พี่ธนาเป็นคนดี เขาเป็นสุภาพบุรุษและให้เกียรติเธอเสมอมา เธอควรระวังตัวและถนอมตัวไว้เพื่อเขา แต่กลับกลายเป็นว่า เธอเสียตัวให้เพื่อนของเขาบนเตียงของเขา เธอเลวยิ่งกว่าเลว สองวันที่อยู่คนเดียวและคิดไตร่ตรองเรื่องเลวร้ายที่เกิดขึ้น ทางออกหนึ่งที่เธอคิดไว้คือ เธอจะบอกเลิกและถอยห่างมาจากเขา เธออยากให้เขาได้พบคนที่ดีกว่า คนที่คู่ควรและเหมาะสมกับคนดีอย่างเขา ที่ไม่ใช่ผู้หญิงสกปรกอย่างเธอ
"ซื้ออะไรมาเยอะแยะคะ แต้มกินไม่หมดแน่ ๆ"
แต้มรักขมวดคิ้วเรียว และกวาดสายตามองบนโต๊ะรับประทานอาหาร เขาเตรียมอาหารไว้รอเธอหลายอย่างเลย
"เยอะแยะที่ไหนกันครับ นิดเดียวเอง แต้มต้องกินเยอะ ๆ นะครับจะได้มีแรงทำงาน มีน้ำส้มคั้นสดด้วย พี่ไปยืนต่อคิวตั้งนานกว่าจะได้มา ร้านนี้คนต่อคิวเยอะมาก พี่อยากให้แต้มดื่ม จะได้สดชื่น"
ธนาว่าพลางจัดช้อนส้อมใส่จาน แล้ววางจานลงตรงหน้าหญิงสาว เขาเลื่อนแก้วน้ำส้มไปใกล้ ๆ เธอด้วย
"ขอบคุณค่ะ" ยิ่งเขาแสนดี ยิ่งเขาดูแลเธอแบบนี้ แต้มรักก็ยิ่งรู้สึกผิด แต่เธอไม่อยากทำให้เขาไม่สบายใจ หญิงสาวจึงฝืนยิ้มสดใสให้เขา และชักชวนเขารับประทานอาหารด้วยกัน
ภายในห้องแคนทีนมีโต๊ะรับประทานอาหารอยู่สี่โต๊ะ วันนี้นอกจากโต๊ะของธนากับแต้มรักแล้ว ยังมีพนักงานอีกสามคนนั่งรับประทานอาหารที่โต๊ะถัดไป แต่พวกเขาทั้งสามคนรับประทานอาหารเสร็จและเดินออกจากห้องแคนทีนไปแล้ว ตอนนี้จึงมีเพียงธนากับแต้มรักอยู่ด้วยกันสองคน
"แต้มเก็บเองค่ะ พี่ธนาเป็นเจ้ามือเลี้ยงข้าวแล้ว นั่งเฉย ๆ เลยค่ะ" แต้มรักบอกพลางลุกขึ้นยืน หญิงสาวเก็บจานชามไปวางไว้ที่ซิงค์เพื่อรอให้แม่บ้านมาจัดการต่อ พอเก็บจานชามออกจากโต๊ะหมดแล้วเธอจึงเดินกลับมาถามเจ้ามือใจดีเลี้ยงข้าวเธอว่า
"พี่ธนาดื่มกาแฟไหมคะ แต้มจะชงให้ค่ะ"
ธนานั่งมองเธอเดินไปมาระหว่างโต๊ะกับซิงค์อย่างเพลินตา พอเธอเก็บจานเสร็จแล้วเดินกลับมาถามว่าจะดื่มกาแฟหรือเปล่าเขาก็ตอบรับยิ้มกว้างตาเป็นประกาย "ครับ"
แต้มรักเดินกลับไปที่เคาน์เตอร์อีกครั้ง เธอหยิบถ้วยกาแฟมาวางลงบนเคาน์เตอร์ เปิดกระปุกกาแฟ น้ำตาล และครีมเทียม ก่อนตักส่วนผสมลงในถ้วย ตามปริมาณที่เขาชื่นชอบ
พอเก็บกระปุกกาแฟ ครีมเทียม และน้ำตาลเรียบร้อย แต้มรักก็ยกถ้วยกาแฟขึ้นแล้วกดน้ำจากกระติกน้ำร้อนใส่ หญิงสาวหยิบช้อนมาคนกาแฟในถ้วย
"อุ๊ย !" ขณะที่เธอกำลังคนกาแฟอยู่ คนที่นั่งรอให้เธอเอากาแฟไปเสิร์ฟก็ลุกขึ้นมายืนซ้อนหลัง เขาชะโงกหน้าข้ามบ่าของเธอมาสูดดมกลิ่นกาแฟ
"กาแฟหอมจัง"
แต้มรักผงะเอนตัวหนีไปด้านข้าง เธอเบี่ยงหน้ามามองสบสายตาเขาด้วยความตกใจ ธนายิ้มใส่นัยน์ตาคู่สวย วงแขนแข็งแรงข้างหนึ่งกอดเอวเธอไว้หลวม ๆ เขายื่นหน้าเข้าใกล้ใบหน้าเธอ
"แต่พี่ว่า แต้มหอมกว่า"
ธนาว่าพลางโน้มใบหน้าเข้าใกล้อีกนิด จนจมูกโด่งเกือบประทับลงบนแก้มนวล ทว่าแต้มรักกลับยกมือขึ้นมาดันบ่าเขาไว้แล้วเบี่ยงหน้าหลบเสียก่อน
"พี่ธนา...นี่ห้องแคนทีนนะคะ เดี๋ยวมีใครมาเห็น" ไม่ใช่เลย...นี่ไม่ใช่เหตุผลที่เธอไม่อยากให้เขาหอมแก้ม เพราะเหตุผลจริง ๆ แล้วคือ เธอไม่อยากให้เขาแตะต้องร่างกายที่สกปรก ร่างกายที่ถูกคนอื่นสัมผัสลูบไล้ทิ้งรอยราคีไว้ทั้งตัว
"ไม่มีใครสักคนเลยแต้ม พี่ขอชื่นใจหน่อยนะครับ แต้มอย่าใจร้ายกับพี่นักเลย" ธนาอ้อนเสียงน่าสงสาร คนถูกเขาอ้อน ยิ่งรู้สึกผิดไปกันใหญ่ แต้มรักหันมามองสบตาเขา
"ขอหอมนิดหนึ่งนะครับเด็กดี" คำว่าเด็กดีที่เขาใช้เรียกเธอทำให้แต้มรักสะอึก เธอไม่ใช่เด็กดีของเขาอีกต่อไปแล้ว เธอเป็นผู้หญิงสารเลวที่เสียตัวให้เพื่อนของเขา แล้วยังมีหน้ามายืนให้เขากอดอีก ทั้งที่ควรจะพาตัวที่แสนสกปรกไปให้ห่างเขา แต่เธอก็ยังทำใจไม่ได้ เขาแสนดีจนเธอไม่กล้าทำให้เขาเสียใจ
"นะครับ...ขอพี่ชื่นใจหน่อย ของขวัญวันเกิดก็ยังไม่ได้ แต้มยังจะมาหวงแก้มไม่ให้พี่หอมอีกเหรอ"
คำตัดพ้อของเขาทำให้แต้มรักสะท้านในอก ความรู้สึกผิดที่มีต่อเขา และสายตาอ้อนวอนน่าสงสารของเขา ทำให้เธอพยักหน้า ยอมให้เขาหอมแก้ม
"เด็กดีของพี่" ธนารั้งเอวคอดเข้ามาแนบชิดอีกนิด เขาโน้มใบหน้าลงจนเกือบจะได้หอมแก้มสาวแล้ว ทว่าบานประตูห้องแคนทีนที่เปิดออกพร้อมกับเสียงเรียกดังลั่นทำให้ชายหนุ่มผละออกมาจากแฟนสาว
"ไทเกอร์ ! อ้าว...โทษที จู๋จี๋กันอยู่เหรอ" คนไร้มารยาทที่เพิ่งตะโกนเรียกเสียงดังพูดหน้าตาย เขาสาดสายตาคมมองคนที่ยืนพิงเคาน์เตอร์ชงกาแฟแวบหนึ่ง ก่อนจะหันไปมองสบตาเพื่อนแล้วยักคิ้วหลิ่วตาให้อย่างล้อเลียน
"ฮันเตอร์ ! มึงเข้ามาทำเหี้ยอะไร"
"กูควรเป็นคนถามมึงมากกว่า มึงมาทำเหี้ยอะไรในห้องแคนทีนของฝ่ายกู นี่มันฝ่ายบริหารการลงทุน ไม่ใช่ฝ่ายการตลาดของมึงนะครับ...คุณธนา" พุฒกอดอก เขาพิงสะโพกกับขอบโต๊ะที่อยู่ใกล้ พยักหน้า เลิกคิ้วสูงท่าทางกวน ๆ
“กูมากินข้าวกับแฟน” ธนาพูดพร้อมกับคว้าเอวแต้มรักดึงเธอมากอดแนบตัว
พุฒเหลือบตามองมือของเพื่อนที่แตะอยู่เหนือสะโพกมนแวบหนึ่ง ก่อนจะเลื่อนสายตาขึ้นมองหน้าเพื่อน เขายักไหล่ ทำหน้าคล้ายเหม็นเบื่อ“แฟนมึง แต่ลูกน้องกู และตอนนี้กูก็มีงานให้ลูกน้องทำด้วย”“แต่นี่เวลาพัก” ธนาแย้ง เขาไม่ยอมปล่อยแขนออกจากหญิงสาว“แล้วไง ก็กูมีงานด่วนให้ทำ”“มึง…” ธนาชี้หน้าเพื่อน แต่ก็เถียงไม่ออก เพราะแต้มรักเป็นลูกน้องมันพุฒไม่สนใจท่าทีเดือดเนื้อร้อนใจของธนา เขาหันไปสั่งลูกน้องเขาว่า“แต้ม...ไปพบผมที่ห้องด้วย ผมมีงานให้คุณทำ”“ค่ะ...บอส” แต้มรักรับคำแล้วก้มหน้าหลบตาคมปลาบ“ไอ้บอสโหด เวลาพักก็ไม่ให้พัก” ธนายังไม่วายชี้หน้าต่อว่าเพื่อนพุฒไม่ตอบโต้ เขายักคิ้วกวนโมโหเพื่อน แล้วเดินออกจากห้องแคนทีนไป แต่ก่อนจะประตูจะปิดลง ก็ยังไม่วายได้ยินเสียงธนาตะโกนว่าไล่หลังมา“ไอ้ฮันเตอร์ ไอ้บอสเลว”คนถูกเพื่อนว่ายิ้มมุมปาก ตาคมเป็นประกายวาววับ เขาไม่สนใจคำที่เพื่อนต่อว่า ที่เขาสนใจอยู่ตอนนี้คือผู้หญิงคนนั้น เธอเป็นของเขาแล้ว แต่ยังมีหน้าไปยืนให้เพื่อนเขากอดอยู่ได้ บางทีเขาอาจจะต้องสั่งสอนให้เธอหลาบจำว่า คนที่มีส
“อย่าบอกพี่ธนานะคะ” แค่เขาขู่ เธอก็ใจสั่น เธอไม่อยากให้พี่ธนาเสียใจ ไม่อยากให้เขารู้ว่าเธอกับเพื่อนของเขาสวมเขาให้ เธอเองไม่คิดจะดึงรั้งพี่ธนาไว้ เพียงแต่เธออยากขอเวลาทำใจก่อน ทำใจก่อนจะเดินออกมาจากชีวิตคนดี ๆ อย่างเขาพุฒก้มลงหมายจะหอมแก้มนวล แต่แต้มรักสะบัดหน้าหนี เขาจึงก้มลงอีกนิดแล้วจูบลำคอเธอเบา ๆ“อ๊ะ !” แค่ปากอุ่นร้อนประทับบนผิวเนื้อ ขนกายสาวก็ลุกชัน แต้มรักกัดฟันแน่น เธอรอกระทั่งเขาเงยหน้าขึ้นมาจากซอกคอ เธอจึงสบตาเขา“แต้มไม่ให้พี่ธนาแตะต้องแน่นอนค่ะ ไม่ใช่เพราะบอสสั่ง แต่เพราะว่าพี่ธนาเป็นคนดี เขาดีเกินกว่าที่แต้มจะให้เขามาแปดเปื้อนคนสกปรกอย่างแต้ม”พุฒยิ้มมุมปาก เขากอดรัดหญิงสาวแน่นขึ้น“ถ้าอย่างนั้น ก็เลิกกับมันสิ แล้วมาเป็นแฟนผม”“แต้มจะบอกเลิกพี่ธนาแน่นอน แต่แต้มจะไม่มีวันทำให้พี่ธนาเสียใจ ด้วยการเลิกกับคนดีแล้วมาคบกับเพื่อนเลวที่หักหลังเขาหรอกค่ะ”“หักหลังอะไรกัน...ผมก็แค่ช่วยเพื่อนสร้างความสุขให้แฟนเท่านั้นเอง คืนนั้นแต้มก็มีความสุขสุดยอดไปตั้งหลายครั้งไม่ใช่เหรอ”“คนเลว…”“เคยบอกแล้วว่า ผมไม่ใช่คนดี”
แต้มรักเม้มปากแน่น เธอมองสบตาเขาครู่เดียว ก่อนจะมองเมินออกไปข้างหน้าต่าง ไม่อยากเห็นหน้า ไม่อยากพูดจาด้วย ไม่อยากได้ยินเสียงคนเลว“อุ๊ย ! คุณพุฒ” แต้มรักตกใจเมื่อเขาโน้มตัวมาใกล้ หญิงสาวรีบดันบ่ากว้างผลักเขาออกไป แต่คนตัวใหญ่และแรงเยอะกว่าไม่สะเทือนสักนิด“ผมจะคาดเบลล์ให้” พุฒว่าพลางดึงเข็มขัดนิรภัยมากดล็อกให้เธอ ก่อนจะขยับกลับไปนั่งตามเดิม แล้วดึงเข็มขัดนิรภัยมาคาดให้ตัวเอง เขายกมือข้างขวาขึ้นจับพวงมาลัย มือซ้ายดันเกียร์เปลี่ยนไปอยู่ตำแหน่งขับเคลื่อนไปข้างหน้า ก่อนจะเอามือออกจากเกียร์มาคว้าเอามือข้างขวาของแต้มรักไปกุมไว้ แล้วดึงไปวางลงบนต้นขาแกร่ง“คุณพุฒ !” แต้มรักจิกเจ็บลงบนหลังมือของเขา แต่คนที่สอดนิ้วเรียวสวยแบบผู้ชายแทรกอยู่ระหว่างนิ้วเรียวเล็กของเธอไม่สะทกสะท้าน เขากระชับมือเธอแน่นขึ้น ตาคมมองไปข้างหน้า ขณะที่บังคับรถเคลื่อนไปบนถนนเมื่อสัญญาณไฟเปลี่ยนเป็นสีเขียว“จะหยิกอีกนานไหม ผมจะได้ทดเวลาลงโทษคุณไว้ในใจ บอกไว้ก่อนนะว่าบทลงโทษของผมไม่เหมือนใคร ระวังจะได้ร้องขอชีวิต”น้ำเสียงของเขาราบเรียบก็จริง ทว่าดวงตาเป็นประกายวาววับ เขายิ้มร้ายกาจข่มข
“รางวัลสำหรับแม่ครัวครับ” พอให้รางวัลเธอแล้ว เขาก็ถอยไปนั่งรอที่เก้าอี้แต้มรักถอนหายใจอย่างหงุดหงิด รางวัลบ้าบออะไร นี่มันเป็นการเอาเปรียบเธอชัด ๆ คนนิสัยไม่ดีระหว่างรับประทานอาหาร แต้มรักเอาแต่ก้มหน้าก้มตากิน เธอแทบไม่มองหน้าคนที่นั่งร่วมโต๊ะอยู่ฝั่งตรงกันข้ามด้วยซ้ำ และดูเหมือนว่าเขาเองก็ไม่อยากกวนเธอ พุฒปล่อยให้หญิงสาวรับประทานอาหารโดยไม่กวนใจเธอ กระทั่งแต้มรักรวบช้อนส้อมและยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม เขาจึงบอกเธอว่า“ไปอาบน้ำ แล้วนอนรอผมบนเตียง”คำสั่งของเขาทำให้แต้มรักเกือบทำแก้วน้ำหลุดมือ หญิงสาวมองสบตาเขาด้วยสายตาตื่นตระหนก“ตะ...แต้มจะรอเก็บโต๊ะล้างจานค่ะ” แม้รู้ว่าไม่อาจหลีกเลี่ยงสิ่งที่เขาจะทำกับเธอได้ แต่แต้มรักก็อยากจะยื้อเวลาต่อไปอีกสักหน่อย“เดี๋ยวผมจัดการเอง คุณไปอาบน้ำแล้วนอนรอผมบนเตียง”เสียงเข้มกับสายตาดุของเขาทำให้แต้มรักไม่กล้าเถียง หญิงสาวลุกขึ้นแล้วก้มหน้าเดินผ่านประตูครัวตรงไปยังห้องนอนเพียงแค่เปิดประตูเข้าไปแล้วเห็นเตียงกว้าง หัวใจดวงน้อยก็หวั่นไหว ยิ่งภายในห้องนอนของเขาตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์โทนสีเทาเข้ม ก็ยิ่ง
“แต้ม !” เสียงเรียกอย่างเกรี้ยวกราดที่ดังออกมาจากห้องนอนทำให้แต้มรักสะดุ้ง หญิงสาวรีบหอบกระเป๋าและถือโทรศัพท์เดินเร็วออกจากห้องครัวแต่แต้มรักเดินไปยังไม่ทันถึงห้องนอน คนที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จก็เดินออกมาดักเธออยู่หน้าห้องก่อน เขานุ่งผ้าขนหนูผืนเดียว พราวหยดน้ำเกาะอยู่เต็มเรือนกายแกร่ง ผมเปียกน้ำและถูกเสยไปข้างหลัง เปิดเผยใบหน้าคมเข้มแสนดุ ตาคมกริบที่จ้องมองเธออย่างไม่พอใจทำให้แต้มรักหวาดหวั่น“ไปไหนมา”“แต้มไปเอากระเป๋ากับโทรศัพท์ในห้องครัวค่ะ”พุฒหลุบตามองของในมือหญิงสาว เขาระบายลมหายใจออกบางเบา...เธอไม่ได้หนีเขาไปไหน“ได้ของแล้วก็กลับเข้าห้อง” พุฒดึงต้นแขนหญิงสาวลากกลับเข้าห้อง แต่ยังไม่ทันเปิดประตู เสียงโทรศัพท์ของแต้มรักก็ดังขึ้น“แต้มขอรับโทรศัพท์ก่อนนะคะ”“อืม..” พุฒปล่อยมือจากต้นแขนของหญิงสาว เขากอดอกยืนมองเธอรับโทรศัพท์แต้มรักรู้สึกใจชื้นขึ้นมานิดหน่อย เพราะได้ประวิงเวลาการเข้าไปอยู่ในห้องนอนกับเขา แต่พอหลุบตามองหน้าจอโทรศัพท์แล้วเห็นว่าใครโทรมา เธอก็หน้าเสีย“แต้มขอไปคุยโทรศัพท์ในครัวนะคะ”พุฒมองหน้าหญิงสาว
ยิ่งทอดเวลาพูดคุยกับธนานานเท่าไร แต้มรักก็ยิ่งแย่ เพราะคนเอาแต่ใจจ้วงลิ้นสอดแทงร่องเนื้อของเธอถี่ยิบ สลับกับดูดดึงเสียงดังหยาบโลน ความเสียดเสียวพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ แต้มรักสูดลมหายใจลึก รีบบอกปลายสายด้วยน้ำเสียงสั่นและแหบพร่า“แต้มไม่เป็นอะไรค่ะ แค่นี้ก่อนนะคะพี่ธนา แต้มจะนอนแล้ว พรุ่งนี้ค่อยคุยกันนะคะ”แต้มรักก็รีบตัดสาย หญิงสาวเอนตัวแนบหลังพิงบานประตู แหงนเงยหน้า หลับตาแน่น เธอจิกกำเส้นผมของคนที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าเต็มมือ พอเขาสะบัดลิ้นรัวบนติ่งเนื้อนุ่มถี่ยิบ เธอก็สะท้านเฮือก ปากอิ่มเผยอหวีดร้อง พร้อมกับน้ำหวานแตกซ่าน เธอถูกส่งไปยังปลายทางสุขสมด้วยปากและลิ้นของชู้รักเมื่อดูดกลืนน้ำหวานจากซอกสาวจนแห้งเหือดหมดจด พุฒก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เขาบีบแก้มนวลด้วยมือข้างเดียว บังคับให้เธอเงยหน้ามองสบตา“ห้ามไปกับมันเด็ดขาด” เขาสั่งแล้วบดปากจูบปากนุ่มอย่างดุดัน ขณะเดียวกันก็โอบอุ้มเธอขึ้นมากระเตงไว้ข้างหน้า นาบเรือนกายแกร่งทับหญิงสาวไว้กับบานประตู เขาสะบัดผ้าขนหนูออกจากเอวสอบอย่างไม่ไยดีแต้มรักโอบสองแขนคล้องลำคอแกร่ง สองขาแยกกว้างเกี่ยวเอวสอบไว้ เธอรองรับจ
แต้มรักรู้สึกเหมือนร่างกายไร้กระดูก เธออ่อนเปลี้ยไปหมด พอเขาอุ้มเธอเข้ามาในห้องนอน แล้ววางลงบนเตียง เธออยากหลับ อยากหมดสติไปเลย ไม่อยากรับรู้ว่าเมื่อครู่ตัวเองทำตัวร่านแค่ไหน เธอร่านกับผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่แฟน แต่ในความเป็นจริงแล้ว เธอยังมีสติครบถ้วน ยังเห็นสายตาล้อเลียนของชู้ที่เธอขย่มเขาที่หน้าประตูไปเมื่อครู่“เราเข้ากันได้ดี คุณว่าไหม” นอกจากสายตาล้อเลียนแล้ว คำพูดของเขาก็ทำให้แต้มรักโกรธตัวเองด้วย แต้มรักเม้มปากแน่น เธอไม่ยอมพูดกับเขา หญิงสาวพลิกตัวนอนตะแคงหันหลังให้เขา“เมื่อกี้คุณเซ็กซี่มาก ร่านถูกใจผมจริง ๆ” คนกวนประสาทตามไปกระซิบถ้อยคำบาดหู เขาหอมแก้มสาวเบา ๆ แล้วเลื่อนใบหน้ามาจูบหัวไหล่นวลเนียน ก่อนจะขยับตัวเข้าไปนอนซ้อนหลังแนบชิด ดึงหญิงสาวเข้ามากอดแนบอก“แต้มจะบอกเลิกกับพี่ธนา ถ้าแต้มเลิกกับพี่ธนาแล้ว คุณพุฒไม่มีสิทธิ์บังคับแต้มมาทำเรื่องผิดบาปแบบนี้อีก” เพราะเธอยังอยู่ในสถานะแฟนของธนา เขาจึงหยิบยกเรื่องที่เธอมีชู้มาขู่ได้ ถ้าเธอเลิกกับแฟน เขาก็จะไม่มีข้ออ้างบังคับให้เธอมาทำเรื่องแบบนี้ได้อีก“จะเลิกกับธนาก็เลิกไป แต่ถ้าเลิกเป็นชู้กับผมเมื่อไร
พุฒดูดปากอิ่มจนเกิดเสียงดัง ก่อนจะถอนจูบออกมา เขาผงกศีรษะขึ้นมองใบหน้าสาวแดงก่ำอย่างพอใจ“บอกรักผม แค่คุณบอกรัก ผมจะจัดให้อย่างถึงใจ”แต้มรักมองเขาด้วยสายตาวาววับ เธอกัดริมฝีปากล่างไว้แน่น เธอไม่มีวันเอ่ยคำรักกับชู้ เขาไม่มีสิทธิ์ได้ยินคำบอกรักจากปากเธอ“บอกรักผัวหน่อยทูนหัว…” พุฒยิ้มร้ายกาจ ตาคมจับจ้องดวงหน้าชื้นเหงื่ออย่างพอใจ แต่เมื่อเธอยังคงปากแข็ง เขาจึงก้มดูดเต้านมอวบอิ่ม ดูดดุนเม็ดทับทิมบนยอดทรวง สะบัดลิ้นพลิกพลิ้วอย่างช่ำชอง ขณะเดียวกันเขาก็ขยับบั้นเอวถอดถอนแก่นกายออกเกือบสุด แล้วสอดใส่เข้าไปใหม่ช้า ๆ เขาทำซ้ำ ๆ และคงจังหวะเชื่องช้าไว้ ความแข็งกร้าวร้อนผะผ่าวเสียดสีผนังเนื้ออ่อนนุ่มซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาเข้าสุดออกสุดในจังหวะเนิบนาบ บางคราเขาก็กดตัวตนแช่ลึกแล้วส่ายวนบดขยี้จนแต้มรักหลุดเสียงครางออกมาจนได้พุฒยิ้มแนบทรวงอกสาว เขาจัดการเธออย่างใจเย็น แก่นกายยังขยับเข้าออกแอ่งอุ่นในจังหวะเนิบนาบ แต้มรักแทบคลั่งกับบทรักที่เขาจงใจกลั่นแกล้ง เธออยากกระสันอย่างแรงกล้า โหยหาการเติมเต็ม อยากตะกายไปถึงจุดปลดปล่อย อยากหลุดพ้นจากความทรมานแสนเสียว“บอกรักผมสิ
“ล้างให้ผมด้วยสิ” ชิณณ์บอกพลางดึงนิ้วกลางออกมาจากกลางซอกขาขาว เขาจับบ่าบอบบางให้เธอหันหน้ามาหา แล้วจับมือนุ่มมาแตะลำกายแข็งขึงพรีมสะดุ้งชักมือกลับ แต่ก็ถูกเขารั้งข้อมือเอาไว้ หญิงสาวเม้มปากแน่น และก้มมองแค่อกกว้าง เธอสูดลมหายใจลึก ก่อนจะเริ่มลงมือล้างสัดส่วนใหญ่โตในมือตามที่เขาสั่งแก่นกายอวบใหญ่กระตุกในอุ้งมือนุ่มหลายครั้ง เธอได้ยินเสียงครางในลำคอของเขา เธอไม่รู้ว่าเขาพอใจหรือเปล่า แต่เมื่อเขาไม่สั่งให้ทำอย่างอื่น พรีมจึงยังคงสาละวนอยู่กับการลูบล้างสิ่งที่อยู่ในมือต่อไป กระทั่งเธอได้ยินเสียงเขาสูดลมหายใจลึก แล้วเธอก็ถูกดันจนแผ่นหลังแนบไปกับผนังห้องน้ำ พรีมเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างไม่เข้าใจ แต่ยังไม่ทันได้เอ่ยปากพูดใด ๆ เธอก็ถูกเขาปิดกั้นเสียงไว้ด้วยจูบดุดันชิณณ์บดจูบอย่างหื่นกระหาย ผู้หญิงอะไรกลัวจนตัวสั่นแล้วยังทำใจกล้าทั้งลูบทั้งรูดจนเขาแทบแตกคามือ ไม่ได้หรอก...เขาจะไม่ยอมให้เกิดเรื่องน่าอายแบบนั้นขึ้นหรอก เสียชื่อชายชาติหื่นอย่างเขาหมด“พอแล้ว...ไปที่เตียงกันเถอะ ผมอยากกินคุณทั้งตัว”เพียงแผ่นหลังสัมผัสกับที่นอนนุ่มพรีมก็เกร็งไปทั้งตัว
“ห้ามใช้โทรศัพท์ ถ้าผมไม่อนุญาต”“พรีมเป็นลูกหนี้ ไม่ใช่นักโทษค่ะ ถ้ากลัวว่าพรีมจะติดต่อตำรวจ คุณก็แค่มายืนฟังใกล้ ๆ ก็ได้”ชิณณ์กะพริบตาปริบ ๆ เขามองหญิงสาวเปิดลิ้นชักหยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับสายอย่างไม่กลัวเกรงเขาเลย“ค่ะ...คุณลุง”พอได้ยินว่าเธอกำลังพูดคุยกับใครอยู่ ชิณณ์ก็ถอนหายใจโล่งอก เขาเดินเข้าไปคว้าตัวเธอมากอด ชายหนุ่มนั่งลงบนเตียงและบังคับให้เธอนั่งบนตักแกร่ง เขากอดเอวบางไว้ไม่ให้เธอดิ้นหนี“พรีม...เสี่ยจิ๋วบอกว่า ถ้าจะขอเลื่อนเวลาส่งเงินต้นสองล้าน พรีมต้องมาพูดกับเขาเอง”“ลุงก็บอกเขาสิคะว่า พรีมกำลังเร่งหาเงินอยู่”“ลุงบอกแล้ว เขาไม่ยอม เขาจะยึดเอาท่าเดียว พรีมลองมาคุยกับเขาหน่อยไหม”พรีมถอนหายใจ เธอหนักใจกับปัญหาที่รุมเร้า มีแต่ปัญหาเรื่องหนี้สินและยังเป็นหนี้สินที่เธอไม่ได้ก่อทั้งนั้น“เขาให้เวลาถึงวันไหนคะ”“วันมะรืน”“หมายความว่าพรีมต้องไปพบเขาภายในวันมะรืนนี้หรือคะ”“ใช่”พรีมเงียบอยู่ครู่หนึ่ง หญิงสาวหันไปมองเจ้าของตักที่เธอนั่งทับอยู่ แล้วหันกลับไปหลุบตามองพื้น เธอถอนหายใจบางเบา
พรีมยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง หญิงสาวถอนหายใจบางเบา ก่อนจะเดินไปที่เตียง ชิณณ์จัดหมอนพิงกับหัวเตียง เขาขยับตัวนั่งพิงหมอนด้วยท่าทางสบาย ๆ ลำตัวท่อนล่างของเขามีผ้าห่มสีขาวคลุมหมิ่นเหม่อยู่ต่ำกว่าหน้าท้องนิดเดียว พอเธอขึ้นมานั่งอยู่ปลายเตียง เขาก็ก็ตบที่ว่างข้างตัวเป็นเชิงบอกให้เธอรู้ว่า เธอควรมานั่งตรงนี้พรีมมองค้อนคนเรื่องมาก เธอถอนหายใจหงุดหงิด แต่ก็ยอมคลานเข้าไปหาเขา พอเธอเข้าใกล้ในระยะที่วงแขนเขาเอื้อมถึง เธอก็โดนเขาโอบกอดเอาเธอขึ้นไปนั่งคร่อมตักอย่างน่าหวาดเสียวพรีมรีบใช้สองมือยันอกกว้างไว้ เธอกำลังจะเอ่ยปากต่อว่าเขา แต่พอเห็นเขายกโทรศัพท์ขึ้นแนบหู ทั้งยังมองเธอด้วยสายตาดุ พรีมจึงเม้มปากไม่ได้พูดอะไร หญิงสาวรอกระทั่งเขาสั่งอาหารเรียบร้อยและวางสาย เธอจึงเริ่มโวยวาย“ปล่อยพรีมนะคะ”“คุณคิดว่าห้าพันบาทผมควรได้อะไรบ้าง”“คุณบอกแค่ว่า ให้พรีมมานั่งรออาหารบนเตียง” พรีมเถียงเสียงแข็ง“ค้ากำไรเกินควรไปไหม ห้าพันมานั่งอย่างเดียว”“ถ้าอยากให้ทำอย่างอื่นก็ต้องเพิ่มตังค์” พรีมเรียนรู้ว่า หากเธอต่อรอง เขาจะไม่ปฏิเสธ เธออยากหมดหนี้เร็ว ๆ เธอจะยอมเ
“เสี่ยจิ๋วเขาทวงเงินต้นสองล้านบาทแล้วน่ะสิ ที่ดินแปลงนั้นน่ะครบกำหนดฝากขายแล้ว พรีมพอจะหาเงินมาไถ่คืนได้ไหม ถ้าไม่ได้ เสี่ยเขาจะยึด”“แต่พรีมส่งดอกให้ทุกเดือนนะคะ ลุงไปคุยกับเสี่ยจิ๋วขอต่อสัญญาอีกได้ไหม เอ่อ...พรีมยังหาเงินสองล้านไม่ได้เลยค่ะ”“ลุงไปคุยแล้ว แต่เขาไม่ยอม เขายืนยันจะยึดท่าเดียว”พรีมเม้มปากแน่น เธอเหลือบตามองเจ้าของตักที่เธอนั่งอยู่ เขาจ้องมองเธออยู่ก่อนแล้ว พรีมจึงรีบก้มหลบตาคมด้วยความอดสูใจ หนี้แต่ละก้อนที่เธอต้องจ่ายล้วนแต่เป็นหนี้ที่เธอไม่ได้ก่อ ไม่ว่าจะหนี้ของธนาที่เธอต้องชดใช้ให้เขาด้วยร่างกาย และหนี้ของลุงที่เธอต้องหาเงินสองล้านมาจ่ายก่อนที่เสี่ยจิ๋วจะยึด“พรีมจะพยายามหาเงินไปใช้หนี้เขาให้ได้ ลุงบอกให้เขารออีกนิดนะคะ”“พรีม...เสี่ยจิ๋วเขาเอ็นดูพรีมนะ อย่างที่ลุงเคยบอกไปว่า ถ้าพรีมยอมเป็นเมียน้อยเขา เขาจะไม่ยึดที่ แถมพรีมยังจะได้เงินเดือนฟรี ๆ ไม่ต้องทำงานให้เหนื่อยด้วยนะ”“พรีมหาเงินได้แน่นอนค่ะ แค่นี้ก่อนนะคะลุง”เธอไม่รู้จะพูดอะไรกับลุงอีก ทางออกที่ลุงบอกมานั้นทำให้เธอจุกในอก หากเธอยอมทำอย่างที่ลุงบอก ก็เท่ากับ
พอเธอลุกขึ้นนั่ง โดยที่ทั้งตัวมีเพียงแค่เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวของเขาสวมอยู่ เต้านมอวบใหญ่ก็ดีดเด้งล่อตา ต้นขาขาว ๆ ที่เห็นวับ ๆ แวม ๆ นั่นก็ล่อใจเหลือเกิน ชิณณ์ลอบกลืนน้ำลายลงคอ ก่อนจะบอกกับเธอว่า“โอเค ๆ พูดเพราะ ๆ ก็ได้ครับ ผมแค่อยากสะกิดถามคุณพรีมว่า อยากได้โทรศัพท์คืนไหมครับ แบบว่า...บางทีคุณพรีมอาจจะอยากโทรลางาน หรือโทรหาใครสักคนเพื่อบอกเขาว่า คุณปลอดภัยดี”“โทรศัพท์ฉันอยู่กับคุณหรือคะ”“แทนตัวเองว่าพรีมสิ จะได้น่าฟังน่าตามใจหน่อย”“ห้าพัน !”“อะไร !”“ค่าเรียกแทนตัวเองว่าพรีม” พรีมเชิดหน้าอย่างเป็นต่อชิณณ์ยิ้มบาง เขาขยับตัวอยู่ในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน โดยใช้ข้อศอกยันลำตัวช่วงบนขึ้นมา และชันหัวเข่าขึ้นข้างหนึ่ง โชว์ท่อนขาแข็งแกร่งแหวกรอยแยกผ้าขนหนูผืนเดียวที่เขานุ่งอยู่ เขาจงใจยั่วแม่สาวเนื้อหวาน เผื่อบางทีเธออาจจะอยากชิมรสชาติความเป็นชายของเขาอีกสักคำสองคำ“คิดว่าตัวเองอยู่ในสถานะที่ต่อรองได้ ?” ชิณณ์ถามพลางเลิกคิ้วเข้มข้างหนึ่งพรีมหันไปสบตาคม หญิงสาวเม้มปากครู่หนึ่งอย่างครุ่นคิด เธอไม่สนใจและไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาจงใจอ่
“ถ้าคุณตุกติกไม่หักหนี้ตามที่ตกลงกันไว้ ฉันจะตามจองล้างจองผลาญคุณให้ถึงที่สุด” พรีมขู่ด้วยน้ำเสียงและสีหน้าจริงจัง แต่คนถูกขู่กลับอมยิ้ม ตาคมเป็นประกายวิบวับ“ใครจะใจร้ายกับคนสวยได้ลงคอล่ะครับ” ชิณณ์ว่าพลางสะบัดมือตีแก้มก้นอวบแล้วบีบขยำเต็มมือ“เริ่มได้แล้ว...ฉันอยากแตกจะแย่”พรีมกัดฟันแน่น เธอจ้องหน้าเขาด้วยสายตาที่ไม่พอใจเท่าไรนัก กระนั้นเธอก็เริ่มขยับสะโพกเสียดสีกลีบเนื้อนุ่มกับลำกายแกร่ง แต่เพราะเธอไม่เคยมีแฟน ไม่เคยทำแบบนี้กับใครมาก่อน จังหวะที่เธอเป็นฝ่ายควบคุมเองจึงเก้กังติดขัดไปเสียหมด“แบบนี้อีกกี่ชาติถึงจะแตก” ชิณณ์ว่าเสียงลอดไรฟัน เธอเงอะงะอ่อนหัด แต่เร้าใจจนเขาแทบจะอดกลั้นไม่ไหวแล้ว เขาอยากจะสอดใส่แล้วเด้งเสยขึ้นจนมิดลำ อยากกระหน่ำแทงให้เธอหัวสั่นหัวคลอนดีดดิ้นอยู่บนตักอย่างสะใจ ทว่าสิ่งที่ชิณณ์ทำก็แค่เพียงบอกเธอว่า“หนีบมันไว้แน่น ๆ สิ”“นะ...แน่นแล้ว” พรีมเถียงขณะที่ยังขยับสะโพกโยกคลึงไร้ทิศทางชิณณ์สุดแสนจะทรมาน และเขาไม่อยากอดทนอดกลั้นอีกต่อไปแล้ว“ไม่พอหรอก ต้องแบบนี้” ชิณณ์กระชากสะโพกอวบอัดดึงหญิงสาวเข้าหา “เก
ชิณณ์ยิ้มขำ เมื่อเธอเอาแต่ถูซ้ำ ๆ อยู่กลางอก เขาส่ายหน้า ก่อนจะจับข้อมือบางไว้แน่น แล้วดึงเธอขึ้นมานั่งคร่อมบนตักแกร่ง วงแขนแข็งแรงรัดเอวบางไว้แน่นหนา เขากดเธอไว้กับตักไม่ให้ขยับไปไหนได้“คุณชิณณ์ !” พรีมโวยวาย เธอพยายามขืนตัวออกห่างเขา แต่ไม่ว่าจะดิ้นรนอย่างไรก็ไม่อาจพาตัวเองออกจากพันธนาการได้ หญิงสาวจำยอมนั่งนิ่งอยู่บนตักแกร่ง เธอกัดฟันแน่น ขึงตาดุมองเขาอย่างเอาเรื่อง“อาบธรรมดาให้สองพัน แต่ถ้าอาบแบบเนื้อแนบเนื้อ ฉันให้ห้าพัน”“ไม่ !”มันมากเกินไป ไม่ใช่จำนวนเงิน แต่หมายถึงเธอใกล้ชิดเขามากเกินไป ขืนนั่งกันอยู่ท่านี้ แล้วเกิดถ้าเขาอยากทำอะไรที่มากกว่าอาบน้ำ เธอคิดว่า เธอคงไม่อาจขัดขืนได้ เขามันตัวอันตราย เขาไม่น่าไว้ใจเลยสักนิด“แต่ฉันอยากให้” ชิณณ์ยิ้มร้าย เขาเลื่อนมือขึ้นตรึงท้ายทอยเธอไว้อีกครั้ง ก่อนจะปล้นจูบที่สองของเธอไปอย่างหน้าด้าน ๆพรีมเบิกตากว้าง คราวนี้เธอจะไม่ยอมง่าย ๆ หญิงสาวทั้งผลักทั้งทุบเขาสุดแรง ทว่าชิณณ์ก็จัดการกับเธอได้อย่างง่ายดาย เขาออกแรงกอดรัดเธออีกนิดจนสองกายแนบสนิท เต้าทรวงอวบอิ่มบดเบียดกับอกกว้าง สองแขนเรียวแนบไปกั
พรีมสะบัดตัวหลุดจากเขาได้ในตอนที่เขาพยายามจะแกะตะขอเสื้อชั้นในของเธอ หญิงสาวถอยไปยืนชิดผนังห้องน้ำ เธอหอบหายใจแรงด้วยความโมโห แขนเรียวกอดอกปกปิดเรือนกายท่อนบน และจ้องเขาด้วยสาตาดุเอาเรื่องชิณณ์ยิ้มพอใจเมื่อได้เห็นเรือนร่างสาวเต็มตา เธอขาวนวลเนียนไปทั้งตัว ทรงอกอวบใหญ่น่ากัดขย้ำ เอวคอดรับกับสะโพกผายน่าสะบัดมือตีแรง ๆ บั้นท้ายเต่งตึงอวบอัดก็น่าจะรับแรงปะทะได้ดี แค่คิดเขาก็เสียววาบไปทั้งลำ แก่นกายผู้ซื่อสัตย์กับสมองของเขาขยับขยายดันผ้าขนหนูที่นุ่งอยู่โป่งออกมาพรีมเบิกตากว้างกับการเปลี่ยนแปลงของสรีระส่วนนั้นของเขา หญิงสาวหันซ้ายหันขวาหาทางออกให้กับตัวเอง ทว่ายังไม่ทันได้ขยับไปไหน เธอก็ถูกเขากระโจนเข้าใส่และรวบตัวเธอไว้ในอ้อมแขนแข็งแรงได้อีกครั้ง“คุณชิณณ์ ! ปล่อยฉันนะ ฉันไม่ลงอ่างกับคุณ” พรีมดิ้นสุดแรง เธอดิ้นโดยลืมไปว่าทั้งเนื้อทั้งตัวมีเพียงผ้าจิ๋วสองชิ้นปกปิดส่วนสำคัญไว้เท่านั้น“ฉันให้หนึ่งหมื่นบาท” ข้อเสนอของชิณณ์ทำให้คนในอ้อมแขนหยุดดิ้นพรีมเงยหน้ามองเจ้าของเรือนกายสูงกำยำที่เธอแนบชิดอยู่ “จริงนะ”ชิณณ์ยิ้มบาง เขาฉวยโอกาสตอนเธอเผลอ แอบเน
“ขอบคุณนะคะ ฉันสัญญาว่าจะหาเงินมาใช้หนี้ให้คุณจนหมดแน่นอน ฉันจะไม่หนีไปไหน ฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ” พรีมว่าพลางขยับลงจากเตียงอีกฝั่ง หญิงสาวรีบเดินตรงไปที่ประตูด้วยความดีใจ เธอดึงประตูเปิดออก แต่พอมันเปิดแง้มได้แค่เพียงนิด มันก็ถูกฝ่ามือแข็งแรงดันปิดไว้ตามเดิม และคนที่ดันประตูปิดก็ยืนซ้อนอยู่ข้างหลังเธอ พรีมยืนนิ่งตัวแข็งทื่อ เพราะเขายืนอยู่ใกล้เธอเกินไป ใกล้จนเธอรู้สึกได้ถึงไออุ่นจากเรือนกายของเขาชิณณ์ยิ้มเจ้าเล่ห์ เขาวางสองมือทาบกับบานประตู กักกันเธอไว้ให้ยืนนิ่งอยู่กับที่ เขาก้มหน้าลงจนจมูกโด่งเกือบชนแก้มนวล “ฉันหมายถึงกลับคอนโดกับฉันต่างหาก”“เข้าไปสิ” ชิณณ์รั้งต้นแขนของผู้หญิงที่เขาหิ้วกลับคอนโดเข้าไปในห้องด้วยกัน คนถูกจับเงยมองเขาอย่างเอาเรื่อง“ฉันเดินเองได้ไม่ต้องมาจับ” พรีมสะบัดแขนออกจากมือแข็งแรง เธอขยับหนีไปยืนห่างเขาถึงสามก้าวชิณณ์มองท่าทางสาวขัดดอกของตัวเองแล้วยิ้มขำ เขาปิดล็อกห้อง เปลี่ยนรองเท้า แล้วจงใจเดินเบียดเธอจนเซ ก่อนจะเดินผ่านเข้าไปด้านใน ชิณณ์เดินตรงไปยังห้องนอนใหญ่ของตัวเอง ปล่อยให้คนที่เพิ่งมาคอนโดผู้ชายครั้งแรกยืน