Share

บทที่ 1233

Author: ฮวาฮวาตีลังกาแปล
“จะ เจ้าคือ”

เขารู้สึกได้ถึงวรยุทธ์อันสูงส่งของซูจิ่งสิง ในระหว่างที่ตกตะลึงอยู่นั้น

กู้หว่านเยว่เตะกษัตริย์ทูเจวี๋ยกระเด็นออกไป จากนั้นใช้กริชจ่อที่คอของเกาเถียน

“ชู่ว์ อย่าขยับ”

นางยิ้มอย่างสดใส แต่ทำให้แม่ทัพเกาเถียนไม่กล้ามองตรง ๆ

“กริชมันไม่เลือกหน้าหรอกนะ”

ซูจิ่งสิงมัดคนทั้งสองคนไว้แล้ว การที่ทั้งสามคนเข้าวังโดยไม่มีอาวุธ ทำให้ง่ายต่อการปราบปรามพวกเขา

“ท่านแม่ทัพ...”

เสี่ยวฟางและเสี่ยวจวงที่ถูกมัดไว้ ต่างก้มศีรษะลงด้วยความอับอาย

พวกเขาไม่คิดว่าวรยุทธ์ของซูจิ่งสิงจะสูงส่งถึงเพียงนี้ ยังไม่ทันได้ประมือกันสักกระบวนท่า ก็ถูกมัดเสียแล้ว

“น่าอับอาย”

แม่ทัพเกาเถียนหันกลับมา สบกับสายตาที่คล้ายยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้มของกู้หว่านเยว่เข้าพอดี

“แม่ทัพเกาเถียน ดูเหมือนเจ้าก็ไม่ได้เก่งกาจอะไรนี่”

กู้หว่านเยว่ยิ้มจนตาหยี คำพูดที่เอ่ยออกมานั้นแทบจะทำให้แม่ทัพเกาเถียนกระอักเลือด

“พวกเจ้าเป็นใครกันแน่?”

เกาเถียนไม่อยากโต้เถียงกับทั้งสองคน เขาหันหน้าไปถามด้วยความโมโห ราวกับสุนัขตัวใหญ่ที่ถูกรังแก

“พวกเขาเป็นคนของข้า”

เสี่ยวถ่านรีบวิ่งออกมาจากหลังฉากกั้น เมื่อเห็นกษัตริย์ทูเจวี๋ยกำลังจะหนี
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1234

    นางเลียนแบบน้ำเสียงของผู้มีอำนาจ ท่าทางดูคล้ายจะจริงจัง“เมื่อถึงเวลานั้น ข้าจะทำให้ตระกูลเกาเถียน กลายเป็นตระกูลอันดับหนึ่งของเมืองอูถ่าน”เงื่อนไขนี้เย้ายวนใจมาก แต่แม่ทัพเกาเถียนกลับไม่ยอมไม่ว่าจะใช้ไม้แข็งหรือไม้อ่อน“องค์หญิงเก้า ท่านไม่ต้องพูดให้มากความ ต่อให้ท่านฆ่าข้า ข้าก็ไม่มีทางยอมสวามิภักดิ์ต่อท่านผลประโยชน์อันใด? ข้าเกาเถียนก็ไม่เคยสนใจ”หากเขาเป็นคนที่เห็นแก่ผลประโยชน์จริง ๆ ก็คงไม่ช่วยเหลือกษัตริย์ทูเจวี๋ย ขณะที่ถูกเหยลวี่เจิงยึดอำนาจ ทั้งที่ต้องเผชิญแรงกดดันจากตระกูลเหยลวี่พูดให้ถูกก็คือ สิ่งที่เขาจงรักภักดีไม่ใช่คนใดคนหนึ่ง แต่เป็นบัลลังก์นั้นต่างหากท่าทางของแม่ทัพเกาเถียนที่ไม่ยอมไม่ว่าจะใช้ไม้แข็งหรือไม้อ่อน ทำให้เสี่ยวถ่านรู้สึกปวดหัวมาก นางจึงหันไปมองกู้หว่านเยว่ด้วยสีหน้าขอความช่วยเหลือ“ท่านอาจารย์ ทำอย่างไรดี?”กู้หว่านเยว่กลับรู้สึกชื่นชมแม่ทัพเกาเถียน แม่ทัพแบบเขาหาได้ยากยิ่ง พูดง่าย ๆ ก็คือเป็นผู้มีความจงรักภักดี จะไม่เปลี่ยนแปลงไปตามปัจจัยภายนอก“พาเขาออกไปก่อนเถิด”คนเช่นนี้ กู้หว่านเยว่จะไม่ฆ่าเขาหากใช้ให้เป็นประโยชน์ แม่ทัพเกาเถียนจะเป็นขุ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1235

    เมื่อเห็นแม่ทัพเกาเถียนถูกพาตัวไปแล้ว สายตาของกู้หว่านเยว่ก็จับจ้องไปที่แม่ทัพน้อยสองคนที่เหลืออยู่“ยะ อย่าฆ่าพวกเรา”ทั้งสองคนรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อยพวกเขาถูกซูจิ่งสิงมัดเอาไว้แน่น ตอนนี้ไม่สามารถขยับได้“วางใจเถอะ ข้าจะไม่ฆ่าพวกเจ้า”กู้หว่านเยว่เดินไปตรงหน้าของทั้งสองคน จากการสังเกตเมื่อครู่ นางคิดว่าสองคนนี้ไม่น่าจะหัวแข็งเท่าแม่ทัพเกาเถียนเพียงแค่ข่มขู่และล่อใจด้วยผลประโยชน์เล็กน้อย พวกเขาก็น่าจะยอมสวามิภักดิ์เมื่อได้ยินกู้หว่านเยว่พูดว่าจะไม่ฆ่าพวกเขาสองคน ทั้งคู่ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก“ข้าจะไม่ฆ่าพวกเจ้า แต่ข้าก็ไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์ คำพูดที่ข้ากล่าวกับแม่ทัพเกาเถียนเมื่อครู่ พวกเจ้าก็ได้ยินแล้ว”กู้หว่านเยว่เอ่ยเตือนทั้งสองคนสบตากัน ต่างก็พอจะเข้าใจความหมายของกู้หว่านเยว่“พวกเรา...”ทั้งสองคนแสดงสีหน้าลังเล การทรยศเจ้านายเดิมเพื่อไปเข้าข้างเจ้านายใหม่ ไม่ใช่เรื่องที่จะตัดสินใจได้ง่าย ๆ กู้หว่านเยว่ก็ไม่รีบร้อน กล่าวเตือนด้วยความหวังดี“พวกเจ้าสองคนต้องคิดให้ดี ๆ ที่จริงแล้วมีพวกเจ้าช่วยหรือไม่มีก็ไม่ต่างกัน กษัตริย์ทูเจวี๋ยอยู่ในมือของพวกเราแล้ว แต่หากพว

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1236

    “เจ้า!”“อย่าขยับ”เสี่ยวถ่านกล่าวเตือน ทำให้สายตาของกษัตริย์ทูเจวี๋ยมืดมนลง“ลูกอกตัญญู เจ้าเอามีดจ่อคอข้าเช่นนี้ เจ้าอยากจะฆ่าข้าจริง ๆ อย่างนั้นหรือ?“หากเจ้ากล้า ก็ลงมือฆ่าเลยสิ!”เสี่ยวถ่านหันกลับมา “ข้าจะไม่ฆ่าท่าน ตราบใดที่ท่านสงบเสงี่ยมเจียมตัว ท่านก็จะเป็นเสด็จพ่อของข้าตลอดไป”นางคิดไว้แล้วว่า หลังจากที่นางขึ้นครองบัลลังก์แล้ว จะยกย่องกษัตริย์ทูเจวี๋ยเป็นพระราชบิดา เมื่อถึงเวลานั้นก็ยังคงให้เขาอยู่ในวัง รับรองว่าเขาจะได้ใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย ไม่ต้องกังวลเรื่องใด ๆ “ข้าไม่ต้องการ!”กษัตริย์ทูเจวี๋ยหน้าแดงก่ำเสี่ยวถ่านขี้เกียจจะโต้เถียงกับเขา จึงหยิบเชือกป่านขึ้นมามัดกษัตริย์ทูเจวี๋ยไว้ จากนั้นก็หยิบผ้ามายัดเข้าไปในปากของเขา โลกจึงสงบสุขอย่างทันที“ท่านอาจารย์ ต่อไปพวกเราควรทำอย่างไรดี?”“เหยลวี่เจิงตายแล้วมิใช่หรือ สิ่งแรกที่เราต้องทำคือรวบรวมกำลังพลของตระกูลเหยลวี่จากนั้น ก็ปราบปรามตระกูลอื่น ๆ ”กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงเดินมาที่ด้านข้าง ปรึกษากันโดยดูแผนที่ของพระราชวัง ทั้งสองคนไม่ได้หลบเลี่ยงเสี่ยวถ่าน แต่กลับดึงนางเข้ามาร่วมรับฟังด้วย“หากเจ้ามีความคิดเห็นใด

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1237

    กู้หว่านเยว่หัวเราะออกมาทันที“เป็นอย่างไรบ้าง แม่ทัพเกาเถียน คนผู้นี้หน้าตาเหมือนเจ้าหรือไม่?”นางยิ้มจนตาหยี ส่วนเกาเถียนหยวนนั้นโกรธจนแทบคลั่ง“อื้อ ๆ ๆ !”“เกือบลืมไปแล้วว่าปากของเจ้ายังถูกอุดไว้อยู่ พูดออกมาไม่ได้”กู้หว่านเยว่เพิ่งรู้สึกตัว จึงดึงผ้าที่ยัดปากเขาออกในที่สุดเกาเถียนหยวนก็สามารถพูดได้ เขาจ้องมองซูจิ่งสิงด้วยความตกตะลึง แล้วเอ่ยขึ้น“จะ เจ้าเป็นใครกันแน่ เหตุใดจึงหน้าตาเหมือนข้าราวกับแกะ?”ไม่แปลกที่เขาจะตกใจ แม้แต่พี่น้องร่วมสายเลือดของเขาก็ยังหน้าตาไม่เหมือนกันขนาดนี้คนผู้นี้เป็นใครกันแน่ เหตุใดถึงได้เหมือนเขาราวกับแกะสลักออกมาจากพิมพ์เดียวกันเกาเถียนหยวนรู้สึกหวาดกลัว กู้หว่านเยว่หัวเราะเสียงดังลั่นซูจิ่งสิงส่ายหัวอย่างจนใจ น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความเอ็นดู“น้องหญิง อย่าหัวเราะมากนัก ระวังจะสำลัก”ทันทีที่เขากล่าวออกมา เกาเถียนหยวนก็จำเขาได้ทันที นี่มิใช่บุรุษที่วรยุทธ์สูงส่งผู้นั้นที่อยู่ในท้องพระโรงเมื่อครู่นี้หรอกหรือ?”ไม่สิ เมื่อครู่เขาไม่ได้หน้าตาแบบนี้ตอนนี้เหตุใดจู่ ๆ ถึงเปลี่ยนหน้าตาไปได้?“วิชาแปลงโฉม?”ทันใดนั้น เกาเถียนหยวนก็นึก

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1238

    “พะ พวกเจ้า...พวกเจ้าจงใจ”เกาเถียนหยวนโมโหจนแทบแย่ เขาไม่คิดจะยอมสวามิภักดิ์ต่อองค์หญิงเก้าแต่หากกู้หว่านเยว่ใช้คำสั่งของเขาไประดมพลตระกูลเกาเถียน เช่นนั้นก็เท่ากับว่าตระกูลเกาเถียนได้ลงเรือลำเดียวกันกับพวกเขาแล้ว ต่อไปหากอยากจะออกจากเรือก็คงยากแล้ว ต้องรู้ว่า หากตระกูลเกาเถียนเป็นกำลังหลักในการต่อสู้ในเมืองอูถ่านครั้งนี้ ตระกูลอื่น ๆ ที่ถูกกดขี่จะต้องผูกใจเจ็บกับตระกูลเกาเถียนอย่างแน่นอนถึงจะไม่ถึงขั้นผูกใจเจ็บ แต่ก็ต้องหวาดระแวงอย่างแน่นอนดังนั้น ในสถานการณ์เช่นนี้ ตระกูลเกาเถียนจึงต้องการให้ราชวงศ์คุ้มครองเพราะฉะนั้น ตระกูลเกาเถียนต้องกลายเป็นตระกูลอันดับหนึ่งในเมืองอูถ่าน ไม่เช่นนั้นก็จะถูกตระกูลอื่น ๆ ร่วมมือกันกำจัด“ข้ายังไม่ได้ตกลงว่าจะช่วยพวกเจ้า พวกเจ้าจะเอาตราบัญชาการของข้าไปโดยพลการได้อย่างไร?”เกาเถียนหยวนรีบร้อนอธิบายเหตุผลข้อสุดท้ายกับพวกเขา“รีบเอาตราบัญชาการคืนมาให้ข้าเดี๋ยวนี้!”“ไม่มีทาง”กู้หว่านเยว่ส่ายหน้าพร้อมกับรอยยิ้ม เผยให้เห็นฟันขาวสะอาดเรียงเป็นแถว ทำให้เกาเถียนหยวนโมโหจนกัดฟันกรอด“แม่ทัพเกาเถียน ข้าทำเช่นนี้ก็เพื่อตระกูลเกาเถียนของเจ้า”

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1239

    เมื่อเห็นว่าผูกคอตายไม่ได้ พระสนมลี่จึงพุ่งชนเสาเมื่อกู้หว่านเยว่มาถึงก็เห็นฉากนี้ ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่พระสนมลี่จะตาย หากนางตายไป ก็จะสร้างปัญหาไม่น้อย เป็นไปได้มากว่ากษัตริย์ทูเจวี๋ยจะไม่ยอมร่วมมือกับพวกเขาอีกในขณะที่กำลังครุ่นคิดอยู่นั้น กู้หว่านเยว่ก็พุ่งตัวเข้าไปคว้าคอเสื้อของพระสนมลี่ไว้ แล้วใช้ผ้าแพรสีขาวในมือของนางมัดมือทั้งสองข้างของนางไว้พระสนมลี่ดิ้นรน “องค์หญิงเก้า เหตุใดท่านถึงช่วยข้า?”“ข้าก็ไม่ได้อยากช่วยท่าน ข้าแค่ไม่อยากเห็นท่านตายไปง่าย ๆ เท่านั้น!”เสี่ยวถ่านหันกลับมา พูดสิ่งที่ตรงกันข้ามกับความรู้สึก“อีกอย่าง เสด็จแม่ของข้าอยากมีชีวิตอยู่ แต่ก็อยู่ไม่ได้อีกแล้ว”น้ำเสียงของนางสะอื้น ร่างกายที่เล็กบางสั่นเทา นางไม่มีวันลืมว่าเสด็จแม่ถูกเผาทั้งเป็นอย่างไรคนผู้นี้ช่างสำออยนัก มีชีวิตอยู่ได้แท้ ๆ ยังจะหาเรื่องตายอีก!พระสนมลี่ชะงักไปเล็กน้อย ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด ดูเหมือนว่านางจะยังมีจิตสำนึกอยู่บ้าง“องค์หญิงเก้า ไม่ว่าท่านจะเชื่อหรือไม่ ข้าไม่เคยทำร้ายพวกท่านแม่ลูกเลย”“หึ ๆ ใครจะไปเชื่อ?” เสี่ยวถ่านกล่าวอย่างเย้ยหยันก่อนหน้านี้พระสนมลี่ก็

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1240

    พระสนมลี่สามารถตั้งสติได้เร็วเช่นนี้ นับว่าหาได้ยากยิ่ง“อย่าเรียกข้าว่าพระสนมลี่อีกเลย เรียกข้าว่าเกอซูลี่เถิด”เกอซูลี่เผยรอยยิ้มอันอ่อนโยนออกมา นางไม่ได้ใช้ชื่อนี้มาหลายปีแล้ว นับตั้งแต่ที่เข้าวังมา“ที่แท้ท่านก็เป็นคนของตระกูลเกอซู”ตระกูลเกอซูในทูเจวี๋ยก็ไม่ถือว่าเป็นตระกูลเล็ก ๆ เมื่อหลายร้อยปีก่อน พวกเขายังเคยเป็นตระกูลใหญ่ที่รุ่งเรือง แต่ร้อยกว่าปีมานี้ เนื่องจากทายาทลดน้อยลง ทั้งตระกูลจึงค่อย ๆ ตกต่ำลง จนในที่สุดก็หายไปจากสายตาผู้คนมิน่าเล่าเกอซูลี่ถึงบอกว่านิสัยของนางหยิ่งยโส ก็เพราะมาจากตระกูลเก่าแก่เช่นนี้ จึงสามารถหยิ่งยโสได้“ถูกต้อง”เกอซูลี่พยักหน้า นางไม่ต้องการเสียเวลาพูดคุยเรื่องของตระกูลมากนัก“ข้ารู้ว่าท่านอยากทำอะไร และข้าก็ยินดีร่วมมือกับท่าน ถึงแม้ว่าท่านจะบังคับให้เสด็จพ่อของท่านเขียนราชโองการแต่งตั้งรัชทายาท แต่หากไม่มีใครเป็นพยานให้ท่าน ขุนนางในราชสำนักก็ยังคงจะสงสัยอยู่ดี”เสี่ยวถ่านนึกขึ้นได้ “ท่านเต็มใจจะเป็นพยานให้ข้าหรือ?”“ใช่”เกอซูลี่พยักหน้าอย่างจริงจัง “ข้ายินดีจะเป็นพยานให้ท่านต่อหน้าขุนนางทั้งหลายว่า ราชโองการฉบับนี้เป็นของจริง”“ท่าน

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1241

    ใช้เวลาไปอีกสองวันในการปัดกวาดเศษซากของครอบครัวอื่นเกอซูลี่ช่วยงานในวัง ควบคุมมารดาสนมขององค์ชายทั้งสามให้อยู่ในกำมือสามวันต่อมา เสี่ยวถ่านขึ้นนั่งตำแหน่งองค์หญิงรัชทายาทได้สำเร็จ โดยถือเอาอาการป่วยร้ายแรงของกษัตริย์ทูเจวี๋ยเป็นเหตุผล ในการเริ่มใช้อำนาจที่แท้จริงของผู้สำเร็จราชการแผ่นดินสิ่งแรกที่นางทำ ก็คือการล้างมลทินให้ราชินีทูเจวี๋ยและตระกูลกู่ลี่กองกำลังที่เหลือของสกุลเหยลวี่ทั้งหมดอยู่ในกำมือของเสี่ยวถ่าน นางทำตามความต้องการของกู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิง สนับสนุนหุ่นเชิดผู้นำตระกูลในสกุลเหยลวี่อำนาจของเมืองอูถ่านผ่านการปฏิรูปครั้งใหญ่ ในที่สุดตระกูลกู่ลี่ก็ได้เห็นแสงอรุณแห่งความหวังในพื้นที่เนรเทศ ทุกคนในครอบครัวกำลังร่วมเฉลิมฉลองทว่าในขณะนี้ ณ ประตูเมืองอันห่างไกลแห่งหนึ่งของเมืองอูถ่าน เสี่ยวถ่านกำลังบอกลากู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิง “อาจารย์ พวกท่านอยู่ต่ออีกสักพักไม่ได้หรือ?”ดวงตาของเสี่ยวถ่านแดงก่ำตอนนี้กู้หว่านเยว่เป็นญาติคนสุดท้ายของนางแล้ว แม้ว่าตระกูลกู่ลี่จะเป็นสกุลมารดาของนางด้วย แต่ถึงอย่างไรก็ไม่เหมือนกัน และนางก็ต้องระวังว่าตระกูลกู่ลี่จะเข้มแข็งเกรียงไกร

Latest chapter

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1276

    กู้หว่านเยว่ตกใจเล็กน้อย จู่ ๆ ก็มีพ่อแม่และพี่ชายเพิ่มมาอีกคน เป็นใคร ๆ ก็ตกใจกันทั้งนั้นแต่กู้หว่านเยว่ไม่ได้รังเกียจแวบแรกที่นางเจอจงหลี่ ก็รู้สึกคุ้นเคยอยู่ไม่น้อย“เช่นนั้นข้าก็ยังมีพี่น้องคนอื่นอีกนะสิ?”นัยน์ตาของนางเปล่งประกาย จงหลี่ยิ้มพลางส่ายหน้า“ไม่มีแล้ว ท่านพ่อและท่านแม่รักกันมาก ท่านพ่อไม่มีสนมคนอื่นแล้ว มีแค่ท่านแม่เพียงผู้เดียว ท่านแม่ให้กำเนิดเราสองคน ข้าคือพี่ใหญ่ของเจ้า หากไม่มีอะไรผิดพลาด ปีนี้เจ้าก็น่าจะอายุสิบเก้าปีแล้ว ข้าโตกว่าเจ้าเจ็ดปี”น้ำเสียงของเขาฟังดูอ่อนโยนมาก สายตาคู่นั้นจ้องมองกู้หว่านเยว่ พลางกล่าวอธิบายอย่างชัดถ้อยชัดคำ“ดังนั้น ข้าก็ควรเรียกท่านว่าพี่ใหญ่?” นางมีพี่ชายที่ปกป้องนางแล้วหรือ? “ถูกต้อง”หลังจากที่จงหลี่พยักหน้าตอบรับแล้ว ก็มองไปทางนางด้วยสายตาคาดหวังกู้หว่านเยว่ไม่อยากทำให้เขาผิดหวัง“พี่ใหญ่!”นางมีความรู้สึกคุ้นเคยกับจงหลี่มาตั้งแต่เกิด ประกอบกับที่จงหลี่เพิ่งช่วยเหลือนาง ทั้งยังช่วยงานของนาง การมีพี่ชายเช่นนี้ กู้หว่านเยว่รู้สึกเชื่อใจและพึ่งพาเขาได้จากก้นบึ้งของหัวใจ นางโพล่งออกไปอย่างอดไม่ได้ ในตอนที่นางตะโกนค

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1275

    “น้องหญิง?”กู้หว่านเยว่ตะลึงงัน มองจงหลี่อย่างตกใจ แม้แต่เข็มเงินที่อยู่ในมือก็ยังสั่นระริก“น้องหญิงอะไรเจ้าคะ?”ทันใดนั้นนางก็คาดเดาได้ในใจ ก่อนจะมองไปทางจงหลี่อย่างประหลาดใจ“เจ้าคือน้องสาวของข้า”จงหลี่สบตากับนาง จากนั้นก็พยักหน้าอย่างไม่ลังเล“บางทีเจ้าคงคิดว่าข้าล้อเจ้าเล่น แต่เจ้ามั่นใจได้เลยว่าเจ้าคือน้องสาวแท้ ๆ ของข้า”กู้หว่านเยว่ตะลึงงัน นางรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ“แต่ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าจวนกู้มีบุตรชายอีกหนึ่งคน”อีกอย่างดูจากอายุของจงหลี่แล้ว น่าจะมากกว่านางหกถึงเจ็ดปีปีนี้กู้หว่านเย่เพิ่งจะสามสิบกว่าปี ต่อให้มีบุตรเร็วอย่างไร ก็ไม่สามารถคลอดบุตรที่มีอายุห่างเท่าจงหลี่ได้“ใครบอกว่าเราเป็นบุตรสาวจวนกู้?”มุมปากของจงหลี่ยกยิ้มเย็นเยือก จวนกู้ สายเลือดต้อยต่ำเพียงนั้น คู่ควรอย่างนั้นหรือ?“เจ้าดูของสิ่งนี้สิ เจ้ารู้จักหรือไม่?”เขายกมือขึ้นมาล้วงหยิบหยกชิ้นหนึ่งจากในอกเสื้อ แล้วยื่นให้กู้หว่านเยว่กู้หว่านเยว่มองแวบหนึ่งก็รู้สึกคุ้นเคยกับของชิ้นนี้มาก“ของชิ้นนี้ ... เหมือนกับของที่อยู่ในปากของจ้านจ้านตอนแรกเกิด”ภายใต้การอนุญาตของจงหลี่ กู้หว่านเยว่หยิบ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1274

    หลังจากที่เข้ามาในห้อง ในที่สุดซูจิ่งสิงก็ต้านทานความคิดตัวเองไม่ไหว คว้ากู้หว่านเยว่เข้ามาไว้ในอ้อมกอด“น้องหญิง”เขาโอบกอดนางไว้ทั้งตัว พร้อมกับวางปลายคางลงบนซอกคอของนางเบา ๆ สูดดมกลิ่นหอมของดอกแพร์ที่แผ่ขยายออกมาจากตัวของนาง ภายใต้น้ำเสียงแหบพร่านั้นเต็มไปด้วยความคิดที่ไม่อาจกำราบลงได้ “เจ้าก็รู้ว่าข้าคิดถึงเจ้ามากเพียงใด”กู้หว่านเยว่หน้าแดงระเรื่อ นางคิดถึงเขามาก จึงไม่ผลักเขาออกไปแล้วเอ่ยตอบรับด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน“ข้าเองก็คิดถึงท่าน”“ไม่มีเวลาไหนไม่คิดถึง”นางกล่าวเสียงเบา ระบายความรู้สึกอย่างอ่อนโยน“ระหว่างทางกลับ ยามเห็นท้องฟ้าก็เหมือนเห็นเจ้า เห็นก้อนเมฆก็เหมือนเห็นเจ้า เห็นกองไฟก็คิดถึงแต่เจ้า ลืมตาก็เห็นเป็นหน้าเจ้า หลับตาก็เฝ้าพรรณนาแต่เจ้า....”ซูจิ่งสิงทนไม่ไหวอีกต่อไปริมฝีปากของภรรยาช่างน่าดึงดูดยิ่งนัก เขาโน้มหน้าลงมา ประทับรอยจูบลงบนปากของนาง ปลายลิ้นตวัดเปิดปากของนาง ลิ้นของนางตวัดประสานกับลิ้นของเขา ทั้งสองคนใช้ลิ้นสอดประสานกับอีกฝ่าย จนของเหลวผสมผสาน กลมกลืนเป็นเนื้อเดียวกัน“ท่านพี่...” กู้หว่านเยว่ตระหนักได้ว่าเขาต้องการอะไรจากสายตาที่เร่าร้อน

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1273

    นัยน์ตาของนางราบเรียบ นายท่านเจียงกลับรู้สึกละอายใจ“ข้าเคยบอกว่าข้าอยากร่วมมือกับพวกเจ้า และอยากพาพวกเจ้าไปด้วย”ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความละอายใจ “บัดนี้พวกเจ้ามีดอกน้ำแข็งนิลเป็นของตัวเองแล้ว โดยที่ข้าไม่ได้ช่วยเลยตั้งแต่ต้น กลีบของดอกน้ำแข็งนิลดอกนี้เราไม่ควรค่าจะได้รับมัน”นายท่านเจียงกล่าวอย่างจริงจัง เจียงฮูหยินพยักหน้าเห็นด้วย“ใช่ ๆ เราไม่ได้ลงแรงอะไรเลย จะกล้าครอบครองได้อย่างไร?”ซูจิ่งสิงกล่าวอธิบายด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “อาจารย์อา ท่านเก็บดอกน้ำแข็งนิลดอกนี้เอาไว้เถอะ ของสิ่งนี้มีประโยชน์ต่อท่าน ในฐานะที่ข้าเป็นลูกศิษย์ของท่าน ข้ามีหน้าที่ต้องช่วยเหลืออยู่แล้ว”เขายกมือคารวะ “บัดนี้ข้ายุ่งมาก คงจะไปเยี่ยมเยือนท่านอาจารย์ไม่ได้ หวังเพียงว่าหลังจากที่อาจารย์อาเจอกับท่านอาจารย์แล้ว คงต้องฝากทักทายเขาแทนข้าด้วย”ซูจิ่งสิงกล่าวถึงขนาดนี้แล้ว หากนายท่านหลี่ยังปฏิเสธอีก คงจะไร้เหตุผลเกินไปภายใต้ความจนปัญญา เขาทำได้แค่ตอบตกลง“ก็ได้ ข้าจะเก็บกลีบของดอกน้ำแข็งนิลกลีบนี้ไว้”นายท่านหลี่รับกล่องหยกไป จากนั้นก็ทำการห่ออย่างระมัดระวัง“ศิษย์พี่ใหญ่ เรารีบเดินทางกันได้แล้ว

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1272

    เนื่องจากร่างกายอ่อนแอมาก เวลานี้เขาจึงไร้เรี่ยวแรงที่จะเอ่ยหลังจากกินยาเข้าไป ผ่านไปไม่นานก็หลับสนิทซูจิ่นเอ๋อร์ถอนหายใจอย่างโล่งอกหนึ่งครั้ง เมื่อเห็นฟู่หลานเหิงเช่นนี้ ก็ยิ่งกังวล“พี่สะใภ้ใหญ่ ยาชนิดนี้จะได้ผลใช่หรือไม่?”นางกล่าวถามไปเรื่อย ซูจิ่งสิงจึงถลึงตาใส่นางหนึ่งครั้ง“หากไม่เชื่อพี่สะใภ้ใหญ่ของเจ้า ก็ไปหาคนที่มีความสามารถเหนือกว่า พี่สะใภ้ใหญ่ของเจ้ากลั่นยาชนิดนี้ออกมาอย่างยากลำบาก เจ้ายังกล้าซักถามอีกหรือ?”ซูจิ่นเอ๋อร์หน้าแดงก่ำ “ข้าไม่ได้หมายความว่าเช่นนี้”นางเองก็รู้ว่าทักษะการแพทย์ของพี่สะใภ้ใหญ่นั้นไม่เป็นสองรองใคร แต่เพราะเป็นห่วงมากเกินไป จึงอดกังวลไม่ได้“ช่างเถอะ อย่าไปเอาความจิ่นเอ๋อร์เลย”กู้หว่านเยว่ดึงมือของซูจิ่งสิง แล้วพาเขาออกไปจากห้อง“หว่านเยว่ ขอโทษนะ”ทันทีที่ออกมา ซูจิ่งสิงมองนางอย่างรู้สึกผิด “จิ่นเอ๋อร์เป็นน้องสาวของข้า นางเอาแต่ใจและหุนหันพลันแล่นไปหน่อย จึงพาฟู่หลานเหิงไปทูเจวี๋ยด้วยตัวเอง จนสร้างความวุ่นวายให้เจ้าไม่น้อย”“ซูจิ่งสิง?”กู้หว่านเยว่มองเขาด้วยสีหน้าแปลกใจ “ท่านจะเกรงใจข้าทำไม?”“นี่ไม่ใช่เกรงใจ”ซูจิ่งสิงกล่าวอธ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1271

    เมื่อซูจิ่นเอ๋อร์พุ่งเข้าไปกอดรัดกู้หว่านเยว่ สีหน้าของซูจิ่งสิงก็พลันหมองลง ก่อนจะกระชากตัวนางออกไป“พูดจากันดี ๆ อย่าโวยวายต่อหน้าพี่สะใภ้ใหญ่ของเจ้า”ซูจิ่นเอ๋อร์แลบลิ้นอย่างรู้สึกผิด“ขอโทษเจ้าค่ะ พี่สะใภ้ใหญ่ ข้า... ข้าคงจะตื่นเต้นเกินไปหน่อย”นางแทบเกือบรู้สึกหมดหวังแล้ว“คาดไม่ถึงว่าพี่ใหญ่และพี่สะใภ้ใหญ่จะได้ดอกน้ำแข็งนิลกลับมา”ซูจิ่นเอ๋อร์อยากร้องไห้ สองวันมานี้นางไล่ถามหาดอกน้ำแข็งนิลอยู่ในเมืองตลอดทั้งวันได้ยินมาว่าคนที่ออกตามหาดอกน้ำแข็งนิลในครั้งนี้มีจำนวนมาก การที่พี่ใหญ่และพี่สะใภ้ใหญ่แย่งชิงดอกน้ำแข็งนิลจากคนเหล่านี้กลับมาได้จะต้องเสียแรงไปไม่น้อย“ขอบคุณพวกท่านมากเจ้าค่ะ”“เด็กโง่ ครอบครัวเดียวกันไหนเลยยังต้องพูดขอบคุณ”ในพวกเขาสองคนนี้ คนหนึ่งเป็นอาของนาง อีกคนก็เป็นสหายที่เติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็กนางไม่มีทางยืนมองโดยไม่เข้าไปยุ่งได้“เอาละ เช็ดน้ำตาของเจ้าเถอะ ข้าต้องไปกลั่นยาอีก”กู้หว่านเยว่ออกคำสั่ง ซูจิ่นเอ๋อร์รีบพยักหน้า เนื่องจากฟู่หลานเหิงอ่อนแอมาก จึงได้หมดสติไป“ท่านพี่ ท่านถือโอกาสนี้ปรึกษาหารือกับพี่ใหญ่จงหลี่สิเจ้าคะ ดูว่าสามารถเรียกคนสก

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1270

    เขารู้สึกหนาวมาก“มี ยังมี เดี๋ยวข้าไปจุด”ซูจิ่นเอ๋อร์รีบพยักหน้า ขณะหันหลังรู้สึกเจ็บปวดนางจุดถ่านในห้องสามกระถางแล้ว แต่ฟู่หลานเหิงยังรู้สึกหนาวมาก ร่างกายของเขาอ่อนแอถึงขั้นไหนกัน?ซูจิ่นเอ๋อร์จุดถ่านเพิ่มอีกสองกระถาง ฟู่หลานเหิงมองนางอย่างพร่าเลือน“จิ่นเอ๋อร์”“ข้าอยู่นี่”ปลายจมูกซูจิ่นเอ๋อร์แดง แล้วรีบมาข้างเตียง“ข้าน่าจะไม่ไหวแล้ว หลังจากข้าตายเจ้าไม่ต้องครองหม้ายเพื่อข้า หากพบเจอคนที่ชอบพอ ก็สามารถแต่งงานใหม่”“อะไรนะ?”ซูจิ่นเอ๋อร์คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดจาเช่นนี้ จึงพึมพำสองสามคำ จู่ๆ น้ำตาสองสายไหลพรากลงมาทันที“เจ้าพูดบ้าอะไรกัน? ข้าแต่งงานกับเจ้าแล้ว อยู่เป็นคนของเจ้า ตายเป็นผีของเจ้าหากเจ้าตาย ข้าจะไม่มีชีวิตอยู่เพียงลำพังเด็ดขาดฟู่หลานเหิง เจ้าอย่าคิดจะทิ้งข้า!”นางแทบจะร้องตะโกนอย่างขาดใจ อาจเพราะอารมณ์ตึงเครียดมานาน“เจ้ายืนหยัดไว้ก่อนดีหรือไม่? ไม่ง่ายกว่าข้าจะพาเจ้ามาถึงภูเขาน้ำแข็งนิลคุณชายจงรับปากพวกเราแล้ว เขาจะหาดอกน้ำแข็งนิลกลับมา เขาต้องช่วยเจ้าได้แน่”ซูจิ่นเอ๋อร์ร้องไห้น้ำหูน้ำตาไหล ฟู่หลานเหิงส่ายหน้า แม้เขากับซูจิ่นเอ๋อร์จะแต่งงานกันแล้ว

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1269

    “เฝ้าต้นไม้คอยกระต่ายหรือ?”รอยยิ้มของจงหลี่เจิดจ้าโดดเด่น ทำให้กู้หว่านเยว่ต้องเบนสายตาเมื่อถูกเขาดึงดูดอย่างประหลาด ความรู้สึกคุ้นเคยที่เกิดขึ้นทำให้นางอดถามไม่ได้“เฝ้าต้นไม้อะไร คอยกระต่ายอะไร?”“หึหึ”จงหลี่รู้สึกน่าขันกับแววตาสงสัยของนาง ความเย็นชาห่างเหินในแววตา เมื่อหันมองกู้หว่านเยว่ มีความอ่อนโยนห่วงในแวบผ่าน “นี่คือเส้นทางที่ต้องผ่านเมื่อออกจากภูเขาน้ำแข็งนิล ไม่ว่าคนที่ได้ดอกไม้มาหรือไม่ ล้วนต้องผ่านเส้นทางนี้”เขาจงใจเจาะจง ทำให้กู้หว่านเยว่เบิกตาโต “เจ้า เจ้ารออยู่ที่นี่ เพราะอยากแย่งชิงหรือ?” “เจ้าทายสิ”ไม่ง่ายที่จงหลี่จะมีแก่ใจหยอกล้อนาง ในแววตาเต็มไปด้วยความอ่อนโยนดวงตาซูจิ่งสิงสลดลงเล็กน้อย แม้เขาจะรู้สึกว่าจงหลี่รู้สึกกับกู้หว่านเยว่ไม่ธรรมดา แต่ก็เป็นเพียงสายตาที่ผู้ใหญ่มองดูผู้น้อยเท่านั้น“แค่กแค่ก ข้าทายไม่ถูกหรอก”กู้หว่านเยว่ลูบจมูก ในใจคิดว่าชายผมขาวผู้นี้ช่างเป็นคนเถรตรงยิ่งนักไม่รู้ว่าเขามาภูเขาน้ำแข็งนิล เพื่อตามหาน้ำแข็งนิลให้ซูจิ่นเอ๋อร์ หรือว่าเขาต้องการเองกู้หว่านเยว่ไม่กล้าพูดออกไปตรงๆ ว่าดอกน้ำแข็งนิลอยู่บนตัวนาง“เอาละ”จงหลี

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1268

    กู้หว่านเยว่มองเหิงเทียนอวี้ แล้วอมยิ้ม“สำนักวั่นจงเป็นสำนักของเจ้า เจ้าไม่ช่วยสำนักตัวเอง กลับมาแจ้งข่าวให้พวกข้างั้นหรือ?”เหิงเทียนอวี้ลังเล “แม้สำนักวั่นจงจะเป็นสำนักของข้า แต่ก่อนหน้านี้พวกเราได้ร่วมมือกันแล้วไม่ใช่หรือ? อีกอย่างข้าไม่ได้อยากทำร้ายพวกเขา แค่อยากแจ้งข่าวให้พวกเจ้าเท่านั้น”ดูเหมือนเขากลัวสำนักวั่นจงจะทำร้ายนางมาก จึงรีบกล่าวต่อไป“พวกเรา พวกเราร่วมมือกันแล้ว”สรุปคำพูดนี้เพิ่งพูดออกไป ซูจิ่งสิงแทงกระบี่ไปบนตัวเขาทันที“...” กะทันหันเกินไป ช่างไร้จรรยาบรรณ!เหิงเทียนอวี้เบิกตาโต ในดวงตาเผยให้เห็นความหวาดกลัว“เพราะอะไร ทั้งที่ข้ากำลังช่วยพวกเจ้า”กู้หว่านเยว่ยิ้มเย็นเดินไปตรงหน้าเขา“เจ้าเป็นคนฆ่าเหิงหู่สินะ? ข้าดูออกแต่แรกแล้วว่าเจ้ากับเหิงสุยสุ่ยไม่ถูกกัน”สายตาของนางอมยิ้ม แล้ววิเคราะห์อย่างใจเย็น“วันนั้นตอนที่กำลังต่อสู้กับเหิงหู่ ข้าสังเกตได้ว่ามีคนคอยแอบดูอยู่ด้านหลังตลอดคนคนนั้นก็คือเจ้าสินะ?”“ไม่ ไม่ใช่!”เหิงเทียนอวี้โต้แย้งทันควัน เขาไม่กล้าขยับ กลัวว่าขยับแล้วจะตายเร็วขึ้น“เจ้าแก้ตัวไปก็ไร้ประโยชน์ เจ้าฆ่าเหิงหู่ไปแล้ว แล้วโยนความผิด

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status