“อย่าบอกพี่ธนานะคะ” แค่เขาขู่ เธอก็ใจสั่น เธอไม่อยากให้พี่ธนาเสียใจ ไม่อยากให้เขารู้ว่าเธอกับเพื่อนของเขาสวมเขาให้ เธอเองไม่คิดจะดึงรั้งพี่ธนาไว้ เพียงแต่เธออยากขอเวลาทำใจก่อน ทำใจก่อนจะเดินออกมาจากชีวิตคนดี ๆ อย่างเขา
พุฒก้มลงหมายจะหอมแก้มนวล แต่แต้มรักสะบัดหน้าหนี เขาจึงก้มลงอีกนิดแล้วจูบลำคอเธอเบา ๆ
“อ๊ะ !” แค่ปากอุ่นร้อนประทับบนผิวเนื้อ ขนกายสาวก็ลุกชัน แต้มรักกัดฟันแน่น เธอรอกระทั่งเขาเงยหน้าขึ้นมาจากซอกคอ เธอจึงสบตาเขา
“แต้มไม่ให้พี่ธนาแตะต้องแน่นอนค่ะ ไม่ใช่เพราะบอสสั่ง แต่เพราะว่าพี่ธนาเป็นคนดี เขาดีเกินกว่าที่แต้มจะให้เขามาแปดเปื้อนคนสกปรกอย่างแต้ม”
พุฒยิ้มมุมปาก เขากอดรัดหญิงสาวแน่นขึ้น
“ถ้าอย่างนั้น ก็เลิกกับมันสิ แล้วมาเป็นแฟนผม”
“แต้มจะบอกเลิกพี่ธนาแน่นอน แต่แต้มจะไม่มีวันทำให้พี่ธนาเสียใจ ด้วยการเลิกกับคนดีแล้วมาคบกับเพื่อนเลวที่หักหลังเขาหรอกค่ะ”
“หักหลังอะไรกัน...ผมก็แค่ช่วยเพื่อนสร้างความสุขให้แฟนเท่านั้นเอง คืนนั้นแต้มก็มีความสุขสุดยอดไปตั้งหลายครั้งไม่ใช่เหรอ”
“คนเลว…”
“เคยบอกแล้วว่า ผมไม่ใช่คนดี”
“อื๊อ !” แต้มรักตกใจเบิกตากว้าง เมื่ออยู่ดี ๆ เขาก็ปิดปากเธอไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง เขารัดเอวคอดไว้แน่นด้วยวงแขนอีกข้าง แล้วดันเธอถอยหลังไปจนสะโพกอวบชนขอบโต๊ะ เขากดเธอนอนหงายลงบนโต๊ะตัวใหญ่ สองขาเรียวห้อยอยู่ข้างขอบโต๊ะ และต้องแยกออกกว้าง เพราะเขาแทรกตัวยืนอยู่กลางหว่างขา
“ธนามันแตะต้องคุณตรงไหนบ้าง ผมจะลบรอยมันเอง” พุฒชะโงกตัวอยู่เหนือร่างสาว เขาเอามือออกจากปากเธอ แล้วรวบจับข้อมือบางสองข้างดึงขึ้นไปกดไว้เหนือศีรษะเธอ
“คุณพุฒปล่อยแต้มนะ”
“มันหอมแก้มคุณเหรอ” เขาถามแล้วพรมจูบทั่วแก้มนวล แม้แต้มรักจะเบี่ยงหน้าหนีก็หนีไม่พ้น เขาทั้งจูบทั้งหอมทั่วใบหน้าของเธอจนพอใจ แล้วจึงเงยหน้าขึ้นมามองสบตาเธอ “มันทำอะไรคุณอีก”
แต้มรักมองหน้าเขาผ่านม่านน้ำตา เจ็บใจที่ไม่อาจสู้แรงเขาได้ เจ็บใจที่ต้องเป็นเบี้ยล่างให้เขาเอาแต่ใจกับร่างกายเธอแบบนี้
“พี่ธนาไม่ได้ทำอะไรแต้ม” แต้มรักบอกด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“ดีแล้ว...เพราะถ้าผมรู้ว่าแต้มยอมให้มันแตะต้อง ผมจะบอกมันว่า คืนนั้นคุณร่านแค่ไหน”
“แต้มเกลียดคุณพุฒ” แต้มรักสะอื้นออกมาอย่างสุดจะกลั้น เขาเป็นอะไรกับเธอนักหนา จะขู่กันไปถึงไหน จะพูดถึงเรื่องน่าอับอายในคืนนั้นอีกทำไม
พุฒยิ้มร้ายกาจ เขาก้มกระซิบบอกหญิงสาวว่า
“คืนนี้ผมจะทำให้คุณบอกรักผมให้ได้...แต้มรัก”
“แต้มยังไม่เสร็จอีกเหรอ” พรีมถามด้วยความเป็นห่วง เพราะเห็นว่าแต้มรักยังทำงานอยู่ทั้งที่เลยเวลาเลิกงานมาเกือบสองชั่วโมงแล้ว
“ยังเลย” แต้มรักตอบโดยไม่เงยหน้าขึ้นมาจากจอคอมพิวเตอร์ตรงหน้า
“กลับก่อนไหม พรุ่งนี้ค่อยมาทำ”
“อีกนิดเดียวก็เสร็จแล้ว ฉันอยากทำให้เสร็จวันนี้เลย พรุ่งนี้จะได้ไม่ยุ่งมาก”
“งั้นฉันอยู่เป็นเพื่อน” พรีมว่าแล้วลากเก้าอี้อ้อมฉากกั้นมานั่งข้าง ๆ เพื่อน
แต้มรักวางมือจากงานตรงหน้า เธอหันมามองหน้าเพื่อน “ไม่ต้อง ๆ แกกลับไปก่อนเลย บ้านเราอยู่คนละทาง ถึงรอก็ไม่ได้กลับด้วยกันสักหน่อย”
“แต่…”
“ยิ่งแกอยู่ด้วย งานฉันก็ยิ่งช้า เพราะแกจะชวนเม้าท์”
พรีมหัวเราะ แล้วตีต้นแขนเพื่อนสาวไปหนึ่งที
“เออ ๆ งั้นฉันกลับก่อนนะ แกก็รีบ ๆ กลับก็แล้วกัน” พรีมลุกขึ้น ลากเก้าอี้กลับไปไว้ที่เดิม แล้วชะโงกหน้ามาโบกมือให้แต้มรัก
“กลับก่อนนะแก พรุ่งนี้เจอกัน”
“อือ...พรุ่งนี้เจอกัน”แต้มรักพยักหน้าและยิ้มให้เพื่อน เธอทำงานต่ออยู่ครู่หนึ่ง เมื่อพรีมเดินออกจากออฟฟิศไปแล้ว หญิงสาวจึงถอนหายใจเฮือกใหญ่
งานที่เธอทำอยู่ไม่ได้เร่งด่วนอะไร แต่เพราะใครคนนั้นสั่งให้เธอรอกลับพร้อมเขา แต้มรักจึงรอ และหาทางออกที่ไม่ต้องลงลิฟต์ไปพร้อมเพื่อนด้วยการเอางานมาอ้าง
เมื่อปิดคอมพิวเตอร์ จัดเก็บของบนโต๊ะเรียบร้อย แต้มรักก็ส่งข้อความไปบอกธนาว่า เธอกำลังจะกลับคอนโดแล้ว เธอรู้สึกเพลียจะรีบกลับไปพักผ่อน ธนาไม่ได้อ่านข้อความทันที เพราะกำลังประชุมอยู่ เธอเองก็จงใจจะส่งไปบอกเขาเวลานี้ เพื่อที่เขาจะได้ไม่ต้องซักถามอะไรกลับมา เพราะความจริงแล้ว เธอต้องไปรอขึ้นรถกับชายชู้ในจุดที่เขานัดแนะไว้
แต้มรักมองซ้ายขวาอย่างระแวง เธอดูจนแน่ใจว่าไม่มีใครมองเธออยู่ แล้วจึงวิ่งออกจากข้างพุ่มไม้ไปเปิดประตูรถเก๋งคันหรูที่จอดรออยู่ริมทางเท้า หญิงสาวรีบพาตัวเองขึ้นไปนั่งบนเบาะข้างคนขับ พอดึงประตูรถปิดแล้ว เธอก็ยังไม่วายมองซ้ายมองขวาหันหน้าหันหลังด้วยความหวาดระแวง
เมื่อคนที่เขามาจอดรถรอรับขึ้นมานั่งเคียงข้าง พุฒก็ขับรถเคลื่อนไปบนถนนด้วยท่าทางสบาย ๆ เขาเหลือบมองคนลุกลี้ลุกลนแวบหนึ่ง
“กลัวถูกจับได้ขนาดนั้นเชียว”
แต้มรักหันขวับไปมองเขาด้วยความไม่พอใจ พอดีกับจังหวะที่รถจอดเพราะติดสัญญาณไฟแดง คนที่เพิ่งว่าเธอเมื่อครู่จึงหันมามองสบตาเธอตรง ๆ
“กลัวคนเขารู้ว่าขึ้นรถมากับชู้เหรอครับ”
แต้มรักเม้มปากแน่น เธอมองสบตาเขาครู่เดียว ก่อนจะมองเมินออกไปข้างหน้าต่าง ไม่อยากเห็นหน้า ไม่อยากพูดจาด้วย ไม่อยากได้ยินเสียงคนเลว“อุ๊ย ! คุณพุฒ” แต้มรักตกใจเมื่อเขาโน้มตัวมาใกล้ หญิงสาวรีบดันบ่ากว้างผลักเขาออกไป แต่คนตัวใหญ่และแรงเยอะกว่าไม่สะเทือนสักนิด“ผมจะคาดเบลล์ให้” พุฒว่าพลางดึงเข็มขัดนิรภัยมากดล็อกให้เธอ ก่อนจะขยับกลับไปนั่งตามเดิม แล้วดึงเข็มขัดนิรภัยมาคาดให้ตัวเอง เขายกมือข้างขวาขึ้นจับพวงมาลัย มือซ้ายดันเกียร์เปลี่ยนไปอยู่ตำแหน่งขับเคลื่อนไปข้างหน้า ก่อนจะเอามือออกจากเกียร์มาคว้าเอามือข้างขวาของแต้มรักไปกุมไว้ แล้วดึงไปวางลงบนต้นขาแกร่ง“คุณพุฒ !” แต้มรักจิกเจ็บลงบนหลังมือของเขา แต่คนที่สอดนิ้วเรียวสวยแบบผู้ชายแทรกอยู่ระหว่างนิ้วเรียวเล็กของเธอไม่สะทกสะท้าน เขากระชับมือเธอแน่นขึ้น ตาคมมองไปข้างหน้า ขณะที่บังคับรถเคลื่อนไปบนถนนเมื่อสัญญาณไฟเปลี่ยนเป็นสีเขียว“จะหยิกอีกนานไหม ผมจะได้ทดเวลาลงโทษคุณไว้ในใจ บอกไว้ก่อนนะว่าบทลงโทษของผมไม่เหมือนใคร ระวังจะได้ร้องขอชีวิต”น้ำเสียงของเขาราบเรียบก็จริง ทว่าดวงตาเป็นประกายวาววับ เขายิ้มร้ายกาจข่มข
“รางวัลสำหรับแม่ครัวครับ” พอให้รางวัลเธอแล้ว เขาก็ถอยไปนั่งรอที่เก้าอี้แต้มรักถอนหายใจอย่างหงุดหงิด รางวัลบ้าบออะไร นี่มันเป็นการเอาเปรียบเธอชัด ๆ คนนิสัยไม่ดีระหว่างรับประทานอาหาร แต้มรักเอาแต่ก้มหน้าก้มตากิน เธอแทบไม่มองหน้าคนที่นั่งร่วมโต๊ะอยู่ฝั่งตรงกันข้ามด้วยซ้ำ และดูเหมือนว่าเขาเองก็ไม่อยากกวนเธอ พุฒปล่อยให้หญิงสาวรับประทานอาหารโดยไม่กวนใจเธอ กระทั่งแต้มรักรวบช้อนส้อมและยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม เขาจึงบอกเธอว่า“ไปอาบน้ำ แล้วนอนรอผมบนเตียง”คำสั่งของเขาทำให้แต้มรักเกือบทำแก้วน้ำหลุดมือ หญิงสาวมองสบตาเขาด้วยสายตาตื่นตระหนก“ตะ...แต้มจะรอเก็บโต๊ะล้างจานค่ะ” แม้รู้ว่าไม่อาจหลีกเลี่ยงสิ่งที่เขาจะทำกับเธอได้ แต่แต้มรักก็อยากจะยื้อเวลาต่อไปอีกสักหน่อย“เดี๋ยวผมจัดการเอง คุณไปอาบน้ำแล้วนอนรอผมบนเตียง”เสียงเข้มกับสายตาดุของเขาทำให้แต้มรักไม่กล้าเถียง หญิงสาวลุกขึ้นแล้วก้มหน้าเดินผ่านประตูครัวตรงไปยังห้องนอนเพียงแค่เปิดประตูเข้าไปแล้วเห็นเตียงกว้าง หัวใจดวงน้อยก็หวั่นไหว ยิ่งภายในห้องนอนของเขาตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์โทนสีเทาเข้ม ก็ยิ่ง
“แต้ม !” เสียงเรียกอย่างเกรี้ยวกราดที่ดังออกมาจากห้องนอนทำให้แต้มรักสะดุ้ง หญิงสาวรีบหอบกระเป๋าและถือโทรศัพท์เดินเร็วออกจากห้องครัวแต่แต้มรักเดินไปยังไม่ทันถึงห้องนอน คนที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จก็เดินออกมาดักเธออยู่หน้าห้องก่อน เขานุ่งผ้าขนหนูผืนเดียว พราวหยดน้ำเกาะอยู่เต็มเรือนกายแกร่ง ผมเปียกน้ำและถูกเสยไปข้างหลัง เปิดเผยใบหน้าคมเข้มแสนดุ ตาคมกริบที่จ้องมองเธออย่างไม่พอใจทำให้แต้มรักหวาดหวั่น“ไปไหนมา”“แต้มไปเอากระเป๋ากับโทรศัพท์ในห้องครัวค่ะ”พุฒหลุบตามองของในมือหญิงสาว เขาระบายลมหายใจออกบางเบา...เธอไม่ได้หนีเขาไปไหน“ได้ของแล้วก็กลับเข้าห้อง” พุฒดึงต้นแขนหญิงสาวลากกลับเข้าห้อง แต่ยังไม่ทันเปิดประตู เสียงโทรศัพท์ของแต้มรักก็ดังขึ้น“แต้มขอรับโทรศัพท์ก่อนนะคะ”“อืม..” พุฒปล่อยมือจากต้นแขนของหญิงสาว เขากอดอกยืนมองเธอรับโทรศัพท์แต้มรักรู้สึกใจชื้นขึ้นมานิดหน่อย เพราะได้ประวิงเวลาการเข้าไปอยู่ในห้องนอนกับเขา แต่พอหลุบตามองหน้าจอโทรศัพท์แล้วเห็นว่าใครโทรมา เธอก็หน้าเสีย“แต้มขอไปคุยโทรศัพท์ในครัวนะคะ”พุฒมองหน้าหญิงสาว
ยิ่งทอดเวลาพูดคุยกับธนานานเท่าไร แต้มรักก็ยิ่งแย่ เพราะคนเอาแต่ใจจ้วงลิ้นสอดแทงร่องเนื้อของเธอถี่ยิบ สลับกับดูดดึงเสียงดังหยาบโลน ความเสียดเสียวพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ แต้มรักสูดลมหายใจลึก รีบบอกปลายสายด้วยน้ำเสียงสั่นและแหบพร่า“แต้มไม่เป็นอะไรค่ะ แค่นี้ก่อนนะคะพี่ธนา แต้มจะนอนแล้ว พรุ่งนี้ค่อยคุยกันนะคะ”แต้มรักก็รีบตัดสาย หญิงสาวเอนตัวแนบหลังพิงบานประตู แหงนเงยหน้า หลับตาแน่น เธอจิกกำเส้นผมของคนที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าเต็มมือ พอเขาสะบัดลิ้นรัวบนติ่งเนื้อนุ่มถี่ยิบ เธอก็สะท้านเฮือก ปากอิ่มเผยอหวีดร้อง พร้อมกับน้ำหวานแตกซ่าน เธอถูกส่งไปยังปลายทางสุขสมด้วยปากและลิ้นของชู้รักเมื่อดูดกลืนน้ำหวานจากซอกสาวจนแห้งเหือดหมดจด พุฒก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เขาบีบแก้มนวลด้วยมือข้างเดียว บังคับให้เธอเงยหน้ามองสบตา“ห้ามไปกับมันเด็ดขาด” เขาสั่งแล้วบดปากจูบปากนุ่มอย่างดุดัน ขณะเดียวกันก็โอบอุ้มเธอขึ้นมากระเตงไว้ข้างหน้า นาบเรือนกายแกร่งทับหญิงสาวไว้กับบานประตู เขาสะบัดผ้าขนหนูออกจากเอวสอบอย่างไม่ไยดีแต้มรักโอบสองแขนคล้องลำคอแกร่ง สองขาแยกกว้างเกี่ยวเอวสอบไว้ เธอรองรับจ
แต้มรักรู้สึกเหมือนร่างกายไร้กระดูก เธออ่อนเปลี้ยไปหมด พอเขาอุ้มเธอเข้ามาในห้องนอน แล้ววางลงบนเตียง เธออยากหลับ อยากหมดสติไปเลย ไม่อยากรับรู้ว่าเมื่อครู่ตัวเองทำตัวร่านแค่ไหน เธอร่านกับผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่แฟน แต่ในความเป็นจริงแล้ว เธอยังมีสติครบถ้วน ยังเห็นสายตาล้อเลียนของชู้ที่เธอขย่มเขาที่หน้าประตูไปเมื่อครู่“เราเข้ากันได้ดี คุณว่าไหม” นอกจากสายตาล้อเลียนแล้ว คำพูดของเขาก็ทำให้แต้มรักโกรธตัวเองด้วย แต้มรักเม้มปากแน่น เธอไม่ยอมพูดกับเขา หญิงสาวพลิกตัวนอนตะแคงหันหลังให้เขา“เมื่อกี้คุณเซ็กซี่มาก ร่านถูกใจผมจริง ๆ” คนกวนประสาทตามไปกระซิบถ้อยคำบาดหู เขาหอมแก้มสาวเบา ๆ แล้วเลื่อนใบหน้ามาจูบหัวไหล่นวลเนียน ก่อนจะขยับตัวเข้าไปนอนซ้อนหลังแนบชิด ดึงหญิงสาวเข้ามากอดแนบอก“แต้มจะบอกเลิกกับพี่ธนา ถ้าแต้มเลิกกับพี่ธนาแล้ว คุณพุฒไม่มีสิทธิ์บังคับแต้มมาทำเรื่องผิดบาปแบบนี้อีก” เพราะเธอยังอยู่ในสถานะแฟนของธนา เขาจึงหยิบยกเรื่องที่เธอมีชู้มาขู่ได้ ถ้าเธอเลิกกับแฟน เขาก็จะไม่มีข้ออ้างบังคับให้เธอมาทำเรื่องแบบนี้ได้อีก“จะเลิกกับธนาก็เลิกไป แต่ถ้าเลิกเป็นชู้กับผมเมื่อไร
พุฒดูดปากอิ่มจนเกิดเสียงดัง ก่อนจะถอนจูบออกมา เขาผงกศีรษะขึ้นมองใบหน้าสาวแดงก่ำอย่างพอใจ“บอกรักผม แค่คุณบอกรัก ผมจะจัดให้อย่างถึงใจ”แต้มรักมองเขาด้วยสายตาวาววับ เธอกัดริมฝีปากล่างไว้แน่น เธอไม่มีวันเอ่ยคำรักกับชู้ เขาไม่มีสิทธิ์ได้ยินคำบอกรักจากปากเธอ“บอกรักผัวหน่อยทูนหัว…” พุฒยิ้มร้ายกาจ ตาคมจับจ้องดวงหน้าชื้นเหงื่ออย่างพอใจ แต่เมื่อเธอยังคงปากแข็ง เขาจึงก้มดูดเต้านมอวบอิ่ม ดูดดุนเม็ดทับทิมบนยอดทรวง สะบัดลิ้นพลิกพลิ้วอย่างช่ำชอง ขณะเดียวกันเขาก็ขยับบั้นเอวถอดถอนแก่นกายออกเกือบสุด แล้วสอดใส่เข้าไปใหม่ช้า ๆ เขาทำซ้ำ ๆ และคงจังหวะเชื่องช้าไว้ ความแข็งกร้าวร้อนผะผ่าวเสียดสีผนังเนื้ออ่อนนุ่มซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาเข้าสุดออกสุดในจังหวะเนิบนาบ บางคราเขาก็กดตัวตนแช่ลึกแล้วส่ายวนบดขยี้จนแต้มรักหลุดเสียงครางออกมาจนได้พุฒยิ้มแนบทรวงอกสาว เขาจัดการเธออย่างใจเย็น แก่นกายยังขยับเข้าออกแอ่งอุ่นในจังหวะเนิบนาบ แต้มรักแทบคลั่งกับบทรักที่เขาจงใจกลั่นแกล้ง เธออยากกระสันอย่างแรงกล้า โหยหาการเติมเต็ม อยากตะกายไปถึงจุดปลดปล่อย อยากหลุดพ้นจากความทรมานแสนเสียว“บอกรักผมสิ
พุฒมองตามหญิงสาว กระทั่งเธอเข้าไปในลิฟต์ แล้วจึงลงจากรถ เขาเดินไปยืนรอลิฟต์เพื่อตามเธอขึ้นไปทำงานชั้นเดียวกัน“ฮันเตอร์”เจ้าของชื่อหันไปมองตามเสียงเรียก เขาจึงเห็นว่าธนากำลังเดินเข้ามาใกล้ พุฒมองสบตาเพื่อนแวบหนึ่งก่อนจะหันกลับมามองประตูลิฟต์ตามเดิมธนาก้าวมายืนรอลิฟต์ข้างพุฒ เขามองไปที่ประตูลิฟต์เบื้องหน้าเช่นเดียวกันกับคนที่ยืนอยู่ก่อน ชายหนุ่มเอ่ยปากพูดโดยไม่หันไปมองเพื่อน“มึงยังไม่โอนเงินก้อนสุดท้ายให้กู ได้ของไปแล้วก็ช่วยจ่ายเงินด้วย”พุฒยังคงยืนอยู่ท่าเดิม และเขาพูดโดยไม่หันไปมองหน้าธนาเช่นกัน“มึงทำผิดข้อตกลง”“กูยังไม่ได้ทำอะไรที่ผิดข้อตกลง”“แค่มึงคิด ถึงยังไม่ได้ลงมือทำ มึงก็ผิดแล้ว”ธนาถอนหายใจแรงอย่างหงุดหงิด เขาหันไปมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของเพื่อน พุฒยังคงมองตรงไปข้างหน้า ไม่ใส่ใจกับความร้อนรนของเขา“กูจะไม่ยุ่งเกี่ยวแล้ว มึงโอนส่วนที่เหลือให้กูก่อนเที่ยงด้วย”“อืม…” พุฒครางรับในลำคอ พอสัญญาณลิฟต์ดัง และประตูลิฟต์เปิดออก สองหนุ่มก็เดินเข้าลิฟต์ไปพร้อมกัน ในลิฟต์มีผู้โดยสารอยู่ก่อนแล้วสามคน ทั้ง
แต้มรักเดินหน้าบึ้งกลับมานั่งที่โต๊ะทำงานของตัวเอง หญิงสาววางถุงกระดาษไว้บนโต๊ะ เธอเปิดปากถุงกระดาษออกดู และจ้องมันราวกับจะพ่นไฟใส่“แต้ม...เป็นไร โดนบอสดุเหรอ” พรีมยืนเกาะฉากกั้นมองเพื่อนสาวที่เพิ่งออกมาจากห้องบอสด้วยความเป็นห่วงแต้มรักถอนหายใจแรงเพื่อปรับอารมณ์ “อือ...ดุนิดหน่อย” เขาดุ เขาชอบเอาแต่ใจกับเธอ แล้วก็ชอบขู่เหมือนบ้าหมาด้วย“แกทำงานเมื่อวานไม่เสร็จเหรอ แล้วตอนนี้เสร็จหรือยัง มีอะไรให้ฉันช่วยไหม” พรีมถามด้วยความเป็นห่วง เธอเป็นห่วงถึงขนาดเดินอ้อมฉากกั้นมาหาเพื่อน เพื่อแสดงให้เห็นว่า เธอพร้อมช่วยจริง ๆ“ทำงานเสร็จแล้วแก แต่คงไม่ถูกใจบอสสักเท่าไร”“เออ ๆ เสร็จแล้วก็ดี แต่ถ้ามีอะไรที่ฉันพอจะช่วยได้ แกบอกนะ”“อือ...ขอบใจมากพรีม” แต้มรักเงยหน้ายิ้มให้เพื่อนสาว“แต้ม...แกซื้อโทรศัพท์ใหม่เหรอ” พรีมยืนค้ำโต๊ะของแต้มรักอยู่ สายตาของเธอจึงอยู่ในมุมที่มองเห็นของที่อยู่ในถุงพอดี“อือ...โทรศัพท์เครื่องเดิมหล่นแตกน่ะ”“ว้าว ! นี่แกซื้อรุ่นลิมิเต็ดเลยเหรอ รุ่นนี้ซื้อของฉันได้สามเครื่องเลยนะ”พอพรีมทัก แต้มรักก็รีบคว
“ล้างให้ผมด้วยสิ” ชิณณ์บอกพลางดึงนิ้วกลางออกมาจากกลางซอกขาขาว เขาจับบ่าบอบบางให้เธอหันหน้ามาหา แล้วจับมือนุ่มมาแตะลำกายแข็งขึงพรีมสะดุ้งชักมือกลับ แต่ก็ถูกเขารั้งข้อมือเอาไว้ หญิงสาวเม้มปากแน่น และก้มมองแค่อกกว้าง เธอสูดลมหายใจลึก ก่อนจะเริ่มลงมือล้างสัดส่วนใหญ่โตในมือตามที่เขาสั่งแก่นกายอวบใหญ่กระตุกในอุ้งมือนุ่มหลายครั้ง เธอได้ยินเสียงครางในลำคอของเขา เธอไม่รู้ว่าเขาพอใจหรือเปล่า แต่เมื่อเขาไม่สั่งให้ทำอย่างอื่น พรีมจึงยังคงสาละวนอยู่กับการลูบล้างสิ่งที่อยู่ในมือต่อไป กระทั่งเธอได้ยินเสียงเขาสูดลมหายใจลึก แล้วเธอก็ถูกดันจนแผ่นหลังแนบไปกับผนังห้องน้ำ พรีมเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างไม่เข้าใจ แต่ยังไม่ทันได้เอ่ยปากพูดใด ๆ เธอก็ถูกเขาปิดกั้นเสียงไว้ด้วยจูบดุดันชิณณ์บดจูบอย่างหื่นกระหาย ผู้หญิงอะไรกลัวจนตัวสั่นแล้วยังทำใจกล้าทั้งลูบทั้งรูดจนเขาแทบแตกคามือ ไม่ได้หรอก...เขาจะไม่ยอมให้เกิดเรื่องน่าอายแบบนั้นขึ้นหรอก เสียชื่อชายชาติหื่นอย่างเขาหมด“พอแล้ว...ไปที่เตียงกันเถอะ ผมอยากกินคุณทั้งตัว”เพียงแผ่นหลังสัมผัสกับที่นอนนุ่มพรีมก็เกร็งไปทั้งตัว
“ห้ามใช้โทรศัพท์ ถ้าผมไม่อนุญาต”“พรีมเป็นลูกหนี้ ไม่ใช่นักโทษค่ะ ถ้ากลัวว่าพรีมจะติดต่อตำรวจ คุณก็แค่มายืนฟังใกล้ ๆ ก็ได้”ชิณณ์กะพริบตาปริบ ๆ เขามองหญิงสาวเปิดลิ้นชักหยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับสายอย่างไม่กลัวเกรงเขาเลย“ค่ะ...คุณลุง”พอได้ยินว่าเธอกำลังพูดคุยกับใครอยู่ ชิณณ์ก็ถอนหายใจโล่งอก เขาเดินเข้าไปคว้าตัวเธอมากอด ชายหนุ่มนั่งลงบนเตียงและบังคับให้เธอนั่งบนตักแกร่ง เขากอดเอวบางไว้ไม่ให้เธอดิ้นหนี“พรีม...เสี่ยจิ๋วบอกว่า ถ้าจะขอเลื่อนเวลาส่งเงินต้นสองล้าน พรีมต้องมาพูดกับเขาเอง”“ลุงก็บอกเขาสิคะว่า พรีมกำลังเร่งหาเงินอยู่”“ลุงบอกแล้ว เขาไม่ยอม เขาจะยึดเอาท่าเดียว พรีมลองมาคุยกับเขาหน่อยไหม”พรีมถอนหายใจ เธอหนักใจกับปัญหาที่รุมเร้า มีแต่ปัญหาเรื่องหนี้สินและยังเป็นหนี้สินที่เธอไม่ได้ก่อทั้งนั้น“เขาให้เวลาถึงวันไหนคะ”“วันมะรืน”“หมายความว่าพรีมต้องไปพบเขาภายในวันมะรืนนี้หรือคะ”“ใช่”พรีมเงียบอยู่ครู่หนึ่ง หญิงสาวหันไปมองเจ้าของตักที่เธอนั่งทับอยู่ แล้วหันกลับไปหลุบตามองพื้น เธอถอนหายใจบางเบา
พรีมยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง หญิงสาวถอนหายใจบางเบา ก่อนจะเดินไปที่เตียง ชิณณ์จัดหมอนพิงกับหัวเตียง เขาขยับตัวนั่งพิงหมอนด้วยท่าทางสบาย ๆ ลำตัวท่อนล่างของเขามีผ้าห่มสีขาวคลุมหมิ่นเหม่อยู่ต่ำกว่าหน้าท้องนิดเดียว พอเธอขึ้นมานั่งอยู่ปลายเตียง เขาก็ก็ตบที่ว่างข้างตัวเป็นเชิงบอกให้เธอรู้ว่า เธอควรมานั่งตรงนี้พรีมมองค้อนคนเรื่องมาก เธอถอนหายใจหงุดหงิด แต่ก็ยอมคลานเข้าไปหาเขา พอเธอเข้าใกล้ในระยะที่วงแขนเขาเอื้อมถึง เธอก็โดนเขาโอบกอดเอาเธอขึ้นไปนั่งคร่อมตักอย่างน่าหวาดเสียวพรีมรีบใช้สองมือยันอกกว้างไว้ เธอกำลังจะเอ่ยปากต่อว่าเขา แต่พอเห็นเขายกโทรศัพท์ขึ้นแนบหู ทั้งยังมองเธอด้วยสายตาดุ พรีมจึงเม้มปากไม่ได้พูดอะไร หญิงสาวรอกระทั่งเขาสั่งอาหารเรียบร้อยและวางสาย เธอจึงเริ่มโวยวาย“ปล่อยพรีมนะคะ”“คุณคิดว่าห้าพันบาทผมควรได้อะไรบ้าง”“คุณบอกแค่ว่า ให้พรีมมานั่งรออาหารบนเตียง” พรีมเถียงเสียงแข็ง“ค้ากำไรเกินควรไปไหม ห้าพันมานั่งอย่างเดียว”“ถ้าอยากให้ทำอย่างอื่นก็ต้องเพิ่มตังค์” พรีมเรียนรู้ว่า หากเธอต่อรอง เขาจะไม่ปฏิเสธ เธออยากหมดหนี้เร็ว ๆ เธอจะยอมเ
“เสี่ยจิ๋วเขาทวงเงินต้นสองล้านบาทแล้วน่ะสิ ที่ดินแปลงนั้นน่ะครบกำหนดฝากขายแล้ว พรีมพอจะหาเงินมาไถ่คืนได้ไหม ถ้าไม่ได้ เสี่ยเขาจะยึด”“แต่พรีมส่งดอกให้ทุกเดือนนะคะ ลุงไปคุยกับเสี่ยจิ๋วขอต่อสัญญาอีกได้ไหม เอ่อ...พรีมยังหาเงินสองล้านไม่ได้เลยค่ะ”“ลุงไปคุยแล้ว แต่เขาไม่ยอม เขายืนยันจะยึดท่าเดียว”พรีมเม้มปากแน่น เธอเหลือบตามองเจ้าของตักที่เธอนั่งอยู่ เขาจ้องมองเธออยู่ก่อนแล้ว พรีมจึงรีบก้มหลบตาคมด้วยความอดสูใจ หนี้แต่ละก้อนที่เธอต้องจ่ายล้วนแต่เป็นหนี้ที่เธอไม่ได้ก่อ ไม่ว่าจะหนี้ของธนาที่เธอต้องชดใช้ให้เขาด้วยร่างกาย และหนี้ของลุงที่เธอต้องหาเงินสองล้านมาจ่ายก่อนที่เสี่ยจิ๋วจะยึด“พรีมจะพยายามหาเงินไปใช้หนี้เขาให้ได้ ลุงบอกให้เขารออีกนิดนะคะ”“พรีม...เสี่ยจิ๋วเขาเอ็นดูพรีมนะ อย่างที่ลุงเคยบอกไปว่า ถ้าพรีมยอมเป็นเมียน้อยเขา เขาจะไม่ยึดที่ แถมพรีมยังจะได้เงินเดือนฟรี ๆ ไม่ต้องทำงานให้เหนื่อยด้วยนะ”“พรีมหาเงินได้แน่นอนค่ะ แค่นี้ก่อนนะคะลุง”เธอไม่รู้จะพูดอะไรกับลุงอีก ทางออกที่ลุงบอกมานั้นทำให้เธอจุกในอก หากเธอยอมทำอย่างที่ลุงบอก ก็เท่ากับ
พอเธอลุกขึ้นนั่ง โดยที่ทั้งตัวมีเพียงแค่เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวของเขาสวมอยู่ เต้านมอวบใหญ่ก็ดีดเด้งล่อตา ต้นขาขาว ๆ ที่เห็นวับ ๆ แวม ๆ นั่นก็ล่อใจเหลือเกิน ชิณณ์ลอบกลืนน้ำลายลงคอ ก่อนจะบอกกับเธอว่า“โอเค ๆ พูดเพราะ ๆ ก็ได้ครับ ผมแค่อยากสะกิดถามคุณพรีมว่า อยากได้โทรศัพท์คืนไหมครับ แบบว่า...บางทีคุณพรีมอาจจะอยากโทรลางาน หรือโทรหาใครสักคนเพื่อบอกเขาว่า คุณปลอดภัยดี”“โทรศัพท์ฉันอยู่กับคุณหรือคะ”“แทนตัวเองว่าพรีมสิ จะได้น่าฟังน่าตามใจหน่อย”“ห้าพัน !”“อะไร !”“ค่าเรียกแทนตัวเองว่าพรีม” พรีมเชิดหน้าอย่างเป็นต่อชิณณ์ยิ้มบาง เขาขยับตัวอยู่ในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน โดยใช้ข้อศอกยันลำตัวช่วงบนขึ้นมา และชันหัวเข่าขึ้นข้างหนึ่ง โชว์ท่อนขาแข็งแกร่งแหวกรอยแยกผ้าขนหนูผืนเดียวที่เขานุ่งอยู่ เขาจงใจยั่วแม่สาวเนื้อหวาน เผื่อบางทีเธออาจจะอยากชิมรสชาติความเป็นชายของเขาอีกสักคำสองคำ“คิดว่าตัวเองอยู่ในสถานะที่ต่อรองได้ ?” ชิณณ์ถามพลางเลิกคิ้วเข้มข้างหนึ่งพรีมหันไปสบตาคม หญิงสาวเม้มปากครู่หนึ่งอย่างครุ่นคิด เธอไม่สนใจและไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาจงใจอ่
“ถ้าคุณตุกติกไม่หักหนี้ตามที่ตกลงกันไว้ ฉันจะตามจองล้างจองผลาญคุณให้ถึงที่สุด” พรีมขู่ด้วยน้ำเสียงและสีหน้าจริงจัง แต่คนถูกขู่กลับอมยิ้ม ตาคมเป็นประกายวิบวับ“ใครจะใจร้ายกับคนสวยได้ลงคอล่ะครับ” ชิณณ์ว่าพลางสะบัดมือตีแก้มก้นอวบแล้วบีบขยำเต็มมือ“เริ่มได้แล้ว...ฉันอยากแตกจะแย่”พรีมกัดฟันแน่น เธอจ้องหน้าเขาด้วยสายตาที่ไม่พอใจเท่าไรนัก กระนั้นเธอก็เริ่มขยับสะโพกเสียดสีกลีบเนื้อนุ่มกับลำกายแกร่ง แต่เพราะเธอไม่เคยมีแฟน ไม่เคยทำแบบนี้กับใครมาก่อน จังหวะที่เธอเป็นฝ่ายควบคุมเองจึงเก้กังติดขัดไปเสียหมด“แบบนี้อีกกี่ชาติถึงจะแตก” ชิณณ์ว่าเสียงลอดไรฟัน เธอเงอะงะอ่อนหัด แต่เร้าใจจนเขาแทบจะอดกลั้นไม่ไหวแล้ว เขาอยากจะสอดใส่แล้วเด้งเสยขึ้นจนมิดลำ อยากกระหน่ำแทงให้เธอหัวสั่นหัวคลอนดีดดิ้นอยู่บนตักอย่างสะใจ ทว่าสิ่งที่ชิณณ์ทำก็แค่เพียงบอกเธอว่า“หนีบมันไว้แน่น ๆ สิ”“นะ...แน่นแล้ว” พรีมเถียงขณะที่ยังขยับสะโพกโยกคลึงไร้ทิศทางชิณณ์สุดแสนจะทรมาน และเขาไม่อยากอดทนอดกลั้นอีกต่อไปแล้ว“ไม่พอหรอก ต้องแบบนี้” ชิณณ์กระชากสะโพกอวบอัดดึงหญิงสาวเข้าหา “เก
ชิณณ์ยิ้มขำ เมื่อเธอเอาแต่ถูซ้ำ ๆ อยู่กลางอก เขาส่ายหน้า ก่อนจะจับข้อมือบางไว้แน่น แล้วดึงเธอขึ้นมานั่งคร่อมบนตักแกร่ง วงแขนแข็งแรงรัดเอวบางไว้แน่นหนา เขากดเธอไว้กับตักไม่ให้ขยับไปไหนได้“คุณชิณณ์ !” พรีมโวยวาย เธอพยายามขืนตัวออกห่างเขา แต่ไม่ว่าจะดิ้นรนอย่างไรก็ไม่อาจพาตัวเองออกจากพันธนาการได้ หญิงสาวจำยอมนั่งนิ่งอยู่บนตักแกร่ง เธอกัดฟันแน่น ขึงตาดุมองเขาอย่างเอาเรื่อง“อาบธรรมดาให้สองพัน แต่ถ้าอาบแบบเนื้อแนบเนื้อ ฉันให้ห้าพัน”“ไม่ !”มันมากเกินไป ไม่ใช่จำนวนเงิน แต่หมายถึงเธอใกล้ชิดเขามากเกินไป ขืนนั่งกันอยู่ท่านี้ แล้วเกิดถ้าเขาอยากทำอะไรที่มากกว่าอาบน้ำ เธอคิดว่า เธอคงไม่อาจขัดขืนได้ เขามันตัวอันตราย เขาไม่น่าไว้ใจเลยสักนิด“แต่ฉันอยากให้” ชิณณ์ยิ้มร้าย เขาเลื่อนมือขึ้นตรึงท้ายทอยเธอไว้อีกครั้ง ก่อนจะปล้นจูบที่สองของเธอไปอย่างหน้าด้าน ๆพรีมเบิกตากว้าง คราวนี้เธอจะไม่ยอมง่าย ๆ หญิงสาวทั้งผลักทั้งทุบเขาสุดแรง ทว่าชิณณ์ก็จัดการกับเธอได้อย่างง่ายดาย เขาออกแรงกอดรัดเธออีกนิดจนสองกายแนบสนิท เต้าทรวงอวบอิ่มบดเบียดกับอกกว้าง สองแขนเรียวแนบไปกั
พรีมสะบัดตัวหลุดจากเขาได้ในตอนที่เขาพยายามจะแกะตะขอเสื้อชั้นในของเธอ หญิงสาวถอยไปยืนชิดผนังห้องน้ำ เธอหอบหายใจแรงด้วยความโมโห แขนเรียวกอดอกปกปิดเรือนกายท่อนบน และจ้องเขาด้วยสาตาดุเอาเรื่องชิณณ์ยิ้มพอใจเมื่อได้เห็นเรือนร่างสาวเต็มตา เธอขาวนวลเนียนไปทั้งตัว ทรงอกอวบใหญ่น่ากัดขย้ำ เอวคอดรับกับสะโพกผายน่าสะบัดมือตีแรง ๆ บั้นท้ายเต่งตึงอวบอัดก็น่าจะรับแรงปะทะได้ดี แค่คิดเขาก็เสียววาบไปทั้งลำ แก่นกายผู้ซื่อสัตย์กับสมองของเขาขยับขยายดันผ้าขนหนูที่นุ่งอยู่โป่งออกมาพรีมเบิกตากว้างกับการเปลี่ยนแปลงของสรีระส่วนนั้นของเขา หญิงสาวหันซ้ายหันขวาหาทางออกให้กับตัวเอง ทว่ายังไม่ทันได้ขยับไปไหน เธอก็ถูกเขากระโจนเข้าใส่และรวบตัวเธอไว้ในอ้อมแขนแข็งแรงได้อีกครั้ง“คุณชิณณ์ ! ปล่อยฉันนะ ฉันไม่ลงอ่างกับคุณ” พรีมดิ้นสุดแรง เธอดิ้นโดยลืมไปว่าทั้งเนื้อทั้งตัวมีเพียงผ้าจิ๋วสองชิ้นปกปิดส่วนสำคัญไว้เท่านั้น“ฉันให้หนึ่งหมื่นบาท” ข้อเสนอของชิณณ์ทำให้คนในอ้อมแขนหยุดดิ้นพรีมเงยหน้ามองเจ้าของเรือนกายสูงกำยำที่เธอแนบชิดอยู่ “จริงนะ”ชิณณ์ยิ้มบาง เขาฉวยโอกาสตอนเธอเผลอ แอบเน
“ขอบคุณนะคะ ฉันสัญญาว่าจะหาเงินมาใช้หนี้ให้คุณจนหมดแน่นอน ฉันจะไม่หนีไปไหน ฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ” พรีมว่าพลางขยับลงจากเตียงอีกฝั่ง หญิงสาวรีบเดินตรงไปที่ประตูด้วยความดีใจ เธอดึงประตูเปิดออก แต่พอมันเปิดแง้มได้แค่เพียงนิด มันก็ถูกฝ่ามือแข็งแรงดันปิดไว้ตามเดิม และคนที่ดันประตูปิดก็ยืนซ้อนอยู่ข้างหลังเธอ พรีมยืนนิ่งตัวแข็งทื่อ เพราะเขายืนอยู่ใกล้เธอเกินไป ใกล้จนเธอรู้สึกได้ถึงไออุ่นจากเรือนกายของเขาชิณณ์ยิ้มเจ้าเล่ห์ เขาวางสองมือทาบกับบานประตู กักกันเธอไว้ให้ยืนนิ่งอยู่กับที่ เขาก้มหน้าลงจนจมูกโด่งเกือบชนแก้มนวล “ฉันหมายถึงกลับคอนโดกับฉันต่างหาก”“เข้าไปสิ” ชิณณ์รั้งต้นแขนของผู้หญิงที่เขาหิ้วกลับคอนโดเข้าไปในห้องด้วยกัน คนถูกจับเงยมองเขาอย่างเอาเรื่อง“ฉันเดินเองได้ไม่ต้องมาจับ” พรีมสะบัดแขนออกจากมือแข็งแรง เธอขยับหนีไปยืนห่างเขาถึงสามก้าวชิณณ์มองท่าทางสาวขัดดอกของตัวเองแล้วยิ้มขำ เขาปิดล็อกห้อง เปลี่ยนรองเท้า แล้วจงใจเดินเบียดเธอจนเซ ก่อนจะเดินผ่านเข้าไปด้านใน ชิณณ์เดินตรงไปยังห้องนอนใหญ่ของตัวเอง ปล่อยให้คนที่เพิ่งมาคอนโดผู้ชายครั้งแรกยืน