“ไม่รู้”กู้หว่านเยว่กวาดตามองรอบกายแวบหนึ่ง สายตาตกลงบนสมุนไพรสีเขียวมรกตสองต้นที่ใต้หน้าผา“อาจเกี่ยวข้องกับสมุนไพรนี้” กู้หว่านเยว่ดึงสมุนไพรหนึ่งนั้นออกมาผ่านถุงมือรูม่านตาหดลงในทันใด“ท่านพี่ท่านรีบมาดูนี่เร็วเข้า สมุนไพรนี้คล้ายหญ้าทารกกำสรวลมาก”“จริงหรือ?” ซูจิ่งสิงก้าวเท้าฉับไวเข้ามาแล้วกู้หว่านเยว่รีบหยิบตำราเกี่ยวข้องกับหญ้าทารกกำสรวลออกมาจากมิติวิเศษ ทั้งสองเปรียบเทียบภาพวาดในตำราใบสีเขียวมรกต ผลกลมสีแดง รากคล้ายใบหน้าเหี่ยวย่นอัปลักษณ์ของผู้ชรา...“ตรงทั้งหมดเลย!” สายตาซูจิ่งสิงสั่นไหว ยื่นมือออกไปต้องการดึงหญ้าทารกกำสรวลลงมา“ระวัง อย่าแตะโดนหญ้าทารกกำสรวลเป็นอันขาด อาจมีพิษ”กู้หว่านเยว่รีบหยิบกล่องหยกออกจากมิติวิเศษ ใส่หญ้าทารกกำสรวลทั้งสองต้นลงไปอย่างระมัดระวังผ่านถุงมือกู้หว่านเยว่หาหญ้าทารกกำสรวลพบแล้วก็ดีใจมากเป็นพิเศษ ยิ้มจนมองไม่เห็นตา“ช่างได้มาโดยไม่เสียแรงโดยแท้ โรคโง่งมของท่านแม่มีทางรักษาแล้ว”ซูจิ่งสิงเองก็อารมณ์ดีไม่น้อย สายตาตกลงบนผู้เฒ่าทั้งสองไม่มองก็ไม่รู้ เพียงมองเห็นก็ตกตะลึงพรึงเพริด“หว่านเยว่ ผู้เฒ่าผมขาวท่านนี้คล้ายเป็นหมอเทวดา
“ขายหน้า ขายหน้าเกินไปแล้ว!”กู้หว่านเยว่มองอย่างแปลกใจ “ท่านร่วมเดินทางกับปรมาจารย์แพทย์ ถึงขั้นไม่รู้ว่าเมือกของหญ้าทารกกำสรวลมีพิษหรือ?”“เขาหลอกข้า!”พริบตาต่อมาหมอเทวดาหวงเบิกตากว้างอย่างโมโห “เขาจงใจให้ข้าแตะหญ้าทารกกำสรวลก่อน ทำให้ข้าโดนพิษ!”แต่เขาไม่ยอมก็ใช้ได้แล้ว ครั้นรู้สึกไม่ชอบมาพากลก็แตะเมือกลงบนตัวปรมาจารย์แพทย์ใครรู้ปรมาจารย์แพทย์รู้เพียงว่าเมือกของหญ้าทารกกำสรวลมีพิษ กลับไม่มียาถอนพิษดังนั้นทั้งสองคนจึงเสียสติไปพร้อมกัน...“พวกท่านทั้งสองยอมตายไปพร้อมกันนี่เอง” มุมปากกู้หว่านเยว่กระตุกริกใครคาดคิดเล่าว่าผู้เฒ่าทั้งสองเอาแต่ใจเหมือนเด็กเพียงนี้หากนางและซูจิ่งสิงไม่มา พวกเขาทั้งสองก็ต้องแข็งตายทั้งเป็นที่ใต้หน้าผานี้แล้ว“ใช่แล้ว หญ้าทารกกำสรวลเล่า?” หมอเทวดาหวงมองพื้นหิมะสีขาวว่างเปล่า“อยู่กับข้าที่นี่ ผู้อาวุโสต้องการหรือ?” โชคดีเด็ดมามากอีกหนึ่งต้น“ข้าต้องการๆ!” ดวงตาหมอเทวดาหวงทอประกาย เจตนาร้ายสายหนึ่งกลับสะท้อนภายในก้นบึ้งของสายตากู้หว่านเยว่คิดว่าตนเองมองผิดไปแล้ว หยิบหญ้าทารกกำสรวลออกมามองเห็นปรมาจารย์แพทย์ไม่อยู่นิ่งเป็นศพอีก ผุดลุกขึ้นมาอ
ปรมาจารย์แพทย์เบ้ปากกลับไม่พูดอะไร เขาและยัยเด็กตัวเหม็นคนนี้มีความแค้นต่อกัน ผลแพ้ชนะในวันนี้ถูกกำหนดไว้แล้วกู้หว่านเยว่เองก็ปวดหัวมาก นางต้องเก็บหญ้าทารกกำสรวลไว้หนึ่งต้น ส่วนที่เหลือยกให้ใครกลับยังตัดสินใจไม่ได้“มิสู้ผู้อาวุโสทั้งสองท่านแข่งขันกันเพื่อความยุติธรรมดีหรือไม่?ใครสามารถแย่งหญ้าทารกกำสรวลไปจากมือข้าได้ก่อน ก็เป็นของคนนั้น”ดวงตาปรมาจารย์แพทย์ทอประกาย ยื่นมือออกไปแล้วระหว่างกำลังประชันขันแข่งกันอยู่นั้น หวงเหล่าช้าไปหนึ่งก้าว กล่องหยกตกอยู่ในมือปรมาจารย์แพทย์หวงแล้ว“วะฮ่าๆ ข้าชนะแล้วๆ!” ปรมาจารย์แพทย์ระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่นหวงเหล่าส่ายหน้าอย่างนึกเสียดาย ภายในก้นบึ้งของสายตาสะท้อนอารมณ์ตามใจวูบหนึ่ง“โกงแล้วๆ เจ้าลงมือเร็วกว่าข้า”“ฮึ แพ้ก็คือแพ้ รีบเรียกข้าว่าท่านพ่อสามครั้งเร็วเข้า”“ไม่เรียกๆ” “นี่ เหตุใดพูดไม่เป็นคำพูดเล่า?”ทั้งสองคนอยู่บนพื้นหิมะนานราวสองวันแล้ว มือเท้าล้วนถูกความเย็นกัด ปรึกษากันดีแล้วก็ตัดสินใจไปขอความอบอุ่นที่บ้านกู้หว่านเยว่พวกเขาเพิ่งลงเขา กู้หว่านเยว่ก็ได้กลิ่นไม่ชอบมาพากลฝีเท้าช้าลง หันหน้าส่งสายตากล่าวเตือนซูจิ่งสิง
หนึ่งในชายร่างกำยำน่าจะเป็นหัวหน้าโจร ถ่มน้ำลายทีหนึ่ง มองพวกเขาสายตาโหดเหี้ยมนายท่านเซิ่งเข้าไปเตะเขาในทันใด “เป็นโจรยังมีหลักการอีกนะ”“คุณชายซู ส่งพวกเขาให้ทางการเถอะ”ดวงตาโจรทอประกายระยับ จู่ๆ กู้หว่านเยว่ก็พูดขึ้น “หากโจรต้องการปล้นบ้าน ก็สมควรเลือกบ้านผู้ดี เหตุใดมาปล้นบ้านทรุดโทรมสองสามหลังเช่นนี้เล่า?”พวกเขาแต่ละคนถือดาบ เห็นได้ชัดว่าต้องการมาฆ่าคนคนเหล่านั้นใจสั่นขึ้นมาในทันใด นายท่านหลี่เตะพวกเขาอีกสองทีอย่างอารมณ์ไม่ดี“รีบพูด ใครส่งพวกเจ้ามา!”บัดซบ มาถึงเจดีย์หนิงกู่แล้วยังถูกคนลอบฆ่า ชีวิตนี้ช่างหาความสงบสุขไม่ได้โดยแท้“ไม่รู้พวกเจ้ากำลังพูดอะไร พวกข้าสองสามคนเป็นหมาป่าหิวโหย มาเพียงเพื่อแย่งเสบียงอาหารก็เท่านั้น”“ใช่แล้ว มีความสามารถก็ส่งพวกเราให้ทางการเถอะ”โจรยังไม่ยอมสารภาพ ปรมาจารย์แพทย์ตัวแข็งทื่อขึ้นมาแล้ว“พูดไร้สาระกับพวกเขามากเพียงนี้ทำอะไร วางยาทั้งหมดให้ตายไปเสียเลย ข้ายังต้องรีบไปผิงไฟอยู่นะ!”กู้หว่านเยว่เอ่ยปากอย่างสุขุม “ฆ่าพวกเขาตายยังมิใช่ปล่อยให้พวกเขาเอาเปรียบอีกหรือ มิสู้เก็บไว้ทรมานเล่นดีกว่า”“ข้าได้ยินมาว่ามีวิธีทรมานอย่างหนึ่ง ใ
ปรมาจารย์แพทย์ได้ยินคนเรียกเขาว่าคนแก่ใจร้ายก็ผรุสวาท รีบออกมาจากอ้อมแขนคนสุดท้ายที่กล้าด่าเขา ถูกวางยาพิษตายไปนานแล้ว!ซูจิ่นเอ๋อร์ไม่รู้ว่าอันตรายกำลังจะเกิดขึ้น แต่โชคดีที่กู้หว่านเยว่ตาเร็วมือเร็ว คว้าผงพิษออกไปก่อนปรมาจารย์แพทย์เบิกตากว้าง นางเด็กบ้านี่รู้ได้อย่างไรว่าเขาจะวางยาพิษนาง?วินาทีต่อมา จู่ๆ เขาก็ตระหนักได้ว่า บริเวณคอของตนมีบางอย่างผิดปกติ“นางเด็กสมควรตาย... อาปาๆๆๆ...”นางหนูนั่น วางผงพิษใส่เขาเสียแล้ว!ปรมาจารย์แพทย์ตกใจมาก ลนลานเทกระจาดขวดยาที่อยู่ในแขนเสื้อออกมาอย่างรวดเร็ว ไม่เคยคิดเลยว่า วันหนึ่งเขาจะถูกพิษของตัวเองเล่นงานเอาได้ เขาลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่ายาถอนพิษอยู่ในขวดไหนกังวลเสียจนหลั่งเหงื่อท่วมกาย“อาปาๆๆๆ...”กู้หว่านเยว่เกือบหัวเราะตาย หรือว่าปรมาจารย์แพทย์คนนี้จะไม่ค่อยฉลาดเท่าใดนัก?“ปรมาจารย์แพทย์ผู้เฒ่า ท่านหายาแก้พิษไม่ได้หรือ?”“อาปา อาปา!” ปรมาจารย์แพทย์โกรธขนลุก นางเด็กบ้าคนนี้เป็นได้เพียงศัตรูของเขาเท่านั้นแล้ว!ผู้เฒ่าหวงพูดอย่างช่วยไม่ได้ “แม่นางน้อย เจ้ามียาแก้พิษหรือไม่เล่า?”“ไม่มีเจ้าค่ะ” กู้หว่านเยว่ส่ายหัว “แต่ข้าแก้ปัญหาตรง
“ข้าจะไปชำระแค้นกับเขาตอนนี้เลย”ปรมาจารย์แพทย์มีนิสัยโผงผาง อารมณ์ไม่แน่นอน ถูกด่าสักหน่อยก็เกือบลงมือฆ่าคน ไหนเลยจะทนให้คนอื่นมาวางแผนกับตนได้?ผู้เฒ่าหวงเป็นคนที่ห้ามเขาเอาไว้ก้อน “ช้าก่อนๆ ดึกๆ ดื่นๆ ไปชำระแค้นอะไรเล่า?”ปรมาจารย์แพทย์ได้แต่นั่งเกาหัวด้วยความเขินอาย“ขอโทษนะนางหนู ที่ก่อนหน้านี้เข้าใจผิด คิดวางยาพิษเจ้า”กู้หว่านเยว่กับซูจิ่งสิงมองหน้ากันยิ้มๆ พวกเขาไม่ต้องการเป็นศัตรูกับปรมาจารย์แพทย์ตอนนี้ ความเกลียดชังแก้ไขเรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องยึดติดกับมันอีกต่อไป“ท่านผู้เฒ่าไม่ต้องเสียใจไปหรอกเจ้าค่ะ ท่านเองก็เป็นไปเพราะถูกหลอก”“ไม่ได้ๆ” ปรมาจารย์แพทย์ทึ้งผมอย่างฉุนเฉียว “ข้าปรมาจารย์แพทย์ แต่ไหนแต่ไรก็แบ่งแยกบุญคุณความแค้นชัดเจน ในเมื่อข้าเข้าใจเจ้าผิด ย่อมต้องขอโทษเจ้า”ยิ่งไปกว่านั้น กู้หว่านเยว่ยังเคยช่วยพวกเขาตอนอยู่ในหุบเขาด้วย“นางหนู เจ้ารีบพูดมา เจ้าต้องการอะไร?”“เอ่อ นี่…” กู้หว่านเยว่เกาหัว ตอนนี้นางคิดอะไรไม่ออกจริงๆ“ช่างเถอะๆ เช่นนั้นเจ้าค่อยๆ คิดไปแล้วกัน ไม่ต้องรีบร้อนหรอก”ปรมาจารย์แพทย์พูด ก่อนที่กู้หว่านเยว่จะคิดสิ่งที่ต้องการออก เขาก็จะอาศัย
ที่แท้เพราะนายพรานหวังตื่นไปล่าสัตว์ตั้งแต่เช้า เห็นร่องรอยโจรที่ตีนเขาจึงรีบไปบอกชาวบ้านตอนนี้กู้หว่านเยว่เป็นความหวังของทั้งหมู่บ้านชาวประมง ชาวบ้านย่อมไม่ต้องการให้อะไรเกิดขึ้นกับนาง ทุกครัวเรือนล้วนแต่เข้ามาช่วยเหลือกู้หว่านเยว่รู้สึกขอบคุณทุกคนมาก “วางใจเถอะ พวกเราไม่เป็นอะไรแล้ว”โจรที่บุกเข้ามาเมื่อวานถูกจัดการหมดแล้ว”พูดจบก็โบกมือหนึ่งครั้ง ผู้เฒ่าเซิ่งและผู้เฒ่าหลี่ก็โยนโจรทั้งหมดที่ถูกมัดไว้ออกไปทันทีเหล่าชาวบ้านหวาดกลัวพวกโจรมา พากันถอยหลังไปหนึ่งก้าวทันใดนั้น หวังต้าโก่วก็ชี้ไปที่กลุ่มโจรและตะโกนว่า“เถี่ยจู้ เจ้าคือเถี่ยจู้?”เสียงของเขาดึงดูดความสนใจของทุกคน“พวกเจ้ารู้จักกันหรือ?”กู้หว่านเยว่ดูประหลาดใจ คนที่ชื่อเถี่ยจู้คือคนที่กลั้นปัสสาวะไม่อยู่เมื่อคืนนี้“ไม่ ไม่รู้จัก...” ชายคนนั้นก้มศีรษะลง หดตัวเข้าหากันหวังต้าโก่วรีบวิ่งออกไป ดึงชายคนนั้นออกมาจากกลุ่มโจร ตรึงเขาไว้กับพื้น จ้องมองใบหน้าของเขาอย่างพินิจพิเคราะห์“เจ้าคือน้องรองของข้า ต่อให้เจ้ากลายเป็นเถ้าถ่านข้าก็จำได้!”“ทำไมเจ้าถึงกลายเป็นโจรไปได้? เจ้าไม่ได้ไปทำงานในเมืองหรอกหรือ?”หวังต้า
กู้หว่านเยว่เอ่ยเตือนว่า “ข้าพวกเจ้าสารภาพออกมาตอนนี้ ถึงตอนนั้นก็ไม่ต้องลำบากมากนัก”“พวกเราสารภาพๆ หัวหน้าหมู่บ้านเฉินสั่งให้พวกเราลงมือเมื่อคืนนี้”“หัวหน้าหมู่บ้านเฉินและใต้เท้าสวีสมรู้ร่วมคิดกัน”“พวกเราเองก็เคยจัดการกับคนที่ไม่เชื่อฟังในหมู่บ้านก่อนหน้านี้ด้วย”“สวรรค์เอ๋ย ที่แท้ก็เป็นพวกเจ้าที่ฆ่าลูกชายของข้า!”หญิงชราคนหนึ่งกระโดดออกมา จับโจรไปทุบตีอย่างแรง กัดทึ้งเขาไม่ปล่อยในอดีต ลูกชายของนางไม่ชอบท่าทางของหัวหน้าหมู่บ้านเฉิน มักจะต่อต้านเขาอยู่เสมอต่อมา ครอบครัวนี้ก็ถูกโจรโจมตีอย่างไร้เหตุผล ลูกชายของนางที่ยังไม่ถึงยี่สิบหนาวถูกทำร้ายจนเสียชีวิตหญิงชราคิดเสมอว่านี่เป็นฟ้าดินลงโทษ ที่ไหนได้ เป็นฝีมือมนุษย์นางร้องไห้หัวใจแตกสลาย ดวงตาแดงก่ำด้วยความเกลียดชัง“ไปหาหัวหน้าหมู่บ้านเฉิน ต้องให้เขาอธิบายให้พวกเราฟัง!”ทุกคนจับกลุ่มกัน มัดสมาชิกตระกูลเฉินทุกคนที่ต้องการหลบหนี ล้อมรอบทั้งตระกูลเฉินด้วยท่าทางดุดันหัวหน้าหมู่บ้านเฉินเพิ่งได้ยินข่าว กำลังเตรียมตัวหนีชาวบ้านจึงบุกเข้ามาตรึงเขาไว้กับพื้น“ปล่อยข้า ข้าเป็นหัวหน้าหมู่บ้านนะ!”“ถ้าพวกเจ้ากล้าทำเช่นนี้ ระว
เพียงแต่เมื่อประมาณหนึ่งปีก่อน จู่ ๆ สุขภาพของอาจารย์ก็ไม่สู้ดีนักในปีนี้ คอยบำรุงด้วยยาต้มอยู่เป็นระยะ แต่อาการก็ไม่ดีขึ้นเลยเมื่อครึ่งปีก่อน อาการยังรุนแรงกว่านี้มาก”หลี่เหมียนจงสีหน้าเป็นทุกข์ “โดยเฉพาะหลายวันมานี้ แม้แต่ลุกลงจากเตียงยังทำไม่ได้เลย”“ร้ายแรงถึงเพียงนี้เชียวหรือ?!” ไป๋หลี่ชิงซีกำหมัดแน่น รู้สึกผิดขึ้นเรื่อย ๆ“เป็นเพราะข้าไม่ดีเอง ข้าไม่สามารถกลับไปหาอาจารย์ได้ทันท่วงที”“ท่านอย่าโทษตัวเองมากเกินไป อาจารย์เคยพูดหลายครั้งแล้ว เขาเข้าใจสถานการณ์ของท่าน ก็เลยไม่อยากรบกวนท่าน ถึงให้พวกข้าปิดบังไว้ ไม่บอกอาการป่วยให้ท่านรู้”หลี่เหมียนจงเอ่ยอย่างรู้สึกผิดความจริงแล้วเขาแค่ทำตามคำสั่งของอาจารย์เท่านั้น ปิดบังไป๋หลี่ชิงซีมาโดยตลอด ไม่เช่นนั้นไป๋หลี่ชิงซีจะไม่มีทางไม่รู้เรื่องนี้“หมอเทวดากู้ ถ้าได้พบอาจารย์ รบกวนท่านช่วยตรวจอาการให้ได้หรือไม่”ไป๋หลี่ชิงซีรู้ว่าคำขอร้องของเขาดูจะมากเกินไป“ข้ายินดีทุ่มเททุกสิ่งที่ข้ามี”กู้หว่านเยว่เอ่ยด้วยเสียงอ่อนโยน “ในเมื่อข้ากับสามีมาที่สำนักเทียนจีกับท่านแล้ว หากได้พบเจ้าสำนัก ข้าย่อมตรวจให้เขาอยู่แล้วแต่ต้องบอกอะไรท
“ผ่าตัด มันคืออะไรหรือ?”หลี่เหมียนจงไม่คุ้นเคยกับคำนี้เลย เมื่อเห็นท่าทางเซ่อ ๆ ซ่า ๆของพี่ชาย หลี่เหมียนหยางก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้รู้ไหมว่า ตอนที่นางได้ยินเรื่องการผ่าตัดครั้งแรกก็รู้สึกงุนงงมากเช่นกันในที่สุดตอนนี้ก็ถึงคราวของนางที่จะอธิบายให้คนอื่นฟังแล้ว“การผ่าตัด ก็คือการใช้มีดผ่าท้องของท่าน จากนั้นค่อยเอาสิ่งที่อยู่ข้างในออกมา”หลี่เหมียนหยางอธิบายพร้อมกับทำท่าทางไปด้วยนางก็ไม่รู้ว่าตัวเองอธิบายถูกต้องหรือไม่ แต่เอาคร่าว ๆ ก็คือความหมายตามนี้“ถ้าอย่างนั้น ท้องของศิษย์พี่ใหญ่ก็ถูกผ่าแล้วใช่ไหม?” หลี่เหมียนจงสะดุ้งโหยง มองไปที่ท้องของไป๋หลี่ชิงซีด้วยความเป็นห่วง“อ้อ ศิษย์พี่ใหญ่ ข้ายังไม่ได้ถามเลยว่า ในท้องของท่านมีอะไรอยู่กันแน่?”คำถามนี้ ถ้าเป็นเมื่อก่อนไป๋หลี่ชิงซีต้องโกรธแน่เขาถูกถากถางและหัวเราะเยาะ ยังอ่อนไหวต่อโรคประหลาดนี้มากแต่ในเวลานี้ อาการป่วยของเขาได้รับการรักษาโดยกู้หว่านเยว่แล้ว กลับสบายใจไร้กังวลมากขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำไป“อ๋อ เลือดคั่งหนึ่งกะละมัง”“เลือดคั่ง? ไม่ใช่ทารกประหลาดหรือ?”หลี่เหมียนจงดีใจแทนเขา พูดจาไม่ทันคิด จนเปลือกตาของหลี่เหมีย
หลังจากจัดการอาหารมื้อกลางวันเสร็จ กู้หว่านเยว่ก็เติมน้ำใส่กระติกน้ำของทุกคนจนเต็ม จากนั้นก็รีบขึ้นรถม้าแล้วออกเดินทางต่อเมื่อฟ้ามืดลง ในที่สุดทุกคนก็มาถึงโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง ทันทีที่ก้าวเข้าไปในโรงเตี๊ยม ก็ได้ยินเสียงร้องด้วยความตกใจ“ศิษย์พี่ไป๋หลี่ เหมียนหยาง?!”“พี่ใหญ่ ท่านมาได้อย่างไร?”หลี่เหมียนหยางมองอีกฝ่ายด้วยสีหน้าตกตะลึง ที่แท้ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าคือหลี่เหมียนจงพี่ชายของนางเมื่อหลี่เหมียนจงเห็นไป๋หลี่ชิงซี เขาก็ขยี้ตาอย่างแรง“ข้าไม่ได้มองผิดไปใช่หรือไม่ ศิษย์พี่ใหญ่ เป็นท่านจริง ๆ หรือ?”“ข้าเอง” ไป๋หลี่ชิงซียิ้มเล็กน้อย เขาไม่ได้เจอหลี่เหมียนจงมาสองปีแล้ว คิดถึงมากทีเดียว“ท้องของท่าน?”“พี่ใหญ่ โรคของศิษย์พี่ไป๋หลี่รักษาหายแล้ว” หลี่เหมียนหยางรีบเอ่ยขึ้นหลี่เหมียนจงพลันรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่ง “เยี่ยมมาก ในเมื่อโรคของท่านหายดีแล้ว เช่นนั้นท่านก็กลับไปที่สำนักเทียนจีกับข้าได้แล้ว!”เขาอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ โรคของไป๋หลี่ชิงซีหายได้ทันเวลาพอดี หากช้ากว่านี้อีกสักหน่อย สำนักเทียนจีคงไม่มีทางรอดแล้ว“พี่ใหญ่ พวกเราเข้าไปคุยกันข้างในเถอะ”เนื่องจากร่างกายของไป
ทั้งสองคนไปที่โรงหมอก่อนเพื่อไปหาไป๋หลี่ชิงซี เนื่องจากไป๋หลี่ชิงซีได้นัดหมายกับทั้งสองคนเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่า จะไปสำนักเทียนจีด้วยกันในอีกสามวันดังนั้นเมื่อถึงเวลา เขาก็เก็บข้าวของอย่างใจจดใจจ่อ รอทั้งสองคนอยู่ที่โรงหมอกู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงเห็นว่าไป๋หลี่ชิงซีเก็บข้าวของเรียบร้อยแล้ว ก็ประหยัดเวลาไปได้มาก จึงให้เขาและหลี่เหมียนหยางขึ้นรถม้าของพวกเขา“คุณชายไป๋หลี่ สองวันนี้ท่านฟื้นตัวเป็นอย่างไรบ้าง?”เมื่อเห็นทั้งสองคนนั่งลงแล้ว กู้หว่านเยว่ก็เอ่ยปากถามขึ้นในทันทีก่อนออกเดินทาง นางจำเป็นต้องเข้าใจสภาพร่างกายของไป๋หลี่ชิงซีเสียก่อนมิเช่นนั้น หากเดินทางไปได้ครึ่งทาง ไป๋หลี่ชิงซีเกิดอาการอะไรขึ้นมาอีกคงจะยุ่งยากน่าดูเมื่อได้พบกับนางอีกครั้ง ไป๋หลี่ชิงซีก็ยกยิ้มขึ้นโดยไม่รู้ตัว ใบหน้าเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม ทั่วทั้งร่างกายเต็มไปด้วยบรรยากาศผ่อนคลาย“ฟื้นตัวเร็วมาก คงเป็นเพราะยาที่ท่านสั่งให้ดี”นี่ไม่ใช่ว่าไป๋หลี่ชิงซีประจบสอพลอ ก่อนหน้านี้เขาก็เคยได้รับบาดเจ็บ โดยปกติแล้วบาดแผลเหล่านั้นต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะหายดีแต่ครั้งนี้ เขารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าบาดแผลหายเร็วกว่าทุ
ไม่คิดเลยว่าสุดท้ายคนที่พ่ายแพ้กลับเป็นตัวเขาเองเขาถูกหลอกอย่างสิ้นเชิง“จัดการตัวเองให้ดี”เนี่ยเติ้งมองด้วยสายตาเย็นชา เขาคนนี้เป็นคนอาฆาตแค้นมาก โดยเฉพาะความแค้นของน้องสาว ดังนั้นเขาจึงไม่แสดงท่าทีเป็นมิตรกับเฉิงเซวียน“ขอโทษ”เวลานี้ เฉิงเซวียนได้รับความกระทบกระเทือนอย่างมาก ได้กลิ่นคาวเลือดคลุ้งไปทั่วห้อง เขานั่งบนเก้าอี้ด้วยสีหน้าหม่นหมอง ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่เมื่อเห็นว่าเรื่องราวได้จบลงแล้ว กู้หว่านเยว่และคนอื่น ๆ ก็ออกจากเรือน“พระชายา ครั้งนี้ขอบคุณท่านมากที่ช่วยเหลือ”เนี่ยเติ้งประสานมือคารวะกู้หว่านเยว่ ใบหน้าที่เยือกเย็นราวกับถูกละลายด้วยสายลมฤดูใบไม้ผลิ หากไม่รู้มาก่อน คงคิดว่าไม่ใช่คนเดียวกันกับที่อยู่ในเรือนเมื่อครู่“ไม่ต้องเกรงใจ ข้าก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากมาย”กู้หว่านเยว่โบกมือปฏิเสธอย่างนอบน้อม คาดว่าเซี่ยเหอคงจะไม่ปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขาอีกต่อไป“จริงสิ มีสิ่งหนึ่งที่ข้าต้องให้ท่าน” เนี่ยเติ้งล้วงเอาหนังสือสัญญาออกมาจากอกเนี่ยชิงหลานอธิบายอยู่ข้าง ๆ “พี่หญิงกู้ ท่านรับไปเถอะ สัญญาฉบับนี้คือกรรมสิทธิ์ในเหมืองหยก”“เหมืองหยก?”กู้หว่านเยว่รับสัญญามา เปิ
“คุณหนู ขออภัยด้วยเจ้าค่ะ”เสี่ยวเหมยโค้งคำนับต่อเซี่ยเหอ แล้วสารภาพความจริงออกมา“คุณหนูของเราไม่เคยมีอะไรกับคุณชายเฉิงเจ้าค่ะ วันนั้น ข้ากับคุณหนูช่วยกันถอดเสื้อผ้าของคุณชายเฉิง แกล้งทำเป็นว่าคุณหนูถูกเขารังแกเจ้าค่ะ”เซี่ยเหอหน้าซีดเผือด “เหลวไหล เจ้าพูดจาเหลวไหล!”เฉิงเซวียนแทบไม่อยากจะเชื่อ “ดังนั้น ทั้งหมดเป็นแผนที่พวกเจ้าวางไว้ ข้าไม่ได้ทำอะไรเลย?”เสี่ยวเหมยพยักหน้าเฉิงเซวียนทั้งตกใจทั้งดีใจ แต่ที่มากกว่านั้นคือความโกรธ“เซี่ยเหอ ข้าดีกับเจ้าไม่น้อย”ตลอดทางที่ไปเขาอินซาน ทุกคนต่างกีดกันเซี่ยเหอ มีเพียงเขาที่ไม่เคยรังเกียจนางเลย“เหตุใดเจ้าจึงวางแผนหลอกลวงข้าเช่นนี้?” นี่มันทำคุณบูชาโทษมิใช่หรือ?“พี่ใหญ่เฉิง ข้าแค่ชอบท่านมากเกินไป”เซี่ยเหอจับชายเสื้อของเขาไว้ สายตาที่อ่อนหวานเต็มไปด้วยความเสน่หาคู่นั้นทำให้เฉิงเซวียนรู้สึกคลื่นไส้เขาสะบัดมือเซี่ยเหอออก “อย่าแตะต้องข้า ข้ารู้สึกขยะแขยง”ผู้หญิงคนนี้ปากหวานก้นเปรี้ยว ไม่มีคำพูดไหนจริงใจเลยสักคำ หลอกเขาเหมือนเขาเป็นคนโง่งม“ในเมื่อไม่มีอะไรเกิดขึ้น เช่นนั้นพวกเราก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์ใด ๆ ต่อกัน”เฉิงเซวียนเอ่ยข
“พี่ใหญ่เฉิง ช่วยข้าด้วย ท่านสัญญาว่าจะแต่งงานกับข้า”“เซี่ยเหอ เจ้าหลอกข้าจริง ๆ หรือ?”จู่ ๆ เฉิงเซวียนก็รู้สึกว่าตัวเองเหมือนคนโง่ ถูกผู้หญิงคนนี้หลอกมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว“ไม่ใช่ ไม่ใช่นะ ข้าตั้งครรภ์จริง ๆ หากข้าไม่ได้ตั้งครรภ์ เมื่อครู่ตอนที่ข้าแท้งลูก เหตุใดถึงได้เสียเลือดมากมายเช่นนั้น? เลือดที่ถูกยกออกไป ท่านก็เห็นเช่นกัน” นางพยายามอธิบายอย่างเต็มที่เมื่อนางพูดเช่นนี้ เฉิงเซวียนก็เกิดลังเลขึ้นมาจริง ๆ ถูกต้อง หากมิใช่ตั้งครรภ์แล้วแท้ง เลือดเหล่านั้นจะมาจากที่ใดเล่า?ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อครู่หมอเองก็บอกว่านางแท้งลูกแล้วกู้หว่านเยว่เห็นเฉิงเซวียนเป็นเช่นนี้ ก็รู้ทันทีว่าเขาจะต้องถูกผู้หญิงคนนี้ชักจูง จึงเอ่ยเตือนด้วยความเอือมระอา“แก้ตัวที่นี่ก็ไม่มีประโยชน์ หมอที่จับชีพจรให้เจ้าเมื่อครู่ อยู่ข้างนอกมิใช่หรือ ลากเขาเข้ามาสอบสวนให้ดี ๆ ก็จะรู้ความจริงเอง”ทันทีที่พูดประโยคนี้จบ สีหน้าของเซี่ยเหอก็เปลี่ยนไปในทันทีเฉิงเซวียนราวกับตื่นจากความฝัน รีบออกจากห้องไปคว้าตัวหมอคนเมื่อครู่เข้ามาสิ่งที่บังเอิญก็คือ เมื่อครู่หมอตำแยเห็นท่าไม่ดี กำลังคิดจะแอบหนีไปเฉิ
เนี่ยชิงหลานโมโหแทบแย่ นี่มันอะไรกัน เหตุใดถึงกลายเป็นว่าเซี่ยเหอใจกว้าง ยกโทษให้นางแล้วเล่า?“ไปก็ไป เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับข้าอยู่แล้ว!”นางหันหลังกลับด้วยความโมโห ทว่ากู้หว่านเยว่เรียกนางไว้“เดี๋ยวก่อน ข้าพอมีความรู้ทางการแพทย์อยู่บ้าง ให้ข้าลองตรวจดูอาการของเซี่ยเหอ บางทีอาจจะช่วยบำรุงร่างกายให้เจ้าได้”สายตาของนางจับจ้องไปที่เซี่ยเหอ ไม่พลาดที่จะเห็นสายตาตื่นตระหนกจากในดวงตาของเซี่ยเหอ“ไม่ต้องหรอก พระชายาเป็นถึงผู้สูงศักดิ์ จะมาตรวจดูอาการให้คนอย่างข้าได้อย่างไร”เซี่ยเหอปากก็ปฏิเสธ แล้วส่งสายตาให้หมอตำแยหมอตำแยรีบเดินเข้ามาทันที “พระชายาไม่ต้องเป็นห่วง ข้าน้อยตรวจดูอาการให้นางแล้ว และจ่ายยาให้เรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะถึงอย่างไร คุณหนูก็อายุน้อย แค่พักฟื้นสักระยะก็จะหายดี”“ต่างเป็นหมอด้วยกัน ข้าดูหน่อยก็ไม่เสียหายอะไร”กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงเห็นการส่งสายตาของทั้งสองคน ยิ่งมั่นใจว่า เซี่ยเหอต้องปิดบังอะไรบางอย่างไว้แน่ ๆ เมื่อนึกย้อนไปถึงเรื่องก่อนหน้านี้ อีกฝ่ายบอกว่าตัวเองตั้งครรภ์โดยไร้สาเหตุตอนนี้ก็แท้งลูกอีก หึ ๆ จะมีเรื่องบังเอิญขนาดนี้ได้อย่างไรกัน?“หรือว่า เ
“เข้าใจแล้ว พวกเราเข้าไปดูกันเถอะ”กู้หว่านเยว่จูงมือเนี่ยชิงหลานเข้าไปอย่างเงียบ ๆ คนข้างหลังกัดริมฝีปาก“ไม่ใช่เรื่องของข้า ข้าไม่อยากเข้าไปดูนาง” แท้จริงแล้วไม่อยากเห็นทั้งสองคนรักกันหวานชื่นต่างหาก“ต้องทำให้เรื่องนี้กระจ่าง” กู้หว่านเยว่เตือนขึ้นมาประโยคหนึ่งนางเชื่อว่าเนี่ยชิงหลานไม่ได้ผลักเซี่ยเหอ แต่ถ้าไม่ทำให้เรื่องนี้กระจ่าง ต่อไปถ้าเซี่ยเหอพูดถึงเรื่องลูกอีก ก็จะต้องบอกว่าเป็นฝีมือของเนี่ยชิงหลานที่ทำให้นางแท้งลูก นานวันเข้าหลักฐานก็จะหายไป“พระชายาพูดถูก”เนี่ยเติ้งพยักหน้าเห็นด้วย นี่จึงเป็นเหตุผลที่เขาส่งคนไปตามกู้หว่านเยว่ที่จวนกู้ เขารู้ว่ากู้หว่านเยว่มีความรู้ทางการแพทย์“ก็ได้”เนี่ยชิงหลานเดินตามทุกคนเข้าไป แต่พอเข้าไปก็เห็นเซี่ยเหอกำลังซบลงบนไหล่ของเฉิงเซวียนร้องไห้ ภาพตรงหน้าทำให้นางเจ็บปวด“คุณหนูเนี่ย ข้าคิดว่าข้าไม่เคยล่วงเกินเจ้ามาก่อน เหตุใดเจ้าถึงได้ใจร้ายกับข้าเช่นนี้?” เซี่ยเหอพอเห็นเนี่ยชิงหลานก็อารมณ์พลุ่งพล่านขึ้นมาทันที“ข้าแท้งลูกไปแล้ว คุณหนูเนี่ย ตอนนี้เจ้าพอใจแล้วใช่หรือไม่?”“ไม่ใช่ เจ้าแท้งลูกแล้ว มันเกี่ยวอะไรกับข้า?” เนี่ยชิงหลานก็เป