Share

ส่งฉู่จิ้งไปเรียน

Penulis: l3oonm@
last update Terakhir Diperbarui: 2025-03-31 03:41:52

สิบห้าวันให้หลังขบวนรถม้าที่ยาวถึงหกคันรถก็เดินทางมาถึงหมู่บ้านตงหยาน ชาวบ้านต่างออกมาต้อนรับพวกเขาอย่างยินดี

ซูเจินก็ถูกจิ่วเม่ยจูงมือมารอรับท่านพ่อของนางที่หน้าหมู่บ้านด้วย

“ตาเฒ่ามาแล้ว” ป้าหวงร้องลั่นอย่างยินดี

“เพ้ย ยายแก่ ข้าได้ยินเสียงของเจ้ามาแต่ไกล” ลุงหวงอดจะหยอกเมียของเขาไม่ได้

เมื่อซูเต๋อเดินลงมาจากรถม้าก็รีบเดินเข้ามาอุ้มซูเจินน้อยไปกอดทันที

“เพราะเจ้า พ่อถึงมีวาสนาเช่นนี้” ซูเต๋อหอมแก้มบุตรสาวฟอดใหญ่

“มีเรื่องดีอันใดเจ้าคะ” จิ่วเม่ยอดที่จะเอ่ยถามไม่ได้

“ข้ากับอาเต๋อ ได้รับพระราชทานตำแหน่งขุนนางขั้นแปด” ลุงหวงเป็นผู้ที่ไขข้อสงสัย เขายืดอกขึ้นอย่างภูมิใจ

เสียงฮือฮาจากชาวบ้านดังไม่ขาดสาย พวกเขาต่างเข้ามาแสดงความยินดี แม้ไม่เข้าใจว่าขุนนางขั้นแปดคืออันใด แต่ก็พอจะรู้ว่าการเป็นขุนนางนั่นมีอำนาจอยู่ไม่น้อย

“อาจือเล่า เขาอยู่ที่ใด” ป้าหวงเมื่อยินดีกับตำแหน่งใหม่ของสามีแล้วก็อดจะมองหาหลานชายไม่ได้

“อาจืออยู่ที่เมืองหลวงต่อ ใต้เท้าหานจัดการเรื่องเรียนของเขาให้เรียบร้อยแล้ว ที่อยู่ของเขาข้ากับอาเต๋อก็ซื้อเรือนและบ่าวให้เขาแล้ว เจ้าอย่าได้กังวลใจ” เพราะหลานชายก็อายุสิบหกหนาวแล้ว เข
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   ต้องหาแหล่งน้ำเพิ่ม

    ห้าเดือนต่อมาจิ่วเม่ยก็คลอดบุตรชายอวบอ้วนออกมาให้ซูเต๋อได้เชยชม ซูเจินนางยังเฝ้าน้องชายของนางอยู่ไม่ห่างข่าวของหวงจือที่อยู่ในเมืองหลวงก็ถูกส่งกลับมาที่หมู่บ้าน เขาสอบซิ่วไฉผ่านในวัยเพียงสิบเจ็ดหนาว และปีหน้าจะสอบจวี่เหรินอีกด้วยคนตระกูลหวงจึงคิดจะเดินทางเข้าเมืองหลวง เพื่อไปดูความเป็นอยู่ของเขา“เจินเออร์ เจ้าอยากไปกับยายหรือไม่” ป้าหวงเอ่ยถามซูเจิน“ไม่เจ้าค่ะ ข้าจะอยู่ดูน้องชาย” นางไม่รู้ว่าจะไปทำอันใดที่เมืองหลวง อยากจะรอให้น้องชายโตเสียก่อนค่อยคิดจะเดินทางไปเที่ยวเมื่อเห็นว่าเป็นเช่นนั้น ป้าหวงจึงไม่คิดจะบังคับนางต่อ นางกลับเรือนของตนเพื่อไปจัดการเก็บข้าวของ ทั้งยังบอกจะซื้อของมาฝากซูเจินอีกด้วยลุงหวงมิได้ทำหน้าที่ผู้นำหมู่บ้านแล้ว เป็นหวงไฉที่ทำหน้าที่แทนเขา หวงไฉจึงไม่ได้ออกเดินทางไปด้วย เพราะเป็นห่วงทางหมู่บ้านที่ปีนี้ดูจะแล้งกว่าปีที่แล้วมากนักซูเจินเอ่ยถามเรื่องตาน้ำกับสหายทั้งสามของนาง ถึงแม้ในหมู่บ้านตงหยานจะไม่ได้รับผลกระทบ แต่หมู่บ้านหูต้าที่อยู่ติดกันได้รับผลกระทบไม่น้อยผู้นำหมู่บ้านหูต้าต้องเดินทางมาคุยกับหวงไฉ เพื่อขอให้ชาวบ้านเดินทางมาตักน้ำที่ยังมีอีกมากในหมู่

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-01
  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   ขุดหาตาน้ำ

    ฟ้ายังไม่ทันสว่างดี ซูเต๋อและหวงไฉก็พาชาวบ้านจำนวนหนึ่งไปที่หมู่บ้านหูต้า เมื่อมาถึงที่ทางเข้าหมู่บ้านก็พบว่าท่านเจ้าเมืองมารอพวกเขาอยู่แล้ว“อาเต๋อเจ้ามาแล้ว” ท่านเจ้าเมืองเดินเข้ามารับซูเต๋อที่รถม้าอย่างยินดี“คารวะท่านเจ้าเมืองขอรับ” ซูเต๋อยังคงนอบน้อมเช่นเดิม“เพ้ย ไปไป เข้าไปในหมู่บ้านกันเถิด ข้าอยากจะเห็นแล้วว่าเจ้าหาตาน้ำเช่นไร” ซูเต๋อเดินตามท่านเจ้าเมืองเข้าไปในหมู่บ้าน เขาไม่ได้รีบไปที่ตาน้ำตามที่ซูเจินนางบอก เสี่ยวอี่ยังติดตามเขามาด้วย เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดขึ้นหัวหน้าหมู่บ้านลองทำตามวิธีของซูเต๋อก่อนที่เขาจะมาแล้วรอบหนึ่ง แต่ก็ไม่เห็นว่าจะมีไอน้ำขึ้นมาจากดินเช่นที่ดินของซูเต๋อเลยสักนิด“ข้าสำรวจแล้วหนึ่งรอบ แต่ไม่พบไอน้ำอย่างที่เจ้าว่า” เขาเอ่ยออกมาอย่างกังวลหากที่หมู่บ้านหูต้าไม่มีตาน้ำ ก็คงต้องรบกวนหมู่บ้านตงหยานต่อไป“เรื่องนี้ท่านอย่าเพิ่งกังวล ตอนที่ท่านสำรวจฟ้าคงยังมืดอยู่จึงไม่อาจเห็นได้ชัด” ซูเต๋อก็ไม่รู้เช่นกันว่าสิ่งที่เขาพูดจะถูกต้องหรือไม่ แต่ก็ไม่อยากให้หัวหน้าหมู่บ้านกังวลใจพอฟ้าใกล้สาง ซูเต๋อก็เดินนำไปตามเส้นทางที่สอบถามซูเจินมาก่อนหน้านี้แล้วทันที เส

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-01
  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   อีเตอร์

    วันต่อมาเป็นเช่นที่ซูเต๋อว่าจริงๆ เมื่อท่านเจ้าเมืองส่งเจ้าหน้าที่มาที่เรือนของซูเต๋อ เพื่อตามเขาไปดูแหล่งน้ำในหมู่บ้านอื่น เสี่ยวอี่ยังทำหน้าที่ตามเดิมติดตามซูเต๋อไปด้วยเพียงห้าวันที่ซูเต๋อออกไปจัดการเรื่องน้ำให้หมู่บ้านอื่น ทางเมืองหลวงก็ส่งม้าเร็วกลับมาที่หมู่บ้านพร้อมทั้งขุนนางกรมโยธาที่มีใต้เท้าหานเดินทางมาด้วยตนเอง“อาเต๋อ เจ้าช่างทำให้ข้าประหลาดใจยิ่งนัก” ใต้เท้าหานพบหน้าซูเต๋อก็เอ่ยออกมาทันทีเพียงไม่ถึงปีที่ไม่ได้พบหน้ากัน ซูเต๋อก็สร้างเรื่องประหลาดใจเพิ่มให้เขาอีกแล้ว แม้แต่ขุนนางที่ระดมหัวคิดทั่วทั้งเมืองหลวงไม่อาจจะคิดแก้ไขได้ แต่ซูเต๋อที่เป็นเพียงชาวบ้านธรรมดาถึงจะมีตำแหน่งขุนนางขั้นแปดอยู่กลับคิดออกมาได้“คารวะใต้เท้าหานขอรับ ข้าน้อยเพียงลองผิดลองถูกแล้วพบตาน้ำในที่ดินของตนเอง จึงได้ลองนำไปช่วยเหลือชาวบ้านขอรับ”“เพ้ย เจ้านี่น่า เลิกถ่อมตัวเช่นนี้ได้แล้ว ข้าอ่านรายงานของเจ้าเมืองเหอหนานแล้ว แต่เมื่อลองออกสำรวจผืนดินก็ไม่อาจพบน้ำเช่นที่เจ้าพบ เจ้าทำได้อย่างไร” “พรุ่งนี้ข้าน้อยต้องไปที่หมู่บ้านหูจง ท่านไปด้วยดีหรือไม่ ตอนนั้นท่านจะได้รู้ว่าข้าจัดการเช่นไร” “ได้ ได้ ข้าย

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-02
  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   ที่มาของเงินชุยฟง

    ราชโองการแต่งตั้งซูเต๋อเดินทางมาที่เมืองเหอหนานหลังจากที่ใต้เท้าหานเดินทางกลับไปเมืองหลวงได้เพียงครึ่งเดือนเท่านั้นยังดีที่ซูเต๋อไม่ต้องเข้าไปอยู่ที่เมืองหลวงในยามนี้ กงกงที่มาแจ้งราชโองการ บอกให้เขาจัดการปัญหาที่หัวเมืองใกล้เคียงเหอหนานให้เรียบร้อยเสียก่อน ค่อยเดินทางเข้าเมืองหลวงไปรับตำแหน่งใต้เท้าหานยังส่งเจ้าหน้าที่กรมโยธามาช่วยเหลืองานของซูเต๋ออีกด้วย แม้จะเป็นเจ้าหน้าที่ที่สอบหน้าพระพักตร์จนได้เป็นขุนนาง แต่พวกเขาจำต้องเกรงใจซูเต๋ออยู่สองส่วนเพราะเขาได้ตำแหน่งขุนนางขั้นเจ็ดแล้ว และอีกอย่างตอนนี้เขาก็ได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้อยู่ไม่น้อยแต่ซูเต๋อก็มิได้แสดงท่าทีอวดอำนาจกับเจ้าหน้าที่สักคน ต่างทำงานร่วมกับพวกเขาอย่างเต็มที่ ทั้งยังให้ความสนิทสนมเช่นสหายกับทุกคน เรื่องนี้ทำให้เจ้าหน้าที่ที่มาทำงานต่างชื่นชมเขาอยู่ไม่น้อยผู้ใดจะคิดว่าชีวิตที่กำลังไปได้ดีของซูเต๋อจะมีเรื่องน่าปวดหัวไม่น้อย เพราะต้าหลางกับนางไห่ซื่อมาพบพวกเขาที่เรือน“มีเรื่องอันใดขอรับ” “อาเต๋อ เจ้ายังเป็นบุตรชายของข้าอยู่หรือไม่ ได้ดีถึงเพียงนี้แต่ไม่คิดจะช่วยเหลือบิดาหรือน้องชาย” ซูเต๋อมิได้แสดงท่าทีเช่นใด

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-02
  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   เป็นเพียงเด็กทารก

    ซูเจินตื่นขึ้นอีกครั้ง เพราะเสียงร้องออกมาอย่างเจ็บปวดของผู้หญิงคนหนึ่ง เมื่อเธอลืมตาขึ้น จึงคิดจะเอ่ยปลอบคนที่ร้องไห้อยู่ คงไม่มีใครนอกจากเสี่ยวชิงเพราะตัวเธอสูญเสียคุณพ่อคุณแม่ไปตั้งแต่ยังเรียนอยู่ในชั้นมัธยมศึกษา แต่เมื่อเห็นภาพตรงหน้า หัวคิ้วของซูเจินก็ขมวดเข้าหากันแน่นไม่ ไม่ถูกต้อง ทำไมเธอจึงรู้สึกเหมือนถูกกอดรัดไว้อย่างแน่น ความรู้สึกที่เริ่มจะหายใจไม่ออกทำให้ ซูเจินร้องประท้วงออกมา“อุแว้” ซูเจินเงียบเสียงลง พร้อมทั้งเสียงของสตรีที่ร้องคร่ำครวญเมื่อครู่ก็หยุดลงเช่นกัน ซูเจินร้องใหม่อีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าเมื่อครู่ไม่ใช่เสียงของเธอ“อุแว้” ดวงตาของซูเจินเบิกกว้าง เธอรู้แล้วว่าเสียงร้องของเด็กน้อยเมื่อครู่เป็นเสียงร้องของเธอเองมันเหมือนจะยิ่งตอกย้ำเข้าไปอีก เมื่อสตรีตรงหน้าเปลี่ยนท่าทางที่กอดเธออยู่ เป็นอุ้มออกดูเพื่อจะดูว่าให้แน่ใจเช่นกันสิ่งที่ซูเจินเห็นทำให้นางกรีดร้องออกมาเสียงดัง แข่งกับสตรีที่อุ้มเธออยู่ในความรู้สึกของเธอ เหมือนเธอกำลังโวยวายอย่างบ้าคลั่ง แต่เสียงที่เปล่งออกมาเป็นเพียงเสียงของเด็กน้อยที่ร้องลั่นปานจะขาดใจ“ไม่เป็นไรแล้ว ไม่เป็นไรแล้วลูก” เสียงของสตร

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-20
  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   รสชาติก็ไม่ได้แย่

    จิ่วเม่ยกับชุยเต๋อจึงได้มาใช้แซ่ของมารดาชุยเต๋อคือ แซ่ซู เรื่องนี้นับว่าสร้างแปลกใจให้ซูเจินที่นอนนิ่งฟังเรื่องราวต่างๆ อยู่ไม่น้อยเพราะตัวนางก็แซ่ซู นามเจิน มาภพใหม่ยังได้ใช้ชื่อแซ่เดิมอีก ซูเจินนางผนวกเรื่องราวทั้งหมดได้แล้ว นางข้ามมิติมาอยู่ในยุคโบราณในร่างของเด็กทารกที่มีความทรงจำเดิมอยู่ครบถ้วนหมู่บ้านที่นางอยู่ คือ หมู่บ้านตงหยาน เมืองเหอหนาน แคว้นต้าเยี่ยน เหมือนว่านางอยู่ที่ป่าของเหอหนาน เพียงย้อนกลับมาในพันปีที่แล้วจิ่วเม่ยมีชาวบ้านช่วยเก็บของของนางพากลับไปที่เรือนเดิมที่อยู่ท้ายหมู่บ้าน ข้าวของของนางมีไม่มาก เก็บไม่ถึงเค่อ (1เค่อ = 15 นาที) ก็เสร็จเรียบร้อยเรือนของท่านปู่ท่านย่าของนางที่ท้ายหมู่บ้านมิได้ทรุดโทรมทั้งยังมีห้องมากถึงห้าห้อง นางไห่ซื่อจึงอยากได้มาครอบครองมากนัก นางอยากยกให้ชุยฟงบุตรชายของนาง ที่ปีหน้าก็จะต้องลูกสะใภ้เข้าเรือนแล้ว แต่ก็ต้องคืนให้จิ่วเม่ยไปเสียก่อน“ขอบคุณทุกท่านมากเจ้าค่ะ บุญคุณที่ช่วยข้าในครั้งนี้ ข้าจะไม่ลืมเจ้าค่ะ” จิ่วเม่ยคุกเข่าลงต่อหน้าชาวบ้าน เมื่อพวกเขามาส่งนางที่เรือน“นับว่าสวรรค์เมตตาเจ้าแล้วอาเม่ยที่หลุดพ้นแม่สามีเช่นนั้นมาได้ เมื

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-20
  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   เหล่าแมลงเต็มตัวนาง

    นางไม่มีเมล็ดข้าวที่จะใช้ปลูก ป้าหวงจึงได้แบ่งจากที่เรือนของนางมาให้ แต่จิ่วเม่ยก็ไม่กล้าเอาเปล่าๆ ป้าหวงจึงได้คิดเงินนางเพียงสองตำลึงเท่านั้นนับว่าไม่มาก เมื่อเทียบกับที่นาของจิ่วเม่ยที่เพิ่มมาอีกเกือบสิบหมู่ ตอนนี้นางจึงมีที่ทำนาถึงสิบหกหมู่ หากจะให้นางทำผู้เดียวคงไม่ไหว ชาวบ้านจึงได้มาช่วยนางทำนาในครั้งนี้ด้วยแต่ต้องรอให้ชาวบ้านจัดการแปลงของตนเองเรียบร้อยเสียก่อน จิ่วเม่ยนางให้ค่าแรงพวกเขาคนละสามสิบอิแปะ เท่ากับราคาค่าจ้างในเมือง เพียงแต่ไม่มีอาหารให้เท่านั้น“ไม่ต้อง เจ้าเก็บเงินไว้ดูลูกเถิด” ป้าหวงและชาวบ้านต่างตำหนินาง“ไม่ได้เจ้าค่ะ พวกท่านช่วยเหลือข้าบ่อยครั้ง แต่ข้าไม่มีสิ่งใดที่จะตอบแทนพวกท่านได้เลย” จิ่วเม่ยมองพวกเขาทุกคนอย่างซาบซึ้ง“เช่นนั้นก็ให้เพียงยี่สิบอิแปะพอ ข้าวกลางวัน พวกข้าจะจัดการกันเอง” เมื่อป้าหวงเอ่ยเช่นนี้ ชาวบ้านที่เหลือต่างก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วยในหมู่บ้านหากไม่ใช่พวกเห็นแก่ตัวที่อยู่ไม่กี่เรือน พวกเขาต่างช่วยเหลือกันอยู่แล้ว จึงไม่คิดอยากจะได้เงินจากสองแม่ลูกที่น่าสงสารเช่นนี้ ในเมื่อจิ่วเม่ยนางไม่ยอม ทุกคนจึงได้ทำอย่างที่ป้าหวงว่าซูเจินน้อยมองพวกเขาพ

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-21
  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   ถูกเสี่ยวมี่จัดการ

    เสียงร้องของไห่กวงที่วิ่งจากท้ายหมู่บ้านไปจนเรือนของตระกูลชุยที่กลางหมู่บ้าน ปลุกให้ชาวบ้านที่ต่างเข้านอนไปแล้วลุกขึ้นออกมาดูอย่างสงสัย“นั่นมันน้องชายนางไห่ซื่อมิใช่หรือ” หนึ่งในชาวบ้านที่ออกมาดูมองไปที่ไห่กวงที่วิ่งผ่านหน้าไป“มาทำอันใดยามนี้” พวกเขาต่างเดินตามไปอย่างสงสัย“ท่านพี่ ท่านพี่ เปิดประตูเร็วเข้า” ไห่กวงตะโกนร้องเรียกพี่สาวอยู่ที่หน้าเรือนนางไห่ซื่อลุกขึ้นมาจากเตียงอย่างแปลกใจ นางคุยกับน้องชายไว้แล้วว่า พรุ่งนี้นางจะพาชาวบ้านไปที่เรือนของจิ่วเม่ย เพื่อให้พวกเขาเห็นกับตา ว่าทั้งคู่ลอบนัดพบกัน“นั่นเสียงอากวงมิใช่รึ” ต้าหลางลุกตามเมียขึ้นมานั่ง ก่อนที่จะเดินออกจากเรือนเพื่อไปดูพอเปิดประตูเรือนเท่านั้น นางไห่ซื่อก็กรีดร้องออกมา เมื่อเห็นผึ้งบินอยู่รอบตัวน้องชาย ใบหน้าของเขาเริ่มจะบวมเป็นหัวหมูแล้วเสี่ยวมี่เห็นนางไห่ซื่อ ก็สั่งให้ผึ้งที่บินล้อมไห่หวง บินไปต่อยที่ปากของนางทันที“โอ๊ยยย” นางไห่ซื่อกรีดร้องออกมาอย่างเสียขวัญ ทั้งปัดป้องและวิ่งหนีเข้าไปหลบอยู่ในเรือน“เกิดเรื่องอันใดขึ้น” ชาวบ้านไปตามลุงหวงที่เป็นผู้นำหมู่บ้านมา เพราะไห่กวงไม่ใช่คนในหมู่บ้าน หากเกิดเรื่องร้ายก

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-21

Bab terbaru

  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   ที่มาของเงินชุยฟง

    ราชโองการแต่งตั้งซูเต๋อเดินทางมาที่เมืองเหอหนานหลังจากที่ใต้เท้าหานเดินทางกลับไปเมืองหลวงได้เพียงครึ่งเดือนเท่านั้นยังดีที่ซูเต๋อไม่ต้องเข้าไปอยู่ที่เมืองหลวงในยามนี้ กงกงที่มาแจ้งราชโองการ บอกให้เขาจัดการปัญหาที่หัวเมืองใกล้เคียงเหอหนานให้เรียบร้อยเสียก่อน ค่อยเดินทางเข้าเมืองหลวงไปรับตำแหน่งใต้เท้าหานยังส่งเจ้าหน้าที่กรมโยธามาช่วยเหลืองานของซูเต๋ออีกด้วย แม้จะเป็นเจ้าหน้าที่ที่สอบหน้าพระพักตร์จนได้เป็นขุนนาง แต่พวกเขาจำต้องเกรงใจซูเต๋ออยู่สองส่วนเพราะเขาได้ตำแหน่งขุนนางขั้นเจ็ดแล้ว และอีกอย่างตอนนี้เขาก็ได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้อยู่ไม่น้อยแต่ซูเต๋อก็มิได้แสดงท่าทีอวดอำนาจกับเจ้าหน้าที่สักคน ต่างทำงานร่วมกับพวกเขาอย่างเต็มที่ ทั้งยังให้ความสนิทสนมเช่นสหายกับทุกคน เรื่องนี้ทำให้เจ้าหน้าที่ที่มาทำงานต่างชื่นชมเขาอยู่ไม่น้อยผู้ใดจะคิดว่าชีวิตที่กำลังไปได้ดีของซูเต๋อจะมีเรื่องน่าปวดหัวไม่น้อย เพราะต้าหลางกับนางไห่ซื่อมาพบพวกเขาที่เรือน“มีเรื่องอันใดขอรับ” “อาเต๋อ เจ้ายังเป็นบุตรชายของข้าอยู่หรือไม่ ได้ดีถึงเพียงนี้แต่ไม่คิดจะช่วยเหลือบิดาหรือน้องชาย” ซูเต๋อมิได้แสดงท่าทีเช่นใด

  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   อีเตอร์

    วันต่อมาเป็นเช่นที่ซูเต๋อว่าจริงๆ เมื่อท่านเจ้าเมืองส่งเจ้าหน้าที่มาที่เรือนของซูเต๋อ เพื่อตามเขาไปดูแหล่งน้ำในหมู่บ้านอื่น เสี่ยวอี่ยังทำหน้าที่ตามเดิมติดตามซูเต๋อไปด้วยเพียงห้าวันที่ซูเต๋อออกไปจัดการเรื่องน้ำให้หมู่บ้านอื่น ทางเมืองหลวงก็ส่งม้าเร็วกลับมาที่หมู่บ้านพร้อมทั้งขุนนางกรมโยธาที่มีใต้เท้าหานเดินทางมาด้วยตนเอง“อาเต๋อ เจ้าช่างทำให้ข้าประหลาดใจยิ่งนัก” ใต้เท้าหานพบหน้าซูเต๋อก็เอ่ยออกมาทันทีเพียงไม่ถึงปีที่ไม่ได้พบหน้ากัน ซูเต๋อก็สร้างเรื่องประหลาดใจเพิ่มให้เขาอีกแล้ว แม้แต่ขุนนางที่ระดมหัวคิดทั่วทั้งเมืองหลวงไม่อาจจะคิดแก้ไขได้ แต่ซูเต๋อที่เป็นเพียงชาวบ้านธรรมดาถึงจะมีตำแหน่งขุนนางขั้นแปดอยู่กลับคิดออกมาได้“คารวะใต้เท้าหานขอรับ ข้าน้อยเพียงลองผิดลองถูกแล้วพบตาน้ำในที่ดินของตนเอง จึงได้ลองนำไปช่วยเหลือชาวบ้านขอรับ”“เพ้ย เจ้านี่น่า เลิกถ่อมตัวเช่นนี้ได้แล้ว ข้าอ่านรายงานของเจ้าเมืองเหอหนานแล้ว แต่เมื่อลองออกสำรวจผืนดินก็ไม่อาจพบน้ำเช่นที่เจ้าพบ เจ้าทำได้อย่างไร” “พรุ่งนี้ข้าน้อยต้องไปที่หมู่บ้านหูจง ท่านไปด้วยดีหรือไม่ ตอนนั้นท่านจะได้รู้ว่าข้าจัดการเช่นไร” “ได้ ได้ ข้าย

  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   ขุดหาตาน้ำ

    ฟ้ายังไม่ทันสว่างดี ซูเต๋อและหวงไฉก็พาชาวบ้านจำนวนหนึ่งไปที่หมู่บ้านหูต้า เมื่อมาถึงที่ทางเข้าหมู่บ้านก็พบว่าท่านเจ้าเมืองมารอพวกเขาอยู่แล้ว“อาเต๋อเจ้ามาแล้ว” ท่านเจ้าเมืองเดินเข้ามารับซูเต๋อที่รถม้าอย่างยินดี“คารวะท่านเจ้าเมืองขอรับ” ซูเต๋อยังคงนอบน้อมเช่นเดิม“เพ้ย ไปไป เข้าไปในหมู่บ้านกันเถิด ข้าอยากจะเห็นแล้วว่าเจ้าหาตาน้ำเช่นไร” ซูเต๋อเดินตามท่านเจ้าเมืองเข้าไปในหมู่บ้าน เขาไม่ได้รีบไปที่ตาน้ำตามที่ซูเจินนางบอก เสี่ยวอี่ยังติดตามเขามาด้วย เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดขึ้นหัวหน้าหมู่บ้านลองทำตามวิธีของซูเต๋อก่อนที่เขาจะมาแล้วรอบหนึ่ง แต่ก็ไม่เห็นว่าจะมีไอน้ำขึ้นมาจากดินเช่นที่ดินของซูเต๋อเลยสักนิด“ข้าสำรวจแล้วหนึ่งรอบ แต่ไม่พบไอน้ำอย่างที่เจ้าว่า” เขาเอ่ยออกมาอย่างกังวลหากที่หมู่บ้านหูต้าไม่มีตาน้ำ ก็คงต้องรบกวนหมู่บ้านตงหยานต่อไป“เรื่องนี้ท่านอย่าเพิ่งกังวล ตอนที่ท่านสำรวจฟ้าคงยังมืดอยู่จึงไม่อาจเห็นได้ชัด” ซูเต๋อก็ไม่รู้เช่นกันว่าสิ่งที่เขาพูดจะถูกต้องหรือไม่ แต่ก็ไม่อยากให้หัวหน้าหมู่บ้านกังวลใจพอฟ้าใกล้สาง ซูเต๋อก็เดินนำไปตามเส้นทางที่สอบถามซูเจินมาก่อนหน้านี้แล้วทันที เส

  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   ต้องหาแหล่งน้ำเพิ่ม

    ห้าเดือนต่อมาจิ่วเม่ยก็คลอดบุตรชายอวบอ้วนออกมาให้ซูเต๋อได้เชยชม ซูเจินนางยังเฝ้าน้องชายของนางอยู่ไม่ห่างข่าวของหวงจือที่อยู่ในเมืองหลวงก็ถูกส่งกลับมาที่หมู่บ้าน เขาสอบซิ่วไฉผ่านในวัยเพียงสิบเจ็ดหนาว และปีหน้าจะสอบจวี่เหรินอีกด้วยคนตระกูลหวงจึงคิดจะเดินทางเข้าเมืองหลวง เพื่อไปดูความเป็นอยู่ของเขา“เจินเออร์ เจ้าอยากไปกับยายหรือไม่” ป้าหวงเอ่ยถามซูเจิน“ไม่เจ้าค่ะ ข้าจะอยู่ดูน้องชาย” นางไม่รู้ว่าจะไปทำอันใดที่เมืองหลวง อยากจะรอให้น้องชายโตเสียก่อนค่อยคิดจะเดินทางไปเที่ยวเมื่อเห็นว่าเป็นเช่นนั้น ป้าหวงจึงไม่คิดจะบังคับนางต่อ นางกลับเรือนของตนเพื่อไปจัดการเก็บข้าวของ ทั้งยังบอกจะซื้อของมาฝากซูเจินอีกด้วยลุงหวงมิได้ทำหน้าที่ผู้นำหมู่บ้านแล้ว เป็นหวงไฉที่ทำหน้าที่แทนเขา หวงไฉจึงไม่ได้ออกเดินทางไปด้วย เพราะเป็นห่วงทางหมู่บ้านที่ปีนี้ดูจะแล้งกว่าปีที่แล้วมากนักซูเจินเอ่ยถามเรื่องตาน้ำกับสหายทั้งสามของนาง ถึงแม้ในหมู่บ้านตงหยานจะไม่ได้รับผลกระทบ แต่หมู่บ้านหูต้าที่อยู่ติดกันได้รับผลกระทบไม่น้อยผู้นำหมู่บ้านหูต้าต้องเดินทางมาคุยกับหวงไฉ เพื่อขอให้ชาวบ้านเดินทางมาตักน้ำที่ยังมีอีกมากในหมู่

  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   ส่งฉู่จิ้งไปเรียน

    สิบห้าวันให้หลังขบวนรถม้าที่ยาวถึงหกคันรถก็เดินทางมาถึงหมู่บ้านตงหยาน ชาวบ้านต่างออกมาต้อนรับพวกเขาอย่างยินดีซูเจินก็ถูกจิ่วเม่ยจูงมือมารอรับท่านพ่อของนางที่หน้าหมู่บ้านด้วย“ตาเฒ่ามาแล้ว” ป้าหวงร้องลั่นอย่างยินดี“เพ้ย ยายแก่ ข้าได้ยินเสียงของเจ้ามาแต่ไกล” ลุงหวงอดจะหยอกเมียของเขาไม่ได้เมื่อซูเต๋อเดินลงมาจากรถม้าก็รีบเดินเข้ามาอุ้มซูเจินน้อยไปกอดทันที“เพราะเจ้า พ่อถึงมีวาสนาเช่นนี้” ซูเต๋อหอมแก้มบุตรสาวฟอดใหญ่“มีเรื่องดีอันใดเจ้าคะ” จิ่วเม่ยอดที่จะเอ่ยถามไม่ได้“ข้ากับอาเต๋อ ได้รับพระราชทานตำแหน่งขุนนางขั้นแปด” ลุงหวงเป็นผู้ที่ไขข้อสงสัย เขายืดอกขึ้นอย่างภูมิใจเสียงฮือฮาจากชาวบ้านดังไม่ขาดสาย พวกเขาต่างเข้ามาแสดงความยินดี แม้ไม่เข้าใจว่าขุนนางขั้นแปดคืออันใด แต่ก็พอจะรู้ว่าการเป็นขุนนางนั่นมีอำนาจอยู่ไม่น้อย“อาจือเล่า เขาอยู่ที่ใด” ป้าหวงเมื่อยินดีกับตำแหน่งใหม่ของสามีแล้วก็อดจะมองหาหลานชายไม่ได้“อาจืออยู่ที่เมืองหลวงต่อ ใต้เท้าหานจัดการเรื่องเรียนของเขาให้เรียบร้อยแล้ว ที่อยู่ของเขาข้ากับอาเต๋อก็ซื้อเรือนและบ่าวให้เขาแล้ว เจ้าอย่าได้กังวลใจ” เพราะหลานชายก็อายุสิบหกหนาวแล้ว เข

  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   ขุนนางขั้นแปด

    ซูเต๋อและลุงหวงจำต้องยืนรออยู่ที่หน้าท้องพระโรงเพราะยังไม่มีคำสั่งเรียกตัวให้เข้าเฝ้า เหงื่อของทั้งคู่ซึมออกมาตามแผ่นหลังอย่างกระวนกระวายใจ เพราะไม่รู้ว่าจะถูกสอบถามด้วยเรื่องอันใดแม้จะพอรู้ว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับกังหันลมที่เขาได้ส่งแบบร่างให้กับใต้เท้าหาน แต่ถึงอย่างไรพวกเขาก็กังวลใจอยู่ไม่น้อย“ซูเต๋อ หวงกุ้ยถัง ฝ่าบาทเรียกตัวให้เข้าเฝ้า” กงกงร้องเรียกทั้งสองที่หน้าท้องพระโรงซูเต๋อหันไปมองลุงหวงที่ตัวเริ่มจะสั่นอย่างเห็นได้ชัด จนเขาต้องบีบที่ไหล่เพื่อให้กำลังใจ“ท่านลุงหวง ท่านมิต้องกังวล ข้าจะเป็นผู้เอ่ยตอบสิ่งที่ฮ่องเต้ตรัสถามเองขอรับ”“ข้าเข้าใจแล้ว” ลุงหวงพยักหน้าราวกับไก่จิก ก่อนที่จะเดินตามกงกง ที่มาพาทั้งคู่เข้าไปหยุดอยู่ที่กลางท้องพระโรงท่ามกลางขุนนางนับร้อยที่มองมาที่พวกเขาเป็นตาเดียว“กระหม่อมซูเต๋อ ถวายบังคมพ่ะย่ะค่ะ”“กระหม่อมหวงกุ้ยถัง ถวายบังคมพ่ะย่ะค่ะ”ทั้งสองคุกเข่าลงต่อหน้าพระพักตร์ของฮ่องเต้ ตามที่ท่านใต้เท้าหานได้สอนมาก่อนหน้านี้แล้ว ด้านในมีท่านเจ้าเมืองอยู่กลางท้องพระโรงด้วยอีกคน“เจิ้นเรียกตัวพวกเจ้าทั้งสองเข้าวัง คงตกใจไม่น้อย” ฮ่องเต้เยี่ยนเฟยฉีตรัสอย่างเป็

  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   หาคนช่วยงานมารดา

    ซูเจินอาสาไปที่เรือนของป้าหวง เพื่อขอให้เขาช่วยเรื่องนี้ และบอกข่าวดีเรื่องการตั้งครรภ์ของมารดาด้วย“เพ้ย จะหาคนไปไย ยายจะไปช่วยเอง”“ไม่ได้เจ้าค่ะ ข้าไม่อยากให้ท่านยายเหนื่อย” ซูเจินถูหน้าน้อยๆ กับแขนของป้าหวง ทำให้นางหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ“ได้ ได้ ยายไม่ไปทำแล้ว มีแม่หม้ายฉู่ นางอยู่กับบุตรชายวัยสิบสามหนาว ยายจะไปถามนางให้ว่าอยากทำงานที่เรือนของเจ้าหรือไม่”“ขอบคุณเจ้าค่ะ” หวงหลินอดจะส่ายหัวไม่ได้ เมื่อเห็นท่าทางเอาอกเอาใจท่านย่าของนางจากซูเจินน้อยทั้งสามออกจากเรือนตระกูลหวงไปที่เรือนของแม่หม้าย แม้จะมีความเป็นอยู่ที่ไม่ค่อยจะดี แต่สองแม่ลูกก็เนื้อตัวสะอาดสะอ้าน ลานเรือนก็เป็นระเบียบเรียบร้อย“อาฉู่ อาเม่ยนางตั้งครรภ์ในเรือนก็มีเพียงเจินเออร์ห้าหนาวเท่านั้น อยากจะหาคนไปช่วยทำงานเรือน เจ้าอยากจะทำหรือไม่”“อยากเจ้าค่ะ” นางฉู่เอ่ยออกมาอย่างยินดี นาง ทุกวันนี้สองแม่ลูกรับจ้างทำงานในไร่กับหาของป่าไปขายเพื่อประทังชีพเท่านั้น“เช่นนั้นพรุ่งนี้เจ้าก็ไปที่เรือนตระกูลซูได้เลย” ป้าหวงพูดคุยอีกไม่กี่ประโยคจึงจะขอตัวกลับเพื่อไปดูจิ่วเม่ยที่เรือน“พี่จิ้ง ท่านก็ไปด้วย ข้าจะจ้างท่านอีกคน” ซูเจิ

  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   เรียกตัวเข้าเมืองหลวง

    เรื่องที่ชาวบ้านตงหยานแจกจ่ายข้าว และนำข้าวออกมาขายในราคาต่ำกว่าท้องตลาดถูกเลื่องลือออกไปหลายหัวเมือง จนถึงเมืองหลวง ทำให้ฮ่องเต้ยกย่องชาวบ้านหูหนานทั้งเจ้าเมืองที่จัดการเรื่องนี้อย่างดีแม้จะไม่ได้รับรางวัล เพราะเป็นช่วงที่ท้องพระคลังใช้เงินมากเพื่อเยียวยาชาวบ้านหลายหัวเมือง ถึงจะเป็นเพียงคำชมจากฮ่องเต้ก็นับว่าสร้างความปลาบปลื้มให้ทุกคนได้มากมายแล้วซูเจินให้หลันฮวาใช้พื้นที่ทั้งหมดในมิติ เพื่อปลูกข้าว นางต้องการที่จะกักตุนให้มากที่สุด เพราะไม่รู้ว่าในปีต่อไปผลกระทบจะร้ายแรงหรือไม่ใต้เท้าหานเมื่อเดินทางกลับถึงเมืองหลวงก็รีบนำแบบจำลองกังหันวิดน้ำขึ้นทูลถวายให้ฮ่องเต้ทอดพระเนตรทันที“ตระกูลซูที่หมู่บ้านหูหนาน เป็นเพียงชาวบ้านเช่นนั้นรึ” ฮ่องเต้อดจะแปลกพระทัยไม่ได้“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว ทั้งยังเห็นการทำงานของกังหันลมกับตาตนเอง น่าอัศจรรย์นักพ่ะย่ะค่ะ”“เช่นนั้นหรือ” ใต้เท้าหานทดลองให้ฮ่องเต้ทอดพระเนตรทันที ทั้งยังบอกว่ากังหันลมวิดน้ำที่หมู่บ้านตงหยานมีขนาดใหญ่กว่าแบบจำลองมากเพียงใด“ใต้เท้าหาน เจ้าเร่งจัดการเรื่องนี้เสีย หากผ่านพ้นภัยแล้งไปได้ เจิ้นจะตกรางวัลให้เจ้าก

  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   แจกจ่ายข้าว

    เมื่อเห็นผักที่ปลูกอยู่ข้างเรือนของซูเต๋อก็ยิ่งแปลกใจ เพราะแทบไม่มีร่องรอยจากการถูกแมลงกัดกิน และยังอวบอิ่มราวกับได้น้ำอย่างมากมายซูเต๋อมิได้แสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ เขาจะบอกได้อย่างไรว่ามีพวกแมลงสหายของบุตรสาวคอยช่วยดูแลแปลงผักของเขา“นี่คือสิ่งใด” ใต้เท้าหานอดที่จะเอ่ยถามถึงโรงเก็บของขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้นมาหลายหลังมิได้“ข้าน้อยกังวลเรื่องภัยแล้ง ตั้งแต่เมื่อห้าปีที่แล้วขอรับ จึงได้สร้างโรงเก็บข้าวเปลือกขึ้น โดยให้ชาวบ้านนำมาฝากเก็บไว้ เผื่อยามฉุกเฉินขอรับ” เป็นลุงหวงที่เอ่ยตอบเรื่องนี้ก็เป็นความคิดของซูเจิน ที่ให้สร้างโกดังทั้งยังใช้หลักการเดียวกับโรงรับฝากเงิน ข้าวที่ชาวบ้านนำมาฝาก ถูกเขียนสัญญาอย่างชัดเจน หากคิดจะขายทางซูเต๋อก็รับซื้อไว้ในราคาที่พวกเขาขาย หรือจะฝากไว้ยามฉุกเฉินก็จะเสียค่าฝากเพียงไม่กี่สิบอิแปะเท่านั้นน่าแปลกที่เก็บไว้ที่เรือนของตนย่อมถูกแมลงกัดกิน แต่เมื่อเทียบกับข้าวเปลือก ธัญพืชที่นำมาฝากที่โรงเก็บของส่วนกลางของหมู่บ้าน แทบจะไม่มีร่องรอยของแมลง นก หนู มาทำให้ข้าวของเสียหายเลยชาวบ้านจำนวนไม่น้อย เมื่อมีข้าวเปลือก ธัญพืชเหลือกินและเหลือจากขายแล้ว พวกเขาส่

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status