แชร์

บทที่ 34

ผู้เขียน: จิ้งเยี่ยน
เฟิ่งหลิงหลงถูกนางตำหนิจนชั่วขณะไม่รู้จะโต้ตอบอย่างไร ความโกรธอัดอั้นอยู่ในอก รู้สึกทรมานมาก

นางโมโหจนตัวสั่น โกรธจนแทบสูญเสียสติสัมปชัญญะ

“เฟิ่งเชียนอวี่…”

คำพูดเพิ่งออกมาจากปาก เฟิ่งเชียนอวี่ก็เดินออกมาหนึ่งก้าว เหวี่ยงฝ่ามือใส่ใบหน้านางอีกหนึ่งที

“เจ้าควรเรียกข้าว่าพระชายาอ๋องหก กล้าเรียกชื่อของข้าตรงๆ สมควรโดนตบ”

“เจ้า…” เฟิ่งหลิงหลงเกลียดจนดวงตาแดงก่ำ ถูกเหลิ่งหนิงคุมตัวไว้ อยากต่อต้านก็ทำไม่ได้

เฟิ่งเชียนอวี่ตบจนเจ็บฝ่ามือ แต่ในใจกลับรู้สึกหนำใจนัก

ครั้งก่อนตอนอยู่ตำหนักเฟิ่งเสียงของฮองเฮา นางเกือบถูกผู้หญิงคนนี้ฆ่าตาย แค้นนี้นางจำฝังใจมาโดยตลอด

ในยุคโบราณ ราชอำนาจอยู่บนจุดสูงสุด เข้มงวดระบบยศถาบรรดาศักดิ์มาก

ตอนนั้นนางก็คิดไว้แล้ว ทางที่ดีเฟิ่งหลิงหลงอย่ามาปรากฏตัวต่อหน้านาง ไม่เช่นนั้น เฉพาะสถานะของตน ก็สามารถสั่งสอนนางจนหลาบจำแล้ว

เป็นไปตามที่คาด ผู้หญิงคนนี้ส่งตัวเองมาให้ถึงที่แล้ว

อีกทั้งในความทรงจำของเจ้าของร่าง เฟิ่งหลิงหลงเคยรังแกเฟิ่งเชียนอวี่ที่นิสัยอ่อนแอไว้ไม่น้อย ความแค้นของนาง การตายของเจ้าของร่าง พอดีเลย ครั้งนี้ขอเก็บดอกเบี้ยก่อนก็แล้วกัน

เฟิ่งเชียนอวี
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 35

    เฟิ่งเชียนอวี่เลิกคิ้วเล็กน้อย รู้สึกประหลาดใจที่ผู้หญิงคนนี้สามารถอดกลั้นความโกรธคำนับนางจริงๆ นับว่าตนดูถูกนางเกินไปแล้วเหอะ มันก็จริง เมืองหลวงมีสตรีสูงศักดิ์มากมาย คนที่มีความสามารถและหน้าตาดีก็มีไม่น้อย มีเพียงเฟิ่งหลิงหลงที่รู้จักกันไปทั่ว คิดว่านอกจากความสูงศักดิ์ของจวนเฟิ่ง ตัวนางก็พอจะมีความสามารถเช่นกันหากนางแข็งกระด้างไม่ยอมประนีประนอม กลับยิ่งโง่เขลาแล้วหลังจากเฟิ่งหลิงหลงจากไป เฟิ่งเชียนอวี่เหลือบมองขันทีน้อยนำทางข้างๆ ที่ดูอย่างเงียบๆ ตั้งแต่เริ่มจนจบ ทำราวกับหูตาบอดแหม่ คนในวังนี่มันน่าสนใจจริงๆงานเลี้ยงพระราชวังจัดขึ้นในอุทยานหลวง โถงทางเดินคดเคี้ยวเป็นตัวอักษรเหมิน[1] บนพื้นปูด้วยอิฐหยกสีฟ้า และมีโคมชาววัง[2]แขวนอยู่ใต้ชายคาแก้วหลากสีสองฝั่งของโถงทางเดิน จัดที่นั่งตามลำดับขั้นของขุนนาง บนแท่นที่อยู่ด้านหน้าสุดมีเก้าอี้วางเรียงหน้าและหลังสองตัว ย่อมเป็นตำแหน่งของฮ่องเต้กับฮองเฮาที่นั่งข้างล่างถัดจากตรงนั้น ฝั่งซ้ายเป็นตำแหน่งของเหล่าสนม ฝั่งขวาเป็นตำแหน่งของเหล่าองค์ชายขุนนางใหญ่หลายคนได้นั่งลงแล้ว พวกเขาผลัดกันดื่ม บรรยากาศรื่นเริง เหล่านางกำนัลยกอาหารเ

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 36

    นางหลิ่วฮูหยินใหญ่ของจวนตระกูลเฟิ่งที่อยู่ข้างๆ จ้องเฟิ่งเชียนอวี่จนลูกตาแทบลุกเป็นไฟแล้ว นางแพศยาคนนี้ เหมือนกับนางจิ้งจอกแม่ของนาง ล้วนเป็นพวกต่ำช้าที่ล่อลวงคนจริงๆทางฝั่งคุณหนูผู้สูงศักดิ์ ก็มองเฟิ่งเชียนอวี่อย่างตะลึงเช่นกัน“สวรรค์ นางก็คือลูกอนุภรรยาคนนั้นของจวนอัครมหาเสนาบดี?”“เมื่อสองปีก่อน ครั้งหนึ่งในงานเลี้ยงในสวนดอกไม้ ข้าก็เคยเจอเฟิ่งเชียนอวี่คนนี้ คิดไม่ถึงว่าวันนี้มาเจอกันอีกครั้ง เปลี่ยนไปมากจริงๆ”“เหอะ เมื่อก่อนเป็นลูกอนุภรรยาที่ไม่สะดุดตา ปัจจุบันบินขึ้นบนยอดกิ่งกลายเป็นพระชายาอ๋องหก ย่อมเปลี่ยนไปเยอะอยู่แล้ว”“กลายเป็นพระชายาอ๋องหกแล้วอย่างไร? เดิมทีตำแหน่งพระชายาอ๋องหกเป็นของคุณหนูใหญ่เฟิ่ง เฟิ่งเชียนอวี่คนนี้แย่งไปอย่างโจ่งแจ้ง หน้าไม่อายจริงๆ”“หน้าไม่อายแล้วอย่างไร ตอนนี้นางเป็นพระชายาอ๋องหกแล้ว อีกทั้งท่านอ๋องหกก็ชอบด้วย”“เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าท่านอ๋องหกชอบ ผู้หญิงที่ประพฤติตัวไม่เหมาะสมเช่นนี้ ท่านอ๋องหกจะสนใจได้อย่างไร มันก็แค่ข่าวลือ”คุณหนูผู้สูงศักดิ์เหล่านี้มีทั้งคนที่อยากรู้อยากเห็น และก็มีทั้งริษยากับอิจฉาเฟิ่งเชียนอวี่เวลานี้เอง มีเสียงเย้าแ

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 37

    ฮูหยินใหญ่นางหลิ่วขมวดคิ้ว สายตาที่เฉียบคมราวกับมีดมองไป กล่าวเสียงแหลม “เฟิ่งเชียนอวี่ เจ้าบังอาจ”เฟิ่งเชียนอวี่หัวเราะอย่างเย็นชาในใจ กำลังจะอ้าปากพูด ก็ได้ยินเสียงตะโกนดังขึ้น “ฝ่าบาทเสด็จ”นางรีบหุบปากทันที และหันไปมองโดยไม่รู้ตัว เห็นร่างเงาสีเหลืองสดสายหนึ่งค่อยๆ เดินมาอย่างที่คิด และข้างหลังยังมีคนเดินตามมาไม่น้อยคนอื่นก็เริ่มหวนคืนสติจากความตกใจ หมุนกายไปทางแท่นสูง คุกเข่ากล่าวพร้อมกัน“ถวายบังคมฝ่าบาท ฝ่าบาทอายุยืนหมื่นปี หมื่นหมื่นปี”เฟิ่งเชียนอวี่ก็คุกเข่าลงตามฝูงชนเช่นกัน ในใจกลับบ่นกฎเกณฑ์ที่ล้าหลังของระบบศักดินาราชวงศ์ในฐานะที่เป็นวิญญาณบริสุทธิ์ของยุคปัจจุบัน คนที่เกิดในสังคมประชาธิปไตย คนที่ได้รับการศึกษาระดับสูงยี่สิบกว่าปี เป็นดอกเตอร์สาขาวิชาที่ได้รับความเคารพและนับถือมาโดยตลอด ตอนนี้กลับต้องมารับกรรมเช่นนี้ เฮ้อทว่าแม้ในใจเฟิ่งเชียนอวี่ไม่เต็มใจอย่างไร ก็ต้องเผชิญหน้ากับความจริง คุกเข่าลงไปแต่โดยดี นอกเสียจากนางอยากตาย“ทุกท่านลุกขึ้น”“ขอบพระทัยฝ่าบาท”เฟิ่งเชียนอวี่ลุกขึ้นพร้อมกับฝูงชนอีกครั้ง ยังไม่ทันได้เงยหน้า เสียงของฮ่องเต้เทียนหยวนได้ดังขึ้นอี

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 38

    เฟิ่งหลิงหลงมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีตั้งแต่ตอนเฟิ่งเชียนอวี่เอ่ยปาก คราวนี้เมื่อได้ยินเช่นนี้ หน้าซีดทันทีไม่ว่าอย่างไรเฟิ่งอวี้เทียนก็คิดไม่ถึงว่าเฟิ่งเชียนอวี่จะมาไม้นี้ สีหน้าเปลี่ยนฉับพลันเหล่าขุนนางใหญ่ก็มีสีหน้าที่แตกต่างกันไป แม้คำพูดของเฟิ่งเชียนอวี่ในตอนนี้ แตกต่างกับที่อัครมหาเสนาบดีเฟิ่งกล่าวโทษนางก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง แต่ไม่มีใครคิดจะก้าวออกมาพูดมาก ต่างก็ตั้งหน้าตั้งตารอดูเรื่องสนุกภาพจำที่ทุกคนมีต่อเฟิ่งเชียนอวี่เปลี่ยนไปแล้ว ดูเหมือนลูกสาวคนที่สามที่ออกเรือนแล้วของจวนตระกูลเฟิ่งกับลูกภรรยาเอกเฟิ่งหลิงหลงไม่ลงรอยกันอย่างเห็นได้ชัดคราวนี้สนุกแล้วส่วนเหล่าคุณหนูผู้สูงศักดิ์ที่อยู่ด้านข้าง รีบตรวจดูชุดกระโปรงของตัวเองทันทีคนที่แต่งกายค่อนข้างฉูดฉาดยังดี ส่วนคุณหนูผู้สูงศักดิ์ที่แต่งกายค่อนข้างเรียบง่าย แทบอยากจะขดตัวลงไป ลดการมีตัวตนของตัวเอง ทางที่ดีรีบหายตัวไปจากที่จัดเลี้ยง กลัวโดนลูกหลงไปด้วยเมื่อฮ่องเต้เทียนหยวนได้ยิน เขามองไปทางเฟิ่งหลิงหลง และเริ่มขมวดคิ้วอย่างที่คิดภาพลักษณ์ของเฟิ่งหลิงหลงที่อยู่ข้างนอก เป็นหญิงงามที่เย็นชามาโดยตลอด ชุดกระโปรงที่สวมใส่ใน

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 39

    “ฝ่าบาท ขอพระองค์ทรงโปรดวินิจฉัยด้วยพ่ะย่ะค่ะ หลิงหลงชื่นชมพระองค์ที่สุดตั้งแต่เด็ก นางไม่มีทางจงใจล่วงเกินท่านแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”สายตาที่เฉียบคมของเฟิ่งอวี้เทียนมองไปทางเฟิ่งเชียนอวี่ ลูกสาวคนที่สามคนนี้ วันนี้ทำให้เขาต้องมองนางใหม่จริงๆ แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาคิดบัญชีเขาหลับตาลง รีบก้าวออกไปทันที“ฝ่าบาท วันนี้ลูกสาวกระหม่อมแต่งกายไม่เหมาะสม ล่วงเกินต่อหน้าพระพักตร์ กระหม่อมก็เลินเล่อเช่นกัน เรื่องนี้เป็นเรื่องบังเอิญล้วนๆ หวังพระองค์ทรงจะประทานอภัย อนุญาตให้ลูกสาวกระหม่อมไปเปลี่ยนชุดด้วยพ่ะย่ะค่ะ”เห็นสีหน้าฮ่องเต้ก็รู้แล้ว การแต่งกายของลูกสาวคนโต ได้ทำให้ฮ่องเต้ไม่พอใจแล้ว การแก้ต่างไม่มีความหมายใดๆ แล้ว สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือรีบแก้สถานการณ์ให้เบาลงฮ่องเต้เทียนหยวนพ่นลมออกจากจมูกอย่างไม่สบอารมณ์ โบกมืออย่างรำคาญ “เช่นนั้นก็รีบไป อย่ามาป้วนเปี้ยนต่อหน้าเรา”โชคดีที่เฟิ่งหลิงหลงเป็นลูกสาวภรรยาเอกจวนอัครมหาเสนาบดี สถานะไม่ธรรมดา หากเป็นลูกขุนนางทั่วไปพบเจอเรื่องเช่นนี้ ฮ่องเต้เทียนหยวนไม่มีทางละเว้นง่ายๆ เช่นนี้แน่นอนต่อให้เป็นเช่นนี้ ฮ่องเต้เทียนหยวนก็ดูรังเกียจอย่างเห็นได้ชั

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 40

    ตงฟางจิ่งเลิกคิ้ว กล่าวเตือนนาง “เกรงว่าพระชายาลืมไปแล้ว ไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้ใครที่จะหย่ากับข้าให้ได้?”เฟิ่งเชียนอวี่กะพริบตาปริบๆ ไม่คิดจะยอมรับแม้แต่น้อย “มีหรือ? ท่านอ๋องน่าจะจำผิดแล้วกระมัง ข้าจะมียามที่ไม่รู้จักดีชั่วเช่นนี้ได้อย่างไร”“ท่านเป็นถึงท่านอ๋อง สามารถเป็นพระชายาของท่าน เป็นวาสนาของข้า”นางพลางกล่าว พลางคลื่นไส้ในใจตงฟางจิ่งมองนางอย่างขบขัน ผู้หญิงคนนี้ยืดหดได้เก่งมาก“ท่านพ่อตาเป็นถึงอัครมหาเสนาบดี ผู้นำของเหล่าขุนนาง ต่อให้เป็นข้า ก็จำเป็นต้องถอยก้าวสองก้าว สิ่งที่พระชายาขอ เกรงว่าข้ามีใจแต่ไร้กำลัง”ตงฟางจิ่งถอนหายใจ เขาจงใจกล่าวมุมปากเฟิ่งเชียนอวี่กระตุก ใบหน้าที่ยิ้มแย้มบึ้งตึงทันที พร้อมกับเอาจอกเหล้าที่อยู่ตรงหน้าตงฟางจิ่งกลับคืนไป และกัดฟันในใจผู้ชายชาติชั่วนี่จะเสแสร้งไปถึงไหน ไม่อยากช่วยก็บอกตรงๆ คิดว่านางฟังไม่ออกหรือตงฟางจิ่งเลิกคิ้ว “พระชายา ที่เจ้าเอาไปเหมือนจะเป็นจอกของข้า ข้างในยังมีเหล้าที่เจ้าให้ข้าเหลืออยู่”มุมปากเฟิ่งเชียนอวี่กระตุก นางเทเหล้าทิ้งอย่างไม่ลังเล ส่งจอกเปล่ากลับคืนไป “ท่านอ๋อง ต้องขออภัยจริงๆ เหล้าหกแล้ว ท่านอ๋องอยากดื่ม

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 41

    เหล่านางสนมแต่งกายด้วยชุดฝ่ายในที่งดงามนั่งเรียงแถวอยู่ที่นั่น แต่ละคนงามยิ่งกว่าดอกไม้ เห็นแล้วจิตใจเบิกบาน จากนั้นสายตาที่เย็นชาก็มองไปทางบรรดาอ๋องและองค์หญิงทั้งหลายฮ่องเต้เทียนหยวนมีองค์ชายทั้งหมดเก้าคน องค์หญิงอีกห้าคน นอกจากองค์ชายแปดกับองค์ชายเก้าที่ยังไม่โตเป็นผู้ใหญ่ เพราะอายุยังน้อยจึงยังอาศัยอยู่ในวัง ส่วนองค์ชายท่านอื่นที่เข้าพิธีสวมมงกุฎ[1]แล้ว ล้วนถูกแต่งตั้งเป็นอ๋อง ออกจากวังสร้างจวนอยู่เองนอกจากตงฟางจิ่ง นี่เป็นครั้งแรกที่เฟิ่งเชียนอวี่ได้พบอ๋องท่านอื่นๆแน่นอนว่านางไม่รู้จักสัก“หลิวซู คนพวกนั้นล้วนเป็นท่านอ๋องหรือ?”หลิวซูย่อตัวลง กระซิบแนะนำให้นางรู้จักทีละคน“พระชายา คนที่นั่งข้างหน้าสุดถัดจากฝ่าบาทคือรัชทายาท”รัชทายาทตงฟางหล่างที่กำเนิดโดยฮองเฮา เข้าอยู่ตำหนักบูรพาสิบปีเฟิ่งเชียนอวี่ประหลาดใจ “ปีนี้รัชทายาทอายุเท่าไร?”หลิวซูกล่าวเสียงเบา “ยี่สิบสองเจ้าค่ะ”เช่นนั้นก็ถูกแต่งตั้งเป็นรัชทายาทตอนอายุสิบสองปีหลิวซูกล่าวต่อ “พระชายา ถัดจากรัชทายาทคือองค์ชายใหญ่”พลันเฟิ่งเชียนอวี่ตะลึงงัน แต่จากนั้นก็เข้าใจแล้ว คนที่ให้กำเนิดโดยฮองเฮาคือลูกชายของภรรยาเอ

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 42

    หน้าตาของเฟิ่งหลิงหลงเหมาะกับสีโทนอ่อน เมื่อเปลี่ยนมาสวมชุดที่สีเข้มเช่นนี้ แม้ไม่ถึงกับอัปลักษณ์ แต่ให้ความรู้สึกที่ขัดกัน มองอย่างไรก็ไม่สบายตาเวลานี้ มีคนไม่น้อยเห็นชุดที่เฟิ่งหลิงหลงสวมแล้ว สีหน้าของพวกเขาแตกต่างกันออกไปบนที่นั่งของจวนแม่ทัพเจิ้นกว๋อ อวิ๋นจิ่นเซ่ออดไม่ได้ที่จะมองกระโปรงแดงของตัวเอง นางเบะปากแล้วมองบน หลังจากนางรำในงานร่ายรำไปสองช่วง คำนับอย่างสง่างาม ก็ถอยออกไปแล้วต่อไปก็ถึงเวลามอบของขวัญตามลำดับที่นั่งโดยเริ่มจากเหล่าขุนนาง หลังจากนั้นก็เป็นองค์หญิง สุดท้ายจึงเป็นท่านอ๋องทั้งหลาย และมีขันทีคอยประกาศอยู่ข้างๆ“เสนาบดีกรมโยธาธิการมอบรูปปั้นผู่ตู้[1]ทองคำหนึ่งองค์ ไข่มุกทะเลใต้หนึ่งเม็ด ไข่มุกราตรีเขาอูซานห้าเม็ด…”“เสนาบดีกรมพิธีการมอบ…”เฟิ่งเชียนอวี่มองดูกล่องผ้าแพรเหล่านั้นถูกส่งขึ้นไป ฟังแล้วรู้สึกว่าล้ำค่าทุกชิ้นเลย นางอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ“เมื่อไรที่ข้าฉลองวันเกิด ได้รับของขวัญล้ำค่ามากมายเช่นนี้ก็ดีสิ”จากนั้นนางมองไปทางตงฟางจิ่ง เลิกคิ้วแล้วกล่าว “ไม่ทราบว่าของขวัญที่ท่านอ๋องเตรียมคืออะไร?”ตงฟางจิ่งกล่าวอย่างเรียบเฉย “ภาพอักษร”นางเลิกคิ้ว

บทล่าสุด

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 212

    “ฮือ ฮือ...”ตงฟางหล่างหน้าซีดด้วยความหวาดผวา พร้อมส่ายหน้าอย่างแรง ไม่ใช่นะเสด็จพ่อ ไม่ได้เป็นเช่นนั้นทว่าฮ่องเต้เทียนหยวนกลับเชื่อไปเจ็ดแปดส่วนแล้วเพราะมือสังหารพูดอย่างมีเหตุมีผล หากตงฟางจิ่งลอบสังหารเขาจริง เหตุผลล่ะ?ตงฟางจิ่งร่างกายไม่แข็งแรงตั้งแต่เด็ก น้อยมากที่จะออกจากจวนอ๋อง ไม่มีเหตุผลในการลอบปลงพระชนม์แม้แต่น้อย เพราะต่อให้ทำสำเร็จ แล้วเขาจะทำอะไรได้?ทว่ารัชทายาทไม่เหมือนกันหากฮ่องเต้เทียนหยวนตาย รัชทายาทจะเป็นฮ่องเต้ตงเยว่คนต่อไป ถือเป็นผลประโยชน์มหาศาลสำหรับเขา จึงค่อนข้างเข้าใจได้ ฮ่องเต้เทียนหยวนเป็นฮ่องเต้ที่เห็นแก่ตัวและรักอำนาจ คำพูดของมือสังหารแต่ละคำกระแทกเข้าไปในใจเขา ราวกับรุกล้ำขีดจำกัดของเขา ทำให้เขาโกรธจนถึงขีดสุด“ทหาร มาลากตัวมือสังหารผู้นี้ลงไปประหารซะ”“ยังมีรัชทายาท คนที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง เนรคุณอกตัญญู ช่างน่าโมโหยิ่งนัก มาลากตัวไปรอรับโทษที่คุกหลวง”ฮ่องเต้เทียนหยวนโมโหมาก หลังจากสั่งเสร็จจึงจากไปทันทีเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างสุดขั้ว ตงฟางจิ่งถูกปล่อยออกจากวังอย่างปลอดภัย ส่วนรัชทายาทถูกนำไปคุมขังที่คุกหลวงรัชทายาทคงไม่นึกไม่ฝัน เมื

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 211

    “รัชทายาท...”น้ำเสียงเย็นเยือกของฮ่องเต้เทียนหยวนทำให้ใจของตงฟางหล่างบีบรัด“เสด็จพ่อ ลูกถูกปรักปรำพ่ะย่ะค่ะ ไม่รู้ว่ามือสังหารผู้นี้ได้รับคำสั่งจากใคร ถึงได้ใส่ความลูกเช่นนี้”“ก่อนหน้านี้เขาซัดทอดน้องหกก่อน ตอนนี้ซัดทอดลูก เห็นได้ชัดว่ามีเงื่อนงำ ความภักดีที่ลูกมีต่อเสด็จพ่อ ฟ้าดินเป็นพยานได้ ไม่กล้าลบหลู่พระองค์แม้แต่น้อย”“เสด็จพ่อ นี่เป็นแผนการ ขอจงทรงตรวจสอบด้วยพ่ะย่ะค่ะ”สีหน้าฮ่องเต้เทียนหยวนบรรยายไม่ถูก แต่ไม่ดีแน่นอน สายตาของพระองค์หันมองตงฟางจิ่ง“เจ้าหก เรื่องนี้เจ้าคิดเห็นอย่างไร?”ตงฟางจิ่งเอ่ยเสียงเรียบ “ลูกไม่มีความเห็น มีเพียงประโยคเดียวเท่านั้น ลูกเป็นผู้บริสุทธิ์พ่ะย่ะค่ะ”ตงฟางหล่างกัดฟันกรอด แล้วถลึงตาใส่เขา เจ้าบริสุทธิ์หรือ? ดังนั้นคนที่มีปัญหาคือเขางั้นหรือ?เขาอดแค่นหัวเราะไม่ได้ “น้องหกพูดอย่างไม่เดือดร้อน ครั้งที่แล้วมือสังหารซัดทอดเจ้า คราวนี้กลับเปลี่ยนคำให้การกะทันหัน ช่างบังเอิญเสียจริง”ตงฟางจิ่งส่ายหน้าเชื่องช้า “มือสังหารชี้แจงสาเหตุแล้วไม่ใช่หรือ”“ท่านสังหารน้องสาวเพียงคนเดียวของเขา คนเป็นพี่ชายอย่างเขาไม่ยินดีถวายชีวิตให้ท่านอีกแล้ว เรื่

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 210

    “เมื่อครู่เจ้าบอกว่ารัชทายาทสั่งการเจ้าหรือ?”“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมไม่กล้าโป้ปด ทุกอย่างเป็นคำสั่งขององค์รัชทายาท”ตงฟางหล่างที่อยู่อีกด้านกำหมัดแน่น มองดูมือสังหารด้วยแววตาอำมหิต แทบอยากจะเข้าไปแทงอีกฝ่ายให้ตายคามือเขากล้าได้อย่างไร...“ฮึ เจ้านึกว่าเราจะเชื่อเจ้าหรือ?”“ครั้งที่แล้วเจ้าซัดทอดอ๋องหก ครั้งนี้ซัดทอดรัชทายาท เจ้ากำลังปั่นหัวเราเหมือนคนโง่หรือ?”มือสังหารรีบกล่าว “กระหม่อมไม่กล้า”“เราว่าเจ้าใจกล้ามาก ในเมื่อเจ้าซัดทอดรัชทายาท เราจะถามเจ้าอีกครั้ง เหตุใดครั้งแรกเจ้าซัดทอดอ๋องหก แล้วตอนนี้ถึงเปลี่ยนคำให้การอีกครั้ง?”“หากเจ้าไม่มีเหตุผล เราจะให้เจ้าได้ลิ้มรสสุดยอดของเครื่องทรมาน” ฮ่องเต้เทียนหยวนทรงพลังดูน่าเกรงขามมือสังหารกัดฟันกรอก แล้วจ้องไปที่รัชทายาท ในดวงตามีความโกรธแค้นที่รุนแรงความโกรธแค้นนั้นเสมือนจริงมากตงฟางหล่างถูกเขาจ้องจนชะงักไป“กระหม่อมเป็นข้ารับใช้ขององค์รัชทายาทมาตลอด ทำงานให้องค์รัชทายาทด้วยความจงรักภักดี”“การลอบปลงพระชนม์ในครั้งนี้ เดิมทีกระหม่อมตั้งใจแน่วแน่ว่าจะตาย เพราะองค์รัชทายาทเคยบอกว่าหากกระหม่อมเกิดเรื่อง จะช่วยดูแลน้องสาวเพียง

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 209

    ถูกต้อง หากไม่มีตราประทับนั่น แค่คำให้การของมือสังหาร คงไม่มีน้ำหนักมากพออ๋องทุกคนล้วนมีตราประทับเฉพาะของทุกคน เพื่อแสดงสถานะของตน ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ไม่ว่าจะเป็นวัสดุหรือฝีมือแกะสลักล้วนเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งยากจะเลียนแบบทว่าตราประทับนั่นกลับอยู่บนตัวมือสังหาร หนำซ้ำหลังผ่านการพิสูจน์ มันเป็นของจริงนี่จึงเป็นสาเหตุให้ฮ่องเต้เทียนหยวนสงสัยตงฟางจิ่งสีหน้าฮ่องเต้เทียนหยวนไม่สู้ดีนัก เขาหันมองตงฟางจิ่ง “เจ้าหก เจ้าเป็นลูกที่เรารักและเอ็นดูมาโดยตลอด หากเจ้ายอมรับตอนนี้ เราจะลงโทษสถานเบา”“ไม่อย่างนั้น อย่าหาว่าเราไม่ให้โอกาสเจ้า”เมื่อรัชทายาทได้ยิน แววตามีความไม่สบอารมณ์แวบผ่านตงฟางจิ่งสีหน้าเรียบเฉย “ลูกไม่มีความผิดพ่ะย่ะค่ะ”“ดี นำตัวเข้ามาเดี๋ยวนี้” ฮ่องเต้เทียนหยวนเอ่ยเสียงฮึดฮัดในไม่ช้า มือสังหารที่ถูกขังอยู่ในเรือนจำกรมราชทัณฑ์ถูกคุมตัวเข้ามามือสังหารหมอบกราบอยู่บนพื้น ไม่มีปฏิกิริยาใดทั้งสิ้นฮ่องเต้เทียนหยวนมองเขาเยือกเย็น “เจ้าลองบอกเราอีกครั้งสิ คืนนั้นที่เจ้าลอบสังหารเรา ได้รับคำสั่งจากใครกันแน่?”“ทางที่ดีจงพูดความจริง หากกล้าโป้ปดแม้แต่น้อย เราจะเฉือนเจ้าท

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 208

    “พระชายา ตกลงท่านทำอะไรลงไป?”เฟิ่งเชียนอวี่เท้าคางพร้อมโบกมือ “บอกไปพวกเจ้าก็ไม่เข้าใจอยู่ดี”นางหันมองเว่ยเซิงกับเว่ยชิว “พวกเจ้าสองคนมีวิธีทำให้ฮ่องเต้ไต่สวนคดีของตงฟางจิ่งอีกครั้งหรือไม่?”“จำไว้ ทางที่ดีต้องไต่สวนต่อหน้าเหล่าขุนนาง โดยเฉพาะสามารถไต่สวนในท้องพระโรง สอบสวนมือสังหารคนนั้นต่อหน้าทุกคน”“ไม่ได้นะขอรับพระชายา หากมือสังหารคนนั้นซัดทอดท่านอ๋องอีกครั้ง เช่นนั้นข้อหานี้ จะไม่มีวันรอดไปได้อีกเลย”สีหน้าเว่ยเซิงเคร่งเครียดมากเฟิ่งเชียนอวี่กลอกตามองเขา “เรื่องนี้ข้าจะไม่รู้ได้อย่างไร? วางใจเถอะ หากอยากให้ท่านอ๋องของพวกเจ้าออกมาจากคุกหลวงอย่างปลอดภัย ต้องทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ”“นี่มัน...”เว่ยเซิงเอ่ยอย่างลังเล “พระชายา ท่านมั่นใจหรือ?”“มั่นใจแน่นอน”“งั้น...ก็ดี ข้าน้อยเข้าใจแล้ว” เว่ยเซิงสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วทำความเคารพคดีลอบปลงพระชนม์ฮ่องเต้เทียนหยวน แม้จะถูกมือสังหารซัดทอด แต่ในทางความผิด ตงฟางจิ่งยังไม่ยอมรับแม้ภายนอกตงฟางจิ่งจะเป็นอ๋องที่อ่อนแอขี้โรค ไม่สนใจเรื่องภายนอก ทว่าหลายปีมานี้ แอบวางแผนอยู่เบื้องหลังไม่น้อยเรื่องลอบปลงพระชนม์ เป็นความผิดที่ใส่ร้

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 207

    บ่าวทางซ้ายมือเข้าใจทันที จึงก้าวไปหนึ่งก้าวแล้วทำให้เหยียนความสลบเขาวางเหยียนควานไว้บนพื้น แล้วหันไปมองอีกคน “พระชายา ท่านเก่งกาจเหลือเกินขอรับ”นึกไม่ถึงว่าพวกเขาจะเข้ามาอย่างง่ายดาย หนำซ้ำยังไม่มีใครขัดขวางที่แท้บ่าวรับใช้ทั้งสองคน คือเฟิ่งเชียนอวี่และเว่ยเซิงส่วนเหลิ่งหานและเว่ยชิว ทั้งสองคนรออยู่ด้านนอก“เจ้าเฝ้าเขาให้ดี ข้าจะไปพบมือสังหารคนนั้น”“ไม่ได้ขอรับพระชายา ให้ข้าน้อยไปเป็นเพื่อนเถอะ ท่านเข้าไปคนเดียวอันตรายมาก”“วางใจเถอะ ข้ารู้จักประมาณตน ไม่ต้องพูดมาก”หลังจากเฟิ่งเชียนอวี่เอากุญแจมาจากมือเหยียนควาน ในไม่ช้าก็หาห้องขังของมือสังหารคนนั้นเจอพื้นที่บริเวณนี้เป็นส่วนที่ลึกมาก ห้องขังรอบด้านล้วนว่างเปล่า มีเพียงหนึ่งห้องที่คุมขังคนเอาไว้ จึงหาได้ง่ายมากนางเปิดประตูห้องขัง แล้วเดินเข้าไปอย่างเชื่องช้ามือสังหารที่เดิมทีนอนพักสายตาอยู่บนเตียงลืมตาโพลง แล้วระมัดระวังตัวมาก “เจ้าคือใคร? เข้ามาได้อย่างไร?”เฟิ่งเชียนอวี่มองสำรวจอีกฝ่ายสักครู่ ใบหน้าดำคล้ำ หน้าตาธรรมดา เป็นคนที่หน้าตากลืนหายเข้าไปในฝูงชนนางเลิกคิ้ว เดินเข้าไปอย่างเชื่องช้า จากนั้นนั่งลงบนเก้าอี

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 206

    “...”เว่ยเซิงตาลุกวาว “พระชายา ท่านรู้แล้วหรือว่าจะช่วยท่านอ๋องได้อย่างไร?”เฟิ่งเชียนอวี่พยักหน้า “มีวิธีที่ช่วยได้จริง แต่ว่า ข้าจำเป็นต้องได้พบมือสังหารคนนั้น”“ไม่มีปัญหา เรื่องนี้พวกข้าจะคิดหาวิธีเองขอรับ” เว่ยเซิงเว่ยชิวรีบรับปากทันทีเฟิ่งเชียนอวี่ผายมือ “ฤกษ์ดีไม่สู้ฤกษ์สะดวก ทำเสียตอนนี้เถอะ”“ตอนนี้หรือ?” ทั้งสามคนแปลกใจนางเลิกคิ้ว “ไม่ได้หรือ?”“ไม่ใช่แน่นอนขอรับ” พวกเขาแค่รู้สึกว่ากะทันหันเกินไปเท่านั้นแต่เรื่องช่วยท่านอ๋องจะรอช้าต่อไปไม่ได้แล้ว ยิ่งเร็วก็ยิ่งดี พวกเว่ยเซิงจึงลงมือทันทีขณะนี้เป็นเวลาตีสามแล้ว บนถนนหนทางจึงไม่มีผู้คน เงียบสงัดมาก คนชุดดำทั้งสี่คนเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว มุ่งหน้าไปที่เรือนจำของกรมราชทัณฑ์เรือนจำของกรมราชทัณฑ์ย่อมตั้งอยู่ภายในกรม และมีทหารป้องกันแน่นหนาเช่นกันหากอยากเคลื่อนไหวโดยไม่เอิกเกริก แทรกซึมเข้าไปโดยไม่ให้เหล่าทหารพวกนี้รู้ คงทำได้เพียง...เฟิ่งเชียนอวี่ครุ่นคิด “เสนาบดีกรมราชทัณฑ์สามารถเข้าออกเรือนจำได้ตลอดใช่หรือไม่?”เว่ยเซิงพยักหน้า “แน่นอนขอรับ”สำหรับเสนาบดีกรมราชทัณฑ์ เรือนจำเปรียบเสมือนพื้นที่ของตัวเอง ย่อมเข้

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 205

    “เกลียดหรือ...คงไม่ถึงขั้นนั้น”ปีศาจจิ๋วที่มีเงางอกออกมาบนหัวบินเข้ามา ทำเสียงฮึดฮัด “หากไม่ใช่เพราะตอนแรกเขาไม่ยอมหย่าร้างกับเจ้า ด้วยความสามารถของเจ้า ตอนนี้คงมีความสุขอิสรเสรีไปแล้ว”“เขาเป็นคนกักขังเจ้าเอาไว้ในจวนอ๋องหก ทำให้เจ้าไม่อาจทำตามความฝันได้”เฟิ่งเชียนอวี่กระพริบตา แล้วสงสัย “ความฝันของข้าคือสิ่งใดหรือ?”ปีศาจจิ๋วบินวนกลางอากาศหนึ่งรอบ กำหมัดขวาแล้วชูขึ้น “ความฝันของพวกเราคือ เงินทองที่ใช้ไม่หมด หนุ่มรูปงามที่เกี้ยวไม่หวาดไม่ไหว”เฟิ่งเชียนอวี่ “...”นางฟ้าจิ๋วถีบปีศาจจิ๋วจนกระเด็น พร้อมมือเท้าเอว เอ่ยอย่างโกรธเคือง “เจ้าหุบปากเดี๋ยวนี้เลยนะ”“เชียนอวี่ เจ้าอย่าฟังเขาพูดจาเหลวไหล เขาคือหายนะ เจ้าดูเขาสิแค่หน้าตาก็ไม่เหมือนคนดีแล้ว”เฟิ่งเชียนอวี่เอ่ยเชื่องช้า “พวกเจ้าสองคนหน้าตาเหมือนกันไม่ผิดเพี้ยน”“ใครเป็นคนบอก”“ไม่ใช่สักหน่อย”ปีศาจจิ๋วและนางฟ้าจิ๋วโต้แย้งพร้อมกันเฟิ่งเชียนอวี่ถอนหายใจ แล้วโบกพวกเขาให้พ้นทางอย่างน่ารำคาญ “เอาละ เอาละ หนวกหูจะตายแล้ว ไปไกล ๆ ข้าเลย”นางฟ้าจิ๋วเบะปาก “เจ้าต้องช่วยเขาให้ได้นะ หากสามีเจ้าตาย เจ้าเองก็จบเห่เช่นกัน”“ที่นี่

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 204

    “เจ้านึกว่าข้าจับตัวช่างพวกนั้นไม่ได้หรือ?”“ตอนนี้ข้าใจดีเปิดโอกาสให้เจ้ามีชีวิตรอด อย่าทำตัวไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี”ตงฟางจิ่งเอ่ยเสียงเรียบ “หากรัชทายาทเก่งกล้าขนาดนั้น เชิญตามสบาย”เฟิ่งเชียนอวี่เคยกล่าวไว้ แม้ช่างเหล่านั้นจะรู้วิธีทำ แต่พวกเขาไม่รู้ขั้นตอนสุดท้ายที่สำคัญที่สุดหากไม่มีขั้นตอนนี้ จะไม่สามารถผลิตแก้วหลิวหลีที่เป็นผลึกใสออกมาได้คิดไปก็น่าจะใช่ นางรักเงินทองขนาดนั้น สิ่งที่ทำเงินได้มากมาย จะเปิดเผยออกไปหมดได้อย่างไร หญิงผู้นั้นฉลาดเป็นกรดตงฟางจิ่งจึงไม่เป็นห่วงสักนิดตงฟางหล่างเห็นว่าใช้ไม้ไหนก็ไม่ได้ผล จึงจากไปด้วยความโกรธจวนอ๋องหกเฟิ่งเชียนอวี่พลิกไปพลิกมาอยู่บนเตียงเพราะนอนไม่หลับในหัวของนางคิดถึงตงฟางจิ่งโดยไม่มีสาเหตุแม้นางจะไม่รู้ว่าคุกหลวงในยุคโบราณเป็นอย่างไร แต่คิดก็รู้ แม้คุกหลวงจะเป็นคุกระดับสูง ทว่าอย่างไรก็คือคุก จะสุขสบายได้อย่างไรตงฟางจิ่งถูกจับตัวไป ข้างในคงไม่มีใครใช้เครื่องทรมานกับเขาหรอกนะ?ไม่ไม่ ไม่น่าจะใช่ ไม่ว่าอย่างไรเขาก็เป็นท่านอ๋อง เป็นถึงองค์ชาย คงไม่ตกต่ำขนาดนั้นแต่เรื่องที่เขาถูกตั้งข้อหาไม่ใช่เรื่องเล็ก นั่นมันก่อกบฏเ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status