ทางด้านนอกนางหลินหลานเมื่อไม่เห็นว่าลูกชายและลูกสะใภ้ออกมาจากห้อง เธอจึงลงมือทำอาหารเช้าด้วยตัวเอง แต่ดีที่เมื่อวานยังมีน้ำแกงปลาที่ลูกสะใภ้ทำไว้ เช้านี้เธอจึงทำอาหารง่ายๆ กินกับสามีก่อนที่ทั้งสองคนจะไปทำงานที่ไร่ตามปกติเพื่อไปดูหน้าดินว่าสามารถหว่านเมล็ดพืชพันธุ์ได้หรือยัง เมื่อเสร็จงานแล้วเจอเข้ากับสองพ่อลูกบ้านชุยขี่จักรยานมาพอดี ชุยหลายจึงลงมาเดินพร้อมกับทั้งสองคนโดยให้ลูกชายขี่จักรยานไปรอที่บ้านใหญ่เซียวชาวบ้านเห็นว่าชุยซีหานมีจักรยานคันใหม่ก็ได้แต่มองกันด้วยความอิจฉา แต่พอเห็นบ้านรองเซียวเดินมาได้แต่หัวเราะขบขัน ที่ก่อนหน้านี้พากันรังเกียจชุยเหมยฮวา แต่ดูตอนนี้สิ ทั้งบ้านใหญ่เซียวและบ้านชุยต่างก็มีรถคันใหม่ไว้ใช้ อีกทั้งชุยเหมยฮวากำลังเปิดร้านขายอาหารในตลาดนัดและเช่าที่ตรงปากทางหมู่บ้านขายของอีก คราวนี้จากครอบครัวที่ยากจนคงพลิกผันมาเป็นคนมีเงินในเร็วๆ นี้แน่ๆชุยเหมยฮวาหลังจากที่โดนสามีจับกินอีกครั้ง เธอจึงรีบแต่งตัวและพาสามีออกมาจากมิติทันที หญิงสาวเดินเข้าครัวเมื่อเห็นว่าแม่สามีต้องทำอาหารกินเองจึงหันไปมองสามีตาขวาง“เพราะพี่คนเดียวเลย หนูจึงตื่นไม่ทันมาทำอาหารเช้าให้พ่อกับแ
เมื่อสองสามีภรรยามาถึงในอำเภอจึงไปติดต่อสำนักงานขายเพื่อขอเช่าโกดังแต่ไม่มีแบบเช่า ชุยเหมยฮวาจึงตัดสินใจซื้อแทน เพราะหากจะให้เธอมาทำการค้าเปิดร้านเองเธอยังไม่มีเวลา และยังไม่สะดวกที่จะเปิดร้านเอง คนที่เธอนึกถึงคือเถ้าแก่ต้วน หลังจากทำการซื้อขายโกดังเสร็จสิ้น สองสามีจึงขี่สามล้อมาหาเถ้าแก่ต้วนที่ร้าน“อ้าววันนี้ลมอะไรหอบมาหาลุงกันล่ะ” เถ้าแก่ต้วนหรือต้วนซาเอ่ยด้วยรอยยิ้ม“พอดีว่าฉันกับพี่หย่งเสียนจะมาคุยเรื่องการค้ากับลุงค่ะ ลุงสนใจจะซื้อสินค้ามาขายหน้าร้านไหม ฉันกับพี่หย่งเสียนจะเป็นคนกลางติดต่อให้เอง ส่วนนี่คือรายการสินค้าทั้งหมดที่ฉันหาได้”ชุยเหมยฮวาเลือกที่จะเปิดประเด็นทันที เธอมีเวลาไม่มาก หากไม่ต้องการทำการค้าด้วยกันอย่างมาเธอก็หาลู่ทางเปิดร้านเอง เธอคิดว่าของพวกนี้จะขายได้สักกี่ปีกัน วันหนึ่งหากเธอตายไปครอบครัวและคนข้างหลังหรือแม้แต่ลูก ๆ ของเธอไม่มีมรดกตกทอดแต่ถ้าเธอทำร้านอาหาร ภัตตาคารหรือว่าทำแฟรนไชส์ ในอนาคตยังเป็นธุรกิจเล็ก ๆ ให้ลูกของเธอได้สานต่อ แต่ตอนนี้เธอต้องการเก็บเงินให้ได้มากที่สุดเถ้าแก่ต้วนตาเป็นประกายขึ้นมา เรื่องนี้เขากลุ้มใจอยู่ว่าจะคุยกับสองสามีภรรยายังไงเร
“ขอบใจทั้งสองคนมากนะที่เข้าใจ ส่วนเรื่องการค้าของพวกเราลุงจะเก็บไว้เป็นความลับก่อน แต่ถ้ามีใครมาสอบถามอีก ลุงจะบอกเพียงแค่การค้าเล็กน้อยไปก็แล้วกัน แต่ตามความคิดลุง ทั้งสองคนระวังตัวไว้บ้างก็ดี ดูเหมือนใครหลายคนจะอิจฉาริษยาทั้งสองคนไม่น้อย”เถ้าแก่ต้วนเอ่ยเตือน เขาเป็นพ่อค้ามาเกือบทั้งชีวิตจะไม่รู้ลักษณะท่าทางของชายหนุ่มที่มาถามเรื่องราวของสองคนนี้ได้ยังไง ดูแล้วไม่ใช่คนดีเลย“ขอบคุณมากนะคะ หากลุงต้วนต้องการสั่งสินค้าให้คนไปตามที่ร้านตรงปากทางเข้าหมู่บ้านได้เลยนะคะ พี่หย่งเสียนจะเป็นคนมาเปิดโกดังให้เอง”จากนั้นสองสามีจึงกล่าวลา เพราะต้องไปเอาของออกจากมิติ หลังจากนี้การค้ากับเถ้าแก่ต้วนเธอจะให้สามีเป็นคนจัดการ ไม่ใช่ไม่อยากให้พี่ใหญ่มาช่วย แต่ถ้ายังสลัดแม่เลี้ยงอย่างนางเมิ่งเสียและลูกๆ ให้พ้นทางไม่ได้ เธอยังไม่ไว้ใจอะไรทั้งนั้นหลังจากที่มาจัดการที่โกดังเสร็จแล้ว สองสามีภรรยาจึงเอาของใส่สามล้อและขี่เข้าหมู่บ้านเพื่อเตรียมตัวและเตรียมของทุกอย่างสำหรับขายในวันพรุ่งนี้วันต่อมา ทั้งบ้านเซียวและบ้านชุยต่างก็ตื่นเช้า เพราะต้องการมาช่วยชุยเหมยฮวาจัดร้านในวันแรก ชุยซีหานช่วยน้องสาวเข็นรถไปจอด
“ขอบใจแบบไม่ต้องกอดก็ได้มั้ง” เซียวหย่งเสียนมองด้วยสายตาเย็นชา เป็นพี่แล้วยังไง แล้วผู้ชายไหมล่ะ“อย่าบอกนะพี่หวงน้องสาวผมกับผมเนี่ยนะ” ตายๆๆ ดูแล้วพี่หย่งเสียนน้องเขยเขาจะอาการหนัก“เออ ฉันหวง หรือนายจะมีปัญหา” เซียวหย่งเสียนยอมรับว่าเขาหวงจริงๆ ไม่ว่ากับใครเขาก็หวงอาการของเซียวหย่งเสียนทำให้ทุกคนส่ายหน้าและหัวเราะชอบใจ บทจะหวงก็หวงจนอาการหนัก ชุยเหมยฮวาจึงเข้าห้ามทัพระหว่างพี่ชายกับสามี โดยการส่งผ้ากันเปื้อนให้กับทุกคน“นี่คือผ้ากันเปื้อนและหมวกค่ะ จะได้ถูกหลักอนามัย ตอนนี้ชาวบ้านและเด็กๆ เริ่มเดินทางไปโรงเรียนและไปทำงานแล้วหนูว่าทุกคนเร่งมือกันดีกว่านะ ผัดไทยไม่ใช่อาหารเช้าคิดว่าขายได้ไม่ดีเท่าช่วงเที่ยงหรือว่าช่วงเย็น”ชุยเหมยฮวารีบจัดร้านของเธอก่อนจะไปช่วยแม่สามีและพี่ชายจัดร้านต่อ ชุยหลายช่วยลูกชายเสียบลูกชิ้น เพราะคิดว่าขายเป็นไม้ดีกว่า เขาเลือกที่จะขายไม้ละสองเหมาสามไม้ห้าเหมาโดยมีผักและน้ำจิ้มให้ด้วย สาเหตุที่ขายราคานี้ เพราะราคาต้นทุนที่ลูกสาวบอกไม่ได้มากมายเลย หักค่าน้ำมันแล้วก็ไม่เท่าไหร่ กำไรมากพอตัวอีกทั้งน้ำจิ้มราดมีทั้งของเด็กและผู้ใหญ่รสชาติอร่อยมาก หากขายไม่ได้เขาย
“เมิ่งเสีย เธอกลับไปเถอะ และเรื่องนี้ฉันคุยกับเธอมาหลายครั้งแล้ว เรื่องการแต่งงานของเจ้าใหญ่ ให้เจ้าใหญ่ตัดสินเองดีกว่า”ชุยหลายเบื่อหน่ายเต็มทน ตอนนี้เขามีความสุขกับการค้าขาย เท่าที่ดูเขาและลูกชายขายของได้หลายสิบหยวน ต่อให้หักต้นทุนออกไปอย่างน้อยๆ กำไรเขาได้มากถึงยี่สิบหยวน ถ้าเกิดทำการค้าแบบนี้ไปเรื่อยๆ ไม่นานเขาคงจะเก็บเงินแต่งเมียให้ลูกชายได้“ได้ยังไงกันพี่ชุยหลาย เรื่องนี้ฉันคุยกับพี่ๆ ของฉันแล้วนะ และบ้านพี่ฉันเขาก็ให้เสี่ยวหลินมาที่นี่เพราะยังไงก็ต้องแต่งงานกับเจ้าใหญ่ หากพี่และเจ้าใหญ่ปฏิเสธแบบนี้ฉันและเสี่ยวหลินจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน”นางเมิ่งเสียยังคงไม่ยินยอม ในเมื่อเธอหมายมั่นจะให้หลานสาวแต่งเข้าบ้านชุยอีกคน เธอจะต้องทำให้สำเร็จ ไม่เช่นนั้นอายชาวบ้านตายเลยชุยเหมยฮวาอดไม่ได้ที่จะสอดปากเข้ามา “ขอโทษนะคะ ฉันไม่อยากจะยุ่งถ้าพี่ใหญ่ไม่ใช่พี่ชายของฉัน การที่พี่ใหญ่จะแต่งงานมีคู่ครอง หนึ่งต้องมาจากพ่อแม่ สองต้องมาจากความชอบ แต่ในเมื่อพ่อไม่เห็นด้วยและพี่ใหญ่ไม่ชอบจะบีบบังคับได้ยังไง ถ้าจะอ้างการเป็นแม่เลี้ยง ฉันว่าเรื่องนี้คุณไม่มีสิทธิ์”“หล่อนแต่งงานแล้วถือว่าเป็นคนนอก ไม่มีสิท
ชุยเหมยฮวาวิเคราะห์เหตุการณ์ ทางเดียวที่จะจบเรื่องของนางเมิ่งเสียได้เธอคงต้องบอกเรื่องมิติ พ่อของเธอไม่ใช่คนโง่และพี่ใหญ่ก็รักเธอมาก การที่เธอจะบอกเรื่องมิติและจะช่วยกันทำมาหากินคงไม่ใช่เรื่องแปลก อีกทั้งหากจะให้เธอเก็บเงินกับพ่อและพี่ชายตัวเองรวมถึงพ่อแม่สามีเธอก็ทำไม่ได้เช่นกัน วันนี้เมื่อกลับถึงบ้านเธอจะต้องจับเขาคุยกับทุกคนในครอบครัวเสียทีชุยหลายและบ้านเซียวไม่สนใจนางเมิ่งเสียและหลานสาวอีก ทั้งหมดต่างก็ช่วยกันเก็บของเพื่อกลับไปพักผ่อนที่บ้าน พรุ่งนี้อาจจะขายรอบบ่ายด้วยหากทุกคนไม่เหนื่อยจนเกินไป แต่ถ้าขายของ เรื่องงานในไร่คงไม่มีใครมีเวลาอีก คราวนี้คงต้องหาคนรับจ้างทำงานแล้วนางเมิ่งเสียและเยี่ยนหลิน เมื่อเห็นว่าฝ่ายตนเองจนมุมจึงรีบลากหลานสาวกลับบ้านเพื่อไปวางแผนบางอย่างต่อ ไม่ว่ายังไงเธอหมายมั่นไว้ว่าต้องให้เยี่ยนหลินแต่งงานกับชุยซีหานให้ได้ทันทีที่มาถึงบ้าน ชุยเหมยฮวาบอกให้สามีรีบปิดประตูบ้าน ก่อนจะเรียกทุกคนมาที่ห้องโถงเพื่อคุยเรื่องสำคัญ“เกิดอะไรขึ้นเสี่ยวฮวา ทำไมทำท่าทางเหมือนเป็นเรื่องคอขาดบาดตายล่ะ”ชุยซีหานเอ่ยถามน้องสาวเสียงเครียด กลัวว่าจะเกิดเรื่องร้ายกับน้องสาวอีกหรื
เซียวจ้ายซวนกอดกับภรรยาร้องไห้ แม้ว่าของวิเศษพวกนี้จะทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของทุกคนดีขึ้น แต่เขากลับมองว่าหากชะตาชีวิตของลูกสะใภ้ต้องลดน้อยลงเขาขอไม่มีดีกว่า ต่อให้ลำบากกายกับการทำงานแต่ชีวิตของลูกสะใภ้ยังอยู่ก็พอแล้วแม้ว่าจะไม่มีคำพูดจากพ่อแม่สามี แต่การที่ท่านนั่งกอดกันร้องไห้เพราะกลัวว่าเธอจะจากไป แค่นี้มากเพียงพอแล้วสำหรับเธอ ชุยเหมยฮวาจึงยิ้มอ่อนโยนให้กับทุกคน ก่อนจะบอกด้วยท่าทางสบายใจ“ทุกคนไม่ต้องห่วงเรื่องนั้น แค่ความลับนี้อยู่กับพวกเรา คนนอกไม่รับรู้ก็พอแล้ว การที่หนูบอกเรื่องนี้เพราะหนูไม่สามารถรับเงินจากทุกคนได้ ในเมื่อหนูไม่ได้ซื้อมา อีกทั้งเราจะได้หาทางป้องกันเรื่องของน้าเมิ่งเสียและหลานสาวของเธอด้วย หากพ่อยังนิ่งนอนใจหนูเชื่อว่าคนพวกนั้นต้องเล่นไม่ซื่อจับพี่ใหญ่แต่งงานจนได้เข้าสักวัน เหมือนกับที่เธอวางแผนร้ายกับพ่อยังไงละคะ ส่วนเรื่องงานในไร่ หนูอยากให้ทั้งพ่อและพ่อสามีวางมือ จ้างคนมาช่วยทำงานก็พอแล้ว อย่าลืมว่าเราค้าขายกันได้วันล่ะเท่าไหร่ จ้างคนทำงานในไร่ค่าแรงคงไม่เท่าทำงานในเมืองแน่ๆ”“นั่นสิครับพ่อ พ่อตา สิ่งที่เสี่ยวฮวาบอกมีเหตุผล การที่เราขายอาหารพวกเราก็แทบจะไม
หลังจากที่กินอาหารเสร็จแล้ว เซียวจ้ายซวนและชุยหลายจึงเดินไปบ้านลู่เพื่อสอบถามสองพี่น้องว่ายินดีจะมาช่วยงานในไร่ของพวกเขาไหม โดยให้เงินเดือนสิบหยวนต่อคน เพราะยอดเงินนี้ชุยเหมยฮวาเป็นคนบอกมาและยังให้เขาไปสอบถามที่ดินกับหัวหน้าหมู่บ้านด้วยว่ามีที่ดินแปลงไหนบอกขายบ้าง พอรู้ว่ามีทั้งสองคนทำเฉยไว้ก่อน ชุยเหมยฮวาบอกว่าขายของอีกสักพักแล้วค่อยซื้อ หากซื้อตอนนี้จะเป็นการผิดสังเกตของชาวบ้านว่าบ้านชุยและบ้านใหญ่เซียวเอาเงินมาจากไหนซื้อที่ดินสองพี่น้องบ้านลู่เมื่อได้รับการว่าจ้างทั้งสองคนน้ำตาแทบไหล พวกเขาสองพี่น้องเป็นเด็กกำพร้า พ่อแม่ตายนานแล้ว บ้านใหญ่คิดว่าเลี้ยงพวกเขาไว้จะเปลืองอาหาร จึงให้เขาและน้องชายแยกบ้านตั้งแต่เด็ก บ้านลู่ของพวกเขาไม่มีที่ดินทำกิน ทำเพียงรับจ้างไปวันๆ หาเงินซื้ออาหารเท่านั้น ในเมื่อตอนนี้เขามีงานจ้างเป็นเดือนจะไม่ให้ดีใจได้ยังไงหากเทียบกับงานในอำเภอ แม้ว่าจะได้ยี่สิบห้าหยวน แต่อย่าลืมว่าต้องจ่ายค่าเกวียนไปกลับแถมยังมีค่าอาหารอีก เดือนๆ หนึ่งแทบจะไม่เหลือ อยู่ในหมู่บ้านเดือนละสิบหยวนก็พอแล้ว ลุงชุยหลายบอกว่ามีอาหารเลี้ยงอีกด้วย แค่นี้ไม่เท่ากับเขาสองพี่น้องเหลือเงินเก
ถ้าจะไม่พูดถึงเซียวหมิงหย่วนก็คงไม่ได้ ตอนนี้เธอเองก็แต่งงานกับลู่จื่อฉี และกำลังท้องลูกคนแรก แต่กว่าที่ทั้งสองคนจะตกลงปลงใจกันได้ ชุยเหมยฮวาเธอทั้งช่วยเข็นช่วยดันไม่น้อยเพราะลู่จื่อฉีมักคิดว่าตัวเองไม่เหมาะสม อีกทั้งอาสะใภ้รองคอยกีดกันอยากให้ลูกสาวได้คนที่มีหน้ามีตากว่านี้ ส่วนเซียวเจี้ยนซูก็แต่งกับพนักงานของร้านเหมยฮวา เธอและสามีเคยบอกว่าจะให้สูตรอาหารเพื่อให้ทั้งสองคนได้มีกิจการเป็นของตัวเอง แต่สองพี่น้องบอกว่าแค่นี้พวกเขาก็พอใจแล้วส่วนไร่ผลไม้ของสองตระกูลเริ่มผลิดอกออกผล แต่บางอย่างก็ต้องรอให้เต็มวัยก่อนจะเก็บผลผลิตไปขายได้ทุกอย่างเป็นไปตามที่ชุยเหมยฮวาพูดไว้ ชีวิตนี้ไม่จำเป็นต้องรวยล้นฟ้า ไม่มีหนี้สินมีเพียงกิจการเล็ก ๆ แค่นี้ก็พอแล้ว เพราะนี่คือความสุขที่แท้จริง“ในที่สุดสองแสบก็หลับเสียที”เซียวหย่งเสียนแทบจะปาดเหงื่อเมื่อต้องเอาลูกน้อยทั้งสองคนเข้านอน หน้าที่นี้เขาขอทำเองตั้งแต่ลูกเกิด ชายหนุ่มรู้สึกว่าแค่ภรรยาต้องอุ้มทองและเจ็บท้องคลอดก็พอแล้ว อะไรที่ทำได้เขายินดีที่จะทำ“เหนื่อยไหมคะ ทำงานเสร็จกลับมาบ้านยังต้องช่วยหนูเลี้ยงลูกอีก” ไม่ใช่ไม่เห็นใจสามีที่เหนื่อยจากงานแล้วต้อ
การใช้ชีวิตใจฐานะของพ่อและแม่ดำเนินไปอย่างมีความสุข แม้ว่าเซียวหย่งเสียนจะต้องไปดูร้านทั้งสองแทนภรรยาก็ตาม เมื่อเสร็จงานเขาก็จะรีบกลับมาหาลูกและภรรยา จนภาพพวกนี้ชินตากับลูกน้องและคนในครอบครัวเด็กน้อยทั้งสองคนเติบโตทุกวันจนอายุครบสามขวบ ความซนและความแสบไม่มีใครเกินใครเหมือนกับวันนี้“แม่ฮะ วันนี้พ่อจีบฉาว” เซียวคุนหยางหรือว่าหยางหยางวิ่งตัวกลมเข้ามาฟ้องแม่คนสวยของตัวเอง“หยุดเลยนะหยางหยาง พ่อยังไม่ได้ทำอย่างที่ลูกพูดสียหน่อย อยากให้พ่อโดนแม่ไล่มานอนนอกห้องหรือยังไง”คราวก่อนก็ทีหนึ่งแล้วช่างหาเรื่องให้เขาเสมอ ไม่รู้ได้ความแสบมายังไง“ไหนหยางหยางลองเล่าให้แม่ฟังสิครับ ว่าพ่อของลูกจีบสาวที่ไหน”“จีบที่ร้านที่อาเจี้ยนซูดูแลอยู่ฮะ ฉาวสวยมาก”ชุยเหมยฮวาหันมองหน้าสามีตาเขียว ก่อนจะมาตั้งใจฟังลูกชายเล่าต่อ“ฉาวชื่อ ป้าเจียงเย่วฮะ ป้าเอาบัญชีมาให้พ่อแทนลุงฉงซาน ฮ่า ๆ”นั่นปะไร เชื่อได้ที่ไหนกับความกวนของลูกชาย ไม่รู้ว่าทั้งสองคนเป็นพ่อกับลูกหรือว่าเป็นศัตรูคู่แค้นกันแน่“เป็นยังไงบ้างคะ วันนี้ร้านขนมตกแต่งเสร็จหรือยัง”นอกจากร้านอาหาร เธอเริ่มที่จะสร้างร้านขนมอีกด้วย ตอนนี้จึงเหลือเพียงตกแต่ง
บทส่งท้ายความสุขของครอบครัวเซียวหย่งเสียนมารอที่ห้องพักนานแล้ว ยังไม่เห็นภรรยารักตามเข้ามา ใจเขาเริ่มกระวนกระวายอีกครั้ง แต่ไม่นานพยาบาลและเจ้าหน้าที่เข็นคนป่วยเข้ามา“ตอนนี้คนไข้ยังไม่ตื่นนะคะ รออีกสักหน่อย แต่ปลอดภัยแล้วค่ะ” ดูจากสีหน้าของคนเป็นสามีพยาบาลวัยกลางคนจึงบอกด้วยรอยยิ้ม“ขอบคุณมากครับ”เซียวหย่งเสียนหันมาขอบคุณพยาบาล ก่อนจะเดินไปยืนข้างภรรยารักที่กำลังนอนอยู่ สายตาที่มองช่างอ่อนโยน ยากจะหาสิ่งใดเปรียบ จนนางหลินหลานอดที่จะปลื้มใจความรักของทั้งสองคนได้“เดี๋ยวแม่ขอไปดูหลานก่อนนะ แล้วจะรีบกลับมา ลูกจะไปด้วยไหม” ในเมื่อลูกสะใภ้ยังไม่ตื่น เจ้าหน้าที่คงยังไม่พาหลานทั้งสองคนมา เธอจึงขอไปดูด้วยตัวเองก่อน“ไม่ดีกว่าครับแม่ ผมขออยู่กับเสี่ยวฮวาดีกว่า เดี๋ยวตื่นขึ้นมาแล้วจะไม่เจอใคร”นางหลินหลานพยักหน้าให้ก่อนจะเดินออกจากห้องเพื่อไปดูหลานรักทั้งสองคน“หิวน้ำ” เสียงอันอิดโรยของชุยเหมยฮวาดังขึ้น ทำให้เซียวหย่งเสียนตื่นตัวอีกครั้งและรีบไปรินน้ำใส่แก้วแล้วนำมาป้อนภรรยารัก“ค่อย ๆ กินนะครับ เดี๋ยวสำลัก”“ขอบคุณมากค่ะ หนูอิ่มแล้ว”เซียวหย่งเสียนวางแก้วไว้ตรงโต๊ะ ก่อนจะเดินเข้ามาแทรกตัวข
เจ้าใหญ่ นั่งก่อนเถอะ เสี่ยวฮวาอยู่กับหมอแล้วไม่เป็นอะไรหรอก” นางหลินหลานอดที่จะบ่นลูกชายไม่ได้ เธอมองตามไปมาตอนนี้เริ่มจะหน้ามืดแล้วเหมือนกัน“ผมเป็นห่วงครับแม่ เสี่ยวฮวาเข้าไปนานแล้ว หมอยังไม่ออกมาบอกเลย ผม...ผมกลัว”แค่ได้ยินเสียงที่เจ็บปวดของภรรยารัก เขาแทบจะไม่อยากให้คลอดลูกแล้ว ถ้าเป็นไปได้เขาขอเจ็บแทบดีกว่า แค่เห็นน้ำตาเธอเขาก็ใจสลายแทน“เจ้าใหญ่มานั่งนี่”เธอกวักมือเรียกให้ลูกชายมานั่ง เซียวหย่งเสียนไม่อยากขัดจึงเดินมานั่งข้าง ๆ นางหลินหลานจึงจับมือลูกชายมาตบหลังมือเบา ๆ และพูดด้วยเสียงที่อ่อนโยน“ฟังแม่นะ ลูกผู้หญิงทุกคนเมื่อแต่งงานย่อมต้องเจอเหตุการณ์นี้ แม้ว่าจะเจ็บปวดสักแค่ไหน แต่เมื่อเห็นหน้าลูกย่อมหายเจ็บและรู้สึกว่าคุ้มค่ามากหากเทียบกับความเจ็บที่เจอมา เสี่ยวฮวาคนนี้ย่อมต้องผ่านมันไปได้ เธอรู้ดีว่ามีครอบครัวและสามีที่ดีเช่นลูกรออยู่ เธอไม่มีทางไปไหนแน่นอน”เซียวหย่งเสียนได้ยินคำพูดประโยคสุดท้ายของแม่ แผ่นหลังของชายหนุ่มเย็นไปหมด แม่พูดเช่นนี้เท่ากับท่านรับรู้มาตลอดว่าชุยเหมยฮวาไม่ใช่คนเดิม เขาจึงหันมองหน้าแม่อย่างตื่นตกใจ“แม่รู้...”“อย่าลืมว่าพ่อของลูกกับพ่อของเสี่ยวฮ
“ยินดีด้วยนะคะ คุณแม่ท้องได้สองเดือนแล้ว” คุณหมอกล่าวหลังจากตรวจเสร็จ ชุยเหมยฮวาและเซียวหย่งเสียนมองหน้ากันด้วยรอยยิ้ม ในที่สุดเจ้าตัวเล็กก็มาเสียทีตอนนี้ครอบครัวเขาสมบูรณ์แล้วจากนั้นคุณหมอจึงบอกวิธีการดูแลคนท้องให้กับสองสามีฟังอย่างละเอียด แต่มีเหรอที่เซียวหย่งเสียนจะไม่ถามเรื่องการแสดงความรักกับภรรยา“ยังคงปฏิบัติได้เหมือนเดิมค่ะ เพียงแค่รอให้พ้นช่วงสามเดือนแรกไปก่อน แต่หลังจากนั้นยังคงต้องระวังความรุนแรงสักเล็กน้อย จนกว่าจะใกล้กำหนดคลอด”คุณหมอใบหน้าเกิดริ้วแดง ไม่คิดว่าสามีคนไข้ท่านนี้จะถามออกมาตรงๆหลังจากรับยาบำรุงสองสามีภรรยาจึงกลับมาที่ร้านเพื่อบอกข่าวดีแก่ทุกคน“เสี่ยวฮวา น้องกำลังท้องอยู่นะ เดินเหินระวังด้วยสิ” เซียวหย่งเสียนปวดหัวมากกับความดื้อรั้นของภรรยารัก“พี่หย่งเสียน หนูท้องนะไม่ได้ป่วยพี่จะไม่ให้หนูทำอะไรเลยไม่ได้ ฮือ...พี่ไม่รักหนูแล้วใช่ไหม พี่เลยดุหนูตลอด หนูแค่เดินมาหาทุกคนเท่านั้นเอง” ชุยเหมยฮวาน้ำเสียงสะอื้นตอบกลับ เธอไม่รู้อารมณ์ตัวเองเหมือนกัน เพียงแค่โดนดุเล็กน้อยเธอก็น้ำตาซึมแล้ว“โอ๋ ๆ ไม่ร้องนะครับคนเก่ง ไม่ใช่พี่ไม่รักหนู แต่เพราะรัก พี่จึงเป็นห่วง ครั้
ชุยเหมยฮวายิ้มรับก่อนจะพูดด้วยเสียงที่อ่อนโยน “ไม่ใช่เพราะฉันคนเดียวหรอกป้า แต่ทุกคนต่างหากที่ร่วมด้วยช่วยกันจนมีวันนี้ ฉันเองก็ต้องขอบคุณพี่หย่งเสียนที่ยอมแต่งกับหญิงร้ายกาจเช่นฉัน พอวันหนึ่งที่ฉันคิดได้จึงรู้ว่าอะไรและใครสำคัญที่สุด ฉันเลยคิดที่จะเปลี่ยนตัวเองเพื่อคนที่รัก”ชาวบ้านได้แต่ยิ้มให้ จากนั้นชุยเหมยฮวาจึงเดินดูความเรียบร้อยในส่วนอื่น ๆ ก่อนจะเดินมาหาสามีที่ยังนั่งดื่มกินกับเจ้าบ่าวและกลุ่มของเพื่อนที่มาจากในอำเภอและในหมู่บ้าน“พี่หย่งเสียน หนูจะเข้าไปหาพี่สะใภ้ พี่เองก็อย่าแกล้งพี่ใหญ่มากล่ะ เดี๋ยวจะเมาแล้วไม่ได้เข้าหอ”“พี่ไม่แกล้งพี่สัญญา เพราะคืนนี้พี่ต้องเข้าหอด้วยเหมือนกัน”เมื่อเจอการหยอกล้อของสามีใบหน้าของหญิงสาวจึงแดงขึ้นเพราะความเขินอายและรีบเดินจากไปทันทีชุยเหมยฮวาอยู่เป็นเพื่อนพี่สะใภ้อีกสักพักก่อนจะกลับไปจัดการอาหารที่บ้านใหญ่เซียวเพราะเดี๋ยวจะมีชาวบ้านมาขนไปที่บ้านชุย เพื่อนำไปแจกจ่าย และรอสามีรักกลับมาเข้าหอกับเธอเหมือนพี่ชายและพี่สะใภ้วันเวลาผ่านไปจนวันที่รอคอยของชุยเหมยฮวาและเซียวหย่งเสียนมาถึงเสียที ภัตตาคารเซียวเหมยเปิดทำการแล้ว พิธีเปิดในวันนี้เซียวจ้า
หลังจากจัดการเรื่องต่าง ๆ เสร็จสิ้น ทุกคนจึงดำเนินชีวิตอย่างปกติเช่นทุกวัน เซียวเจี้ยนซูไปช่วยงานที่ร้านเหมยฮวา เซียวหมิงหย่วนไปช่วยที่ร้านขายข้าวเหนียวหมูทอดของพ่อแม่สามี ตอนนี้บ้านชุยก็สร้างเสร็จแล้ว สองพ่อลูกบ้านชุยจึงย้ายกลับบ้านของตัวเอง แม้จะย้ายเข้าบ้านใหม่แล้วแต่ทั้งสองบ้านยังไม่ได้เลี้ยงฉลอง ทุกคนจึงเห็นว่าควรจะจัดงานแต่งของชุยซีหานและฟางเซียนเสียทีจะได้เลี้ยงพร้อมกันทีเดียวตอนนี้น้ำซอสปรุงอาหารเริ่มทยอยส่งขายแล้ว พร้อมกับลูกชิ้นชนิดต่าง ๆ ของชุยซีหาน ผลตอบรับทั้งสองอย่างดีเกินคาด ส่วนที่ดินที่สองครอบครัวซื้อไว้ ส่วนหนึ่งปลูกผลไม้ ส่วนหนึ่งนำมาเลี้ยงไก่เลี้ยงหมู ซึ่งเป็นฟาร์มขนาดใหญ่ไม่น้อย ส่วนสองพี่น้องบ้านลู่ คนหนึ่งเป็นหัวหน้าคนงานในไร่โดยมีหวางห่าวสามีของกู้จิงคอยมาช่วยอีกแรง เวลาว่างก็จะมาช่วยที่ร้านเช่นเดิม อีกคนช่วยดูงานในโรงงานลูกชิ้นขนาดเล็กของบ้านชุย เพียงแค่นี้ค่าแรงทั้งสองคนแต่ละเดือนมากจนใครได้ยินก็ต่างตกใจในที่สุดวันแต่งงานของชุยซีหานและฟางเซียนมาถึง บรรยากาศในหมู่บ้านแทบจะติดผ้าสีแดงทั้งหมด วันนี้บ้านชุยและบ้านเซียวเลี้ยงฉลองนอกจากงานแต่งของชุยซีหานแล้วยังเล
ชุยเหมยฮวาแทบจะกระโดดปรบมือให้กับน้องสามีคนนี้เหลือเกิน เธอรู้มาตลอดว่าเนื้อแท้ของสองพี่น้องบ้านรองไม่ใช่คนเลว อาจจะหลงผิดไปบ้าง แต่ในเมื่อคิดปรับปรุงตัวเธอก็พร้อมจะให้อภัย ส่วนเรื่องของเซียวเจี้ยนซูจะโทษเขาฝ่ายเดียวคงไม่ถูก เพราะชุยเหมยฮวาคนเก่าเป็นฝ่ายตามตื๊อเขาเอง“ฉันรักพี่หย่งเสียนมาก่อน ในอดีตนังเหมยฮวาไม่ได้รักพี่หย่งเสียน มันรักพี่เจี้ยนซู มันไม่เหมาะที่จะเป็นเมียพี่” เจียวมิ่งยังคงดึงดัน แม้จะรู้ว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์ที่จะพูดก็ตาม“เหมาะหรือไม่ ผมเป็นคนตัดสินใจไม่เกี่ยวกับคุณ ครั้งนี้ผมจะยอมจบเรื่องแต่โดยดี ถ้ามีครั้งต่อไป คุณได้เป็นภรรยาของชายคนใดคนหนึ่งแน่ ในเมื่อรู้จักผมดีไม่ใช่เหรอ ย่อมรู้ว่าผมพูดจริงทำจริง”พูดจบเขาจูงมือภรรยาและชวนทุกคนออกจากห้องเพื่อไปกินอาหารที่ร้านเป็นการตอบแทน“พี่หย่งเสียนมีงานให้เราสองคนทำบ้างไหม”เซียวเจี้ยนซูเอ่ยถามโดยมีเซียวหมิงหย่วนพยักหน้าตาม ตอนนี้ทั้งสองพี่น้องอยากทำงานเก็บเงินมาก เพราะเงินในบ้านที่เคยมีพ่อเอาไปเล่นการพนันแทบจะไม่เหลือแล้ว“ได้สิ พี่เจี้ยนซูฝึกงานกับพี่ฉงซานไปก่อนนะ ฉันกับพี่หย่งเสียนตั้งใจจะเปิดร้านอาหารอีกแห่ง ตอนนี้ซื้อที่
“ฉันจะเปิดเข้าไปดูถ้าเป็นพี่หย่งเสียนจริง ฉันยินดีที่จะหย่าให้ถ้าเขาอยากอยู่กับอดีตคนรัก เมื่อฉันมาทีหลัง ฉันพร้อมจะหลีกทาง” พูดจบก็เปิดประตูเข้าไป ภาพที่เห็นหากไม่รู้แผนการมาก่อนคงใจสลายไม่น้อย เพราะรูปร่างของชายหนุ่มที่นอนคว่ำหน้าไม่ต่างจากสามีของเธอ“พี่หย่งเสียน! พี่ทำกับฉันแบบนี้ได้ยังไง พี่ตื่นมาคุยกันให้รู้เรื่องนะ” ชุยเหมยฮวาเล่นเต็มที่ ทำเอาเซียวหมิงหย่วนอยากจะปรบมือให้พี่สะใภ้เสียเหลือเกินเจียวมิ่งแอบอมยิ้ม ก่อนจะแกล้งบิดขี้เกียจและทำเสียงงัวเงีย “ใครมารบกวนเราค่ะพี่หย่งเสียน” พอเห็นว่าเข้าตามแผนก็รีบปรับสีหน้าเป็นตกใจ และปลุกชายหนุ่มที่นอนข้างกัน“พี่หย่งเสียน ตื่นเถอะ ภรรยาพี่มา”“เกิดอะไรขึ้น ทำไมภรรยาผมมา ในเมื่อผมไม่มีภรรยาเสียหน่อย” ในเมื่อทุกอย่างลุล่วงเขาจึงแกล้งลืมตาและส่งเสียง ก่อนจะหันมาเจอหน้ากับทุกคน จึงทำให้เจียวมิ่งร้องลั่นห้อง“กรี๊ด! แกไม่ใช่พี่หย่งเสียน แกมาอยู่ในห้องนี้ได้ยังไง”“เอ้า... ผมนอนของผมอยู่ดี ๆ คุณนั่นแหละเป็นใคร มานอนแก้ผ้าทำไมในห้องผม หรือว่าคุณต้องการทำมิดีมิร้าย ต่อให้ผมหน้าตาแบบนี้แต่ผมก็เลือกนะ” ชายหนุ่มพูดตามความคิด ถ้าเขาเป็นพี่หย่งเสี