พุฒเหลือบตามองมือของเพื่อนที่แตะอยู่เหนือสะโพกมนแวบหนึ่ง ก่อนจะเลื่อนสายตาขึ้นมองหน้าเพื่อน เขายักไหล่ ทำหน้าคล้ายเหม็นเบื่อ
“แฟนมึง แต่ลูกน้องกู และตอนนี้กูก็มีงานให้ลูกน้องทำด้วย”
“แต่นี่เวลาพัก” ธนาแย้ง เขาไม่ยอมปล่อยแขนออกจากหญิงสาว
“แล้วไง ก็กูมีงานด่วนให้ทำ”
“มึง…” ธนาชี้หน้าเพื่อน แต่ก็เถียงไม่ออก เพราะแต้มรักเป็นลูกน้องมัน
พุฒไม่สนใจท่าทีเดือดเนื้อร้อนใจของธนา เขาหันไปสั่งลูกน้องเขาว่า
“แต้ม...ไปพบผมที่ห้องด้วย ผมมีงานให้คุณทำ”
“ค่ะ...บอส” แต้มรักรับคำแล้วก้มหน้าหลบตาคมปลาบ
“ไอ้บอสโหด เวลาพักก็ไม่ให้พัก” ธนายังไม่วายชี้หน้าต่อว่าเพื่อน
พุฒไม่ตอบโต้ เขายักคิ้วกวนโมโหเพื่อน แล้วเดินออกจากห้องแคนทีนไป แต่ก่อนจะประตูจะปิดลง ก็ยังไม่วายได้ยินเสียงธนาตะโกนว่าไล่หลังมา
“ไอ้ฮันเตอร์ ไอ้บอสเลว”
คนถูกเพื่อนว่ายิ้มมุมปาก ตาคมเป็นประกายวาววับ เขาไม่สนใจคำที่เพื่อนต่อว่า ที่เขาสนใจอยู่ตอนนี้คือผู้หญิงคนนั้น เธอเป็นของเขาแล้ว แต่ยังมีหน้าไปยืนให้เพื่อนเขากอดอยู่ได้ บางทีเขาอาจจะต้องสั่งสอนให้เธอหลาบจำว่า คนที่มีสิทธิ์แตะต้องใกล้ชิดเธอมีแค่เขาคนเดียวเท่านั้น
“พี่ธนา...ดื่มกาแฟ แล้วกลับไปทำงานนะคะ แต้มจะเข้าไปคุยกับบอส”
แต้มรักอาศัยจังหวะที่ธนาเผลอ เธอจึงเบี่ยงตัวออกจากวงแขนของเขา
“ไอ้เหี้ยฮันเตอร์มันแกล้งพี่” ธนายังไม่หยุดต่อว่าคนที่มาพรากช่วงเวลาจู๋จี๋ของเขากับแฟน
แต้มรักยิ้มอ่อนหวานให้แฟนหนุ่ม หวังจะให้เขาคลายความกรุ่นโกรธลงบ้าง และตอนนี้เองที่หญิงสาวเพิ่งนึกได้ว่า เธอเคยได้ยินพี่ธนาและบอสเรียกกันด้วยชื่อที่พวกเขาใช้สมัยที่เรียนอยู่อเมริกา
คืนนั้น...เขาถึงให้เธอเรียกเขาว่า ฮันเตอร์…
หลังจากธนาดื่มกาแฟเสร็จแล้ว แต้มรักเดินไปส่งเขาที่หน้าลิฟต์
“ไม่อยากไปทำงานเลย อยากอยู่ดูแลแต้ม”
“แต้มไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย พี่ธนากลับไปทำงานได้แล้วค่ะ”
“ห่างกันแล้วอย่าลืมคิดถึงพี่นะครับ”
แต้มรักหัวเราะคิก “ห่างกันแค่หกชั้นนี่นะคะ” ฝ่ายการตลาดอยู่ชั้นสามสิบสอง เวลามาทำงาน เขากับเธออยู่ห่างกันแค่หกชั้น
“บอกมาก่อนว่าจะคิดถึงพี่”
“ค่ะ...แต้มจะคิดถึงพี่ธนา”
“เด็กดีของพี่” ธนายิ้มแล้วก้มลงหมายจะหอมแก้มเนียน ทว่าแต้มรักเบี่ยงหลบ และเป็นจังหวะเดียวกับสัญญาณเตือนลิฟต์ดังขึ้นพอดี
“ลิฟต์มาแล้วค่ะ ตั้งใจทำงานนะคะ”
แต้มรักถอยหลังมาสองก้าว หญิงสาวยิ้มแล้วโบกมือให้เขา
ธนาถอนหายใจอย่างแสนเสียดาย เขาพยักหน้าช้า ๆ โบกมือให้แฟนสาว แล้วเดินเข้าลิฟต์ไปด้วยท่าทางเหงาหงอย
เมื่อประตูลิฟต์ปิดลงแล้ว แต้มรักสูดลมหายใจลึก เธอยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินเข้าไปในออฟฟิศ แล้วเดินตรงไปยังห้องทำงานของบอส ยิ่งเข้าใกล้ หัวใจก็ยิ่งเต้นแรงขึ้น ทุกย่างก้าวเต็มไปด้วยความหวาดหวั่น สำหรับผู้หญิงคนอื่นแล้ว ผู้ชายที่อยู่ในห้องตรงหน้านี้คือผู้ชายวัยยี่สิบแปดที่เพียบพร้อมทั้งรูปร่างหน้าตาและความสามารถ เขากับพี่ธนาเข้ามาทำงานที่นี่พร้อมกัน ด้วยความที่ทั้งสองมีความสามารถและมีผลงานโดดเด่น จึงทำให้พวกเขาก้าวขึ้นมาสู่ระดับผู้บริหารได้อย่างรวดเร็ว ทั้งคู่ได้รับฉายาจากสาว ๆ ว่าเทพบุตรคู่ พวกเขาเป็นที่จับตามองและเป็นที่หมายปองของสาว ๆ ทั้งตึก แต่สำหรับเธอแล้ว เทพบุตรมีเพียงคนเดียวคือพี่ธนา ส่วนเขาคือซาตาน
เสียงเคาะประตูทำให้เจ้าของห้องทำงานยิ้มมุมปาก พุฒลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินไปเปิดประตูต้อนรับลูกน้องที่เขาสั่งให้มาหา “เชิญ”
เมื่อประตูบานใหญ่เปิดออก แต้มรักมองหน้าเขาแวบหนึ่ง ก่อนจะก้มหน้าหลบตาคม เธอเดินผ่านประตูเข้าไปแล้วหยุดอยู่กลางห้อง พอได้ยินเสียงเขาปิดล็อกประตูเธอก็สะดุ้ง
พุฒปิดประตูห้องแล้วหันกลับมา เมื่อเห็นว่าเธอยืนหันหลังให้เขาอยู่กลางห้อง เขายิ้มบาง ชายหนุ่มเดินเข้าไปยืนซ้อนหลังเธอ เขาก้มกระซิบชิดใบหูเล็กด้วยเสียงแตกพร่า
“อย่าทำตัวมีพิรุธสิ เดี๋ยวธนาก็จับได้หรอกว่าคุณมีชู้”
แต้มรักผงะหน้าหนี เธอถอยห่างเขาแล้วสาดสายตาดุมองด้วยความไม่พอใจ “บอสมีงานอะไรให้แต้มทำก็บอกมาสิคะ” แต้มรักพยายามบังคับเสียงให้เป็นปกติ กระนั้นน้ำเสียงที่เอื้อนเอ่ยออกไปก็ยังสั่นจนคนฟังรู้สึกได้
“ไม่มีงานอะไรให้ทำ แต่จะเรียกมาสั่งให้ทำตาม”
เจ้าของห้องบอกแล้วคว้าเอวบางดึงลูกน้องสาวมากอด แต้มรักรีบยกมือขึ้นมากันและขืนตัวไว้ แต่เธอก็ทำได้เพียงใช้มือขวางไม่ให้อกอวบเบียดกับอกกว้างเท่านั้น ร่างกายด้านหน้าส่วนอื่นแนบกับเขาไปทั้งตัว มิหนำซ้ำเขายังจงใจแทรกท่อนขายาวเข้ามาระหว่างขาเรียวของเธอด้วย กางเกงและเสื้อของเธอไม่ได้หนาถึงขนาดจะกักกั้นไออุ่นจากเขาได้ กลิ่นกายหอมในแบบผู้ชายของเขาอบอวลอยู่รอบตัวเธอ
“คุณพุฒ ปล่อยแต้มนะคะ” แต้มรักเงยหน้าสบตาเขาอย่างหวั่นใจ เธอกลัวเขาทำอะไรบ้า ๆ อีก
พุฒยิ้มร้ายกาจ น้ำเสียงร้อนรนของเธอทำให้เขาพอใจ
“อย่าให้ใครมาทับรอยผม ผมไม่ชอบ”
“คุณเป็นแค่ชู้ มีสิทธิ์อะไรมาสั่ง”
“ถ้าคุณทำตามที่ผมสั่ง ผมยอมเป็นแค่ชู้ก็ได้ แต่ถ้าคุณดื้อ...ผมจะไม่ยอมเป็นแค่ชู้แน่นอน บางทีนะ…” พุฒยิ้มไร้ความหมาย เขาจ้องตาคู่สวย ก่อนจะบอกเธอต่อว่า “บางทีถ้าแฟนคุณรู้ความจริงว่า ผมเป็นชู้กับคุณ…”
“อย่าบอกพี่ธนานะคะ” แค่เขาขู่ เธอก็ใจสั่น เธอไม่อยากให้พี่ธนาเสียใจ ไม่อยากให้เขารู้ว่าเธอกับเพื่อนของเขาสวมเขาให้ เธอเองไม่คิดจะดึงรั้งพี่ธนาไว้ เพียงแต่เธออยากขอเวลาทำใจก่อน ทำใจก่อนจะเดินออกมาจากชีวิตคนดี ๆ อย่างเขาพุฒก้มลงหมายจะหอมแก้มนวล แต่แต้มรักสะบัดหน้าหนี เขาจึงก้มลงอีกนิดแล้วจูบลำคอเธอเบา ๆ“อ๊ะ !” แค่ปากอุ่นร้อนประทับบนผิวเนื้อ ขนกายสาวก็ลุกชัน แต้มรักกัดฟันแน่น เธอรอกระทั่งเขาเงยหน้าขึ้นมาจากซอกคอ เธอจึงสบตาเขา“แต้มไม่ให้พี่ธนาแตะต้องแน่นอนค่ะ ไม่ใช่เพราะบอสสั่ง แต่เพราะว่าพี่ธนาเป็นคนดี เขาดีเกินกว่าที่แต้มจะให้เขามาแปดเปื้อนคนสกปรกอย่างแต้ม”พุฒยิ้มมุมปาก เขากอดรัดหญิงสาวแน่นขึ้น“ถ้าอย่างนั้น ก็เลิกกับมันสิ แล้วมาเป็นแฟนผม”“แต้มจะบอกเลิกพี่ธนาแน่นอน แต่แต้มจะไม่มีวันทำให้พี่ธนาเสียใจ ด้วยการเลิกกับคนดีแล้วมาคบกับเพื่อนเลวที่หักหลังเขาหรอกค่ะ”“หักหลังอะไรกัน...ผมก็แค่ช่วยเพื่อนสร้างความสุขให้แฟนเท่านั้นเอง คืนนั้นแต้มก็มีความสุขสุดยอดไปตั้งหลายครั้งไม่ใช่เหรอ”“คนเลว…”“เคยบอกแล้วว่า ผมไม่ใช่คนดี”
แต้มรักเม้มปากแน่น เธอมองสบตาเขาครู่เดียว ก่อนจะมองเมินออกไปข้างหน้าต่าง ไม่อยากเห็นหน้า ไม่อยากพูดจาด้วย ไม่อยากได้ยินเสียงคนเลว“อุ๊ย ! คุณพุฒ” แต้มรักตกใจเมื่อเขาโน้มตัวมาใกล้ หญิงสาวรีบดันบ่ากว้างผลักเขาออกไป แต่คนตัวใหญ่และแรงเยอะกว่าไม่สะเทือนสักนิด“ผมจะคาดเบลล์ให้” พุฒว่าพลางดึงเข็มขัดนิรภัยมากดล็อกให้เธอ ก่อนจะขยับกลับไปนั่งตามเดิม แล้วดึงเข็มขัดนิรภัยมาคาดให้ตัวเอง เขายกมือข้างขวาขึ้นจับพวงมาลัย มือซ้ายดันเกียร์เปลี่ยนไปอยู่ตำแหน่งขับเคลื่อนไปข้างหน้า ก่อนจะเอามือออกจากเกียร์มาคว้าเอามือข้างขวาของแต้มรักไปกุมไว้ แล้วดึงไปวางลงบนต้นขาแกร่ง“คุณพุฒ !” แต้มรักจิกเจ็บลงบนหลังมือของเขา แต่คนที่สอดนิ้วเรียวสวยแบบผู้ชายแทรกอยู่ระหว่างนิ้วเรียวเล็กของเธอไม่สะทกสะท้าน เขากระชับมือเธอแน่นขึ้น ตาคมมองไปข้างหน้า ขณะที่บังคับรถเคลื่อนไปบนถนนเมื่อสัญญาณไฟเปลี่ยนเป็นสีเขียว“จะหยิกอีกนานไหม ผมจะได้ทดเวลาลงโทษคุณไว้ในใจ บอกไว้ก่อนนะว่าบทลงโทษของผมไม่เหมือนใคร ระวังจะได้ร้องขอชีวิต”น้ำเสียงของเขาราบเรียบก็จริง ทว่าดวงตาเป็นประกายวาววับ เขายิ้มร้ายกาจข่มข
“รางวัลสำหรับแม่ครัวครับ” พอให้รางวัลเธอแล้ว เขาก็ถอยไปนั่งรอที่เก้าอี้แต้มรักถอนหายใจอย่างหงุดหงิด รางวัลบ้าบออะไร นี่มันเป็นการเอาเปรียบเธอชัด ๆ คนนิสัยไม่ดีระหว่างรับประทานอาหาร แต้มรักเอาแต่ก้มหน้าก้มตากิน เธอแทบไม่มองหน้าคนที่นั่งร่วมโต๊ะอยู่ฝั่งตรงกันข้ามด้วยซ้ำ และดูเหมือนว่าเขาเองก็ไม่อยากกวนเธอ พุฒปล่อยให้หญิงสาวรับประทานอาหารโดยไม่กวนใจเธอ กระทั่งแต้มรักรวบช้อนส้อมและยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม เขาจึงบอกเธอว่า“ไปอาบน้ำ แล้วนอนรอผมบนเตียง”คำสั่งของเขาทำให้แต้มรักเกือบทำแก้วน้ำหลุดมือ หญิงสาวมองสบตาเขาด้วยสายตาตื่นตระหนก“ตะ...แต้มจะรอเก็บโต๊ะล้างจานค่ะ” แม้รู้ว่าไม่อาจหลีกเลี่ยงสิ่งที่เขาจะทำกับเธอได้ แต่แต้มรักก็อยากจะยื้อเวลาต่อไปอีกสักหน่อย“เดี๋ยวผมจัดการเอง คุณไปอาบน้ำแล้วนอนรอผมบนเตียง”เสียงเข้มกับสายตาดุของเขาทำให้แต้มรักไม่กล้าเถียง หญิงสาวลุกขึ้นแล้วก้มหน้าเดินผ่านประตูครัวตรงไปยังห้องนอนเพียงแค่เปิดประตูเข้าไปแล้วเห็นเตียงกว้าง หัวใจดวงน้อยก็หวั่นไหว ยิ่งภายในห้องนอนของเขาตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์โทนสีเทาเข้ม ก็ยิ่ง
“แต้ม !” เสียงเรียกอย่างเกรี้ยวกราดที่ดังออกมาจากห้องนอนทำให้แต้มรักสะดุ้ง หญิงสาวรีบหอบกระเป๋าและถือโทรศัพท์เดินเร็วออกจากห้องครัวแต่แต้มรักเดินไปยังไม่ทันถึงห้องนอน คนที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จก็เดินออกมาดักเธออยู่หน้าห้องก่อน เขานุ่งผ้าขนหนูผืนเดียว พราวหยดน้ำเกาะอยู่เต็มเรือนกายแกร่ง ผมเปียกน้ำและถูกเสยไปข้างหลัง เปิดเผยใบหน้าคมเข้มแสนดุ ตาคมกริบที่จ้องมองเธออย่างไม่พอใจทำให้แต้มรักหวาดหวั่น“ไปไหนมา”“แต้มไปเอากระเป๋ากับโทรศัพท์ในห้องครัวค่ะ”พุฒหลุบตามองของในมือหญิงสาว เขาระบายลมหายใจออกบางเบา...เธอไม่ได้หนีเขาไปไหน“ได้ของแล้วก็กลับเข้าห้อง” พุฒดึงต้นแขนหญิงสาวลากกลับเข้าห้อง แต่ยังไม่ทันเปิดประตู เสียงโทรศัพท์ของแต้มรักก็ดังขึ้น“แต้มขอรับโทรศัพท์ก่อนนะคะ”“อืม..” พุฒปล่อยมือจากต้นแขนของหญิงสาว เขากอดอกยืนมองเธอรับโทรศัพท์แต้มรักรู้สึกใจชื้นขึ้นมานิดหน่อย เพราะได้ประวิงเวลาการเข้าไปอยู่ในห้องนอนกับเขา แต่พอหลุบตามองหน้าจอโทรศัพท์แล้วเห็นว่าใครโทรมา เธอก็หน้าเสีย“แต้มขอไปคุยโทรศัพท์ในครัวนะคะ”พุฒมองหน้าหญิงสาว
ยิ่งทอดเวลาพูดคุยกับธนานานเท่าไร แต้มรักก็ยิ่งแย่ เพราะคนเอาแต่ใจจ้วงลิ้นสอดแทงร่องเนื้อของเธอถี่ยิบ สลับกับดูดดึงเสียงดังหยาบโลน ความเสียดเสียวพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ แต้มรักสูดลมหายใจลึก รีบบอกปลายสายด้วยน้ำเสียงสั่นและแหบพร่า“แต้มไม่เป็นอะไรค่ะ แค่นี้ก่อนนะคะพี่ธนา แต้มจะนอนแล้ว พรุ่งนี้ค่อยคุยกันนะคะ”แต้มรักก็รีบตัดสาย หญิงสาวเอนตัวแนบหลังพิงบานประตู แหงนเงยหน้า หลับตาแน่น เธอจิกกำเส้นผมของคนที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าเต็มมือ พอเขาสะบัดลิ้นรัวบนติ่งเนื้อนุ่มถี่ยิบ เธอก็สะท้านเฮือก ปากอิ่มเผยอหวีดร้อง พร้อมกับน้ำหวานแตกซ่าน เธอถูกส่งไปยังปลายทางสุขสมด้วยปากและลิ้นของชู้รักเมื่อดูดกลืนน้ำหวานจากซอกสาวจนแห้งเหือดหมดจด พุฒก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เขาบีบแก้มนวลด้วยมือข้างเดียว บังคับให้เธอเงยหน้ามองสบตา“ห้ามไปกับมันเด็ดขาด” เขาสั่งแล้วบดปากจูบปากนุ่มอย่างดุดัน ขณะเดียวกันก็โอบอุ้มเธอขึ้นมากระเตงไว้ข้างหน้า นาบเรือนกายแกร่งทับหญิงสาวไว้กับบานประตู เขาสะบัดผ้าขนหนูออกจากเอวสอบอย่างไม่ไยดีแต้มรักโอบสองแขนคล้องลำคอแกร่ง สองขาแยกกว้างเกี่ยวเอวสอบไว้ เธอรองรับจ
แต้มรักรู้สึกเหมือนร่างกายไร้กระดูก เธออ่อนเปลี้ยไปหมด พอเขาอุ้มเธอเข้ามาในห้องนอน แล้ววางลงบนเตียง เธออยากหลับ อยากหมดสติไปเลย ไม่อยากรับรู้ว่าเมื่อครู่ตัวเองทำตัวร่านแค่ไหน เธอร่านกับผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่แฟน แต่ในความเป็นจริงแล้ว เธอยังมีสติครบถ้วน ยังเห็นสายตาล้อเลียนของชู้ที่เธอขย่มเขาที่หน้าประตูไปเมื่อครู่“เราเข้ากันได้ดี คุณว่าไหม” นอกจากสายตาล้อเลียนแล้ว คำพูดของเขาก็ทำให้แต้มรักโกรธตัวเองด้วย แต้มรักเม้มปากแน่น เธอไม่ยอมพูดกับเขา หญิงสาวพลิกตัวนอนตะแคงหันหลังให้เขา“เมื่อกี้คุณเซ็กซี่มาก ร่านถูกใจผมจริง ๆ” คนกวนประสาทตามไปกระซิบถ้อยคำบาดหู เขาหอมแก้มสาวเบา ๆ แล้วเลื่อนใบหน้ามาจูบหัวไหล่นวลเนียน ก่อนจะขยับตัวเข้าไปนอนซ้อนหลังแนบชิด ดึงหญิงสาวเข้ามากอดแนบอก“แต้มจะบอกเลิกกับพี่ธนา ถ้าแต้มเลิกกับพี่ธนาแล้ว คุณพุฒไม่มีสิทธิ์บังคับแต้มมาทำเรื่องผิดบาปแบบนี้อีก” เพราะเธอยังอยู่ในสถานะแฟนของธนา เขาจึงหยิบยกเรื่องที่เธอมีชู้มาขู่ได้ ถ้าเธอเลิกกับแฟน เขาก็จะไม่มีข้ออ้างบังคับให้เธอมาทำเรื่องแบบนี้ได้อีก“จะเลิกกับธนาก็เลิกไป แต่ถ้าเลิกเป็นชู้กับผมเมื่อไร
พุฒดูดปากอิ่มจนเกิดเสียงดัง ก่อนจะถอนจูบออกมา เขาผงกศีรษะขึ้นมองใบหน้าสาวแดงก่ำอย่างพอใจ“บอกรักผม แค่คุณบอกรัก ผมจะจัดให้อย่างถึงใจ”แต้มรักมองเขาด้วยสายตาวาววับ เธอกัดริมฝีปากล่างไว้แน่น เธอไม่มีวันเอ่ยคำรักกับชู้ เขาไม่มีสิทธิ์ได้ยินคำบอกรักจากปากเธอ“บอกรักผัวหน่อยทูนหัว…” พุฒยิ้มร้ายกาจ ตาคมจับจ้องดวงหน้าชื้นเหงื่ออย่างพอใจ แต่เมื่อเธอยังคงปากแข็ง เขาจึงก้มดูดเต้านมอวบอิ่ม ดูดดุนเม็ดทับทิมบนยอดทรวง สะบัดลิ้นพลิกพลิ้วอย่างช่ำชอง ขณะเดียวกันเขาก็ขยับบั้นเอวถอดถอนแก่นกายออกเกือบสุด แล้วสอดใส่เข้าไปใหม่ช้า ๆ เขาทำซ้ำ ๆ และคงจังหวะเชื่องช้าไว้ ความแข็งกร้าวร้อนผะผ่าวเสียดสีผนังเนื้ออ่อนนุ่มซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาเข้าสุดออกสุดในจังหวะเนิบนาบ บางคราเขาก็กดตัวตนแช่ลึกแล้วส่ายวนบดขยี้จนแต้มรักหลุดเสียงครางออกมาจนได้พุฒยิ้มแนบทรวงอกสาว เขาจัดการเธออย่างใจเย็น แก่นกายยังขยับเข้าออกแอ่งอุ่นในจังหวะเนิบนาบ แต้มรักแทบคลั่งกับบทรักที่เขาจงใจกลั่นแกล้ง เธออยากกระสันอย่างแรงกล้า โหยหาการเติมเต็ม อยากตะกายไปถึงจุดปลดปล่อย อยากหลุดพ้นจากความทรมานแสนเสียว“บอกรักผมสิ
พุฒมองตามหญิงสาว กระทั่งเธอเข้าไปในลิฟต์ แล้วจึงลงจากรถ เขาเดินไปยืนรอลิฟต์เพื่อตามเธอขึ้นไปทำงานชั้นเดียวกัน“ฮันเตอร์”เจ้าของชื่อหันไปมองตามเสียงเรียก เขาจึงเห็นว่าธนากำลังเดินเข้ามาใกล้ พุฒมองสบตาเพื่อนแวบหนึ่งก่อนจะหันกลับมามองประตูลิฟต์ตามเดิมธนาก้าวมายืนรอลิฟต์ข้างพุฒ เขามองไปที่ประตูลิฟต์เบื้องหน้าเช่นเดียวกันกับคนที่ยืนอยู่ก่อน ชายหนุ่มเอ่ยปากพูดโดยไม่หันไปมองเพื่อน“มึงยังไม่โอนเงินก้อนสุดท้ายให้กู ได้ของไปแล้วก็ช่วยจ่ายเงินด้วย”พุฒยังคงยืนอยู่ท่าเดิม และเขาพูดโดยไม่หันไปมองหน้าธนาเช่นกัน“มึงทำผิดข้อตกลง”“กูยังไม่ได้ทำอะไรที่ผิดข้อตกลง”“แค่มึงคิด ถึงยังไม่ได้ลงมือทำ มึงก็ผิดแล้ว”ธนาถอนหายใจแรงอย่างหงุดหงิด เขาหันไปมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของเพื่อน พุฒยังคงมองตรงไปข้างหน้า ไม่ใส่ใจกับความร้อนรนของเขา“กูจะไม่ยุ่งเกี่ยวแล้ว มึงโอนส่วนที่เหลือให้กูก่อนเที่ยงด้วย”“อืม…” พุฒครางรับในลำคอ พอสัญญาณลิฟต์ดัง และประตูลิฟต์เปิดออก สองหนุ่มก็เดินเข้าลิฟต์ไปพร้อมกัน ในลิฟต์มีผู้โดยสารอยู่ก่อนแล้วสามคน ทั้ง
“ล้างให้ผมด้วยสิ” ชิณณ์บอกพลางดึงนิ้วกลางออกมาจากกลางซอกขาขาว เขาจับบ่าบอบบางให้เธอหันหน้ามาหา แล้วจับมือนุ่มมาแตะลำกายแข็งขึงพรีมสะดุ้งชักมือกลับ แต่ก็ถูกเขารั้งข้อมือเอาไว้ หญิงสาวเม้มปากแน่น และก้มมองแค่อกกว้าง เธอสูดลมหายใจลึก ก่อนจะเริ่มลงมือล้างสัดส่วนใหญ่โตในมือตามที่เขาสั่งแก่นกายอวบใหญ่กระตุกในอุ้งมือนุ่มหลายครั้ง เธอได้ยินเสียงครางในลำคอของเขา เธอไม่รู้ว่าเขาพอใจหรือเปล่า แต่เมื่อเขาไม่สั่งให้ทำอย่างอื่น พรีมจึงยังคงสาละวนอยู่กับการลูบล้างสิ่งที่อยู่ในมือต่อไป กระทั่งเธอได้ยินเสียงเขาสูดลมหายใจลึก แล้วเธอก็ถูกดันจนแผ่นหลังแนบไปกับผนังห้องน้ำ พรีมเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างไม่เข้าใจ แต่ยังไม่ทันได้เอ่ยปากพูดใด ๆ เธอก็ถูกเขาปิดกั้นเสียงไว้ด้วยจูบดุดันชิณณ์บดจูบอย่างหื่นกระหาย ผู้หญิงอะไรกลัวจนตัวสั่นแล้วยังทำใจกล้าทั้งลูบทั้งรูดจนเขาแทบแตกคามือ ไม่ได้หรอก...เขาจะไม่ยอมให้เกิดเรื่องน่าอายแบบนั้นขึ้นหรอก เสียชื่อชายชาติหื่นอย่างเขาหมด“พอแล้ว...ไปที่เตียงกันเถอะ ผมอยากกินคุณทั้งตัว”เพียงแผ่นหลังสัมผัสกับที่นอนนุ่มพรีมก็เกร็งไปทั้งตัว
“ห้ามใช้โทรศัพท์ ถ้าผมไม่อนุญาต”“พรีมเป็นลูกหนี้ ไม่ใช่นักโทษค่ะ ถ้ากลัวว่าพรีมจะติดต่อตำรวจ คุณก็แค่มายืนฟังใกล้ ๆ ก็ได้”ชิณณ์กะพริบตาปริบ ๆ เขามองหญิงสาวเปิดลิ้นชักหยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับสายอย่างไม่กลัวเกรงเขาเลย“ค่ะ...คุณลุง”พอได้ยินว่าเธอกำลังพูดคุยกับใครอยู่ ชิณณ์ก็ถอนหายใจโล่งอก เขาเดินเข้าไปคว้าตัวเธอมากอด ชายหนุ่มนั่งลงบนเตียงและบังคับให้เธอนั่งบนตักแกร่ง เขากอดเอวบางไว้ไม่ให้เธอดิ้นหนี“พรีม...เสี่ยจิ๋วบอกว่า ถ้าจะขอเลื่อนเวลาส่งเงินต้นสองล้าน พรีมต้องมาพูดกับเขาเอง”“ลุงก็บอกเขาสิคะว่า พรีมกำลังเร่งหาเงินอยู่”“ลุงบอกแล้ว เขาไม่ยอม เขาจะยึดเอาท่าเดียว พรีมลองมาคุยกับเขาหน่อยไหม”พรีมถอนหายใจ เธอหนักใจกับปัญหาที่รุมเร้า มีแต่ปัญหาเรื่องหนี้สินและยังเป็นหนี้สินที่เธอไม่ได้ก่อทั้งนั้น“เขาให้เวลาถึงวันไหนคะ”“วันมะรืน”“หมายความว่าพรีมต้องไปพบเขาภายในวันมะรืนนี้หรือคะ”“ใช่”พรีมเงียบอยู่ครู่หนึ่ง หญิงสาวหันไปมองเจ้าของตักที่เธอนั่งทับอยู่ แล้วหันกลับไปหลุบตามองพื้น เธอถอนหายใจบางเบา
พรีมยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง หญิงสาวถอนหายใจบางเบา ก่อนจะเดินไปที่เตียง ชิณณ์จัดหมอนพิงกับหัวเตียง เขาขยับตัวนั่งพิงหมอนด้วยท่าทางสบาย ๆ ลำตัวท่อนล่างของเขามีผ้าห่มสีขาวคลุมหมิ่นเหม่อยู่ต่ำกว่าหน้าท้องนิดเดียว พอเธอขึ้นมานั่งอยู่ปลายเตียง เขาก็ก็ตบที่ว่างข้างตัวเป็นเชิงบอกให้เธอรู้ว่า เธอควรมานั่งตรงนี้พรีมมองค้อนคนเรื่องมาก เธอถอนหายใจหงุดหงิด แต่ก็ยอมคลานเข้าไปหาเขา พอเธอเข้าใกล้ในระยะที่วงแขนเขาเอื้อมถึง เธอก็โดนเขาโอบกอดเอาเธอขึ้นไปนั่งคร่อมตักอย่างน่าหวาดเสียวพรีมรีบใช้สองมือยันอกกว้างไว้ เธอกำลังจะเอ่ยปากต่อว่าเขา แต่พอเห็นเขายกโทรศัพท์ขึ้นแนบหู ทั้งยังมองเธอด้วยสายตาดุ พรีมจึงเม้มปากไม่ได้พูดอะไร หญิงสาวรอกระทั่งเขาสั่งอาหารเรียบร้อยและวางสาย เธอจึงเริ่มโวยวาย“ปล่อยพรีมนะคะ”“คุณคิดว่าห้าพันบาทผมควรได้อะไรบ้าง”“คุณบอกแค่ว่า ให้พรีมมานั่งรออาหารบนเตียง” พรีมเถียงเสียงแข็ง“ค้ากำไรเกินควรไปไหม ห้าพันมานั่งอย่างเดียว”“ถ้าอยากให้ทำอย่างอื่นก็ต้องเพิ่มตังค์” พรีมเรียนรู้ว่า หากเธอต่อรอง เขาจะไม่ปฏิเสธ เธออยากหมดหนี้เร็ว ๆ เธอจะยอมเ
“เสี่ยจิ๋วเขาทวงเงินต้นสองล้านบาทแล้วน่ะสิ ที่ดินแปลงนั้นน่ะครบกำหนดฝากขายแล้ว พรีมพอจะหาเงินมาไถ่คืนได้ไหม ถ้าไม่ได้ เสี่ยเขาจะยึด”“แต่พรีมส่งดอกให้ทุกเดือนนะคะ ลุงไปคุยกับเสี่ยจิ๋วขอต่อสัญญาอีกได้ไหม เอ่อ...พรีมยังหาเงินสองล้านไม่ได้เลยค่ะ”“ลุงไปคุยแล้ว แต่เขาไม่ยอม เขายืนยันจะยึดท่าเดียว”พรีมเม้มปากแน่น เธอเหลือบตามองเจ้าของตักที่เธอนั่งอยู่ เขาจ้องมองเธออยู่ก่อนแล้ว พรีมจึงรีบก้มหลบตาคมด้วยความอดสูใจ หนี้แต่ละก้อนที่เธอต้องจ่ายล้วนแต่เป็นหนี้ที่เธอไม่ได้ก่อ ไม่ว่าจะหนี้ของธนาที่เธอต้องชดใช้ให้เขาด้วยร่างกาย และหนี้ของลุงที่เธอต้องหาเงินสองล้านมาจ่ายก่อนที่เสี่ยจิ๋วจะยึด“พรีมจะพยายามหาเงินไปใช้หนี้เขาให้ได้ ลุงบอกให้เขารออีกนิดนะคะ”“พรีม...เสี่ยจิ๋วเขาเอ็นดูพรีมนะ อย่างที่ลุงเคยบอกไปว่า ถ้าพรีมยอมเป็นเมียน้อยเขา เขาจะไม่ยึดที่ แถมพรีมยังจะได้เงินเดือนฟรี ๆ ไม่ต้องทำงานให้เหนื่อยด้วยนะ”“พรีมหาเงินได้แน่นอนค่ะ แค่นี้ก่อนนะคะลุง”เธอไม่รู้จะพูดอะไรกับลุงอีก ทางออกที่ลุงบอกมานั้นทำให้เธอจุกในอก หากเธอยอมทำอย่างที่ลุงบอก ก็เท่ากับ
พอเธอลุกขึ้นนั่ง โดยที่ทั้งตัวมีเพียงแค่เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวของเขาสวมอยู่ เต้านมอวบใหญ่ก็ดีดเด้งล่อตา ต้นขาขาว ๆ ที่เห็นวับ ๆ แวม ๆ นั่นก็ล่อใจเหลือเกิน ชิณณ์ลอบกลืนน้ำลายลงคอ ก่อนจะบอกกับเธอว่า“โอเค ๆ พูดเพราะ ๆ ก็ได้ครับ ผมแค่อยากสะกิดถามคุณพรีมว่า อยากได้โทรศัพท์คืนไหมครับ แบบว่า...บางทีคุณพรีมอาจจะอยากโทรลางาน หรือโทรหาใครสักคนเพื่อบอกเขาว่า คุณปลอดภัยดี”“โทรศัพท์ฉันอยู่กับคุณหรือคะ”“แทนตัวเองว่าพรีมสิ จะได้น่าฟังน่าตามใจหน่อย”“ห้าพัน !”“อะไร !”“ค่าเรียกแทนตัวเองว่าพรีม” พรีมเชิดหน้าอย่างเป็นต่อชิณณ์ยิ้มบาง เขาขยับตัวอยู่ในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน โดยใช้ข้อศอกยันลำตัวช่วงบนขึ้นมา และชันหัวเข่าขึ้นข้างหนึ่ง โชว์ท่อนขาแข็งแกร่งแหวกรอยแยกผ้าขนหนูผืนเดียวที่เขานุ่งอยู่ เขาจงใจยั่วแม่สาวเนื้อหวาน เผื่อบางทีเธออาจจะอยากชิมรสชาติความเป็นชายของเขาอีกสักคำสองคำ“คิดว่าตัวเองอยู่ในสถานะที่ต่อรองได้ ?” ชิณณ์ถามพลางเลิกคิ้วเข้มข้างหนึ่งพรีมหันไปสบตาคม หญิงสาวเม้มปากครู่หนึ่งอย่างครุ่นคิด เธอไม่สนใจและไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาจงใจอ่
“ถ้าคุณตุกติกไม่หักหนี้ตามที่ตกลงกันไว้ ฉันจะตามจองล้างจองผลาญคุณให้ถึงที่สุด” พรีมขู่ด้วยน้ำเสียงและสีหน้าจริงจัง แต่คนถูกขู่กลับอมยิ้ม ตาคมเป็นประกายวิบวับ“ใครจะใจร้ายกับคนสวยได้ลงคอล่ะครับ” ชิณณ์ว่าพลางสะบัดมือตีแก้มก้นอวบแล้วบีบขยำเต็มมือ“เริ่มได้แล้ว...ฉันอยากแตกจะแย่”พรีมกัดฟันแน่น เธอจ้องหน้าเขาด้วยสายตาที่ไม่พอใจเท่าไรนัก กระนั้นเธอก็เริ่มขยับสะโพกเสียดสีกลีบเนื้อนุ่มกับลำกายแกร่ง แต่เพราะเธอไม่เคยมีแฟน ไม่เคยทำแบบนี้กับใครมาก่อน จังหวะที่เธอเป็นฝ่ายควบคุมเองจึงเก้กังติดขัดไปเสียหมด“แบบนี้อีกกี่ชาติถึงจะแตก” ชิณณ์ว่าเสียงลอดไรฟัน เธอเงอะงะอ่อนหัด แต่เร้าใจจนเขาแทบจะอดกลั้นไม่ไหวแล้ว เขาอยากจะสอดใส่แล้วเด้งเสยขึ้นจนมิดลำ อยากกระหน่ำแทงให้เธอหัวสั่นหัวคลอนดีดดิ้นอยู่บนตักอย่างสะใจ ทว่าสิ่งที่ชิณณ์ทำก็แค่เพียงบอกเธอว่า“หนีบมันไว้แน่น ๆ สิ”“นะ...แน่นแล้ว” พรีมเถียงขณะที่ยังขยับสะโพกโยกคลึงไร้ทิศทางชิณณ์สุดแสนจะทรมาน และเขาไม่อยากอดทนอดกลั้นอีกต่อไปแล้ว“ไม่พอหรอก ต้องแบบนี้” ชิณณ์กระชากสะโพกอวบอัดดึงหญิงสาวเข้าหา “เก
ชิณณ์ยิ้มขำ เมื่อเธอเอาแต่ถูซ้ำ ๆ อยู่กลางอก เขาส่ายหน้า ก่อนจะจับข้อมือบางไว้แน่น แล้วดึงเธอขึ้นมานั่งคร่อมบนตักแกร่ง วงแขนแข็งแรงรัดเอวบางไว้แน่นหนา เขากดเธอไว้กับตักไม่ให้ขยับไปไหนได้“คุณชิณณ์ !” พรีมโวยวาย เธอพยายามขืนตัวออกห่างเขา แต่ไม่ว่าจะดิ้นรนอย่างไรก็ไม่อาจพาตัวเองออกจากพันธนาการได้ หญิงสาวจำยอมนั่งนิ่งอยู่บนตักแกร่ง เธอกัดฟันแน่น ขึงตาดุมองเขาอย่างเอาเรื่อง“อาบธรรมดาให้สองพัน แต่ถ้าอาบแบบเนื้อแนบเนื้อ ฉันให้ห้าพัน”“ไม่ !”มันมากเกินไป ไม่ใช่จำนวนเงิน แต่หมายถึงเธอใกล้ชิดเขามากเกินไป ขืนนั่งกันอยู่ท่านี้ แล้วเกิดถ้าเขาอยากทำอะไรที่มากกว่าอาบน้ำ เธอคิดว่า เธอคงไม่อาจขัดขืนได้ เขามันตัวอันตราย เขาไม่น่าไว้ใจเลยสักนิด“แต่ฉันอยากให้” ชิณณ์ยิ้มร้าย เขาเลื่อนมือขึ้นตรึงท้ายทอยเธอไว้อีกครั้ง ก่อนจะปล้นจูบที่สองของเธอไปอย่างหน้าด้าน ๆพรีมเบิกตากว้าง คราวนี้เธอจะไม่ยอมง่าย ๆ หญิงสาวทั้งผลักทั้งทุบเขาสุดแรง ทว่าชิณณ์ก็จัดการกับเธอได้อย่างง่ายดาย เขาออกแรงกอดรัดเธออีกนิดจนสองกายแนบสนิท เต้าทรวงอวบอิ่มบดเบียดกับอกกว้าง สองแขนเรียวแนบไปกั
พรีมสะบัดตัวหลุดจากเขาได้ในตอนที่เขาพยายามจะแกะตะขอเสื้อชั้นในของเธอ หญิงสาวถอยไปยืนชิดผนังห้องน้ำ เธอหอบหายใจแรงด้วยความโมโห แขนเรียวกอดอกปกปิดเรือนกายท่อนบน และจ้องเขาด้วยสาตาดุเอาเรื่องชิณณ์ยิ้มพอใจเมื่อได้เห็นเรือนร่างสาวเต็มตา เธอขาวนวลเนียนไปทั้งตัว ทรงอกอวบใหญ่น่ากัดขย้ำ เอวคอดรับกับสะโพกผายน่าสะบัดมือตีแรง ๆ บั้นท้ายเต่งตึงอวบอัดก็น่าจะรับแรงปะทะได้ดี แค่คิดเขาก็เสียววาบไปทั้งลำ แก่นกายผู้ซื่อสัตย์กับสมองของเขาขยับขยายดันผ้าขนหนูที่นุ่งอยู่โป่งออกมาพรีมเบิกตากว้างกับการเปลี่ยนแปลงของสรีระส่วนนั้นของเขา หญิงสาวหันซ้ายหันขวาหาทางออกให้กับตัวเอง ทว่ายังไม่ทันได้ขยับไปไหน เธอก็ถูกเขากระโจนเข้าใส่และรวบตัวเธอไว้ในอ้อมแขนแข็งแรงได้อีกครั้ง“คุณชิณณ์ ! ปล่อยฉันนะ ฉันไม่ลงอ่างกับคุณ” พรีมดิ้นสุดแรง เธอดิ้นโดยลืมไปว่าทั้งเนื้อทั้งตัวมีเพียงผ้าจิ๋วสองชิ้นปกปิดส่วนสำคัญไว้เท่านั้น“ฉันให้หนึ่งหมื่นบาท” ข้อเสนอของชิณณ์ทำให้คนในอ้อมแขนหยุดดิ้นพรีมเงยหน้ามองเจ้าของเรือนกายสูงกำยำที่เธอแนบชิดอยู่ “จริงนะ”ชิณณ์ยิ้มบาง เขาฉวยโอกาสตอนเธอเผลอ แอบเน
“ขอบคุณนะคะ ฉันสัญญาว่าจะหาเงินมาใช้หนี้ให้คุณจนหมดแน่นอน ฉันจะไม่หนีไปไหน ฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ” พรีมว่าพลางขยับลงจากเตียงอีกฝั่ง หญิงสาวรีบเดินตรงไปที่ประตูด้วยความดีใจ เธอดึงประตูเปิดออก แต่พอมันเปิดแง้มได้แค่เพียงนิด มันก็ถูกฝ่ามือแข็งแรงดันปิดไว้ตามเดิม และคนที่ดันประตูปิดก็ยืนซ้อนอยู่ข้างหลังเธอ พรีมยืนนิ่งตัวแข็งทื่อ เพราะเขายืนอยู่ใกล้เธอเกินไป ใกล้จนเธอรู้สึกได้ถึงไออุ่นจากเรือนกายของเขาชิณณ์ยิ้มเจ้าเล่ห์ เขาวางสองมือทาบกับบานประตู กักกันเธอไว้ให้ยืนนิ่งอยู่กับที่ เขาก้มหน้าลงจนจมูกโด่งเกือบชนแก้มนวล “ฉันหมายถึงกลับคอนโดกับฉันต่างหาก”“เข้าไปสิ” ชิณณ์รั้งต้นแขนของผู้หญิงที่เขาหิ้วกลับคอนโดเข้าไปในห้องด้วยกัน คนถูกจับเงยมองเขาอย่างเอาเรื่อง“ฉันเดินเองได้ไม่ต้องมาจับ” พรีมสะบัดแขนออกจากมือแข็งแรง เธอขยับหนีไปยืนห่างเขาถึงสามก้าวชิณณ์มองท่าทางสาวขัดดอกของตัวเองแล้วยิ้มขำ เขาปิดล็อกห้อง เปลี่ยนรองเท้า แล้วจงใจเดินเบียดเธอจนเซ ก่อนจะเดินผ่านเข้าไปด้านใน ชิณณ์เดินตรงไปยังห้องนอนใหญ่ของตัวเอง ปล่อยให้คนที่เพิ่งมาคอนโดผู้ชายครั้งแรกยืน