แชร์

บทที่ 62

ผู้เขียน: เย่ชิงขวง
เขาผู้นี้รูปงามอย่างหาใดเปรียบไม่ได้ มีออร่าสูงส่ง และแม้แต่การเดินก็ยังมีความสง่างามที่เหนือโลก

"คารวะอาจารย์ซ่างกวานยามเช้า"

ทุกคนกล่าวทักทายอย่างเคารพและหลีกทางให้

ซ่างกวานฉู่พยักหน้าช้าๆ "สวัสดียามเช้า"

กู้ชูหน่วนยิ้มเอ่ย "ท่านอาจารย์มาที่สนามประลองได้อย่างไร หรือว่าท่านจะมาเล่นพนันด้วย?"

"วันนี้ศิษย์ทั้งสามของข้าล้วนเข้ารอบชิง ข้าจึงต้องมาให้กำลังใจ"

ทุกคนอดเข้ามาใกล้และร้องตะโกนไม่ได้ว่า "ท่านอาจารย์ซ่างกวานจะลงพนันด้วยหรือ? โอ้พระเจ้า ท่านอาจารย์ซ่างกวานมีสายตาอันเฉียบแหลม คนที่ท่านลงพนันต้องชนะแน่นอน เรายังลังเลอะไรอยู่ ไปลงพนันตามท่านเถอะ"

"ใช่แล้ว แทงตามท่านอาจารย์ซ่างกวานชนะแน่นอน"

หลิ่วเยว่เสียใจมาก หากรู้เช่นนี้ก็คงไม่หยิบเงินออกมาแล้ว

คนในสนามประลองต่างยิ้มอย่างสุภาพ "ท่านอาจารย์ซ่างกวาน ท่านลงพนันใครหรือ"

ซ่างกวานฉู่หยิบเงินหนึ่งพันตำลึงออกมาจากตัวราวกับเสียดาย

"ข้าไม่มีอะไรติดตัว เงินหนึ่งพันตำลึงนี้คือเงินเก็บทั้งหมดของข้า ข้าพนัน...คุณหนูสามตระกูลกู้"

เฮือก...

หลายคนล้มลง

พนัน พนัน พนัน พนัน...พนันกู้ชูหน่วนรึ?

วันนี้อาจารย์ซ่างกวานป่วยหรือไม่? ทำไมท่าน
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 63

    ไม่นาน โต๊ะเตี้ยตัวหนึ่งก็ถูกตั้งทางขวามือของนาง นางกำนัลพาเยี่ยเฟิงมายังที่นั่งกู้ชูหน่วนเลิกคิ้วเยี่ยเฟิง ชาวเมืองธรรมดาก็มีที่นั่งด้วยหรือ?แล้วทำไมกู้ชูอวิ๋นถึงไม่มีที่นั่ง?ฝ่ามือที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อของกู้ชูอวิ๋นกำแน่น ความร้อนรนฉายวาบขึ้นบนใบหน้าอ่อนหวานนางนึกว่าขันทีจะตั้งโต๊ะอีกตัวหนึ่ง แต่นางรอแล้วรอเล่าก็ยังไม่มา จึงได้แต่กระซิบถามนางกำนัลที่อยู่ข้างๆ"ช่วยถามหน่อยได้หรือไม่ว่าขาดโต๊ะไปตัวหนึ่งหรือเปล่า"นางกำนัลส่ายหน้าอย่างงุนงง "ไม่นี่เจ้าคะ ที่นั่งข้างหน้าจัดไว้เพียงเท่านี้""ผู้เข้ารอบชิงชนะเลิศไม่มีที่นั่งหรือ? ข้าเห็นสามอันดับแรกของแคว้นอื่นก็มีกันทั้งนั้น" ว่ากันด้วยยศถาบรรดาศักดิ์ นางก็มิได้ด้อยกว่าชิวเฟิงแต่อย่างใด แต่เหตุใดชิวเฟิงถึงมีที่นั่ง ทว่านางกลับไม่มี"ข้าทาสไม่รู้หรอกเจ้าค่ะ"คนไม่น้อยพากันมองมาที่กู้ชูอวิ๋น แต่ละคนสุมหัวกระซิบกระซาบแม้กู้ชูอวิ๋นจะเป็นลูกสาวอนุ ทว่านางนั้นมากความสามารถ ไม่ว่าจะไปที่ใดก็มีแต่คนชื่นชม ไม่มีผู้ใดติฉินนินทานางแต่เพราะกู้ชูหน่วนและกู้ชูหลัน วันนี้ไม่ว่านางจะเดินไปที่ใดก็มีแต่ชี้นิ้วตำหนิ ทำเอานางโมโหยิ่งนักก

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 64

    กู้ชูหน่วนเงี่ยหูฟัง ยังพอได้ยินบทสนทนาของพวกเขาบ้าง"อัครเสนาบดีกู้ ท่านสอนลูกสาวเก่งยิ่งนัก ลูกสาวเก่งกาจทั้งสามคน ได้เรียนที่สำนักบัณฑิตหลวงกันหมด คุณหนูสามกับคุณหนูห้ายิ่งแล้วใหญ่ น่านับถือเสียจริง"คำพูดเย้ยหยันนี้ ทำเอาอัครเสนาบดีกู้ไฟสุมทรวง ทว่าใบหน้ายังคงยิ้มแย้ม "ชมกันเกินไป""ดูสิ ข้าถึงได้บอกว่าลูกสาวของอัครเสนาบดีกู้น่ะ ไม่ว่าคนไหนเดินไปที่ใดก็มีแต่คนจับจ้อง พวกเจ้าไม่เชื่อหรือ" ขุนนางคนนั้นเอ่ยยั่วยุอัครเสนาบดีกู้ระงับไฟโกรธที่โหมกระหน่ำในอกเขาไม่ได้ตาบอดเสียหน่อย คนจากสำนักบัณฑิตหลวงที่นั่งตรงข้ามต่างเหยียดหยามกู้ชูหลัน เขาจะไม่เห็นได้อย่างไรเขาเดือดดาลเกิดเรื่องเช่นนี้ แต่กู้ชูหลันกลับยังมีหน้าปรากฏตัวในงานประลองศิลปะประลองศิลปะที่ทำให้เขาเดือดยิ่งกว่าก็คือ ไม่รู้ว่าใครมันปากพล่อย เที่ยวพูดไปทั่วว่าหลันเอ๋อร์เสียบริสุทธิ์ ทำเอาจวนอัครเสนาบดีอับอายขายขี้หน้า เขาก็กลายเป็นตัวตลกให้เหล่าขุนนางหัวเราะเยาะยิ่งพบเจอกับคำพูดส่อเสียดมากขึ้น อัครเสนาบดีกู้จึงเอ่ยเสียงขุ่น "อย่างน้อยลูกสาวข้าก็ได้เรียนที่สำนักบัณฑิตหลวง โดยเฉพาะลูกสาวคนที่สองของข้า ชื่อเสียงเป็นที่

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 65

    กู้ชูหน่วนกัดแอปเปิล มือหนึ่งยื่นออกไปค้ำกับที่นั่ง ขวางทางเดินเอาไว้"ช้าก่อน กงกง น้องห้าสะเทือนใจอย่างหนัก หัวสมองไม่ปกติสักเท่าไร นางไม่รู้ด้วยซ้ำตัวเองพูดอะไรอยู่ เหตุใดต้องถือโทษคนบ้าด้วยเล่า"เมื่อเห็นกู้ชูหน่วน ท่าทีของขันทีหม่าก็อ่อนน้อมลงมาก ก่อนจะยิ้มเอ่ย "ที่แท้ก็คุณหนูสามนี่เอง นางผู้นี้ทำลายชื่อเสียงคุณหนูสาม แต่ท่านกลับยังเมตตาคนคิดแค้น ช่างน่านับถือเสียจริง""พี่น้องตระกูลเดียวกัน ย่อมมีกระทบกระทั่งกันบ้าง ผ่านเป็นแล้วก็ให้ผ่านไป ขอกงกงโปรดละเว้นด้วยเถิด"ประโยคนั้นทำให้ภาพจำของกู้ชูหน่วนที่มีต่อขุนนางบู๊บุ๋นเปลี่ยนไปเป็นอย่างมากแม้คุณหนูสามจะไม่เอาถ่าน หน้าตาขี้เหร่ไปเสียหน่อย แต่อย่างน้อยก็จิตใจงดงามสองตาของขันทีหม่าล่อกแล่ก ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ เขาเอ่ยอย่างนอบน้อม "ในเมื่อคุณสามเอ่ยปากขอ เช่นนั้นก็ไว้ชีวิตนางก็แล้วกัน ใครก็ได้ พาตัวออกไป"ประโยคที่โบยให้ตายเมื่อครู่ ทำเอากู้ชูหลันเข่าทรุด ยามนี้ทำได้เพียงยอมให้องครักษ์ลากตัวออกไปนางรู้ว่าชีวิตของนาง จบเห่แล้วกู้ชูอวิ๋นฉลาดกว่านาง รู้ว่าหากโวยวายต่อไป คนตกที่นั่งลำบากรังแต่จะเป็นพวกนาง ทำได้เพียงกล้ำกลืนฝ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 66

    "จะว่าอย่างไรดีล่ะ" กู้ชูหน่วนจ้องเขาเซียวอวี่เชียนเอ่ยพึมพำ "แปลกนัก เหตุใดคนที่เชิญมาจากแคว้นจ้าว แคว้นฉู่ แคว้นหวาคราวนี้ ถึงได้เป็นนักปราชญ์ชื่อดังทั้งนั้น""หมายความว่าอย่างไร?"เซียวอวี่เชียนชี้ไปยังผู้คนบนที่นั่งทูต เอ่ยแนะนำทีละคน "เอาละ เจ้าดูนะ สามคนที่เชิญมาจากแคว้นจ้าว คนหนึ่งคือเซียนกวี คนทั้งแผ่นดินไม่มีใครไม่รู้จักเขา งานประลองศิลปะเมื่อสิบปีก่อน เขาคือคนที่เขาชนะชายหญิงใต้ฟ้านี้ ไม่เคยพ่ายแพ้ให้ผู้ใด อีกสองคนเป็นนักปราชญ์ชื่อดังของแคว้นจ้าว""แคว้นฉู่ คนหนึ่งคือเทพหมากล้อม อีกคนหนึ่งคือเจ้าสำนักแห่งสำนักบัณฑิตหลวงแคว้นฉู่ แล้วก็จอหงวนแคว้นฉู่ประจำปีนี้""แล้วก็แคว้นหวา แม่เจ้า สามคนนั้น ไม่ใช่จอหงวนสามปีล่าสุดของแคว้นหวาหรือ? แคว้นหวาก็หน้าไม่อายเสียจริง ส่งจอหงวนทั้งสามปีมาเสียอย่างนั้น"กู้ชูหน่วนหันไปมองทูตจากสามแคว้นที่กำลังทักทายกัน ดวงตาสุกใสนั้นฉายแววเย็นชาที่แทบมองไม่เห็นแค่งานประลองศิลปะ เหตุในต้องยกโขยงบัณฑิตมามากมายบานนี้งานประลองศิลปะปีนี้เกรงว่าจะมีอะไรไม่ชอบมาพากลเหล่าคนจากสำนักบัณฑิตหลวงที่อยู่ด้านหลังถกเถียงกัน"แปลกนัก งานประลองศิลปีก่อนหน

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 67

    เฮือก...ทั้งงานมีแต่เสียงถอนหายใจตกตะลึงประสาทอันฉับไวของกู้ชูหน่วนสัมผัสได้ว่าร่างของเยี่ยเฟิงที่นั่งหลังตรงพลันแข็งทื่อ ลมหายใจไม่เป็นจังหวะในแววตาของทูตจากทั้งสามแคว้นแฝงไปด้วยความประหลาดใจแม้แต่เทพหมากล้อมและเซียนกวียังเลิกคิ้วเหล่าทูตแคว้นเย่ตกใจพากันเกลี้ยกล่อม "มิได้พ่ะย่ะค่ะฮ่องเต้ กระดิ่งภินวิญญาณเป็นสมบัติแห่งแคว้นเย่ที่สืบทอดกันมา แต่เดิมจะมอบให้ฮ่องเต้องค์ปัจจุบันเท่านั้น ของล้ำค่าเช่นนี้ จะมอบให้ผู้อื่นตามพระทัยไม่ได้นะพ่ะย่ะค่ะ""ขอพระองค์โปรดถอนราชโองการด้วยเถิด"กู้ชูหน่วนเข้าใจในทันใดคงเป็นเพราะทูตจากทั้งสามแคว้นรู้ก่อนหน้าว่าฮ่องเต้จะประทานกระดิ่งภินวิญญาณ ถึงได้ส่งยอดฝีมือมามากมายสินะกู้ชูหน่วนสะกิดมือเอ่ยถาม "เสี่ยวเชียนเชียน กระดิ่งภินวิญญาณคืออะไรรึ?""เหตุใดเจ้าถึงไม่รู้อะไรเลย? ว่ากันว่ากระดิ่งภินวิญญาณชุบชีวิตคนได้ ทั้งยังเพิ่มฝีมือการต่อสู้ ช่วยให้คนครองโลกได้ ว่ากันว่าฮ่องเต้ผู้ก่อตั้งแคว้นเย่ก็ใช้กระดิ่งภินวิญญาณนี้ถึงได้สร้างแผ่นดินแคว้นเย่ได้ ด้วยเหตุนี้กระดิ่งภินวิญญาณจึงเป็นสมบัติล้ำค่าแห่งแคว้นเย่ ตามประวัติจะส่งทอดให้แก่ฮ่องเต้เท่านั้น

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 68

    กู้ชูหน่วนลูบคางไปมาเมื่อกี้อี้เฉินเฟยยิ้มให้เธอหรือ?ไม่รู้ว่าทำไม เธอถึงได้คิดว่าอี้เฉินเฟยตัดสินใจไม่เข้าแข่งขันก็เพราะเธอแต่ละคนจับฉลาก กู้ชูหน่วนเดินเข้าไปจับ เมื่อคลี่กระดาษออก กลับพบว่าบนนั้นไม่มีสิ่งใดเขียนอยู่ขันทีหม่าใบหน้ายิ้มแฉ่ง "คุณหนูสามกู้จับฉลากได้กระดาษเปล่า เข้าสู่การแข่งขันรอบที่สองโดยไม่ต้องแข่งรอบแรก"ทุกคนฮือฮา โดยเฉพาะเหล่าคนจากสำนักบัณฑิตหลวง"แม่เจ้า กู้ชูหน่วนอะไรจะดวงดีปานนั้น ก่อนหน้านี้ก็จับฉลากได้เข้ารอบชิง ตอนนี้ยังจับฉลากผ่านเข้ารอบสองโดยไม่ต้องแข่งรอบแรกอีก หรือว่าเมื่อวานนางจะไปจุดธูปไหว้พระจริงๆ?""สวรรค์เอ็นดูนางเกินไปแล้ว เหตุใดเรื่องดีๆ ถึงเกิดขึ้นแต่กับนาง""จับฉลากได้แล้วอย่างไรเล่า นางก็ยังเป็นคนไม่เอาไหนคนเดิมอยู่ดี เสียดายแทนคนอื่นเสียจริง ของดีต้องมาสูญค่า""เจ้าว่านางโกงหรือไม่?"กู้ชูหน่วนกลอกตามองบนแล้วกลับไปยังที่นั่งของตัวเองนางสาบานต่อฟ้าดินเลยว่าจับได้กระดาษเปล่าเพราะดวงล้วนๆ"การแข่งขันแบ่งออกเป็นฉิน หมากล้อม แต่งกลอน เขียนพู่กัน และวาดภาพ รวมทั้งหมดห้ารอบ ชนะสามในห้าถือว่าเป็นผู้ชนะ ขอเชิญทั้งสิบท่านประจำที่ บัดนี้ขอ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 69

    "แม่หนู เจ้าช่างบ้าบิ่นนัก""ก็ประมาณนั้น""ฝ่าบาท คุณหนูสามกู้มาเพื่อสร้างความวุ่นวายโดยแท้ กระหม่อมขอพระองค์ทรงโปรดตัดสิทธิ์การแข่งขันประลองศิลปะของนางด้วยเถิดพะย่ะค่ะ" ขุนนางคนหนึ่งเอ่ย"เอ๊ะ ท่านพูดเกินไปหรือเปล่า เราเห็นคุณหนูสามกู้มั่นใจเสียปานนั้น ดูท่านางคงมีวิธีเอาชนะยอดฝีมือทั้งหลายได้ เวลาก็ล่วงเลยมามากแล้ว สู้ให้นางลองดูสักตั้งไม่ดีหรือ"หากเป็นคนมีปัญญาสักนิดคงฟังออกฮ่องเต้จงใจให้คุณหนูสามกู้ขายขี้หน้า ถึงได้ไม่ขัดขวางนาง แต่กลับส่งเสริมอีกต่างหาก ดูท่าแล้วฮ่องเต้คงไม่คิดจะไว้หน้าเทพสงครามสักเท่าไรกู้ชูหน่วนหัวเราะเสียงเย็น ยืดเอวบิดขี้เกียจ "เช่นนั้นพวกเจ้าก็มากันให้หมดเลย จะได้ไม่ต้องเสียเวลาข้า รีบหาผู้ชนะ ข้าจะได้กลับไปนอนให้เต็มอิ่ม"เจ๋ออ๋องสบถด่าอย่างดูแคลน "ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง""เหอะ เจ้าเก่งกาจปานนั้น เช่นนั้นก็บอกข้าทีว่าฟ้าสูงเพียงใด แผ่นดินหนาแค่ไหน"เจ้า...""หากเจ้าไม่รู้ก็หุบปากเงียบไปเสีย คิดว่าตัวเองเป็นองค์ชายแล้วสูงส่งนักหรือ ไม่เห็นหัวคนอื่น ก็แค่ชายชั่ววางอำนาจบาตรใหญ่ ""ฝ่าบาท กู้ชูหน่วนวาจาสามหาว กระหม่อมขอพระองค์ทรงลงโทษนางด้วย" เจ๋อ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 70

    ได้แต่เอ่ยเสียงตะกุกตะกัก "ใช่ขอรับ คุณชายอี้พูดถูก"ฮ่องเต้ลำพองใจ ราวกับเห็นภาพกู้ชูหน่วนแก้ผ้าวิ่งแล้วอย่างไรอย่างนั้นซ่างกวานฉู่จิบชาอย่างสำราญ ราวกับไม่สนใจกู้ชูหน่วนกับเจ๋ออ๋องแม้แต่นิดแต่อาจารย์สวีกลับยกมือทุบอก เอ่ยคำผรุสวาท "ต่อหน้าฝ่าบาทและเหล่าทูต คุณหนูสามกู้พูดจาโอ้อวดปานนั้น หากแพ้ขึ้นมาจะทำอย่างไร?"นางคือคู่หมั้นของเทพสงครามเชียวนะ เทพสงครามจะยอมให้คู่หมั้นของตัวเองวิ่งแก้ผ้ารอบสำนักบัณฑิตหรืออาจารย์สวีไม่กล้าแม้แต่จะคิดถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นเจ๋ออ๋องกัดฟันกรอด "ในเมื่อเจ้ารนหาที่ตายเอง เช่นนั้นข้าก็จะพนันกับเจ้า""เริ่มการแข่งขันได้..."ขันทีหม่ากลัวใจกู้ชูหน่วน แต่ละคำที่นางเอ่ยออกมาหาดีไม่ได้เลย ไม่รู้ว่าเจ๋ออ๋องโกรธเป็นฟืนเป็นไฟเพียงใดแล้ว จึงทำได้เพียงเปลี่ยนหัวข้อสนทนาเมื่อได้ยินว่าเริ่มการแข่งขันได้ ทุกคนก็จับพู่กันขึ้นพลางคิดว่าจะวาดสิ่งใดดีกู้ชูหน่วนส่งยิ้มให้เยี่ยเฟิง "เสี่ยวเฟิงเฟิง เช่นนั้น พวกเราก็มาเดิมกันสักตั้ง ดีไหม?"เมื่อได้ยินเสี่ยวเฟิงเฟิงสามพยางค์นั้น ฝ่ามือของเยี่ยเฟิงก็สั่นขึ้นมาโดยไร้สาเหตุปากสีระเรื่อของเขาขยับอ้า "ข้าไม่มีเงิน"

บทล่าสุด

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 262

    เยี่ยเฟิงจัดใหม่อีกรอบ เพื่อให้ดูเป็นระเบียบมากขึ้น มุมปากยกขึ้นเบาๆ "ข้าก็คิดว่างามเช่นกัน""ที่จริงเจ้าไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้ ข้าผู้นี้นั้นเลี้ยงง่ายนัก ผัดกับข้าวอะไรก็ได้มาอย่างสองอย่างก็พอแล้ว เจ้า..."กู้ชูหน่วนยังไม่ทันพูดจบ เยี่ยเฟิงเหลือบมองดูฟ้า ก่อนจะปิดฝาตระกร้าสำรับ ริมปีากแดงระเรื่องขยับเบาๆ "พระอาทิตย์ขึ้นแล้ว จะไม่ทันกาลแล้ว รบกวนเจ้าหลีกทางหน่อย""ห้ะ..."กู้ชูหน่วนตะลึงงันกับข้าวพวกนี้ไม่ได้ให้นางหรอกหรือหรือว่าเขิน จึงจะส่งไปให้ที่ห้องนางอย่างนั้นหรือท่ามกลางความสงสัย เยี่ยเฟิงกลับมาอีกรอบ ก่อนจะปลดผ้าคลุมบนใบหน้าของตนเอง แล้วเอ่ยถาม "แม่นางกู้ สีหน้าข้าดูแย่หรือไม่""ไม่...ไม่หรอก" ก็แค่ตาบวมไปหน่อยก็เท่านั้น"ขอบใจ"เยี่ยเฟิงกล่าวขอบคุณ ก่อนจะหันหลังเดินออกจากโรงเจไป เหลือเพียงกู้ชูหน่วนและฝูกวงที่กำลังมองหน้ากันตาปริบๆนี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่หรือเยี่ยเฟิงไม่เห็นว่านายหญิงอยู่ที่นี่หรอกหรือกู้ชูหน่วนกระแอมสองสามที "เยี่ยเฟิงหน้าบาง พวกเราต้องเข้าใจ ไป กลับห้องไปกินกับข้าวเจที่เยี่ยเฟิงทำกันเถอะ""ขอรับ"ทั้งสองคนเดินตามกันออกไปจากโรงเจ แต่พวกเข

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 261

    "ไม่ใช่ปัญหา จากที่นี่ไปเสี่ยวเหอชุน ใช้เวลาชั่วโมงครึ่งก็ไม่พอ ไม่สู้อยู่ที่นี่ต่ออีกสักวันสองวัน"เอ๊ะ...ไม่ใช่ว่าเยี่ยเฟิงรีบอยากจะกลับไปที่สุดหรอกหรือเหตุใดถึงจะไม่กลับอีกแล้วล่ะต้องมีลับลมคมในเป็นแน่อีกทั้งต้องเป็นเรื่องใหญ่มากด้วย"เจ้า...คงจะไม่ได้คิดสั้นหรอกนะ..." กู้ชูหน่วนหยั่งเชิงเยี่ยเฟิงชะงัก จากนั้นเมื่อรู้ถึงความเป็นห่วงของกู้ชูหน่วน เขาก็เผยยิ้มอ่อนโยนที่เห็นได้ไม่บ่อยนักออกมา"วางใจเถอะ ข้าไม่ได้อ่อนแอถึงเพียงนั้น อีกอย่าง...ข้ายังมีคนในครอบครัวให้ต้องดูเล" นอกจากท่านยาย ยังมีท่านพ่อท่านแม่ที่ล้วนแต่ต้องการการดูแลจากเขาทั้งสิ้นแม้เขาจะไม่สามารถเปิดเผยตัวคนกับท่านพ่อท่านแม่ได้ แต่เขาจะคอยอธิษฐานให้พวกเขาลับหลังอยู่เงียบๆกู้ชูหน่วนโล่งใจ "รีบบอกแต่แรกสิ เจ้าจะซื้อกับข้าวอะไรบ้าง ต้องการให้ข้าช่วยหรือไม่""ไม่ต้อง ข้าไปคนเดียวก็พอ อย่างไรก็ชินแล้ว""ได้ มีสิ่งใดต้องการให้ช่วยก็บอกได้เลย""อืม"แผ่นหลังผอมบางของเยี่ยเฟิงหายไปจากในวัด กู้ชูหน่วนลูบปลายคางพลางพึมพำกับตัวเอง "เสี่ยวฝูกวง เจ้ารู้สึกบ้างไหมว่าเยี่ยเฟิงมีบางอย่างไม่ปกติ""มีด้วยหรือ ข้าน้อย

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 260

    กู้ชูหน่วนถือหญ้าตี้อวี้ไว้ในมือ แต่กลับไม่มีอารมณ์ที่จะฟื้นฟูใบหน้าเลยแม้แต่น้อย จึงโยนหญ้าตี้อวี้กลับเข้าไปในแหวนปริภูมิ แล้วไปที่ศาลาในวัดเพื่อปล่อยใจให้ว่างเปล่าเพียงลำพังฝูกวงไม่รู้ว่าปรากฏตัวข้างกายนางเมื่อใดและปลอบโยนว่า "นายหญิง คุณชายเยี่ยเฟิงจิตใจดี สวรรค์จะไม่ทอดทิ้งเขาแน่นอน"กู้ชูหน่วนยิ้มเยาะข้ากำหนดชะตาของข้าเอง ไม่ใช่สวรรค์นางไม่เคยเชื่อสวรรค์หากสวรรค์มีตา ก็คงส่งคนที่รังแกเขาลงนรกไปนานแล้ว จะลอยหน้าลอยตาเช่นนี้ได้อย่างไร"ฝูกวง ช่วยข้าทำอะไรสักหน่อยได้หรือไม่""นายหญิงเชิญสั่ง ข้าจะทำทุกอย่าง""ช่วยข้าสืบประวัติของเยี่ยเฟิง ข้าอยากรู้ว่าพ่อแม่ที่แท้จริงของเขาคือใคร" บางทีการพบพ่อแม่ที่แท้จริงอาจช่วยบรรเทาใจที่ปวดร้าวลงได้บ้าง"ขอรับ ข้าน้อยจะสืบหาประวัติของคุณชายเยี่ยให้ได้ และจะรีบมารายงานข่าวดีให้นายหญิงทราบ""ได้"เวลาผ่านไปหลายถ้วยน้ำชา ประตูห้องของเยี่ยเฟิงก็เปิดออกกู้ชูหน่วนส่งสายตาให้ฝูกวง เป็นสัญญาณให้ตามนางไปโดยเร็ว เพื่อหลบเลี่ยงไม่ให้เยี่ยเฟิงบังเอิญเจอพวกเขา ทำให้ศักดิ์ศรีของเขาถูกทำลายลงไปอีก เพราะตาของเขาบวมแดงมาก พวกเขาพยายามจะทำเป็นไม่ส

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 259

    เยี่ยเฟิงในใจมีความรู้สึกบางอย่างที่ร้องเรียกให้เขาไปปรากฏตัวแม้เขาจะกลัว ก็อยากเปิดเผยตัวตนแต่คำพูดของซิ่งเอ๋อร์ทำให้ขาที่ยกขึ้นมาแล้วก้าวออกไปไม่ได้อีกต่อไปองค์ชาย......องค์ชายแห่งแคว้นฉู่?แล้วนางก็คือ......ฮองเฮาแห่งแคว้นฉู่?ฮองเฮาฉู่เอ็ดว่า "ระวังจะมีคนได้ยิน""เหนียงเหนียงทรงระแวงมากเกินไป ที่นี่ไม่มีใครหรอก พวกเรามาไหว้พระที่วัดไป๋อวิ๋นทุกปีก็ไม่เคยเห็นคนร้ายเลยสักคน ที่นี่ดูแลดีมากเพคะ""ถึงอย่างนั้นก็ไม่ควรพูดจาไร้สาระ""เพคะๆ ๆ บ่าวพูดผิดไป แต่ฮ่องเต้ทรงแต่งตั้งพระสนมนับสามพันคนไว้ประดับบารมี แต่ก็ไม่เคยทรงโปรดปรานพระสนมองค์ใดนอกจากพระองค์เลย พระองค์กับฮ่องเต้ทรงมีองค์ชายเพียงองค์เดียว พระองค์มีสถานะสูงส่งมาก สวรรค์จะไม่คุ้มครองพระองค์แล้วจะคุ้มครองใครเล่าเพคะ""ข้าเพียงเขาปลอดภัยและมีสุขภาพดีก็พอแล้ว ส่วนเขาจะเป็นองค์ชายที่สูงส่งที่สุดในแคว้นฉู่หรือไม่ ไม่สำคัญแล้ว" ฮองเฮาฉู่ปักธูปลงกระถาง แล้วถอนหายใจด้วยความโศกเศร้าเยี่ยเฟิงพิงประตูอย่างไร้เรี่ยวแรง น้ำตาไหลอาบแก้มใบหน้าของเขาซีดเผือกทันทีองค์ชาย......สูงส่งมาก......แต่เขา......เขาก็แค่ของเล่นของนาย

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 258

    ขณะที่เยี่ยเฟิงเดินมาถึงประตูวิหารใหญ่ ซิ่งเอ๋อร์และฮองเฮาฉู่ได้พูดคุยกัน ทำให้ร่างกายของเขาสั่นสะท้านอย่างรุนแรง ม่านตาหดเล็กลง ราวกับว่าเท้าของเขามีน้ำหนักเป็นพันชั่ง เขาจึงก้าวต่อไปไม่ได้"ฮูหยิน ท่านชายน้อยหายตัวไปนานหลายปีแล้ว แม้ว่ายามนี้เขาจะยืนอยู่ตรงหน้าท่าน ท่านก็อาจจะจำเขาไม่ได้ จะทำอย่างไรดีเจ้าคะ?""ยามนั้นที่ข้าคลอดบุตรยากและสลบไป ข้าเห็นดอกเหมยที่บริเวณไหล่ซ้ายด้านหลังของเขา ดอกเหมยที่กำลังเบ่งบาน ข้ายังคิดว่าทำไมเด็กชายถึงมีปานรูปดอกเหมยที่ไหล่ได้"ปาน......ดอกเหมย?เยี่ยเฟิงหายใจเร็วขึ้นเขาใช้ความพยายามอย่างมากจึงสามารถยืนอยู่หลังประตูได้ร่างกายเย็นเฉียบแนบชิดประตู ราวกับว่าหากไม่แนบชิดประตู เขาก็จะยืนไม่ไหวไหล่ซ้ายด้านหลังของเขา......ก็มีปานเป็นรูปดอกเหมยเช่นกัน และยังเป็นดอกที่กำลังเบ่งบาน......แม่เฒ่าบอกว่า ตั้งแต่เขาเกิดก็......มี......"แค่ปานรูปดอกท้อ จะสามารถระบุตัวท่านชายน้อยได้อย่างไร? แล้วหากมีคนปลอมตัวล่ะเจ้าคะ?""เป็นไปไม่ได้ ดอกเหมยดอกนั้นแตกต่างจากดอกเหมยอื่นๆ กลีบดอกน้อยกว่าดอกเหมยทั่วไปหนึ่งกลีบ นอกจากข้าและแม่นมแล้ว ไม่มีใครรู้เรื่องนี้

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 257

    เมื่อได้ยินคำพูดของสาวใช้ เยี่ยเฟิงหันมองเล็กน้อยฮูหยินผู้นั้นกับลูกชายแท้ๆ ถูกพรากจากกันมานานถึงสิบแปดปี และเขาก็พลัดพรากจากพ่อแม่แท้ๆ มาสิบแปดปี นางอาจเป็นแม่ของเขาใช่หรือไม่?เมื่อมองดูฮูหยินอีกครั้ง ท่าทางสง่างาม พูดจาไพเราะ แม้จะอายุมากแล้ว แต่ใบหน้าก็ดูแลอย่างดี ไม่เหมือนคนยากจนเลยฮูหยินสูงศักดิ์เช่นนี้ จะเป็นแม่แท้ๆ ของเขาได้อย่างไรกันเยี่ยเฟิงหัวเราะเสียงเบาเขาคงคิดถึงพ่อแม่จนเพี้ยนไปแล้วฮองเฮาฉู่ตาแดงก่ำ ความเศร้าโศกแวบผ่านไป "ยามนั้น ลูกชายคนเล็กของข้าหลินเอ๋อร์ถูกขโมยไปที่นอกเมืองชิงหง ราชครูบอกว่า หากอยากจะตามลูกชายคนเล็กกลับมา ก็ต้องมาไหว้พระที่วัดไป๋อวิ๋น ราชครูชำชองวิชาห้าธาตุแปดทิศ สามารถมองเห็นอดีตและอนาคตได้ เขาไม่โกหกข้าแน่นอน""แต่ท่านมาไหว้พระที่นี่ทุกปี และเมื่อก่อนก็มาสวดมนต์ที่วัดไป๋อวิ๋นทุกวัน ไม่ใช่ว่ายังหาเด็กชายคนนั้นไม่เจอหรอกหรือ"พอนึกถึงเรื่องในอดีต ซิ่งเอ๋อร์ก็ร้องไห้เมื่อเด็กน้อยถูกขโมยไป ฮองเฮาก็คิดถึงทุกวัน กินไม่ได้ นอนไม่หลับ ในช่วงสิบปีแรก อยู่ที่วัดไป๋อวิ๋นสวดมนต์ทุกวัน เพื่อเพิ่มบุญให้กับท่านชายน้อย หวังว่าจะได้กลับมาเป็นครอบครัวก

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 256

    กู้ชูหน่วนพยักหน้าเบาๆ “เช่นนั้นไปพักที่วัดไป๋อวิ๋นก่อนก็แล้วกัน”กู้ชูหน่วนก็ไม่รู้จะปลอบเยี่ยเฟิงอย่างไรเรื่องแบบนี้ต้องให้เขาคิดเองนางก็ไม่ได้ตั้งใจจะเห็นฉากนั้น เป็นเรื่องบังเอิญล้วนๆเยี่ยเฟิงแม้จะไม่ได้พูดอะไรสักคำ แต่นางก็รู้สึกได้เขามองนางเป็นเพื่อน และเพราะว่ามองนางเป็นเพื่อน จึงไม่อยากให้นางเห็นฉากที่น่าอับอายที่สุดของเขา“ร่างกายยังไหวหรือไม่? ห่กไม่ไหว เราพักที่นี่ก่อนก็ได้”“ไหว ไปกันเถอะ ประเดี๋ยวเหล่าทหารจะไล่ตามมา”เยี่ยเฟิงเดินนำไปด้วยใบหน้าเรียบเฉย ไม่ปรากฏสีหน้าใดๆฝูกวงอธิบาย “วันนั้นในป่าไผ่ที่พลัดหลงกับนายหญิง พวกข้าเจอกับนายท่านของเผ่าหมอหลายคน พวกข้ายืนหยัดต่อสู้ไม่ไหว เยี่ยเฟิงขาช้าก็เลยถูกจับไป ข้าน้อยหานายหญิงไม่เจอ จึงแอบแฝงตัวเข้าไปในเผ่าหมอเพื่อไปช่วยเยี่ยเฟิง แต่ไม่นึกว่าจะเจอนายหญิงในเผ่าหมอ เรื่องต่อจากนั้น นายหญิงก็รู้แล้ว”“อืม ไปกันเถอะ”วัดไป๋อวิ๋น ที่นี่เป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดของวัดชิงหง มีผู้มาทำกราบไหว้ไม่ขาดสาย ภายในวัดมีสามเณรน้อยเดินไปมาให้เห็นกู้ชูหน่วนประนมมือด้วยท่าทางนอบน้อม "ท่านเณรน้อย ได้ยินมาว่าวัดไป๋อวิ๋นศักดิ์สิทธิ์มาก พ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 255

    เมื่อพลังของค่ายกลลดลง กู้ชูหน่วนจึงพบทางลับเข้าไปได้แต่ทางลับนี้กลับไม่ใช่ทางลับที่เพิ่งแยกจากหัวหน้าเผ่าหมอมานางรู้สึกสงสัยค่ายกลนี้แปลกประหลาดอะไรเช่นนี้?เมื่อครู่ยังป้องกันได้อย่างแน่นหนา ไม่มีที่ให้โจมตี แต่ยามนี้กลับกลายเป็นค่ายกลที่พุพังไปได้?มีใครมาช่วยนางทลายค่ายกลไปครึ่งหนึ่งหรือไม่?มีใครในเผ่าหมอช่วยนางทลายค่ายกลหรือไม่?หรือว่าจะเป็นอาโม่?"นายหญิง เราพบทางลับเข้าไปแล้ว ทำไมยังไม่รีบออกไป หรือว่าจะต้องตามหาอะไรอีกหรือ" ฝูกวงถามด้วยความมึนงงไม่ไกลนัก หัวหน้าเผ่าหมอยกมุมปากด้วยรอยยิ้มที่หยิ่งยโส แล้วยกมือขาวขึ้นเบาๆ ดมกลิ่นดอกไม้ในมือด้วยท่าทางกระหาย และเปล่งเสียงออกมาจากมุมปาก"โง่นัก นางกำลังตามหาข้าอยู่แน่นอน หากหาข้าไม่เจอ นางจะหนีไปได้อย่างไร"กู้ชูหน่วนกวาดตามองไปรอบๆ ที่นี่เงียบสงบ ไม่มีเงาของใครเลย แต่ไกลออกไปมีแสงไฟลุกโชน ไม่รู้ว่ามีทหารจำนวนเท่าใดกำลังตามล่าพวกนางอยู่นางเหลือบมองทางลับ แล้วมองไปยังแสงไฟที่อยู่ไกลออกไป กัดฟันแน่น "ไป"อาโม่เดินเล่นในเขาดูดวิญญาณราวกับเดินเล่นในสวนของตัวเอง คงจะรอนางไม่ไหวแล้วน่าจะจากไปแล้วแล้วนางก็รู้ทางลับหลาย

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 254

    กู้ชูหน่วนเดินวนกลับมาอีกรอบนางเอามือลูบขมับที่ปวดตุบ แล้วเอ่ยออกมาเสียงเบาว่า "พวกเราติดอยู่ในค่ายกลแล้ว และเป้นค่ายกลที่ทรงพลังมากๆ ด้วย""นายหญิง ท่านมีวิธีทลายค่ายกลนี้หรือไม่"กู้ชูหน่วนส่ายศีรษะนางไม่เคยเห็นค่ายกลที่ซับซ้อนขนาดนี้มาก่อนในชีวิต หากจะให้ทลายคงต้องใช้เวลาอย่างน้อยสามถึงห้าปี"หากทางลับออกไปไม่ได้ ข้าขออาสาคุ้มกันให้พวกเจ้าออกทางประตูใหญ่""ข้าจำได้ว่ามีทางลับหลายทาง ไปทางนี้กันก่อนดีกว่า แล้วค่อยออกทางประตูใหญ่""ได้"หัวหน้าเผ่าหมอถูกตบหน้าเข้าอย่างจังเซวี่ยซาก้มศีรษะลงต่ำ แทบอยากหายตัวไปเลยเสียประเดี๋ยวนี้เขาคิดว่าหัวหน้าเผ่าหมอจะโกรธ แต่กลับได้ยินเสียงของหัวหน้าเผ่าหมอที่เรียบเฉยดังขึ้น"ถูกต้องแล้ว ไปทางนี้แหละ เมื่อครู่ข้ารอนางอยู่ที่ทางลับนั่นเอง"เซวี่ยซา "เอิ่ม......""เซวี่ยซา ไปดูกันดีกว่า""ขอรับ"เซวี่ยซาเดินตามหัวหน้าเผ่าหมอ และตามพวกกู้ชูหน่วนติดๆทว่าพวกกู้ชูหน่วนเดินวนไปวนมา ราวกับอยู่ในเขาวงกตขนาดใหญ่ นางทำเครื่องหมายไว้ตลอดทาง แต่ก็ยังวนกลับมาอยู่ดี หากไม่ใช่เพราะพวกเขาเปิดทางให้ คงปะทะกับยามเฝ้าเวรไปแล้วเขาเตือนด้วยความระมัดร

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status