แชร์

บทที่ 64

ผู้เขียน: เย่ชิงขวง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-17 10:52:24
กู้ชูหน่วนเงี่ยหูฟัง ยังพอได้ยินบทสนทนาของพวกเขาบ้าง

"อัครเสนาบดีกู้ ท่านสอนลูกสาวเก่งยิ่งนัก ลูกสาวเก่งกาจทั้งสามคน ได้เรียนที่สำนักบัณฑิตหลวงกันหมด คุณหนูสามกับคุณหนูห้ายิ่งแล้วใหญ่ น่านับถือเสียจริง"

คำพูดเย้ยหยันนี้ ทำเอาอัครเสนาบดีกู้ไฟสุมทรวง ทว่าใบหน้ายังคงยิ้มแย้ม "ชมกันเกินไป"

"ดูสิ ข้าถึงได้บอกว่าลูกสาวของอัครเสนาบดีกู้น่ะ ไม่ว่าคนไหนเดินไปที่ใดก็มีแต่คนจับจ้อง พวกเจ้าไม่เชื่อหรือ" ขุนนางคนนั้นเอ่ยยั่วยุ

อัครเสนาบดีกู้ระงับไฟโกรธที่โหมกระหน่ำในอก

เขาไม่ได้ตาบอดเสียหน่อย คนจากสำนักบัณฑิตหลวงที่นั่งตรงข้ามต่างเหยียดหยามกู้ชูหลัน เขาจะไม่เห็นได้อย่างไร

เขาเดือดดาล

เกิดเรื่องเช่นนี้ แต่กู้ชูหลันกลับยังมีหน้าปรากฏตัวในงานประลองศิลปะประลองศิลปะ

ที่ทำให้เขาเดือดยิ่งกว่าก็คือ ไม่รู้ว่าใครมันปากพล่อย เที่ยวพูดไปทั่วว่าหลันเอ๋อร์เสียบริสุทธิ์ ทำเอาจวนอัครเสนาบดีอับอายขายขี้หน้า เขาก็กลายเป็นตัวตลกให้เหล่าขุนนางหัวเราะเยาะ

ยิ่งพบเจอกับคำพูดส่อเสียดมากขึ้น อัครเสนาบดีกู้จึงเอ่ยเสียงขุ่น "อย่างน้อยลูกสาวข้าก็ได้เรียนที่สำนักบัณฑิตหลวง โดยเฉพาะลูกสาวคนที่สองของข้า ชื่อเสียงเป็นที่
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 65

    กู้ชูหน่วนกัดแอปเปิล มือหนึ่งยื่นออกไปค้ำกับที่นั่ง ขวางทางเดินเอาไว้"ช้าก่อน กงกง น้องห้าสะเทือนใจอย่างหนัก หัวสมองไม่ปกติสักเท่าไร นางไม่รู้ด้วยซ้ำตัวเองพูดอะไรอยู่ เหตุใดต้องถือโทษคนบ้าด้วยเล่า"เมื่อเห็นกู้ชูหน่วน ท่าทีของขันทีหม่าก็อ่อนน้อมลงมาก ก่อนจะยิ้มเอ่ย "ที่แท้ก็คุณหนูสามนี่เอง นางผู้นี้ทำลายชื่อเสียงคุณหนูสาม แต่ท่านกลับยังเมตตาคนคิดแค้น ช่างน่านับถือเสียจริง""พี่น้องตระกูลเดียวกัน ย่อมมีกระทบกระทั่งกันบ้าง ผ่านเป็นแล้วก็ให้ผ่านไป ขอกงกงโปรดละเว้นด้วยเถิด"ประโยคนั้นทำให้ภาพจำของกู้ชูหน่วนที่มีต่อขุนนางบู๊บุ๋นเปลี่ยนไปเป็นอย่างมากแม้คุณหนูสามจะไม่เอาถ่าน หน้าตาขี้เหร่ไปเสียหน่อย แต่อย่างน้อยก็จิตใจงดงามสองตาของขันทีหม่าล่อกแล่ก ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ เขาเอ่ยอย่างนอบน้อม "ในเมื่อคุณสามเอ่ยปากขอ เช่นนั้นก็ไว้ชีวิตนางก็แล้วกัน ใครก็ได้ พาตัวออกไป"ประโยคที่โบยให้ตายเมื่อครู่ ทำเอากู้ชูหลันเข่าทรุด ยามนี้ทำได้เพียงยอมให้องครักษ์ลากตัวออกไปนางรู้ว่าชีวิตของนาง จบเห่แล้วกู้ชูอวิ๋นฉลาดกว่านาง รู้ว่าหากโวยวายต่อไป คนตกที่นั่งลำบากรังแต่จะเป็นพวกนาง ทำได้เพียงกล้ำกลืนฝ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17
  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 66

    "จะว่าอย่างไรดีล่ะ" กู้ชูหน่วนจ้องเขาเซียวอวี่เชียนเอ่ยพึมพำ "แปลกนัก เหตุใดคนที่เชิญมาจากแคว้นจ้าว แคว้นฉู่ แคว้นหวาคราวนี้ ถึงได้เป็นนักปราชญ์ชื่อดังทั้งนั้น""หมายความว่าอย่างไร?"เซียวอวี่เชียนชี้ไปยังผู้คนบนที่นั่งทูต เอ่ยแนะนำทีละคน "เอาละ เจ้าดูนะ สามคนที่เชิญมาจากแคว้นจ้าว คนหนึ่งคือเซียนกวี คนทั้งแผ่นดินไม่มีใครไม่รู้จักเขา งานประลองศิลปะเมื่อสิบปีก่อน เขาคือคนที่เขาชนะชายหญิงใต้ฟ้านี้ ไม่เคยพ่ายแพ้ให้ผู้ใด อีกสองคนเป็นนักปราชญ์ชื่อดังของแคว้นจ้าว""แคว้นฉู่ คนหนึ่งคือเทพหมากล้อม อีกคนหนึ่งคือเจ้าสำนักแห่งสำนักบัณฑิตหลวงแคว้นฉู่ แล้วก็จอหงวนแคว้นฉู่ประจำปีนี้""แล้วก็แคว้นหวา แม่เจ้า สามคนนั้น ไม่ใช่จอหงวนสามปีล่าสุดของแคว้นหวาหรือ? แคว้นหวาก็หน้าไม่อายเสียจริง ส่งจอหงวนทั้งสามปีมาเสียอย่างนั้น"กู้ชูหน่วนหันไปมองทูตจากสามแคว้นที่กำลังทักทายกัน ดวงตาสุกใสนั้นฉายแววเย็นชาที่แทบมองไม่เห็นแค่งานประลองศิลปะ เหตุในต้องยกโขยงบัณฑิตมามากมายบานนี้งานประลองศิลปะปีนี้เกรงว่าจะมีอะไรไม่ชอบมาพากลเหล่าคนจากสำนักบัณฑิตหลวงที่อยู่ด้านหลังถกเถียงกัน"แปลกนัก งานประลองศิลปีก่อนหน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17
  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 67

    เฮือก...ทั้งงานมีแต่เสียงถอนหายใจตกตะลึงประสาทอันฉับไวของกู้ชูหน่วนสัมผัสได้ว่าร่างของเยี่ยเฟิงที่นั่งหลังตรงพลันแข็งทื่อ ลมหายใจไม่เป็นจังหวะในแววตาของทูตจากทั้งสามแคว้นแฝงไปด้วยความประหลาดใจแม้แต่เทพหมากล้อมและเซียนกวียังเลิกคิ้วเหล่าทูตแคว้นเย่ตกใจพากันเกลี้ยกล่อม "มิได้พ่ะย่ะค่ะฮ่องเต้ กระดิ่งภินวิญญาณเป็นสมบัติแห่งแคว้นเย่ที่สืบทอดกันมา แต่เดิมจะมอบให้ฮ่องเต้องค์ปัจจุบันเท่านั้น ของล้ำค่าเช่นนี้ จะมอบให้ผู้อื่นตามพระทัยไม่ได้นะพ่ะย่ะค่ะ""ขอพระองค์โปรดถอนราชโองการด้วยเถิด"กู้ชูหน่วนเข้าใจในทันใดคงเป็นเพราะทูตจากทั้งสามแคว้นรู้ก่อนหน้าว่าฮ่องเต้จะประทานกระดิ่งภินวิญญาณ ถึงได้ส่งยอดฝีมือมามากมายสินะกู้ชูหน่วนสะกิดมือเอ่ยถาม "เสี่ยวเชียนเชียน กระดิ่งภินวิญญาณคืออะไรรึ?""เหตุใดเจ้าถึงไม่รู้อะไรเลย? ว่ากันว่ากระดิ่งภินวิญญาณชุบชีวิตคนได้ ทั้งยังเพิ่มฝีมือการต่อสู้ ช่วยให้คนครองโลกได้ ว่ากันว่าฮ่องเต้ผู้ก่อตั้งแคว้นเย่ก็ใช้กระดิ่งภินวิญญาณนี้ถึงได้สร้างแผ่นดินแคว้นเย่ได้ ด้วยเหตุนี้กระดิ่งภินวิญญาณจึงเป็นสมบัติล้ำค่าแห่งแคว้นเย่ ตามประวัติจะส่งทอดให้แก่ฮ่องเต้เท่านั้น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17
  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 68

    กู้ชูหน่วนลูบคางไปมาเมื่อกี้อี้เฉินเฟยยิ้มให้เธอหรือ?ไม่รู้ว่าทำไม เธอถึงได้คิดว่าอี้เฉินเฟยตัดสินใจไม่เข้าแข่งขันก็เพราะเธอแต่ละคนจับฉลาก กู้ชูหน่วนเดินเข้าไปจับ เมื่อคลี่กระดาษออก กลับพบว่าบนนั้นไม่มีสิ่งใดเขียนอยู่ขันทีหม่าใบหน้ายิ้มแฉ่ง "คุณหนูสามกู้จับฉลากได้กระดาษเปล่า เข้าสู่การแข่งขันรอบที่สองโดยไม่ต้องแข่งรอบแรก"ทุกคนฮือฮา โดยเฉพาะเหล่าคนจากสำนักบัณฑิตหลวง"แม่เจ้า กู้ชูหน่วนอะไรจะดวงดีปานนั้น ก่อนหน้านี้ก็จับฉลากได้เข้ารอบชิง ตอนนี้ยังจับฉลากผ่านเข้ารอบสองโดยไม่ต้องแข่งรอบแรกอีก หรือว่าเมื่อวานนางจะไปจุดธูปไหว้พระจริงๆ?""สวรรค์เอ็นดูนางเกินไปแล้ว เหตุใดเรื่องดีๆ ถึงเกิดขึ้นแต่กับนาง""จับฉลากได้แล้วอย่างไรเล่า นางก็ยังเป็นคนไม่เอาไหนคนเดิมอยู่ดี เสียดายแทนคนอื่นเสียจริง ของดีต้องมาสูญค่า""เจ้าว่านางโกงหรือไม่?"กู้ชูหน่วนกลอกตามองบนแล้วกลับไปยังที่นั่งของตัวเองนางสาบานต่อฟ้าดินเลยว่าจับได้กระดาษเปล่าเพราะดวงล้วนๆ"การแข่งขันแบ่งออกเป็นฉิน หมากล้อม แต่งกลอน เขียนพู่กัน และวาดภาพ รวมทั้งหมดห้ารอบ ชนะสามในห้าถือว่าเป็นผู้ชนะ ขอเชิญทั้งสิบท่านประจำที่ บัดนี้ขอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17
  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 69

    "แม่หนู เจ้าช่างบ้าบิ่นนัก""ก็ประมาณนั้น""ฝ่าบาท คุณหนูสามกู้มาเพื่อสร้างความวุ่นวายโดยแท้ กระหม่อมขอพระองค์ทรงโปรดตัดสิทธิ์การแข่งขันประลองศิลปะของนางด้วยเถิดพะย่ะค่ะ" ขุนนางคนหนึ่งเอ่ย"เอ๊ะ ท่านพูดเกินไปหรือเปล่า เราเห็นคุณหนูสามกู้มั่นใจเสียปานนั้น ดูท่านางคงมีวิธีเอาชนะยอดฝีมือทั้งหลายได้ เวลาก็ล่วงเลยมามากแล้ว สู้ให้นางลองดูสักตั้งไม่ดีหรือ"หากเป็นคนมีปัญญาสักนิดคงฟังออกฮ่องเต้จงใจให้คุณหนูสามกู้ขายขี้หน้า ถึงได้ไม่ขัดขวางนาง แต่กลับส่งเสริมอีกต่างหาก ดูท่าแล้วฮ่องเต้คงไม่คิดจะไว้หน้าเทพสงครามสักเท่าไรกู้ชูหน่วนหัวเราะเสียงเย็น ยืดเอวบิดขี้เกียจ "เช่นนั้นพวกเจ้าก็มากันให้หมดเลย จะได้ไม่ต้องเสียเวลาข้า รีบหาผู้ชนะ ข้าจะได้กลับไปนอนให้เต็มอิ่ม"เจ๋ออ๋องสบถด่าอย่างดูแคลน "ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง""เหอะ เจ้าเก่งกาจปานนั้น เช่นนั้นก็บอกข้าทีว่าฟ้าสูงเพียงใด แผ่นดินหนาแค่ไหน"เจ้า...""หากเจ้าไม่รู้ก็หุบปากเงียบไปเสีย คิดว่าตัวเองเป็นองค์ชายแล้วสูงส่งนักหรือ ไม่เห็นหัวคนอื่น ก็แค่ชายชั่ววางอำนาจบาตรใหญ่ ""ฝ่าบาท กู้ชูหน่วนวาจาสามหาว กระหม่อมขอพระองค์ทรงลงโทษนางด้วย" เจ๋อ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17
  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 70

    ได้แต่เอ่ยเสียงตะกุกตะกัก "ใช่ขอรับ คุณชายอี้พูดถูก"ฮ่องเต้ลำพองใจ ราวกับเห็นภาพกู้ชูหน่วนแก้ผ้าวิ่งแล้วอย่างไรอย่างนั้นซ่างกวานฉู่จิบชาอย่างสำราญ ราวกับไม่สนใจกู้ชูหน่วนกับเจ๋ออ๋องแม้แต่นิดแต่อาจารย์สวีกลับยกมือทุบอก เอ่ยคำผรุสวาท "ต่อหน้าฝ่าบาทและเหล่าทูต คุณหนูสามกู้พูดจาโอ้อวดปานนั้น หากแพ้ขึ้นมาจะทำอย่างไร?"นางคือคู่หมั้นของเทพสงครามเชียวนะ เทพสงครามจะยอมให้คู่หมั้นของตัวเองวิ่งแก้ผ้ารอบสำนักบัณฑิตหรืออาจารย์สวีไม่กล้าแม้แต่จะคิดถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นเจ๋ออ๋องกัดฟันกรอด "ในเมื่อเจ้ารนหาที่ตายเอง เช่นนั้นข้าก็จะพนันกับเจ้า""เริ่มการแข่งขันได้..."ขันทีหม่ากลัวใจกู้ชูหน่วน แต่ละคำที่นางเอ่ยออกมาหาดีไม่ได้เลย ไม่รู้ว่าเจ๋ออ๋องโกรธเป็นฟืนเป็นไฟเพียงใดแล้ว จึงทำได้เพียงเปลี่ยนหัวข้อสนทนาเมื่อได้ยินว่าเริ่มการแข่งขันได้ ทุกคนก็จับพู่กันขึ้นพลางคิดว่าจะวาดสิ่งใดดีกู้ชูหน่วนส่งยิ้มให้เยี่ยเฟิง "เสี่ยวเฟิงเฟิง เช่นนั้น พวกเราก็มาเดิมกันสักตั้ง ดีไหม?"เมื่อได้ยินเสี่ยวเฟิงเฟิงสามพยางค์นั้น ฝ่ามือของเยี่ยเฟิงก็สั่นขึ้นมาโดยไร้สาเหตุปากสีระเรื่อของเขาขยับอ้า "ข้าไม่มีเงิน"

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17
  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 71

    หลิ่วเยว่สบตาอวี๋ฮุยวันนี้พี่ใหญ่อาการกำเริบหรือ? เขาจะสู้คุณชายอี้ได้อย่างไร?อาจารย์สวีเดือดดาล "ขุนไม่ขึ้น ขุนไม่ขึ้น อาจารย์ซ่างกวาน ท่านดูคุณหนูสามกู้... ปล่อยให้คนเช่นนี้อยู่ในสำนักบัณฑิต ชื่อเสียงร้อยปีของสำนักบัณฑิตมิป่นปี้เพราะนางหรือ? ไม่ได้ หลังงานประลองศิลปะจบลง ข้าจะขอให้เจ้าสำนักร้องต่อฝ่าบาท สั่งให้คุณหนูสามกู้ออกจากสำนักบัณฑิต""บางที นางอาจจะชนะจริงๆ ก็ได้""นางชนะอย่างนั้นหรือ? คนไม่เอาไหนเช่นนั้นน่ะนะ?"อาจารย์สวีไม่เชื่อเขาสอนหนังสือมาทั้งชีวิต แต่ไม่เคยสอนศิษย์โง่เง่าเช่นนี้มาก่อนเจ๋ออ๋องยิ่งดูแคลนนาง ฝ่ามือชะงักลง ก่อนจะวาดภาพต่อทุกคนคิดว่าอี้เฉินเฟยต้องเดือดดาลเป็นแน่ คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะยิ้มเอื้อนเอ่ย "คุณหนูถูกใจข้าน้อยอี้ เป็นเกียรติแก่ข้าน้อยอี้ ในเมื่อคุณหนูสามอยากเดิมพัน เช่นนั้นพวกเรามาเริ่มกันตานี้เลย""คุณชายอี้..." สองยอดฝีมือแคว้นจ้าว ฉางเจิน ฉางผิง ตื่นตกใจหากแพ้ขึ้นมา พวกเขาจะอธิบายกับคุณชายอี้อย่างไร"ไม่เป็นไร พวกเจ้าแข่งอย่างสบายใจเถิด แพ้ชนะเป็นเรื่องธรรมดา ต่อให้แพ้ก็มิต้องกังวล"อี้เฉินเฟยใจเย็นเกินไปหรือไม่?ทนฟังคำพูดเช่นนั้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17
  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 72

    "เอ่อ..."ขันทีหม่าตั้งตัวไม่ทันเซียวอวี่เชียนปาพัดในมือทิ้ง เอ่ยเสียงขุ่น "ยัยขี้เหร่ จะหมดเวลาหนึ่งก้านธูปแล้ว เจ้าช่วยตั้งใจหน่อยจะได้ไหม?""รู้แล้วน่า เร่งอยู่ได้"กู้ชูหน่วนโบกมือปัด ให้คนใช้ยกอาหารที่เหลือไปในงานนั้นนอกจากซ่างกวานฉู่และอี้เฉินเฟยแล้ว ไม่มีใครเชื่อว่ากู้ชูหน่วนจะชนะ เพราะธูปใกล้จะดับถึงก้านแล้ว ยอดฝีมือต่างวาดกันเสร็จแล้ว รอเพียงแค่กู้ชูหน่วนกู้ชูหน่วนยกพู่กันขึ้นอย่างอ้อยอิ่ง มองกระดาษมองแล้วมองอีก ราวกับลังเลว่าจะลงพู่กันตรงไหนดี ทำเอาเซียวอวี่เชียนร้อนใจจนนั่งไม่ติดที่เสียงหัวเราะดังไปทั่วงาน ประหนึ่งกำลังเยาะเย้ยกู้ชูหน่วนผ่านไปนาน กว่ากู้ชูหน่วนจะยกพู่กันขึ้น วาดดอกไม้ดอกหนึ่งลงบนกระดาษ ดอกโบตั๋นที่บานสะพรั่งดอกโบตั๋นดอกนั้นมิได้พิเศษแต่อย่างใด เรียกได้ว่าแสนธรรมดา เพียงแต่งามกว่าเมื่อเทียบกับตอนวาดหมากดำที่สำนักบัณฑิต"ประหลาดนัก เวลาสั้นๆ เพียงแค่คืนเดียว ฝีมือวาดภาพของกู้ชูหน่วนก้าวหน้าขึ้นเพียงนี้ ถึงกับวาดดอกโบตั๋นสีสันสวยงามได้เพียงนี้เชียว""ก้าวหน้าแล้วอย่างไรเล่า ก็แค่ดอกไม้ธรรมดาดอกหนึ่ง เจ้าคิดว่าจะมีประโยชน์อันใด? เลือกใครสักคนตรง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17

บทล่าสุด

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 144

    ก่อนที่เด็กหนุ่มจะตอบ กู้ชูหน่วนก็ลูบคางพลางเอ่ยอย่างใจเย็นว่า “ด้วยความสามารถของเจ้า เจ้าคงคิดว่าการตัดแขนขา ควักตา และตัดหูของข้าคงง่ายดายราวกับบี้มดตัวหนึ่งใช่หรือไม่? ถ้าเช่นนั้น ทำไมเจ้าถึงต้องลำบากเขาด้วย?”“หรือว่าเขามีเรื่องบาดหมางกับเจ้า เจ้าเลยเกลียดเขา? จุ จุ จุ ดูท่าทางของเขาสิ ช่างน่าสงสารเสียจริงๆ ข้าว่าคงไม่กล้าเป็นศัตรูกับเจ้าหรอก ให้ข้าเดานะ เจ้าคงอิจฉาเขามากกว่า อิจฉาที่เขามีหน้าตาหล่อเหลากว่าเจ้า หรืออาจอิจฉาที่เขาได้ดิบได้ดีในเผ่าหมอมากกว่าเจ้า เลยคิดแผนทรมานเขา”ทุกครั้งที่กู้ชูหน่วนพูดสีหน้าของเจียงซวี่ก็ยิ่งแย่ลงไปเรื่อยๆ แววตาที่โหดเหี้ยมก็ยิ่งรุนแรงขึ้น“ดูเหมือนข้าจะเดาถูกนะ” กู้ชูหน่วนมองเด็กหนุ่มราวกับสงสารเขา“ลองดูตัวเองสิ ติดตามนายอะไรเนี่ย กลับตัวกลับใจเถิด เจ้าปกป้องข้าจนโดนแทงมาขนาดนี้ ข้าจะดูแลเจ้าอย่างดี”เด็กหนุ่มไม่แม้แต่จะมองกู้ชูหน่วน แค่ยืนนิ่งอยู่ข้างๆเจียงซวี่หัวเราะลั่นทันที “เดาถูกแล้วจะอย่างไร ข้าแค่ต้องการเห็นเขาทรมาน เขาใจดีนักมิใช่หรือ ข้าอยากจะดูว่า เพื่อให้มีรอดชีวิต เขาจะยอมฆ่าเจ้าหรือไม่”“ข้าขอเดาเพิ่มนะ คงเป็นครั้งแรกที่เจ้

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 143

    กู้ชูหน่วนกะพริบตาอย่างไร้เดียงสา "เป็นพวกเจ้าเองที่พาข้าวิ่งมาตลอดทาง และมองข้าเป็นหญิงผู้อ่อนแอที่ไม่มีทางสู้ แล้วข้าจะไม่ตอบสนองความต้องการแบบผู้ชายเป็นใหญ่ของพวกเจ้าได้อย่างไร""…"เซียวอวี่เชียนโกรธจนตัวสั่นเด็กหนุ่มก็สีหน้าไม่สู้ดีมีดาบจำนวนมากขนาดนี้ หมายความว่าพวกเขาโดนฟันอย่างเปล่าประโยน์เมื่อเห็นว่ามีคนกลุ่มใหม่ล้อมพวกเขาเข้ามา กู้ชูหน่วนก็หรี่ตาลง มุมปากยกขึ้นยิ้มเยาะ "ตัวเอกมาแล้ว"ในขณะที่เซียวอวี่เชียนและเด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้น ทั้งคู่ก็แข็งทื่อดวงตาเย็นชาของเด็กหนุ่มหรี่ลงทันที หายใจหนักขึ้น ร่างกายสั่นเทาเล็กน้อยกู้ชูหน่วนมองออกเขากำลังกลัว กลัวคนกลุ่มนี้เซียวอวี่เชียนเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักอึ้ง "หน้ากากกะโหลก พวกเจ้าเป็นคนของสิบสองกองธงแห่งเผ่าหมอใช่หรือไม่?เผ่าหมอ?เหอะ โลกยุทธภพมีเผ่าหมอด้วยหรือ?กู้ชูหน่วนพิจารณาอีกฝ่ายอย่างละเอียดแต่กลับพบว่าอีกฝ่ายมีเพียงสามสิบหกคนเท่านั้น แต่ละคนถือธงบุปผา และสวมเสื้อคลุมสีดำ ใบหน้าปิดด้วยหน้ากากกะโหลกศีรษะหัวหน้าคือชายหนุ่มวัยยังน้อย ผู้ซึ่งไม่ได้สวมหน้ากาก ใบหน้าดูหล่อเหลา แต่แววตากลับเผยความโหดเหี้ยมเป็นระยะ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 142

    "ปัง..."เสียงสนั่นหวั่นไหวราวกับระเบิดกลางอากาศดังขึ้นอีกครั้งหญิงวัยกลางคนงถอยหลังไปหลายก้าว ใบหน้าซีดเผือก เด็กหนุ่มกระอักเลือดออกมาหนึ่งอึก อวัยวะภายในปั่นป่วนอย่างรุนแรง หากไม่เกาะผนังไว้ คงล้มลงไปแล้ว“เจ้ากล้าใช้การต่อสู้แบบแลกชีวิตมาสู้กับข้าอย่างนี้หรือ เจ้ารู้หรือไม่ว่า หากสู้กันต่อ ข้าอาจไม่ตาย แต่เจ้าต้องตายแน่”“แค่ชีวิตสกปรกโสโครก ตายไปก็ตายไป” เด็กหนุ่มพยายามกลืนเลือดที่ค้างอยู่ในคอลง ให้ตัวเองดูเป็นปกติมากที่สุดหญิงวัยกลางคนตะคอก “ตกลงนางกับเจ้าเป็นอะไรกันแน่?”“ไม่เป็นอะไรทั้งนั้น แค่ไม่อยากให้เจ้าได้กระดิ่งภินวิญญาณนั่น”“ดีมาก บัญชีนี้พวกข้าเจ็ดปีศาจแห่งเขาอินซานจะจดจำไว้ เจ้าจงรอรับการล้างแค้นอย่างบ้าคลั่งของพวกข้าได้เลย”หญิงวัยกลางคนเบิกตาจ้องกู้ชูหน่วนและเด็กหนุ่ม ดวงตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง สุดท้ายก็ไม่รู้ว่านึกถึงอะไรจึงจากไปด้วยความแค้นหลังนางจากไป เด็กหนุ่มก็รีบกุมหน้าอกแน่น กระอักเลือดออกมาอีกหนึ่งอึกใหญ่ ขาของเขาคุกเข่าลงไปโดยไม่รู้ตัว ราวกับกำลังแบกรับความเจ็บปวดอันแสนสาหัส"ไม่เป็นไรใช่หรือไม่"กู้ชูหน่วนทิ้งเมล็ดแตงโม แล้วเดินไปหาเขา"ปัง

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 141

    หญิงวัยกลางคนเดิมทีตั้งใจจะจัดการกับเด็กหนุ่มก่อน แล้วค่อยกลับมาจัดการกู้ชูหน่วน แต่ปรากฏว่าคำพูดของกู้ชูหน่วนฟังไม่เข้าหู นางจึงเปลี่ยนใจทันที"สาวน้อยปากดีนักนะ เอากระดิ่งภินวิญญาณมาให้ข้า ข้าอาจให้เจ้าตายอย่างสงบ แต่หากไม่ เจ้าจะจมกองเลือด""ข้าเป็นคนที่ใครก็มาข่มขู่ได้อย่างนั้นหรือ?" กู้ชูหน่วนเลิกคิ้วย้อนถาม"เหอะ เด็กน้อยผู้ไร้เดียงสา"หญิงวัยกลางคนส่งเสียงเหยียดหยาม นางเหยียบปลายเท้าเบาๆ แล้วปลดปล่อยหัตถ์โลหิตออกไปโจมตีกู้ชูหน่วนกู้ชูหน่วนพิงกำแพงไว้ กอดอก ยืนสงบนิ่ง ราวกับมั่นใจว่าเด็กหนุ่มต้องมาช่วยนางแน่ๆและก็เป็นอย่างที่นางคิด ขณะที่เด็กหนุ่มกำลังถูกเหล่านักฆ่าล้อมอยู่ เขาก็ยังสามารถเตะหม้อเหล็กจากร้านตีเหล็กไปขวางการโจมตีของหญิงวัยกลางคนได้ทันหม้อเหล็กสัมผัสกับหัตถ์โลหิตแล้วละลายทันทีแม้แต่เหล่านักฆ่าชุดดำก็ตกตะลึงพลังปีศาจโลหิตแข็งแกร่งมากสามารถละลายหม้อเหล็กได้ในพริบตา พลังภายในต้องแข็งแกร่งเพียงใดเด็กหนุ่มเบิกตากว้าง ไม่คาดคิดว่าพลังปีศาจโลหิตของหญิงวัยกลางคนจะร้ายกาจขนาดนี้ เขาอยากจะไปช่วยกู้ชูหน่วน แต่ถูกล้อมไว้ ชายแคระก็พุ่งเข้ามาโจมตีเขาไม่หยุด แทบอ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 140

    ชายแคระปากบอกว่าได้ แต่ดาบในมือกลับฟาดแรงขึ้นทุกที ร้องเสียงดังลั่นด้วยน้ำเสียงหยาบกร้าน“หนุ่มน้อย นางผู้นี้มีความสัมพันธ์อะไรกับเจ้าถึงได้ปกป้องนางด้วยชีวิตเช่นนี้?”เด็กหนุ่มไม่ตอบ เพียงแต่ตั้งสมาธิรับมือการต่อสู้แต่หญิงวัยกลางคนกลับหัวเราะคิกคักตอบว่า “เขาเป็นของข้า จะมีความเกี่ยวข้องอะไรกับยัยขี้เหร่เล่า มากสุดก็แค่อยากได้กระดิ่งภินวิญญาณเท่านั้น”“ของที่พวกข้าเจ็ดปีศาจแห่งเขาอินซานต้องการ เจ้าก็กล้าแย่ง? กล้ามากเลยนะ”"ปัง..."ดาบโจมตีไม่โดนเด็กหนุ่ม แต่กลับผ่ากำแพงดินหลังเด็กหนุ่มออกเป็นสองท่อน กำแพงดินที่แข็งแกร่งพังทลายลงจนเสียงดังกึกก้อง“เจ้าห้า หลังจากวันนี้ไป เขาอาจเป็นคนของพวกเราเจ็ดปีศาจแห่งเขาอินซาน เจ้าลงมือเบาหน่อย อย่าทำร้ายเขาจนพิการ”“รู้แล้ว รำคาญเสียจริง”กู้ชูหน่วนยืนอยู่ข้างๆ มองการต่อสู้ในสนามด้วยท่าทีผ่อนคลายชายแคระมีกำลังมาก มีพลังภายในแก่กล้า และลงมือด้วยกำลังอันป่าเถื่อน ส่วนเด็กหนุ่มกลับมีดวงตาเย็นชาและสงบนิ่ง มือเล็กยกขึ้นเบาๆ เสียงพิณกระทบกับดาบ ทุกครั้งที่พุ่งชนกัน ดาบราวกับวัวตกลงไปในทะเลโคลน อ่อนปวกเปียก ไม่ว่าจะฟาดอย่างไรก็ไม่โดนเด็กหนุ่

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 139

    กู้ชูหน่วนและเด็กหนุ่มชุดดำถูกกลุ่มคนล้อมไว้ พูดให้ถูกคือ กู้ชูหน่วนถูกพวกเขาล้อมไว้ แต่เนื่องจากเด็กหนุ่มยืนอยู่ข้างๆ นางจึงติดร่างแหไปด้วย พวกที่ล้อมพวกเขามีถึงหลายสิบคน ทุกคนสวมชุดดำปิดบังใบหน้า ถือเคียว และมีสายตาที่ไม่เป็นมิตรหัวหน้าคือชายแคระตัวเตี้ยกับหญิงวัยกลางคนผู้เย้ายวนหญิงวัยกลางคนผู้เย้ายวนส่งสายตามองเด็กหนุ่มอย่างเร้าร้อน "โอ้ หนุ่มน้อย แค่มองรูปร่างของเจ้า ข้าก็น้ำลายไหลแล้ว อยากจะให้เจ้าถอดหน้ากากออก แล้วให้ข้าได้ดูแลเจ้าดีหรือไม่""เจ็ดปีศาจแห่งเขาอินซาน" เด็กหนุ่มค่อยๆ เอ่ย"เจ้าตาดีไม่เบา พวกเราหลบซ่อนอยู่ในเขาอินซานมานานหลายปี ไม่คิดว่าจะมีใครจำพวกเราได้""แล้วอีกสองคนล่ะ""แค่พวกเจ้าสองคน ไม่จำเป็นต้องใช้พวกเราทั้งสี่คนหรอก" ชายแคระแบกดาบใหญ่ ดาบนั้นสูงกว่าตัวเขา ทำให้ดูไม่สมส่วนเขาเสียงดัง หน้าตาอัปลักษ์ ตาโปน ราวกับเป็นดวงตาของปลาตาย แต่ร่างกายของเขากลับเต็มไปด้วยพลังอำนาจที่น่าสะพรึงกลัวกู้ชูหน่วนพยายามค้นหาความทรงจำในสมองของนาง นางพอจะจำได้เลือนลางเจ็ดปีศาจแห่งเขาอินซานมีเจ็ดคน แต่ละคนวิทยายุทธเก่งกาจและโหดเหี้ยมมาก พวกเขาฆ่าคนเป็นว่าเล่น เมื่อหล

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 138

    กู้ชูหน่วนเดินมาหยุดอยู่หน้าร้านตีเหล็กกลางเมืองหลวง ริมฝีปากยกขึ้นยิ้มอย่างเกียจคร้านราวกับกำลังพูดกับตนเอง“คืนนี้มืดมิดเงียบสงบ ไม่มีใครอยู่รอบข้าง ใต้เท้าจะไม่ออกมา หรือว่าจะให้ข้าพากลับบ้านไปต้มหม้อไฟดี?”ในความมืดมิด ปรากฏเด็กหนุ่มสวมหน้ากากดำถือพิณเดินออกมาอย่างช้าๆ ร่างกายเปล่งประกายด้วยความเย็นชาเด็กหนุ่มวัยยังน้อย รูปร่างสูงโปร่งสมส่วน โดยเฉพาะชุดรัดรูปที่สวมใส่ ทำให้เห็นรูปร่างที่สมบูรณ์แบบของเขาอย่างชัดเจนหลังของเขาแบกพิณสีดำสนิท ดูสะดุดตาเป็นอย่างยิ่งท่ามกลางค่ำคืนอันมืดมืดออกมาเพื่อลอบสังหาร แล้วยังแบกพิณมาด้วย คนผู้นี้ช่างมีรสนิยมจริงๆกู้ชูหน่วนพิจารณาเขาอย่างละเอียด รู้สึกว่าดูคุ้นตานางกะพริบตาปริบๆ ยิ้มเอ่ยว่า “หนุ่มน้อย รูปร่างดีจริงๆ ไม่รู้ว่าหน้าตาจะหล่อเหลาแค่ไหน หากว่าหล่อจริง ข้าอาจจะยอมให้จีบก็ได้นะ”เด็กหนุ่มหน้าตายเอ่ยเพียงประโยคเดียวว่า “ข้าต้องการเพียงกระดิ่งภินวิญญาณ”“เช่นนั้นเจ้าบอกข้าทีว่า เจ้าต้องการกระดิ่งภินวิญญาณไปทำไม หรือจะตอบว่ากระดิ่งภินวิญญาณนี้มีอะไรซ่อนอยู่ก็ได้นะ หากคำตอบของเจ้าทำให้ข้าพอใจ ข้าจะมอบมันให้เจ้า”“ข้าต้องการเพียงแ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 137

    "ติ๊ง ติ๊ง ติ๊ง..."อาวุธลับฝังเข้าไปในผนัง ลึกเข้าไปในเนื้อไม้สามส่วน เซียวอวี่เชียนสะดุ้งจนคอหดอาวุธลับนี้ หากโดนคนเข้าล่ะก็ คงทะลุร่างแน่นอน"ใคร? ใครลอบโจมตี?" เซียวอวี่เชียนตะโกนลั่นสำนักบัณฑิตหลวงมียอดีมือคอยปกป้องจำนวนมากเช่นนี้ ยังมีคนแอบเข้ามาฆ่าคนได้อีกหรือ? ช่างจองหองเกินไปแล้วกู้ชูหน่วนขมวดคิ้ว กำกระดิ่งภินวิญญาณในมือแน่นโดยไม่รู้ตัวนางแสร้งทำเป็นผ่อนคลายและยิ้มเอ่ยว่า "ก็แค่พวกโจรขโมยชั้นต่ำ พวกเขาคงเห็นว่าข้าชนะการเดิมพันมามาก เลยเกิดความโลภน่ะ"เซียวอวี่เชียนแม้จะเจ้าสำราญไปบ้าง แต่เขาก็ไม่ได้โง่อาวุธลับสามสิบแปดเล่มนั้นมาพร้อมกับกระบวนท่าสังหาร ผู้มาเยือนไม่ได้คิดจะปล่อยให้ยัยขี้เหร่มีชีวิตอยู่และที่นี่คือสำนักบัณฑิตหลวงแม้ว่าโดยทั่วไปแล้วที่นี่จะดูไม่มีอะไรพิเศษ แต่ทุกคนก็รู้ดีว่า รอบๆ สำนักบัณฑิตหลวงมียอดฝีมือซ่อนตัวอยู่จำนวนมากเมื่อใดก็ตามที่มีคนคุกคามชีวิตนักเรียน เหล่าองครักษ์ลับก็จะออกมาปกป้องทันที"ยัยขี้เหร่ พวกโจรขโมยทั่วไปไม่มีวิทยายุทธตัวเบาที่เก่งกาจเพียงนี้หรอก ข้าว่าพวกเขาต้องการเอาชีวิตเจ้านะ""เอาชีวิตอะไรเล่า ข้าไม่ได้ล่วงเกินใครซัก

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 136

    ทุกคนต่างถือว่ากระดิ่งภินวิญญาณเป็นสิ่งล้ำค่า ไม่มีใครคิดจะทุบมัน แต่กู้ชูหน่วนกลับคิดนอกกรอบทุบไปหนึ่งทียังไม่แตกกู้ชูหน่วนจึงทุบซ้ำไปซ้ำมาหลายหน แต่ก็ยังไม่แตกจนสุดท้ายนางก็เหนื่อยหอบ"กระดิ่งอะไรเนี่ย แข็งมาก ทุบเท่าไหร่ก็ไม่แตกซักที"เมื่อการทุบกระดิ่งไม่ได้ผล กู้ชูหน่วนก็ลองใช้วิธีอื่นดู เผาด้วยไฟ ลวกด้วยน้ำ แช่ด้วยยา แต่ก็ไม่มีวิธีใดได้ผลกับกระดิ่งภินวิญญาณเลยสักวิธีเดียวไม่รู้ว่ากระดิ่งภินวิญญาณทำมาจากอะไร ถึงได้แข็งแกร่งทนทานขนาดนี้ ไม่ว่าจะใช้ดาบหรือหอกก็ทำอะไรไม่ได้แม้แต่หยกจันทร์เสี้ยว ไม่ว่าจะตรวจสอบอย่างไรก็หาคำตอบไม่ได้กู้ชูหน่วนเริ่มโมโห นางจึงหยิบอิฐขึ้นมา ตั้งใจจะทุบหยกจันทร์เสี้ยวเพื่อดูโครงสร้างภายในแต่หยกชิ้นนี้มีค่าถึงห้าสิบล้านตำลึง นางจึงลังเลใจ ทำให้มือที่ถืออิฐสั่นเทาหากไม่มีสิ่งใดอยู่ภายในหยก หรือหากหยกแตกละเอียดเป็นเสี่ยงๆ เงินห้าสิบล้านตำลึงของนางก็จะสูญเปล่าขณะนี้กู้ชูหน่วนถึงได้เข้าใจว่ายามนั้นไทเฮาต้องรู้สึกเจ็บปวดมากเพียงใด"ตุ้บ..."นางกัดฟัน ก่อนจะเหวี่ยงอิฐก้อนใหญ่ทุบลงไปบนหยกอย่างแรง จนหยกงดงามแตกละเอียดหยกจันทร์เสี้ยวแตกแล้ว

DMCA.com Protection Status