———— เช้าวันต่อมาหลังจากเหตุการณ์เมื่อวานที่ฉันคบเป็นคนรักกับทุกคน ทุกอย่างก็ดูเป็นไปได้ด้วยดีกว่าที่คิดอีกและที่สำคัญ... เมื่อวานพวกเราคุยกันซะไม่บันยะบันยังและนั่นทำให้รู้จักกันยิ่งกว่าที่เป็นอยู่ในตอนนี้ซะอีกและมันจะพัฒนาไปยิ่งกว่านี้อีกแน่นอนแต่ถ้าจะพูดถึงเหตุการณ์น่าตื่นเต้นเมื่อวานหล่ะก็ คงเป็นเรื่อง『กฎในครอบครัว』ของพวกเราที่ตั้งขึ้นมาเมื่อวานหล่ะนะหนึ่งก็คือ ต้องจูบอรุณสวัสดิ์กันทุกเช้าหลังตื่นนอน และจูบราตรีสวัสดิ์ก่อนนอนทุกคืน...โคตรดีเลยอันนี้ เหมือนฉันได้ประโยชน์เต็มๆเลยแฮะ ถึงจะน่าเสียดายที่ต้องเริ่มกฎข้อนี้ตอนเย็นแทนก็เถอะสองก็คือ ต้องไม่มีเรื่องปิดบังกัน ถ้ามีปัญหาหรือข้องใจจะช่วยกันแก้ในทันทีอืม อันนี้ค่อยธรรมดาสมเป็นครอบครัวปกติหน่อย...สาม ห้ามเกรงใจกัน...ไม่เช่นนั้นระยะห่างของพวกเราอาจจะกว้างขึ้นกว่านี้อันนี้มันเหมือนธรรมเนียมมากกว่ากฎอ่ะนะ และมันถูกสร้างโดยเมอร์ลินสงสัยยังติดใจเรื่องที่ฉันแอบไปทำแบบนั้นกับมีอาอยู่แหงๆเลยแฮะ... เริ่มรู้สึกผิดขึ้นมาเลยข้อสี่... อันนี้เป็นกฎของพวกผู้หญิงอ่ะนะเป็นสัญญาลูกผู้หญิงที่ว่า นอกจากจะรักฉันที่สุดแล้ว... ในหมู่ผู้ห
———— เช้าตรู่วันต่อมา ณ สถานที่แห่งหนึ่ง ที่ซึ่งมีลักษณะเหมือนกับกระดานหมากรุกขนาดใหญ่ราวๆ 100 ตารางเมตร แต่ไร้ซึ่งตัวหมาก ใดๆ โดยที่ด้านนอกของเขตหมากรุกเป็นสิ่งที่คล้ายกับกลุ่มเมฆ หากมองดูจากภายนอกได้ มันก็คงจะเหมือนกับกระดานหมากรุกที่ลอยอยู่เหนือเมฆนั่นแหล่ะ เพียงแต่การทำแบบนั้น ไม่สามารถทำได้ เนื่องด้วยความที่มันถูกสร้างขึ้นให้โดนจำกัดเขตใช้งานแค่ในบริเวณกระดานเท่านั้น พื้นที่นอกเหนือจากนั้นจึงคล้ายกับของประดับตกแต่งมากกว่า มองลงไปยังกระดานและเจาะรายละเอียด... แล้วก็จะพบเข้ากับเด็กสาวร่างเล็กผมยาวสีน้ำตาลและผูกส่วนที่เหลือเป็นโพนี่เทลด้านขวา สวมชุดที่ดูเคลื่อนไหวง่ายและค่อนข้างเปิดผิวกายให้เห็นโดยเฉพาะช่วงสะดือและต้นขา และจะเป็นใครไปไม่ได้เลย นอกจากคาเรน... หนึ่งในแฟนสาวของกร และเธอก็กำลังต่อสู้อยู่กับบางสิ่งอยู่...ตึก! ตึก! ตึก!———— สิ่งนั้นคือ หุ่นไม้ที่สามารถขยับได้ตามโปรแกรมที่ผู้ฝึกวางไว้ และสิ่งนั้นกำลังพุ่งเข้าหาคาเรนด้วยความเร็วพอๆกับนักกรีฑามืออาชีพอยู่〝 ฮึ่ย! ย้ากกกก! 〞 คาเรนที่เห็นหุ่นฝึกพุ่งตัวเข้ามาแบบนั้น ก
————วันต่อมา ณ ราชอาณาจักรอาลัน , ห้องสมุดประจำวังหลวง ในช่วงบ่ายของวันอันร้อนระอุ... ที่แห่งนี้คือที่ที่รวบรวมหนังสือจากทั่วทั้งอาณาจักรเอาไว้ ซึ่งทั้งหมดคือต้นฉบับทั้งสิ้น โดยปกติแล้วที่แห่งนี้อนุญาตให้ใช้ได้เฉพาะราชวงศ์หรือขุนนางระดับสูงเท่านั้น แต่ในเวลานี้ กลับมีเด็กหนุ่มคนนึง ที่ไม่ว่าจะมองยังไงก็ดูเป็นคนธรรมดา จากการที่สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวและกางเกงขายาวสุภาพนั้น เด็กหนุ่มสวมแว่นที่ดูท่าทางภูมิฐาน ผู้ซึ่งกำลังอ่านหนังสือเป็นกองจำนวนมากอยู่ในจุดที่เงียบสงบที่สุด... เขาคนนี้ก็คือ ชาญ เพื่อนสนิทเพียงไม่กี่คนของกรนั่นเองเป็นเวลามากกว่าหนึ่งเดือนแล้ว ที่กร... หมอนั่นได้ตายไปจากทุกคนอย่างน้อยก็สำหรับอาณาจักรนี้เพียงแต่ความจริงแล้ว หมอนั่นยังไม่ตายด้วยรหัสลับที่เหลือทิ้งไว้ให้เรา...เพียงแต่... หนึ่งเดือน...มันนานมากเกินไป... ข่าวคราวเกี่ยวกับหมอนั่นทางนี้กลับไม่รู้อะไรเลยยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ ความตึงเครียดของพวกเราก็ยิ่งเพิ่มขึ้นนั่นเพราะยิ่งนายอยู่ในดันเจี้ยนนั่นนานเท่าไหร่ โอกาสรอดของนายก็ยิ่งต่ำลงเรื่อยๆให้ตายสิ....อยากจะตบกบาลแกซักรอบจริงๆ
————1 สัปดาห์ต่อมา ณ อาณาจักรบาซิลเลียส , เมืองหลวง หลังจากเหตุการณ์ที่กรโด่งดังไปทั่วโลกเมื่อหนึ่งสัปดาห์ที่แล้ว ทั่วโลกก็เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ขึ้น แต่ที่สำคัญคือ ทุกคนเริ่มคาดหวังในตัวกรและปาร์ตี้『DarkNight Sirius』อย่างจริงจัง เนื่องจากในเนื้อข่าว กรได้ประกาศอย่างโจ่งแจ่งและชัดเจนไปว่า เป็นปาร์ตี้ที่มีเป้าหมายเพื่อพิชิตมหาดันเจี้ยน นั่นคือสิ่งที่สังคมคาดหวังและสิ่งที่โลกเปลี่ยนไปตามการกระทำของชายผู้นี้ที่มีชื่อว่า กร แต่ท่ามกลางข่าวคราวเช่นนั้น... ตัวของเขา ผองเพื่อน และคนรู้จักก็ยังคงใช้ชีวิตไปตามปกติอยู่ดี... รวมถึงกรและคาเรนที่อยู่ที่นี่... 『เรือนจำหลวงประจำเมืองหลวง』ก็ด้วย〝 แล้วสรุป... ก็เลยจะออกเดินทางกันวันนี้หล่ะสินะ 〞 ชายคนที่กรมาเยี่ยมรวมกับคาเรนถามออกไปแบบนั้นผ่านโทรศัพท์สื่อสาร... เขาคือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีเมื่อหนึ่งเดือนก่อน และเป็นพ่อของเด็กสาว... พ่อของคาเรนหรือก็คือ ยูจินนั่นเอง ในขณะนี้กำลังนั่งอยู่อีกฝั่งนึงของกระจกเยี่ยมนักโทษ และคุยกันโดยใช้โทรศัพท์เวทย์ซึ่งใช้ติดต่อกันได้เฉพาะที่ ราวกับถอด
บทที่ 3 『 Chaos of Six Stars 』ความวุ่นวายแห่งหมู่ดาราทั้งหก❖❖❖❖❖ตึก ตึก ตึก ตึก ตึก ตึก————〝 แฮ่ก! แฮ่ก!———— 〞 เสียงฝีเท้าของใครบางคนดังขึ้นอย่างต่อเนื่องราวกับกำลังหนีบางอย่าง พร้อมกับเสียงหายใจหอบอย่างต่อเนื่องพอๆกัน ดังกึกก้องไปทั่วทางเดินแคบๆในตัวอาคารสมัยใหม่ วัสดุทั้งหมดเป็นเหล็กเงาสะท้อนแสงจากหลอดนีออนที่อยู่บนศีรษะ และนั่นทำให้มองเห็นเส้นทางได้สะดวก แม้ที่นี่จะอยู่ใต้ดินก็ตามที〖 แยกด้านขวามีการ์ด! พุ่งไปด้านหน้าก่อนค่อยเลี้ยวซ้ายแยกต่อไป 〗〝 ระ รู้แล้ว! 〞 ชายแก่ได้ตอบกลับเสียงโอเปอร์เรเตอร์สาวจากหูฟังไร้สายขนาดเล็กที่เขาสวมอยู่ พร้อมกับทำตามที่เธอบอกปัง! ปัง!〝 Sh*t! 〞 ทันทีที่ผ่านแยกของทางเดิน การ์ดที่กำลังสวมชุดทหารเต็มยศก็ใช้ปืนพกยิงใส่ชายแก่ และฉิวเฉียดไปแค่เส้นยาแดงผ่าแปด การ์ดจึงสบถแบบนั้นออกมาอย่างหงุดหงิด ก่อนที่ชายแก่จะพุ่งตัวหลบไปทางแยกซ้ายได้ตามแผนอย่างหวุดหวิด〖 ตรงไปเรื่อยๆเลย ขอโทษที่ใช้แรงงานคนแก่นะคะ 〗〝 ถ้าคิดงั้นก็อย่าให้ฉันมาลงภาคสนามสิ! 〞 ชายแก่ตะโกนกลับอย่างหงุดหงิด พร้อมกับวิ่งอย่างทุลักทุ
————ป่าทางตะวันออก แถบชายแดน , ราชอาณาจักรอาลัน ภายในป่าทึบ ท่ามกลางแสงยามบ่ายที่สาดส่องลงมาผ่านช่องว่างของใบไม้ ซึ่งมีเพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่ลงมากระทบถึงพื้น นั่นทำให้ป่าแห่งนี้เรียกได้ว่ามืดมิดพอสมควรราวกับเป็นช่วงพลบค่ำก็ไม่ปาน ด้วยความมืดที่ทำให้ทัศวิสัยแย่แบบนั้นจนเรียกได้ว่าอันตรายแล้ว แต่นั่นเป็นเพียงเหตุผลหนึ่งเท่านั้น เพราะสิ่งที่เรียกว่าอันตรายจากป่าแห่งนี้นั้น มีสาเหตุหลักมาจาก...ตึง! เสียงฝีเท้าหนักๆของบางสิ่งดังขึ้นในเงามืดของป่า... รูปร่างอ้วนท้วม แต่สูงร่วม 3 เมตร ผิวกายสีเทา ใบหน้าราวกับหมูมีเขี้ยว สวมชุดเกราะเหล็กหนักไว้ทั่วทั้งตัว พร้อมกับอาวุธคู่กาย... ดาบขนาดความยาว 4 เมตรสองคม... ใช่... สิ่งนี้นั้นคือ มอนสเตอร์ และหากจะใช้สามัญสำนึกของที่นี่เรียกมันด้วยชื่อเฉพาะ มันก็คือ 『ออร์ค』นั่นเอง แถมจากชุดเกราะและอาวุธ รวมถึงท่าทางราวกับทหารศึกของมัน ทำให้ระดับความอันตรายของมันประมาณระดับ A ได้เลยทีเดียว แถมยังมาเป็นกลุ่ม 3 ตัวอีกต่างหาก และนั่นแหล่ะคือสาเหตุหลักที่ทำให้ป่าแห่งนี้มีอันตราย และย
ตัวฉันมักจะฝันเห็นมันบ่อยๆ... ความทรงจำในอดีต...และจะยิ่งบ่อยขึ้นเมื่อนึกถึงเรื่องที่ตัวเองอยากจะเป็นมาตลอดอย่าง『ฮีโร่』นั่นหน่ะ...มันเป็นยังไงหน่ะเหรอ? ทันทีที่กรคิดแบบนั้น... ราวกับประชดประชันกัน ม้วนความทรงจำที่อยากจะลืมก็ถูกฉายขึ้นในสมองของเขา และสติของเขาก็ดำดิ่งลงไปกับมันเสมือนกลับไปอยู่ในเหตุการณ์เหล่านั้นอีกครั้งภาพของฉันที่กำลังสวมเสื้อฮู้ดสีดำสนิท ด้านหลังของเสื้อเป็นรูปใบหน้ายักษ์สีเขียว... ท่ามกลางสายฝนยามเย็นที่มืดมิดและภายใต้ฮู้ด คือใบหน้าที่ไม่คิดอะไร ราวกับคนที่ตายไปแล้วของฉัน...ว้าวุ่น? กังวลใจ? ภูมิใจ? สุขใจ? ทุกข์ใจ? รู้สึกผิด? สับสน?บางที คงจะเป็นทุกอย่างนั่นรวมกันหล่ะมั้ง...ตัวฉันยกหมัดขวาของตัวเองขึ้นมาเพื่อมองดูมันให้ชัดๆมีรอยช้ำและรอยเลือดอยู่... แต่ไม่ใช่เลือดของฉัน... กรคิดแล้วก็เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย แล้วก็ต้องเบิกตาโพลง... เพราะทันทีที่มองไปรอบๆตัวของตัวเอง เขาก็พบว่า... มีเหล่าชายฉกรรจ์มากกว่าร้อยคนนอนหมดสติอยู่รอบๆตัวของเขาเต็มไปหมด ทั้งที่รู้จักและไม่รู้จัก ทั้งที่จำหน้าได้และไม่ได้... ทุกคนต่างถูกกรโ
〝 แหมๆ อะไรกันพี่กร เรื่องเป็นแบบนั้นเองหรอกเหรอ ฮะฮะฮะ 〞ศรที่เข้าใจเรื่องทั้งหมด (ซึ่งกรแถไปว่าทุกคนกลัวพวกเอลฟ์)แล้ว ก็หัวเราะร่าออกมา หลังจากที่เกิดเหตุการณ์น่าสะเทือนขวัญเมื่อครู่ กรก็ให้ศรเข้ามานั่งในรถลีมูซีนของเขาในขณะที่เดินทางไปยังเมืองหลวงเพื่อปรับความเข้าใจเสียใหม่ ใช้เวลาอธิบายไปถึงครึ่งชั่วโมงกว่าจะเข้าใจส่วนเรื่องที่ทำไมศรถึงโผล่มาเจอกับฉันกลางทางได้นั้นเป็นเพราะหมอนี่อยากจะมาเซอร์ไพรซ์ฉัน และก็อยากเจอฉันเร็วๆนั่นแหล่ะซึ่งโดยผลลัพธ์แล้วก็เซอร์ไพรซ์จริงๆนั่นแหล่ะ ทั้งฉันทั้งหมอนั่นเลย...ถึงความหมายจะเป็นคนละอย่างกับที่อยากให้เป็นก็เถอะ อนึ่ง... ห้องรวมพลที่เป็นโต๊ะสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ และมีเก้าอี้บุนวมยาวอย่างดีอยู่สี่ตัว ตอนนี้มีตัวนึงเป็นที่ไว้สำหรับศรและอัศวินเผ่าเอลฟ์สาวอีกคนนึงนั่งด้วยกัน ส่วนอีกสามตัวเป็นที่นั่งของกรและสาวๆ ทุกคนมีน้ำดื่มที่ตัวเองชอบกันคนละแก้วในขณะที่สนทนาเรื่องต่างๆ และถึงแม้สาวๆจะทำตัวไม่ถูกเพราะอีกฝ่ายเป็นคนแปลกหน้า แต่พอเห็นกรคุยกับศรด้วยท่าทีสนุกสนานแล้ว ก็อดดีใจไปด้วยไม่ได้เหมือนกัน และดูเหมือนเอลฟ์สา
หลังจากที่รินกับอลิซลุกหายไป กรก็ช็อคอยู่ราวๆนาทีครึ่ง〝 เมอร์ลิน ขอทางหน่อย 〞พริบตาที่เรียกสติกลับมาได้กรก็ลุกขึ้นยืนขอทางเมอร์ลินในทันที แต่ทางเมอร์ลินกลับยืดขาซ้ายมาขวางไว้ก่อน〝 พวกเธอกำลังช็อคอยู่นะ ไม่ต่างจากนายเลย... ไปแล้วคิดว่าสถานการณ์จะดีขึ้นรึไง? 〞 เมอร์ลินพูดแบบนั้นพร้อมกับจ้องตากรด้วยสายตาจริงจัง นั่นทำให้กรไหล่กระตุกเลยทีเดียวรู้อยู่แล้ว... เรื่องนั้นอยู่แล้วน่า!แต่นั่น... ยิ่งปล่อยให้นานไปมันจะยิ่งแย่ไม่ใช่รึไง?ต้องรีบปรับความเข้าใจกันให้เร็วที่สุดนอกจากทางนี้ ฉันก็คิดวิธีแก้อื่นไม่ออกแล้วนะ!〝 ไม่หรอก... ฉันเห็นด้วยกับกรนะ 〞มีอาพูดแบบนั้นขึ้นมา ก่อนที่จะจับข้อมือขวาของกรไว้แน่น〝 ก็จริงที่มันไม่ง่าย... แต่ฉันว่าวิธีที่ดีที่สุดคือกรต้องจริงใจกับพวกเธอ บอกความรู้สึกของตัวเองออกไป แค่นั้นก็พอแล้วหล่ะ! 〞 มีอาว่าแบบนั้นกรก็เบิกตาโพลงขึ้นเล็กน้อย ราวกับมีเทพธิดาชี้ทาง อีกทางนึง... เมอร์ลินเองที่เห็นด้วย เพียงแต่อยากให้กรใจเย็นลงกว่านี้ก็จ้องตากรตรงๆอีกครั้ง〝 บางทีคงทะเลาะกันแน่ แต่มันก็ยังดีกว่าคุยกันไม่รู้เรื่องหรือไม่ได้คุย...
หลังจากที่กรจัดการแม่ทัพของอีกฝ่ายได้ นั่นเป็นตอนที่สงครามระหว่างอาณาจักรอาลันและกองทัพราชาปีศาจจบลง แมมม่อนที่เป็นขุนพลคนนำทัพหลักเสียชีวิต ส่วนลูซิเฟอร์หนีไปได้ เหล่าผู้กล้าและปีศาจที่มีชีวิตรอดตกเป็นเฉลยสงครามด้วยเวทย์พันธะ ทำให้เป็นทาสดังที่กรคาดไว้ โดยให้เหล่าผู้กล้าที่มีเวทย์และพลังโกงใกล้เคียงกันเป็นคนจัดการ(เพราะถูกกล่าวอ้างไว้ว่าถ้าไม่ยอม กรจะเป็นคนจัดการ) ส่วนทางฝั่งอาณาจักรอาลันที่เป็นฝ่ายตั้งรับนั้นสูญเสียทั้งกำลังพลและประชาชนไปเป็นจำนวนกว่าครึ่ง บ้านเมืองและหมู่บ้านแถบชายแดนมาจนถึงเมืองหลวงทั้งหมดยกเว้นทิศตะวันออก เพราะฉะนั้น จะเรียกว่าเป็นชัยชนะของฝ่ายอาณาจักรอาลันก็คงพูดได้ไม่เต็มปากนัก แถมที่รอดมาได้ยังเป็นเพราะได้รับความช่วยเหลือจากคนนอกอย่างพวกกรอีกด้วย นั่นเป็นเหตุผลที่หลังจากสงครามจบลงเพียงชั่วโมงเดียว ราชาเซารัสแห่งอาณาจักรบาซิเลียสก็เรียกพบกรในทันที...❖❖❖❖❖〝 ก่อนอื่นข้าขอต้อนรับกลับท่านอุษณกร วัชรวิรุฬห์... และขอกล่าวขอบคุณในนามของราชาแห่งอาณาจักรอาลันแทนทุกคนในที่นี้ ข้าขอขอบคุณท่านจากใจจริง 〞ราชาเซารัสว่าแบบนั้นแล้วก็ก
———— ก่อนหน้านี้ 10 นาที ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้เล็กน้อย ในเวลาที่กรเพิ่งพักฟื้นหลังจากการต่อสู้กับจิ๋นหลี่ และได้รับการแจ้งข่าวจากภูติน้อย ที่เป็นข้ารับใช้คอยเฝ้าระวัง〝 รินกับอลิซ ถูกโจมตี? 〞 กรได้ยินแบบนั้นแล้วก็ถึงกับตาค้างช็อคไปเลยทีเดียว ใจหายจนหล่นไปถึงตาตุ่มก็ไม่ปาน ใช้เวลาไปถึง 1 วินาทีซึ่งถือว่านานมากสำหรับกรในการเรียกสติตัวเองกลับคืน ก่อนที่จะลุกพรวดขึ้นพุ่งไปยังประตู แต่ว่า...〝 หยุดก่อนค่ะคุณกร!!! 〞〝 สภาพแบบนั้นไม่ไหวหรอกน้องกร! 〞เรเชลกับลิลิธพูดขึ้น ก่อนที่จะพุ่งตัวไปตะครุบกรไว้กับพื้น ทำให้ซิลเวีย ยูมิน่าและฟลอร่าทำอะไรไม่ถูกเลยทีเดียว〝 ปล่อยนะ! ฉันต้องไปเดี๋ยวนี้ ไม่มีเวลาแล้ว! 〞〝 ดูสภาพตัวเองก่อนเถอะค่ะ! 〞〝 นายท่านล้าจะแย่อยู่แล้ว! 〞 ตามด้วยชาลอตกับซาช่าที่เข้ามากดแขนของกรไว้คนละข้างโดยไม่สนคำทัดทานของกร ตามด้วยคาเรนที่กระโดดเข้ามาทับร่างไว้พร้อมๆกับริต้า แน่นอนว่าถ้ากรเอาจริงก็คงสลัดหลุดได้สบายๆ แต่ทำแบบนั้นในสถานการณ์แบบนี้คงมีแต่จะแย่ลงซะเปล่าๆ เพราะมันไม่ต่างจากการมองข้ามความหวังดีของเหล่าแฟนสาวเลยซักนิด สำหรับกร
———— เช้าวันต่อมา ณ อาณาจักรอาลัน , เมืองหลวง ภายในวังหลวง... ณ ห้องบัญชาการรบขนาดใหญ่ มากพอจะบรรจุคนได้มากกว่า 100 คน ทั้งห้องถูกประดับด้วยเชิงเทียน เฟอร์นิเจอร์หรูหรา ภาพวาดต่างๆ แต่นั่นคงไม่สำคัญเท่ากับบรรยากาศตึงเครียดที่ถูกแผ่ออกมาจากคนที่อยู่ในห้อง อนึ่ง ในห้องมีโต๊ะไม้ขนาดยาวตั้งเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า โดยมีพื้นที่เป็นด้านกว้างสำหรับเก้าอี้ 5 ตัว และด้านยาวสำหรับเก้าอี้ 10 ตัวอยู่ โดยที่ในสุดมีคนนั่งอยู่สองคนบนเก้าอี้ที่ดูหรูหรากว่าคนอื่น ตรงกลาง คือ ราชาแห่งอาณาจักรอาลัน คนเดียวกับที่นั่งบนบัลลังก์ครั้งเมื่อต้อนรับการมาจากต่างโลกครั้งแรกของพวกกร... ราชาเซารัส และอีกคนนึงก็คือเจ้าหญิงคริสติน คนเดียวกับที่ชอบเข้าไปอ่านหนังสือกับชาญในห้องสมุดนั่นเอง ด้านข้างสองฝั่งเต็มไปด้วยทหารระดับผู้บัญชาการ 2 ใน 3 จากทั้งหมดและข้าราชการระดับสูง โดยที่ใกล้มือขวาของราชาเซารัสที่สุด แน่นอนว่าคือหัวหน้าอัศวินอย่างฮันซี่ สายตาทุกคนจับจ้องไปยังคนสองคนที่ยืนอย่างหงอยๆอยู่ตรงหน้าประตู หรือก็คือตรงข้ามกับราชาเซารัส... ชาญและฟ้าในชุดพร้อมรบ〝 ว่าไงนะ!!! ไอ้หมอนั่
———— 1 วันก่อน ณ อาณาจักรอาลัน , ชายแดนประเทศตะวันออก ณ หมู่บ้านชายแดนตะวันออก อันประกอบไปด้วยทุ่งหญ้าสุดลูกหูลูกตา ไร่นาอันเต็มไปด้วยพืชผล ท้องทุ่งที่เต็มไปด้วยปศุสัตว์ และบ้านเรือนที่เต็มไปด้วยผู้คน... ทว่าตอนนี้ภาพความสงบสุขเหล่านั้นกำลังถูกแทนที่ด้วยไร่สวนที่พังทลาย ซากศพของสัตว์ป่าที่คล้ายวัวเลี้ยง บ้านเรือนที่ถูกเผาไหม้ดำเป็นตอตะโก ผู้คนที่หนีไม่ทันเองก็กลายเป็นร่างไร้วิญญาณข้างถนน โดยมีต้นเหตุคือ เหล่ามอนสเตอร์หลากประเภท สวมชุดเกราะหนักและเบา พวกมันยิ้มเยาะเย้ยให้กับสภาพของหมู่บ้านที่พวกมันเป็นคนก่อ ในขณะนั้น กลุ่มหลักของพวกมันอันประกอบไปด้วยออร์คสวมชุดเกราะหนักและสมุนก็อบลินสวมชุดเกราะเบาอีก 5 ตัว ได้เข้ารุมล้อมมนุษย์สองคนสุดท้ายที่เหลืออยู่ นั่นคือแม่ลูกที่กำลังนั่งสั่นกับพื้น ชิดติดกำแพงปิดตายโดยที่ถูกมอนสเตอร์ทั้ง 6 ตัวที่ว่าปิดทางออกเพียงหนึ่งเดียวไว้ หญิงสาวผู้เป็นแม่กอดร่างของลูกสาวแน่นด้วยความกลัวทั้งน้ำตา เพราะรู้แก่ใจดีว่ายังไงก็คงไม่รอด ออร์คที่เห็นดังนั้นแสยะยิ้มออกมาอีกครั้งอย่างน่ารังเกียจ ก่อนที่จะเงื้อข
————สองวันต่อมา ณ เมืองหลวงฟอเรสเตอร์ , ห้องรับรองในปราสาท ภายในห้องรับรองสำหรับแขกชั้นสูงของปราสาท ซึ่งมีลักษณะไม่แตกต่างจากที่เคยเห็นเท่าไหร่นัก เตียงสีขาวขนาดใหญ่แบบมีหลังคา มีพื้นที่พอจะนอนได้ประมาณ 3 คน มีเฟอร์นิเจอร์จำพวกโซฟาหนังสัตว์และเครื่องเรือนมีราคาอยู่มากมาย แต่นั่นคงไม่สำคัญเท่าคนที่อยู่ภายในห้องนี้ มีอา เมอร์ลิน ชาลอต ซาช่า ริต้า เรเชล ลิลิธ คาเรน รวมถึงซิลเวีย... เหล่าสาวๆต่างก็อยู่ภายในห้องนี้ด้วยสภาพเหนื่อยอ่อน พวกเธอทำสีหน้าเฝ้ารออะไรบางอย่างในขณะที่แยกย้ายกันนั่งตามจุดต่างๆของห้อง โดยเฉพาะมีอากับเมอร์ลินที่นั่งเก้าอี้อยู่ชิดกับเตียงสีขาวที่ว่าไปข้างต้นเพื่อเฝ้าดูคนที่นอนหลับสนิทอยู่บนนั้น... กรนั่นเองหลังจากเหตุการณ์ที่แสนวุ่นวายนั่นก็ผ่านมาได้สองวันแล้ว...กรยังคงหลับสนิท แต่ไม่ได้มีบาดแผลภายนอกใดๆแต่ปัญหาก็คือภายในนี่แหล่ะ...เมื่อตอนนั้นมันเกิดอะไรขึ้น จนถึงตอนนี้ก็คิดอะไรไม่ออกเลยซักนิดทั้งไอ้ออร่าสีดำสนิทที่มีความคิดเป็นของตัวเองนั่นทั้งดาบผ่าดารานั่นด้วย...แถมยัง... กรในร่างที่มีออร่าอุดมคติสีรุ้งนั่นก็อีกฉันสับสน
ว่ากันว่าเมื่อต้อนสัตว์ป่าจนกระทั่งมันจนมุมมันจะมีท่าทีดุร้ายขึ้นจากสัญชาตญาณในการเอาตัวรอดในหมู่ผู้คนเอง... หากกระทำการใดอันเป็นการลดศักดิ์ศรีของคนๆนั้นลงเรื่อยๆผลลัพธ์สุดท้ายก็จะทำให้คนๆนั้นกลายเป็นบุคคลที่เลือดเย็น เยือกเย็นหรือตายด้านไปเสีย...เช่นนั้นในสถานการณ์นี้ก็คงเป็นไปตามการคาดการณ์ที่สองทว่าที่อยู่ตรงหน้านี้จะเรียกว่าเป็นอุษณกร วัชรวิรุฬห์ก็ใช่... แต่ก็ไม่ใช่ในขณะเดียวกัน...『ลุกซ์』... สิ่งที่ท่านสร้างได้อยู่ตรงหน้าข้าแล้ว...ทว่า... เด็กคนนี้... ในตอนนี้———〝 เป็นอะไรไป? ไม่ได้ยินที่ข้าพูดเรอะเจ้าไพร่? 〞 ในขณะที่จิ๋นหลี่กำลังใช้ความคิดบางอย่าง กร?ที่กำลังลอยอยู่เหนือทุกคนก็พูดขึ้นอีกครั้งด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือกแต่ไม่เหมือนกับเจ้าตัวคนก่อนเลยซักนิด จิ๋นหลี่ก็ยังคงหลับตานิ่ง และกลับมาสงบเยือกเย็นอีกครั้งในเวลาไม่นาน ก่อนที่จะสบัดกระบี่อย่างแรงจนพื้นที่กระทบกับพื้นกระจุยเป็นชิ้นๆ〝 ราชาที่ข้าจักก้มหัวให้... มีเพียงผู้เดียวเท่านั้น 〞จิ๋นหลี่ตอบกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบเหมือนอย่างเคย นั่นทำให้กรที่กำลังแผ่มือวางมือลงข้างลำตัวโดยไม่ได้เปลี่ยนสีหน้า〝 แม้ข
〝 เป็นอะไรไป? เหตุใดจึงยืนนิ่งเป็นหินเช่นนั้นเล่าพ่อหนุ่ม? 〞 จิ๋นหลี่ที่ยืนอยู่ด้านหน้าของกรซึ่งตอนนี้ยังคงเหงื่อตกด้วยความกังวล ถามออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบยังจะมาถามอีกเหรอ? ก็เล่นแผ่จิตต่อสู้ออกมาซะขนาดนี้เองไม่ใช่เหรอ?สีหน้าไม่ได้เปลี่ยน แต่ฉันดูออกนะ... นี่นายจงใจใช่ไหมเนี่ย!?〝 อย่าแกล้งหมอนี่มากนักสิจิ๋นหลี่ 〞 ในระหว่างที่กรยังเฝ้าดูท่าทีของจิ๋นหลี่อยู่อย่างงั้น เมอร์ลินก็พูดออกมาอย่างหน่ายๆ พร้อมกับเดินนำออกมาอยู่ระหว่างเขากับจิ๋นหลี่ นั่นทำให้ลูกศิษย์ชายหญิงทั้งสองคนที่อยู่ข้างหลังทำท่าเหมือนกับจะเตรียมพร้อมต่อสู้ แต่จิ๋นหลี่ก็ยกมือขวาห้ามไว้ก่อน ทั้งคู่จึงกลับมายืนตรงเรียบร้อยเช่นเดิม〝 มิได้... นี่คือปกตินิสัยของข้าเจ้าก็รู้ 〞จิ๋นหลี่ว่าพลางหลับตาราวกับบอกว่ามันช่วยไม่ได้ และนั่นก็ทำให้เมอร์ลินถอนหายใจออกมาอย่างหน่ายๆอีกครั้ง และเพราะทั้งคู่ได้เปิดปากคุยกันอย่างสนิทสนม พวกมีอาจึงได้วางการ์ดลงโดยอัตโนมัติ และแม้ซิลเวียจะยังสงสัยอยู่แต่เจ้าตัวก็ยังเฝ้าดูสถานการณ์อยู่เงียบๆเช่นเดียวกับคนอื่นแต่จะว่าไป... มหานักปราชญ์ทุกคนมีดันเจี้ยนเป็นของตัวเอ
หลังจากเหตุการณ์วุ่นวายทั้งหลายสงบลง กรก็ต้องแบกยูมิน่ากลับมาที่บริเวณรถม้า ซึ่งมีเหล่าแฟนสาว ซิลเวียและฟลอร่าที่ถูกจับรออยู่ เพราะเหตุการณ์เมื่อครู่เลยทำให้ม้ายังขวัญเสีย เพราะเหตุนั้นเลยต้องพักกันประมาณ 1 ชั่วโมงไปก่อน ในระหว่างที่พักก็ต้องทนเสียงบ่น&เพ้อของฟลอร่าไปด้วย ต่อให้กรขู่แค่ไหนก็ไม่ยักกะเงียบ แต่พอถูกถูกมีอาเข้าโหมดอัลติเมท... ฟลอร่าก็ดูเหมือนจะเงียบลงในทันทีแล้วจากนั้นซักพักก็ได้ฤกษ์ออกเดินทางอ่ะนะ...แน่นอนว่าจับยัยฟลอร่ามัดไว้กับตัวรถม้าด้านนอกให้ตากลมน้ำตาซึมอยู่อย่างงั้นแหล่ะแต่ถึงจะบอกว่าข้างนอกก็เถอะ แต่ก็อยู่แถวๆหน้าต่างด้านหลังตัวรถม้านั่นแหล่ะนะ เพื่อไม่ให้อยู่นอกสายตาของฉันด้วยนั่นแหล่ะเพราะงั้น เสียงน่ารำคาญของยัยนี่ที่เป็นปัญหามันเงียบลงไปบ้างแล้วก็จริงอยู่แต่พอออกเดินทางไปได้ซักพัก... ยัยตัวปัญหาคนที่สองก็ตื่นขึ้นมาจนได้ก็นะ... เป็นเพราะยัยนี่เป็นตัวอันตรายมากกว่าฟลอร่าที่น่ารำคาญ ก็เลยเอามามัดไว้ในรถม้าแทนถึงที่มันจะแคบไปหน่อย แต่ก็ปลอดภัยกว่า... ก็มีเรเชลกับริต้านั่งคุมซ้ายขวาของยัยยูมิน่านี่แหล่ะเลยปลอดภัยได้ในระดับนึงแ