Share

บทที่ 668

Author: ฮวาฮวาตีลังกาแปล
“กินยาถอนพิษ แล้วไปเสีย อย่าให้ข้าเห็นหน้าพวกเจ้าอีก”

กลุ่มคนที่เพิ่งจุดไฟเผ่ายุ้งฉางทยอยกับเก็บยาถอนพิษที่กระจายอยู่บนพื้น แล้วรีบโยนเข้าปากกลืนลงคอ

เมื่อยาถอนพิษลงท้องไปแล้ว ทุกคนจึงพากันคารวะหัวโขกดิน

“ใต้เท้าโปรดวางใจ ข้าน้อยจะหายตัวไปทันที”

“ไปเถอะ”

พวกเขาล้วนแต่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชา รับคำสั่ง ลู่จิงเองก็ขี้เกียจจะสร้างความลำบากใจให้พวกเขา

“ขอบคุณขอรับใต้เท้า”

คนกลุ่มนั้นพากันคารวะหัวโขกดิน จากนั้นก็รีบจากไปโดยไม่หันกลับมา

“ไม่นาน กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงก็ลอยตัวเข้ามา

“เรียกองครักษ์จันทรารวมตัว เราจะกลับเจดีย์หนิงกู่ก่อน”

กู้หว่านเยว่รู้สึกไม่สบายใจอยู่ภายใน นางมักจะรู้สึกว่าเถาเอ๋อร์กำลังจะก่อปัญหา

ลู่จิงพยักหน้า “ข้าเรียกองครักษ์จันทรารวบตัวเรียบร้อยแล้วขอรับ”

ทุกคนเร่งควบม้ามายังริมแม่น้ำ ตั้งใจว่าจะนั่งเรือข้ามฟากข้ามแม่น้ำมู่ตันไป

แต่ด้านหลังกลับถูกฝนธนูกลุ่มหนึ่งกราดยิงเข้ามา

“กู้หว่านเยว่ เจ้าจริง ๆ ด้วย เจ้าหนีไม่พ้นแล้ว!”

เถาเอ๋อร์พาคนกลุ่มใหญ่ติดตามมาด้วย

พวกเขาไล่ตามมาเร็วมาก กู้หว่านเยว่ประหลาดใจเล็กน้อย ไม่นานก็ตระหนักได้ว่าคนกลุ่มนี้จะต้องวิทยายุทธ์แ
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 669

    ความคิดนี้ทำให้กู้หว่านเยว่ไม่สบายใจ“นี่ ระบบ ออกมาอธิบายหน่อยสิ”กู้หว่านเยว่ถือโอกาสนี้ถามระบบไม่ใช่ว่านางเผด็จการ แต่หลังจากที่นางมายังโลกใบนี้แล้ว ดูเหมือนว่ายังไม่เคยเจอคนที่มีพลังพิเศษเหมือนกับนาง“เถาเอ๋อร์ มีพลังพิเศษอย่างแน่นอน” ระบบกล่าว “แต่พลังพิเศษของนางสามารถย้อนกลับได้”“ย้อนกลับหรือ?”นัยน์ตาของกู้หว่านเยว่เคร่งขรึมลง คนที่ตระหนักรู้ถึงพลังพิเศษนั้นมีไม่น้อย แต่พลังพิเศษของทุกคนนั้นแตกต่างกันการย้อนกลับนางเองก็เคยได้ยินมาก่อน พลังพิเศษที่ตื่นรู้ของคนบางคนแข็งแกร่งมาก แต่ร่างกายกลับไม่วิวัฒนาการเป็นหนึ่งเดียวกัน ดังนั้นทุกครั้งที่ใช้พลังพิเศษ ร่างกายจะได้รับการย้อนกลับในระดับที่แตกต่างกัน“พลังพิเศษแบบห้วงมิติของโฮสต์นั้นต่างจากผู้อื่น ไม่เพียงแต่ไม่มีผลข้างเคียงแล้ว ในระหว่างที่กักตุนสิ่งของก็ยังสามารถชะล้างร่างกายและเติมพลังชีวิตให้เจ้าไปพร้อมกันได้” ระบบอธิบายอย่างเงียบ ๆ “มิเช่นนั้นในขณะที่เจ้าท้อง เจ้าจะกระโดดโลดเต้นไปทั่วทุกหนแห่งเช่นนี้ได้อย่างไร”กู้หว่านเยว่รู้อยู่แล้วว่าชนรุ่นหลังสามารถตระหนักรู้ถึงความสามารถขั้นสูงสุดของตัวเองได้สิ่งที่นางเป็นก

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 670

    “ท่านพี่ เราออกไปพร้อมกันเถอะ ท่านจัดการชายชุดดำกลุ่มนั้นก่อน ส่วนข้าจะถ่วงเวลานางไว้”เถาเอ๋อร์ผู้นี้ชักจะบ้าคลั่งเกินไปแล้ว ไม่รู้เลยว่านางยังทำอะไรได้อีกบ้างซูจิ่งสิงรับปืนมา แต่ก็ยังเป็นห่วงกู้หว่านเยว่ “น้องหญิง เจ้าอยู่ในห้วงมิติก่อนเถอะ ข้าจะออกไปจัดการพวกเขาเพียงผู้เดียว”“ไม่ได้” กู้หว่านเยว่ปฏิเสธโดยไม่คิด “เราเป็นสามีภรรยากัน ข้าไม่มีทางปล่อยท่านออกไปข้างนอกเพียงผู้เดียวอย่างแน่นอน สามีภรรยาก็ต้องสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันสิ”ยิ่งไปกว่านั้นเถาเอ๋อร์ยังมีชายชุดดำติดตามมาด้วยเป็นจำนวนมาก ต่อให้ซูจิ่งสิงจะเก่งแค่ไหน แต่การรับมือกับศัตรูรอบทิศด้วยสองหมัดก็นับว่ายากยิ่ง“ก็ได้”ซูจิ่งสิงพยักหน้าอย่างจนปัญญาเขารู้จักนิสัยของภรรยาเป็นอย่างดี หากตัดสินใจแล้ว ให้ตายอย่างไรก็ไม่มีวันเปลี่ยนใจซูจิ่งสิงกล่าวว่า “หากมีอันตรายเจ้าต้องกลับเข้าไปในห้วงมิติทันที ไม่ต้องสนใจข้า”เขากล่าวและตัดสินใจเด็ดขาดอยู่เงียบ ๆ หากตกอยู่ในอันตรายจริง ๆ เขาจะสละชีวิตตัวเองเพื่อปกป้องความปลอดภัยของกู้หว่านเยว่ทั้งสองคนออกมาจากห้วงมิติ“กู้หว่านเยว่ เจ้ามาออกมาเถอะ จะซ่อนตัวเหมือนเต่าที่หดหัวอย

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 671

    กล่าวได้ว่า เถาเอ๋อร์ในตอนนี้แข็งแกร่งมาก แม้ว่ากู้หว่านเยว่จะวาบหายตัวไป แต่อีกฝ่ายก็ยังไล่ตามมาทันส่วนเรื่องที่ทำให้กู้หว่านเยว่ปวดหัวยิ่งกว่าก็คือ ร่างกายของเถาเอ๋อร์ดูท่าทางจะไม่มีจุดอ่อน ต่อให้ถูกแทงหลายครั้ง นางก็เหมือนไม่รู้สึก“เหอะ ๆ เจ้าคิดจะฆ่าข้า ไม่มีทางหรอก กู้หว่านเยว่ วันนี้คือวันตายของเจ้า”เถาเอ๋อร์พุ่งตรงมาข้างหน้าของกู้หว่านเยว่ นัยน์ตาของนางคมกริบ“ปัง”ทันใดนั้นเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นท่ามกลางป่าเหมย กระสุนลูกหนึ่งยิงทะลุขาของเถาเอ๋อร์ ทำให้นางกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด“ท่านพี่ ท่านมาแล้ว?”กู้หว่านเยว่หันกลับไปด้วยความดีใจ ทำไมชายผู้นี้ถึงรู้ว่าจุดอ่อนของเถาเอ๋อร์อยู่ที่ขา“น้องหญิง เจ้าไม่เป็นไรใช่หรือไม่?”ซูจิ่งสิงลอยตัวเข้ามา หลังจากจัดการชายชุดดำหมดแล้ว เขาก็พุ่งมาทางนี้ทันที เพราะกลัวว่ากู้หว่านเยว่จะเป็นอันตรายเมื่อเห็นนางไร้ซึ่งบาดแผลใด ๆ เขาก็โล่งใจ“จัดการเถาเอ๋อร์ก่อน”อาการบาดเจ็บบนขาทำให้ความเร็วของเถาเอ๋อร์ลดลงไม่น้อยซูจิ่งสิงถือโอกาสนี้ลอยตัวขึ้นมา แล้วใช้เท้าเตะนางให้ล้มไปบนพื้น กู้หว่านเยว่รีบรุดขึ้นหน้า ใช้ด้ามปืนฟาดที่หัวของนาง“เก่งม

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 672

    น้ำเสียงของซูจิ่งสิงเริ่มร้อนใจมากขึ้น “ถึงขนาดนี้แล้ว ไม่ต้องสนใจนางหรอก ร่างกายของเจ้าสำคัญกว่า ปวดท้องแบบนี้เป็นอะไร ลูกเจ็บหรือเจ้าเจ็บ?”เขานึกเสียใจไม่น้อยรู้อย่างนี้ไม่น่าตามใจนางเลย ไม่น่าให้นางมาที่แม่น้ำมู่ตัน น่าจะให้นางขึ้นเรือ ไม่น่าให้นางออกมาจากห้วงมิติ หากนางจะโกรธก็ปล่อยให้นางโกรธไป เขารับได้“ซูจิ่งสิง” สีหน้าของกู้หว่านเยว่แสดงถึงความเจ็บปวด “ข้ารู้สึกเหมือนจะคลอดบุตร”“ว่าอย่างไรนะ?” เพิ่งแปดเดือนเองซูจิ่งสิงได้สติทันที กู้หว่านเยว่กำลังจะคลอดก่อนกำหนด อาจเป็นเพราะตกใจกับการกระทำเมื่อครู่ของเถาเอ๋อร์“ข้าจะอุ้มเจ้าไปหาหมอเดี๋ยวนี้”ซูจิ่งสิงรีบอุ้มกู้หว่านเยว่ขึ้นมา เวลานี้พวกเขาได้เข้ามาถึงด้านในภูเขาหิมะแล้ว ถ้าลอยตัวออกไปต้องใช้เวลาสองชั่วยามสองชั่วยาม....ซูจิ่งสิงใช้กำลังภายใน จนเกิดเป็นกระแสลมอยู่ใต้ฝ่าเท้ากู้หว่านเยว่นอนอยู่ในอ้อมกอดของเขา หลับตาสนิท หัวคิ้วขมวดมุ่น ทำให้เขายิ่งร้อนใจการคลอดบุตรของผู้หญิงเป็นเรื่องที่อันตรายมาก พลาดนิดเดียวก็อาจนำไปสู่ความตายได้ ต่อให้มีหมอตำแย ก็มักจะมีฉากการสูญเสียของแม่ลูกให้เห็นอยู่บ่อยครั้งซูจิ่งสิงเค

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 673

    ปลายนิ้วของซูจิ่งสิงสั่นระริก “หวังว่าท่านป้าจะช่วยนางได้”หมอตำแยลูบท้องของกู้หว่านเยว่อีกครั้ง ไม่ใช่ว่านางไม่เคยทำคลอดก่อนกำหนด อีกทั้งตำแหน่งของทารกในครรภ์ของฮูหยินผู้นี้ยังถูกต้องด้วย ร่างกายของผู้เป็นแม่แข็งแรงมาก คงจะไม่มีปัญหามากนัก“เชิญคุณชายออกไปก่อนเถอะ ตอนคลอด บุรุษอย่างพวกท่านไม่ควรอยู่ในนี้”ไม่ได้หมายถึงกลิ่นคาวเลือดในห้องคลอด แต่ประการที่หนึ่งคือเขาช่วยอะไรไม่ได้รังแต่จะสร้างความวุ่นวาย ประการที่สองเขาเป็นกังวลเกินจนทำให้นางเสียสมาธิ“ข้าช่วยได้”ครั้นเห็นกู้หว่านเยว่หมวดคิ้วมุ่น ซูจิ่งสิงจะกล้าทิ้งนางได้อย่างไร“บุรุษตัวใหญ่โตอย่างท่านจะช่วยอะไรได้ ออกไปเถอะ มีบุตรสาวของข้าคอยช่วยอยู่ในนี้แล้ว”ใบหน้าของหมอตำแยนิ่งสงบ แม้ว่าบุคลิกของซูจิ่งสิงจะดูสูงศักดิ์ แต่ในห้องคลอดเป็นอาณาเขตของหมอตำแย ไม่มีใครเหมาะสมเท่ากับนางแล้ว“ท่านพี่ ท่านออกไปก่อนเถอะ”กู้หว่านเยว่กล่าวด้วยน้ำเสียงหมดเรี่ยวแรง ที่หมอตำแยพูดก็ไม่ผิดภรรยาออกปากเอง ซูจิ่งสิงไม่คัดค้านแน่นอน ได้แต่บรรจงจูบหลังมือของนางอย่างอาลัยอาวรณ์ ก่อนจะหมุนตัวออกไป“ข้าอยู่ข้างนอก หากมีอะไรก็เรียกข้าได้ทุกเมื่อ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 674

    หลังจากเปลี่ยนความคิด ชายชุดดำที่อยู่ด้านหน้าก็ตัดสินใจว่า “ฆ่าคนในบ้านก่อน”ซูจิ่งสิงรักภรรยาของเขามาก คนในบ้านคือจุดอ่อนของเขาตราบใดที่จับคนในบ้านได้ ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะทำอะไรซูจิ่งสิงไม่ได้ชายชุดดำหลายสิบคนพุ่งตรงไปยังบ้านหลังนั้น ซูจิ่งสิงรีบชักดาบออกมา ยืนขวางอยู่หน้าประตู หางตาแดงก่ำ “รนหาที่ตายแล้ว!”หมอตำแยและเด็กสาวได้ยินเสียงการต่อสู้จากด้านนอก พวกนางเป็นแค่ชาวบ้านธรรมดา ไม่เคยมีประสบการณ์การฆ่าฟันมาก่อน ครั้นได้ยินเข่าก็แทบทรุดในทันที“เกิดอะไรขึ้นข้างนอก มีศัตรูตามล้างแค้นอย่างนั้นหรือ?” หมอตำแยมือเริ่มสั่นเด็กสาวรีบใส่กลอนประตู ก่อนจะกล่าวอย่างหวาดกลัวว่า “มีศัตรูตามล้างแค้นจริง ๆ เจ้าค่ะ ทุกคนถือดาบอยู่ในมือ น่ากลัวมาก”กล่าวจบก็หันไปมองกู้หว่านเยว่อีกครั้ง “แม่หนูน้อย พวกเจ้าเป็นใครกันแน่ กลุ่มคนข้างนอกน่ากลัวมาก คงไม่ได้จะมาฆ่าพวกเราหรอกนะ?”ดูจากท่าทางของชายชุดดำแล้ว คงฆ่าคนไม่กะพริบตาเด็กสาวไม่ได้จะกลัว จริง ๆ แล้วนางห่วงชีวิตของนางมากกว่า นางไม่อยากเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องแบบนี้กู้หว่านเยว่ก็คิดไม่ถึงว่าจะเจอกับสถานการณ์ที่มีคนตามฆ่าพวกนางเวลานี้ปากม

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 675

    คนผู้นี้จริง ๆ เลย ทำไมจู่ ๆ ก็พุ่งออกมาจากทางเล็ก ๆ เช่นนี้“ให้ตายเถอะ คนผู้นี้เสียเลือดมากด้วย”“เกิดอะไรขึ้น?” จงหลี่เปิดม่าน และชะโงกหน้าออกมาดูเส้นผมยาวสีเงิน สวมชุดคลุมพระจันทร์เสี้ยวสีขาวทั้งตัว รูปร่างหน้าตาคล้ายกับเทพบนสรวงสวรรค์นัยน์ตาของเถาเอ๋อร์วูบไหวเล็กน้อย นี่คือองค์ชายแห่งเมืองตงโจว“ไม่มีอะไรพ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท ดูเหมือนจะเป็นจอมลวงโลก นางพุ่งเข้ามาชนม้าของเราเอง เลือดเหล่านั้นไม่ใช่เรื่องของเราพ่ะย่ะค่ะ”ชิงเยี่ยนลูบศีรษะ พลางเผยให้เห็นเขี้ยวแหลมเล็กสองซี่คนผู้นี้น่ารังเกียจยิ่งนัก เลือดเต็มตัวเช่นนี้ไม่ยอมอยู่บ้าน ยังจะออกมาลวงโลกผู้อื่นอีก“ช่วยข้าด้วย ช่วยข้าด้วย พวกท่านช่วยข้าด้วย....”เถาเอ๋อร์รีบปีนขึ้นไปบนรถม้า น้ำเสียงอ่อนแอมาก นัยน์ตาเต็มไปด้วยความวิงวอนท่าทางนั้นทำให้คนที่เห็นแล้วเจ็บปวดไม่น้อยเวลานี้ตัวนางเต็มไปด้วยเลือด ทั้งยังมีรอยช้ำเลือดอยู่บนคอทันทีที่นางยกมือขึ้น จี้หยกชิ้นหนึ่งก็ร่วงตกออกมาจากแขนเสื้อ“ฝ่าบาท เราไปกันเถอะ”“ช้าก่อน” นัยน์ตาของจงหลี่วูบไหวเล็กน้อย ก่อนจะเบนสายตามาหยุดที่จี้หยกนั้นจี้หยกอันบริสุทธิ์ สามารถมองเห็นลวดลา

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 676

    ทุกคนต่างรู้ว่าตงโจวเป็นดินแดนป่าเถื่อน ชาวบ้านต่างไร้อารยธรรม แต่กลับไม่รู้ว่านั้นคือสถานที่แห่งความสุขสันต์อย่างแท้จริงเถาเอ๋อร์กระตุกมุมปาก แทบจะหลุดหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ นางมองไปทางจงหลี่อย่างกระตือรือร้น รอให้เขาประคองนางขึ้นรถม้า ช่วยพันแผลให้นางจงหลี่ที่อยู่บนรถม้ากลับยิ้มเยาะอย่างเยือกเย็น“อย่ามาเรียกข้ามาท่านพี่ น้องสาวของข้าไม่มีเจตนามุ่งร้ายเช่นเจ้า”เถาเอ๋อร์คิดไม่ถึงว่าจะเจอสถานการณ์นี้ จึงตะลึงงัน“แต่จี้หยกชิ้นนี้....”จงหลี่ลูบจี้หยกบนฝ่ามือ “หยกชิ้นนี้เป็นหยกของน้องสาวข้าจริง ๆ แต่เจ้ากลับไม่ใช่น้องสาวของข้า”น้องสาวของเขาเป็นคนที่ฉลาดและเย็นชามาก นัยน์ตาคู่นั้นจะเสแสร้งต่อหน้าอาณาประชาราษฎร์ ไม่ใช่ประจบประแจงเช่นนี้“บอกมา หยกชิ้นนี้ เจ้าไปเอามาจากไหน”จงหลี่จ้องมองนางด้วยสายตาเย็นชา นัยน์ตาคมกริบดุจมีดที่เย็นยะเยือก“จี้หยกชิ้นนี้เป็นของข้า ข้าไม่รู้ว่าท่านกำลังพูดสิ่งใด ตอนข้าเกิดมันก็อยู่บนคอของข้า....” เถาเอ๋อร์แถอย่างบ้าคลั่ง นางยอมรับไม่ได้ว่านางเอามาจากจวนสกุลกู้ นางไม่ยอมให้กู้หว่านเยว่ทำชุดแต่งงานนางส่ายหน้า “หยกชิ้นนี้เป็นของข้า เป็นข

Latest chapter

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1464

    คาดว่าน่าจะเป็นศัตรูของสกุลอวิ๋น เห็นอวิ๋นมู่พ่อลูกไม่กลับมานานจึงสบจังหวะหาช่องว่าง เล่นงานสกุลอวิ๋นในเมื่อเป็นเช่นนี้ อวิ๋นมู่ไม่กลับไปคงไม่ได้แล้วซูจิ่งสิงได้ยินดังนั้นจึงเอ่ยขึ้น “ข้าส่งคนไปคุ้มกันเจ้า”ตอนนี้สกุลอวิ๋นกับพวกเขาเจดีย์หนิงกู่ถือว่าร่วมงานกัน แม้เรื่องนี้จะเป็นความลับ แต่ยากจะรับประกันว่าไม่แพร่งพรายออกไปเกิดคนในราชสำนักรู้เข้า ความปลอดภัยของอวิ๋นมู่ก็เป็นอีกปัญหาหนึ่ง“ขอบคุณท่านอ๋อง”อวิ๋นมู่มองซูจิ่งสิงอย่างแปลกใจ ทำให้อีกฝ่ายเอ่ยเสียงเรียบ“อย่าเข้าใจผิด ข้าไม่ได้เป็นห่วงเจ้า”เพราะกู้หว่านเยว่ บรรยากาศระหว่างทั้งสองมักจะแปลกประหลาด ตั้งแต่พบกันครั้งแรกก็ไม่ถูกกันแล้วอวิ๋นมู่ยิ้มเจื่อน “ท่านอ๋องวางใจได้ ข้าไม่ได้คิดเข้าข้างตัวเองแต่ว่า ความหวังดีของท่านอ๋องข้าน้อยขอน้อมรับ และตื้นตันเหลือเกิน”การเดินทางไปเมืองหลวงในครั้งนี้มีอันตราย เขาจึงไม่ปฏิเสธ“เจ้าจะออกเดินทางเมื่อใด?”กู้หว่านเยว่รีบสอบถาม“คืนนี้มากล่าวลาท่านอ๋องและพระชายา พรุ่งนี้เมื่อฟ้าสางจะออกเดินทางทันที”“เวลาเร่งรีบขนาดนี้เชียว”กู้หว่านเยว่รีบถาม“พรุ่งนี้ท่านอย่าเพิ่งรีบไป

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1463

    ขณะที่ทุกคนกำลังพูดคุยกัน รองแม่ทัพวิ่งเข้ามาอย่างร้อนรน แล้วหันมองเฉิงทั่วแวบหนึ่ง“ท่านแม่ทัพ แย่แล้ว ฮูหยินหมดสติไปแล้วขอรับ”เฉิงทั่วหน้าถอดสี “อะไรนะ?”เขารีบลุกขึ้นยืนขึ้น ไม่มีเวลาสนใจกู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงที่ยังอยู่ตรงนี้ แล้วรีบสอบถาม “เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”“คุณชายน้อยกลับมาแล้ว ไม่เพียงกลับมา ยังพาอีกคน...”รองแม่ทัพกระดากปากที่จะเอ่ย จึงได้แต่ส่งสายตาให้อีกฝ่าย“ท่านแม่ทัพ ท่านกลับไปดูเองเถอะขอรับ”เฉิงทั่วไม่มีแก่ใจจะกินอาหาร จึงลุกขึ้นขอตัว “ท่านอ๋อง พระชายา โปรดให้ข้าไปดูฮูหยินสักครู่ได้หรือไม่”“ไปเถอะ”ซูจิ่งสิงโบกมือ“ขอบคุณท่านอ๋อง” เฉิงทั่วรีบวิ่งออกไปทันทีหนานหยางอ๋องมองแผ่นหลังที่ร้อนใจของเขา แล้วรู้สึกเศร้าเล็กน้อยหากพระชายาของเขายังอยู่คงดีไม่น้อย เขากับเหล่าเฉิงแข่งกันมาค่อนชีวิต มีเพียงเรื่องนี้เรื่องเดียว ที่เขาแพ้มาตลอด“เกิดอะไรขึ้น?” กู้หว่านเยว่กระซิบถามชิงเหลียนชิงเหลียนเอ่ยเสียงต่ำ “คุณชายใหญ่สกุลเฉิงพาสตรีคนหนึ่งกลับมาด้วย เหมือนจะเป็นหญิงที่แต่งงานแล้ว”เจ้าหมอนี่กู้หว่านเยว่เกือบสำลักข้าวมิน่าเฉิงฮูหยินถึงได้เป็นลม เจ้าเฉิงซินเม

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1462

    มิน่าท่านอ๋องถึงยอมสวามิภักดิ์ต่อพวกเขา ทั้งสองคนไม่ธรรมดาจริงๆ มองเพียงปราดเดียวก็รู้ว่าไม่ใช่คนธรรมดา“พวกเราเองก็มาถึงเมืองซุ่ยโจว และได้พบท่านอ๋องกับพระชายาแล้ว เดี๋ยวส่งจดหมายไปแจ้งท่านอ๋องหน่อยเถอะ ท่านจะได้วางใจ”จู้หวยกล่าวเตือนอย่างใส่ใจครั้งนี้ก่อนออกเดินทาง ท่านอ๋องกำชับเขาแล้วว่า ต้องดูแลเนี่ยชิงหลานให้ดีในเมื่อเนี่ยชิงหลานเป็นคู่หมั้นของเขา เขาย่อมดูแลเอาใจใส่มาก“รู้แล้ว รู้แล้ว เจ้าอย่าเอาแต่บ่นข้า อีกเดี๋ยวตอนเขียนจดหมายข้าจะเป็นคนพูดส่วนเจ้าเป็นคนเขียน ขี่ม้ามาทั้งวัน เมื่อยมือจะแย่แล้ว”จู้หวยยิ้มพร้อมพยักหน้า“เรื่องนี้ไม่ยาก ขอเพียงเจ้าไม่รังเกียจที่ตัวหนังสือข้าน่าเกลียดก็พอ”เนี่ยชิงหลานขบขันเขาจนหัวเราะเสียงดังทันที“ตัวหนังสือของเจ้าน่าเกลียดมาก แต่ไม่เป็นไร วรยุทธ์ของเจ้าสูงส่ง พวกเจ้าที่เป็นทหารแม้จะไม่ใช่คนเถื่อน แต่ต้องรู้จักเขียนอ่านไว้บ้าง ถึงจะรู้เขารู้เรารบอย่างไรก็ไม่แพ้ ทว่าเรื่องการเขียนหนังสือไม่จำเป็นต้องพิถีพิถันมากนัก แค่ดูได้ก็พอ”นางพูดอย่างจริงจัง จนจู้หวยเองก็หัวเราะตามนางไปด้วย ในแววตามีแต่ความเอ็นดู“ท่านหญิงพูดถูก”แม้ทั้งสองค

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1461

    หลังหนังสือยอมจำนนออกมาแล้ว เนี่ยชิงหลานก็นำกองทัพเหอตง มาเสริมทัพกู้หว่านเยว่“เขตเหอตงของข้าไม่มีสิ่งใดเลย มีเพียงถ่านหินและเงินทองมากมาย พี่ใหญ่จึงนำไปแลกเสบียงหนึ่งชุด ส่งข้ามาช่วยเหลือพวกท่าน”กู้หว่านเยว่ไม่ได้พบเนี่ยชิงหลานมาสักพักใหญ่ๆ แล้วตอนนี้เมื่อทั้งสองได้พบกัน นางดีใจมาก“เจ้าตัวสูงขึ้นแล้ว”กู้หว่านเยว่ลูบหัวเนี่ยชิงหลาน ทำให้อีกฝ่ายยิ้มอย่างเขินอาย“ไม่เพียงตัวสูงขึ้น ข้ายังหมั้นหมายแล้วด้วย”นี่เป็นข่าวที่อยู่เหนือความคาดหมายเมื่อเห็นพวกเขาหลายคนเดินทางเหน็ดเหนื่อย กู้หว่านเยว่รีบเชิญพวกเขาเข้าจวน เมื่อถึงห้องรับแขกจึงจับมือเนี่ยชิงหลานไว้ แล้วสอบถามอย่างละเอียด“เหตุใดจึงรวดเร็วเช่นนี้ เจ้าหมั้นกับผู้ใดหรือ?”“หมั้นกับแม่ทัพในค่ายของท่านพี่ นามว่าจู้หวย”ไม่ใช่เฉิงเซวียนหรอกหรือ ข่าวนี้ทำให้พวกกู้หว่านเยว่ยิ่งแปลกใจแต่เมื่อนึกดูอย่างละเอียด เฉิงเซวียนกับเนี่ยชิงหลานใช่ว่าจะเหมาะสมกันแม้ทั้งสองจะสนิทสนมกันตั้งแต่เด็ก ทว่าทัศนคติไม่ตรงกันบวกกับก่อนหน้านี้เพราะหญิงอื่น เฉิงเซวียนเข้าใจเนี่ยชิงหลานผิดหลายครั้งเนี่ยชิงหลานรู้ว่ากู้หว่านเยว่คิดอะไร จึ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1460

    ตกลงปีนั้นรัชทายาทตายเยี่ยงไรกันแน่?เขารู้ดียิ่งกว่าผู้ใดหากไม่ใช่รัชทายาทและพระชายารัชทายาทตายไป ไฉนเลยเขาจะได้นั่งตำแหน่งฮ่องเต้?ทว่าบัดนี้ เขาคิดว่าตำแหน่งฮ่องเต้กำลังตกอยู่ในอันตราย“ไป จับคนสกุลหลี่เข้าคุกใหญ่!”มู่หรงถิงไม่ฟังคำชี้แนะจากนั้นยามทุกคนมายังสกุลหลี่ กลับพบว่าสกุลหลี่มีเพียงความว่างเปล่า เหลือบ่าวรับใช้ที่ไม่เกี่ยวข้องอยู่สองสามคนกำลังใช้วิธีพรางตา“ภายในหอบรรพบุรุษสกุลหลี่ พบเส้นทางสายหนึ่ง...”องครักษ์ไปจับคนตัวสั่นเทานี่คือเคราะห์ซ้ำกรรมซัดเดิมทีมู่หรงถิงก็โมโหอยู่แล้ว ต้องการใครสักคนเพื่อบันดาลโทสะ คิดไม่ถึงเลยว่าจะหาตัวคนรองรับอารมณ์ไม่พบ ยังถูกเขาจับได้ว่าคนของสกุลหลี่หนีไปแล้วเขาพลิกโต๊ะ กระทืบองครักษ์ไปจับตัวคนจนตาย“ฝ่าบาท” ตอนฮองเฮามา ภายในตำหนักวุ่นวายไปหมด แม้แต่นางกำลังก็ถูกมู่หรงถิงบีบคอตายไปสองคนฮองเฮาอดทนต่อความขยะแขยง สั่งให้คนลากศพไปจัดการ“เจ้ามาแล้ว”ตอนมู่หรงถิงอยู่เพียงลำพังจะบันดาลโทสะเยี่ยงไรก็ย่อมได้ แต่เขากลัวทำให้ฮองเฮาตกใจ“เพคะ ฝ่าบาท หม่อมฉันได้ยินเรื่องของอัครมหาเสนาบดีหลี่แล้ว”ฮองเฮาก้าวเท้าเบาๆ มาหยุดต่อหน้ามู

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1459

    สายตากู้หว่านเยว่ทอดมองมา กู้หว่านหรูและญาติผู้พี่นางรู้สึกกลัวจนกอดกัน“เจ้า เจ้าจะทำอันใด?”กู้หว่านหรูกลืนน้ำลายหนึ่งอึก เอ่ยปากเสียงสั่น“ต่อให้เจ้าเป็นพระชายา ก็ไม่สามารถเมินข้ามกฎหมายได้ เจ้าไม่กลัวคนในใต้หล้าบริภาษเจ้าหรือ?”กู้หว่านเยว่หัวเราะพรืด“บริภาษ?” นางส่ายหน้า หนังสือประวัติศาสตร์ล้วนถูกเขียนโดยผู้ชนะยังต้องกลัวคำนินทาทั่วหล้าด้วยหรือ?“โยนพวกเขาสองคนออกจากซุ่ยโจว” กู้หว่านเยว่โบกมือเรียกคนเข้ามาสองคนนี้เป็นหวัด ถูกโยนออกไป ก็เพียงพอให้พวกเขาทรมาน“ญาติผู้น้อง” อวี๋เสียงลนลาน เขย่ามือของกู้หว่านหรู“นี่ไม่ใช่พี่สาวของเจ้าหรือ รีบไปขอร้องนางเร็วเข้า”ยังมีระยะทางอีกห้าถึงหกวันกว่าจะถึงบ้านเกิด พวกเขาต้องอยู่ภายในซุ่ยโจว รีบรักษาอาการป่วยให้หายดี“ข้าจะขอร้องนางเยี่ยงไร?”กู้หว่านหรูแค้นใจแย่แล้ว“นางไม่มีวันฟัง”“เจ้ารีบคิดหาทางเถอะ” สุ้มเสียงของอวี๋เสียงเจือไอโทสะสายหนึ่งอย่างสุดระงับ ทำเสียจนกู้หว่านหรูเหล่มอง“ท่านกำลังโทษข้าหรือ?”นางและกู้หว่านเยว่มีความแค้นต่อกันอย่างลึกซึ้ง ตอนอยู่ในจวนก็มักรังแกนาง จะสามารถมีวิธีใดได้เล่า?“หว่านหรู ข้าไม่ได้

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1458

    แต่ต้วนหลานซิวจากไปอย่างไม่ไว้หน้าไป๋หลี่ชิงซีถอนหายใจอย่างเอือมระอา ทำได้เพียงกลับไปหากู้หว่านเยว่และซูจิ่งสสิงปรากฏว่าคนเพิ่งไป ก็มองเห็นเกาเจี้ยนวิ่งเข้ามาจากภายนอก พูดว่าลั่วยางที่อยู่ข้างหน้าเจอคนไข้ที่ไม่แน่ใจอาการป่วย ขอเชิญกู้หว่านเยว่ไปวินิจฉัยกู้หว่านเยว่ยังนั่งได้ไม่นานก็รีบไปที่ด้านหน้าแล้ว“มีอันใดหรือ?”ตอนปรากฏตัวออกมาก็ได้เห็นสีหน้าว้าวุ่นของลั่วยาง กู้หว่านเยว่แปลกใจอยู่บ้างโรคอะไรกัน สามารถทำให้ว้าวุ่นถึงเพียงนี้ได้?“เหตุใดสีหน้าแย่มากถึงเพียงนี้?”“มีคนป่วยมาคนหนึ่งเจ้าค่ะ” ลั่วยางลอบชำเลืองมองสีหน้าของกู้หว่านเยว่ จากนั้นพูดเสียงค่อย“ข้าเองก็ไม่แน่ใจฐานะของนาง แต่เห็นแล้วคุ้นตาอยู่บ้าง ท่านมาดูกับข้าก็จะรู้”พูดไปก็เดินนำทางกู้หว่านเยว่ได้ยินเสียงคุ้นหูจากที่ไกลๆ“ไม่ใช่พูดว่าจะดูอาการให้ข้าหรือ เหตุใดพาข้ามาไว้ที่นี่ หมอหญิงของพวกเจ้าเล่า? เหตุใดเข้าไปแล้ว?”คนผู้นั้นโวยวาย เสียงคุ้นหูทำให้กู้หว่านเยว่ขมวดคิ้วน้อยๆไม่ใช่นางหรอกกระมัง? ไม่ถูกนี่ เหตุใดนางมาอยู่ที่นี่ได้?กู้หว่านเยว่ก้าวเท้าเร็วขึ้นสองส่วน เดินขึ้นไปก็ได้เห็นโฉมหน้าของคนผู้นั้

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1457

    เขาทอดสายตามองกู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงด้วยใบหน้าจริงใจ“ทั้งสองท่านช้าก่อน ข้ามีเรื่องอยากพูดกับพวกท่าน”กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงได้ยินว่าต้วนหลานซิวมีเรื่องอยากพูด นี่จึงมิได้จากไปในทันที แต่เลือกนั่งลงฟัง ดูว่าเขาอยากพูดเรื่องใดทั้งสองคนกลับแปลกใจมาก“ระหว่างทางที่ข้ามาได้เห็นพระชายาแจกจ่ายยาภายในเมือง” ต้วนหลานซิวเอ่ยปากถามกู้หว่านเยว่พยักหน้า“ราษฎรของซุ่ยโจวเป็นไข้หวัด เพราะสถานการณ์บ้านเมืองไม่สู้ดี จึงไม่มียารักษา”ต้วนหลานซิวประกบมือพูดยิ้มๆ “ไอหยา นี่บังเอิญยิ่งนัก ข้าที่นี่มีสมุนไพรหนึ่งชุดพอดี”เขาพูดยิ้มๆ“หากท่านอ๋องและพระชายาไม่รังเกียจ ข้าน้อยยินดีบริจาคสมุนไพรชุดนี้เพื่อแจกจ่ายให้แก่ราษฎรเมืองซุ่ยโจว”ถือว่าเขาจ่ายค่าหมอให้กู้หว่านเยว่ก็แล้วกัน“ในมือท่านมีสมุนไพร?”กู้หว่านเยว่ตกตะลึง คิดไม่ถึงเลยว่าตนเองลงมือช่วยเหลืออย่างไม่ใส่ใจ ถึงขั้นสามารถช่วยพ่อค้าขายส่งสมุนไพรอีกด้วย?นี่คือประโยชน์สุขของราษฎรเมืองซุ่ยโจว นางย่อมไม่ปฏิเสธ“ใช่แล้ว ในมือข้ามียาสมุนไพรหนึ่งชุด”ไป๋หลี่ชิงซีอธิบายอยู่ทางด้านข้าง “พวกท่านไม่รู้ สตรีที่อาจารย์อาเล็กของข้าชอบเป็นคนบ้

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1456

    “นี่ท่านถูกพิษกระนั้นหรือ?”กู้หว่านเยว่เอียงศีรษะจับชีพจรให้เขา จับชีพจรอย่างละเอียดอยู่นาน ถึงพูดออกมาอย่างแปลกใจ“พิษนี้แปลกยิ่งนัก”“อย่างไรหรือ?” ไป๋หลี่ชิงซีเอ่ยถามอย่างอดไม่ได้ เสียดายเขามีใบหน้าหล่อเหลา แต่กลับเป็นคนพูดมากคนหนึ่ง“ยาพิษนี้มองดูแล้ววางยาได้ยุ่งยากอย่างมาก จะถอนพิษกลับยุ่งยากยิ่งกว่า แต่แปลกก็แปลกที่พิษนี้ไม่ส่งผลร้ายต่อร่างกายคน พิษน้อยมาก เพียงแต่ยากจะถอนออกได้”ดังนั้นบัดนี้มองท่าทางของต้วนหลานซิวดูแล้ว ยังมีชีวิตชีวา ไม่คล้ายคนถูกวางยาพิษ“ฟังท่านพูดแล้วคล้ายเป็นเช่นนี้จริงเสียด้วย”ไป๋หลี่ชิงซีเองก็ไม่โง่คนทั่วไปวางยาผู้อื่น บ้างก็เพื่อฆ่าคนผู้นั้นให้ตายคาที่ บ้างก็ต้องการใช้พิษควบคุมเขาฝ่ายแรกออกฤทธิ์เร็ว พิษร้ายแรงมาก ไม่ถึงหนึ่งชั่วยามก็สามารถทำให้พิษกำเริบจนเลือดออกทวารทั้งเจ็ดและตายไปฝ่ายหลังเล่า แม้ว่าไม่ถึงแก่ชีวิต แต่หากพิษกำเริบก็ทำให้คนเจ็บปวดทรมาน หาไม่แล้วจะสามารถควบคุมคนผู้นั้นได้เยี่ยงไร?ทว่ายาพิษภายในร่างกายของต้วนหลานซิวแปลกมากไม่เพียงไม่มีพิษ หนำซ้ำยังทำร้ายร่างกายน้อยมาก เพียงแต่ยากจะถอนพิษได้ก็เท่านั้น“อาจารย์อาเล็ก ท่าน

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status