Share

บทที่ 62

Penulis: เย่ชิงขวง
เขาผู้นี้รูปงามอย่างหาใดเปรียบไม่ได้ มีออร่าสูงส่ง และแม้แต่การเดินก็ยังมีความสง่างามที่เหนือโลก

"คารวะอาจารย์ซ่างกวานยามเช้า"

ทุกคนกล่าวทักทายอย่างเคารพและหลีกทางให้

ซ่างกวานฉู่พยักหน้าช้าๆ "สวัสดียามเช้า"

กู้ชูหน่วนยิ้มเอ่ย "ท่านอาจารย์มาที่สนามประลองได้อย่างไร หรือว่าท่านจะมาเล่นพนันด้วย?"

"วันนี้ศิษย์ทั้งสามของข้าล้วนเข้ารอบชิง ข้าจึงต้องมาให้กำลังใจ"

ทุกคนอดเข้ามาใกล้และร้องตะโกนไม่ได้ว่า "ท่านอาจารย์ซ่างกวานจะลงพนันด้วยหรือ? โอ้พระเจ้า ท่านอาจารย์ซ่างกวานมีสายตาอันเฉียบแหลม คนที่ท่านลงพนันต้องชนะแน่นอน เรายังลังเลอะไรอยู่ ไปลงพนันตามท่านเถอะ"

"ใช่แล้ว แทงตามท่านอาจารย์ซ่างกวานชนะแน่นอน"

หลิ่วเยว่เสียใจมาก หากรู้เช่นนี้ก็คงไม่หยิบเงินออกมาแล้ว

คนในสนามประลองต่างยิ้มอย่างสุภาพ "ท่านอาจารย์ซ่างกวาน ท่านลงพนันใครหรือ"

ซ่างกวานฉู่หยิบเงินหนึ่งพันตำลึงออกมาจากตัวราวกับเสียดาย

"ข้าไม่มีอะไรติดตัว เงินหนึ่งพันตำลึงนี้คือเงินเก็บทั้งหมดของข้า ข้าพนัน...คุณหนูสามตระกูลกู้"

เฮือก...

หลายคนล้มลง

พนัน พนัน พนัน พนัน...พนันกู้ชูหน่วนรึ?

วันนี้อาจารย์ซ่างกวานป่วยหรือไม่? ทำไมท่าน
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 63

    ไม่นาน โต๊ะเตี้ยตัวหนึ่งก็ถูกตั้งทางขวามือของนาง นางกำนัลพาเยี่ยเฟิงมายังที่นั่งกู้ชูหน่วนเลิกคิ้วเยี่ยเฟิง ชาวเมืองธรรมดาก็มีที่นั่งด้วยหรือ?แล้วทำไมกู้ชูอวิ๋นถึงไม่มีที่นั่ง?ฝ่ามือที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อของกู้ชูอวิ๋นกำแน่น ความร้อนรนฉายวาบขึ้นบนใบหน้าอ่อนหวานนางนึกว่าขันทีจะตั้งโต๊ะอีกตัวหนึ่ง แต่นางรอแล้วรอเล่าก็ยังไม่มา จึงได้แต่กระซิบถามนางกำนัลที่อยู่ข้างๆ"ช่วยถามหน่อยได้หรือไม่ว่าขาดโต๊ะไปตัวหนึ่งหรือเปล่า"นางกำนัลส่ายหน้าอย่างงุนงง "ไม่นี่เจ้าคะ ที่นั่งข้างหน้าจัดไว้เพียงเท่านี้""ผู้เข้ารอบชิงชนะเลิศไม่มีที่นั่งหรือ? ข้าเห็นสามอันดับแรกของแคว้นอื่นก็มีกันทั้งนั้น" ว่ากันด้วยยศถาบรรดาศักดิ์ นางก็มิได้ด้อยกว่าชิวเฟิงแต่อย่างใด แต่เหตุใดชิวเฟิงถึงมีที่นั่ง ทว่านางกลับไม่มี"ข้าทาสไม่รู้หรอกเจ้าค่ะ"คนไม่น้อยพากันมองมาที่กู้ชูอวิ๋น แต่ละคนสุมหัวกระซิบกระซาบแม้กู้ชูอวิ๋นจะเป็นลูกสาวอนุ ทว่านางนั้นมากความสามารถ ไม่ว่าจะไปที่ใดก็มีแต่คนชื่นชม ไม่มีผู้ใดติฉินนินทานางแต่เพราะกู้ชูหน่วนและกู้ชูหลัน วันนี้ไม่ว่านางจะเดินไปที่ใดก็มีแต่ชี้นิ้วตำหนิ ทำเอานางโมโหยิ่งนักก

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 64

    กู้ชูหน่วนเงี่ยหูฟัง ยังพอได้ยินบทสนทนาของพวกเขาบ้าง"อัครเสนาบดีกู้ ท่านสอนลูกสาวเก่งยิ่งนัก ลูกสาวเก่งกาจทั้งสามคน ได้เรียนที่สำนักบัณฑิตหลวงกันหมด คุณหนูสามกับคุณหนูห้ายิ่งแล้วใหญ่ น่านับถือเสียจริง"คำพูดเย้ยหยันนี้ ทำเอาอัครเสนาบดีกู้ไฟสุมทรวง ทว่าใบหน้ายังคงยิ้มแย้ม "ชมกันเกินไป""ดูสิ ข้าถึงได้บอกว่าลูกสาวของอัครเสนาบดีกู้น่ะ ไม่ว่าคนไหนเดินไปที่ใดก็มีแต่คนจับจ้อง พวกเจ้าไม่เชื่อหรือ" ขุนนางคนนั้นเอ่ยยั่วยุอัครเสนาบดีกู้ระงับไฟโกรธที่โหมกระหน่ำในอกเขาไม่ได้ตาบอดเสียหน่อย คนจากสำนักบัณฑิตหลวงที่นั่งตรงข้ามต่างเหยียดหยามกู้ชูหลัน เขาจะไม่เห็นได้อย่างไรเขาเดือดดาลเกิดเรื่องเช่นนี้ แต่กู้ชูหลันกลับยังมีหน้าปรากฏตัวในงานประลองศิลปะประลองศิลปะที่ทำให้เขาเดือดยิ่งกว่าก็คือ ไม่รู้ว่าใครมันปากพล่อย เที่ยวพูดไปทั่วว่าหลันเอ๋อร์เสียบริสุทธิ์ ทำเอาจวนอัครเสนาบดีอับอายขายขี้หน้า เขาก็กลายเป็นตัวตลกให้เหล่าขุนนางหัวเราะเยาะยิ่งพบเจอกับคำพูดส่อเสียดมากขึ้น อัครเสนาบดีกู้จึงเอ่ยเสียงขุ่น "อย่างน้อยลูกสาวข้าก็ได้เรียนที่สำนักบัณฑิตหลวง โดยเฉพาะลูกสาวคนที่สองของข้า ชื่อเสียงเป็นที่

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 65

    กู้ชูหน่วนกัดแอปเปิล มือหนึ่งยื่นออกไปค้ำกับที่นั่ง ขวางทางเดินเอาไว้"ช้าก่อน กงกง น้องห้าสะเทือนใจอย่างหนัก หัวสมองไม่ปกติสักเท่าไร นางไม่รู้ด้วยซ้ำตัวเองพูดอะไรอยู่ เหตุใดต้องถือโทษคนบ้าด้วยเล่า"เมื่อเห็นกู้ชูหน่วน ท่าทีของขันทีหม่าก็อ่อนน้อมลงมาก ก่อนจะยิ้มเอ่ย "ที่แท้ก็คุณหนูสามนี่เอง นางผู้นี้ทำลายชื่อเสียงคุณหนูสาม แต่ท่านกลับยังเมตตาคนคิดแค้น ช่างน่านับถือเสียจริง""พี่น้องตระกูลเดียวกัน ย่อมมีกระทบกระทั่งกันบ้าง ผ่านเป็นแล้วก็ให้ผ่านไป ขอกงกงโปรดละเว้นด้วยเถิด"ประโยคนั้นทำให้ภาพจำของกู้ชูหน่วนที่มีต่อขุนนางบู๊บุ๋นเปลี่ยนไปเป็นอย่างมากแม้คุณหนูสามจะไม่เอาถ่าน หน้าตาขี้เหร่ไปเสียหน่อย แต่อย่างน้อยก็จิตใจงดงามสองตาของขันทีหม่าล่อกแล่ก ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ เขาเอ่ยอย่างนอบน้อม "ในเมื่อคุณสามเอ่ยปากขอ เช่นนั้นก็ไว้ชีวิตนางก็แล้วกัน ใครก็ได้ พาตัวออกไป"ประโยคที่โบยให้ตายเมื่อครู่ ทำเอากู้ชูหลันเข่าทรุด ยามนี้ทำได้เพียงยอมให้องครักษ์ลากตัวออกไปนางรู้ว่าชีวิตของนาง จบเห่แล้วกู้ชูอวิ๋นฉลาดกว่านาง รู้ว่าหากโวยวายต่อไป คนตกที่นั่งลำบากรังแต่จะเป็นพวกนาง ทำได้เพียงกล้ำกลืนฝ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 66

    "จะว่าอย่างไรดีล่ะ" กู้ชูหน่วนจ้องเขาเซียวอวี่เชียนเอ่ยพึมพำ "แปลกนัก เหตุใดคนที่เชิญมาจากแคว้นจ้าว แคว้นฉู่ แคว้นหวาคราวนี้ ถึงได้เป็นนักปราชญ์ชื่อดังทั้งนั้น""หมายความว่าอย่างไร?"เซียวอวี่เชียนชี้ไปยังผู้คนบนที่นั่งทูต เอ่ยแนะนำทีละคน "เอาละ เจ้าดูนะ สามคนที่เชิญมาจากแคว้นจ้าว คนหนึ่งคือเซียนกวี คนทั้งแผ่นดินไม่มีใครไม่รู้จักเขา งานประลองศิลปะเมื่อสิบปีก่อน เขาคือคนที่เขาชนะชายหญิงใต้ฟ้านี้ ไม่เคยพ่ายแพ้ให้ผู้ใด อีกสองคนเป็นนักปราชญ์ชื่อดังของแคว้นจ้าว""แคว้นฉู่ คนหนึ่งคือเทพหมากล้อม อีกคนหนึ่งคือเจ้าสำนักแห่งสำนักบัณฑิตหลวงแคว้นฉู่ แล้วก็จอหงวนแคว้นฉู่ประจำปีนี้""แล้วก็แคว้นหวา แม่เจ้า สามคนนั้น ไม่ใช่จอหงวนสามปีล่าสุดของแคว้นหวาหรือ? แคว้นหวาก็หน้าไม่อายเสียจริง ส่งจอหงวนทั้งสามปีมาเสียอย่างนั้น"กู้ชูหน่วนหันไปมองทูตจากสามแคว้นที่กำลังทักทายกัน ดวงตาสุกใสนั้นฉายแววเย็นชาที่แทบมองไม่เห็นแค่งานประลองศิลปะ เหตุในต้องยกโขยงบัณฑิตมามากมายบานนี้งานประลองศิลปะปีนี้เกรงว่าจะมีอะไรไม่ชอบมาพากลเหล่าคนจากสำนักบัณฑิตหลวงที่อยู่ด้านหลังถกเถียงกัน"แปลกนัก งานประลองศิลปีก่อนหน

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 67

    เฮือก...ทั้งงานมีแต่เสียงถอนหายใจตกตะลึงประสาทอันฉับไวของกู้ชูหน่วนสัมผัสได้ว่าร่างของเยี่ยเฟิงที่นั่งหลังตรงพลันแข็งทื่อ ลมหายใจไม่เป็นจังหวะในแววตาของทูตจากทั้งสามแคว้นแฝงไปด้วยความประหลาดใจแม้แต่เทพหมากล้อมและเซียนกวียังเลิกคิ้วเหล่าทูตแคว้นเย่ตกใจพากันเกลี้ยกล่อม "มิได้พ่ะย่ะค่ะฮ่องเต้ กระดิ่งภินวิญญาณเป็นสมบัติแห่งแคว้นเย่ที่สืบทอดกันมา แต่เดิมจะมอบให้ฮ่องเต้องค์ปัจจุบันเท่านั้น ของล้ำค่าเช่นนี้ จะมอบให้ผู้อื่นตามพระทัยไม่ได้นะพ่ะย่ะค่ะ""ขอพระองค์โปรดถอนราชโองการด้วยเถิด"กู้ชูหน่วนเข้าใจในทันใดคงเป็นเพราะทูตจากทั้งสามแคว้นรู้ก่อนหน้าว่าฮ่องเต้จะประทานกระดิ่งภินวิญญาณ ถึงได้ส่งยอดฝีมือมามากมายสินะกู้ชูหน่วนสะกิดมือเอ่ยถาม "เสี่ยวเชียนเชียน กระดิ่งภินวิญญาณคืออะไรรึ?""เหตุใดเจ้าถึงไม่รู้อะไรเลย? ว่ากันว่ากระดิ่งภินวิญญาณชุบชีวิตคนได้ ทั้งยังเพิ่มฝีมือการต่อสู้ ช่วยให้คนครองโลกได้ ว่ากันว่าฮ่องเต้ผู้ก่อตั้งแคว้นเย่ก็ใช้กระดิ่งภินวิญญาณนี้ถึงได้สร้างแผ่นดินแคว้นเย่ได้ ด้วยเหตุนี้กระดิ่งภินวิญญาณจึงเป็นสมบัติล้ำค่าแห่งแคว้นเย่ ตามประวัติจะส่งทอดให้แก่ฮ่องเต้เท่านั้น

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 68

    กู้ชูหน่วนลูบคางไปมาเมื่อกี้อี้เฉินเฟยยิ้มให้เธอหรือ?ไม่รู้ว่าทำไม เธอถึงได้คิดว่าอี้เฉินเฟยตัดสินใจไม่เข้าแข่งขันก็เพราะเธอแต่ละคนจับฉลาก กู้ชูหน่วนเดินเข้าไปจับ เมื่อคลี่กระดาษออก กลับพบว่าบนนั้นไม่มีสิ่งใดเขียนอยู่ขันทีหม่าใบหน้ายิ้มแฉ่ง "คุณหนูสามกู้จับฉลากได้กระดาษเปล่า เข้าสู่การแข่งขันรอบที่สองโดยไม่ต้องแข่งรอบแรก"ทุกคนฮือฮา โดยเฉพาะเหล่าคนจากสำนักบัณฑิตหลวง"แม่เจ้า กู้ชูหน่วนอะไรจะดวงดีปานนั้น ก่อนหน้านี้ก็จับฉลากได้เข้ารอบชิง ตอนนี้ยังจับฉลากผ่านเข้ารอบสองโดยไม่ต้องแข่งรอบแรกอีก หรือว่าเมื่อวานนางจะไปจุดธูปไหว้พระจริงๆ?""สวรรค์เอ็นดูนางเกินไปแล้ว เหตุใดเรื่องดีๆ ถึงเกิดขึ้นแต่กับนาง""จับฉลากได้แล้วอย่างไรเล่า นางก็ยังเป็นคนไม่เอาไหนคนเดิมอยู่ดี เสียดายแทนคนอื่นเสียจริง ของดีต้องมาสูญค่า""เจ้าว่านางโกงหรือไม่?"กู้ชูหน่วนกลอกตามองบนแล้วกลับไปยังที่นั่งของตัวเองนางสาบานต่อฟ้าดินเลยว่าจับได้กระดาษเปล่าเพราะดวงล้วนๆ"การแข่งขันแบ่งออกเป็นฉิน หมากล้อม แต่งกลอน เขียนพู่กัน และวาดภาพ รวมทั้งหมดห้ารอบ ชนะสามในห้าถือว่าเป็นผู้ชนะ ขอเชิญทั้งสิบท่านประจำที่ บัดนี้ขอ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 69

    "แม่หนู เจ้าช่างบ้าบิ่นนัก""ก็ประมาณนั้น""ฝ่าบาท คุณหนูสามกู้มาเพื่อสร้างความวุ่นวายโดยแท้ กระหม่อมขอพระองค์ทรงโปรดตัดสิทธิ์การแข่งขันประลองศิลปะของนางด้วยเถิดพะย่ะค่ะ" ขุนนางคนหนึ่งเอ่ย"เอ๊ะ ท่านพูดเกินไปหรือเปล่า เราเห็นคุณหนูสามกู้มั่นใจเสียปานนั้น ดูท่านางคงมีวิธีเอาชนะยอดฝีมือทั้งหลายได้ เวลาก็ล่วงเลยมามากแล้ว สู้ให้นางลองดูสักตั้งไม่ดีหรือ"หากเป็นคนมีปัญญาสักนิดคงฟังออกฮ่องเต้จงใจให้คุณหนูสามกู้ขายขี้หน้า ถึงได้ไม่ขัดขวางนาง แต่กลับส่งเสริมอีกต่างหาก ดูท่าแล้วฮ่องเต้คงไม่คิดจะไว้หน้าเทพสงครามสักเท่าไรกู้ชูหน่วนหัวเราะเสียงเย็น ยืดเอวบิดขี้เกียจ "เช่นนั้นพวกเจ้าก็มากันให้หมดเลย จะได้ไม่ต้องเสียเวลาข้า รีบหาผู้ชนะ ข้าจะได้กลับไปนอนให้เต็มอิ่ม"เจ๋ออ๋องสบถด่าอย่างดูแคลน "ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง""เหอะ เจ้าเก่งกาจปานนั้น เช่นนั้นก็บอกข้าทีว่าฟ้าสูงเพียงใด แผ่นดินหนาแค่ไหน"เจ้า...""หากเจ้าไม่รู้ก็หุบปากเงียบไปเสีย คิดว่าตัวเองเป็นองค์ชายแล้วสูงส่งนักหรือ ไม่เห็นหัวคนอื่น ก็แค่ชายชั่ววางอำนาจบาตรใหญ่ ""ฝ่าบาท กู้ชูหน่วนวาจาสามหาว กระหม่อมขอพระองค์ทรงลงโทษนางด้วย" เจ๋อ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 70

    ได้แต่เอ่ยเสียงตะกุกตะกัก "ใช่ขอรับ คุณชายอี้พูดถูก"ฮ่องเต้ลำพองใจ ราวกับเห็นภาพกู้ชูหน่วนแก้ผ้าวิ่งแล้วอย่างไรอย่างนั้นซ่างกวานฉู่จิบชาอย่างสำราญ ราวกับไม่สนใจกู้ชูหน่วนกับเจ๋ออ๋องแม้แต่นิดแต่อาจารย์สวีกลับยกมือทุบอก เอ่ยคำผรุสวาท "ต่อหน้าฝ่าบาทและเหล่าทูต คุณหนูสามกู้พูดจาโอ้อวดปานนั้น หากแพ้ขึ้นมาจะทำอย่างไร?"นางคือคู่หมั้นของเทพสงครามเชียวนะ เทพสงครามจะยอมให้คู่หมั้นของตัวเองวิ่งแก้ผ้ารอบสำนักบัณฑิตหรืออาจารย์สวีไม่กล้าแม้แต่จะคิดถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นเจ๋ออ๋องกัดฟันกรอด "ในเมื่อเจ้ารนหาที่ตายเอง เช่นนั้นข้าก็จะพนันกับเจ้า""เริ่มการแข่งขันได้..."ขันทีหม่ากลัวใจกู้ชูหน่วน แต่ละคำที่นางเอ่ยออกมาหาดีไม่ได้เลย ไม่รู้ว่าเจ๋ออ๋องโกรธเป็นฟืนเป็นไฟเพียงใดแล้ว จึงทำได้เพียงเปลี่ยนหัวข้อสนทนาเมื่อได้ยินว่าเริ่มการแข่งขันได้ ทุกคนก็จับพู่กันขึ้นพลางคิดว่าจะวาดสิ่งใดดีกู้ชูหน่วนส่งยิ้มให้เยี่ยเฟิง "เสี่ยวเฟิงเฟิง เช่นนั้น พวกเราก็มาเดิมกันสักตั้ง ดีไหม?"เมื่อได้ยินเสี่ยวเฟิงเฟิงสามพยางค์นั้น ฝ่ามือของเยี่ยเฟิงก็สั่นขึ้นมาโดยไร้สาเหตุปากสีระเรื่อของเขาขยับอ้า "ข้าไม่มีเงิน"

Bab terbaru

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 446

    เวินเส้าอี๋ยิ้มเยาะกับตัวเอง ด้วยความสัมพันธ์ที่ต้องตายกันไปข้างหนึ่งของสำนักซิวหลัวและเผ่าเทียนเฝิน มีหรือที่ประมุขชิงจะยอมปล่อยเขาไป หากเป็นเขาที่อยู่ในจุดนั้น เขาเองก็ไม่มีทางปล่อยประมุขชิงไปเช่นกัน เวินเส้าอี๋กวาดสายตามองผาหินแวววาวและทะเลโลหิตที่เดือดระอุ เขาเคยคิดว่าจะต้องตายด้วยน้ำมือเจ้าสำนักซิวหลัว เคยคิดว่าต้องตายด้วยน้ำมือหอเลิศหล้า เคยคิดว่าต้องตายด้วยน้ำมือของเย่จิ่งหาน สิ่งเดียวที่ไม่เคยคิดมาก่อนคือต้องมาตายในที่แห่งนี้ "สำนักซิวหลัวและเผ่าเทียนเฝินมีความแค้นอันใดต่อกันกันแน่" กู้ชูหน่วนเอ่ยถาม "เป็นแค้นที่ฝังลึกยิ่งนัก เป้าหมายในการมีชีวิตอยู่ของชาวสำนักซิวหลัวทุกคนก็คือหาแก้วมังกรให้พบ แล้วกำจัดเผ่าเทียนเฝิน อาหน่วน หากเจ้ายังเห็นข้าเป็นสหาย ก็อย่ายุ่งเรื่องนี้เลย" ประมุขชิงไม่ได้อธิบายรายละเอียด แต่จุดยืนของเขาหนักแน่น ไม่เหลือทางให้หันหลังกลับอีกแล้ว เขารวบรวมกำลังภายในไว้ที่ฝ่ามือ ยกมือขึ้นมาตั้งใจจะสะเทือนกระดูกของเวินเส้าอี๋ให้แหลก ไม่พูดถึงเรื่องที่เวินเส้าอี๋ถูกพิษดอกพันรักทำให้ทรมานราวกับตายทั้งเป็น แต่แค่กำลังภายในของเขาที่สูญไปแทบจะหมดสิ้น

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 445

    กู้ชูหน่วนลุกลน อยากจะขวางการถ่ายทอดกำลังภายในให้นางของประมุขชิง ทว่ากลับช้าไปหนึ่งก้าว กำลังภายในของประมุขชิงเหมือนกับเวินเส้าอี๋ ไม่รู้ด้วยเหตุใดถึงได้ถูกนางดูดเข้าไปไม่หยุด "ข้าไม่ต้องการดูดกำลังภายในของเจ้า เจ้ารีบดึงมือออก" "ไม่เป็นไร หากเจ้าต้องการ ข้าให้เจ้าทั้งหมดจะเป็นไรไป" ประมุขชิงคลี่ยิ้ม ภายในดวงตาอ่อนโยนเต็มไปด้วยความทะนุถนอมเอ็นดู เขาไม่ได้ดึงมือออก แต่กลับพยายามอย่างสุดกำลังเพื่อสยบพิษของดอกพันรัก เมื่อเห็นดวงตาที่เต็มไปด้วยความเอ็นดูคู่นั้นและรอยยิ้มที่คุ้นเคย กู้ชูหน่วนก็ยิ่งมั่นใจในความคิดของตน ประมุขชิงก็คืออี้เฉินเฟย กู้ชูหน่วนทั้งร้อนรนทั้งโมโหและทุกข์ทรมาน ที่ร้อนรนเพราะ นางอยากจะเอามือออกแต่กลับทำไม่ได้ ที่โมโหเพราะอี้เฉินเฟยโง่เง่านัก มีผู้ใดบ้างที่จะยอมมอบกำลังภายในที่ตนฝึกฝนมาอย่างยากลำบากให้ผู้อื่น เขาไม่รู้หรือว่านางอาจจะดูดกำลังภายในของเขาจนหมดและตายได้ ที่ทุกข์ทรมานเพราะ พิษของดอกพันรักแล่นไปทั่วทั้งร่างกายของนางยังพอว่า กำลังภายในของประมุขชิงก็หลั่งใหลไปทั่วร่างนางด้วย คล้ายกับร่างของนางถูกดึงให้ฉีกออกจากกันไม่หยุด

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 444

    เวลาค่อยๆ ผ่านไปอย่างช้าๆ กู้ชูหน่วนและเวินเส้าอี๋ก็ไม่รู้ว่าทนกับคลื่นความร้อนไปเท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ พวกเขาทั้งสองเหงื่อโชก ลมหายใจหอบถี่ ล้วนแต่อยู่ในจุดที่กำลังจะทนไม่ไหว ลมอุ่นพัดผ่านไป สติของกู้ชูหน่วนและเวินเส้าอี๋แตกกระเจิงโดยสิ้นเชิง ทนไม่ไหวอีกต่อไป ไม่รู้ว่าใครเป็นฝ่ายเข้าหาก่อน แต่ทั้งคู่ก็คลอเคลียอยู่ด้วยกันแล้ว ในขณะที่พวกเขากำลังจะพัฒนาไปถึงขั้นสุดท้าย ยอดหน้าผาพลันปรากฏเงาร่างสีครามอาบเลือดมือเกาะเถาวัลย์ที่วางไว้ก่อนหน้านี้แล้วกระโดดลงมาจากยอดของหน้าผาด้วยความรวดเร็ว สายตาของประมุขชิงมองไปรอบๆ ด้วยความร้อนรน พยายามตามหาหญิงในความทรงจำผู้นั้น คลื่นลาวายักษ์ซัดเข้าไปเป็นระยะ ทุกครั้งที่คลื่นซัดสาด คล้ายกับยืนอยู่ใจกลางกองเพลิงแผดเผาร่างของเขาไม่หยุดหย่อน แต่เขาไร้ซึ่งความหวาดกลัว ดวงตาดื้อรั้นคู่นี้ราวกับว่าหากหากู้ชูหน่วนไม่เจอ ก็จะไม่มีทางรามือ ทันใดนั้น เขาเห็นกู้ชูหน่วนบนผาหินที่ยื่นออกไป หัวใจที่บีบรัดอยู่ของประมุขชิงพลันผ่อนคลายลงมาในพริบตา ทว่าไม่ทันไร ใจของเขาพลันตื่นตระหนกขึ้นมาอีกครั้ง เพราะแววตาของนางล่องลอย เสื้อผ้าไม่เป็นระเบียบ กำลั

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 443

    เวินเส้าอี๋ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นไปมองกู้ชูหน่วน เขากลัวว่าหากมองแล้วตนจะทนไม่ไหว ตรงกลางหน้าผา ร่างของกู้ชูหน่วนและเวินเส้าอี๋ล้วนแต่ขดตัวเป็นวง ต่างก็พยายามอดกลั้นด้วยชีวิต ลมอ่อนๆ พัดโชยไป เกิดคลื่นลาวาเป็นชั้นๆ ลมที่พัดผ่านไปก็เป็นลมร้อน ไร้ซึ่งความเย็นแต่อย่างใด เจ็บปวดจนเกินจะทน เวินเส้าอี๋พยายามนั่งขัดสมาธิ ปากก็คอยสวดมนต์ไม่หยุด หวังว่าใจจะสงบลงตามธรรมชาติ กู้ชูหน่วนตวาดออกมาอย่างอดไม่ได้ "ให้ตายสิ เวลานี้แล้วยังจะสวดมนต์อะไรอีก หากสวดมนต์ได้ผล แม่หมูคงปีนต้นไม้ได้แล้ว" เขาไม่รู้บ้างเลยหรือ ว่าทันทีที่เขาเอ่ยปาก มีแต่จะกระตุ้นความต้องการที่นางอดกลั้นเอาไว้ด้วยความยากลำบากให้รุนแรงขึ้นกว่าเดิม คิ้วดกดำดั่งขุนเขาของเวินเส้าอี๋ขมวดเข้าหากัน เขาใกล้จะทนไม่ไหวแล้ว ความรู้สึกนี้หากจะบอกว่า จะอยู่ก็ไม่ได้ จะตายก็ไม่ดี ไม่เกินจริงเลยสักนิด สวดมนต์ก็ไม่อาจทำให้อารมณ์ที่พลุ่งพล่านรุนแรงของเขาดีขึ้นได้แต่อย่างใด เวินเส้าอี๋จึงยอมแพ้ไป และยังคงขดตัวเป็นวงอยู่ติดกับผาหินอย่างไร้ที่พึ่ง "แม่เจ้าโว้ย ข้าทนไม่ไหวแล้ว" กู้ชูหน่วนไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเวินเส้าอี๋สมาธิดีเ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 442

    อยู่ดีๆ เหตุใดจึงถูกวางยาเสียได้ กู้ชูหน่วนพยายามคิดทบทวน ทันใดนั้นเอง นางก็พลันโมโหจนต้องตบเข่าฉาด บ้าเอ้ย... เมื่อกี้ตอนที่เวินเส้าอี๋เกาะยึดผาพลางกอดนางไว้ บนกำแพงหินมีดอกพันรักขึ้นอยู่เต็มไปหมด ดอกพันรักเป็นดอกไม้ปลุกกำหนัดที่มีฤทธิ์รุนแรงนัก ยามนี้ดอกพันรักบานสะพรั่ง ทุกที่บนกำแพงหินล้วนเต็มไปด้วยกลิ่นหอมของดอกไม้ คนธรรมดาเพียงแค่ดมกลิ่นของดอกไม้ชนิดนั้นเข้าไป ก็จะจมดิ่งลงสู่ห้วงทะเลแห่งความปรารถนา ส่วนพวกนาง......เมื่อครู่สูดกลิ่นของดอกพันรักบนกำแพงไปปริมาณมาก โดยเฉพาะมือของเวินเส้าอี๋ที่ชุ่มไปด้วยเลือดแล้วยังไปสัมผัสโดนเกสรของดอกพันรัก จึงโดนพิษเข้าไปลึกกว่านางนัก กู้ชูหน่วนอยากจะเป็นลมตายลงไปเสียตรงนั้นให้รู้แล้วรู้รอด เพิ่งข้ามมิติมาได้ไม่นาน นางก็ถูกวางยาไปแล้วสองหน อีกทั้งสองครั้งนี้ล้วนแต่เป็นยาปลุกกำนัดอานุภาพรุนแรงทั้งสิ้น "ร้อน......" เวินเส้าอี๋ปากลิ้นแห้งผาก ทรมานจนต้องฉีกคอเสื้อของตนออก กู้ชูหน่วนเอ่ยด้วยความลนลาน "เฮ้ย ข้าขอบอกเจ้าไว้ก่อน หญิงชายไม่ควรใกล้ชิดกัน เจ้าอย่าทำอะไรบุ่มบ่ามเชียวล่ะ" นางตามหาในแหวนปริภูมิจนทั่วแล้ว ยาส

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 441

    นอกเจ้านายท่านหลันและคนอื่นๆ เย่จิ่งหานและพวกต่างก็รู้สึกบีบคั้นหัวใจ เย่จิ่งหานพยายามดีดดิ้นเพื่อให้หลุดจากพันธนาการแล้วออกไปตามหากู้ชูหน่วนด้วยตนเอง เขาไม่อยากจะจินตนาการเอาเองอีกต่อไปว่ากู้ชูหน่วนต้องประสบพบเจอกับเรื่องแบบใดกันแน่ถึงได้กรีดร้องอย่างกับจะขาดใจเช่นนั้น ประมุขชิงตื่นตระหนกยิ่งกว่า ร่างของเขาสั่นเทิ้มอย่างไม่อาจหยุดได้ ฝีเท้าเร่งเร็วขึ้นเรื่อยๆ อาหน่วน... เจ้าอย่าเป็นอะไรไปเด็ดขาด จะต้องรอข้าก่อน หากเจ้าตาย ไม่ว่าชาตินี้หรือชาติใด ข้าไม่มีวันอภัยให้เจ้าเป็นแน่ เสียงร้องที่หดหู่ดังก้องไปเรื่อยๆ ประมุขชิงมาถึงบริวเวณปากคอขวดน้ำเต้าที่กู้ชูหน่วนเพิ่งไปเมื่อครู่แล้ว บนปากคอขวด มีร่องรอยของกรงเล็บมังกรยักษ์หลงเหลืออยู่ รอยเท้าฝังลึกลงไปในพื้นดิน ทุกรอยเท้ามีความลึกหลายสิบเมตร เห็นได้เลยว่าเรี่ยวแรงที่ประทับลงไปนั้นมหาศาลเพียงใด ทอดมองออกไปยังสนามรบที่เละไม่เหลือชิ้นดีหลังจากการสู้ครั้งใหญ่ของยอดฝีมือ ประมุขชิงสั่นสะท้าน ลึกลงไปในใจรู้สึกถึงลางไม่ดีบางอย่าง อาหน่วนเคยบอกไว้ โลกนี้มีมังกรอสูรขั้นเจ็ดทั้งหมดสองตัว ตัวหนึ่งคือมังกรน้ำ อยู่ในสถ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 440

    แม้ว่ากู้ชูหน่วนจะมีชีวิตถึงหมื่นชีวิต ก็คงต้องตายอย่างแน่นอนภารกิจบนบ่าของเขานั้นหนักอึ้งนัก เขาควรจะสลัดออกไปอย่างเต็มกำลัง เพื่อรักษาพลังปราณที่เหลืออยู่ในร่างกาย แต่......ไม่รู้ทำไม เขาถึงลังเลภาพของกู้ชูหน่วนที่ดูมีชีวิตชีวาและฉลาดหลักแหลมค่อยๆ ปรากฏขึ้นในสมองของเขาพร้อมกับใบหน้าเล็กๆ ของนางที่กำลังดิ้นรนด้วยความเจ็บปวดและอดทนต่อความทุกข์ทรมานอย่างแข็งขัน เวินเส้าอี๋ก็แอบลังเลเวินเส้าอี๋รีบดึงพลังฝ่ามือของเขากลับ เขาพยายามมาหลายวิธีแต่ก็ไม่ได้ผล ทำได้เพียงเฝ้าดูพลังภายในที่เขาฝึกฝนมาหลายปี ค่อยๆ หายไปในชั่วข้ามคืน และกลายเป็นของคนอื่นเมื่อหันมองกู้ชูหน่วนอีกครั้งใบหน้าเล็กๆ ของนางขมวดเป็นปมด้วยความเจ็บปวด ใบหน้าอันงดงามไร้ที่ติของนางค่อยๆ เปลี่ยนจากซีดขาวเป็นแดงระเรื่อ ในที่สุดร่างกายของนางก็เหมือนถูกไฟไหม้ ร้อนจนคนไม่กล้าสัมผัสร่างกายของนางรับพลังภายในมากเกินไปไม่ได้ พลังปราณในร่างกายของนางพุ่งชนไปมาอย่างต่อเนื่อง ราวกับจะทำลายร่างกายของนาง"วิชาดูดพลังคืออะไร" กู้ชูหน่วนอดทนต่อความเจ็บปวดระลอกแล้วระลอกเล่าอย่างอดทน แล้วกัดฟันถาม"……""เวินเส้าอี๋ รีบถอนมือเร็ว

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 439

    ณ หน้าผาเวินเส้าอี๋ค่อยๆ ฟื้นขึ้นมา ภาพที่เห็นคือแผ่นหินที่ยื่นออกมาจากกลางหน้าผา เมื่อมองขึ้นไปด้านบนก็เห็นเมฆสีขาวจำนวนมาก ไม่รู้ว่าสูงเพียงใดเมื่อมองลงไปด้านล่างเป็นทะเลโลหิตที่เดือดพล่าน คลื่นเลือดสาดกระเซ็นเป็นระยะๆ อุณหภูมิสูงจนน่าตกใจเมื่อมองไปด้านข้าง กู้ชูหน่วนหมดสติอยู่ข้างเขา ไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไรเวินเส้าอี๋พยายามลุกขึ้นยืน เดินโซเซไปหากู้ชูหน่วน มือที่เต็มไปด้วยเลือดของเขาลองแตะที่จมูกของนาง ยังมีลมหายใจอ่อนๆ ทำให้ใจที่ตึงเครียดของเวินเส้าอี๋๋ผ่อนคลายลงโชคดีที่มีแผ่นหินที่ยื่นออกมานี้ มิฉะนั้นพวกเขาคงตายไปแล้วหน้าผาสูงเกินไป เขาถูกมังกรไฟทำร้ายสาหัส หากอยู่คนเดียวอาจจะขึ้นไปได้ แต่การพากู้ชูหน่วนขึ้นไปบนยอดผา ช่างยากยิ่งกว่าการปีนขึ้นสวรรค์เสียอีก"เจ้าขมวดคิ้วดูไม่ดีเลย"กู้ชูหน่วนฟื้นตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่รู้ แล้วพึมพำเสียงเบา"แค่ก แค่ก......"นางไอออกมาเป็นชุด ไอออกมาเป็นกองเลือดเวินเส้าอี๋จับชีพจรของนาง มองสีหน้าที่อ่อนแรงและซีดเซียวของนาง น้ำเสียงของเขาค่อนข้างหนักแน่น "เจ้าตกจากที่สูง ปอดและอวัยวะภายในได้รับบาดเจ็บ""ข้าดวงแข็ง พญายมยังกลัวข้า

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 438

    "ปัง......"กู้ชูหน่วนและเวินเส้าอี๋ตกลงมา เพียงแต่สถานที่ที่ตกลงมาไม่ใช่ทะเลโลหิต แต่ตกลงกระแทกบนแผ่นหินที่ยื่นออกมา"โอ๊ย......"กู้ชูหน่วนส่งเสียงครางเบาๆ เอวของนาง......เกือบหักแล้ว"ฟิ้ว......"เวินเส้าอี๋โยนกู้ชูหน่วนขึ้นไปในอากาศ เพื่อลดแรงกระแทกจากการตกลงมาของนาง ส่วนตัวเองก็ตกลงกระแทกบนแผ่นหินอย่างจัง แรงกระแทกนั้นรุนแรงมาก จนเขาอดไม่ได้ที่จะกระอักเลือดออกมาคำหนึ่ง กระดูกทั่วร่างราวกับแตกกระจาย แม้แต่อวัยวะภายในก็ยังกระเพื่อมอย่างรุนแรงทั้งสองหมดสติไปพร้อมกัน เสียงคำรามของสัตว์อสูรบนยอดผา พร้อมกับเสียงกรีดร้องโหยหวนยังคงดังต่อเนื่องในหุบเขาทางทิศตะวันตก เย่จิ่งหานและน้องเก้าราวกับรับรู้ได้ว่ากู้ชูหน่วนประสบเคราะห์ร้ายเย่จิ่งหานพยายามลุกขึ้นยืน โดยไม่สนใจสิ่งใดๆ ต้องการออกไปตามหากู้ชูหน่วน แต่ไม่รู้ว่ากู้ชูหน่วนทำอะไรกับเขา ไม่เพียงทำให้เขาทั้งร่างกายอ่อนแรง พลังภายในสูญสิ้น แม้แต่จะขยับตัวก็ทำไม่ได้เลย จึงทำได้เพียงร้อนใจอยู่ภายใน"หลีลั่ว ส่งคนออกไปทั้งหมด ไม่ว่าจะอย่างไรก็ต้องนำพระชายากลับมาอย่างปลอดภัย""นายท่าน หากทำเช่นนั้น สถานะของพวกเราก็จะถูกเปิดเผย ถึงย

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status