แชร์

ตอนที่ 61

ผู้เขียน: 橙花
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-04 08:00:27

          กว่าที่ซูซูจะเดินทางกลับถึงค่ายฝั่งแคว้นเจิ้งก็เกือบรุ่งสางแล้ว ฟางฉือห่าวที่ตามหาน้องสาวไม่เจอก็กระวนกระวายไม่น้อย อ๋องเฉิงที่รู้ข่าวว่าสหายหาน้องสาวไม่เจอก็ออกมาบอกให้องครักษ์ช่วยกันตามหาด้วยอีกแรง กระทั่งพบเห็นว่าม้าของนางนอนอยู่ที่ป่าอีกฝั่งของค่ายทหาร ทุกคนจึงรวมตัวกันรอนางอยู่ตรงนั้น

          ซูซูที่เร่งฝีเท้ากลับมาหาม้านางแทบหยุดเท้าไม่ทัน นางตกใจมากที่มีแสงไฟมากมายตรงจุดที่นางให้ม้ารออยู่ กระทั่งนางวิ่งมาถึงจึงเห็นท่าทางกระวนกระวายของพี่ใหญ่ ส่วนอ๋องเฉิงก็ได้แต่กัดฟันกรอดอย่างเป็นห่วงซูซูเช่นกัน นางได้แต่หดคออย่างกลัวว่าจะถูกพี่ชายดุ พอฟางฉือห่าวเห็นน้องสาวกำลังวิ่งมาเกือบถึงพวกเขาแล้ว เขาก็พุ่งตัวเข้าไปกอดซูซูอย่างห่วงใย

“เจ้าไปไหนมา รู้ไหมพี่ใหญ่เป็นห่วงเจ้ามากแค่ไหนน่ะ”

“อืม ข้ารู้ ข้ารู้ ขอโทษที่ทำให้พี่ใหญ่เป็นห่วงเจ้าค่ะ เอ่อ...ข้าแค่ไปสืบข่าวมาให้พวกท่านเท่านั้นเองอ่ะ”

บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ซูซูข้ามมิติมามีครอบครัว   ตอนที่ 62

    เย็นวันนั้น ฟางฉือห่าวนำอาหารเข้าไปกินพร้อมกับน้องสาวที่กระโจมของนาง พอเข้าไปแล้วเขาเห็นว่าน้องสาวกำลังฝึกฝนลมปราณอยู่ ซูซูที่รู้สึกได้ว่ามีคนเข้ามาภายในกระโจมของนาง นางจึงได้หยุดเดินลมปราณแล้วลืมตาขึ้นช้า ๆ พอเห็นว่าเป็นพี่ใหญ่ของนาง ซูซูจึงส่งยิ้มให้กับพี่ใหญ่ก่อนจะลุกขึ้นจากเตียงเดินไปนั่งลงที่โต๊ะอาหารซึ่งพี่ชายของนางจัดเรียงอาหารเอาไว้เสียแทบจะเต็มโต๊ะ“รีบกินกันเถอะ จะได้รีบไปพักผ่อน มะรืนนี้พี่ใหญ่ต้องออกไปสั่งการรบแล้ว เจ้าอยู่ที่ค่ายก็ทำตัวดี ๆ เข้าใจหรือไม่”“อืม… ข้าเข้าใจแล้วเจ้าค่ะพี่ใหญ่ ท่านอย่ากังวลเลยน่า กินข้าวกันเถอะเจ้าค่ะ ข้าหิวแล้วอ่ะ”“ตกลง ๆ เจ้าลองชิมนี่ดู พี่ใหญ่ให้พ่อครัวทำให้เจ้าเป็นพิเศษเลยนะ” ฟางฉือห่าวคีบเนื้อชิ้นใหญ่ส่งลงในถ้วยข้าวน้องสาวพร้อมรอยยิ้มกว้าง เขาดีใจที่ได้นั่งกินอาหารกับน้องสาวเช่นนี้ เพราะเขาเองก็

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-05
  • ซูซูข้ามมิติมามีครอบครัว   ข้อมูลเบื้องต้น

    ซูซูลูกศิษย์ที่มีพรสวรรค์มากที่สุดในสำนักกระบี่เมฆา นางเป็นที่รักของทุกคนในสำนัก ยิ่งกับเจ้าสำนักที่เป็นอาจารย์แล้ว ซูซูยิ่งเป็นความหวังของอาจารย์ที่จะให้นางเป็นเจ้าสำนักคนต่อไป เพียงแต่ลิขิตฟ้าหรือจะสู้ความอิจฉาริษยาจากเพื่อนร่วมอาจารย์อย่างเสี่ยวหง นางถูกเสี่ยวหงทำร้ายระหว่างที่กำลังจะข้ามขั้นพลังปราณไปสู่ขั้นที่ 9 ซูซูล้มลงกับพื้นพร้อมกระอักเลือดออกมาเต็มพื้นไปหมด นางได้แต่ฝืนกล่าวว่าทำไมกับเสี่ยวหง แต่ก่อนจะทราบคำตอบไปมากกว่านี้ นางกลับสิ้นลมแล้ว วิญญาณของซูซูล่องลอยไปจนนางสิ้นสติ เป็นเพราะสวรรค์เห็นใจคนดีอย่างซูซูที่เป็นกำพร้า อีกทั้งยังมีซูซูน้อยในอีกมิติหนึ่งซึ่งกำลังจะตกตายจากฝีมือของคนชั่ว จนซูซูน้อยได้แต่ก่นด่าสวรรค์ก่อนจะสิ้นใจไป เหล่าเทพแห่งสวรรค์รู้สึกสงสารทั้งคู่ พวกเขาจึงใช้พลังส่งวิญญาณซูซูพร้อมกำไลเก็บของของนางไปเข้าร่างซูซูตัวน้อย ส่วนซูซูตัวน้อยนั้นถูกส่งไปเกิดกับครอบครัวที่สมบูรณ์ในมิติอื่นเป็นการปลอบประโลมดวงวิญญาณในมิตินี้ของเด็กน้อย ซูซูได้สติพร้อมกับความเจ็บปวดไปทั่วสรรพางค์กาย ไม่นานก็มีความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมเข้ามาในหัวของนางจนรู้สึกเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-02
  • ซูซูข้ามมิติมามีครอบครัว   ตอนที่ 1

    ณ โลกในมิติลมปราณแห่งหนึ่ง ที่นี่เต็มไปด้วยจอมยุทธมากมาย รวมถึงมีสำนักต่าง ๆ สำหรับให้ศิษย์ฝึกฝนวรยุทธ หลอมยา หลอมอาวุธ วิชาค่ายคูประตูกลและอีกหลากหลายวิชาแปลก ๆ ที่แต่ละสำนักนั้นถนัด ดังเช่นสำนักกระบี่เมฆา ซึ่งมีชื่อเสียงด้านกระบี่บินมานับร้อยนับพันปี เจ้าสำนักในตอนนี้เป็นถึงครึ่งเซียนที่มีวิชากระบี่เป็นเลิศในโลกแห่งนี้ เจ้าสำนักกระบี่เมฆารับศิษย์สายตรงที่เป็นเด็กกำพร้าเพียงสองคน คือซูซูและเสี่ยวหง ซูซูนั้นเป็นศิษย์รักของเจ้าสำนักเลยทีเดียว นางเป็นเด็กที่ร่าเริงสดใสและตั้งใจเรียนรู้ทุกวิชาที่อาจารย์สอน อีกทั้งยังมีความทรงจำเป็นเลิศ ทำให้อาจารย์หวังเอาไว้ว่าจะให้ซูซูเป็นเจ้าสำนักคนถัดไป ส่วนเสี่ยวหงไม่ค่อยได้รับความสนใจจากอาจารย์มากนักเนื่องด้วยพรสวรรค์ของนางมีไม่เท่ากับซูซู ทำให้เสี่ยวหงคอยแต่อิจฉาริษยาความสามารถของซูซูมาตลอดหลายปี เพียงแต่ต่อหน้าอาจารย์และศิษย์พี่อย่างซูซู เสี่ยวหงจะไม่แสดงออกว่านางคิดอย่างไร กระทั่งวันหนึ่ง เจ้าสำนักต้องออกไปทำภารกิจด่วนเพื่อช่วยเพื่อนชาวยุทธปราบมาร ซูซูที่กำลังฝึกฝนเพื่อที่จะข้ามขั้นพลังปราณไปสู่ขั้นที่ 9 จึงไม่มีใครค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-02
  • ซูซูข้ามมิติมามีครอบครัว   ตอนที่ 2

    ณ โลกมิติที่สาม โจวซูซูที่ถูกทำร้ายร่างกายและใช้งานหนักเยี่ยงทาสมาตลอดตั้งแต่จำความได้จนตอนนี้ร่างกายนางทนทรมานไม่ไหวแล้ว นางได้แต่ก่นด่าสวรรค์ว่าไร้ปราณี นางเป็นเพียงเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งเท่านั้น เหตุใดท่านแม่จึงได้ทำร้ายนางเหมือนกับนางไม่ใช่ลูกเหมือนพี่สาวพี่ชายคนอื่น ๆ ด้วยความที่โจวซูซูนั้นขาดสารอาหารจากการที่ได้กินเพียงน้ำซาวข้าวมาตลอด ทำให้ตอนนี้นางอดทนต่อความเจ็บปวดไม่ไหวจนลมหายใจค่อย ๆ อ่อนล้าลงไปทุกที ก่อนที่ลมหายใจสุดท้ายของนางจะหมดไป เด็กน้อยได้แต่ขอร้องสวรรค์ว่าชาติหน้านางขอมีครอบครัวที่รักและดูแลนางบ้างเพื่อชดเชยกับชาตินี้ที่นางมีครอบครัวไม่ดี บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เหล่าเทพได้แต่มองเด็กน้อยซูซูอย่างเวทนา พวกเขาจึงตัดสินใจส่งซูซูที่มีความสามารถด้านการต่อสู้และพรสวรรค์สูงส่งไปเข้าร่างของเด็กน้อยแทน เพื่อให้ซูซูมีโอกาสใช้ชีวิตอีกครั้งและยังส่งกำไลเก็บของของนางติดร่างวิญญาณของซูซูไปด้วยเพื่อให้นางใช้ประโยชน์ได้บ้างในโลกมิติที่สามนี้ ส่วนเด็กน้อยซูซูผู้อาภัพ เหล่าทวยเทพตอบแทนคำขอของนางโดยส่งนางไปยังโลกมิติที่หนึ่งตั้งแต่แรกเกิด คราวนี้ครอบครัวท

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-02
  • ซูซูข้ามมิติมามีครอบครัว   ตอนที่ 3

    ชาวบ้านสองสามคนที่ได้ยินเสียงของหยวนปิงกับลูกสาวพากันวิ่งไปที่บ้านผู้ใหญ่บ้านให้เร็วที่สุดเท่าที่ร่างอวบ ๆ ของพวกนางจะทำได้ กระทั่งไปถึงหน้าประตูบ้านผู้ใหญ่บ้าน หญิงร่างท้วมทั้งสามรีบตะโกนเรียกหาเขาเสียงดัง“พวกเจ้าเอะอะอะไรกันอีกเล่า ข้ากำลังจะออกไปดูแปลงผักอยู่พอดี”“จะอะไรเสียอีกเล่าผู้ใหญ่บ้าน ข้าได้ยินหยวนปิงกับลูกสาวบอกว่าซูซูน่าจะตายแล้ว ข้าเลยรีบวิ่งมาหาท่านเพื่อให้ไปดูว่าความจริงเป็นอย่างไรนี่แหละ พวกข้าไม่เห็นแม่หนูซูซูมาสามวันแล้วนะผู้ใหญ่ ท่านช่วยไปดูหน่อยเถอะ”“จริงเหรอ? แล้วทำไมพวกเจ้าไม่มาบอกข้าตั้งแต่วันแรก ๆ เล่า ป่านนี้แล้วไม่รู้ว่าแม่หนูซูซูตัวน้อยจะเป็นอย่างไรบ้างแล้ว ไป ไป รีบไปบ้านโจวกัน” ทั้งสี่คนกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปที่บ้านหยวนปิง ชาวบ้านที่ผ่านไปมาเห็นพวกเขาดูท่าทางผิดปกติจึงพากันตามไปดูว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นในหมู่บ้านกันแน่ ไม่นานนักผู้ใหญ่บ้านก็มาถึงบ้านโจว“หยวนปิง เปิดประตูให้ข้าเดี๋ยวนี้!!! ข้าจะเข้าไปดูแม่หนูซูซู เร็วเข้า!!!”“มาแล้ว ๆ ท่านเป็นอะไรจึงได้เร่งรีบเช่นนี้ผู้ใหญ่บ้าน”“ถ้าข้าไม่รีบแล้วซูซูเป็นอะไรไปล่ะก็ ข้าจะแจ้งทางการว่าเจ้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-02
  • ซูซูข้ามมิติมามีครอบครัว   ตอนที่ 4

    ผู้ใหญ่บ้านเห็นท่าทางน่ารักของซูซูก็นึกเอ็นดู นานมากแล้วที่เขาไม่ได้เลี้ยงเด็กตัวเล็ก ๆ แบบนี้ ผู้ใหญ่บ้านลูบหัวซูซูอย่างเบามือ เขากลัวว่านางจะได้รับบาดเจ็บที่หัวด้วยจึงไม่กล้าลูบหัวนางแรงเกินไป ซูซูที่รู้สึกถึงความอบอุ่นบนหัวน้อย ๆ ของนาง ซูซูจึงเงยหน้าขึ้นยิ้มหวานให้กับปู่ผู้ใหญ่บ้านที่ดูเหมือนกำลังปลอบโยนเด็กตัวน้อย ๆ อย่างนางอยู่ ทั้งที่จริงแล้ววิญญาณของนางอายุ 25 ปีในโลกแห่งลมปราณก่อนจากมาอยู่ที่นี่ แต่ในเมื่อร่างเดิมยังเด็กอยู่ ซูซูจึงยินดีทำตัวเป็นเด็กให้ทุกคนหลงเอ็นดูนางดีกว่าจะทำตัวเข้มแข็งจนไม่มีใครกล้าเข้าใกล้นาง รอกันไม่นานนัก นางหยวนปิงก็โยนหยกพกเนื้อดีสีขาวราวกับหิมะซึ่งมีลวดลายบนหยกสลักอยู่อย่างปราณีต อีกด้านมีตัวอักษรฟางสลักอยู่ด้วยอย่างสวยงามเช่นเดียวกัน ผู้ใหญ่บ้านตรวจสอบหยกแล้วเห็นว่าเป็นอันเดิมที่เขาเคยเห็นเมื่อหลายปีก่อนจึงพยักหน้าแล้วส่งหยกให้กับซูซูถือเอาไว้“นี่คือสิ่งของแทนตัวของเจ้านะซูซู หากในอนาคตเจ้าต้องการตามหาพ่อแม่ก็ลองใช้หยกนี้เป็นเครื่องนำทางตามหาพวกเขาดู ข้าคิดว่าเจ้าเก็บเอาไว้เองจะดีที่สุด อ้อ! ข้าขอเตือนเจ้านะหยวนปิง ห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-02
  • ซูซูข้ามมิติมามีครอบครัว   ตอนที่ 5

    ซวงหยวนเอ๋อหลังจากอาบน้ำให้ซูซูและนำชุดเก่าของลูกชายสมัยเด็กมาให้นางเปลี่ยนแล้วก็จูงมือซูซูไปที่โต๊ะอาหารทันที นางแทบจะป้อนข้าวซูซูหากว่าไม่ได้ยินเสียงเล็ก ๆ กล่าวว่านางกินเองได้ล่ะก็ ซวงหยวนเอ๋อคงคิดว่าซูซูยังคงเป็นเพียงเด็กตัวเล็ก ๆ อยู่กระมัง ผู้ใหญ่บ้านที่นั่งมองอยู่ก็ได้แต่หัวเราะภรรยาที่อยากดูแลซูซูมากเกินไป เขายังล้อเลียนภรรยาด้วยว่าซูซูนั้นอายุ 7 ขวบปีแล้ว จะทำเหมือนนางยังเป็นเด็กเล็ก ๆ ได้อย่างไรเล่า ซวงหยวนเอ๋อเห็นสามีล้อเลียนนาง นางก็ได้แต่ถลึงตาใส่ตาเฒ่าคนนี้ อย่าคิดว่านางไม่รู้ว่าเขาเองก็เอ็นดูแม่หนูซูซูไม่ต่างจากนางเช่นเดียวกัน ไม่เช่นนั้นเขาไม่หนีงานดูแลแปลงผักแล้วคอยอยู่ทายาให้ซูซูเช่นนี้แต่แรกหรอก ส่วนซูซูตัวน้อยที่กำลังเคี้ยวข้าวตุ้ย ๆ อย่างหิวโหย นางพยายามไม่ให้มูมมามมากเกินไปถึงแม้นางจะหิวมากแค่ไหนก็ตาม อย่างน้อยมารยาทในการกินของนางจะต้องดีเหมือนในโลกก่อนเพื่อไม่ให้ใครมาดูถูกได้ ยิ่งนางเห็นสองปู่ย่าวัยชราที่รับเลี้ยงนางหยอกล้อกันเหมือนเด็ก ๆ นางก็ได้แต่อมยิ้มให้กับความน่ารักของทั้งสองผู้เฒ่าที่รับนางเข้ามาอยู่ในครอบครัวโดยไม่กลัวว่าตนเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-02
  • ซูซูข้ามมิติมามีครอบครัว   ตอนที่ 6

    ซูซูที่กำลังเดินจะไปที่ภูเขาด้านหลังหมู่บ้านพบเห็นเหล่าลุงป้าน้าอาทั้งหลายก็ยิ้มทักทายทุกคนไปตลอดทาง กระทั่งนางเดินไปถึงตีนเขาและมองขึ้นไปยังภูเขาลูกใหญ่เบื้องหน้า ซูซูมองเห็นว่ามีชาวบ้านสิบกว่าคนที่กำลังหาผักป่าและตัดหญ้าหมูกันอยู่ตรงตีนเขา นางรีบเดินเข้าไปทักทายพวกเขาก่อนจะเดินลึกเข้าไปในภูเขาเพื่อหาสมุนไพรและหน่อไม้ป่าที่ร่างเดิมเคยขุดไปฝากชาวบ้านเมื่อนานมาแล้ว หลังจากมองชาวบ้านที่อยู่ไกลออกไป นางเห็นว่าพวกเขาไม่ได้สนใจนางแล้ว ซูซูจึงใช้วิชาตัวเบาเข้าป่าลึกไปขุดหน่อไม้ให้ได้เยอะ ๆ เสียก่อนที่จะเริ่มตามหาสมุนไพร อย่างไรนางก็สามารถใช้วิชาตัวเบาค้นหาสมุนไพรดี ๆ ได้ไม่ยากนักภายในเวลาก่อนอาหารเย็น ด้วยความคล่องแคล่วของร่างกายเล็ก ๆ ของนาง ทำให้ซูซูมองเห็นป่าไผ่อยู่ไม่ไกลแล้ว เมื่อถึงป่าไผ่ ซูซูก็ก้มหาหน่อไม้ป่าที่ขึ้นอยู่เต็มไปหมด นางยิ้มน้อย ๆ แล้วเริ่มขุดหน่อไม้ด้วยมีดสั้นที่ท่านปู่ท่านย่าให้นางมาป้องกันตัว ด้วยพลังปราณของซูซู ทำให้นางใช้เวลาไม่นานก็ได้หน่อไม้เกือบเต็มตะกร้าสะพายหลังแล้ว แน่นอนว่าสิ่งของแค่นี้ไม่ทำให้นางลำบากแม้แต่น้อย หลังจากมองดูรอบ ๆ แ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-02

บทล่าสุด

  • ซูซูข้ามมิติมามีครอบครัว   ตอนที่ 62

    เย็นวันนั้น ฟางฉือห่าวนำอาหารเข้าไปกินพร้อมกับน้องสาวที่กระโจมของนาง พอเข้าไปแล้วเขาเห็นว่าน้องสาวกำลังฝึกฝนลมปราณอยู่ ซูซูที่รู้สึกได้ว่ามีคนเข้ามาภายในกระโจมของนาง นางจึงได้หยุดเดินลมปราณแล้วลืมตาขึ้นช้า ๆ พอเห็นว่าเป็นพี่ใหญ่ของนาง ซูซูจึงส่งยิ้มให้กับพี่ใหญ่ก่อนจะลุกขึ้นจากเตียงเดินไปนั่งลงที่โต๊ะอาหารซึ่งพี่ชายของนางจัดเรียงอาหารเอาไว้เสียแทบจะเต็มโต๊ะ“รีบกินกันเถอะ จะได้รีบไปพักผ่อน มะรืนนี้พี่ใหญ่ต้องออกไปสั่งการรบแล้ว เจ้าอยู่ที่ค่ายก็ทำตัวดี ๆ เข้าใจหรือไม่”“อืม… ข้าเข้าใจแล้วเจ้าค่ะพี่ใหญ่ ท่านอย่ากังวลเลยน่า กินข้าวกันเถอะเจ้าค่ะ ข้าหิวแล้วอ่ะ”“ตกลง ๆ เจ้าลองชิมนี่ดู พี่ใหญ่ให้พ่อครัวทำให้เจ้าเป็นพิเศษเลยนะ” ฟางฉือห่าวคีบเนื้อชิ้นใหญ่ส่งลงในถ้วยข้าวน้องสาวพร้อมรอยยิ้มกว้าง เขาดีใจที่ได้นั่งกินอาหารกับน้องสาวเช่นนี้ เพราะเขาเองก็

  • ซูซูข้ามมิติมามีครอบครัว   ตอนที่ 61

    กว่าที่ซูซูจะเดินทางกลับถึงค่ายฝั่งแคว้นเจิ้งก็เกือบรุ่งสางแล้ว ฟางฉือห่าวที่ตามหาน้องสาวไม่เจอก็กระวนกระวายไม่น้อย อ๋องเฉิงที่รู้ข่าวว่าสหายหาน้องสาวไม่เจอก็ออกมาบอกให้องครักษ์ช่วยกันตามหาด้วยอีกแรง กระทั่งพบเห็นว่าม้าของนางนอนอยู่ที่ป่าอีกฝั่งของค่ายทหาร ทุกคนจึงรวมตัวกันรอนางอยู่ตรงนั้น ซูซูที่เร่งฝีเท้ากลับมาหาม้านางแทบหยุดเท้าไม่ทัน นางตกใจมากที่มีแสงไฟมากมายตรงจุดที่นางให้ม้ารออยู่ กระทั่งนางวิ่งมาถึงจึงเห็นท่าทางกระวนกระวายของพี่ใหญ่ ส่วนอ๋องเฉิงก็ได้แต่กัดฟันกรอดอย่างเป็นห่วงซูซูเช่นกัน นางได้แต่หดคออย่างกลัวว่าจะถูกพี่ชายดุ พอฟางฉือห่าวเห็นน้องสาวกำลังวิ่งมาเกือบถึงพวกเขาแล้ว เขาก็พุ่งตัวเข้าไปกอดซูซูอย่างห่วงใย“เจ้าไปไหนมา รู้ไหมพี่ใหญ่เป็นห่วงเจ้ามากแค่ไหนน่ะ”“อืม ข้ารู้ ข้ารู้ ขอโทษที่ทำให้พี่ใหญ่เป็นห่วงเจ้าค่ะ เอ่อ...ข้าแค่ไปสืบข่าวมาให้พวกท่านเท่านั้นเองอ่ะ”

  • ซูซูข้ามมิติมามีครอบครัว   ตอนที่ 60

    รุ่งเช้าวันต่อมา ขบวนทัพก็ออกเดินทางต่อหลังจากทานข้าวเช้ากันเสร็จพร้อมกับแจกเสบียงกรังให้กับทหารทุกนายเพื่อกินระหว่างทางหากพวกเขาหิว ส่วนซูซูนั้นก็นำเนื้อกวางที่เหลือไม่น้อยมาหั่นเป็นชิ้น ๆ แล้วร้อยเป็นพวงส่งให้พี่ชายนางเก็บเอาไว้ในรถม้า กระบอกน้ำของนางกับพี่ชายรวมถึงของม้านางก็เติมเอาไว้เต็มเพื่อพร้อมสำหรับการเดินทางเช่นกัน กองทัพเดินทางเช่นนี้ไปจนกระทั่งสองเดือนต่อมา ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงชายแดนตะวันออกแล้ว เมื่อเคลื่อนพลเข้าไปในเมืองพวกเขากลับพบว่าในเมืองแทบไม่มีชาวเมืองอาศัยอยู่แล้ว ตอนนี้มีเพียงทหารจำนวนไม่กี่พันคนเท่านั้นที่คอยเฝ้าเมืองเอาไว้ ทหารในเมืองเมื่อเห็นธงกองทัพของท่านอ๋องต่างส่งเสียงอย่างดีใจที่ในที่สุดกองทัพใหญ่ของพวกเขาก็มาถึงแล้ว หลังจากที่พวกเขาพยายามต้านทานกองทัพของแคว้นจ้านหลายหมื่นคนด้วยกำลังพลเพียงสามหมื่นเท่านั้น รองแม่

  • ซูซูข้ามมิติมามีครอบครัว   ตอนที่ 59

    หลังพักกันครบหนึ่งชั่วยามแล้ว ขบวนกองทัพก็เดินทางต่อไปยังชายแดนตะวันออกด้วยความเร็วที่เร็วที่สุด กว่าที่กองทัพจะพักอีกครั้งก็เป็นช่วงกลางดึกของวันแล้ว เหล่าทหารช่วยกันเตรียมอาหารให้กับคนในกองทัพเผื่อเอาไว้กินตอนเช้าก่อนออกเดินทางด้วย ซูซูที่เห็นว่าคืนนี้พวกเขาน่าจะพักกันถึงเช้าจึงขอพี่ชายแยกตัวไปหาล้างหน้าล้างตาที่อีกด้านของลำธาร ความจริงนางอยากไปล่าสัตว์สักตัวสองตัวมาย่างกินเท่านั้น อ๋องเฉิงที่มองซูซูอยู่ตลอดย่อมรู้ดีว่านางซุกซนเพียงใด เมื่อเห็นนางใช้วิชาตัวเบาข้ามลำธารไปอย่างไม่เหนื่อยแรง พระองค์ก็รู้ว่านางคงไม่กลับมาหากไม่ได้สิ่งใดติดไม้ติดมือมาด้วยเป็นแน่ อ๋องเฉิงเดินไปหาสหายที่กำลังฝึกกระบี่ที่น้องสาวสอนรอเวลาที่ทหารจะนำอาหารมาให้พวกเขาทีหลัง“เจ้าไม่เป็นห่วงน้องสาวหรืออย่างไร ถึงได้ปล่อยนางไปเที่ยวเล่นคนเดียว”“อะไรของเจ้า น้องสาวข้าแค่ไปล้างหน้าล้างตาห่างจากขบวนนิดหน่อยเอง ประเดี๋ยวนางก็

  • ซูซูข้ามมิติมามีครอบครัว   ตอนที่ 58

    อ๋องเฉิงที่สั่งบ่าวเก็บของให้เสร็จแล้วก็นั่งรถม้าออกไปพร้อมกับองครักษ์ส่วนตัวสองคน ส่วนองครักษ์คนสนิทอีกสองคนนั้นต้องอยู่ดูแลจวนอ๋องแทนพระองค์ อีกทั้งในค่ายทหารยังมีทหารองครักษ์อีกไม่น้อย อ๋องเฉิงจึงไม่ได้คิดมากอันใดกับการเดินทางออกรบในครั้งนี้ ด้วยการเดินทางระยะไกล พระองค์จึงต้องนั่งรถม้าไปแทนการขี่ม้าเหมือนทุกครั้ง แต่รถม้าของอ๋องเฉิงนั้นมีม้าถึงสี่ตัวเพื่อการเดินทางที่รวดเร็ว อ๋องเฉิงจึงสั่งการให้เพิ่มม้าเป็นพิเศษในการเดินทางครั้งนี้ ฟางฉือห่าวกับซูซูมาถึงค่ายทหารก่อนอ๋องเฉิงไม่นานนัก เมื่ออ๋องเฉิงมองเห็นม้าที่คุ้นเคยเขาก็รู้ว่าต้องเป็นซูซูแน่ อ๋องเฉิงได้แต่ขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจแล้วเดินไปหาสองพี่น้องที่ยืนคุยกันอยู่ข้างรถม้าและม้าของซูซู“นี่เจ้ามาทำอะไรที่นี่ซูซู”“เอ้า ข้าก็มาดูแลพี่ใหญ่ของข้าน่ะสิ”“แต่นี่มันค่ายทหาร มีแต่ผู้ชายทั้งนั้น เจ้าจะเดิน

  • ซูซูข้ามมิติมามีครอบครัว   ตอนที่ 57

    สัปดาห์ต่อมาขณะที่ฟางฉือห่าวมองการจัดทัพของเหล่าทหารอยู่นั้น กลับมีม้าเร็ววิ่งเข้ามาในค่ายแล้วตรงไปยังกระโจมของท่านอ๋องเฉิง เขาสงสัยว่ามีข่าวอันใดกันแน่เหตุใดทหารส่งข่าวจึงได้เร่งร้อนเช่นนี้ ฟางฉือห่าวสั่งพักการจัดทัพก่อนที่จะเร่งเดินไปยังกระโจมท่านอ๋องเพื่อฟังข่าวจากชายแดน ฟางฉือห่าวไปถึงหน้ากระโจมท่านอ๋องก็เป็นเวลาที่อ๋องเฉิงรีบออกจากกระโจมมาพอดี เขาจึงได้สอบถามความกับอ๋องเฉิงว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่“แคว้นจ้านส่งทัพมาบุกตีชายแดนตะวันออก ข้าจะรีบเข้าเฝ้าฝ่าบาทเพื่อพาทหารเดินทางไปยังชายแดนโดยเร็ว เจ้าเองก็รีบกลับจวนไปเก็บเสื้อผ้าแล้วรีบกลับมารวมตัวกันที่นี่เถอะ”“ตกลง เช่นนั้นข้าจะรีบไปรีบมา”“รองแม่ทัพ สั่งการทหารทั้งหมดในค่ายให้เก็บสิ่งของจำเป็นทั้งหมดและเตรียมออกเดินทางไปยังชายแดนตะวันออก”“พะย่ะค่ะท่านอ๋อง”

  • ซูซูข้ามมิติมามีครอบครัว   ตอนที่ 56

    สามวันต่อมา ครอบครัวฟางพากันไปยังวัดนอกเมืองหลวงอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา พวกเขาใช้รถม้าคันใหญ่นั่งด้วยกันเพื่อจะได้คุยกันไปตามทาง ด้วยครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ทั้งครอบครัวเดินทางไปด้วยกัน ทุกคนจึงอยากใช้เวลากับซูซูอย่างเต็มที่ รถม้าเดินทางไม่ถึงครึ่งชั่วยามก็มาถึงตีนเขาที่มีวัดตั้งอยู่ด้านบน ทั้งสี่คนลงจากรถม้าแล้วชวนกันเดินขึ้นด้านบนพร้อมรอยยิ้มเต็มใบหน้า“นานมากแล้วที่แม่ไม่ได้มาไหว้พระที่นี่ วันนี้พวกเราก็ทำบุญให้กับวัดมากหน่อยเพื่อบูรณะวัดและขอพรให้ครอบครัวเราอยู่กันอย่างมีความสุขดีหรือไม่?”“ดีสิเจ้าคะท่านแม่ ตั้งแต่จำความได้ ข้าไม่เคยไปวัดเลยสักครั้ง เพราะมัวแต่ทำมาหากินสะสมเงินเพื่อเดินทางมาตามหาพวกท่าน”“อ่า น้องสาวของพี่ช่างเก่งกาจนัก เจ้าหาเงินมาตั้งแต่อายุเท่าไหร่?”&ldqu

  • ซูซูข้ามมิติมามีครอบครัว   ตอนที่ 55

    ฟางฉือห่าวที่กลับถึงบ้านพอดีกับเวลาทานอาหารเช้าก็รีบเข้าไปที่ห้องอาหารของเรือนใหญ่ทันที เมื่อเห็นว่าทุกคนรอเขาอยู่อย่างพร้อมหน้าพร้อมตา เขาจึงยิ้มให้กับทุกคนเพื่อให้พวกเขาเบาใจขึ้นบ้าง“เรื่องอื่นค่อยคุยกัน มากินข้าวเสียก่อนฉือห่าว”“ขอรับท่านพ่อ เรื่องอื่นนั้นพวกท่านก็อย่าได้กังวล เดี๋ยวหลังอาหารข้าจะเล่าให้พวกท่านฟังเองขอรับ”“ดี ดี มานั่งเร็วเข้าลูก” ฟางฉือห่าวรีบนั่งลงยังตำแหน่งของตนเอง เขายังคีบอาหารให้กับทุกคนพร้อมรอยยิ้ม ซูซูที่เห็นอาการของพี่ชายก็พอจะยิ้มออกมาได้บ้างว่าเขาน่าจะคุยกับเจ้าหน้ากากเรื่องยืดเวลาให้นางได้แล้ว มื้อนี้ทุกคนจึงกินอาหารได้มากกว่าเมื่อเย็นวานนี้เกือบเท่าตัว หลังทานอาหารเสร็จ ครอบครัวฟางก็พากันมานั่งต่อที่ห้องโถงรับแขก บ่าวไพร่ต่างรีบนำของว่างกับน้ำชามาให้นา

  • ซูซูข้ามมิติมามีครอบครัว   ตอนที่ 54

    วันนี้ฟางฉือห่าวกลับบ้านตามเวลาทำงานปกติของเขา ส่วนอ๋องเฉิงเองก็ขี่ม้าออกจากค่ายไปพร้อมกับองครักษ์ก่อนหน้าเขาไม่นานนัก กว่าจะถึงบ้านก็ใกล้เวลากินอาหารเย็นร่วมกับครอบครัวแล้ว ฟางฉือห่าวที่ยังไม่รู้ข่าวยังคงยิ้มแย้มทักทายท่านพ่อ ท่านแม่ กับน้องสาวสุดที่รักเหมือนเช่นทุกวัน แต่พอมองใบหน้าของคนในครอบครัวดี ๆ ที่ต่างคนต่างมีสีหน้าจริงจัง อีกทั้งในมือของน้องสาวเขายังเหมือนถือราชโองการอยู่อีกด้วย ฟางฉือห่าวรีบนั่งลงเพื่อสอบถามเรื่องราวกับท่านพ่อ ท่านแม่ในทันที“เราไปกินข้าวกันก่อนเถอะ ค่อยคุยกันหลังอาหารก็ยังไม่สาย อย่างไรเรื่องนี้ก็แก้ไขอะไรไม่ทันแล้ว” ฟางเซียนหลงชวนลูกและภรรยาไปทานอาหารให้หายเครียดเสียก่อน ไม่เช่นนั้นหากคุยกันเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนล่ะก็ มีหวังแต่ละคนคงกินอาหารไม่ลงเป็นแน่ ทุกคนต่างเชื่อฟังฟางเซ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status