เขาปกป้องจนลำเอียง ไม่อนุญาตให้ผู้ใดพูดว่ากู้หว่านเยว่แม้ประโยคเดียวมองเห็นเนี่ยชิงหลานหันหน้าดึงกระบี่ออกมา“เซี่ยเหอเล่า?”หลายวันมานี้นางได้รับความทุกข์มากมาย จะต้องคิดบัญชีกับเซี่ยเหอให้ชัดเจน“นาง...”เฉิงเซวียนร้อนตัวอยู่บ้าง ถึงขั้นลืมไปแล้วว่าหลายวันมานี้เนี่ยชิงหลานหายตัวไปอยู่ที่ใด“ชิงหลาน ตอนนี้นางไม่สบาย”เฉิงเซวียนเองก็ไม่รู้จะอธิบายเยี่ยงไร ตอนนี้เองสาวใช้ของเซี่ยเหอวิ่งอย่างเร่งรีบออกมา เห็นเนี่ยชิงหลานถึงขั้นกลับมาแล้ว ถูกทำให้ตกตะลึงพรึงเพริด“คุณชายเฉิง คุณหนูนางฝันร้ายเจ้าค่ะ”สาวใช้กัดฟันพูดหนึ่งประโยค พยายามเมินข้ามเนี่ยชิงหลาน ไม่สบตากับนาง“ท่านสามารถไปดูนางได้หรือไม่”เฉิงเซวียนลังเล เนี่ยชิงหลานกลับเดินเข้าไปภายในลานบ้านแล้ว“ฝันร้าย ข้าว่านางทำเรื่องผิดศีลธรรมมามากกระมัง!”เดิมทีนางก็เป็นคนตรงไปตรงมาคนหนึ่ง บุกเข้าห้องของเซี่ยเหออย่างมีโทสะ ถือกระบี่ชี้หน้านาง“แม่นางชิงหลาน?”เซี่ยเหอแสร้งอ่อนแอ ได้เห็นเนี่ยชิงหลานยังคิดว่าเข้าใจผิดไป ใบหน้าเผยสีหน้ารู้สึกผิดเช่นนี้ตกอยู่ในสายตาเนี่ยชิงหลาน ก็ยิ่งมั่นใจ ทั้งหมดล้วนเป็นฝีมือนางนางวางกระบี่
“อ๊า!” ร่างกายอ่อนแอของเซี่ยเหอล้มลงในอ้อมกอดของเฉิงเซวียน “เจ็บเหลือเกิน ข้าเจ็บมากเหลือเกิน พี่ใหญ่เฉิง ช่วยข้าด้วย”“เซี่ยเหอ ไม่เป็นไร ข้าจะพาเจ้าไปหาหมอ”เฉิงเซวียนตกตะลึงพรึงเพริดกอดเซี่ยเหอไว้“ญาติผู้น้อง ต่อให้เจ้าโมโหนาง เจ้าก็ไม่สามารถลงมือหนักกับนางเช่นนี้ได้คนที่ทำผิดคือข้า หากเจ้าจะฆ่าก็ควรฆ่าข้า”เขาคิดว่าเนี่ยชิงหลานอิจฉาริษยา ขาดสติไป นี่ถึงลงมือกับเซี่ยเหอ“คิกๆ หากท่านมีความสามารถก็ช่วยล้างแค้นแทนนางได้” เนี่ยชิงหลานมองเขาสีหน้าเย็นชาเฉิงเซวียนยังอยากพูดอะไร เซี่ยเหอกลับพูดอย่างหมดแรง“พี่ใหญ่เฉิง ข้าเจ็บเหลือเกิน ข้ากำลังจะตายใช่หรือไม่?”เลือดไหลออกจากอกของนาง กระบี่นี้ของเนี่ยชิงหลานกลับไม่เบา“ไม่มีวัน ข้าจะพาเจ้าไปหาหมอเดี๋ยวนี้เลย”เฉิงเซวียนอุ้มคนออกไป เนี่ยชิงหลานมองเงาหลังของเขา หัวใจที่เคยลอยเคว้งตายไปในที่สุด“ชิงหลาน ไปพักผ่อนก่อนเถอะ”กู้หว่านเยว่ขมวดคิ้วเดินเข้าไป นางเห็นเรื่องนี้อยู่ในสายตา แม้ว่าเฉิงเซวียนจะดี กลับสามารถถูกผู้หญิงคนหนึ่งหลอกได้อย่างง่ายดาย ไม่ใช่คู่ครองที่ดี“พี่หญิงกู้”เนี่ยชิงหลานมีน้ำตาคลอหน่วย “แต่ไหนแต่ไรมาญาติผ
กู้หว่านเยว่คิดว่า หากพวกเขาปลอมตัวไป ก็สามารถสร้างฉากศัตรูอยู่ที่สว่างข้าอยู่ที่มืดได้ สะดวกต่อการเคลื่อนไหว“ได้”ซูจิ่งสิงหยิบจี้หยกที่ถังหว่านมอบให้ออกมา “พรุ่งนี้พวกเราสามารถไปที่บ้านสกุลถังสักเที่ยวหนึ่งก่อนได้ ค่อยให้สกุลถังปกปิด ส่งเข้าตลาดมืด”ทั้งสองปรึกษากันจบ กู้หว่านเยว่ก็เริ่มฝึกบทเพลงควบคุมสัตว์ร้ายไม่ได้ฝึกมาหลายวัน ทักษะของนางเริ่มถดถอยลงไปบ้างแล้ว“นายหญิง ท่านไม่ดูหน่อยหรือว่ามิติอัปเกรดสิ่งใดออกมา?”เสียงของระบบดังขึ้นอย่างกะทันหัน เจืออารมณ์กระตือรือร้น ทำเสียจนกู้หว่านเยว่แปลกใจ สองวันมานี้นางยุ่งจนเวียนหัว หลังระบบอัปเกรดแล้วก็ไม่มีเวลาเข้ามาดู“ฟังก์ชันที่อัปเกรดขึ้นมาคืออะไร?”กู้หว่านเยว่ยังแปลกใจมาก ฟังจากเสียงของระบบน่าจะเป็นของดี“ท่านรีบไปดูหน้าเรือนเล็กเถอะ”ระบบลอบพูดเร่ง กู้หว่านเยว่สร้างเรือนหลังเล็กแห่งหนึ่งบนพื้นหญ้า ยามนางเข้ามาในระบบ ก็พักผ่อนที่หน้าเรือนเล็กแห่งนั้น“จะไปเดี๋ยวนี้เลย”กู้หว่านเยว่เทเลพอร์ตมาที่หน้าเรือนเล็ก จูเชวี่ยและเสี่ยวไป๋กำลังนอนข้างน้ำแร่ศักดิ์สิทธิ์ ดื่มน้ำแร่ศักดิ์อย่างเอร็ดอร่อย“พวกเจ้าสองตัวกระหายถึงเพี
กู้หว่านเยว่รู้สึกผิด อันที่จริงซูจิ่งสิงไม่ได้โกรธ ถูกนางปลอบโยนเช่นนี้ เพลิดเพลินยิ่งนัก“เหตุใดเจ้ารีบเรียกข้ามาเล่า?”กู้หว่านเยว่ถึงนึกเรื่องสำคัญขึ้นได้ รีบชี้เสี่ยวไป๋“ท่านจะต้องคิดไม่ถึงแน่ เมื่อครู่ข้าถึงขั้นเห็น เสี่ยวไป๋พ่นน้ำได้!”“พ่นน้ำ?”ซูจิงสิงเองก็แปลกใจอยู่บ้าง ย้อนคิดถึงหนังสือภาพที่ตนเคยเห็นมาก่อน“ไม่ใช่มีเพียงมังกรวารีที่สามารถพ่นน้ำได้หรือ เหตุใดเสี่ยวไป๋งูหลามยักษ์ตัวหนึ่งถึงพ่นน้ำได้เล่า?”กู้หว่านเยว่เกิดความคิดหนึ่งขึ้นภายในใจ รีบเดินเข้าไปหยุดต่อหน้าเสี่ยวไป๋ หลายวันมานี้เสี่ยวไป๋คุ้นเคยกับนางมาก ไม่โจมตีนางก่อนอีกนางมองศีรษะของเสี่ยวไป๋ ปรากฏว่ามองเห็นสิ่งที่คล้ายเขาสองอันจริงๆ กำลังเตรียมพร้อม และงอกออกมา“หรือว่าเสี่ยวไป๋ก็คือมังกรวารีตัวหนึ่ง บัดนี้มันยังอยู่ในวัยเด็ก?”กู้หว่านเยว่หยั่งเดาส่งเดช เพราะนางเองก็ไม่เคยเห็นมังกรวารีตัวจริงมาก่อน ดังนั้นจึงไม่สามารถเดาออกว่าตกลงเป็นความจริงหรือไม่“เสี่ยวไป๋คล้ายสนิทกับข้ามาก”ซูจิ่งสิงพบว่า หากเขามา เสี่ยวไป๋จะหมอบข้างเท้าเขาความสนิทสนมนี้คล้ายเสี่ยวจูเชวี่ยปฏิบัติต่อกู้หว่านเยว่ เสี่ยวไป๋คล
กู้หว่านเยว่ครุ่นคิดเมื่อคืนเนี่ยชิงหลานไม่ได้กินอะไร ขณะคิดไปห้องครัวทำอาหารรสอ่อนสักเล็กน้อยก็มองเห็นหลี่หรงหรงมาเรียกนางไปกินข้าว“ฮูหยิน ข้าทำมื้อเช้ารสอ่อนไว้เล็กน้อย เจ้าเองก็มากินเถอะ”นางเช็ดมืออย่างเป็นธรรมชาติ ที่เอวยังผูกผ้ากันเปื้อน เห็นได้ชัดว่าเพิ่งออกจากห้องครัว“มีน้ำใจแล้ว”กู้หว่านเยว่พยักหน้าให้นาง หลี่หรงหรงยิ้มขมปร่าพูดว่า“ยุ่งสักหน่อยก็ดี ไม่คิดเรื่องฟุ้งซ่านยิ่งไปกว่านั้นข้ารับปากว่าจะติดตามข้างกายเจ้าแล้ว ตราบใดที่ข้ายังเป็นคนของเจ้า ปรนนิบัติเจ้าก็เป็นเรื่องสมควรทำ”หลี่หรงหรงพูดไปก็มองทางซูจิ่งสิง “ท่านอ๋องเองก็มากินสักหน่อยเถอะ”“อืม”ซูจิ่งสิงพยักหน้าอย่างเย็นชานอกจากปฏิบัติต่อกู้หว่านเยว่แล้ว ยามอยู่ภายนอกแต่ไหนแต่ไรมาเขาก็มีท่าทางเย็นชาเช่นนี้ แม้ว่าหลี่หรงหรงติดตามพวกเขาได้ไม่กี่วัน แต่ก็มองเห็นจนคุ้นชินแล้ว“เช่นนั้นข้าออกไปก่อนล่ะ”หลี่หรงหรงพูดอย่างประหม่ากู้หว่านเยว่ให้คนเรียกเนี่ยชิงหลานมา เห็นได้ชัดว่านางร้องไห้มาก่อน ดวงตาบวมเปล่งคล้ายวอลนัท“พี่หญิงกู้ ให้ท่านเห็นเรื่องตลกแล้ว”เนี่ยชิงหลานเก้อกระดากอยู่บ้าง นางเองก็ไม่อยากร้อ
“ทุกท่านรีบนั่งเร็วเข้า เหตุใดจี้หยกของลูกสาวคนเล็กนี้อยู่ในมือของพวกท่านได้?”นายท่านถังให้คนรินชาให้พวกเขา ขณะเดียวกันก็เอ่ยถามอย่างแปลกใจจี้หยกนี้เป็นสมบัติสืบทอดในตระกูลของพวกเขาสกุลถัง ภายใต้สถานการณ์ทั่วไป ถังหว่านไม่มีวันยอมยกให้ผู้อื่น เขากังวลลูกสาวจะเกิดปัญหาซูจิ่งสิงเห็นว่าเรื่องผ่านไปแล้ว ก็ไม่คิดปิดบังนายท่านถังและเล่าเรื่องเมื่อหลายวันก่อนหัวหน้าหมู่บ้านห้าถูกคนหมู่บ้านทะเลทรายทมิฬลักพาตัวไป อธิบายออกมาหนึ่งรอบ“พวกเราช่วยหัวหน้าหมู่บ้านห้าออกมา เย่ฮูหยินทำเพื่อตอบแทนพวกเรา มอบจี้หยกนี้ให้ข้ามิหนำซ้ำยังพูดว่าหากมาถึงอินซาน มีเรื่องจำเป็น สามารถขอความช่วยเหลือจากเจ้าบ้านสกุลถังได้”แม้ว่าซูจิ่งสิงไว้เคราครึ้ม ปกปิดใบหน้าส่วนใหญ่เอาไว้ แต่นายท่านถังมองเห็นความจริงใจของดวงตาคู่นั้น ก็รู้ว่าเขาไม่ได้โกหก“เรื่องใหญ่ถึงเพียงนี้ หว่านเอ๋อร์ถึงขั้นไม่บอกกล่าวครอบครัว”สกุลถังเองก็เคยได้ยินเรื่องหมู่บ้านทะเลทรายทมิฬมาก่อน นั่นเป็นกลุ่มคนรับมือได้ยากยิ่ง พวกเขากลัวลูกสาวได้รับความลำบาก“เย่ฮูหยินพูดว่าทั้งสองท่านอายุมากแล้ว ดังนั้นจึงไม่อยากทำให้ทั้งสองท่านตกใจ นี่ก็คื
“ไม่ทราบพวกเจ้ามีนามว่าอะไร?”ซูจิ่งสิงกล่าวอธิบาย “ข้าแซ่ซู ส่วนข้างกายของข้าคือภรรยาของข้า ด้านหลังคือผู้ติดตาม”ถังหมิงรุ่ยรีบยกมือคารวะ และกล่าวกับสองสามีภรรยาด้วยความตื่นเต้นว่า“ขอบคุณพวกท่านที่ช่วยเหลือน้องสาวและพี่เขยของข้า บุญคุณชีวิตยากจะทดแทน หากมีอะไรที่พอจะให้สกุลถังช่วยได้ ขอแค่รับสั่งมา ไม่ต้องเกรงใจ”กู้หว่านเยว่คลี่ยิ้มเล็กน้อย “บังเอิญยิ่งนัก ที่เรามาหาครั้งนี้ ก็เพื่อมาขอให้สกุลถังช่วยเหลือพอดี”ถังหมิงรุ่ยใคร่สงสัย ฮูหยินผู้เฒ่าถังรีบเข้ามาลากตัวของเขารุดขึ้นหน้า“คนเหล่านี้อยากเข้าร่วมงานประมูลของตลาดมืด คืนนี้เจ้าก็พาพวกเขาไปสิ”“ท่านแม่วางใจ ลูกเข้าใจแล้ว”เขากล่าวอย่างกระตือรือร้น “พวกท่านต่างเดินทางมาจากแดนไกล หนทางนี้คงทำให้พวกท่านเหน็ดเหนื่อยมิน้อย งานประมูลจะเริ่มในเวลากลางคืน ไม่สู้กลางวันพวกเจ้าพักผ่อนอยู่ในจวนก่อน ข้าจะให้คนเตรียมงานเลี้ยง คอยต้อนรับพวกเจ้าอย่างดี”ใคร ๆ ก็ดูออกว่าถังหมิงรุ่ยเป็นคนชอบต้อนรับแขกมากนายท่านถังและฮูหยินผู้เฒ่าถังพยักหน้าพร้อมกันด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม“พูดถูก งานประมูลจะเริ่มงานในช่วงกลางคืน ไม่สู้พวกท่านพักผ่อนในจวนไป
“เจ้าไปเถอะ”สีหน้าของนายท่านถังเองก็เป็นกังวล ครรภ์นี้ของอวี้เอ๋อร์อันตรายยิ่งนัก“ท่านทั้งหลาย ไม่สู้ข้าพาพวกท่านไปเดินเล่นในฟาร์มสัตว์สักรอบดีกว่า”นายท่านถังตั้งใจต้อนรับพวกเขาอย่างดี กู้หว่านเยว่นึกขึ้นได้ว่ายังเหลือเวลาอีกช่วงหนึ่งก่อนจะงานประมูลจะเริ่ม ไม่สู้ไปสัมผัสกับบรรยากาศของทุ่งหญ้าในฟาร์มสักหน่อย“ไป ๆ!”เนี่ยชิงหลานอดพูดไม่ได้ หลี่หรงหรงหยิกนางเบา ๆ กู้หว่านเยว่คลี่ยิ้มกว้าง “ข้าน้อยไม่เคยเห็นฟาร์มมาก่อน ตื่นเต้นยิ่งนัก”“ไม่เป็นไร ๆ”นายท่านถังยิ้มและกวักมือเรียกพ่อบ้านเข้ามา จากนั้นก็ให้เขาพาคนเหล่านั้นไปฟาร์มสัตว์เนี่ยชิงหลานกล่าวเสียงต่ำ “อวี้ฮูหยินผู้นั้นเป็นใคร เป็นภรรยาของคุณชายใหญ่สกุลถังใช่หรือไม่ ฟังดูแล้วท่าทางนางน่าจะอาการหนัก พี่หญิงกู้อยากไปดูอาการนางสักหน่อยหรือไม่?”“หมอไม่ควรไปหากไร้คำเชิญ”กู้หว่านเยว่กล่าวเพียงประโยคเดียว ทารกในครรภ์วัย 5 เดือนกลับมีเลือดออกโดยไม่ทราบสาเหตุขณะนอนอยู่บนเตียง เห็นได้ชัดว่ามีสัญญาณของการแท้งครั้นได้ยินคำอธิบายของสาวใช้ เห็นได้ชัดว่าเด็กในครรภ์ไม่รอดแล้วดังนั้นในตอนที่กู้หว่านเยว่ได้ยินเรื่องนี้เมื่อครู่
ตกลงปีนั้นรัชทายาทตายเยี่ยงไรกันแน่?เขารู้ดียิ่งกว่าผู้ใดหากไม่ใช่รัชทายาทและพระชายารัชทายาทตายไป ไฉนเลยเขาจะได้นั่งตำแหน่งฮ่องเต้?ทว่าบัดนี้ เขาคิดว่าตำแหน่งฮ่องเต้กำลังตกอยู่ในอันตราย“ไป จับคนสกุลหลี่เข้าคุกใหญ่!”มู่หรงถิงไม่ฟังคำชี้แนะจากนั้นยามทุกคนมายังสกุลหลี่ กลับพบว่าสกุลหลี่มีเพียงความว่างเปล่า เหลือบ่าวรับใช้ที่ไม่เกี่ยวข้องอยู่สองสามคนกำลังใช้วิธีพรางตา“ภายในหอบรรพบุรุษสกุลหลี่ พบเส้นทางสายหนึ่ง...”องครักษ์ไปจับคนตัวสั่นเทานี่คือเคราะห์ซ้ำกรรมซัดเดิมทีมู่หรงถิงก็โมโหอยู่แล้ว ต้องการใครสักคนเพื่อบันดาลโทสะ คิดไม่ถึงเลยว่าจะหาตัวคนรองรับอารมณ์ไม่พบ ยังถูกเขาจับได้ว่าคนของสกุลหลี่หนีไปแล้วเขาพลิกโต๊ะ กระทืบองครักษ์ไปจับตัวคนจนตาย“ฝ่าบาท” ตอนฮองเฮามา ภายในตำหนักวุ่นวายไปหมด แม้แต่นางกำลังก็ถูกมู่หรงถิงบีบคอตายไปสองคนฮองเฮาอดทนต่อความขยะแขยง สั่งให้คนลากศพไปจัดการ“เจ้ามาแล้ว”ตอนมู่หรงถิงอยู่เพียงลำพังจะบันดาลโทสะเยี่ยงไรก็ย่อมได้ แต่เขากลัวทำให้ฮองเฮาตกใจ“เพคะ ฝ่าบาท หม่อมฉันได้ยินเรื่องของอัครมหาเสนาบดีหลี่แล้ว”ฮองเฮาก้าวเท้าเบาๆ มาหยุดต่อหน้ามู
สายตากู้หว่านเยว่ทอดมองมา กู้หว่านหรูและญาติผู้พี่นางรู้สึกกลัวจนกอดกัน“เจ้า เจ้าจะทำอันใด?”กู้หว่านหรูกลืนน้ำลายหนึ่งอึก เอ่ยปากเสียงสั่น“ต่อให้เจ้าเป็นพระชายา ก็ไม่สามารถเมินข้ามกฎหมายได้ เจ้าไม่กลัวคนในใต้หล้าบริภาษเจ้าหรือ?”กู้หว่านเยว่หัวเราะพรืด“บริภาษ?” นางส่ายหน้า หนังสือประวัติศาสตร์ล้วนถูกเขียนโดยผู้ชนะยังต้องกลัวคำนินทาทั่วหล้าด้วยหรือ?“โยนพวกเขาสองคนออกจากซุ่ยโจว” กู้หว่านเยว่โบกมือเรียกคนเข้ามาสองคนนี้เป็นหวัด ถูกโยนออกไป ก็เพียงพอให้พวกเขาทรมาน“ญาติผู้น้อง” อวี๋เสียงลนลาน เขย่ามือของกู้หว่านหรู“นี่ไม่ใช่พี่สาวของเจ้าหรือ รีบไปขอร้องนางเร็วเข้า”ยังมีระยะทางอีกห้าถึงหกวันกว่าจะถึงบ้านเกิด พวกเขาต้องอยู่ภายในซุ่ยโจว รีบรักษาอาการป่วยให้หายดี“ข้าจะขอร้องนางเยี่ยงไร?”กู้หว่านหรูแค้นใจแย่แล้ว“นางไม่มีวันฟัง”“เจ้ารีบคิดหาทางเถอะ” สุ้มเสียงของอวี๋เสียงเจือไอโทสะสายหนึ่งอย่างสุดระงับ ทำเสียจนกู้หว่านหรูเหล่มอง“ท่านกำลังโทษข้าหรือ?”นางและกู้หว่านเยว่มีความแค้นต่อกันอย่างลึกซึ้ง ตอนอยู่ในจวนก็มักรังแกนาง จะสามารถมีวิธีใดได้เล่า?“หว่านหรู ข้าไม่ได้
แต่ต้วนหลานซิวจากไปอย่างไม่ไว้หน้าไป๋หลี่ชิงซีถอนหายใจอย่างเอือมระอา ทำได้เพียงกลับไปหากู้หว่านเยว่และซูจิ่งสสิงปรากฏว่าคนเพิ่งไป ก็มองเห็นเกาเจี้ยนวิ่งเข้ามาจากภายนอก พูดว่าลั่วยางที่อยู่ข้างหน้าเจอคนไข้ที่ไม่แน่ใจอาการป่วย ขอเชิญกู้หว่านเยว่ไปวินิจฉัยกู้หว่านเยว่ยังนั่งได้ไม่นานก็รีบไปที่ด้านหน้าแล้ว“มีอันใดหรือ?”ตอนปรากฏตัวออกมาก็ได้เห็นสีหน้าว้าวุ่นของลั่วยาง กู้หว่านเยว่แปลกใจอยู่บ้างโรคอะไรกัน สามารถทำให้ว้าวุ่นถึงเพียงนี้ได้?“เหตุใดสีหน้าแย่มากถึงเพียงนี้?”“มีคนป่วยมาคนหนึ่งเจ้าค่ะ” ลั่วยางลอบชำเลืองมองสีหน้าของกู้หว่านเยว่ จากนั้นพูดเสียงค่อย“ข้าเองก็ไม่แน่ใจฐานะของนาง แต่เห็นแล้วคุ้นตาอยู่บ้าง ท่านมาดูกับข้าก็จะรู้”พูดไปก็เดินนำทางกู้หว่านเยว่ได้ยินเสียงคุ้นหูจากที่ไกลๆ“ไม่ใช่พูดว่าจะดูอาการให้ข้าหรือ เหตุใดพาข้ามาไว้ที่นี่ หมอหญิงของพวกเจ้าเล่า? เหตุใดเข้าไปแล้ว?”คนผู้นั้นโวยวาย เสียงคุ้นหูทำให้กู้หว่านเยว่ขมวดคิ้วน้อยๆไม่ใช่นางหรอกกระมัง? ไม่ถูกนี่ เหตุใดนางมาอยู่ที่นี่ได้?กู้หว่านเยว่ก้าวเท้าเร็วขึ้นสองส่วน เดินขึ้นไปก็ได้เห็นโฉมหน้าของคนผู้นั้
เขาทอดสายตามองกู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงด้วยใบหน้าจริงใจ“ทั้งสองท่านช้าก่อน ข้ามีเรื่องอยากพูดกับพวกท่าน”กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงได้ยินว่าต้วนหลานซิวมีเรื่องอยากพูด นี่จึงมิได้จากไปในทันที แต่เลือกนั่งลงฟัง ดูว่าเขาอยากพูดเรื่องใดทั้งสองคนกลับแปลกใจมาก“ระหว่างทางที่ข้ามาได้เห็นพระชายาแจกจ่ายยาภายในเมือง” ต้วนหลานซิวเอ่ยปากถามกู้หว่านเยว่พยักหน้า“ราษฎรของซุ่ยโจวเป็นไข้หวัด เพราะสถานการณ์บ้านเมืองไม่สู้ดี จึงไม่มียารักษา”ต้วนหลานซิวประกบมือพูดยิ้มๆ “ไอหยา นี่บังเอิญยิ่งนัก ข้าที่นี่มีสมุนไพรหนึ่งชุดพอดี”เขาพูดยิ้มๆ“หากท่านอ๋องและพระชายาไม่รังเกียจ ข้าน้อยยินดีบริจาคสมุนไพรชุดนี้เพื่อแจกจ่ายให้แก่ราษฎรเมืองซุ่ยโจว”ถือว่าเขาจ่ายค่าหมอให้กู้หว่านเยว่ก็แล้วกัน“ในมือท่านมีสมุนไพร?”กู้หว่านเยว่ตกตะลึง คิดไม่ถึงเลยว่าตนเองลงมือช่วยเหลืออย่างไม่ใส่ใจ ถึงขั้นสามารถช่วยพ่อค้าขายส่งสมุนไพรอีกด้วย?นี่คือประโยชน์สุขของราษฎรเมืองซุ่ยโจว นางย่อมไม่ปฏิเสธ“ใช่แล้ว ในมือข้ามียาสมุนไพรหนึ่งชุด”ไป๋หลี่ชิงซีอธิบายอยู่ทางด้านข้าง “พวกท่านไม่รู้ สตรีที่อาจารย์อาเล็กของข้าชอบเป็นคนบ้
“นี่ท่านถูกพิษกระนั้นหรือ?”กู้หว่านเยว่เอียงศีรษะจับชีพจรให้เขา จับชีพจรอย่างละเอียดอยู่นาน ถึงพูดออกมาอย่างแปลกใจ“พิษนี้แปลกยิ่งนัก”“อย่างไรหรือ?” ไป๋หลี่ชิงซีเอ่ยถามอย่างอดไม่ได้ เสียดายเขามีใบหน้าหล่อเหลา แต่กลับเป็นคนพูดมากคนหนึ่ง“ยาพิษนี้มองดูแล้ววางยาได้ยุ่งยากอย่างมาก จะถอนพิษกลับยุ่งยากยิ่งกว่า แต่แปลกก็แปลกที่พิษนี้ไม่ส่งผลร้ายต่อร่างกายคน พิษน้อยมาก เพียงแต่ยากจะถอนออกได้”ดังนั้นบัดนี้มองท่าทางของต้วนหลานซิวดูแล้ว ยังมีชีวิตชีวา ไม่คล้ายคนถูกวางยาพิษ“ฟังท่านพูดแล้วคล้ายเป็นเช่นนี้จริงเสียด้วย”ไป๋หลี่ชิงซีเองก็ไม่โง่คนทั่วไปวางยาผู้อื่น บ้างก็เพื่อฆ่าคนผู้นั้นให้ตายคาที่ บ้างก็ต้องการใช้พิษควบคุมเขาฝ่ายแรกออกฤทธิ์เร็ว พิษร้ายแรงมาก ไม่ถึงหนึ่งชั่วยามก็สามารถทำให้พิษกำเริบจนเลือดออกทวารทั้งเจ็ดและตายไปฝ่ายหลังเล่า แม้ว่าไม่ถึงแก่ชีวิต แต่หากพิษกำเริบก็ทำให้คนเจ็บปวดทรมาน หาไม่แล้วจะสามารถควบคุมคนผู้นั้นได้เยี่ยงไร?ทว่ายาพิษภายในร่างกายของต้วนหลานซิวแปลกมากไม่เพียงไม่มีพิษ หนำซ้ำยังทำร้ายร่างกายน้อยมาก เพียงแต่ยากจะถอนพิษได้ก็เท่านั้น“อาจารย์อาเล็ก ท่าน
ซูจิ่งสิงใคร่ครวญครู่หนึ่ง กลับมิได้เอาแต่ใจเกินไป ฟังความเห็นของกู้หว่านเยว่เรื่องของลูกชายลูกสาวคือวาสนาไม่อาจฝืนได้เขามอบสำเนาคำสารภาพให้ฉู่เฟิง ออกคำสั่ง“ประกาศออกไป”“พ่ะย่ะค่ะ” ฉู่เฟิงรับของไป บังเอิญไป๋หลี่ชิงซีเดินเข้ามาจากภายนอกพอดี“อาจารย์อาเล็กของข้ามาแล้วขอรับ”ยามกู้หว่านเยว่อยู่ที่เมืองเหยาก็ให้เขาเดินทางมาแล้วคิดไม่ถึงระหว่างเดินทางจะได้เผชิญหน้ากับแผ่นดินไหว เสียเวลาไปหลายวันดังนั้นจึงเปลี่ยนเส้นทางมายังซุ่ยโจว ทุกคนมารวมตัวกันที่ซุ่ยโจว“ท่านรีบพาเขาเข้ามาเร็วเข้า”บัดนี้กู้หว่านเยว่มีเวลาว่าง ไม่มีธุระอะไร ผ่านไปอีกครู่ก็ไม่แน่แล้ว ลั่วยางสามารถมาหานางได้ทุกเมื่อ“ได้”ไป๋หลี่ชิงซีหันหลังกลับ พาอาจารย์อาเล็กเข้ามา“ท่านอาจารย์อาเล็กรีบเข้ามาเถอะเจ้าค่ะ”กู้หว่านเยว่เคยพบอาจารย์ของไป๋หลี่ชิงซีมาก่อน มีภาพของอาจารย์อาเล็กอยู่ภายในใจ คาดว่าน่าจะเหมือนกับอดีตเจ้าสำนักผู้ล่วงลับ ไว้เคราสีเทาและมีสีหน้าขรึมเคร่งตลอดเวลาคิดไม่ถึง ไป๋หลี่ชิงซีจะพาท่านอาผู้หล่อเหลาอายุราวสามสิบเข้ามาคนหนึ่ง“ข้าต้วนหลานซิว คารวะท่านอ๋องและพระชายา”ท่านอาผู้หล่อเหลาหรื
“ใช่แล้ว”ซูจิ่งสิงพยักหน้า กอดกู้หว่านเยว่พลางอธิบาย“ภายในมือของเว่ยเฉิงมีจุดอ่อนของหลี่กวงถิง เขาเพียงเข้าคุกและพูดกับเขาสองสามประโยค ก็ทำให้หลี่กวงถิงตกใจหน้าถอดสีแล้ว เปลี่ยนคำพูดยอมเขียนคำสารภาพ”เว่ยเฉิงคนนี้ช่างมีความสามารถโดยแท้ตรงข้ามกันร้ายกาจกว่าในต้นฉบับมาก“เจียงหรงใกล้คลอดแล้ว”ซูจิ่งสิงกอดกู้หว่านเยว่ สุ้มเสียงนุ่มนวลอยู่บ้าง“เว่ยเฉิงเองก็เหมือนข้า เป็นคนหลงภรรยาคนหนึ่ง เมื่อหนึ่งเดือนก่อนเขาเองก็เขียนจดหมายให้ข้าพูดว่าหลังกลับจากเขตซีเป่ยจะขออยู่เป็นเพื่อนยามเจียงหรงคลอด ข้าอนุญาตแล้ว”กู้หว่านเยว่พยักหน้าในต้นฉบับ เดิมทีเว่ยเฉิงและเจียงหรงก็รักกันอย่างลึกซึ้งยิ่งไม่ต้องพูดถึงจุดจบอันแสนโหดร้ายของเจียงหรงในตอนท้ายหากเว่ยเฉิงฝันถึงอดีต ได้เห็นจุดจบของเจียงหรงในต้นฉบับ เช่นนั้นสำหรับภรรยาของเขาคนนี้ เขาจะต้องรักและให้ความสำคัญมากยิ่งกว่าตอนแรกแน่“เช่นนี้ก็ดีเหมือนกัน ผู้หญิงคลอดลูกคือต้องผ่านประตูวิญญาณมาหนึ่งรอบ มีสามีของตนอยู่ข้างกาย นี่ก็เป็นเรื่องดีต่อเจียงหรง”กู้หว่านเยว่ไม่พูดอะไรซูจิ่งสิงได้ยินแล้วกลับดีใจต้องผ่านประตูวิญญาณมาหนึ่งรอบ เขา
“นี่หมายความว่ากระไร?”เฉิงทั่วงุนงง ไม่อาจตอบสนองในทันทีเลยได้“เทพเจ้าเห็นราษฎรน่าสงสารจึงประทานยาให้”กู้หว่านเยว่พูดทิ้งท้ายอย่างลึกลับไว้หนึ่งประโยค จูงซูจิ่งสิงหันหลังจากไป อย่างไรเสียเฉิงทั่วก็ไม่สามารถถามจนถึงที่สุดได้“แม่ทัพเฉิง อย่าลืมลงไปรับโทษยี่สิบไม้ทหารเล่า”ก่อนจากไป ซูจิ่งสิงเอ่ยเตือน“ข้าน้อยจะไปเดี๋ยวนี้เลย!”ขอเพียงราษฎรเมืองซุ่ยโจวได้รับความช่วยเหลือ ยังไม่ต้องพูดถึงยี่สิบไม้ทหาร ต่อให้เป็นห้าสิบไม้เขาก็ยอมเฉิงทั่วลงไปอย่างมีความสุขถูกตี เขากลับยังมีความสุขมาก“น้องหญิง มีข่าวด่วนส่งมา”ซูจิ่งสิงรับจดหมายบนขาของนกพิราบทองคำ หลังอ่านแล้วก็เผยสีหน้าตื่นเต้นออกมาอย่างกะทันหัน“เกิดอันใดขึ้นหรือเจ้าคะ?”กู้หว่านเยว่เดินเข้าไปหยุดข้างกายเขา ซูจิ่งสิงรีบส่งจดหมายให้นาง“เจ้าอ่านดู!”นางก้มหน้าอ่าน ใบหน้าเผยแววตกตะลึงระคนดีใจ“หลี่กวงถิงยอมออกหน้าอธิบายแล้ว ดีเหลือเกิน”นับตั้งแต่กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงจับตาเฒ่าหลี่กวงถิงคนนี้เป็นเชลยแล้ว ก็ขังเขาไว้ในคุกใหญ่อยู่ตลอด รอเขาเขียนคำสารภาพตาเฒ่าคนนี้ไม่ยอมแพ้มาโดยตลอดคิดไม่ถึงเลยว่าจะคิดตกแล้ว“ท่านพ
แม้ว่าภายในมิติของนางจะมีแปลงสมุนไพร แต่ภายในแปลงสมุนไพรล้วนปลูกสมุนไพรหายาก ไม่มีสมุนไพรรักษาโรคไข้รากสาดน้อยธรรมดาดังนั้น สมุนไพรเหล่านี้ล้วนเป็นกู้หว่านเยว่ซื้อจากแพลตฟอร์มซื้อขายการแจกจ่ายยาเริ่มขึ้นอย่างว่องไวเหล่าราษฎรขยับขึ้นมาทีละคน ขบวนคนเริ่มขยับอย่างเชื่องช้า“พี่หญิงหว่านเยว่ ท่านไปพักผ่อนก่อนเถอะ”ลั่วยางเข้ามาเตือนนางหนึ่งประโยค เอ่ยปากอย่างห่วงใย“ข้าบอกกับหมอเหล่านั้นแล้ว หากพวกเขาไม่แน่ใจโรค ค่อยมาถามข้าเจ้าค่ะ”นางอธิบาย“หากข้าเองก็หมดหนทาง ค่อยให้คนเข้าไปหาท่าน”กู้หว่านเยว่พยักหน้า “เช่นนี้ก็ดีเหมือนกัน”เกาเจี้ยนสบมองลั่วยางอย่างสงสาร “ยางเอ๋อร์ เจ้าต้องเหนื่อยแล้ว”แม้พูดว่าด้านหน้ายังมีหมอตรวจอาการก่อนแต่คนมากถึงเพียงนี้ ย่อมมีหมอที่รักษาไม่ได้รวมเข้าด้วยกัน ก็เพียงพอให้ลั่วยางยุ่ง“ข้าไม่เป็นไร สามารถรักษาราษฎรได้ ช่วยได้หนึ่งชีวิตก็คือหนึ่งชีวิต”ลั่วยางหยิบธงหนึ่งผืนออกมา สองสามคนมองดู ได้เห็นตัวอักษรคำว่าหุบเขาราชาโอสถสามคำบนนั้น“ข้ารับปากท่านอาจารย์ไว้แล้ว จะต้องหาโอกาสประกาศเรื่องหุบเขาราชาโอสถดีๆบังเอิญจะได้ฉวยโอกาสนี้ประกาศให้ราษฎ