละชุดกับฉันพอมาถึงที่หมายฉันก็ถูกเรียกให้ไปแต่งหน้าทำผมกับพี่ ๆ สาวสองซึ่งมากความสามารถทุกคน การแต่งหน้าวันนี้ไม่ได้จัดเต็มแต่เน้นธรรมชาติเพราะชุดที่ถ่ายเป็นชุดกีฬา ผมสีน้ำตาลอ่อนของฉันถูกรวบไว้อย่างลวก ๆ แต่ตั้งใจ ดูแล้วเหมือนไปออกกำลังกายจริง ๆเมื่อถึงเวลาเจ็ดโมงพี่ฟินก็มารับฉันกับพี่ฟิวไปถ่ายที่สวนสาธารณะของมหาวิทยาลัย เพราะที่นี่คือจุดสำคัญจุดหนึ่ง เป็นสถานที่ที่ใครหลายคนชอบมาออกกำลังกายช่วงเย็น มีน้ำพุขนาดใหญ่อยู่ตรงกลาง มีอ่างเก็บน้ำและสนามหญ้ากว้าง ๆ ให้พักผ่อนหย่อนใจ"เดี๋ยวเราถ่ายภาพเดี่ยวกับภาพคู่ไปพร้อม ๆ กันเลยนะ" พี่ฟินบอกแล้วเตรียมกล้อง ฉันจึงคุยอะไรเรื่อยเปื่อยกับพี่ฟิวไป พี่ฟิวเป็นคนคุยเก่งแต่ไม่ได้ดูเจ้าชู้อะไรซึ่งฉันสามารถอยู่คุยได้แบบไม่อึดอัด ต่างกับคนที่ชอบส่งสายตาหรือคำพูดเจ้าเล่ห์ซึ่งฉันจะไม่ค่อยชอบนักแล้วเราก็เริ่มถ่ายกันตั้งแต่แปดโมงเช้าไปจนถึงสิบโมง พักและย้ายไปถ่ายอีกที่ ก่อนที่
EP.31"อื้อ !~"มือหนาบีบแก้มฉันแน่นแล้วกระแทกริมฝีปากร้อนใส่ริมฝีปากที่เผยอออกเพราะแรงบีบ ก่อนจะแทรกลิ้นร้อนเข้ามาดูดกลืนความหวานในโพรงปากอย่างเอาแต่ใจกลิ่นคาวเลือดลอยแตะจมูกและรับรู้รสชาติความเค็มของมันที่ปะปนอยู่ในปากได้เป็นอย่างดี แต่เขาก็ยังจูบฉันรุนแรงและเร่าร้อนอย่างต่อเนื่องฉันใช้กำปั้นเล็กที่ทุบไหล่กว้างเพราะอยากหลุดพ้นจากความเจ็บ แต่กลับถูกรวบเอาไว้ทั้งสองข้างในเวลาอันรวดเร็วและเขายังบีบแน่นจนฉันรู้สึกชาที่ปลายนิ้ว "อึก อื้อ ~" ตอนนี้น้ำตาฉันไหลอาบเต็มสองแก้มจนเปียกชุ่มแต่พี่นธีก็ไม่ยอมหยุด เขาดึงทึ้งเสื้อผ้าของฉันจนมันขาดวิ่นและหลุดลุ่ยออกจากตัวจนร่างกายเปลือยเปล่าทั้งที่เราทั้งคู่ยังอยู่หลังประตูไม่ได้ขยับไปไหน"..." คราวนี้เขายอมปล่อยให้ฉันเป็นอิสระแต่ไม่ใช่เสียทีเดียว เขามองข้ามน้ำตาของฉันไปจ้องมองลึกเข้ามานัยน์ตาที่กำลังสั่นระริกแล้วยิ้มออกมาอย่างเยือกเย็น"ถ้าอยากเป็นแค่คนที่ฉันเอาเล่น ๆ ต่อไปจะทำอะไรก็ไม่ต้องบอก" เขาพูดพร้อมกับรอยยิ้มมุมปาก ค่อย ๆ ถอดเสื้อผ้าท่อนล่างของตัวเอง "ไม่ต้องสนใจว่าฉันจะคิดยังไง""..." ฉันลอบกลืนน้ำลายลงคอเมื่อถูกเขาดันไปจนถึงเตียงและผลักต
Special lตอนนี้ฉันอยู่ปีสองส่วนพี่นธีก็อยู่ปีสี่แล้วจึงวุ่นวายกับการทำโปรเจ็กต์ แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ยังต้องเจอกันทุกวันนอนด้วยกันทุกคืนเพราะถือว่าเราคือชีวิตประจำวันของอีกฝ่ายไปแล้วพี่นธียังคงเป็นคนน่ารักของฉันเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง นอกเสียจากเรื่องที่เขาพูดมากขึ้นและเปิดเผยสิ่งที่คิดในใจมากกว่าเดิมหลายเท่า"ปุยนุ่น มากินข้าว.." ฉันเรียกปุยนุ่นด้วยการเทอาหารเม็ดใส่ถ้วยของมัน พอได้ยินเสียงมันก็รีบวิ่งมาทันที ก่อนจะค่อย ๆ ละเมียดละไมกินอาหารในถ้วยที่มันเป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียวอย่างสบายใจเมี้ยว ~ ครืด ~ ครืด ~"คะ" (ยังไม่ได้กินข้าวใช่ไหม) เสียงของพี่นธีดังขึ้นมาจากปลายสาย พอหันไปมองนาฬิกาก็เป็นเวลาเกือบทุ่ม เขาคงกำลังจะกลับเพราะทุกวันที่เขาทำงานในคณะกับเพื่อนตัวเองมักจะกลับห้องเวลานี้ตลอด"ยังค่ะ เนยรอกินกับพี่"(โอเคครับจะรีบกลับ) แล้วเขาก็กดวางสายไปปล่อยให้ฉันยิ้มกับโทรศัพท์มือถือของตัวเองอยู่คนเดียว น่าแปลกที่เจอกันทุกวันแต่ก็ยังมีความสุขที่แฟนตัวเองโทร.หาและพูดคุยด้วยประโยคทั่วไปครืด ~ ครืด ~พอพี่นธีวางสายไปญานินก็โทร.เข้ามาต่อ ช่วงนี้มันดูกังวลเรื่องแฟนตัวเอง คิด
EP.49"ง้อแค่เนี้ย !" เขาพูดเสียงสูงด้วยความไม่พอใจแต่ก็ขยับตัวมาคร่อมฉันไว้บนเตียง"แค่นี้อะไร เนยง้อตั้งแต่ออกจากบ้าน""..." เขาทำหน้ามุ่ยแล้วก็ค่อย ๆ คลี่ยิ้มออกมาก่อนจะเลื่อนใบหน้าลงมาพูดใกล้จนรู้สึกถึงลมหายใจที่พ่นรดลงมาบนแก้ม "พูดแล้วนะว่าจะมานอนกับพี่""อะไรกัน พี่นธีบอกแล้วนะว่าไม่ต้องมา""เมื่อกี้แค่ประชด" ยอมรับว่าตัวเองประชดอีก"ลงไปกินข้าวได้แล้วผู้ใหญ่รอเรานะ" ฉันพยายามเบี่ยงตัวลุกขึ้นแต่อีกคนก็ล็อกไว้อย่างเดิม แล้วยังเอาจมูกมาคลอเคลียแก้มและลงไปซุกไซ้ซอกคออีก "อื้อ... พี่นธี เดี๋ยวคนอื่นจะสงสัย""คิดถึง" เขาไม่ฟังที่ฉันพูดเลยสักนิดเดียวเลื่อนใบหน้าขึ้นมาแล้วระดมจูบฉันอีกยกใหญ่ จากที่ทีแรกขัดขืนก็ต้องคล้อยตามจูบตอบเขาไป จนผ่านไปเกือบห้านาทีก็ได้ยินเสียงญานินโวยวายอยู่ข้างนอกฉันจึงรีบดันตัวพี่นธีออกทันทีคราวนี้เขายอมแต่โดยดี คงพอใจแล้วแหละ"แม่บอกให้ลงไปกินข้าว..." ยัยนินลากเสียงยาวแล้วเคาะห้องเบา ๆ เราสองคนจึงรีบลุกจากเตียงแล้วเปิดประตูออกจากห้อง "โอ๊ย ! อะไรของพี่เนี่ย !""..." พอเดินออกไปพี่นธีก็เอามือผลักหัวน้องตัวเองจนเซแล้วเดินเบี่ยงตัวออกไปเหมือนไม่พอใจที่ญานินมาข
EP.48"ฉันเกลียดผัวแก" พอใบเฟิร์นพูดจบฉันก็หันไปคาดโทษพี่นธีเพราะเขาชอบพูดให้คนอื่นรู้สึกแย่อยู่นั่นแหละ"แค่ล้อเล่นเอง" พี่นธีบอกใบเฟิร์นแล้วก็ทำหน้านิ่งแต่สุดท้ายก็อมยิ้มออกมา ยัยนั่นถึงได้โล่งใจเพราะคงคิดว่าจะได้เกลียดพี่นธีจริง ๆ คราวนี้"เนยแค่ใส่อันนี้ถ่ายรูป เดี๋ยวจะสวมตัวนี้ทับแล้วค่ะ" ฉันบอกพี่นธีก่อนจะหยิบเสื้อว่ายน้ำแขนยาวมาสวมทับ จนพี่นธีพอใจแล้วยอมยิ้มออกมา"ไปเล่นเครื่องเล่นกันเถอะ" ใบเฟิร์นชวนแล้วเดินนำเราไป ตอนนี้ญานินเลิกบ้าแล้ว จริง ๆ มันก็คงจะแค่แกล้งเล่นนั่นแหละ ยัยนินไม่ใช่คนที่จะงี่เง่าเป็นเด็กแบบนั้น"อันนี้เนยไม่เล่นนะ เนยกลัว" ฉันบอกแล้วก้าวถอยหลังมองเครื่องเล่นขนาดใหญ่ที่ดูหวาดเสียวนั่น"มาทั้งทีเล่นเถอะ" ว่าแล้วยัยใบเฟิร์นก็ลากแขนฉันขึ้นไปด้านบนสุดก่อนจะบังคับนั่งห่วงที่นั่งกันได้สี่คน รับรู้ได้ว่าหัวใจมันเต้นแรงแทบจะหลุดออก"ถ้าฉันหัวใจวายตายแกรับผิดชอบนะ" ฉันพูดแล้วจับมือพี่นธีกับมือยัยใบเฟิร์นอีกฝั่งไว้แน่น"แกไม่ตายหรอก คิดไว้ว่าถ้าตายพี่นธีจะมีเมียใหม่แกก็ไม่ตายแล้ว" ยัยใบเฟิร์นพูดจบพี่นธีก็หัวเราะออกมาเบา ๆ "พี่ !! ปล่อยเลยค่ะ""กรี๊ด !!" ฉันกรีดร้อง
EP.47"พี่ไม่ได้อยากกินเบียร์" เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาพูดพร้อมกับดึงฉันลงไปนั่งคร่อมท่าเดิมแต่ครั้งนี้เราเปลือยเปล่าทั้งคู่ "อยากกินนมเมียมากกว่า"ฉันขำออกมากับคนหน้านิ่งที่ตอนนี้มีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นมาแล้วยังคำพูดที่ดูไม่เหมาะกับพี่นธีอีก"ได้ค่ะเดี๋ยวเนยป้อนให้" ฉันขยับตัวขึ้นแล้วป้อนนมให้เขา สายตาพี่นธีเหมือนจะระทึกกับสิ่งที่ฉันทำไม่น้อย"อื้อ ~""อื้ม ~ เนย..." เสียงครางดังในลำคอเล็ดลอดออกมา ขณะที่เจ้าตัวเอาแต่ดูดเลียจนอกอวบคู่งามของฉันเต็มไปด้วยน้ำลายมันวาวทั้งสองข้าง เขาใช้มือประคองมันเข้าปากสลับไปมาอีกข้างบีบขยำฟ้อนเฟ้นเบามือจนเรียกความต้องการจากฉันมากขึ้นเรื่อย ๆฉันขยับมือไปกำรอบแกนกายใหญ่บีบเบา ๆ นวดคลายเป็นจังหวะแล้วชักรูดขึ้นลงจนพี่นธีต้องผละริมฝีปากออกครางเบา ๆ"เนย... พี่จะตายแล้ว ซี้ด ขยับมา" เขารีบเร่งเร้าฉันจึงตอบสนองด้วยกายจับแกนกายจ่อกับช่องทางรักที่เปียกชื้นแล้วขยับตัวนั่งลงจนมันเลื่อนเข้ามาสุดความยาว สร้างความเสียววาบหวามตรงช่วงท้องน้อย ภายในบีบรัดตัวตนของเขาอย่างพอใจ"เนยจะทำให้พี่มีความสุขนะคะ" ฉันยิ้มแล้วดันแผงอกของคนตัวโตกว่าจนเขาทิ้งตัวพิงกับโซฟา เรียกร้อยย
EP.46หลายเดือนต่อมา"พี่นธี... กับข้าวพร้อมแล้ว" ฉันเดินไปหาคนที่กำลังแต่งตัวด้วยชุดนักศึกษาอยู่ตรงกระจก ก่อนจะหยิบเอาเน็กไทที่มีเข็มกลัดมหาวิทยาลัยติดสวมให้เขาอย่างเอาใจ ไม่บ่อยนักที่จะได้เห็นเขาแต่งตัวด้วยชุดนักศึกษาถูกระเบียบแบบนี้"ขอบคุณครับ" คนพี่พูดเพราะแล้วส่งยิ้มเล็ก ๆ มาให้"วันนี้สอบเสร็จกี่โมงคะ" "สอบวิชาเดียว เที่ยงก็กลับมาแล้ว เนยสอบถึงสี่โมงใช่ไหมเดี๋ยวพี่ไปรับ" เขาพูดแล้วโน้มลงมาจุ๊บแก้มฉันพร้อมกับรอยยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่มีแค่ฉันเท่านั้นที่จะเห็นมันบ่อย ๆ"ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวเนยมากับเฟิร์นก็ได้"เขาเปลี่ยนสรรพนามเรียกฉันแล้วด้วย แทนตัวเองว่าพี่จนฟังดูอบอุ่นและใกล้ชิดกันมากขึ้น บางทีอากาศดี ๆ อารมณ์ดี ๆ ก็เรียกฉันว่าน้องเนยอีกต่างหาก น่ารักใช่ไหมล่ะพี่นธีไม่เคยขอฉันเป็นแฟนและเขาไม่เคยบอกรักฉัน มันอาจจะดูน่าน้อยใจเมื่อใครต้องเจอแบบนี้แต่ฉันว่ามันก็ไม่ได้สำคัญเท่ากับการกระทำที่อีกฝ่ายมีให้เขาดีกับฉันทุกอย่างจนฉันลืมไปแล้วว่าเขาเคยร้ายกับฉันครั้งหนึ่ง'อันนี้ของนิเนย กินไม่ได้เดี๋ยวตื่นมางอนกูอีก กูง้อไม่เก่งนะไอ้คิว มึงวางลงเลย''เดี๋ยวกูถามเมียก่อนว่าให้ไปไหม''จะมีใค
EP.45หลายวันต่อมาหลังจากวันนั้นฉันก็อยู่เฝ้าพ่อตัวเองอีกสองวันจนหมออนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาล พี่นธีบอกให้พ่อฉันไปพักอยู่คอนโดมิเนียมที่แม่ของเขาซื้อเอาไว้ปล่อยเช่าเพราะเป็นห่วงความปลอดภัย เนื่องจากคู่กรณีของเราเป็นคนที่ค่อนข้างมีอิทธิพลพ่อของพี่นธีรู้จักกับพ่อฉันแค่ไม่ได้สนิทกันแต่ก็พอที่จะช่วยเหลือกันได้ ยิ่งตอนนี้พวกท่านคิดว่าฉันกับพี่นธีคบกันอยู่ด้วยพ่อแม่ของพี่นธีรู้จักฉันดีเพราะฉันคบกับญานินมานานและแวะเวียนไปที่บ้านบ่อย ๆ เรื่องของเราจึงไม่เป็นคำถามสำหรับพวกท่านนัก"พ่อแกหายดีแล้วใช่ไหม" ใบเฟิร์นถามขึ้นมาตอนที่ฉันกำลังเข้าห้องเรียนและหย่อนสะโพกลงนั่งเก้าอี้"อืม ดีแล้ว""เรื่องคดีล่ะ" ฉันเล่าเรื่องทั้งหมดให้ใบเฟิร์นฟังแล้ว ส่วนญานินไม่ต้องเล่ายัยนั่นก็รู้"เรื่องนั้นพี่นธีจัดการ ฉันไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้เลย" ฉันบอกไปตามจริงเพราะไอ้ที่พี่นธีพูดเป็นฉาก ๆ ไม่เข้าสมองฉันเลย"มีผัวดีก็ดีไป" ใบเฟิร์นพูดออกมาอย่างขำ ๆ สักพักญานินก็มา และตามหลังด้วยอาจารย์บทสนทนาจึงจบลง"ไปกินคณะบริหารไหม มีคนบอกให้ไปลองชิมร้านก๋วยเตี๋ยวขลุกขลิก" ญานินเอ่ยแล้วรีบเก็บของตัวเอง "คนที่ว่านั่นพี่ทศกัณฐ์
EP.44วันต่อมาวันนี้ฉันกลับมาบ้าน บ้านที่เคยเป็นบ้านของตัวเอง เพื่อมาเอาของใช้บางส่วนและเสื้อผ้าของพ่อ"อะ อ้าว น้องเนย กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่" พอก้าวเข้ามาในบ้านไอ้วีก็เสนอหน้าออกมาต้อนรับทันที ในมือถือซองบุหรี่กับไฟแช็ก ในบ้านคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นบุหรี่จากคนตรงหน้า"หลบไป !" ฉันถลึงตาใส่มันอย่างไม่เกรงกลัวแต่มันกลับยิ้มเยาะแล้วเบี่ยงตัวหลบพร้อมกลับผายมือให้ฉันเดินเข้ามาในบ้านที่ตอนนี้ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปหมดแล้ว ข้าวของเครื่องใช้ทุกอย่างที่คุ้นตาตอนนี้มันหายและย้ายที่ไปเกือบหมด"รูปแม่ฉัน ใครเอาไปไหน" ฉันเดินไปที่ชั้นวางที่เคยมีรูปแม่วางอยู่ ก่อนจะตวัดสายตาไปมองไอ้วีที่เดินยิ้มตามมา "ไม่รู้" วีพูดเหมือนไม่ใส่ใจพร้อมกับยักไหล่ขึ้น"พวกแกเอารูปแม่ฉันไปไว้ไหน บอกมา !" "เอะอะโวยวายอะไรกัน" แล้วเสียงของผู้หญิงที่ชื่อบัวก็ดังขึ้นฉันจึงตวัดสายตาไปมอง ยัยป้านั่นแสยะยิ้มออกมาแล้วทักทาย "ว่าไง เธอมีอะไร""ฉันมาเอาของของฉัน" พูดจบฉันก็เดินเบี่ยงตัวผ่านสองแม่ลูกไป แต่ยัยป้านั่นกลับกระชากแขนฉันกลับ "ทุกอย่างในบ้านนี้ไม่ใช่ของแก""..." ฉันยิ้มออกมาก่อนจะผลักอกมันจนยอมปล่อยมือออก "หน้าด้าน"พูดจ
EP.43"ป้าพิน !""เนย มาแล้วเหรอลูก"ฉันเดินเข้าไปกอดผู้เป็นป้าหลังจากที่ไม่ได้เจอกันเกือบปีด้วยความคิดถึง"สวัสดีครับ" พี่นธีเอ่ยและยกมือไหว้ป้าฉันอย่างมีมารยาท ท่านจึงพยักหน้าแล้วส่งยิ้มให้อย่างเป็นมิตร"พ่อล่ะคะ" "หมอกำลังตรวจเอกซเรย์สมองกับกระดูก แต่คงไม่มีอะไรอันตรายแล้วละ ที่ตกบันไดเพราะความดันต่ำแล้วหน้ามืดน่ะ ตอนป้าไปเจอคงจะหลังจากตกลงมาไม่นานพอดี" ป้าอธิบายให้ฟังขณะที่ฉันบีบมือท่านเอาไว้จนชุ่มเหงื่อแต่พอได้ยินว่าไม่อันตรายมันก็รู้สึกดีขึ้น"เนย บอกป้ามาได้ไหมว่าโกรธอะไรพ่อเรา" ป้าพินขมวดคิ้วเข้าหากันแน่นอย่างสงสัย"..." ฉันเม้มปากเข้าหากันเพราะความลังเล ไม่รู้ว่ามันควรจะเล่าดีหรือเปล่า พอหันไปมองพี่นธีที่ยืนอยู่ห่างกันออกไปเขาก็มองมานิ่ง ๆ"เดี๋ยวจะลงไปเอากุญแจรถ มีคนเอารถมาให้แล้ว" เขาคงให้คนที่บ้านเอารถมาให้ใช้ละมั้ง"ค่ะ พี่ไปพักผ่อนอยู่ที่บ้านก็ได้นะ อย่ามาลำบากเลย ที่นี่คนเยอะ" ฉันบอกพี่นธีแล้วยิ้มเล็กน้อยทั้งที่ขอบตายังมีน้ำหยดเล็ก ๆ เกาะเต็มไปหมด"เดี๋ยวมา" เขาบอกแล้วหันหลังเดินออกไปหลังจากพี่นธีออกไปฉันก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้ป้าพินฟัง ท่านดูตกใจไม่น้อยที่ฉันเจอแบบนั
EP.42"คิดถึง"นัยน์ตาสีน้ำตาเข้มจ้องลึกเข้ามาในดวงตาของฉันราวกับจะสะกดให้ยินยอมเขาทุกอย่าง และมันได้ผลเพราะฉันไม่สามารถละสายตาไปจากใบหน้าของเขาได้เลย"..." เขาจูบลงมาอีกครั้งอย่างหนักหน่วง ย้ำคำว่าคิดถึงให้มันชัดเจนยิ่งขึ้น ก่อนที่จะช้อนร่างของฉันไปบนเตียงและปลดเปลื้องเสื้อผ้าของเราทั้งคู่จนเปลือยเปล่าต่อกันการไม่ได้มีอะไรกันเป็นเวลาครึ่งเดือนทำให้ฉันรู้สึกกระดากอายเล็กน้อย ไหนจะเรื่องที่เราทะเลาะกัน และคำพูดดี ๆ รอยยิ้มที่เขามอบให้มันทำให้รู้สึกราวกับว่ามันคือครั้งแรกจนต้องนั่งขดตัวปิดบังความเป็นสาวของตัวเอง ขณะที่อีกคนกลับยิ้มมุมปากอย่างพอใจแล้วดึงตัวฉันไปนั่งบนตักของเขาโดยที่เราหันหน้ามาเผชิญกัน"พี่ไม่เช็ดผมแล้วเหรอ อ๊า..." เหมือนเขาไม่ได้สนใจคำพูดของฉันเท่าไร เพราะสิ่งที่เขาสนใจคือความนุ่มหยุ่นเบื้องหน้า เขาจูบและลูบไล้ไปทั่วเนินอกขณะที่มือยังคงบีบขยำอกคู่งามเอาไว้เป็นจังหวะ สัมผัสจาบจ้วงหนักหน่วงแต่ไม่รุนแรงอย่างที่ฉันกลัวร่างกายของฉันตอบสนองสัมผัสของเขาได้เป็นอย่างดี สร้างความเปียกชื้นจนรู้สึกได้เต็มเรียวขาเนียนที่มีมือใหญ่อีกข้างหนึ่งเคล้นคลึงขยับมากลางกาย สอดนิ้วเข้าออกเร