Share

เหตุการณ์ประหลาด

Author: l3oonm@
last update Last Updated: 2025-04-03 00:48:17

ซูเจินนางได้ติดตามบิดามาด้วย เพราะนางคิดว่านางคงมีประโยชน์ไม่น้อย เมื่อขบวนเดินทางมาถึง สองพ่อลูกได้แต่มองแม่น้ำที่เกือบจะแห้งขอดและผืนดินที่แตกระแหงจนไม่อาจเพาะปลูกสิ่งใดได้

“เป็นถึงขั้นนี้เลยหรือ” ซูเจินตกตะลึงกับภาพตรงหน้าไม่น้อย

“เจ้าอยู่แต่ในหมู่บ้านจึงไม่รู้ว่าภัยแล้งปีนี้สาหัสยิ่งนัก” ซูเต๋อเหม่อมองไปที่ด้านนอกรถม้าเช่นเดียวกับบุตรสาว

เขาคิดไม่ถึงว่าเมืองเหอโจวที่อยู่ติดกับเมืองเหอหนานจะย่ำแย่กว่ามากนัก หากไม่พาบุตรสาวมาด้วยเขาก็ไม่รู้ว่าวิธีการที่เคยทำจะได้ผลหรือไม่

คืนนั้นระหว่างที่เข้าพักในสถานที่ที่ท่านเจ้าเมืองเหอโจวจัดให้ ซูเจินนางก็รับฟังเรื่องราวที่สหายทั้งสามของนางออกไปสืบถามมาจากพวกสัตว์ตัวอื่น

“นายหญิงท่านต้องรีบลงมือแล้วเจ้าค่ะ สัตว์ในป่าก็แทบจะหาแหล่งน้ำไม่ได้แล้ว” เสี่ยวเตี๋ยเอ่ยอย่างร้อนรน

“ใช่นายหญิง สัตว์ใต้ดินล้มตายกันมากมายแล้วขอรับ” เสี่ยวอี่พูดด้วยเสียงสั่นเทา

“แล้วข้าจะทำอันใดได้บ้าง”

“ท่านถามหลันฮวาดีหรือไม่” เสี่ยวมี่ออกความเห็นออกมา

ทั้งสี่จึงเข้าไปในมิติ เพื่อนำเรื่องราวไปปรึกษาหลันฮวา

“นายหญิงท่านต้องไปที่ภูเขาหลานซาน เพื่อไปดูแหล่งต้นน้ำเจ้าค่ะ”

“อย
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   ไม่เชื่อว่าเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดา

    ขากลับยังเป็นเหลาหู่ที่พาสองพ่อลูกนั่งบนหลังของมัน พาออกไปส่งถึงที่พัก โดยมีหลันฮวาที่พาหลบสายตาของชาวบ้านที่ออกมานอกเรือนเพื่อดูความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเหลาหู่เข้าไปอยู่ในมิติกับหลันฮวา ซูเจินนางก็ถูกบิดาพาเข้าไปนอนที่ห้องของนาง รุ่งเช้าเมื่อทั้งสองตื่นขึ้นก็เห็นชาวบ้านและชาวเมืองของเหอโจวออกมาพูดเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืนอย่างหนาหู“อาเต๋อเห็นทีพวกเราคงมาเสียเที่ยวแล้ว” หวงไฉที่ติดตามมาด้วยพูดขึ้นเมื่อสองพ่อลูกออกมาจากห้องพัก“เกิดอันใดขึ้น” ซูเต๋อแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน“ไม่รู้ว่าเทพองค์ใดช่วยเมืองเหอโจวไว้ เมื่อคืนปรากฏแสงสีขาวสว่างไปทั่วทั้งเมือง เมื่อเช้าข้าไปดูแม่น้ำที่ชาวบ้านพูดถึงกัน ช่างน่าประหลาดนัก เพียงคืนเดียวแม่น้ำที่แห้งขอกลับมีน้ำเต็มแม่น้ำ” หวงไฉแสดงท่าทางไปด้วยขนาดที่เขากำลังเล่าออกมาสองพ่อลูกต้องแสดงละครตบตาได้อย่างแนบเนียน ทั้งยกมือขึ้นปิดปาก ทั้งเบิกตากว้างอย่างตกใจ จนสหายของซูเจินทั้งสามทนมองไม่ไหวต้องหันหน้าหนีไปทางอื่น“เช่นนั้นหรือ ไปเจินเออร์ ไปดูให้เห็นกลับตา” ซูเต๋อรีบจูงมือบุตรสาวฝ่าฝูงคนที่เดินสัญจรไปมาจนเต็มท้องถนน เพื่

    Last Updated : 2025-04-03
  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   สักวันก็ต้องรู้อยู่ดี

    ซูเจินมองบิดา เพื่อขอความเห็น เมื่อเห็นว่าเขาพยักหน้าให้นางจึงเอ่ยเรียกออกมา“เจ้าค่ะ ท่านปู่หาน”“ดีดี เด็กดี ปู่ไม่ได้เตรียมอันใดมาให้เจ้า เช่นนั้นรับสิ่งนี้ไว้ เป็นของขวัญพบหน้าก็แล้วกัน” ใต้เท้าหานดึงหยกพกที่อยู่ที่เอวของเขาออกมามอบให้ซูเจิน“ท่านใต้เท้า มากไปขอรับ” ซูเต๋อรีบเอ่ยแย้งทันที“ไม่มาก ไม่มาก ข้ารับนางเป็นหลานสาวแล้วจะเรียกว่ามากได้อย่างไร อาเต๋อต่อไปเจ้าก็เรียกข้าท่านอาก็แล้วกัน อย่าได้เรียกใต้เท้าอีกเลย” ใต้เท้าหานโบกมือให้ซูเต๋ออย่างใจกว้างเมื่อเห็นว่าเลี่ยงไม่ได้ และการที่เขาเรียกใต้เท้าหานว่าท่านอาก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อันใด ซูเต๋อจริงได้เอ่ยเรียกเขาอย่างนอบน้อม“ขอรับ ท่านอาหาน”เมื่อมาถึงที่พักของใต้เท้าหาน เขาก็พาสองพ่อลูกเข้าไปพูดคุยเป็นการส่วนตัวทันที“อาเต๋อ ข้าไม่ขอปิดบังเจ้าที่ฮ่องเต้ส่งข้ามาที่เมืองเหอโจวในครั้งนี้เพื่อตรวจสอบเรื่องราวที่เกิดขึ้น เจ้ารู้สิ่งใดมาก็บอกกล่าวข้าเสียเถิด” ใต้เท้าหานเอ่ยเข้าเรื่องทันที“เอ่อ เรื่องนี้” ซูเต๋อไม่รู้จะบอกกล่าวเช่นไร จึงหันไปหาบุตรสาวที่นั่งกินของว่างอย่างสบายใจอยู่ด้านข้าง“หลันฮวา เจ้าคิดว่าท่านปู่หานเป็นคนเช่นไร ข้

    Last Updated : 2025-04-04
  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   หวังกงกงเดินทางมารับด้วยตนเอง

    ซูเต๋อส่ายหัวก่อนจะดูบุตรสาวของเขา เขารู้ว่าคงเป็นพลังของหลันฮวาที่ปกปิดตัวตนของซูเจินนางไว้“เจินเออร์ อย่าเล่นเช่นนี้” “ไม่เล่นแล้วเจ้าค่ะ ข้าขอโทษที่ทำให้ท่านปู่ตกใจ” ยิ่งเป็นซูเจินปรากฏกายออกมาจากความว่างเปล่าใต้เท้าหานก็ล้มหงายหลังทันที ยังดีที่ซูเต๋ออยู่ใกล้และรับเขาไว้ได้ทันก่อนที่จะล้มกระแทกพื้นไปเสียก่อน“เจ้าทำได้อย่างไร ไม่ ไม่ ข้ารู้แล้ว เจ้าเป็นนายหญิงแห่งพฤกษาอย่างแท้จริง” กว่าที่สติเขาจะกลับมาได้เช่นเดิมก็ต้องดื่มชาไปเสียหลายแก้วพวกเขาคุยกันต่ออีกหลายประโยคก่อนที่สองพ่อลูกจะขอตัวกลับที่พัก เพื่อให้ใต้เท้าหานที่เดินทางมาอย่างเร่งรีบได้พักผ่อนใต้เท้าหานอยู่ที่เมืองเหอโจวต่ออีกเพียงแค่สองวัน เพื่อตรวจสอบความเปลี่ยนแปลงภายในเมืองด้วยตาตนเอง ก่อนจะนำเรื่องกลับไปรายงานให้ฮ่องเต้รับทราบส่วนขุนนางที่แอบฟังเรื่องที่เขาพูดคุยกับซูเต๋อ สอบสวนแล้ว เขายังไม่ทันได้ยินเรื่องอันใดก็ถูกผึ้งต่อยเข้าเสียก่อน ใต้เท้าหานคุมตัวกลับไปที่เมืองหลวงเพื่อให้ฮ่องเต้ทรงตัดสินพระทัยด้วยพระองค์เอง“อาเต๋อ หากได้เรื่องเช่นไร ข้าจะรีบส่งข่าวให้เจ้าทันที เจินเออร์ปู่หวังว่าพวกเราจะได้พบกันอีกในไม่ช้

    Last Updated : 2025-04-04
  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   เดินทางเข้าเมืองหลวง

    เรื่องนี้สองพ่อลูกรู้จากใต้เท้าหานอยู่แล้วจึงไม่ได้ตกใจเช่นเดียวกับท่านเจ้าเมือง ที่ดูเหมือนตาของเขาจะเบิกกว้างไปไม่ได้มากกว่านี้แล้ว“ต้องออกเดินทางเมื่อใดขอรับ”“หากไม่เป็นการรบกวนใต้เท้าเกินไป ข้าน้อยอยากจะออกเดินทางให้เร็วที่สุดขอรับ” “หวังกงกงพอจะบอกได้หรือไม่ ว่าข้าน้อยต้องอยู่ในเมืองหลวงนานเพียงใด”“เรื่องนี้เกินความสามารถของข้าน้อยเช่นกัน” หวังกงกงทำหน้าหนักใจ เพราะเรื่องนี้ฮ่องเต้ก็ไม่ได้บอกกล่าวเขาไว้เช่นกัน“เช่นนั้นข้าน้อยขอเวลาเตรียมตัวสองวันขอรับ” ซูเต๋อตัดสินใจพาจิ่วเม่ยและซูจ้านไปด้วย เพราะไม่รู้ว่าจะต้องอยู่เมืองหลวงนานเพียงใด เขาไม่อยากทิ้งสองแม่ลูกไว้ที่หมู่บ้าน“ได้ขอรับ” หวังกงกงยิ้มอย่างพอใจ ที่ซูเต๋อว่าง่ายเช่นนี้ในตอนแรกเขาคิดว่าจะเสียเวลาพูดคุยอีกนาน เพราะรู้ว่าตระกูลซูมีถึง นายหญิงแห่งพฤกษา กลัวว่าพวกเขาจะเล่นตัว ไม่ยอมติดตามไปอย่างว่าง่าย ถึงจะเคยพบเห็นซูเต๋อในวังหลวงมาแล้ว แต่ก็ไม่เคยได้พูดคุยมาก่อนในยามนั้นซูเต๋อเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดาเดินเข้าวังหลวงเนื้อตัวยังสั่นเทา จึงคิดว่าเมื่อมีตำแหน่งที่ใหญ่โตขึ้นจะเป็นเช่นเดียวกับขุนนางผู้อื่นที่หลงในอำนาจซูเต๋อ

    Last Updated : 2025-04-05
  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   มีปู่เพิ่มอีกคน

    “ข้าก็คิดว่าเรื่องอันใด จะไปอยากอันใดเจ้าค่ะ ท่านมีเส้นไหมจากหนอนในมิติ ข้าจะลองนำมาทำให้ท่านเอง”“เจ้าทำได้หรือ” ซูเจินเด้งขึ้นมาจากที่นอนอย่างตื่นเต้น“เหอะ นายหญิงท่านดูถูกพลังของข้าเกินไปแล้ว”“ไม่ ไม่ ข้าไม่ได้คิดเช่นนั้น ข้าเพียงดีใจเกินไปหน่อย”“ท่านร่างแบบมาให้ข้าก็พอเจ้าค่ะ รับรองว่าข้าจะทำออกมาให้ท่านอย่างดี อีกอย่างเส้นไหมที่หนอนในมิติสร้างขึ้นนับว่าพิเศษกว่าด้านนอก ไว้ท่านได้ลองใช้ก็จะรู้เองเจ้าค่ะ” หลันฮวาโอ้อวดอีกหลายประโยคระหว่างรอให้ซูเจินนางวาดแบบให้นางซูเจินมีพื้นทางด้านการวาดรูปมาก่อน ไม่นานนางก็วาดแบบฟูกนอน ผ้าห่ม หมอนออกมา ทั้งยังบอกด้วยว่าด้านในควรใช้สิ่งใดยัดไว้ภายในมิติมีต้นนุ่นที่ซูเจินนางเรียกอยู่ไม่น้อย เรื่องนี้ไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด เวลานี้ซูเจินนางทนรอที่จะได้นอนที่นอนนุ่มๆ ของนางไม่ไหวแล้ววันต่อมาเมื่อออกเดินทางหวังกงกงก็ต้องตกใจ เมื่อม้าของตระกูลซูทั้งสี่ตัวตอนนี้เป็นม้าสายพันธุ์เดียวกันไม่ผิดอย่างแน่นอน เขาไม่รู้ว่าซูเจินนางนำมาเปลี่ยนตอนไหน และม้าอีกสามตัวไปอยู่ที่ใดแล้วแต่เรื่องนี้ก็ทำได้เพียงเก็บไว้ในใจ เพราะไม่ใช่เรื่องที่เขาจะเอ่ยถามออกมาได้ซ

    Last Updated : 2025-04-05
  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   เยี่ยนเฟยหยาง

    ใต้เท้าหานก็ไม่คิดจะย้ายกลับไปนั่งรถม้าคันเดิมของเขา ระยะทางจากจวนตระกูลซูมาถึงประตูวังหลวงใช้เวลาเพียงจิบถ้วยชา (15 นาที) เท่านั้น“เจินเออร์ เจ้าลงมาจากรถม้าแล้วหรือยัง” หวังกงกงไม่รู้จะหันหน้าไปทางไหน เขากระซิบถามขึ้นด้วยเสียงเบาซูเจินเดินเข้าไปดึงชายเสื้อของหวังกงกง “ท่านปู่หวังข้าอยู่นี่เจ้าค่ะ”“เอ่อ จับชายเสื้อปู่ไว้ด้วยเล่า จะได้รู้ว่าเจ้าอยู่ตรงใด” หวังกงกงเอียงหน้าไปพูดเสียงเบาหากมีผู้อื่นนอกจากพวกเขายืนอยู่ด้วยคงได้แต่สงสัย ว่าหวังกงกงกระซิบพูดกับผู้ใด คงได้คิดว่าเขาเสียสติไปแล้วอย่างแน่นอนหวังกงกงเดินนำทุกคนไปยังห้องทรงอักษรของฮ่องเต้ ตลอดทางมีคนให้ความสนใจกับทั้งสองคนที่เข้ามาไม่น้อย และพอจะรู้ว่าหวังกงกงถูกส่งออกไปนอกวัง เพียงแต่ไม่รู้ว่าออกไปจัดการเรื่องอันใดภายในห้องทรงอักษร ฮ่องเต้ไล่ให้ข้ารับใช้ทั้งหมดออกไปจากห้องเรียบร้อยแล้ว พระองค์กำลังนั่งรอพวกเขาอยู่เพียงลำพัง“กระหม่อมหานเหล่ย ถวายบังคมพ่ะย่ะค่ะ”“กระหม่อมซูเต๋อ ถวายบังคมพ่ะย่ะค่ะ” “ลุกขึ้นเถิด แล้วบุตรีของเจ้าเล่า” ฮ่องเต้มองหาซูเจิน เพราะคนที่พระองค์ต้องการพบตัวมิใช่ซูเต๋อหรือใต้เท้าหาน“เอ่อ คุณหนูซู” ห

    Last Updated : 2025-04-06
  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   ถูกส่งไปค่ายทหาร

    ทั้งสามเบิกตากว้างอย่างตกใจ เพราะรอยช้ำที่เกิดขึ้นบวมแดงไม่น้อย ไม่รู้ว่าซูเจินนางใช้แรงมากเพียงใดฮ่องเต้เม้มปากแน่น หากทั้งสามไม่ได้ทำคงมีเพียงเด็กน้อยตัวแสบเสียแล้ว แต่พระองค์จะเอ่ยเรื่องนี้ออกมาเช่นไร ถ้าตรัสออกมาไม่เท่ากับเปิดเผยตัวตนของซูเจินหรือ หากนางไม่พอใจแคว้นเยี่ยนคงถึงคราวเคราะห์อย่างแน่นอน“เหลวไหล เจ้าล้มลงเองและโทษผู้อื่นอย่างนั้นหรือ” ฮ่องเต้แสร้งตวาดออกมาเสียงดัง ก่อนจะให้องครักษ์พาตัวบุตรชายกลับตำหนัก ทั้งยังให้ตามหมอมาดูอาการเยี่ยนเฟยหยางมองเสด็จพ่อของเขาอย่างไม่อยากเชื่อว่าพระองค์จะตัดสินเช่นนี้ เขาสะบัดตัวออกจากขันทีข้างกายที่เข้ามาประคอง พร้อมทั้งวิ่งกลับไปที่ตำหนักของเสด็จย่าทันที“หึ เจินเออร์ เจ้าก็ทำรุนแรงไม่น้อยเลยทีเดียว” ฮ่องเต้เอ่ยออกมาเสียงเบา พระองค์ไม่ได้ตำหนิซูเจิน แต่เพราะไม่อยากให้ผู้ใดรู้ถึงการมีอยู่ของนางที่นี่“หม่อมฉันยอมรับผิดที่ทำรุนแรงเกินไป แต่องค์ชายห้าดูแคลนท่านพ่อของหม่อมฉัน ทั้งยังดูหมิ่นหวังกงกงไม่น้อย เรื่องนี้หม่อมฉันมิอาจทนฟังได้เพคะ” ซูเจินเอ่ยตอบเสียงเบา ในน้ำเสียงของนางดูแข็งกร้าวอยู่ไม่น้อยนางไม่ใช่คนในภพนี้ จึงไม่เกรงกลัวอำนา

    Last Updated : 2025-04-06
  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   ตั้งโรงทาน

    ซูเจินนางไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากที่นางกลับมาที่จวนแล้ว เพียงแต่รู้ว่าหวังกงกงมิได้ลงโทษอันใด นางก็เลิกสนใจเรื่องของเด็กน้อยไม่รู้ความอย่างเยี่ยนเฟยหยางทันทีขุนนางไม่น้อยในเมืองหลวงที่ต้องการมาเยี่ยมซูเต๋อถึงที่เรือน แต่ก็ถูกปฏิเสธไป เพราะเขาต้องเตรียมตัวออกเดินทางไปทิศตะวันตกของแคว้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้าในตอนนี้ภายในจวนตระกูลซู มีบ่าวในจวนเพิ่มมาอีกหลายสิบคน แต่ละคนล้วนถูกซูเจินนางให้หลันฮวาตรวจสอบเสียก่อน หากมีคนใดที่ดูไม่น่าไว้วางใจ หรือดูเหมือนจะเป็นหนอนจากตระกูลอื่นเข้ามาสืบข่าวในจวน ต่างถูกขายทิ้งออกไปทันทีทาสที่ซื้อมาแทบไม่อยากเชื่อว่าตระกูลซู มีวิธีคัดพวกเขาออกจากกลุ่มคนได้อย่างไร เมื่อนำความกลับไปบอกนายของตนที่ส่งมา พวกเขาก็ล้วนแต่แปลกใจแม้แต่ฮ่องเต้ยังไม่ส่งคนของเขาเข้ามาปะปนกับกลุ่มคนที่ตระกูลซูไม่ซื้อตัวมา เพียงแค่นี้พวกเขาก็น่าจะคิดได้แล้ว กลับคิดไม่ได้เมื่อเป็นเช่นนั้น ทาสที่ถูกขายทิ้งออกไปจึงไม่รู้เลยว่ามีบางอย่างติดตามเขากลับไปด้วย เรื่องนี้เป็นเสี่ยวเตี๋ยที่จัดการ เพราะนางไม่อาจให้จิ่วเม่ยและซูจ้านที่ต้องอยู่เรือนได้รับอันตรายต่อให้มีสัตว์ในปกครองของพวกเข

    Last Updated : 2025-04-07

Latest chapter

  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   ออกเดินทางอีกครั้ง(ตอนจบ)

    เยี่ยนเฟยหยางประคองซูเจินไปที่เกี้ยวแปดคนหามหลังใหญ่ ชุดเจ้าสาวที่ดูเหมือนจะธรรมดา แต่เมื่อต้องแสงแดดกับเปล่งประกายระยิบระยับราวกับมีดวงดาวนับล้านดวงอยู่ที่ชุดของนาง ยิ่งทำให้คุณหนูต้องไปอ้อนวอนบิดามารดาให้ไปถามจวนตระกูลซูว่าไปตัดชุดที่ใดมา แต่ก็มิได้รับคำตอบซูเจินถูกเยี่ยนเฟยหยางประคองเข้าตำหนักของเขา ทั้งคู่ข้ามกระถางไฟก่อนที่จะไปหยุดที่แท่นกราบไหว้ฟ้าดินด้านหน้ามีเสด็จพ่อ เสด็จแม่และไทเฮาของเยี่ยนเฟยหยางนั่งอยู่ เสียงสวีกงกงขันทีของเยี่ยนเฟยหยางร้องบอกให้พวกเขากราบไหว้ฟ้าดิน ไหว้บิดามารดา ก่อนจะคำนับกันเองซูเจินที่กำลังลุกขึ้น เพราะคิดว่าเสร็จสิ้นพิธีแล้ว แต่กลับถูกเยี่ยนเฟยหยางดึงรั้งมือของนางไว้ให้นั่งลงตามเดิม“ข้าเยี่ยนเฟยหยาง ขอสาบานต่อหน้าฟ้าดิน เสด็จพ่อ เสด็จแม่ และเสด็จย่า ว่าทั้งชีวิตจะมีเพียงซูเจินเป็นภรรยาแต่เพียงผู้เดียว หากผิดคำสาบานขอให้ฟ้าดินลงโทษ” ซูเจินจะร้องห้ามก็ไม่ทันเสียแล้วขุนนางที่ได้เข้าร่วมพิธีงานมงคลต่างตกตะลึง เพราะยังไม่มีเชื้อพระวงศ์พระองค์ใดที่กล้าเอ่ยสาบานเช่นนี้ออกมาสิ้นเสียงของเยี่ยนเฟยหยางท้องฟ้าที่กระจ่างใส ก็คำรามขึ้นเป็นการตอบรับคำของเขา ยิ

  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   งานมงคล

    เป็นเช่นที่เยี่ยนเฟยหยางว่า เพราะซูเจินอยากให้หวังกงกงได้เดินทางไปทั่วแคว้นเพื่อท่องเที่ยวกับนาง ทั้งชีวิตเขาแทบจะอยู่เพียงในรั้ววัง หากฮ่องเต้ไม่เสด็จที่ใดเขาก็ไม่ได้ไปเช่นกันหวังกงกงได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มหน้าบาน ต่างจากฮ่องเต้ที่เบ้หน้าอย่างไม่สบอารมณ์ ไหนว่าจะอยู่กับเขาอีกสองปี แต่ดูเหมือนว่าอีกไม่กี่เดือนก็จะทิ้งเขาไปเสียแล้วเป็นอย่างที่ฮ่องเต้คิด หนึ่งเดือนต่อมาซูเจินนางก็ขอเข้าวัง ครั้งนี้นางแลกตัวหวังกงกงกับน้ำวิเศษของนาง“เหอะ เจ้าผิดคำพูด หวังกงกงขอเวลาเจิ้นอีกสองปี แต่นี่ยังไม่ถึงหนึ่งปีเจ้าก็จะมาขโมยตัวเขาไปแล้วรึ”“เช่นนั้น พระองค์ต้องการอันใดเพคะ” นางขมวดคิ้วคิด เพราะนางคิดมาแล้วว่าจะพาหวังกงกงออกเดินทางไปด้วยกัน“เจิ้นต้องการจะเป็นผู้ฝึกตน” ซูเจินและหวังกงกงหันไปมองที่ฮ่องเต้อย่างตกใจ“พระองค์รู้หรือไม่ หากเป็นผู้ฝึกตนต้องละทิ้งบัลลังก์ พระองค์จะยินยอมหรือเพคะ” หากมีฮ่องเต้ที่มีอายุยืนยาว จะไม่สร้างเรื่องปั่นป่วนขึ้นมาอย่างนั้นรึ“เจิ้นเข้าใจเรื่องนี้ดี และคิดหาทางออกไว้แล้ว” “เสด็จพ่อ พระองค์ตัดสินพระทัยแล้วรึพ่ะย่ะค่ะ” เยี่ยนเฟยหยางที่เพิ่งเรียกสติกลับมาได้เอ่ยถามออกม

  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   ถึงเวลากลับเมืองหลวง

    “เรื่องนี้...” นางคิดว่าอย่างไร การแต่งงานในวัยเพียงสิบห้าหนาวก็ดูเหมือนจะเร็วไป“เจ้ากลัวอันใด”“ข้าคิดว่ามันเร็วเกินไป ที่จะแต่งงานในวัยสิบห้าหนาว”“เจินเจิน สตรีแคว้นต้าเยี่ยนวัยเท่านี้นับว่าไม่เร็วแล้ว” เขาเริ่มจะไม่สบอารมณ์แล้ว ที่นางไม่ยอมตอบรับเสียที“เอาเถิดอย่างไรก็ยังมีเวลาอีกหลายเดือน” นางบอกปัดไป ก่อนจะไล่เขาให้ไปที่ห้องพัก“ไม่ ข้าจะเข้าไปในมิติของเจ้า” เยี่ยนเฟยหยางคิดจะเข้าไปฝึกในมิติต่อ“เจ้าค่ะ” ซูเจินพาเข้าไปด้านใน สุดท้ายนางก็ต้องอยู่ฝึกด้วยกันกับเขา“นายหญิง ดอกไม้ที่ข้าปลูกไว้ รู้ว่าท่านทั้งสองกำลังจะเข้าสู่ขั้นเซียนจึงยอมสละสองดอกมาให้ท่านเจ้าค่ะ” ซูเจินมองดอกหลันฮวาที่นางเคยสัมผัสตอนที่มาที่นี่“ข้าจับมันได้ใช่หรือไม่” นางไม่รู้ว่าหากจับแล้วจะได้กลับไปที่โลกเดิมหรือไม่ นางก็ตอบไม่ได้ว่าอยากกลับไปหรือเปล่าแต่ก่อนที่หลันฮวาจะเอ่ยตอบ เยี่ยนเฟยหยางที่เห็นท่าทางของซูเจินดูไม่สบายใจ ที่นางต้องจับดอกไม้ที่หลันฮวานำมา ก็อดที่จะเอ่ยถามออกมาไม่ได้“เหตุใดเจ้าถึงไม่กล้าจับมัน”นางถอนหายใจออกมา ในเมื่อเขาอยากรู้นางก็ไม่คิดจะปิดบัง ก่อนจะเล่าเรื่องราวความเป็นมาของนาง จนได้ม

  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   ต้าเยี่ยนมีผู้ฝึกตน

    ในตอนแรกที่คิดว่านับเดือนกว่าจะถึง แต่เอาเข้าจริง นางเดินทางเพียงยี่สิบวันเท่านั้น จากหนานไห่จนถึงเขตชายแดนเหนือ ด้วยการนำทางของเสี่ยวมี่ ที่หาเส้นทางที่ใกล้ที่สุดให้นางนางแวะที่เมืองหน้าด่านของชายแดนเหนือ เพื่อนำเสบียงอาหารออกมาแจกจ่ายให้กับค่ายผู้อพยพเพราะจำนวนคนที่นางมองเห็นคร่าวๆ ก็นับเกือบแสนคนเห็นจะได้ เช่นนี้ไม่เท่ากับว่าสงครามกำลังเกิดขึ้นจริงรึซูเต๋อเข้าไปพบเจ้าเมือง ที่รู้จักกับเขาดี เพื่อแจ้งเรื่องที่ทางการให้นำเสบียงออกมาแจกจ่าย ในตอนนี้ไม่มีผู้ใดคิดหาที่มาของเสบียงอีกแล้วเพราะจำนวนคนที่เพิ่มสูงขึ้นทุกวัน เสบียงที่มีเพียงพอให้พวกเขากินวันหนึ่งมื้อเท่านั้น ยิ่งได้เสบียงมาเพิ่มก็สามารถต่อชีวิตชาวบ้านไปได้อีกวันครั้งนี้ซูเจินนำเสบียงออกมามากกว่าเดิมหลายเท่า ทั้งยังต้องนำออกมาเกือบทุกวัน ถึงจะเพียงพอให้ทุกคนได้กินอิ่มท้องนางอยู่ที่เมืองด่านหน้าของชายแดนเหนือได้สามวัน จึงออกเดินทางไปหัวเมืองอื่นต่อ สามหัวเมืองหลักที่อยู่ด่านหน้าล้วนแต่มีคนอพยพนับแสนคน ซูเจินจึงต้องอยู่จัดการเรื่องเสบียงหลายวันเกือบหนึ่งเดือนที่นางต้องจัดการเรื่องเสบียง โดยที่ไม่รู้เลยว่าทางชายแดนเหนือที่

  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   ศึกนอกศึกใน

    หวังกงกงรีบเดินเข้าไปจับตัวนางกำนัลไว้ แล้วค้นตัวจนได้ยาหุ่นเชิดมาทันที เขานำมาส่งให้เยี่ยนเฟยหยางเพื่อตรวจสอบ แล้วออกไปจัดการนางกำนัลที่ตำหนักของไทเฮาแต่เยี่ยนเฟยหยางกลับเดินเข้าไปหาทั้งสองคนแล้วนำยากรอกเข้าไปในปากแทน“เมื่อพวกท่านกล้าทำร้ายเสด็จพ่อและเสด็จย่าก็จงมีชีวิตอยู่เช่นพวกเขาเถิด” ดวงตาแข็งกร้าวของเยี่ยนเฟยหยาง ทำให้ทั้งสองอดที่จะหวาดกลัวออกมาไม่ได้ทั้งคู่ไม่คิดว่าเยี่ยนเฟยหยางจะเดินทางกลับมาถึงรวดเร็วเพียงนี้ คิดว่าเรื่องทั้งหมดที่วางแผนไว้จะแล้วเสร็จก่อนที่เยี่ยนเฟยหยางจะเดินทางกลับมาถึงเมืองหลวงแต่คนคำนวณ มิสู้ฟ้าลิขิต เพราะเยี่ยนเฟยหยางเดินทางกลับมาถึงเร็วทำให้สิ่งที่พวกเขาคิดไว้ไม่เป็นไปอย่างที่ตั้งใจเมื่อจัดการทั้งสองคนเรียบร้อย เยี่ยนเฟยหยางรีบเดินทางไปที่ตำหนักของฮองเฮาและพี่ใหญ่ของตนทันทีพอไปถึงจึงพบว่าทั้งสองอาการไม่ต่างจากเสด็จย่าของตนนัก เมื่อช่วยทั้งสองให้พ้นอันตรายเรียบร้อยแล้ว เขาก็ไปพูดคุยกับเสด็จพ่อ เรื่องภูเขาแร่ที่เว่ยอ๋องส่งคนไปทันที“เรื่องนี่เห็นทีเสนาบดีตู้ก็คงรวมมือด้วย หากเจ้ากลับมาไม่ทัน ไม่รู้ว่าจะเกิดเรื่องใดขึ้น” ฮ่องเต้ให้หวังกงกงนำยาที่ใช้

  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   หุ่นเชิด

    เยี่ยนเฟยหยางแทบไม่อยากจะเชื่อ เพราะพระองค์ยังดูแข็งแรง แทบไม่เคยเปรยเรื่องนี้ขึ้นมาก่อนสักครั้ง ส่วนเรื่องให้ผู้ใดขึ้นเป็นรัชทายาทเขามิได้สนใจ“ย่าให้องครักษ์เงาไปสืบเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ยังมิทัน ที่จะรู้เรื่องราวดี ย่าก็ล้มป่วยจนมิอาจลุกจากเตียงได้ ว่าแต่เจ้าเอาอะไรให้ยาดื่ม” นางอดที่จะสงสัยไม่ได้“หลานได้น้ำวิเศษมาจากเจินเจิน และในตอนนี้หลานก็เป็นผู้ฝึกตนแล้ว แต่ขอท่านย่าอย่าได้แพร่งพรายเรื่องนี้ออกไป จนกว่าหลานจะหาตัวคนร้ายได้พ่ะย่ะค่ะ”“ย่า เข้าใจแล้ว เจ้ารีบไปดูเสด็จพ่อของเจ้าเถิด พี่ชายเจ้าย่าก็มิได้เห็นมาสักพักแล้ว” ไทเฮาตบที่หลังมือของหลานชายเบาๆ“เสด็จย่า พระองค์ทรงแสร้งป่วยต่อไปเถิดพ่ะย่ะค่ะ หลานเห็นนางกำนัลของท่านดูมิน่าไว้ใจนัก”“เรื่องนี้ย่าก็พอจะรู้ว่าบ้าง แต่ยังมิอาจทำอันใดได้ ด้วยกลัวว่าคนร้ายจะรู้ตัวเสียก่อน”“หลานเข้าใจแล้วพ่ะย่ะค่ะ เสด็จย่าพักผ่อนก่อนเถิด” เยี่ยนเฟยหยางประคองไทเฮาให้นอนลงเช่นเดิมเขาคลายลมปราณที่ปิดกั้นเสียงเอาไว้ แล้วเดินออกจากห้องบรรทมไปราวกับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น หวังกงกงที่ยืนรออยู่หน้าตำหนักก็เดินเข้ามาหาทันที“องค์ชายห้า กระหม่อมมิรู้ว่าสมควรพู

  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   วังหลวงเกิดเรื่อง

    แต่เยี่ยนเฟยหยางก็อาลัยอาวรณ์นางอยู่ไม่น้อย เมื่อใกล้ถึงเวลาที่ต้องแยกจาก กลายเป็นว่าแทนที่เขาจะทุ่มเทเอาเวลาไปฝึก กลับไล่จ้าวลู่เทียนออกไปด้านนอกมิติ แล้วอยู่ด้านในมิติกับซูเจินแทน“ท่านไล่พี่เทียนไปแล้ว หากท่านพ่อมิเห็นท่านอยู่ด้านนอกจะคิดเช่นไรเจ้าคะ” นางเอ่ยถามอย่างไม่พอใจ“ไม่เห็นจะเป็นอันใด ดีเสียอีกที่เปิ่นหวางจะได้แต่งเจ้าเข้าตำหนักเสียเลย ทั้งยังพาเจ้าไปที่ชายแดนเหนือพร้อมกันได้อีกด้วย” เขากุมมือของนางไว้แน่น พร้อมทั้งจ้องมองนางอย่างหลงใหล“เพ้ย ภายในหัวของท่านมีแต่เรื่องใดกันแน่ข้าอยากจะรู้นัก”“อยากรู้จริงหรือไม่” เสียงกระซิบของเยี่ยนเฟยหยางที่ดังข้างหูของนาง ทำให้ขนหัวของซูเจินลุกขึ้นทันทีนางรีบชักเท้าถอยหลัง แต่ไม่ทันเสียแล้ว เมื่อเยี่ยนเฟยหยางรั้งคอของนางไว้ พร้อมทั้งก้มลงมาประกบริมฝีปากของเขากับของนางทันที“อย่าดื้อ เปิ่นหวางจะออกเดินทางแล้ว” เยี่ยนเฟยหยางขบที่ริมฝีปากของซูเจินเบาๆ เพื่อให้นางเปิดช่องทางให้เรียวลิ้นของเขาแทรกเข้าไปได้ซูเจินนางก็ทำตามอย่างว่าง่าย เพราะอย่างไรอีกไม่กี่วันเขาก็จะออกเดินทางแล้วฝ่ามือของเยี่ยนเฟยหยางลูบคลำไปตามแผ่นหลังของซูเจิน “อื้ออ” นา

  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   หมู่บ้านซูหนาน

    พอรุ่งเช้ามาเยือน เมื่อไม่เห็นทั้งสามคนออกมาจากห้องพัก ใต้เท้าหานและซูเต๋อก็รู้ได้ทันทีว่าพวกเขาคงจะยังอยู่ในมิติ จึงได้ออกไปจัดการเรื่องสร้างเขื่อนแทนซูเจินนางออกมาจากมิติ เมื่อด้านนอกผ่านไปได้หนึ่งวันแล้ว นางรีบให้สวีกงกงจัดหาจวนหลังใหญ่ให้ทันที เพราะต้องนำเสบียงอาหารออกมาให้ชาวบ้านได้ประทังชีวิตสวีกงกงก็จัดการเรื่องนี้ได้อย่างเรียบร้อย ทั้งยังจัดหาคน เพื่อจัดการเรื่องนำเสบียงออกไปแจกจ่าย โดยมีเขาคอยควบคุมเรื่องนี้ด้วยตนเองอยู่ทุกขั้นตอนเจ้าเมืองจั่วที่ไม่เห็นหน้าเยี่ยนเฟยหยางเลยสักวัน จะเอ่ยถามก็ไม่กล้า จึงได้แต่ลอบถอนหายใจคิดว่าเขาเดินทางกลับไปแล้ว จึงคิดที่พาให้คนไปรับตัวบุตรสาวกลับมาอยู่ที่จวนเช่นเดิมซูเจินนางออกไปตรวจสอบความเสียหายรอบๆ เมืองกับสหายทั้งสามของนางที่กลับมามีรูปลักษณ์เช่นเดิมเมื่ออยู่ด้านนอก และในอ้อมแขนของนางยังมีเหล่าหู่ที่ดูเหมือนลูกแมวน้อยด้วยอีกตัวรอบเมืองที่โดนน้ำท่วมมีความเสียหายมากนัก นางจึงคิดที่จะให้ชาวบ้านปลูกพืชที่สามารถเติบโตในน้ำได้ดี นางจึงนำเรื่องนี้ไปบอกกล่าวใต้เท้าหานให้ช่วยจัดการหากให้นางบอกกล่าวขุนนางกรมเกษตรที่อยู่ในเมืองหนานไห่พวกเขาคงมิ

  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   บ่อชำระไขกระดูก

    หลันฮวาที่เห็นเสี่ยวอี่เปลี่ยนไปก็กำลังจะเอ่ยถาม แต่กลับถูกเขาร้องห้ามไว้เสียก่อน“ไปดูนายหญิงก่อนเร็วเข้า”“นายหญิงเป็นอันใด”“นางลงไปแช่น้ำในถ้ำของเหล่าหู่ ตอนนี้กำลังร้องอย่างเจ็บปวด” หลันฮวาไม่ทันได้แจ้งคนอื่นนางรีบบินตามเสี่ยวมี่ไปที่ถ้ำของเหล่าหู่ทันทีใต้เท้าหานกับซูเต๋อก็รีบตามไปอย่างร้อนใจ เยี่ยนเฟยหยางที่กำลังช่วยจ้าวลู่เทียนฝึกเดินลมปราณก็พบความผิดปกติ จึงได้พากันติดตามไปด้วยเมื่อเข้าใกล้ถ้ำของเหล่าหู่ เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของซูเจิน เกือบจะทำให้ทั้งสี่เสียสติ ซูเต๋อที่ใกล้ชิดบุตรสาวมากที่สุด เขายังไม่เคยเห็นนางร้องเช่นนี้มาก่อนเยี่ยนเฟยหยางมิอาจทนได้ เขาอยากจะไปดูให้เห็นกับตาว่าเกิดเรื่องอันใดกับนางกันแน่ แต่เมื่อถึงปากถ้ำทั้งสี่ก็ถูกเหล่าหู่และเสี่ยวอี่ขวางเอาไว้“ตอนนี้นายหญิงอยู่ในน้ำ พวกท่านมิอาจเข้าไปได้ขอรับ” เสี่ยวอี่เอ่ยขึ้นมา เขาจะปล่อยให้บุรุษทั้งสี่เห็นสภาพที่เปลือยเปล่าของนายหญิงได้อย่างไร“เหตุใดนางถึงได้ดูเจ็บปวดเช่นนี้” เยี่ยนเฟยหยางเอ่ยถามอย่างร้อนใจ“เรื่องนี้ข้าน้อยก็ไม่ทราบขอรับ”พวกเขาไม่อาจทำสิ่งใดได้ ได้แต่รอให้หลันฮวาออกมาหรือไม่ก็รอให้ซูเจินนางออก

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status