แชร์

บทที่ 139

ผู้เขียน: จิ้งเยี่ยน
เฟิ่งเชียนอวี่กลืนน้ำลงคออย่างยากลำบาก น้ำคำใหญ่จนนางเจ็บลำคอ จิตใจนางประหม่าไปหมด ร่างกายแข็งทื่อ ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง

สิ่งที่อยู่ตรงหน้าคือเสือดาวตัวหนึ่ง มันก้าวออกมาอย่างเชื่องช้า หางของมันสะบัดไปมาอย่างเอื่อยเฉื่อย จ้องมองนางพร้อมอ้าปากกว้าง จากนั้นหาว

ในปากของมันมองเห็นฟันแหลมคมเรียงรายชัดเจน มันส่องแสงเงาวับภายใต้แสงแดด

เฟิ่งเชียนอวี่ “...”

นางเงียบไปสองอึดใจ ต่อมาหันหลังแล้ววิ่งหนีอย่างรวดเร็ว

เสือด้านหลังที่เดิมทีเอื่อยเฉื่อย เมื่อเห็นเหยื่อของมันวิ่งหนีไป พลันร้องคำรามแล้วไล่ตามเฟิ่งเชียนอวี่ไปทันที

เฟิ่งเชียนอวี่ตกใจจนหน้าขาวซีด นางจะวิ่งเร็วกว่าเสือได้อย่างไร

นางหันมองด้านหลัง เมื่อเห็นว่าระยะห่างของตัวเองกับเสือใกล้กันมากขึ้นเรื่อย ๆ จึงฉุกคิดถึงบางอย่าง แล้วหนีเข้าไปหลบในห้องทดลองอย่างไม่ลังเล

“เฮ้อ...”

เฟิ่งเชียนอวี่นั่งลงบนโซฟา ตัวอ่อนปวกเปียก บนหัวชื้นไปด้วยเหงื่อ

ด้านนอก เมื่อเสือเห็นมนุษย์เบื้องหน้าที่กำลังไล่ล่าหายไปอย่างไร้ร่องรอยกะทันหัน ดวงตาที่มีประกายดุร้ายของมันมีความฉงนแวบผ่าน

มันหันมองรอบด้าน จากนั้นก้มหน้าสูดดมกลิ่นในอากาศ แม้แต่กลิ่นก็หายไปด้
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 140

    นางกัดฟัน แอบก่นด่าในใจ แล้วหันหลังวิ่งหนีอีกครั้งเห็นได้ชัดว่าครั้งนี้อันตรายกว่าเจอเสือเมื่อครู่เสียอีกเพราะเมื่ออยู่ต่อหน้ามนุษย์ หากไม่จำเป็นจริง ๆ นางจะเปิดเผยเรื่องห้องทดลองไม่ได้เมื่อเป็นเช่นนี้ เฟิ่งเชียนอวี่ที่อยู่ข้างหน้าวิ่งสุดแรงเกิด นักฆ่าสองคนตามอยู่ข้างหลังอย่างสบายใจ ดูท่าทาง เหมือนพวกเขากำลังมีความสุขกับการเล่นแมวจับหนูเฟิ่งเชียนอวี่สบถอยู่ในใจ แต่ไม่กล้าหยุดพักแม้แต่นิดเดียวไม่รู้ว่าวิ่งอยู่นานเท่าใด แต่นางวิ่งไม่ไหวแล้วจริง ๆ จึงยืนใช้มือค้ำต้นไม้ เหนื่อยจนหายใจหอบถี่นักฆ่าสองคนตามมาด้านหลังอย่างเชื่องช้า“ทำไม? พระชายาหกไม่วิ่งหนีแล้วหรือ?”เฟิ่งเชียนอวี่กัดฟันพร้อมกลอกตาหากไม่ไหวจริง ๆ นางคงต้องเข้าไปหลบในห้องทดลอง แม้เปิดเผยแล้วจะอันตรายมาก แต่ก็ดีกว่าถูกฆ่าตายเมื่อนางคิดได้อย่างนั้น จู่ ๆ ก็เลิกประหม่าทันที จากนั้นหันหลังมองทั้งสอง“พวกเราไม่น่าจะมีความแค้นต่อกัน? ข้าก็ไม่รู้จักพวกเจ้า ทำไมพวกเจ้าต้องฆ่าข้าด้วย?”“หึ ย่อมต้องได้รับคำสั่งจากผู้อื่นอยู่แล้ว”เฟิ่งเชียนอวี่หรี่ตา “ได้รับคำสั่งจากใคร?”“เรื่องนี้ รอให้พระชายาหกลงนรกแล้วไปถามยมบา

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 141

    ถูกคนไล่ล่าเช่นเดียวกัน กลุ่มที่ไล่ล่านางมีแค่สองคน แต่กลุ่มที่ไล่ล่าตงฟางจิ่ง มองไปปราดเดียว นับได้อย่างน้อยยี่สิบคน เพิ่มขึ้นสิบเท่าโดยตรงชั่วขณะเฟิ่งเชียนอวี่ไม่แน่ใจว่า การได้พบหมอนี่เป็นเรื่องดีหรือเรื่องแย่กันแน่“ท่านอ๋อง พวก พวกมันมาแล้ว” นางกล่าวอย่างทุลักทุเล“ข้าเห็นแล้ว ไป”ตงฟางจิ่งกล่าวพลางรวบเอวเฟิ่งเชียนอวี่ พลันโคจรกำลังภายใน ร่างกายลอยขึ้นอย่างปราดเปรียวอีกครั้ง“จับให้แน่น หากร่วงตายข้าไม่รับผิดชอบนะ”ทันทีที่เขากล่าวจบ เฟิ่งเชียนอวี่ก็ยกมือยกเท้าเกาะร่างกายเขาไว้แน่นอย่างเจียมตัว เห็นแล้วให้ความรู้สึกเหมือนเป็นตุ๊กแกตงฟางจิ่ง “...”เฟิ่งเชียนอวี่กอดคอของเขา มองกลุ่มคนชุดดำที่ไล่ตามอย่างไม่ลดละข้างหลัง หัวใจเต้นตุ๊บๆ อดไม่ได้ที่จะเร่งเร้า“ท่านอ๋อง ท่านรีบบินสิ บินเร็วหน่อย พวกมันตามมาแล้ว”การเคลื่อนไหวของตงฟางจิ่งนับว่าเร็วมากแล้ว แต่กลุ่มคนที่ไล่ล่าเขา แต่ละคนก็มีฝีมือไม่ธรรมดา การเคลื่อนไหวก็ว่องไวเช่นกันประกอบกับเขายังต้องแบกเฟิ่งเชียนอวี่ด้วยทุกครั้งที่ตงฟางจิ่งเร่งความเร็ว สลัดคนกลุ่มนั้นหลุด ผ่านไปเพียงครู่เดียว คนกลุ่มนั้นก็จะไล่ตามมาอีกครั้ง

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 142

    “เสียวอวี่ เอาเป็นว่าเจ้าจะหนีไม่ได้นะ”เฟิ่งเชียนอวี่ “...”“อย่าฟังนางพูดเหลวไหล นางกำลังทำร้ายเจ้า”เวลานี้เอง มีเสียงอีกสายหนึ่งผุดขึ้น เป็นเสียงที่แหลมเล็กน้อยเฟิ่งเชียนอวี่หันไปมอง เห็นเพียงปีศาจจิ๋วตนหนึ่งเกาะอยู่บนไหล่ขวาของนาง สวมชุดกระโปรงสีดำ มีปีกสีดำหนึ่งคู่ เท้าเหยียบเมฆดำ ใบหน้าก็เหมือนนางอย่างไม่มีผิดเพี้ยนเช่นกัน“แล้วเจ้าเป็นใคร?”ปีศาจจิ๋วหัวเราะเหอะๆ ใบหน้าเต็มไปด้วยความชั่วร้าย “ข้าก็คือเจ้า ข้าคือด้านที่ชั่วร้ายในจิตใจของเจ้า”ทันทีที่เพิ่งพูดจบ เฟิ่งเชียนอวี่ก็เหวี่ยงฝ่ามือออกไป ตบจนปีศาจจิ๋วมึนงง“ไสหัวไป พูดจาเป็นหรือไม่ แม่เจ้าสิจิตใจชั่วร้าย เห็นๆ อยู่ว่าตัวข้านั้นเป็นเทพธิดาตัวน้อยที่น่ารักและจิตใจดี”ปีศาจจิ๋ว “...” เกรงว่าเจ้ามีเข้าใจอะไรบางอย่างผิดเกี่ยวกับตัวเจ้าแล้วนางฟ้าจิ๋วรีบกล่าว “ถูกต้องๆ เสียวอวี่ เจ้าเป็นคนจิตใจดีที่สุด ตอนนี้เจ้าไม่ควรคิดเรื่องหนี แต่ต้องคิดหาวิธีช่วยผู้ชายของเจ้า”มุมปากเฟิ่งเชียนอวี่กระตุก มือก่ายหน้าผาก “เขาไม่ใช่ผู้ชายของข้า”“เขาเป็นสามีเจ้า ก็คือผู้ชายของเจ้า”เฟิ่งเชียนอวี่ “...”ปีศาจจิ๋วจ้องนางฟ้าจิ๋วอย่

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 143

    เฟิ่งเชียนอวี่ฟังพวกนางทะเลาะกันจนปวดศีรษะ ทนไม่ไหวจนกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ “พวกเจ้าสองคนหุบปากไปเลย น่ารำคาญชะมัด”พลันนางโบกมือ ปีศาจจิ๋วกับนางฟ้าจิ๋วหายไปอย่างไร้ร่องรอยเฟิ่งเชียนอวี่เพิ่งจะพบว่า เหมือนข้างหลังจะสงบลงมาก จึงอดไม่ได้ที่จะหันกลับไปกล่าวอย่างระมัดระวังเห็นเพียงนักฆ่าชุดดำที่ร่างกายบิดเบี้ยวนอนเกลื่อนบนพื้นที่โล่งตรงหน้า และมีแขนขาที่ขาดตกกระจายเต็มพื้น เป็นภาพที่สยดสยองมากมีเพียงตงฟางจิ่งยืนอยู่ตรงนั้นคนเดียว ชุดลายหม่างบนร่างกายควรดูเป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้นดวงตาเฟิ่งเชียนอวี่ลุกวาว ชนะแล้ว? หมอนี่เก่งจริงๆ โชคดีที่เมื่อครู่ตนไม่ได้หนีนางยกชายกระโปรงวิ่งเข้าไปทันที “ท่านอ๋อง” ตงฟางจิ่งเหลือบมองนางแวบหนึ่ง กล่าวอย่างเรียบเฉย “ไป”วินาทีต่อมา เฟิ่งเชียนอวี่รู้สึกเพียงภาพตรงหน้ามืดฉับพลัน หลังจากหวนคืนสติ นางถูกตงฟางจิ่งพาบินไปตามป่าอีกครั้งนางได้ยินเสียงหายใจที่หอบเล็กน้อยของตงฟางจิ่ง อดไม่ได้ที่จะกล่าว “ท่านอ๋อง ในเมื่อจัดการนักฆ่าหมดแล้ว พวกเราก็ไม่จำเป็นต้องเร่งเช่นนี้แล้วกระมัง”“ไม่ใช่แค่นี้”“ฮืม? อะไรไม่ใช่แค่นี้?”ไม่นาน เฟิ่งเชียนอวี่ก็เข้าใจ

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 144

    นางกล่าวยังไม่ทันจบ คนชุดดำกลุ่มนั้นก็พุ่งเข้ามาแล้ว เฟิ่งเชียนอวี่สะอึก คิดแล้วคิดอีก กัดฟันประคองตงฟางจิ่งวิ่งต่อไป“ท่านอดทนอีกนิด อีกนิดก็พอ”แค่วิ่งไปในที่ที่คนชุดดำมองไม่เห็น นางก็พาตงฟางจิ่งเข้าไปในห้องทดลองตงฟางจิ่งในเวลานี้ฝืนจนถึงขีดจำกัดแล้ว เขากล่าวอย่างทุลักทุเล “เจ้าหยุดเดี๋ยวนี้ ข้ายังต้านได้อีกสักพัก เจ้า รีบหนีไป”เฟิ่งเชียนอวี่เม้มปาก มองข้ามความตื้นตันที่ผุดขึ้นในใจ กล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ “พอแล้ว ท่านไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น วางใจได้ พวกเราไม่ตายแน่นอน”ไม่นาน นางก็ต้องมองตาค้างเพราะทั้งสองวิ่งได้ไม่กี่ก้าว ภาพตรงหน้าก็สว่างกะทันหัน หน้าผาที่ตั้งชันปรากฏต่อหน้าทั้งสอง“ไม่ใช่กระมัง สวรรค์กลั่นแกล้งข้า” เฟิ่งเชียนอวี่แทบกระอักเลือดคนชุดดำไล่ตามมาติดๆ คนที่เป็นหัวหน้าหรี่ตา กล่าวอย่างเรียบเฉย “ท่านอ๋องหก ดูเหมือนแม้แต่สวรรค์ก็อยากให้ท่านตาย”“แต่ว่า มีพระชายาอ๋องหกอยู่เคียงข้าง คิดว่าบนเส้นทางยมโลก ก็คงไม่เหงานัก”ตงฟางจิ่งในเวลานี้หมดสติไปแล้ว ไม่ได้ยินอะไรสักอย่าง เพราะเสียเลือดมากเกินไป และพิษเข้าสู่อวัยวะภายใน เฟิ่งเชียนอวี่กำหมัดแน่น มองคนกลุ่มนี้อย่าง

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 145

    เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง กลับมีความห้าวหาญและเด็ดเดี่ยวเช่นนี้ นี่ไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะมีกันได้“หัวหน้า สองคนนั้นไม่น่ารอดกระมัง” ลูกน้องคนหนึ่งที่อยู่ข้างหลังกล่าว“ไร้สาระ หน้าผาสูงเช่นนี้ ใครโดดลงไปแล้วไม่ตาย? เกรงว่าแม้แต่ศพก็หาไม่เจอแล้ว” หัวหน้านักฆ่ากล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ เวลานี้ คนทั้งสองที่ถูกระบุว่าตายไม่เหลือซาก กำลังลอยแกว่งไปแกว่งมากลางอากาศ และร่อนลงทีละนิดเฟิ่งเชียนอวี่สะพายร่มชูชีพ มือข้างหนึ่งจับตงฟางจิ่ง มืออีกข้างดึงเชือกร่มชูชีพ พยายามควบคุมทิศทาง ความสมดุล และความเร็วในการร่อนลง ใต้หน้าผาเป็นป่าที่หนาทึบ ภายใต้การควบคุมของเฟิ่งเชียนอวี่ พวกเขาร่อนลงพื้นอย่างปลอดภัยนางปลดเชือกที่ผูกไว้บนร่างกาย แล้วเก็บร่มชูชีพ ไม่มีเวลาสนใจว่าใต้หน้าผาเป็นอย่างไร เพราะตงฟางจิ่งยังอยู่ในอาการหมดสติเพราะถูกพิษถ้าหากยังไม่ถอนพิษให้เขา ไม่แน่หมอนี้อาจจะตายก็ได้ยังไม่พูดถึงว่านางเป็นหมอก่อน ต่อให้เห็นแก่ที่ตงฟางจิ่งช่วยนางกันอาวุธลับ และช่วยนางไว้ก่อนหน้านี้ เฟิ่งเชียนอวี่ก็ไม่มีทางปล่อยให้เขาตายโดยมาสนใจนางนำยาชาออกมาฉีดให้ตงฟางจิ่งหนึ่งเข็ม หลังจากนั้นพาเขาวาร์ปเข้าไปในห้อ

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 146

    เฟิ่งเชียนอวี่ถอนพิษของเขาเสร็จ ก็ล้างแผลให้เขา และยังได้นำผ้าห่มบางๆ ผืนหนึ่งมาคลุมบนร่างกายของเขานางหาวทีหนึ่ง ฝืนเก็บและทำความสะอาดเครื่องมือผ่าตัดทั้งหมด หลังจากนั้นเดินไปนอนบนโซฟาฝั่งตรงข้ามเฟิ่งเชียนอวี่ง่วงมากจริงๆ ก่อนหน้านี้สภาพจิตใจตึงเครียดมาโดยตลอด ตอนนี้ผ่อนคลายลงแล้ว ความง่วงก็เข้าจู่โจมทันที ต้านอย่างไรก็ต้านไม่ไหว หลังจากตั้งนาฬิกาปลุก ก็นอนหลับไปอย่างรวดเร็วอย่างไรที่นี่ก็เป็นห้องทดลองของนาง เป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดในโลกนี้การนอนครั้งนี้ เฟิ่งเชียนอวี่นอนจนถึงเช้าของวันที่สองโดยตรง นางตื่นเพราะความหิว นาฬิกาปลุกดังหลายครั้ง ก็ไม่สามารถปลุกนางตื่นเฟิ่งเชียนอวี่ลุกขึ้นนั่งอย่างงัวเงีย บิดขี้เกียจทีหนึ่ง ตบหน้าตัวเองสองสามที รู้สึกตื่นตัวขึ้นไม่น้อยพลันนางนึกถึงอะไรบางอย่าง หันไปมองทางเตียงผ่าตัด ตงฟางจิ่งยังคงนอนอยู่ตรงนั้น จึงลุกขึ้นไปดูเยี่ยม สารพิษในร่างกายถูกขจัดจนเกือบหมดแล้ว การทำงานต่างๆ ของร่างกายได้รับการฟื้นฟู และเริ่มทำงานได้ตามปกติเฟิ่งเชียนอวี่ไปเอาหม้อหุงข้าวกับข้าวหอมหนึ่งถุงจากห้องเก็บของ แล้วหยิบน้ำแร่ ผักเขียวสองสามอย่าง และกุนเชียงจา

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 147

    สำหรับคำถามนี้ เฟิ่งเชียนอวี่ได้คิดข้ออ้างไว้นานแล้ว“พวกเราโชคดี ตอนที่กระโดดลงมา ถูกกิ่งไม้ของต้นไม้ต้นหนึ่งเกี่ยวเอาไว้ จึงทำให้พวกเราไม่ได้พบกับจุดจบที่ร่างแหลกเป็นชิ้นเนื้อ”ตงฟางจิ่งมองนาง แล้วมองตัวเอง สีหน้าแปลกๆ “เจ้าแน่ใจนะ?”อย่าว่าแต่เขาเลย แม้แต่กระโปรงบนร่างกายเฟิ่งเชียนอวี่ก็ไม่ฉีกขาดเลยสักนิด และถึงขั้นไม่มีฝุ่นติดด้วยซ้ำตกลงมาจากหน้าผาที่สูงเช่นนี้ ต่อให้โชคดีถูกกิ่งไม้เกี่ยวเอาไว้ ด้วยแรงที่ตกลงมา เสื้อผ้าบนร่างกายก็ควรถูกเกี่ยวจนฉีกขาดกระมังเฟิ่งเชียนอวี่ย่อมรู้ว่าข้ออ้างนี้ไม่น่าเชื่อเสียเท่าไร แต่แล้วมันอย่างไรล่ะนางพยักหน้าอย่างหน้าตาย “แน่ใจสิ ไม่เช่นนั้นท่านอ๋องรู้สึกว่า เหตุใดพวกเราสองคนกระโดดลงมาแล้วยังไม่ตกตายล่ะ?”ตงฟางจิ่ง “...”เขาจะไปรู้ได้อย่างไรแต่สติสัมปชัญญะบอกเขาว่า ผู้หญิงคนนี้กำลังโกหกเขา แต่ถ้าหากไม่เชื่อคำพูดที่เหมือนแถไปเรื่อยนี้ เช่นนั้นพวกเขาลงมาอย่างปลอดภัยได้อย่างไรกันแน่?ด้วยความสูงและความชันของหน้าผานี้ ต่อให้เป็นคนที่มีวิชาตัวเบาดีเพียงใดกระโดดลงมา แม้ไม่ตายก็ต้องบาดเจ็บสาหัสตงฟางจิ่งคิดอย่างไรก็ไม่เข้าใจ เขามองไปทางเฟิ่ง

บทล่าสุด

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 212

    “ฮือ ฮือ...”ตงฟางหล่างหน้าซีดด้วยความหวาดผวา พร้อมส่ายหน้าอย่างแรง ไม่ใช่นะเสด็จพ่อ ไม่ได้เป็นเช่นนั้นทว่าฮ่องเต้เทียนหยวนกลับเชื่อไปเจ็ดแปดส่วนแล้วเพราะมือสังหารพูดอย่างมีเหตุมีผล หากตงฟางจิ่งลอบสังหารเขาจริง เหตุผลล่ะ?ตงฟางจิ่งร่างกายไม่แข็งแรงตั้งแต่เด็ก น้อยมากที่จะออกจากจวนอ๋อง ไม่มีเหตุผลในการลอบปลงพระชนม์แม้แต่น้อย เพราะต่อให้ทำสำเร็จ แล้วเขาจะทำอะไรได้?ทว่ารัชทายาทไม่เหมือนกันหากฮ่องเต้เทียนหยวนตาย รัชทายาทจะเป็นฮ่องเต้ตงเยว่คนต่อไป ถือเป็นผลประโยชน์มหาศาลสำหรับเขา จึงค่อนข้างเข้าใจได้ ฮ่องเต้เทียนหยวนเป็นฮ่องเต้ที่เห็นแก่ตัวและรักอำนาจ คำพูดของมือสังหารแต่ละคำกระแทกเข้าไปในใจเขา ราวกับรุกล้ำขีดจำกัดของเขา ทำให้เขาโกรธจนถึงขีดสุด“ทหาร มาลากตัวมือสังหารผู้นี้ลงไปประหารซะ”“ยังมีรัชทายาท คนที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง เนรคุณอกตัญญู ช่างน่าโมโหยิ่งนัก มาลากตัวไปรอรับโทษที่คุกหลวง”ฮ่องเต้เทียนหยวนโมโหมาก หลังจากสั่งเสร็จจึงจากไปทันทีเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างสุดขั้ว ตงฟางจิ่งถูกปล่อยออกจากวังอย่างปลอดภัย ส่วนรัชทายาทถูกนำไปคุมขังที่คุกหลวงรัชทายาทคงไม่นึกไม่ฝัน เมื

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 211

    “รัชทายาท...”น้ำเสียงเย็นเยือกของฮ่องเต้เทียนหยวนทำให้ใจของตงฟางหล่างบีบรัด“เสด็จพ่อ ลูกถูกปรักปรำพ่ะย่ะค่ะ ไม่รู้ว่ามือสังหารผู้นี้ได้รับคำสั่งจากใคร ถึงได้ใส่ความลูกเช่นนี้”“ก่อนหน้านี้เขาซัดทอดน้องหกก่อน ตอนนี้ซัดทอดลูก เห็นได้ชัดว่ามีเงื่อนงำ ความภักดีที่ลูกมีต่อเสด็จพ่อ ฟ้าดินเป็นพยานได้ ไม่กล้าลบหลู่พระองค์แม้แต่น้อย”“เสด็จพ่อ นี่เป็นแผนการ ขอจงทรงตรวจสอบด้วยพ่ะย่ะค่ะ”สีหน้าฮ่องเต้เทียนหยวนบรรยายไม่ถูก แต่ไม่ดีแน่นอน สายตาของพระองค์หันมองตงฟางจิ่ง“เจ้าหก เรื่องนี้เจ้าคิดเห็นอย่างไร?”ตงฟางจิ่งเอ่ยเสียงเรียบ “ลูกไม่มีความเห็น มีเพียงประโยคเดียวเท่านั้น ลูกเป็นผู้บริสุทธิ์พ่ะย่ะค่ะ”ตงฟางหล่างกัดฟันกรอด แล้วถลึงตาใส่เขา เจ้าบริสุทธิ์หรือ? ดังนั้นคนที่มีปัญหาคือเขางั้นหรือ?เขาอดแค่นหัวเราะไม่ได้ “น้องหกพูดอย่างไม่เดือดร้อน ครั้งที่แล้วมือสังหารซัดทอดเจ้า คราวนี้กลับเปลี่ยนคำให้การกะทันหัน ช่างบังเอิญเสียจริง”ตงฟางจิ่งส่ายหน้าเชื่องช้า “มือสังหารชี้แจงสาเหตุแล้วไม่ใช่หรือ”“ท่านสังหารน้องสาวเพียงคนเดียวของเขา คนเป็นพี่ชายอย่างเขาไม่ยินดีถวายชีวิตให้ท่านอีกแล้ว เรื่

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 210

    “เมื่อครู่เจ้าบอกว่ารัชทายาทสั่งการเจ้าหรือ?”“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมไม่กล้าโป้ปด ทุกอย่างเป็นคำสั่งขององค์รัชทายาท”ตงฟางหล่างที่อยู่อีกด้านกำหมัดแน่น มองดูมือสังหารด้วยแววตาอำมหิต แทบอยากจะเข้าไปแทงอีกฝ่ายให้ตายคามือเขากล้าได้อย่างไร...“ฮึ เจ้านึกว่าเราจะเชื่อเจ้าหรือ?”“ครั้งที่แล้วเจ้าซัดทอดอ๋องหก ครั้งนี้ซัดทอดรัชทายาท เจ้ากำลังปั่นหัวเราเหมือนคนโง่หรือ?”มือสังหารรีบกล่าว “กระหม่อมไม่กล้า”“เราว่าเจ้าใจกล้ามาก ในเมื่อเจ้าซัดทอดรัชทายาท เราจะถามเจ้าอีกครั้ง เหตุใดครั้งแรกเจ้าซัดทอดอ๋องหก แล้วตอนนี้ถึงเปลี่ยนคำให้การอีกครั้ง?”“หากเจ้าไม่มีเหตุผล เราจะให้เจ้าได้ลิ้มรสสุดยอดของเครื่องทรมาน” ฮ่องเต้เทียนหยวนทรงพลังดูน่าเกรงขามมือสังหารกัดฟันกรอก แล้วจ้องไปที่รัชทายาท ในดวงตามีความโกรธแค้นที่รุนแรงความโกรธแค้นนั้นเสมือนจริงมากตงฟางหล่างถูกเขาจ้องจนชะงักไป“กระหม่อมเป็นข้ารับใช้ขององค์รัชทายาทมาตลอด ทำงานให้องค์รัชทายาทด้วยความจงรักภักดี”“การลอบปลงพระชนม์ในครั้งนี้ เดิมทีกระหม่อมตั้งใจแน่วแน่ว่าจะตาย เพราะองค์รัชทายาทเคยบอกว่าหากกระหม่อมเกิดเรื่อง จะช่วยดูแลน้องสาวเพียง

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 209

    ถูกต้อง หากไม่มีตราประทับนั่น แค่คำให้การของมือสังหาร คงไม่มีน้ำหนักมากพออ๋องทุกคนล้วนมีตราประทับเฉพาะของทุกคน เพื่อแสดงสถานะของตน ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ไม่ว่าจะเป็นวัสดุหรือฝีมือแกะสลักล้วนเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งยากจะเลียนแบบทว่าตราประทับนั่นกลับอยู่บนตัวมือสังหาร หนำซ้ำหลังผ่านการพิสูจน์ มันเป็นของจริงนี่จึงเป็นสาเหตุให้ฮ่องเต้เทียนหยวนสงสัยตงฟางจิ่งสีหน้าฮ่องเต้เทียนหยวนไม่สู้ดีนัก เขาหันมองตงฟางจิ่ง “เจ้าหก เจ้าเป็นลูกที่เรารักและเอ็นดูมาโดยตลอด หากเจ้ายอมรับตอนนี้ เราจะลงโทษสถานเบา”“ไม่อย่างนั้น อย่าหาว่าเราไม่ให้โอกาสเจ้า”เมื่อรัชทายาทได้ยิน แววตามีความไม่สบอารมณ์แวบผ่านตงฟางจิ่งสีหน้าเรียบเฉย “ลูกไม่มีความผิดพ่ะย่ะค่ะ”“ดี นำตัวเข้ามาเดี๋ยวนี้” ฮ่องเต้เทียนหยวนเอ่ยเสียงฮึดฮัดในไม่ช้า มือสังหารที่ถูกขังอยู่ในเรือนจำกรมราชทัณฑ์ถูกคุมตัวเข้ามามือสังหารหมอบกราบอยู่บนพื้น ไม่มีปฏิกิริยาใดทั้งสิ้นฮ่องเต้เทียนหยวนมองเขาเยือกเย็น “เจ้าลองบอกเราอีกครั้งสิ คืนนั้นที่เจ้าลอบสังหารเรา ได้รับคำสั่งจากใครกันแน่?”“ทางที่ดีจงพูดความจริง หากกล้าโป้ปดแม้แต่น้อย เราจะเฉือนเจ้าท

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 208

    “พระชายา ตกลงท่านทำอะไรลงไป?”เฟิ่งเชียนอวี่เท้าคางพร้อมโบกมือ “บอกไปพวกเจ้าก็ไม่เข้าใจอยู่ดี”นางหันมองเว่ยเซิงกับเว่ยชิว “พวกเจ้าสองคนมีวิธีทำให้ฮ่องเต้ไต่สวนคดีของตงฟางจิ่งอีกครั้งหรือไม่?”“จำไว้ ทางที่ดีต้องไต่สวนต่อหน้าเหล่าขุนนาง โดยเฉพาะสามารถไต่สวนในท้องพระโรง สอบสวนมือสังหารคนนั้นต่อหน้าทุกคน”“ไม่ได้นะขอรับพระชายา หากมือสังหารคนนั้นซัดทอดท่านอ๋องอีกครั้ง เช่นนั้นข้อหานี้ จะไม่มีวันรอดไปได้อีกเลย”สีหน้าเว่ยเซิงเคร่งเครียดมากเฟิ่งเชียนอวี่กลอกตามองเขา “เรื่องนี้ข้าจะไม่รู้ได้อย่างไร? วางใจเถอะ หากอยากให้ท่านอ๋องของพวกเจ้าออกมาจากคุกหลวงอย่างปลอดภัย ต้องทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ”“นี่มัน...”เว่ยเซิงเอ่ยอย่างลังเล “พระชายา ท่านมั่นใจหรือ?”“มั่นใจแน่นอน”“งั้น...ก็ดี ข้าน้อยเข้าใจแล้ว” เว่ยเซิงสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วทำความเคารพคดีลอบปลงพระชนม์ฮ่องเต้เทียนหยวน แม้จะถูกมือสังหารซัดทอด แต่ในทางความผิด ตงฟางจิ่งยังไม่ยอมรับแม้ภายนอกตงฟางจิ่งจะเป็นอ๋องที่อ่อนแอขี้โรค ไม่สนใจเรื่องภายนอก ทว่าหลายปีมานี้ แอบวางแผนอยู่เบื้องหลังไม่น้อยเรื่องลอบปลงพระชนม์ เป็นความผิดที่ใส่ร้

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 207

    บ่าวทางซ้ายมือเข้าใจทันที จึงก้าวไปหนึ่งก้าวแล้วทำให้เหยียนความสลบเขาวางเหยียนควานไว้บนพื้น แล้วหันไปมองอีกคน “พระชายา ท่านเก่งกาจเหลือเกินขอรับ”นึกไม่ถึงว่าพวกเขาจะเข้ามาอย่างง่ายดาย หนำซ้ำยังไม่มีใครขัดขวางที่แท้บ่าวรับใช้ทั้งสองคน คือเฟิ่งเชียนอวี่และเว่ยเซิงส่วนเหลิ่งหานและเว่ยชิว ทั้งสองคนรออยู่ด้านนอก“เจ้าเฝ้าเขาให้ดี ข้าจะไปพบมือสังหารคนนั้น”“ไม่ได้ขอรับพระชายา ให้ข้าน้อยไปเป็นเพื่อนเถอะ ท่านเข้าไปคนเดียวอันตรายมาก”“วางใจเถอะ ข้ารู้จักประมาณตน ไม่ต้องพูดมาก”หลังจากเฟิ่งเชียนอวี่เอากุญแจมาจากมือเหยียนควาน ในไม่ช้าก็หาห้องขังของมือสังหารคนนั้นเจอพื้นที่บริเวณนี้เป็นส่วนที่ลึกมาก ห้องขังรอบด้านล้วนว่างเปล่า มีเพียงหนึ่งห้องที่คุมขังคนเอาไว้ จึงหาได้ง่ายมากนางเปิดประตูห้องขัง แล้วเดินเข้าไปอย่างเชื่องช้ามือสังหารที่เดิมทีนอนพักสายตาอยู่บนเตียงลืมตาโพลง แล้วระมัดระวังตัวมาก “เจ้าคือใคร? เข้ามาได้อย่างไร?”เฟิ่งเชียนอวี่มองสำรวจอีกฝ่ายสักครู่ ใบหน้าดำคล้ำ หน้าตาธรรมดา เป็นคนที่หน้าตากลืนหายเข้าไปในฝูงชนนางเลิกคิ้ว เดินเข้าไปอย่างเชื่องช้า จากนั้นนั่งลงบนเก้าอี

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 206

    “...”เว่ยเซิงตาลุกวาว “พระชายา ท่านรู้แล้วหรือว่าจะช่วยท่านอ๋องได้อย่างไร?”เฟิ่งเชียนอวี่พยักหน้า “มีวิธีที่ช่วยได้จริง แต่ว่า ข้าจำเป็นต้องได้พบมือสังหารคนนั้น”“ไม่มีปัญหา เรื่องนี้พวกข้าจะคิดหาวิธีเองขอรับ” เว่ยเซิงเว่ยชิวรีบรับปากทันทีเฟิ่งเชียนอวี่ผายมือ “ฤกษ์ดีไม่สู้ฤกษ์สะดวก ทำเสียตอนนี้เถอะ”“ตอนนี้หรือ?” ทั้งสามคนแปลกใจนางเลิกคิ้ว “ไม่ได้หรือ?”“ไม่ใช่แน่นอนขอรับ” พวกเขาแค่รู้สึกว่ากะทันหันเกินไปเท่านั้นแต่เรื่องช่วยท่านอ๋องจะรอช้าต่อไปไม่ได้แล้ว ยิ่งเร็วก็ยิ่งดี พวกเว่ยเซิงจึงลงมือทันทีขณะนี้เป็นเวลาตีสามแล้ว บนถนนหนทางจึงไม่มีผู้คน เงียบสงัดมาก คนชุดดำทั้งสี่คนเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว มุ่งหน้าไปที่เรือนจำของกรมราชทัณฑ์เรือนจำของกรมราชทัณฑ์ย่อมตั้งอยู่ภายในกรม และมีทหารป้องกันแน่นหนาเช่นกันหากอยากเคลื่อนไหวโดยไม่เอิกเกริก แทรกซึมเข้าไปโดยไม่ให้เหล่าทหารพวกนี้รู้ คงทำได้เพียง...เฟิ่งเชียนอวี่ครุ่นคิด “เสนาบดีกรมราชทัณฑ์สามารถเข้าออกเรือนจำได้ตลอดใช่หรือไม่?”เว่ยเซิงพยักหน้า “แน่นอนขอรับ”สำหรับเสนาบดีกรมราชทัณฑ์ เรือนจำเปรียบเสมือนพื้นที่ของตัวเอง ย่อมเข้

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 205

    “เกลียดหรือ...คงไม่ถึงขั้นนั้น”ปีศาจจิ๋วที่มีเงางอกออกมาบนหัวบินเข้ามา ทำเสียงฮึดฮัด “หากไม่ใช่เพราะตอนแรกเขาไม่ยอมหย่าร้างกับเจ้า ด้วยความสามารถของเจ้า ตอนนี้คงมีความสุขอิสรเสรีไปแล้ว”“เขาเป็นคนกักขังเจ้าเอาไว้ในจวนอ๋องหก ทำให้เจ้าไม่อาจทำตามความฝันได้”เฟิ่งเชียนอวี่กระพริบตา แล้วสงสัย “ความฝันของข้าคือสิ่งใดหรือ?”ปีศาจจิ๋วบินวนกลางอากาศหนึ่งรอบ กำหมัดขวาแล้วชูขึ้น “ความฝันของพวกเราคือ เงินทองที่ใช้ไม่หมด หนุ่มรูปงามที่เกี้ยวไม่หวาดไม่ไหว”เฟิ่งเชียนอวี่ “...”นางฟ้าจิ๋วถีบปีศาจจิ๋วจนกระเด็น พร้อมมือเท้าเอว เอ่ยอย่างโกรธเคือง “เจ้าหุบปากเดี๋ยวนี้เลยนะ”“เชียนอวี่ เจ้าอย่าฟังเขาพูดจาเหลวไหล เขาคือหายนะ เจ้าดูเขาสิแค่หน้าตาก็ไม่เหมือนคนดีแล้ว”เฟิ่งเชียนอวี่เอ่ยเชื่องช้า “พวกเจ้าสองคนหน้าตาเหมือนกันไม่ผิดเพี้ยน”“ใครเป็นคนบอก”“ไม่ใช่สักหน่อย”ปีศาจจิ๋วและนางฟ้าจิ๋วโต้แย้งพร้อมกันเฟิ่งเชียนอวี่ถอนหายใจ แล้วโบกพวกเขาให้พ้นทางอย่างน่ารำคาญ “เอาละ เอาละ หนวกหูจะตายแล้ว ไปไกล ๆ ข้าเลย”นางฟ้าจิ๋วเบะปาก “เจ้าต้องช่วยเขาให้ได้นะ หากสามีเจ้าตาย เจ้าเองก็จบเห่เช่นกัน”“ที่นี่

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 204

    “เจ้านึกว่าข้าจับตัวช่างพวกนั้นไม่ได้หรือ?”“ตอนนี้ข้าใจดีเปิดโอกาสให้เจ้ามีชีวิตรอด อย่าทำตัวไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี”ตงฟางจิ่งเอ่ยเสียงเรียบ “หากรัชทายาทเก่งกล้าขนาดนั้น เชิญตามสบาย”เฟิ่งเชียนอวี่เคยกล่าวไว้ แม้ช่างเหล่านั้นจะรู้วิธีทำ แต่พวกเขาไม่รู้ขั้นตอนสุดท้ายที่สำคัญที่สุดหากไม่มีขั้นตอนนี้ จะไม่สามารถผลิตแก้วหลิวหลีที่เป็นผลึกใสออกมาได้คิดไปก็น่าจะใช่ นางรักเงินทองขนาดนั้น สิ่งที่ทำเงินได้มากมาย จะเปิดเผยออกไปหมดได้อย่างไร หญิงผู้นั้นฉลาดเป็นกรดตงฟางจิ่งจึงไม่เป็นห่วงสักนิดตงฟางหล่างเห็นว่าใช้ไม้ไหนก็ไม่ได้ผล จึงจากไปด้วยความโกรธจวนอ๋องหกเฟิ่งเชียนอวี่พลิกไปพลิกมาอยู่บนเตียงเพราะนอนไม่หลับในหัวของนางคิดถึงตงฟางจิ่งโดยไม่มีสาเหตุแม้นางจะไม่รู้ว่าคุกหลวงในยุคโบราณเป็นอย่างไร แต่คิดก็รู้ แม้คุกหลวงจะเป็นคุกระดับสูง ทว่าอย่างไรก็คือคุก จะสุขสบายได้อย่างไรตงฟางจิ่งถูกจับตัวไป ข้างในคงไม่มีใครใช้เครื่องทรมานกับเขาหรอกนะ?ไม่ไม่ ไม่น่าจะใช่ ไม่ว่าอย่างไรเขาก็เป็นท่านอ๋อง เป็นถึงองค์ชาย คงไม่ตกต่ำขนาดนั้นแต่เรื่องที่เขาถูกตั้งข้อหาไม่ใช่เรื่องเล็ก นั่นมันก่อกบฏเ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status