EP.29"..." พอยัยแพรวาออกไปแล้วพี่นธีก็หันมาเอาเรื่องฉันทันที "พามาทำไม""เนยเปล่านะ ยัยนั่นตามมาเอง" "..." เขาไม่พูดอะไรต่อเดินหันหลังกลับไปทำงานของตัวเองเงียบ ๆ ฉันจึงเดินไปนั่งเล่นกับปุยนุ่นเพื่อไม่ให้กวนเขา ไม่ได้เล่าเรื่องของแพรวาก่อนหน้านี้ให้เขาฟังเพราะกลัวจะหงุดหงิดกว่าเดิม เอาไว้อารมณ์ดี ๆ ค่อยเล่าให้ฟัง"ปุยนุ่น อย่าไปกวนพ่อนะ เขาอารมณ์ไม่ดี" ฉันเปลี่ยนสถานะของพี่นธีเป็นพ่อจำเป็นของปุยนุ่นไปแล้วเมี้ยว ~ เจ้าปุยนุ่นร้องออกมาเหมือนรับฟังแล้วคลอเคลียฉันอย่างที่ชอบทำก่อนจะเดินนวยนาดไปนอนบนพรมในห้อง คนก็เย็นชาแมวยังจะเย็นชาอีก ฉันจะคุยกับใครล่ะทีนี้ FIN : ไงขณะที่กำลังมองตามปุยนุ่นสลับกับมองพี่นธีที่นั่งตั้งหน้าตั้งตาทำงาน เสียงไลน์ก็ดังขึ้นมา FIN : เล่นเป็นหรือเปล่าฉันขมวดคิ้วมองข้อความนั้นแล้วตอบกลับไปสั้น ๆ และเขาก็ตอบกลับมาทันทีNinoey : คะ ?FIN : วันก่อนเห็นบอกไม่เล่นไลน์ นึกว่าเพิ่งหัดเล่น Ninoey: (สติ๊กเกอร์เกอร์หน้ามึน)ฉันเก็บมือถือหลังจากที่ตอบข้อความนั้นไปก่อนจะเดินไปนั่งเก้าอี้ข้างพี่นธี"มีอะไรให้เนยช่วยไหม""ไม่มี ไปนอนเล่นไปอย่าเพิ่งกวน" เขาหันมามองแล้วบอ
EP.30หลายวันต่อมาในที่สุดวันนี้ก็วันเสาร์และฉันบอกกับพี่นธีว่ามีนัดคุยเรื่องกิจกรรมงานสปอร์ตเดย์กับพี่ ๆ ในคณะ และบอกเผื่อเอาไว้แล้วว่างานนี้ไม่มีญานินไปด้วยเพราะยัยนั่นแสดงคนละชุดกับฉันพอมาถึงที่หมายฉันก็ถูกเรียกให้ไปแต่งหน้าทำผมกับพี่ ๆ สาวสองซึ่งมากความสามารถทุกคน การแต่งหน้าวันนี้ไม่ได้จัดเต็มแต่เน้นธรรมชาติเพราะชุดที่ถ่ายเป็นชุดกีฬา ผมสีน้ำตาลอ่อนของฉันถูกรวบไว้อย่างลวก ๆ แต่ตั้งใจ ดูแล้วเหมือนไปออกกำลังกายจริง ๆเมื่อถึงเวลาเจ็ดโมงพี่ฟินก็มารับฉันกับพี่ฟิวไปถ่ายที่สวนสาธารณะของมหาวิทยาลัย เพราะที่นี่คือจุดสำคัญจุดหนึ่ง เป็นสถานที่ที่ใครหลายคนชอบมาออกกำลังกายช่วงเย็น มีน้ำพุขนาดใหญ่อยู่ตรงกลาง มีอ่างเก็บน้ำและสนามหญ้ากว้าง ๆ ให้พักผ่อนหย่อนใจ"เดี๋ยวเราถ่ายภาพเดี่ยวกับภาพคู่ไปพร้อม ๆ กันเลยนะ" พี่ฟินบอกแล้วเตรียมกล้อง ฉันจึงคุยอะไรเรื่อยเปื่อยกับพี่ฟิวไป พี่ฟิวเป็นคนคุยเก่งแต่ไม่ได้ดูเจ้าชู้อะไรซึ่งฉันสามารถอยู่คุยได้แบบไม่อึดอัด ต่างกับคนที่ชอบส่งสายตาหรือคำพูดเจ้าเล่ห์ซึ่งฉันจะไม่ค่อยชอบนักแล้วเราก็เริ่มถ่ายกันตั้งแต่แปดโมงเช้าไปจนถึงสิบโมง พักและย้ายไปถ่ายอีกที่ ก่อนที่
EP.31"อื้อ !~"มือหนาบีบแก้มฉันแน่นแล้วกระแทกริมฝีปากร้อนใส่ริมฝีปากที่เผยอออกเพราะแรงบีบ ก่อนจะแทรกลิ้นร้อนเข้ามาดูดกลืนความหวานในโพรงปากอย่างเอาแต่ใจกลิ่นคาวเลือดลอยแตะจมูกและรับรู้รสชาติความเค็มของมันที่ปะปนอยู่ในปากได้เป็นอย่างดี แต่เขาก็ยังจูบฉันรุนแรงและเร่าร้อนอย่างต่อเนื่องฉันใช้กำปั้นเล็กที่ทุบไหล่กว้างเพราะอยากหลุดพ้นจากความเจ็บ แต่กลับถูกรวบเอาไว้ทั้งสองข้างในเวลาอันรวดเร็วและเขายังบีบแน่นจนฉันรู้สึกชาที่ปลายนิ้ว "อึก อื้อ ~" ตอนนี้น้ำตาฉันไหลอาบเต็มสองแก้มจนเปียกชุ่มแต่พี่นธีก็ไม่ยอมหยุด เขาดึงทึ้งเสื้อผ้าของฉันจนมันขาดวิ่นและหลุดลุ่ยออกจากตัวจนร่างกายเปลือยเปล่าทั้งที่เราทั้งคู่ยังอยู่หลังประตูไม่ได้ขยับไปไหน"..." คราวนี้เขายอมปล่อยให้ฉันเป็นอิสระแต่ไม่ใช่เสียทีเดียว เขามองข้ามน้ำตาของฉันไปจ้องมองลึกเข้ามานัยน์ตาที่กำลังสั่นระริกแล้วยิ้มออกมาอย่างเยือกเย็น"ถ้าอยากเป็นแค่คนที่ฉันเอาเล่น ๆ ต่อไปจะทำอะไรก็ไม่ต้องบอก" เขาพูดพร้อมกับรอยยิ้มมุมปาก ค่อย ๆ ถอดเสื้อผ้าท่อนล่างของตัวเอง "ไม่ต้องสนใจว่าฉันจะคิดยังไง""..." ฉันลอบกลืนน้ำลายลงคอเมื่อถูกเขาดันไปจนถึงเตียงและผลักต
EP.32"เป็นเด็กฉันคนเดียวไม่พอเหรอ""พี่พูดถึงอะไร" หรือจะหมายถึงพี่น้ำเหนือ"หรือเงินไม่พอใช้" เขาพูดโดยที่ไม่หันมามองฉันแม้แต่นิดเดียว น้ำเสียงเย็นชาเสียจนฉันคิดว่ามันไม่ใช่คนเดียวกับคนก่อนหน้าที่เคยดีกับฉันเพราะต่อให้เขาเย็นชายังไงเขาก็จะไม่ดูถูกฉันแบบนี้"อย่ามาดูถูกเนย พี่นธีไม่มีสิทธิ์" น้ำเสียงของฉันสั่นเครือมองแผ่นหลังของคนที่เพิ่งจะทำร้ายกันเมื่อคืน ฉันไม่ได้โกรธเขาเลยจนกระทั่งตอนนี้ที่เขาเริ่มพูดดูถูกกัน"..." เขาเงียบและหัวเราะในลำคอก่อนจะหยัดตัวลุกขึ้น ก้าวขายาว ๆ เข้ามาหาจนฉันต้องถอยหลังหนี ภาพเมื่อคืนที่เขาทำรุนแรงยังคงติดตาและหวาดกลัว"จะทำอะไรอีก เมื่อคืนยังไม่ทำให้พี่หายโกรธเหรอ หรือต้องให้เนยเจ็บกว่านี้ถึงจะพอใจ" "บ่นทำไม ก็มันงานของเธอ" เขาพูดเสียงเรียบแล้วขยับตัวเข้ามาใกล้อีกนิด"..." ฉันกัดริมฝีปากจนเจ็บ ที่ผ่านมาฉันเห็นเขาเป็นแค่คนเย็นชาไม่แคร์ใครแต่ไม่คิดว่าจะใจร้ายใช้คำพูดดูถูกและทำร้ายความรู้สึกกันขนาดนี้"ไปอาบน้ำ""คะ ?""ฉันไม่อยากได้กลิ่นผู้ชายคนอื่น" "พี่นธีพูดอะไร นั่นมันพี่ชายเนยนะ" ฉันรีบอธิบายเพราะเขากำลังเข้าใจผิดไปกันใหญ่"เหรอ" คนตรงหน้ายกยิ้มขึ
EP.33วันต่อมาฉันออกมาเรียนตามปกติแต่ที่ไม่ปกติคือขอบตาเพราะมันบวมมาก แต่ยังฝืนทนมาเรียนให้คนมองว่าชีวิตมันน่าสมเพชอีก"อะไรวะเนี่ย !" พอมาถึงยัยใบเฟิร์นก็โวยวายทันทีก่อนที่ญานินจะเป็นฝ่ายตกใจบ้าง"นิเนยแกเป็นอะไร ?!""ไม่มีอะไรแค่มีเรื่องให้คิดนิดหน่อย" ฉันตอบแล้วปล่อยผมตัวเองสยายลงมาให้มันบดบังใบหน้าจะได้ไม่มีคนทักอีก"ทำไมมีอะไรไม่บอกพวกเราล่ะนิเนย หรือคิดว่าช่วยไม่ได้" ญานินพูดขึ้นแล้วทำท่าเหมือนจะร้องจนฉันขอบตาร้อนผ่าวขึ้นมาอีกคนพอมองหน้ามันก็เหมือนเห็นหน้าใครบางคน ฉันรีบเบือนหน้ามาอีกทาง"ไม่มีอะไรจริง ๆ ถ้าฉันมีเรื่องให้ช่วยจะบอกพวกแกเอง" ฉันบอกแล้วยิ้มออกมาแบบฝืน ๆ "ขอร้องอย่าพึ่งถามอะไรได้ไหม ฉันอยากอยู่เงียบ ๆ"แล้วพวกมันก็ยอมเงียบตามคำขอเพราะรู้ดีว่าคนอย่างฉันถ้าไม่อยากเล่าจะไม่ยอมเล่าแน่นอน เรื่องไหนที่ฉันอยากเล่านั่นแปลว่าฉันอึดอัดมากแล้วจริง ๆ"พวกแกไปกินข้าวที่คณะพี่ทศกัณฐ์ไหม พี่เขาชวน" ญานินหันมาบอกพวกเราตอนที่กำลังเก็บของหลังจากหมดคาบเรียน "ไปค่า ~""ฉันไม่หิว ขอตัวได้ไหม" ฉันหันไปบอกพวกมันเพราะคิดว่าถ้าตกลงไปยังไงก็ต้องเจอพี่นธี"ไม่ได้ ! ดูตัวเองด้วยยัยนิเนย แกแ
Ep.34คงไม่มีอะไรอึดอัดไปมากกว่าสถานการณ์ตอนนี้แล้ว เราสองคนกำลังเดินมาตามทางเพื่อไปห้องโดยมีพี่นธีเดินตามหลังมาเงียบ ๆ"ห้องนี้" ฉันบอกใบเฟิร์นแล้วเอื้อมมือไปกดรหัสปลดล็อกประตู หมับ"มาคุยกับฉัน" แขนของฉันถูกคนด้านหลังคว้าไว้จนใบเฟิร์นต้องหันไปมองด้วยอีกคนเพราะความสงสัย"เนยรีบ พี่นธีมีอะไรก็พูดมาเลย" ฉันพูดแล้วบิดข้อมือออกแต่เขากลับจับไว้แน่นกว่าเดิมจนต้องนิ่วหน้าเพราะเจ็บ "เจ็บค่ะ""..." เขาไม่ยอมปล่อยถึงแม้จะคลายมือออกเล็กน้อยแล้วก็ตาม พี่นธีปรายตาไปมองใบเฟิร์นเหมือนกำลังกดดันแล้วหันมาจ้องฉันโดยที่ไม่พูดอะไร "แกไปคุยกับพี่เขาก่อน คุยกันดี ๆ นะ เดี๋ยวฉันรอในห้อง" เสียงของใบเฟิร์นดูติดขัด ถึงก่อนหน้านี้มันจะไม่รู้อะไรแต่ตอนนี้คงมีคำถามมากมายที่อยากจะถามฉัน"พี่นธีมีอะไรก็พูดมาเลย" ฉันถามทันทีที่ถูกเขาลากเข้ามาในห้องและยังปิดประตูเสียงดัง"..." เขาเงียบและไม่ยอมปล่อยมือค่อย ๆ หันมามองหน้าฉัน จ้องตาจนฉันต้องเป็นฝ่ายหลบสายตาดุดันของเขา"ไหนบอกมีเรื่องจะคุยไง" "ไอ้ฟิน" แล้วเขาก็พูดชื่อของพี่ฟินออกมา แสดงว่าหวงก้างจริง ๆ"ทำไมคะ พี่ฟินทำไม" ฉันขมวดคิ้วถามถึงจะรู้ว่าคำถามนี้มันจะยั่วโ
EP.35(อยู่ไหน) น้ำเสียงเขาเรียบนิ่งจนไม่สามารถรับรู้ได้ว่ารู้สึกอย่างไร"มีอะไรหรือเปล่า เนยง่วงจะนอนแล้ว"(กลับห้อง... เดี๋ยวนี้) น้ำเสียงเยือกเย็นทำให้ฉันรู้สึกใจหายไม่น้อยแต่ก็ต้องทำใจดีสู้เสือต่อไป "วันนี้เนยไม่กลับ"(นิเนย) เขาเรียกชื่อราวกับจะบอกว่าไม่อยากพูดอะไรไปมากกว่านี้"มันดึกแล้วเนยง่วง แค่นี้นะคะ" แล้วฉันก็รีบกดวางสายทันทีไม่รอให้เขาพูดต่อ ยัยใบเฟิร์นก็พูดขึ้นมา"เขาง้อก็อย่าเล่นตัว""ง้ออะไรของแก อย่าพูดเรื่อยเปื่อย" ฉันบอกมันแล้วแกล้งหลับตาลงทั้งที่ตอนนี้ไม่ง่วงเลยสักนิดเดียวง้อที่ไหนกันล่ะ จะลากฉันไปปู้ยี่ปู้ยำต่างหาก คนใจร้าย !!ครืด ~ ครืด ~ฉันถอนหายใจออกมาอีกครั้งเมื่อโทรศัพท์มือถือสั่นเตือนอีกรอบ แอบหรี่ตาขึ้นมามองแต่คนที่โทร.มากลับไม่ใช่พี่นธี'ญานิน'มันคงไม่บังเอิญที่ยัยนินจะโทร.มาเวลานี้หลังจากที่พี่ชายมันเพิ่งจะโดนตัดสายไปนะ "ยัยนินโทร.มา" ฉันบอกใบเฟิร์น"พี่นธีซะอย่าง คืนนี้ยังไงแกก็ไม่รอดแล้วละ" ใบเฟิร์นพูด นอกจากมันจะไม่ให้กำลังใจฉันแล้วยังเหมือนสมน้ำหน้าซ้ำอีก "แกชอบเขาไม่ใช่หรือไง ไม่โกรธฉันเหรอ" ฉันถามแล้วพลิกตัวนอนหงายเอามือก่ายหน้าผากตัวเองเหมื
EP.36เขายังคงเงียบไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียวจนกระทั่งเรามาถึงหน้าห้องตัวเอง ฉันรู้สึกอึดอัดและมวนท้องไปหมด "ดึกมากแล้ว คุยกันพรุ่งนี้นะคะ" พูดจบฉันก็หันหลังให้เขาแล้วกดรหัสห้องตัวเอง "พะ... พี่นธี !"เขาแทรกตัวเขามาในห้องฉันโดยไม่พูดอะไรสักคำแล้วก็เดินดุ่ม ๆ ไปนั่งตรงขอบเตียง สายตาจับจ้องไปยังเงินเกือบหมื่นที่วางอยู่ที่เดิม"พี่เอาเงินคืนไป" ฉันพูดแล้วยัดเงินใส่มือของเขาจนเจ้าตัวขมวดคิ้วแน่นมองฉัน "เพิ่งรู้ว่าเนยมีค่าแค่นี้ อย่ามาประเมินค่าเนยด้วยเงินอีก"พูดจบฉันก็เดินหนีเข้าห้องน้ำด้วยหัวใจเต้นรัววันนี้เขาไม่มีทีท่าว่าจะทำร้ายฉันเหมือนวันก่อน ๆ คล้ายคนสำนึกผิด แต่คนอย่างฉันก็ไม่ให้อภัยใครง่าย ๆ หรอกนะ ความรู้สึกที่มีให้จากหนึ่งถึงร้อยตอนนี้เขาทำพังจนเหลือแค่ครึ่งเดียวเท่านั้นฉันคิดว่ามันเป็นแบบนั้นจริง ๆ"เดี๋ยวมาหา" เสียงของพี่นธีดังลอดประตูห้องน้ำ ฉันแค่เข้ามานั่งเฉย ๆ เท่านั้นเพราะไม่อยากอยู่ใกล้เขาเขาไม่สะทกสะท้านกับคำพูดของฉันเลยเหรอเมื่อกี้ ฉันคาดหวังว่าเขาจะรับรู้ว่าตัวเองผิดบ้าง และที่บอกว่าเดี๋ยวมา... แปลว่าจะมาทำแบบเดิมอีกใช่ไหมฉันปิดไฟทุกดวงจนหมดแล้วรีบเข้านอน จะมาไม่ม
Special lตอนนี้ฉันอยู่ปีสองส่วนพี่นธีก็อยู่ปีสี่แล้วจึงวุ่นวายกับการทำโปรเจ็กต์ แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ยังต้องเจอกันทุกวันนอนด้วยกันทุกคืนเพราะถือว่าเราคือชีวิตประจำวันของอีกฝ่ายไปแล้วพี่นธียังคงเป็นคนน่ารักของฉันเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง นอกเสียจากเรื่องที่เขาพูดมากขึ้นและเปิดเผยสิ่งที่คิดในใจมากกว่าเดิมหลายเท่า"ปุยนุ่น มากินข้าว.." ฉันเรียกปุยนุ่นด้วยการเทอาหารเม็ดใส่ถ้วยของมัน พอได้ยินเสียงมันก็รีบวิ่งมาทันที ก่อนจะค่อย ๆ ละเมียดละไมกินอาหารในถ้วยที่มันเป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียวอย่างสบายใจเมี้ยว ~ ครืด ~ ครืด ~"คะ" (ยังไม่ได้กินข้าวใช่ไหม) เสียงของพี่นธีดังขึ้นมาจากปลายสาย พอหันไปมองนาฬิกาก็เป็นเวลาเกือบทุ่ม เขาคงกำลังจะกลับเพราะทุกวันที่เขาทำงานในคณะกับเพื่อนตัวเองมักจะกลับห้องเวลานี้ตลอด"ยังค่ะ เนยรอกินกับพี่"(โอเคครับจะรีบกลับ) แล้วเขาก็กดวางสายไปปล่อยให้ฉันยิ้มกับโทรศัพท์มือถือของตัวเองอยู่คนเดียว น่าแปลกที่เจอกันทุกวันแต่ก็ยังมีความสุขที่แฟนตัวเองโทร.หาและพูดคุยด้วยประโยคทั่วไปครืด ~ ครืด ~พอพี่นธีวางสายไปญานินก็โทร.เข้ามาต่อ ช่วงนี้มันดูกังวลเรื่องแฟนตัวเอง คิด
EP.49"ง้อแค่เนี้ย !" เขาพูดเสียงสูงด้วยความไม่พอใจแต่ก็ขยับตัวมาคร่อมฉันไว้บนเตียง"แค่นี้อะไร เนยง้อตั้งแต่ออกจากบ้าน""..." เขาทำหน้ามุ่ยแล้วก็ค่อย ๆ คลี่ยิ้มออกมาก่อนจะเลื่อนใบหน้าลงมาพูดใกล้จนรู้สึกถึงลมหายใจที่พ่นรดลงมาบนแก้ม "พูดแล้วนะว่าจะมานอนกับพี่""อะไรกัน พี่นธีบอกแล้วนะว่าไม่ต้องมา""เมื่อกี้แค่ประชด" ยอมรับว่าตัวเองประชดอีก"ลงไปกินข้าวได้แล้วผู้ใหญ่รอเรานะ" ฉันพยายามเบี่ยงตัวลุกขึ้นแต่อีกคนก็ล็อกไว้อย่างเดิม แล้วยังเอาจมูกมาคลอเคลียแก้มและลงไปซุกไซ้ซอกคออีก "อื้อ... พี่นธี เดี๋ยวคนอื่นจะสงสัย""คิดถึง" เขาไม่ฟังที่ฉันพูดเลยสักนิดเดียวเลื่อนใบหน้าขึ้นมาแล้วระดมจูบฉันอีกยกใหญ่ จากที่ทีแรกขัดขืนก็ต้องคล้อยตามจูบตอบเขาไป จนผ่านไปเกือบห้านาทีก็ได้ยินเสียงญานินโวยวายอยู่ข้างนอกฉันจึงรีบดันตัวพี่นธีออกทันทีคราวนี้เขายอมแต่โดยดี คงพอใจแล้วแหละ"แม่บอกให้ลงไปกินข้าว..." ยัยนินลากเสียงยาวแล้วเคาะห้องเบา ๆ เราสองคนจึงรีบลุกจากเตียงแล้วเปิดประตูออกจากห้อง "โอ๊ย ! อะไรของพี่เนี่ย !""..." พอเดินออกไปพี่นธีก็เอามือผลักหัวน้องตัวเองจนเซแล้วเดินเบี่ยงตัวออกไปเหมือนไม่พอใจที่ญานินมาข
EP.48"ฉันเกลียดผัวแก" พอใบเฟิร์นพูดจบฉันก็หันไปคาดโทษพี่นธีเพราะเขาชอบพูดให้คนอื่นรู้สึกแย่อยู่นั่นแหละ"แค่ล้อเล่นเอง" พี่นธีบอกใบเฟิร์นแล้วก็ทำหน้านิ่งแต่สุดท้ายก็อมยิ้มออกมา ยัยนั่นถึงได้โล่งใจเพราะคงคิดว่าจะได้เกลียดพี่นธีจริง ๆ คราวนี้"เนยแค่ใส่อันนี้ถ่ายรูป เดี๋ยวจะสวมตัวนี้ทับแล้วค่ะ" ฉันบอกพี่นธีก่อนจะหยิบเสื้อว่ายน้ำแขนยาวมาสวมทับ จนพี่นธีพอใจแล้วยอมยิ้มออกมา"ไปเล่นเครื่องเล่นกันเถอะ" ใบเฟิร์นชวนแล้วเดินนำเราไป ตอนนี้ญานินเลิกบ้าแล้ว จริง ๆ มันก็คงจะแค่แกล้งเล่นนั่นแหละ ยัยนินไม่ใช่คนที่จะงี่เง่าเป็นเด็กแบบนั้น"อันนี้เนยไม่เล่นนะ เนยกลัว" ฉันบอกแล้วก้าวถอยหลังมองเครื่องเล่นขนาดใหญ่ที่ดูหวาดเสียวนั่น"มาทั้งทีเล่นเถอะ" ว่าแล้วยัยใบเฟิร์นก็ลากแขนฉันขึ้นไปด้านบนสุดก่อนจะบังคับนั่งห่วงที่นั่งกันได้สี่คน รับรู้ได้ว่าหัวใจมันเต้นแรงแทบจะหลุดออก"ถ้าฉันหัวใจวายตายแกรับผิดชอบนะ" ฉันพูดแล้วจับมือพี่นธีกับมือยัยใบเฟิร์นอีกฝั่งไว้แน่น"แกไม่ตายหรอก คิดไว้ว่าถ้าตายพี่นธีจะมีเมียใหม่แกก็ไม่ตายแล้ว" ยัยใบเฟิร์นพูดจบพี่นธีก็หัวเราะออกมาเบา ๆ "พี่ !! ปล่อยเลยค่ะ""กรี๊ด !!" ฉันกรีดร้อง
EP.47"พี่ไม่ได้อยากกินเบียร์" เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาพูดพร้อมกับดึงฉันลงไปนั่งคร่อมท่าเดิมแต่ครั้งนี้เราเปลือยเปล่าทั้งคู่ "อยากกินนมเมียมากกว่า"ฉันขำออกมากับคนหน้านิ่งที่ตอนนี้มีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นมาแล้วยังคำพูดที่ดูไม่เหมาะกับพี่นธีอีก"ได้ค่ะเดี๋ยวเนยป้อนให้" ฉันขยับตัวขึ้นแล้วป้อนนมให้เขา สายตาพี่นธีเหมือนจะระทึกกับสิ่งที่ฉันทำไม่น้อย"อื้อ ~""อื้ม ~ เนย..." เสียงครางดังในลำคอเล็ดลอดออกมา ขณะที่เจ้าตัวเอาแต่ดูดเลียจนอกอวบคู่งามของฉันเต็มไปด้วยน้ำลายมันวาวทั้งสองข้าง เขาใช้มือประคองมันเข้าปากสลับไปมาอีกข้างบีบขยำฟ้อนเฟ้นเบามือจนเรียกความต้องการจากฉันมากขึ้นเรื่อย ๆฉันขยับมือไปกำรอบแกนกายใหญ่บีบเบา ๆ นวดคลายเป็นจังหวะแล้วชักรูดขึ้นลงจนพี่นธีต้องผละริมฝีปากออกครางเบา ๆ"เนย... พี่จะตายแล้ว ซี้ด ขยับมา" เขารีบเร่งเร้าฉันจึงตอบสนองด้วยกายจับแกนกายจ่อกับช่องทางรักที่เปียกชื้นแล้วขยับตัวนั่งลงจนมันเลื่อนเข้ามาสุดความยาว สร้างความเสียววาบหวามตรงช่วงท้องน้อย ภายในบีบรัดตัวตนของเขาอย่างพอใจ"เนยจะทำให้พี่มีความสุขนะคะ" ฉันยิ้มแล้วดันแผงอกของคนตัวโตกว่าจนเขาทิ้งตัวพิงกับโซฟา เรียกร้อยย
EP.46หลายเดือนต่อมา"พี่นธี... กับข้าวพร้อมแล้ว" ฉันเดินไปหาคนที่กำลังแต่งตัวด้วยชุดนักศึกษาอยู่ตรงกระจก ก่อนจะหยิบเอาเน็กไทที่มีเข็มกลัดมหาวิทยาลัยติดสวมให้เขาอย่างเอาใจ ไม่บ่อยนักที่จะได้เห็นเขาแต่งตัวด้วยชุดนักศึกษาถูกระเบียบแบบนี้"ขอบคุณครับ" คนพี่พูดเพราะแล้วส่งยิ้มเล็ก ๆ มาให้"วันนี้สอบเสร็จกี่โมงคะ" "สอบวิชาเดียว เที่ยงก็กลับมาแล้ว เนยสอบถึงสี่โมงใช่ไหมเดี๋ยวพี่ไปรับ" เขาพูดแล้วโน้มลงมาจุ๊บแก้มฉันพร้อมกับรอยยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่มีแค่ฉันเท่านั้นที่จะเห็นมันบ่อย ๆ"ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวเนยมากับเฟิร์นก็ได้"เขาเปลี่ยนสรรพนามเรียกฉันแล้วด้วย แทนตัวเองว่าพี่จนฟังดูอบอุ่นและใกล้ชิดกันมากขึ้น บางทีอากาศดี ๆ อารมณ์ดี ๆ ก็เรียกฉันว่าน้องเนยอีกต่างหาก น่ารักใช่ไหมล่ะพี่นธีไม่เคยขอฉันเป็นแฟนและเขาไม่เคยบอกรักฉัน มันอาจจะดูน่าน้อยใจเมื่อใครต้องเจอแบบนี้แต่ฉันว่ามันก็ไม่ได้สำคัญเท่ากับการกระทำที่อีกฝ่ายมีให้เขาดีกับฉันทุกอย่างจนฉันลืมไปแล้วว่าเขาเคยร้ายกับฉันครั้งหนึ่ง'อันนี้ของนิเนย กินไม่ได้เดี๋ยวตื่นมางอนกูอีก กูง้อไม่เก่งนะไอ้คิว มึงวางลงเลย''เดี๋ยวกูถามเมียก่อนว่าให้ไปไหม''จะมีใค
EP.45หลายวันต่อมาหลังจากวันนั้นฉันก็อยู่เฝ้าพ่อตัวเองอีกสองวันจนหมออนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาล พี่นธีบอกให้พ่อฉันไปพักอยู่คอนโดมิเนียมที่แม่ของเขาซื้อเอาไว้ปล่อยเช่าเพราะเป็นห่วงความปลอดภัย เนื่องจากคู่กรณีของเราเป็นคนที่ค่อนข้างมีอิทธิพลพ่อของพี่นธีรู้จักกับพ่อฉันแค่ไม่ได้สนิทกันแต่ก็พอที่จะช่วยเหลือกันได้ ยิ่งตอนนี้พวกท่านคิดว่าฉันกับพี่นธีคบกันอยู่ด้วยพ่อแม่ของพี่นธีรู้จักฉันดีเพราะฉันคบกับญานินมานานและแวะเวียนไปที่บ้านบ่อย ๆ เรื่องของเราจึงไม่เป็นคำถามสำหรับพวกท่านนัก"พ่อแกหายดีแล้วใช่ไหม" ใบเฟิร์นถามขึ้นมาตอนที่ฉันกำลังเข้าห้องเรียนและหย่อนสะโพกลงนั่งเก้าอี้"อืม ดีแล้ว""เรื่องคดีล่ะ" ฉันเล่าเรื่องทั้งหมดให้ใบเฟิร์นฟังแล้ว ส่วนญานินไม่ต้องเล่ายัยนั่นก็รู้"เรื่องนั้นพี่นธีจัดการ ฉันไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้เลย" ฉันบอกไปตามจริงเพราะไอ้ที่พี่นธีพูดเป็นฉาก ๆ ไม่เข้าสมองฉันเลย"มีผัวดีก็ดีไป" ใบเฟิร์นพูดออกมาอย่างขำ ๆ สักพักญานินก็มา และตามหลังด้วยอาจารย์บทสนทนาจึงจบลง"ไปกินคณะบริหารไหม มีคนบอกให้ไปลองชิมร้านก๋วยเตี๋ยวขลุกขลิก" ญานินเอ่ยแล้วรีบเก็บของตัวเอง "คนที่ว่านั่นพี่ทศกัณฐ์
EP.44วันต่อมาวันนี้ฉันกลับมาบ้าน บ้านที่เคยเป็นบ้านของตัวเอง เพื่อมาเอาของใช้บางส่วนและเสื้อผ้าของพ่อ"อะ อ้าว น้องเนย กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่" พอก้าวเข้ามาในบ้านไอ้วีก็เสนอหน้าออกมาต้อนรับทันที ในมือถือซองบุหรี่กับไฟแช็ก ในบ้านคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นบุหรี่จากคนตรงหน้า"หลบไป !" ฉันถลึงตาใส่มันอย่างไม่เกรงกลัวแต่มันกลับยิ้มเยาะแล้วเบี่ยงตัวหลบพร้อมกลับผายมือให้ฉันเดินเข้ามาในบ้านที่ตอนนี้ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปหมดแล้ว ข้าวของเครื่องใช้ทุกอย่างที่คุ้นตาตอนนี้มันหายและย้ายที่ไปเกือบหมด"รูปแม่ฉัน ใครเอาไปไหน" ฉันเดินไปที่ชั้นวางที่เคยมีรูปแม่วางอยู่ ก่อนจะตวัดสายตาไปมองไอ้วีที่เดินยิ้มตามมา "ไม่รู้" วีพูดเหมือนไม่ใส่ใจพร้อมกับยักไหล่ขึ้น"พวกแกเอารูปแม่ฉันไปไว้ไหน บอกมา !" "เอะอะโวยวายอะไรกัน" แล้วเสียงของผู้หญิงที่ชื่อบัวก็ดังขึ้นฉันจึงตวัดสายตาไปมอง ยัยป้านั่นแสยะยิ้มออกมาแล้วทักทาย "ว่าไง เธอมีอะไร""ฉันมาเอาของของฉัน" พูดจบฉันก็เดินเบี่ยงตัวผ่านสองแม่ลูกไป แต่ยัยป้านั่นกลับกระชากแขนฉันกลับ "ทุกอย่างในบ้านนี้ไม่ใช่ของแก""..." ฉันยิ้มออกมาก่อนจะผลักอกมันจนยอมปล่อยมือออก "หน้าด้าน"พูดจ
EP.43"ป้าพิน !""เนย มาแล้วเหรอลูก"ฉันเดินเข้าไปกอดผู้เป็นป้าหลังจากที่ไม่ได้เจอกันเกือบปีด้วยความคิดถึง"สวัสดีครับ" พี่นธีเอ่ยและยกมือไหว้ป้าฉันอย่างมีมารยาท ท่านจึงพยักหน้าแล้วส่งยิ้มให้อย่างเป็นมิตร"พ่อล่ะคะ" "หมอกำลังตรวจเอกซเรย์สมองกับกระดูก แต่คงไม่มีอะไรอันตรายแล้วละ ที่ตกบันไดเพราะความดันต่ำแล้วหน้ามืดน่ะ ตอนป้าไปเจอคงจะหลังจากตกลงมาไม่นานพอดี" ป้าอธิบายให้ฟังขณะที่ฉันบีบมือท่านเอาไว้จนชุ่มเหงื่อแต่พอได้ยินว่าไม่อันตรายมันก็รู้สึกดีขึ้น"เนย บอกป้ามาได้ไหมว่าโกรธอะไรพ่อเรา" ป้าพินขมวดคิ้วเข้าหากันแน่นอย่างสงสัย"..." ฉันเม้มปากเข้าหากันเพราะความลังเล ไม่รู้ว่ามันควรจะเล่าดีหรือเปล่า พอหันไปมองพี่นธีที่ยืนอยู่ห่างกันออกไปเขาก็มองมานิ่ง ๆ"เดี๋ยวจะลงไปเอากุญแจรถ มีคนเอารถมาให้แล้ว" เขาคงให้คนที่บ้านเอารถมาให้ใช้ละมั้ง"ค่ะ พี่ไปพักผ่อนอยู่ที่บ้านก็ได้นะ อย่ามาลำบากเลย ที่นี่คนเยอะ" ฉันบอกพี่นธีแล้วยิ้มเล็กน้อยทั้งที่ขอบตายังมีน้ำหยดเล็ก ๆ เกาะเต็มไปหมด"เดี๋ยวมา" เขาบอกแล้วหันหลังเดินออกไปหลังจากพี่นธีออกไปฉันก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้ป้าพินฟัง ท่านดูตกใจไม่น้อยที่ฉันเจอแบบนั
EP.42"คิดถึง"นัยน์ตาสีน้ำตาเข้มจ้องลึกเข้ามาในดวงตาของฉันราวกับจะสะกดให้ยินยอมเขาทุกอย่าง และมันได้ผลเพราะฉันไม่สามารถละสายตาไปจากใบหน้าของเขาได้เลย"..." เขาจูบลงมาอีกครั้งอย่างหนักหน่วง ย้ำคำว่าคิดถึงให้มันชัดเจนยิ่งขึ้น ก่อนที่จะช้อนร่างของฉันไปบนเตียงและปลดเปลื้องเสื้อผ้าของเราทั้งคู่จนเปลือยเปล่าต่อกันการไม่ได้มีอะไรกันเป็นเวลาครึ่งเดือนทำให้ฉันรู้สึกกระดากอายเล็กน้อย ไหนจะเรื่องที่เราทะเลาะกัน และคำพูดดี ๆ รอยยิ้มที่เขามอบให้มันทำให้รู้สึกราวกับว่ามันคือครั้งแรกจนต้องนั่งขดตัวปิดบังความเป็นสาวของตัวเอง ขณะที่อีกคนกลับยิ้มมุมปากอย่างพอใจแล้วดึงตัวฉันไปนั่งบนตักของเขาโดยที่เราหันหน้ามาเผชิญกัน"พี่ไม่เช็ดผมแล้วเหรอ อ๊า..." เหมือนเขาไม่ได้สนใจคำพูดของฉันเท่าไร เพราะสิ่งที่เขาสนใจคือความนุ่มหยุ่นเบื้องหน้า เขาจูบและลูบไล้ไปทั่วเนินอกขณะที่มือยังคงบีบขยำอกคู่งามเอาไว้เป็นจังหวะ สัมผัสจาบจ้วงหนักหน่วงแต่ไม่รุนแรงอย่างที่ฉันกลัวร่างกายของฉันตอบสนองสัมผัสของเขาได้เป็นอย่างดี สร้างความเปียกชื้นจนรู้สึกได้เต็มเรียวขาเนียนที่มีมือใหญ่อีกข้างหนึ่งเคล้นคลึงขยับมากลางกาย สอดนิ้วเข้าออกเร