หลังจากที่พวกกรตัดสินใจจะเพิ่มพวกพ้องในปาร์ตี้ด้วยการซื้อทาสไปแล้ว พวกเขาจึงเริ่มตระเวนหาร้านดังกล่าวในทันที เพียงแต่... การหาร้านที่มีคุณภาพและมีความน่าเชื่อถือนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยซักนิด นั่นเป็นเพราะกรไม่เคยซื้อทาสมาก่อนนั่นแหล่ะ เพราะหากเป็นสินค้าอย่างอื่นไม่ว่าจะของกินหรือเครื่องใช้ กรก็มีพื้นเพในการคัดแยกของดีไม่ดีจากโลกเดิมอยู่แล้ว เพราะความรู้และสามัญสำนึกเป็นของโลกเดิม เลยมีความเสี่ยงจะโดนโกงสูง... ทางด้านมีอาเองเคยเป็นทาสมาก่อนก็จริง แต่ก็เป็นคนละประเภทกับที่ถูกขายตามท้องตลาด ส่วนเมอร์ลินก็อยู่แต่ในดันเจี้ยนทำให้ความรู้เรื่องโลกภายนอกไม่ต่างจากกรและมีอาซักนิด และพอใช้เวลาคิดซักเล็กน้อย... พวกกรก็ได้นึกถึงบุคคลคนนึงที่เขาเพิ่งรู้จักเมื่อวาน และเชื่อว่าเขาคนนั้นมีความน่าเชื่อถือมากพอ แถมยังทำงานสายการค้าอีกด้วย และยังเป็นคนมีอิทธิพลพอสมควร นั่นเลยทำให้กรคิดว่าเขาต้องช่วยแนะนำร้านค้าทาสดีๆให้กับกรได้แน่〝 ยินดีต้อนรับครับ! อ้าว คุณกรเองเหรอครับ 〞 ทันทีที่กรเปิดประตูเข้าสู่อาคารบริหารของย่านการค้า ก็ได้พบเข้ากับคนๆนึง กำลังสั่ง
หลังจากค่ำคืนอันเป็นนิรันดร์ของทั้งสามคนจบลง ยามเช้าก็ได้มาถึง... ภายใต้ผ้าห่มบนเตียงสีขาวบริสุทธิ์ ทั้งสามคนที่ไร้ซึ่งอาภรณ์ได้นอนกอดกันกลมโดยมีเด็กหนุ่มนามว่า กร คั่นกลาง แสงอาทิตย์อุ่นๆ ของฤดูร้อนลอดผ่านหน้าต่างเข้ามากระทบร่างของทั้งสาม แต่มีเพียงกรเท่านั้นที่ตื่นจากภวังค์เพราะมัน ทันทีที่ตื่น กรสัมผัสได้ถึงผิวกายอันแสนวิเศษ ที่แนบชิดกับเขาตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้ ซึ่งก็ไม่ใช่ใครอื่น นอกเสียจากมีอาและเมอร์ลินที่กำลังนอนหลับสนิทเคียงเขาซ้ายขวา และใช้ร่างของกรแทนหมอนข้างนั่นเอง...ไม่ต้องมีคำบรรยาย...เมื่อคืนนี้เป็นคืนที่สุดยอดจริงๆเลย... ในหลายๆความหมายอาจจะเสียมารยาทกับพวกเธอไปหน่อย แต่ถ้าจะนับจากประสบการณ์ในลูป คงพูดไม่ได้ว่านี่เป็นครั้งแรกแต่ส่วนหนึ่งก็ต้องขอบคุณประสบการณ์พวกนั้นบ้างแหล่ะนะ... เลยทำให้นำได้อย่างดี สมเป็นลูกผู้ชายกับเขาหน่อย ในขณะที่คิดแบบนั้น มีอาและเมอร์ลินที่สัมผัสกายของกรได้ละเมอครางออกมาเบาๆ และขยับใบหน้าเข้ามาซุกที่อกของเขาแนบชิดกว่าเดิมดูจากการเคลื่อนของดวงอาทิตย์ ตอนนี้ก็เกือบ 9 โมงแล้ว... นี่พวกเราหลับยาวขนาดน
หลังจากที่พวกกรได้ฐานที่มั่นชั่วคราวเป็นห้องกับดัก กรก็เริ่มทำการสร้างชุดให้กับชาลอตในทันที จากนั้นก็สร้างโต๊ะวงกลมขึ้นด้วยเวทย์พฤกษา พร้อมกับเก้าอี้ไม้สี่ตัว เพื่อวางแผนการ นั่นเพราะต่อจากนี้ กรจะให้ชาลอตซ้อมต่อสู้และคุ้นชินกับคำสั่งให้ได้เร็วๆ นั่นเอง〝 โอ้! เหมาะมากเลย 〞〝 นั่นสินะ 〞 เมื่อชาลอตทำการเปลี่ยนชุดใหม่เสร็จสิ้นก็ได้ฤกษ์เปิดม่านโชว์ตัวโดยยืนเป็นโมเดลด้านหน้าพวกกรที่นั่งโต๊ะอยู่ให้ได้เชยชม และเหตุผลเดียวที่เมอร์ลินและกรชมออกมาอย่างออกนอกหน้าก็คือ... ความงดงามของสาวน้อย?ตรงหน้ากับชุดเกราะที่เธอใส่ มีความเข้ากันในระดับที่สามารถขโมยใจชายและทำให้หญิงสาวคุกขอขมา ให้กับความน่ารักนี้ได้เลย... ชุดใหม่ของชาลอตที่ถูกปรับแต่งโดยกรและดีไซน์โดยเมอร์ลิน ตอนนี้มันมีลักษณะเหมือนกับเกราะหนังผสมกับเกราะโลหะ แบบเปิดไหล่ โดยตัวหนังที่เป็นพื้นฐานของชุดถูกกรปรับแต่งให้สามารถป้องกันเวทย์ได้ทุกชนิดที่มีระดับต่ำกว่าเขา ส่วนตัวเกราะโลหะที่ติดไว้ตั้งแต่บริเวณหน้าอกถึงท้องน้อย และด้านหลังตั้งแต่บริเวณหลังคอไปจนถึงสะโพก โดยที่โลหะหน้าและหลังเป็นคนละตัว
หลังจากที่ชาลอตต่อสู้ครั้งแรก ก็ผ่านมาเกือบชั่วโมงแล้ว... และอีกประมาณ 5 นาทีจะบ่ายโมงพวกเราพาเธอต่อสู้จนถึงชั้นที่ 5 เลยหล่ะ... แต่เลเวลเริ่มขึ้นยากมาก หลังจากเลเวล 50 หน่ะนะ..ถ้าใช้ตรรกะของเกม MMORPG ละก็... ยังไงการเก็บเวลจากมอนมันต้องช้ากว่าการทำเควสอยู่แล้วเพียงแต่ในเรื่องจริง การทำเควสมันไม่ได้ค่าประสบการณ์ซักหน่อย... ก็นี่หน่ะไม่ใช่เกมนี่นา! แค่คล้ายกันเท่านั้นเองเพราะงั้นของแบบนี้มันต้องใช้เวลาหล่ะนะ... แถมตอนนี้ก็ใกล้ถึงเวลาสอบเลื่อนระดับแล้วด้วย วันนี้พอแค่นี้ดีกว่ามั้ง...แล้วสเตตัสของเธอก็น่าพอใจ(แบบโคตรๆ)แล้วด้วย... ถ้าถามว่าเป็นยังไงก็ตามนี้แหล่ะนะ ข้อมูลสเตตัส『ชาลอต ฟินเวล 』เพศ หญิง อายุ 18 เผ่าพันธุ์ โนวาฟ อาชีพ ช่างตีเหล็ก เลเวล 63ฉายา 〘ดวงตาวิเคราะห์(ซ่อน)〙《พลังโจมตี》 91,390 《พลังป้องกัน》 86,330《พลังเวทย์》 76,210 《ความต้านทานเวทย์》 61,030《ความว่องไว》 30,515 《พละกำลัง》 91,390น
〝 พวกเราไปก่อนนะกร! 〞〝 อย่าพลาดสอบตกคนเดียวในกลุ่มซะล่ะ! 〞〝 ฮะฮ่ะ! เข้าใจแล้วน่า 〞 มีอาและเมอร์ลินโบกมือให้กรและแยกไปตามสนามสอบของตัวเอง ส่วนสนามสอบของกรนั้นคือ สนามฝึกซ้อมชั้นใต้ดินของกิลด์ จึงไม่จำเป็นต้องไปไหน〝 ว่าแต่ แล้วชาลอตหล่ะ? 〞เพราะเหลืออยู่แค่สองคน กรเลยถามชาลอตออกมาแบบนั้น〝 ดิฉันจะติดตามนายท่านไปด้วยค่ะ! 〞 ชาลอตตอบกลับด้วยแววตาเป็นประกาย แฝงไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น〝 งั้นเหรอ? 〞 กรถอนหายใจออกมาด้วยรอยยิ้ม ราวกับจะบอกว่า ช่วยไม่ได้ ก่อนจะตอบเธอไปแบบนั้น เพราะสนามสอบมันเป็นสนามฝึกซ้อม เลยทำให้มีอัฒจันทร์ไว้นั่งชมด้วย ชาลอตเลยตั้งใจจะตามไปให้กำลังใจเจ้านายเช่นกร แน่นอนว่าด้วยความเป็นห่วง แต่ที่จริงแล้วเธอกำลังสงสัยผลการสอบของกรมากกว่า...❖❖❖❖❖ ทันทีที่กรและชาลอตเดินตามบันไดมาพร้อมๆกับนักผจญภัยกลุ่มสอบเดียวกัน เพียงไม่ถึง 5 นาทีก็เดินทางมาถึงสนามฝึกซ้อมใต้ดิน... สนามฝึกซ้อมใต้ดินมีทั้งหมด 3 แห่งเรียงกันเป็นแนวเดียว โดยมีแหล่งกำเนิดแสงเป็นเพดานราวกับแสงจากสปอร์ตไลท์ และที่น่าตกใจก็คือ แต่ละสนาม มันมีขนาดพอๆ กับสนามฟุตบอลมาตรฐานเลยที
หลังจากที่กรได้ทำให้สนามฝึกซ้อมทั้งหมดเกิดความเสียหายเกินกว่าครึ่ง เหล่าพนักงานทุกคนก็พากันลงมาที่สนามฝึกซ้อมแห่งที่กรอยู่ในทันที และหากไม่ติดว่ากิลด์มาสเตอร์มีธุระอยู่เมืองอื่น เขาเองก็คงมาด้วยเช่นกัน...〝 ขอประทานโทษด้วยครับ!!! 〞กรโค้งคำนับให้กับพนักงานทุกคน รวมถึงนักผจญภัยทุกคนที่เข้ามามุงล้อมรอบตัวกร โดยมีชาลอตคำนับอยู่ด้านหลังของเขาไปพร้อมกันด้วย〝 ฮะฮ่ะ กะ โกหกใช่ไหมเนี่ย? นี่เธอเป็นคนทำงั้นเหรอ 〞เบลล่าหัวเราะออกมาแห้งๆ ด้วยความที่ยังตะลึงไม่หาย ทั้งที่รู้คำตอบดีอยู่แล้วแต่เธอก็ยังถามไปแบบนั้น ส่วนนึงก็เป็นเพราะเธอทำอะไรไม่ถูกและไม่รู้จะเริ่มยังไงดีนั่นแหล่ะ〝 ครับ... ขอโทษด้วยจริงๆ 〞กรที่ยังคงโค้งคำนับ ไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมา และยังคงตอบเบลล่าไปด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิดและกระวนกระวายใจ พนักงานทุกคนรวมถึงเบลล่า... และนักผจญภัยทุกคนต่างก็ทำอะไรไม่ถูกเมื่อกรเอาแต่คำนับอยู่แบบนั้น แต่ก็ยังมีบางคนใจกล้าเข้าไปถามถึงความแข็งแกร่งและชื่นชมกร แต่กรก็ทำแค่อ้าปากพะงาบๆเพื่อเลี่ยงที่จะตอบเท่านั้น เพื่อรอให้สถานการณ์คลี่คลาย กรและเบลล่า เหล่าพนักงานและนักผจญภัยจึง
หลังจากนั้นพวกเรา 4 คน ก็เดินไปที่เคาน์เตอร์แล้วก็ถามคุณเบลเรื่องการลงทะเบียน『กิลด์ปาร์ตี้』แล้วก็เหมือนเดิม เธอพาพวกเราเดินเข้าไปที่ห้องรับรองหลังเคาน์เตอร์เหมือนตอนที่มาสมัครเป็นนักผจญภัยไม่มีผิด แต่เป็นคนละห้องกับตอนนั้นหน่ะนะ〝 ว่าแต่ไม่คิดเลยแฮะ... ปกติคนเขาไม่ค่อยจะลงทะเบียนเจ้านี่กันหรอกนะ เพราะต่อให้สมัครไปแต่ถ้าไม่ดังพอจะมีคนส่งเควสให้มันก็เปล่าประโยชน์อยู่ดี〞 ในระหว่างที่นั่งกับโต๊ะตัวในสุด เบลล่าที่กำลังเตรียมเอกสารก็พูดแบบนั้นออกมา ให้พวกกรที่นั่งอยู่ตรงข้ามฟัง〝 แต่พวกผมดันกลายเป็นคนดังแล้วเนี่ยสิ 〞 กรพูดแบบนั้นออกมาด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่าย〝 ก็นั่นสิ... เธอนี่ช่างเลือกโอกาสจริงนะ 〞ไม่ใช่ว่าเพราะเป็นคนดัง เลยจะถือโอกาสเพิ่มรายได้หรอกครับคุณเบลกระผมแค่กังวลเรื่องเงื่อนไข ข้ออ้างการทำเควสของลูกจ้างหัวหมอต่างหาก〝 งั้นก็ทั้งสามคน เอาบัตรนักผจญภัยออกมาที 〞 ทันทีที่เบลล่าพูดจบ พวกกรก็นำบัตรให้กับเธอตามที่บอกในทันที〝 ว่าแต่... เธอ? 〞เบลล่าหันหน้าไปทางชาลอต แล้วถามออกมาแบบนั้น〝 ชาลอตค่ะ... ดิฉันไม่มีบัตรหรอกค่ะ ขอลงทะเบียนเป็น『ผู้ติดตาม』แทนก็แล้วกันนะคะ 〞 ชาลอตที่เข้าใจเจตนา
อือ....... เสียงครางของเด็กหนุ่มนามอุษณกรที่ยังคงหลับไหลไม่ได้สติ ดังขึ้นในตอนที่เช้าวันใหม่มาเยือน ราวกับจะเป็นสัญญาณบอกทางอ้อมว่า ยังไม่อยากลุกจากเตียงยังไงอย่างงั้น แม้ตามปกติแล้วร่างกายของกรจะไม่จำเป็นต้องนอนนานนัก ก็สามารถใช้ชีวิตได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เพียงแต่ไม่ใช่ในกรณีที่ไม่ปกติของกรนี้... ว่ากันว่าการนอน เป็นกิจกรรมที่ร่างกายและสมองพักผ่อน รวมถึงการจัดระเบียบความทรงจำ ซึ่งสาเหตุหลักที่กรต้องนอนก็มาจากอย่างหลังนั่นเอง อย่างที่รู้กันว่า กรนั้นได้เคยเผชิญกับนรกบนดินของทศกัณฑ์ ที่เรียกว่าเป็นลูปนรกก็ไม่ปานนั่นเอง ทำให้กรต้องรับภาระข้อมูลจำนวนมหาศาลกว่าแสนปีเข้าไป หากร่างกายของเขายังคงปกติ สมองคงระเบิดเพราะรับภาระความตึงเครียดทางจิตใจไม่ไหวแน่นอน กรจึงต้องอาศัยการจัดระเบียบความทรงจำนี้เองในการผ่อนคลายความเครียดนั้นโดยไม่รู้ตัว แถมยังเป็นการหลับลึกจนแทบไม่ได้ยินเสียงหรือรู้สึกอะไรจากภายนอกอีกต่างหาก เว้นแต่จะตื่นขึ้นมาในตอนที่ถึงเวลากระทบแสงแดดพอดี นั่นทำให้กรในตอนนี้เป็นคนตื่นยากแบบสุดๆ แม้ก่อนหน้าจะโดนลูปนรกนั่นกรมักจะนอนแบบรู้สึกตัวถึงสภาพแวดล้อมร
———— 1 สัปดาห์ต่อมา ชั้นที่ 2 ของมหาดันเจี้ยน『หอคอยแห่งปัญญา』 ณ ดันเจี้ยนชั้นพิเศษ ซึ่งถูกสร้างโดยอาเธนต่อจากชั้นที่ 1 อันเป็นชั้นที่เอาไว้หลอกคนทั่วไป ถูกสร้างขึ้นเพื่อการฝึกฝนและเก็บเลเวลโดยเฉพาะ หากแต่ผู้ที่จะใช้มันได้นั้น มีเพียงแค่กลุ่มของผู้ที่ผ่านการทดสอบที่แท้จริงแล้วเท่านั้นถึงจะเข้ามาในนี้ได้ ที่แห่งนี้ถูกแบ่งออกเป็นสามเขต อันได้แก่ เขตที่พักอาศัย เขตใช้ฝึก『บัญญัติพันประการ』 และสุดท้ายคือเขตที่ใช้สำหรับเก็บเลเวล... หรือก็คือ เขตมอนสเตอร์ทรงภูมิปัญญานั่นเอง ในพื้นที่ของเขตที่สามถูกสร้างให้เป็นพื้นกระเบื้องและเพดานหน้าตัดเรียบส่องแสงสีเขียว (Lime) พื้นที่โดยรอบมีวัตถุโปร่งแสงรูปทรงเรขาคณิต ทั้งสามเลี่ยม สี่เหลี่ยมไปจนถึงรูปทรงหลายเหลี่ยมกระจัดกระจายเต็มไปหมดทำให้ยากแก่การเคลื่อนไหว แต่กลับกันแล้ว มันทำให้ง่ายต่อการดำเนินแผนที่ซับซ้อนและแยบยล และเขตที่สามนี้เอง ที่มีหญิงสาวทั้ง 4 คน อันได้แก่ มีอา ซาช่า เรเชลและริต้า กำลังต่อสู้กับมอนสเตอร์จำนวนเท่ากันอยู่ มอนสเตอร์ทั้งสี่ตัวที่เป็นศัตรู มีหนึ่งตัวที่สวมผ้าคลุมสีดำ มีส่วนหัวเป็น
〝 คุณโรนี่กับราชา... นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย 〞 กรถามออกไปแบบนั้น ในเวลาเดียวกับที่ใช้『รีดดิ้งอายส์』ตรวจสอบบุคคลทั้งสองตรงหน้า แล้วก็ยิ่งประหลาดใจเข้าไปใหญ่เมื่อพบว่าทั้งคู่เป็นตัวจริง...〝 ทำหน้าแบบนั้นคงจะรู้แล้วสินะว่าพวกข้าเป็นตัวจริง... 〞ราชาพูดแทงใจดำพลางยิ้มออกมา ทำให้กรคิ้วกระตุกเพราะคาดการณ์เรื่องตรงหน้าไม่ทัน ในขณะที่กรคิดแบบนั้น ราชาก็เดินเข้ามาทางกร แล้วก็ใช้เวทย์บางอย่างเปลี่ยนใบหน้าตัวเองเป็นคนอื่น ไม่สิ... เปลี่ยนจากคนอื่นกลับมาเป็นตนเองคนเดิมต่างหาก ซึ่งที่เปลี่ยนไปนั้นมีเพียงโครงหน้าเท่านั้น แต่ความสูงอายุและริ้วรอยนั้นแทบไม่ต่างจากเดิมเลย แล้วก็หันไปสบตากับเมอร์ลินเข้า นั่นทำให้เธอเลิกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจ...〝 นายมัน อาเธนงั้นเหรอ!!!? 〞เมอร์ลินที่เห็นใบหน้าจริงของชายชราตรงหน้าก็จำได้ทันทีพร้อมทั้งเรียกชื่อจริงของเขาออกมาอย่างสนิทสนม โดยมีสายตางงงวยจากสาวๆคนอื่น แต่พอรู้ว่าคนน่าสงสัยตรงหน้าเป็นคนรู้จักของเมอร์ลิน การ์ดของพวกเธอก็คลายลงพอสมควร〝 แหมๆ ในที่สุดก็จำได้ซักทีนะแม่คุณ... ข้าหล่ะเจ็บช้ำไม่น้อยเลยนะ ตรงที่เจ้าบ
หลังจากเรื่องเมื่อวานเคลียร์กันจบในตอนเย็น กรได้ทำการเพิ่มฟังก์ชั่นหลบหนีฉุกเฉินใส่บัตรนักผจญภัยของเจนนี่ไว้ก่อนด้วย เผื่อในกรณีที่เกิดอันตรายกับเธอ เธอสามารถใช้มันวาร์ปมาหากรได้ทุกเมื่อ รวมถึงพาคนรู้จักอย่างไมน์กับรีเบคก้ามาด้วยก็ยังได้ จากนั้นพวกกรกับพวกไมน์จึงได้แยกกันกลับที่พักของตัวเอง อนึ่ง เจนนี่ตอนนี้นั้นอยู่สถานะของคนชื่อ『เบลนด้า อัลบา』 รูปลักษณ์ภายนอกที่คนอื่นเห็น เป็นคนผิวสีแทน ใบหน้าปานกลางค่อนไปทางแย่(จากความเห็นส่วนใหญ่ในกลุ่มของกร) แต่นั่นก็เพื่อไม่ให้เธอเป็นจุดเด่น เพราะหากจะว่าไปแล้วเจนนี่ในร่างธรรมดานั้นจัดว่าเป็นคนสวยมากเลยทีเดียว และด้วยการใช้บัตรนักผจญภัยอ้างถึงตัวตน ก็สามารถเข้าพักที่เดียวกับพวกไมน์ได้ แต่เธอเลือกที่จะพักคนละห้องแทนเพื่อไม่ให้เกิดข้อสงสัย (แต่สุดท้ายตอนนอนก็ย้ายมานอนห้องเดียวกันอยู่ดี) ส่วนทางด้านของกร พอกลับไปพวกกรก็รีบทำธุระส่วนตัว แล้วเข้านอนในทันที เพื่อสะสมพลังงานให้เต็มอิ่มก่อนที่จะออกรบในดันเจี้ยน『หอคอยแห่งปัญญา』 และเพื่อความไม่ประมาทช่วงเช้าทั้งหมด กรและพรรคพวกจะใช้เวลาไปกับการตร
〝 ไง ทั้งสองคน 〞 ในขณะที่ทุกคนแสดงสีหน้าตกตะลึงยังกับเห็นผีออกมา เจนนี่ก็เริ่มเป็นฝ่ายทักไมน์และรีเบคก้าก่อนด้วยรอยยิ้มในทันที〝 เจนนี่!!! 〞〝 อุ๊ยตาย!? 〞 ไมน์ที่เห็นแบบนั้นไม่รอช้าที่จะพุ่งเข้าไปสวมกอดเจนนี่อย่างเร็ว นั่นเองก็ทำเจ้าตัวอย่างเจนนี่ตกใจไม่น้อยเหมือนกัน〝 เจนนี่! เจนนี่จริงๆใช่ไหมเนี่ย? ไม่ใช่ผีหรือตัวปลอมใช่ไหม!? 〞ไมน์พูดแล้วก็ลูบๆคลำๆเจนนี่ไปทั่ว ทำเอาร่างเธอสั่นนิดหน่อยเพราะจักกะจี๊เลยทีเดียว〝 ยัยบ๊อง! ก็จับตัวกันได้อยู่ไม่ใช่รึไง? แล้วฉันก็ยังจำได้อยู่เลยนะว่าตรงก้นของรีเบคก้ามีไฝอยู่ด้วยหน่ะ 〞 เจนนี่พูดแบบนั้นออกมา ทำให้รีเบคก้าออกอาการหน้าแดง แล้วก็พุ่งเข้ามาสับกะโหลกเจนนี่เหมือนกับที่ผ่านมา〝 ฮึ่ย! ไอ้นิสัยพูดไม่คิดนี่ตัวจริงชัวร์ 〞รีเบคก้าพูดแล้วก็ใช้กำปั้นหมุนๆใส่ศีรษะของเจนนี่〝 โอ้ยๆ! เจ็บอ่ะรีเบคก้า ออมมือให้หน่อยเซ่! 〞 ทั้งสามคนหยอกล้อกันไปมาแบบนั้น ราวกับต้องการจะซึมซับและฟื้นคืนบรรยากาศที่ถูกทำลายไปให้กลับมาเหมือนเดิม แม้จะยังเคลือบแคลงสงสัย แต่ความอบอุ่นของภาพที่อยู่ตรงหน้าก็ทำให้ทุกคนลืมหลายเรื่องที่คิดอ
หลังจากที่งีบหลับไปประมาณ 3 ชั่วโมง ความเหนื่อยล้าทางจิตใจก็ดูจะลดลงไปบ้างเอาจริงๆ ต่อให้ลุยต่อทั้งอย่างงี้ก็ไหวอยู่หรอก แต่แค่นี้ทุกคนก็เป็นห่วงมากพออยู่แล้ว เพราะงั้นทำตามที่ทุกคนแนะนำเป็นการดีที่สุดทางริต้าเองยังคงหลับอยู่เลยปล่อยให้หลับต่อไปก่อนโดยให้เรเชลดูแลอยู่ข้างๆส่วนทุกคนเองดูเหมือนว่าจะไม่ได้หลับเลยในระหว่างที่ฉันพักแต่ก็ต้องขอบคุณในจุดนั้น เพราะในช่วงที่ฉันไปเจรจากับราชา ฉันต้องการที่จะไปคนเดียว...ก็แหม... ฉันไม่อยากให้ทุกคนเห็นท่าทางแย่ๆเท่าไหร่นี่นา〝 เพราะทุกคนเฝ้าฉันมาตลอดคงจะเหนื่อยแย่ ฉันเลยอยากให้พวกเธอพักรอฉันอยู่ที่นี่หน่ะ 〞พูดแบบนั้นออกไปทุกคนก็ทำหน้าถมึงทึงใส่ และแน่นอนว่าทุกคนทำท่าอยากจะไปด้วยกันหมดเลยใช้เวลาเกลี้ยกล่อมตั้งนานกว่าจะยอม แต่ก็เพราะทุกคนเป็นห่วงเรานั่นแหล่ะนะ น่าดีใจแท้ๆแต่ทุกคนก็ไม่อยากตื้อให้เราจนกังวลเกินไปเหมือนกันเพราะงั้นแค่รับปากว่าจะไม่ฝืนฉันก็ขอตัวมาได้แล้วหล่ะนะแล้วจากนั้นก็วาร์ปมาที่เมืองหลวง ในซอกตึกที่นึงใกล้ๆกับทางเข้าพระราชวังโห... มองดูจากตรงนี้ยังเห็นรูที่เจ้าชายมันทำพังไว้อยู่เลย...เดี๋ยวไม่สิ... เราเป็นคนทำนี่หว่า คง
หลังจากที่การแสดงของฉันดำเนินมาได้ซักพัก จุดจบก็มาถึงโดยที่ฉันเป็นคนจัดการปิดคดีได้อย่างดงามถึงช่วงกลางๆจะโดนคุณโรนี่แย่งซีนก็เถอะ แต่ตอนจบก็กู้หน้าคืนมาได้อ่ะนะ...จากนั้นริออนที่ถูกฉันต่อยจนสลบก็ถูกพวกฟรอนกับคาลอสคุมตัวไปส่วนไอ้ปีศาจนั่นฉันปล่อยให้มันหนีไปเองด้วยเหตุผลทางด้านผลประโยชน์ในอนาคตแต่ทางฝั่งนั้นอาจจะกำลังคิดว่าหนีฉันพ้นอยู่ก็ได้หล่ะนะ... แต่ปล่อยให้คิดแบบนั้นก็ดีเหมือนกันแล้วหลังจากเรื่องจบ ฉันก็ไม่อยู่รอดูสถานการณ์หรอกนะเพราะว่าเป็นห่วงทุกคน ฉันเลยรีบผละตัวออกมาในทันทีที่มีโอกาสก่อนหน้าที่จะออกมาก็มีถูกพระราชานัดพบเป็นการส่วนตัวด้วยอยู่ไม่มีเหตุผลให้ปฏิเสธ แล้วก็คงคิดจะคุยถึงเรื่องต่อจากนั้นนั่นแหล่ะเป็นไปตามแผนเลย ฉันคิดจะใช้โอกาสนี้ต่อรองกับราชาอยู่แล้ว…แล้วพอวิ่งออกมาถึงจุดนัดพบในซอกตึกรามบ้านช่อง ก็เจอกับทุกคนโชคดีไป... ดูเหมือนทั้งมีอา เมอร์ลิน ชาลอต ซาช่า จะไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลย โล่งอกไปที...กลับกันแล้วพวกเธอเป็นห่วงฉันสุดๆเลยชาลอตก็เอาแต่บอกว่า〝 นายท่านอย่าเสี่ยงไปคนเดียวแบบนั้นอีกเลยนะคะ! 〞ส่วนซาช่าก็〝 ตอนที่นายท่านกระโดดเข้าไปหาลูกบอลแปลกๆนั่น...
〝 อั๊ก!!! 〞 เจ้าชายออริออน... ริออนกุมมือขวาของตัวเองด้วยความเจ็บปวด เพราะได้รับผลกระทบจากการถูกยิง ต้องบอกว่าโชคดีเท่าไหร่แล้วที่อัญมณีรับความเสียหายแทนไปเกือบหมด ไม่งั้นมือของเขาคงขาดไปแล้วด้วยซ้ำ แต่ก็เพราะความเจ็บปวดที่แล่นจากมือขวาไปสู่ทั่วทั้งร่างนี่แหล่ะ ทำให้ริออนดึงสติของตัวเองกลับมาได้อีกครั้งวูม!!!!!!———〝 อะ อา.... 〞 ริออนรำพึงอยู่ในลำคออย่างน่าเวทนา ในตอนที่แสงสีแดงจากวงเวทย์สว่างน้อยลงพร้อมๆกับวงเวทย์ขนาดใหญ่ที่ค่อยๆจางหายไปจากท้องฟ้ายามค่ำคืน จนในที่สุดแสงสว่างสีแดงฉานก็อันตรธานหายไปจากท้องฟ้า เช่นเดียวกับวงเวทย์ขนาดมหึมา ทำให้แสงจันทร์ส่องลงมาถึงพื้นดินอีกครั้ง แต่ยังคงมีเสียงเจี๊ยวจ๊าวเนื่องด้วยความสับสนของชาวเมืองอยู่บ้าง แต่แน่นอนว่าทุกคนปลอดภัยดีแล้ว และไม่มีใครได้รับผลกระทบจนถึงขั้นเสียชีวิตเลยซักคน ความสิ้นหวังเข้าคลุมสติของริออนในพริบตา อย่างที่เขาว่าไว้… เมื่อพริบตาที่ความหวังใกล้จะสัมฤทธิ์ผลถูกทำลายลง นั่นคือความสิ้นหวังอย่างที่สุด... และนั่นก็ทำให้สีหน้าของริออนเปลี่ยนจากสิ้นหวังไปเป็นอาฆาตแค้นแทน แ
〝 น่าตกใจจริงๆ… นี่รู้อยู่แล้วหรอกเหรอว่าข้าเป็นคนร้าย? 〞 เจ้าชายลำดับที่หนึ่ง... เจ้าชายออริออนถามกรออกมาด้วยแววตาและท่าทางหยิ่งยโส พร้อมกับเป็นการยอมรับข้อกล่าวหาไปในตัว ว่าตัวเองคือคนร้ายตัวจริง ในขณะที่มองกรลงมาจากเบื้องบน〝 ก็นะ... เพิ่งจะรู้ตัวเมื่อไม่นานมานี้เองแหล่ะ แสบจริงนะให้ตายสิ... 〞กรพูดออกมาพร้อมกับยิ้มแห้งๆ แล้วก็เดินเข้ามาทางเจ้าชายออริออนมากกว่าเดิม เหล่าสมุนเล็บโลหิตตั้งท่าเตรียมพร้อมโจมตีกันเต็มที่ แต่ยังไม่มีใครกล้าเริ่มโจมตีกรก่อน ทั้งด้วยความกลัวพลังที่ต่อกรกับพวกของตนระหว่างทางได้อย่างง่ายดาย แถมผ่านมาได้อย่างไร้รอยขีดข่วนก็ด้วย แต่ประเด็นสำคัญคือจิตสังหารอันหนักอึ้ง ราวกับถูกน้ำตกซัดสาดนั่นของกรต่างหาก ที่ทำให้พวกเขาไม่กล้าขยับตัว〝 งั้นขอเข้าเรื่องเลยละกัน... 『อุปกรณ์ตัวหลัก』 อยู่ที่ไหน? 〞 กรเปลี่ยนสีหน้าเป็นจริงจังยิ่งกว่าเดิม พร้อมกับน้ำเสียงเย็นยะเยือกจนน่ากลัว นั่นทำให้เหล่าเล็บโลหิตจำนวนเกินครึ่งยืนตัวสั่นได้ ไม่สิ... แม้แต่ชายเผ่าปีศาจที่ยืนอยู่ข้างๆเจ้าชายออริออนยังแอบสั่นเลยด้วยซ้ำ มีเพียงโรนี่ที่ใจเย็
หลังจากที่แอบย่องขึ้นมาบนชั้นสอง แล้วมองลอดเข้าไปในห้องที่จับสัมผัสวิญญาณได้พวกเราก็เจอกับเด็กผู้หญิงกำลังนั่งอยู่บนขอบระเบียงเป็นภาพที่น่าแปลก... เพราะเธอคนนั้นโปร่งแสงจนมองทะลุไปถึงท้องฟ้าที่เป็นฉากหลังเลยเนี่ยสิถ้างั้นก็ไม่ต้องสงสัย... เด็กคนนั้นคือวิญญาณที่กำลังตามหาอยู่แน่นอน กรคิดแบบนั้นพลางมองไปยังเด็กสาว ส่วนทางเด็กสาวนั้นกลับหันมามองทางกรในเวลาเดียวกัน〝 เอ่อ... ไม่ต้องหลบหรอกนะคะ คือหนูเห็นตั้งแต่เข้ามาในคฤหาสน์แล้วหล่ะค่ะ 〞เสียงกังวานของเด็กสาวพูดขึ้นมา โดยในน้ำเสียงมีความเอียงอายเล็กน้อย แล้วพอเด็กสาวพูดแบบนั้น กรก็ให้สัญญาณทุกคนเดินตามหลังเขาเข้ามาในห้องทันที〝 เข้าใจหล่ะ โทษทีนะที่บุกรุกเข้ามา 〞เมื่ออีกฝ่ายพูดอย่างสุภาพ ก็เป็นมารยาทเช่นกันที่กรจะตอบกลับไปแบบเดียวกัน〝 ไม่หรอกค่ะ... เอาจริงๆในรอบ 10 ปีมานี้มีคนเข้ามาในคฤหาสน์นับคนได้เลยหล่ะค่ะ มีคนบ้างแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน 〞เด็กสาวยิ้มตอบกรอย่างเป็นมิตร พร้อมกับลอยตัวจากขอบระเบียงมายืนอยู่ด้านหน้าของพวกกร สภาพแบบนั้นทำเอาพวกกรประหลาดใจไม่น้อย เว้นเสียแต่ซาช่าที่กำลังยืนตัวสั่นอยู่〝 นี่เธอเป