แชร์

บทที่ 111

ผู้แต่ง: ฮวาฮวาตีลังกาแปล
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
“เอ่อ เช่นนั้นก็ได้” กู่หว่านเยว่ไม่กล้าพูดอะไรอีก อวิ๋นมู่น่าตายนัก นางไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว!

ต่อไม่ พวกเขาออกเดินทางได้ไม่นาน คนตระกูลอวิ๋นก็ไล่ตามมาทัน

ชายวัยกลางคนที่เป็นหัวหน้ามองไปรอบๆ จากนั้นจ้องมองไปที่อวิ๋นมู่ แล้วจึงควบม้าเข้ามา

ดึงสายบังเหียน ลงจากหลังม้าแล้วคุกเข่าลงหน้าอวิ๋นมู่

“คุณชายน้อย ในที่สุดก็หาท่านพบแล้ว เหตุใดองครักษ์มู่ชิงถึงบาดเจ็บสาหัสเช่นนั้น? เหตุใดท่านเองก็ได้รับบาดเจ็บด้วยเล่าขอรับ?”

“กลับไปค่อยคุยเถอะ”

เห็นได้ชัดว่าอวิ๋นมู่ไม่อยากพูดอะไรที่นี่

“ขอรับ”

ลุงฝูเองก็สังเกตเห็นว่ามากคนมากตา จึงรีบสั่งให้ออกมาพามู่ชิงลงจากด้านหลังของอวิ๋นมู่

“คุณชาย พวกเจ้าจะออกเดินทางกันตอนนี้เลยหรือไม่ขอรับ?”

อวิ๋นมู่ลังเลใจ ส่งสายตามองไปยังกู้หว่ายเยว่ซึ่งอยู่ไม่ไกล

เรื่องบ่อน้ำมันก๊าดจำเป็นต้องให้เขาไปจัดการ เขาไม่สามารถร่วมทางกับกลุ่มเนรเทศได้อีกแล้ว

อวิ๋นมู่เดินไปหาพวกกู้หว่านเยว่ กล่าวคำอำลากับพวกเขาสองสามคำ ทิ้งเสบียงอาหารเอาไว้ ก่อนจะขึ้นรถม้าแล้วหันหลังจะจากไป

แม้ว่าครั้งนี้พวกเขาต้องแยกจากกัน แต่ไม่ช้าก็เร็ว พวกเขาจะได้กลับมาพบกันใหม่

“อวิ๋นมู่ชอบเจ้า”

ทัน
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Saranya Pigmom
โฆษณาเยอะมาก จนอ่านไม่รู้เรื่องแล้วแวววววววววววววววววววววววว
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 112

    โชคดีที่กู้หว่านเยว่ฉลาด หลังจากนั้นไม่นาน นางก็ขับรถเทียมลาได้อย่างชำนาญทุกคนหิวท้องกิ่ว ตอนนี้มีอาหารแล้ว ก็ต้องอิ่มท้องให้เร็วที่สุดหลังจากพบที่โล่งแล้ว ซุนอู่ก็สั่งให้คาราวานหยุดพัก กินข้าวกันอยู่แถวนั้นกู้หว่านเยว่นำอาหารปรุงสุกที่เน่าเสียง่ายออกมาทั้งหมด แล้วแจกจ่ายให้กับตระกูลอื่นค่าตอบแทนคือช่วยพวกนางซักเสื้อผ้า ปะชุนเสื้อผ้า รองเท้า และถุงเท้าเรียกได้ว่าเป็นการช่วยเหลือแบบพึ่งพากันแล้ว โดยทั่วไป ทุกตระกูลล้วนแต่ก็เห็นด้วย กระทั่งว่าญาติผู้หญิงของหลายตระกูลเริ่มช่วยกันหาฟืนมาจุดไฟสักพัก ควันสีขุ่นก็ลอยฟุ้งอยู่ในค่าย กลิ่นหอมของอาหารคละคลุ้งอยู่ในอากาศผู้หิวโหยทั้งหลาย ถืออาหารชิ้นใหญ่ไว้ในมือกู้หว่านเยว่หยิบเป็ดย่างออกมาสองตัว ใช้ใบมีดเล็กๆ หั่นเป็นชิ้นๆ แล้วแบ่งให้ซูจิ่นเอ๋อร์และหยางซื่อหลายคนไม่มีตะเกียบ ดังนั้นจึงจับมันด้วยมือเปล่า ยัดเนื้อชิ้นใหญ่เข้าปากอย่างมูมมาม ดูสะใจอิ่มเอมไม่น้อย“ท่านแม่ ท่านอย่าหวงอาหารนะเจ้าคะ บนเทียมลายังมีเหลืออยู่”กู้หว่านเยว่กลัวว่าหยางซื่อจะเก็บอาหารไว้ให้พวกเขา จะไม่เต็มใจกินอีกครั้ง นางจึงต้องเตือนเอาไว้ก่อนหยางซื่อหัว

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 113

    นักการหลายคนหันไปมองฮูหยินผู้เฒ่าซู“เจ้าจะตะโกนทำไม? หุบปากเดี๋ยวนี้”“นาง... ซือซือนางตายแล้ว” ฮูหยินผู้เฒ่าซูชี้ไปยังหลี่ซือซือที่อยู่บนพื้น ใบหน้าเต็มไปด้วยความกลัวพูดขึ้นมาแล้ว หลี่ซือซือก็น่าสงสารไม่น้อย นางเพียงอยากกินอาหารมื้อสุดท้ายก่อนออกเดินทาง แต่ก็ถูกด่ากลับมาหนึ่งบทใบหน้าชราของฮูหยินผู้เฒ่าซูกระตุก“นางคงไม่มาหาข้าตอนกลางดึกกระมัง?”“ไม่หรอก นางจะไปกล้าเช่นนั้นได้อย่างไร? ท่านเป็นย่าของนางนะเจ้าคะ” หลิวซื่อเม้มปาก ไม่สงสารหลี่ซือซือเลยสักนิดหญิงแพศยาที่ล่อลวงคนของนาง ตายไปแล้วก็ดีฮูหยินผู้เฒ่าซูกลับแอบคิดว่า เพราะนางที่เป็นย่าไม่สนใจชีวิตเป็นตายของนาง นางจึงกังวลว่าอีกฝ่ายจะกลับมาหาตอนกลางดึกสองวันนี้ ทุกครั้งที่หลี่ซือซือขอให้นางป้อนน้ำให้ นางก็ปฏิเสธด้วยความรังเกียจนักการสองคนนั่งลง ตรวจสอบให้แน่ใจว่าหลี่ซือซือไม่หายใจแล้ว จึงหันไปรายงานซุนอู่“ให้ตระกูลซูเก่าจัดการกันเอง”ใบหน้าของซุนอู่ไร้อารมณ์ หลี่ซือซือทำเรื่องชั่วช้าไว้มาก ตายไปคงจะดีเสียกว่าแน่นอนว่า คนตระกูลซูเก่าไม่มีใครกล้าจัดการกับเรื่องนี้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าคนที่ดีกับนางอย่างซูหัวจวิ้นท

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 114

    ซูหัวจวิ้นชี้ไปที่ท้องฟ้า“หลี่ซือซือ หลี่ซือซือกลับมาหาข้าแล้ว”แม้ว่าหลี่ซือซือจะกรรมตามสนอง แต่เมื่อซูหัวจวิ้นพูดเช่นนี้ขึ้นมา ประกอบกับรอบด้านมืดมิด ทุกคนก็รู้สึกว่าเส้นขนทั้งร่างลุกพรึบ กวาดตามองรอบด้านอย่างรวดเร็วซุนอู่เองก็ยังรู้สึกได้ถึงลมร้ายที่กำลังโชยมา เขาจึงหยิบแส้ขึ้นมา เดินไปหาซูหัวจวิ้น แล้วเฆี่ยนเขาด้วยความโกรธ“ถ้าเจ้ายังกล้าพูดไร้สาระอีก ข้าจะตีเจ้าให้ตาย!”“โอ๊ยๆๆ ข้าไม่ได้พูดไร้สาระ หลี่ซือซือกลับมาแล้วจริงๆ นางโทษข้าที่ไม่ดูแลนาง โทษที่ข้าไม่ปกป้องนาง... แล้วก็ท่านแม่ นางเองก็กำลังโทษท่านด้วย!”จู่ๆ ซูหัวจวิ้นก็ชี้ไปที่ฮูหยินผู้เฒ่าซู ทำให้ฮูหยินผู้เฒ่าซูกรีดร้องด้วยความตกใจ“อ๊าๆๆ เจ้าสี่ ท่านจะตายแล้ว ยังมาพูดไร้สาระอะไรอยู่อีก?”ซูจิ่นเอ๋อร์สั่นงันงกอยู่ในอ้อมแขนของหยางซื่อ “พี่สะใภ้ใหญ่ ท่านว่า หลี่ซือซือนาง...”กู้หว่านเยว่เหลือบมองนางแล้วถามว่า “เจ้าเคยทำอะไรผิดหรือเปล่าเล่า?”“ไม่เคยเจ้าค่ะ”ซูจิ่นเอ๋อร์คิด นอกจากช่วงแรกที่นางทำตัวโง่ๆ ก็ไม่น่าจะทำเรื่องผิดใจกับนางอีก?“ถ้าไม่ได้ทำอะไรผิด เช่นนั้นจะกลัวอะไร?”ด้วยกังวลว่าคำพูดของซูหัวจวิ้นจะทำ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 115

    กู้หว่านเยว่ขอให้ระบบแสดงแผนที่ของภูเขาใกล้เคียงขึ้นมา จึงได้รู้ว่าข้างหน้าไกลออกไปสองชั่วยาม มีหมู่บ้านเล็กๆ อยู่“ถ้าท่านเชื่อข้า ก็ให้ทุกคนตามข้ามา”“ตามท่านไป?”ซุนอู่ลังเลกู้หว่านเยว่แข็งแกร่งมากก็จริง แต่นางไม่ใช่ผู้เบิกทางเส้นทางจางเอ้อร์ที่อยู่ด้านข้างพูดขึ้นว่า “หัวหน้า ข้าว่าฝนครั้งนี้พิลึกนัก ไม่รู้ว่าตากฝนนานเข้าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีกหรือเปล่า เช่นนั้น พวกเราไม่สู้ฟังคำแนะนำของแม่นางน้อยกู้”เขาเสริมอีกว่า“ตั้งแต่แรกเริ่ม พวกเราก็เชื่อฟังแม่นางน้อยกู้มาตลอด ก็ไม่เคยมีผิดพลาดนะขอรับ”“ก็ใช่”ประสบการณ์ในฐานะหัวหน้านักการศาลาว่าการ เป็นได้ไม่ดีเท่ากู้หว่านเยว่“ก็ได้ ท่านนำทาง พวกเราจะเดินตามท่านเอง”ด้วยเหตุนี้ ซุนอู่จึงให้นักการปลุกทุกคนขึ้นมา แล้วให้พวกเขาลุกขึ้นออกเดินทางต่อไปคนอื่นๆ เองก็สัมผัสได้ว่าฝนที่ตกลงมาผิดปกติ ดังนั้นจึงรีบออกเดินทางอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องมีนักการมาเร่งแต่สำหรับตระกูลซูเก่าแล้ว ช่างทุกข์นักหลิวซื่อกำลังอุ้มคนบาดเจ็บเอาไว้ หนักเสียจนก้าวเดินไม่ได้เมื่อมองไปที่เกวียนลาของกู้หว่านเยว่ นางก็ขอร้องเบาๆ“หว่านเยว่ เจ้าว่าให้อาสี่

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 116

    “รีบเดินเร็วเข้า เร็วหน่อย!”กู้หว่านเยว่รีบพูดกับพวกฮูหยินเหยียนว่า “ฮูหยินเหยียน ฮูหยินผู้เฒ่าเซิ่ง พวกท่านรีบอุ้มเด็กทั้งหมดขึ้นเกวียนของข้าเร็วเข้า พวกเราจะได้เดินทางได้เร็วขึ้น”กู้หว่านเยว่โยนผ้าห่มทิ้งเพื่อให้มีที่ว่างสำหรับเด็กๆ คนตระกูลนี้หลั่งน้ำตาด้วยความขอบคุณ แล้วรีบอุ้มเด็กๆ ขึ้นมาคาราวานฝ่าฟันพายุที่รุนแรง เดินทางอย่างเร่งรีบ และในที่สุด สองชั่วยามต่อมา ก็เห็นแสงสว่างริบหรี่ในความมืด“หมู่บ้าน นั่นคือหมู่บ้าน!”หลังจากถูกฝนกรดกัดผิวมาทั้งคืน ยามนี้ ร่างกายของทุกคนโปะโคลนไม่มีช่องว่า น่าอับอายอย่างยิ่ง อนาถยิ่งกว่าขอทานเสียอีก“มีใครอยู่หรือไม่?”ซุนอู่รีบพาคนไปเคาะประตูบ้านของครอบครัวหนึ่ง ผู้ที่มาเปิดประตูนั้น เป็นชาวนาวัยชราผู้หนึ่ง“ผู้เฒ่า ท่านให้พวกเราพักที่บ้านท่านสักคืนได้หรือไม่ขอรับ?”“ฝนตกหนักเช่นนี้ พวกเจ้ารีบเข้ามาเร็วเถอะ”ชาวนาเฒ่าพยักหน้าอย่างรวดเร็ว แล้วเชิญให้ทุกคนเข้าไปลานบ้านที่เรียบง่ายของที่นี่ แย่กว่าห้องไร้ราคาของโรงเตี๊ยม แต่ตอนนี้ ห้องห้องนี้มีหลังคา เช่นนี้ทุกคนก็พอใจมากแล้วในขณะที่ทุกคนกำลังจะรีบเข้าไป ทันใดนั้นก็มีเสียงไม่พอใจดั

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 117

    “ไม่มีทาง พวกเราหนีออกมาได้แล้ว ไม่มีใครจะจับพวกเรากลับไปได้อีก”ฟู่เยียนหรานขมวดคิ้วและพูดว่า“กลับไปข้าจะไปสืบหาตัวตนของพวกเขาทีหลัง พวกเขาอาจจะไม่ได้มาที่นี่เพราะพวกเราก็ได้”“พี่หญิง ข้าก็ยังกลัวอยู่ดี…” ฟู่ซานก้มหัวลง“เจ้ากลัวอะไร? เจ้าลืมไปแล้วว่าตอนที่ข้าเกิดมา ร้อยวิหคก่อเฟิ่งหวง นี่คือสัญลักษณ์ของผู้สูงศักดิ์ ข้าจะต้องก้าวไปข้างหน้าให้ได้ และเหลือเพียงโอกาสนี้โอกาสเดียวเท่านั้น”…เมื่อกู้หว่านเยว่ที่อยู่นอกประตูได้ยิน ดวงตาก็แสดงความประหลาดใจอย่างสุดซึ้ง จากนั้นก็ยกยิ้มออกมานี่ไม่ใช่นางเอกหรอกหรือ?ผู้ที่ถือกำเนิดพร้อมนิมิตหมายอันดีจากท้องฟ้า ไม่ใช่ได้รับนิมิตจากท้องฟ้าเมื่อเธอเกิดมาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากภรรยาของมู่หรงอวี้ ฟู่เยียนหราน ฮองเฮาแห่งต้าฉีในอนาคต!ไม่คิดว่าในหมู่บ้านที่ไร้ชื่อแห่งนี้ จะพบนางเข้าได้ ฟู่เยียนหรานคนนี้เป็นตัวละครที่โหดเหี้ยมคนหนึ่ง นางเป็นลูกที่เกิดจากอนุของอ๋องหนานหยาง ถูกผู้เป็นป้าหมั้นหมายไว้กับผู้บัญชาการที่รับใช้ข้างกายบิดาเสียเพียงที่ผู้บัญชาการคนนั้นนิสัยเลวทราม วันแต่งงานจึงหนีไปกับน้องชายแท้ๆ แต่ได้รับการช่วยเหลือจากมู่หรงอวี้ระหว่

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 118

    หากซูหัวจวิ้นกล้าหาเรื่องนาง ช่วงนี้นางก็คันไม้คันมือ อยากระบายอารมณ์อยู่พอดีซูจิ่นเอ๋อร์ยังกังวลอยู่เล็กน้อย นับตั้งแต่ที่หลี่ซือซือตายไป ลุงสี่ของนางคนนี้ก็ดูเหมือนจะเสียสติไปแล้วคนบ้าคนหนึ่ง ยากจะรู้ได้ว่าเขาจะทำเรื่องอะไรออกมาบ้าง“พี่สะใภ้ใหญ่ระวังไว้ดีกว่านะเจ้าค่ะ ถ้าเกิดอะไรขึ้นมา ท่านตะโกนออกมาแค่คำเดียว ข้าจะรีบไปทุบเขาให้ตายเลยเจ้าค่ะ!”“ไม่ต้องเป็นห่วงข้าหรอก เจ้าดูแลตัวเองกับท่านแม่ให้ดีก็พอแล้ว ข้าจะพาพี่ชายเจ้าไปอาบน้ำเสียหน่อย”ขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกัน กู้หว่านเยว่ก็ยกร่างของซูจิ่งสิงขึ้นมาแล้วเดินไปที่ห้องครัวเมื่อเดินเข้าไปในครัว ซูจิ่งสิงก็นั่งลงอย่างช่ำชอง แก้มของเขาแดงก่ำด้วยความเขินอาย“ข้าอาบเองก็ได้”“อ้อ”กู้หว่านเยว่เองก็ไม่ได้คิดจะช่วยเขาอาบเช่นกัน“ข้าจะไปอาบน้ำในมิติ ส่วนท่านอาบข้างนอก อาบไปด้วยก็ระวังคนให้ข้าไปด้วยนะเจ้าคะ”มิติ? นั่นคืออะไร?ซูจิ่งสิงสงสัยนัก เมื่อเห็นว่าหลังจากกู้หว่านเยว่ลงกลอนประตูห้องครัวแล้ว กะพริบตาหนึ่งครั้ง นางก็หายตัวไปทันที“กู้หว่านเยว่!”การหายตัวไปอย่างกะทันหันของผู้หญิงคนนั้น ทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดในใจ ถึงกับ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 119

    ไม่นาน เจ้าหน้าที่หนุ่มกลุ่มหนึ่งก็เดินเข้ามาจากนอกประตูเมื่อฟู่เยียนหรานเห็นเจ้าหน้าที่ ใบหน้าก็แสดงสีหน้าหวาดกลัว รีบดึงฟู่ซานไปซ่อนตัวอยู่หลังบ่อน้ำจนกระทั่งแน่ใจว่าเจ้าหน้าที่เหล่านี้ไม่ได้มาตามหาพวกตน นางจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอกกู้หว่านเยว่เองก็สังเกตเห็นเจ้าหน้าที่กลุ่มนี้เช่นกัน แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะมาหาครอบครัวชาวนานี้เสียมากกว่าเจ้าหน้าที่คนหนึ่งเตะถาดตากข้าวแล้วบอกว่า “รีบจ่ายค่าภาษีเดือนนี้มาเสีย”ชายชราและครอบครัวยื่นเงินออกไปด้วยสีหน้าเศร้าโศก“แค่ตำลึงเดียวเองหรือ?”“เดือนที่แล้วก็ไม่ใช่แค่ตำลึงเดียวหรอกหรือ?...”ลูกชายของชาวนาปากมากไปสักนิด เจ้าหน้าที่คนหนึ่งจึงผลักเขาลงพื้น ทุบตีอย่างแรงทันที“เดือนนี้ขึ้นแล้ว เป็นสองตำลึง รีบเอามา ไม่เช่นนั้นพวกเจ้าก็ต้องกินไม่หมด แอบห่อพากลับ[footnoteRef:1]!” [1: เปรียบเทียบกับการ ก่อเรื่องไม่ดีหรือทำให้เกิดเรื่องไม่ดี จำต้องแบกรับ รับผลที่ตามมา มักจะใช้สำหรับตักเตือนคนว่า จะทำเรื่องอะไรอย่าลืมคำนึงถึงผลที่ตามมา] สามีภรรยาคู่ชราร้องขอความเมตตาพลางเอาเงินออกมาหมดบ้าน ในที่สุด พวกเขาก็รีดเอาเงินสองตำลึงออกมาได้“ดี

บทล่าสุด

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 772

    ซูจิ่งสิงไม่เห็นด้วย ประเด็นหลักเพราะเขากลัวว่านางจะได้รับบาดเจ็บเพราะจากคำให้การของชาวบ้านเหล่านั้น ฟังดูแล้วทะเลสาบแห่งนั้นไม่ค่อยปลอดภัยนัก บางคนก็บอกว่ามีปีศาจอยู่ในทะเลสาบแห่งนั้น คนที่ดำลงไปสำรวจใต้น้ำก่อนหน้านั้นต่างก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย“ไม่ได้ ในเมื่อเป็นสถานที่อันตราย ข้าก็ยิ่งต้องไปกับท่าน มิเช่นนั้นหากท่านตกอยู่ในอันตรายขึ้นมาจะทำอย่างไรเล่าเจ้าคะ?”กู้หว่านเยว่ส่ายหน้าอย่างเด็ดขาด ทำให้ซูจิ่งสิงจนปัญญา เดิมทีเขาอยากมาบอกกล่าวภรรยาของตัวเองก่อนออกเดินทางสักคำ คิดไม่ถึงว่าภรรยาของตนจะขอไปกับเขาด้วยเมื่อเห็นสายตาเด็ดเดี่ยวของอีกฝ่าย เขาก็รู้ทันทีว่าต่อให้ตัวเองโน้มน้าวอย่างไรก็ไม่มีประโยชน์ จึงทำได้แค่พยักหน้าอย่างจำใจ“ก็ได้ เช่นนั้นเราก็ไปด้วยกัน แต่เจ้าต้องรับปากข้าก่อน ถึงตอนนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เจ้าห้ามกระโดดลงจากเรือไปสำรวจในทะเลสาบเพียงลำพังเด็ดขาด”“ไม่มีปัญหา”กู้หว่านเยว่รับปากวันนี้รับปาก พรุ่งนี้กลับคำเนื่องจากสองสามีภรรยาคู่นี้จะต้องออกเดินทางไปสำรวจทะเลสาบแห่งนั้นตั้งแต่เช้าตรู่ ดังนั้นคืนนี้ทั้งสองคนจึงไม่อยู่รอให้ซูจื่อชิงฟื้นอยู่ในจวน แต่

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 771

    นางหยางปาดน้ำตา “ช่วงนี้เจ้าต้องดูแลกู้จื่อชิงให้ดี มันคือทางที่ดีที่สุดแล้ว เรื่องในวันนี้คงโทษเจ้าไม่ได้ เจ้าเองก็ไม่ต้องตำหนิตัวเจ้าเอง”ชิวจู๋กัดริมฝีปากพยักหน้าหลังจากที่กู้หว่านเยว่ต้มยาระงับประสาทให้แล้ว ก็ยื่นใบสั่งยาให้คนอื่น เพื่อเตรียมสมุนไพรนางแอบลากซูจิ่งสิงเข้ามาในมุมหนึ่งของลานกว้าง“ท่านพี่ เรื่องนี้ท่านว่าอย่างไรเจ้าคะ?”ซูจิ่งสิงไม่พูดสิ่งใด เรื่องความรู้สึกของซูจื่อชิงเขาเองก็ไม่รู้จะเข้าไปแทรกอย่างไรยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้เมี่ยชิงหว่านกำลังจะหมั้นกับเผยเสวียนแล้ว เขาไม่มีทางเข้าไปชิงตัวใครออกมาอย่างแน่นอนครั้นกู้หว่านเยว่เห็นซูจิ่งสิงไม่กล่าวสิ่งใด ก็รู้ทันทีว่าคนที่แข็งกระด้างด้านความรู้สึกอย่างเขาคงไม่มีทางคิดออกแน่นอนดังนั้น นางจึงพูดอย่างตรงไปตรงมา“ท่านไม่รู้สึกว่าการแต่งงานของเมี่ยชิงหว่านและเผยเสวียนกะทันหันเกินไปหรือเจ้าคะ?”ซูจิ่งสิงขมวดคิ้วเล็กน้อย “หมายความว่าอย่างไร?”“ข้าให้คนไปตรวจสอบแล้ว พวกเขาสองคนรู้จักกันได้ไม่นาน มากสุดเพียงครึ่งเดือน อีกทั้งช่วงเวลานี้ ชิงหว่านไม่ได้สนใจเผยเสวียนเลย กลับเป็นเผยเสวียนที่คอยเอาแต่ประกาศอยู่เรื่อย ๆ ทำ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 770

    “คุณชายรองเราไปกันเถอะ ในเมื่อคุณหนูฟู่ตัดสินใจจะหมั้นกับคุณชายเผยแล้ว ต่อให้ท่านรอต่อไปก็ไม่มีประโยชน์หรอกเจ้าค่ะ”ชิวจู๋ประคองซูจื่อชิงลุกขึ้น คาดไม่ถึงว่าซูจื่อชิงจะรับแรงกระตุ้นไม่ไหวกระอีกออกมาเป็นเลือดและสลบไปในที่สุด“คุณชายรอง คุณชายรอง!” ชิวจู๋รีบประคองซูจื่อชิงกู้หว่านเยว่กำลังคุยเรื่องนี้กับซูจิ่งสิงพอดี ครั้นได้ยินเด็กรับใช้รายงานว่าซูจื่อชิงสลบไม่ได้สติและกระอักออกมาเป็นเลือด“เด็กคนนี้ชอบทำให้เป็นห่วงอยู่เรื่อย เมื่อครู่ข้าเพิ่งบอกเขาอยู่หยก ๆ ว่าให้ถนอมร่างกายของตัวเอง ไม่ทันไรก็เกิดเรื่องขึ้นแล้ว”กู้หว่านเยว่ด่าทอพักใหญ่ แต่ถึงอย่างไรเขาก็เป็นคนในครอบครัว ทั้งสองคนรีบเดินตรงไปยังจวนด้านหลัง“เกิดอะไรขึ้น?”ทันทีที่เข้าไปก็เห็นซูจื่อชิงสลบอยู่บนเตียง สีหน้าเขียวคล้ำ มุมปากมีคราบเลือดหยดหนึ่งติดอยู่นางหยางและซูจิ้งกลับมาพอดี ครั้นเห็นบุตรชายกลายเป็นเช่นนี้ ก็เจ็บปวดคล้ายกับโดนมีดหรีดหัวใจ“หว่านเยว่ เจ้ารีบดูอาการให้เขาสิว่ามันเกิดอะไรขึ้น เมื่อครู่ข้าเรียกเขาอยู่ครึ่งวัน กลับไม่มีการตอบสนองเลยสักนิด”“ท่านแม่ ท่านอย่าเพิ่งร้อนใจไป น้องชายรองแค่สลบไปเท่านั้น

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 769

    “ในเมื่อเขามาหาเจ้าแล้วถึงที่แล้ว เจ้าก็ควรออกพบเขาสักหน่อย”เผยเสวียนคลี่ยิ้มหวาน ทำให้เมี่ยชิงหว่านขมวดคิ้วแน่น“ตอนนี้ข้าไม่อยากเจอใคร เจ้าไปบอกเขาเถอะ ข้าเข้านอนแล้ว”เด็กรับใช้ยืนนิ่งไม่ไหวติ่ง เผยเสวียนตั้งใจลูบแก้มของนาง“สาเหตุที่เขาอยากพบเจ้าตอนนี้ คาดว่าคงยังคาใจ อยากฟังคำตอบจากปากของเจ้าเอง ข้าอยากให้เจ้าออกไปบอกเขาด้วยตัวเอง ให้เขาตัดใจเสียเถิด”เมี่ยชิงหว่านตัวสั่นระริก “ทำไมถึงเป็นเช่นนี้? ข้าไม่เจอเขาก็พอแล้วไม่ใช่หรือเจ้าคะ?”“ไม่ได้”เผยเสวียนคลี่ยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวเสียงต่ำ “ชิงหว่าน เด็กดี เชื่อฟังข้าเถอะ มิเช่นนั้นเจ้าก็รู้ว่าผลลัพธ์จากการโกรธของข้าจะเป็นอย่างไร”เมี่ยชิงหว่านลังเลเล็กน้อย ยังไม่อยากออกไป“ในเมื่อเจ้าไม่อยากออกไปบอกเขา เช่นนั้นข้าจะออกไปบอกเขาเอง ถึงตอนนั้นอะไรที่ควรพูดอะไรที่ไม่ควรพูด ข้าเกรงว่าคงจะควบคุมปากไว้ไม่ได้”เผยเสวียนกล่าวพลางสาวเท้าเดินออกไปข้างนอกนัยน์ตาของเมี่ยชิงหว่านฉายแววเกลียดชัง จากนั้นก็กัดฟันพลางพยักหน้า “ข้าไปเอง ข้าจะออกไปบอกเขาเอง”“แบบนี้สิ ถึงจะเป็นคู่หมั้นที่น่ารักของข้า”เผยเสวียนหยิบเสื้อคลุมขึ้นมาพลางส

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 768

    หลังจากเกิดความชุลมุนพักใหญ่ ในที่สุดเจ้าตัวก็ฟื้น “ข้า ข้ายังไม่ตายใช่หรือไม่?”ซูจื่อชิงมองรอบ ๆ ห้องอย่างเหม่อลอย สีหน้าแดงก่ำเพราะฤทธิ์สุรา ท่าทางนั้นเหมือนตายทั้งเป็นกู้หว่านเยว่กล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “ชิงหว่านกำลังจะหมั้นแล้ว ต่อไปเจ้าสองคนก็ต้องต่างคนต่างอยู่ เจ้าทำตัวแบบนี้ไปให้ใครดูกัน?”ซูจื่อชิงตัวสั่นเทิ้ม ก่อนที่บุรุษร่างใหญ่จะร้องไห้คร่ำครวญออกมา“ข้ารู้ผิดแล้ว ทั้งหมดเป็นเพราะข้าเอง ต้องโทษปากของข้าที่เอาแต่ขับไสไล่ส่งนางออกไปไกลมากขึ้นทุกที”ตอนนี้ซูจื่อชิงน้ำตาเช็ดหัวเข่า“ทำไมข้าถึงชอบพูดประชดประชัน ทำไมข้าถึงไม่บอกความรู้สึกของข้ากับนางให้เร็วกว่านี้”บัดนี้คงทำได้แค่มองคนที่ตนรักแต่งงานกับคนอื่นไปต่อหน้าต่อตา เขาจะทนได้อย่างไร? หลายวันมานี้เขาเอาแต่ดื่มเหล้าย้อมใจอยู่แต่ในร้านอาหาร ดื่มจนเมามาย เพียงแค่อยากให้ตัวเองไร้ความรู้สึกเท่านั้นน่าเสียดายที่ความเจ็บปวดจากการสูญเสียคนรัก ไม่สามารถลบล้างด้วยการดื่มเหล้าได้ต่อให้ดื่มเหล้าจนเมามาย ก็ทำได้แค่ลืมไปชั่วขณะ หลังจากสร่างเมากลับมาเจ็บปวดยิ่งกว่าเดิม“เสียใจ ข้าเสียใจจริง ๆ”ซูจื่อชิงน้ำตาไหลอาบสอง

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 767

    “ท่านอาเทพธิดา” เว่ยเสียวฉู่ก้มหน้ามองกู้หว่านเยว่ด้วยความชื่นชอบ ก่อนจะคลี่ยิ้มหวานหยดย้อยหลังจากให้กำเนิดบุตรชาย กู้หว่านเยว่ไม่อาจต้านทานเด็กสาวที่มีหน้าตาน่ารักได้อีก กระทั่งโน้มตัวลงไปบีบแก้มของนาง“สวัสดี เว่ยเสียวฉู่”“ท่านอาเทพธิดา ท้องละเจ้าคะ?” เว่ยเสียวฉู่ชี้ไปที่ท้องของนางด้วยความอยากรู้ กู้หว่านเยว่ถึงกับหลุดหัวเราะออกมาเบา ๆ “เด็กในท้องคลอดออกมาแล้ว เป็นน้องชายตัวน้อย”นัยน์ตาของเว่ยเสียวฉู่เปล่งประกายระยิบ นางไม่มีเพื่อนเล่นเลยตั้งแต่ที่มาถึงเจดีย์หนิงกู่“ข้าขอไปเล่นกับน้องชายได้หรือไม่เจ้าคะ?”“เสี่ยวฉู่” เจียงหรงอุ้มเด็กน้อยพลางกล่าว “ขอโทษด้วยเจ้าค่ะ พระชายา นางยังเด็กยังไม่รู้ความ”สำหรับนางแล้ว องค์ชายน้อยจากราชวงศ์ไม่ใช่ใครที่จะเล่นกับเขาได้นะ?กู้หว่านเยว่กล่าวด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน “ไม่เป็นไร ข้าชอบเด็กอย่างเสี่ยวฉู่ หากมีเวลาว่าง ไว้ข้าจะพานางไปเล่นในจวน” เด็กคนนี้ดูมีความจริงใจ หลังเติบโตไปเด็กคนนี้จะได้เป็นท่านแม่ทัพหญิงที่องอาจผึ่งผาย กู้หว่านเยว่จึงชอบมาก“ขอบพระทัยพระชายาเจ้าค่ะ”เจียงหรงคลี่ยิ้ม นางเองก็รู้อยู่แก่ใจว่ากู้หว่านเยว่ไม่ชอบให้ท

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 766

    “ข้าคิดดีแล้ว ในเมื่อเจ้าอยากอยู่เจดีย์หนิงกู่ ข้าก็จะอยู่ที่นี่กับเจ้า ถึงตอนนั้นข้าคงหางานเขียนและวาดรูปมาเลี้ยงเจ้า”“ท่านพี่วั่ง” ดวงตาของเจียงอวิ๋นจิ่นแดงก่ำ ซาบซึ้งใจยิ่งนักครั้นกู้หว่านเยว่ได้ยินแผนการของทั้งสองคนแล้ว ตัดสินใจว่าจะอยู่เจดีย์หนิงกู่ จึงกล่าวออกไปตรง ๆ ว่า“เทียบกับเรื่องงานเขียนและวาดภาพ ไม่สู้เจ้ามาเป็นผู้อำนวยการให้กับสำนักศึกษาถงซันดีกว่า”“ผู้อำนวยการ?” เฉินจื่อวั่งยังไม่ได้สติชิงเหลียนจึงคลี่ยิ้มและอธิบายว่า “สำนักถงซันเป็นสำนักที่ฮูหยินของเราสร้างขึ้น ตอนนี้กำลังขาดบุคลากรอย่างผู้อำนวยการหนึ่งคนและอาจารย์สอนอีกจำนวนหนึ่ง”กู้หว่านเยว่หยิบแผนที่ใบหนึ่งออกมา “นี่คือที่อยู่ของสำนักศึกษาถงซัน ตอนนี้ยังอยู่ในระหว่างการสร้าง หากเจ้ามีเวลาแวะไปเยี่ยมชมได้”เฉินจื่อวั่งรับแผนที่มาอย่างตะลึงงัน และเงียบไปชั่วครึ่งยามชิงเหลียนกล่าวถามด้วยใบหน้าดุดัน “ทำไม เจ้าไม่เห็นด้วยหรือ? ในตอนที่เจ้าอ้อนวอนให้ฮูหยินของเราช่วยแม่นางเจียง ไม่ใช่บอกว่าจะทำตามคำสั่งของฮูหยินหรอกหรือ!”เฉินจื่อวั่งไม่เห็นด้วยที่ไหนกัน เห็นได้ชัดว่าเขากำลังตกใจอย่างมาก“ข้า ข้าเป็นผู้อำนว

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 765

    “ลุกขึ้นเถอะ”กู้หว่านเยว่ทนไม่ได้ที่อยู่ ๆ ก็มีคนคุกเข่าโดยไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยเช่นนี้ “ขอรับ”เจียงอวิ๋นจิ่นเชื่อฟังคำสั่งของกู้หว่านเยว่มาก บอกให้นางลุกขึ้น นางก็ลุกขึ้นอย่างว่าง่ายทันทีดวงตาที่งดงามคู่นั้นเอ่อล้นด้วยหยดน้ำตา “พระชายา ข้าไม่รู้ว่าจะตอบแทนท่านอย่างไร”นางกินยาแกล้งตาย หลับไปสามวันเต็ม เพิ่งจะฟื้นเมื่อครึ่งชั่วยามที่แล้ว และได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นในสามวันนี้จากเฉินจื่อวั่ง“วินาทีที่นั่งรถม้ามุ่งหน้าไปยังเจดีย์หนิงกู่ ข้าคิดว่าชีวิตที่เหลือหลังจากนี้จบสิ้นเสียแล้ว”เจียงอวิ๋นจิ่นเตรียมยาพิษเอาไว้เรียบร้อยแล้วเหตุผลที่ไม่ดื่มยาพิษฆ่าตัวตายระหว่างทางเป็นเพราะนางกังวลว่าข่าวการตายของนางจะแพร่กระจายไปถึงเมืองหลวงแล้วสร้างความเดือดร้อนให้กับครอบครัวของนาง“สาเหตุที่อวิ๋นจิ่นยังยืนอยู่ตรงนี้ได้ ทั้งหมดเป็นความกรุณาธิคุณของพระชายาที่ทรงช่วยเหลือไว้”“ร่างกายเจ้าอ่อนแอนัก นั่งลงเถิด”ไม่รู้เป็นเพราะเจียงอวิ๋นจิ่นโดนทำร้ายมาตั้งแต่วัยเยาว์หรือไม่ ร่างกายถึงได้อ่อนแอมากเช่นนี้ กู้หว่านเยว่จับชีพจรให้นางแล้วพบว่านางมีสภาวะอ่อนแอขั้นรุนแรงมิน่าล่ะท่าทางการเดินที่ไร้

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 764

    ครั้นกลับถึงบ้านช่วงค่ำ ในขณะที่กู้หว่านเยว่กำลังรับประทานอาหารอยู่นั้นนางก็ได้พูดคุยกับซูจิ่งสิง“ท่านพี่ ข้าตั้งใจจะสร้างสำนักศึกที่แตกต่างจากที่อื่นสักแห่งเจ้าค่ะ สำนักศึกษาของต้าฉีในสมัยก่อนมีเพียงบุรุษเท่านั้นที่เข้าเรียนได้ สำนักศึกษาเจดีย์หนิงกู่ของเราแห่งนี้ ข้าอยากให้สตรีมีโอกาสเข้าไปเรียนด้วยเจ้าค่ะ”ซูจิ่งสิงพยักหน้า สนับสนุนความคิดนี้ของนาง “บุรุษและสตรีใต้หล้านี้ไม่มีแบ่งแยก สติปัญญาก็ไม่แตกต่างกัน ในเมื่อบุรุษเรียนหนังสือได้ สตรีก็ย่อมเรียนได้เช่นกัน”กู้หว่านเยว่คลี่ยิ้มหวานหยดย้อย สายตาที่เปล่งประกายคู่นั้นจ้องมองบุรุษตรงหน้าอย่างเขินอาย“ทำไมมองข้าเช่นนี้ หน้าข้ามีสิ่งใดติดอยู่อย่างนั้นหรือ?”“ไม่มีเจ้าค่ะ ข้าแค่รู้สึกว่าสามีของข้าช่างมีเสน่ห์ยิ่งนัก”ไม่ว่าเมื่อไหร่ พวกเขาสองคนสามารถคุยเรื่องแบบนี้ได้ โดยไม่มีช่องว่างระหว่างวัยคนหนึ่งมาจากยุคโบราณ อีกคนมาจากยุคปัจจุบัน ความคิดค่อนข้างมีอิทธิพลมากแต่บางครั้งนางก็พบว่าความคิดของซูจิ่งสิงก็ทันยุคทันสมัยมากเช่นกันซูจิ่งสิงคลี่ยิ้มอย่างอ่อนโยน “เจ้าคือภรรยาของข้า ต่อให้บางความคิดข้าจะไม่เข้าใจ ข้าก็เต็มใจสนับสน

DMCA.com Protection Status