Share

บทที่ 384

Penulis: เย่ชิงขวง
บนเวทีแสดงวิทยายุทธสำนักบัณฑิตหลวง เหล่าบัณฑิตที่มาเข้าร่วมงานประชุมสวินหลงยืนเรียงกันเป็นห้าแถว อาจารย์บุ๋นบู๊สิบกว่าคนยืนอยู่บนเวที ปากอ้าๆ หุบๆ แนะนำกฎของงานประชุมสวินหลง

"บัณฑิตที่มายืนอยู่ ณ ที่นี้ได้ ล้วนแต่เป็นผู้ที่สำนักบัณฑิตหลวงคัดสรรมาอย่างดี ปีที่ผ่านมามีเพียงบัณฑิตปีนั้นๆ เท่านั้นที่สามารถเข้าร่วมงานประชุมสวินหลงได้ แต่ด้วยพระมหากรุณาธิคุณ เพื่อที่จะเฟ้นหาผู้มีความสามารถ จึงได้อนุญาตให้บัณฑิตยอดเยี่ยมของปีก่อนๆ ก็สามารถเข้าร่วมได้เช่นกัน"

"เขาสวินหลงเป็นหุบเขาแห่งมหาสมบัติของแคว้นเย่ ทุกคนต่างรู้ดี ในอดีตโบราณกาล ที่นั่นเคยเกิดสงครามใหญ่หลายครั้ง ถือเป็นร่องรอยของสนามรบที่หลงเหลือจากโบราณมา ข้างในไม่ได้มีเพียงแค่สัตว์ป่าดุร้าย ดอกไม้ประหลาดหรือหญ้าพิษ ยังมีสมบัติต่างๆ ที่หลงเหลืออยู่ ในนั้นเต็มไปด้วยสมบัติล้ำค่าขั้นสองขึ้นไป หากโชคดี อาจหาสมบัติล้ำค่าขั้นสี่เจอก็เป็นได้"

"ไม่ว่าพวกเจ้าจะพบสมบัติล้ำค่าใดในเขาสวินหลง ล้วนแต่จะกลายเป็นของพวกเจ้าเอง หากพวกเจ้าโชคไม่ดี ไม่พบสิ่งใดเลย เช่นนั้นก็จะไม่ได้อะไรเลย พวกเจ้ามีเวลาในเขาสวินหลงสามวัน หลังจากสามวัน งานประชุมสวินหลงครั้
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 385

    มองออกไป เหล่าบัณฑิตของสำนักบัณฑิตหลวงกระจัดกระจายกันไปตามยอดเขาต่างๆไม่ไกลออกไปจากพวกเขา จู่ๆ ก็มีเสียงร้องตกใจดังขึ้น "คุณพระช่วย หลี่เหิงพบใบอู๋หย่าเซียนแล้ว โชคดีอะไรเช่นนี้ เพิ่งจะเข้ามาถึงเขาสวินหลงก็พบของล้ำค่าที่ดีเช่นนี้แล้ว น่าอิจฉายิ่งนัก""นั่นน่ะสิ ใบอู๋หย่าเซียนเป็นสุดยอดยาสมุนไพรที่นำไปกลั่นเป็นยาเม็ดได้ ตามที่ได้ยินมาขอเพียงแค่มีใบอู๋หย่าเซียน ก็จะสามารถกลั่นยาชั้นสูงได้อย่างง่ายดาย ผู้คนตั้งมากมายวอนขอเท่าใดก็ไม่อาจได้มา เขาโชคดีเสียจริง""ไปๆๆ พวกเราก็รีบไปตามหากันเถอะ ดูสิว่ายังมีสมบัติล้ำค่าดีๆ อะไรอีกบ้างหรือไม่"อวี๋ฮุยพูดด้วยความอิจฉา "หลี่เหิงทำบุญมาด้วยอะไร มาถึงก็เจอของดีขนาดนี้"หลิ่วเยว่อวี๋ฮุยอยากไปลองหาในที่ที่หลี่เหิงเพิ่งเจอของล้ำค่าเมื่อครู่นี้อย่างละเอียดอีกที ดูว่าจะเก็บสิ่งใดที่เล็ดลอดไปได้บ้างหรือไม่ ทว่ากู้ชูหน่วนกลับกระชากพวกเขาเอาไว้ด้วยมือเดียว แล้วดึงพวกเขาไปซ่อนที่ด้านล่างเนินเขาเพิ่งจะซ่อนเสร็จ พลันมีแรงฝ่ามือพุ่งมาจากไกลๆ กระแทกเข้ากลางหลังหลี่เหิงอย่างจัง"เฮือก......"เขากระอักเลือดออกมา พลางมองไปทางคนร้ายตงฟางเจ๋ออย่างไม่เชื่อสา

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 386

    กู้ชูหน่วนดวงตาฉายประกายวับหนึ่ง ก่อนจะจ้องไปที่กระดิ่งภินวิญญาณไม่รู้เพราะเหตุใด นางมักจะรู้สึกอยู่เสมอว่ากระดิ่งภินวิญญาณสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง ชี้ให้นางเดินไปด้านหน้าด้านหน้ามีบัณฑิตของสำนักบัณฑิตหลวงรวมตัวอยู่จำนวนไม่น้อย พร้อมทั้งมีเสียงร้องตกใจที่หาของล้ำค่าเจอออกมาจากในนั้นอวี๋ฮุยพูดด้วยความร้อนรน "ลูกพี่ พวกเราก็ไปดูกันเถอะ ดูว่าจะเจออะไรบ้างหรือไม่""จะรีบร้อนไปใย ที่แห่งนี้มีมุมอับซ่อนเร้นอยู่ ฝั่งซ้ายมือไม่ไกลออกไปยังมีถ้ำอีกแห่ง พวกเราไปที่ถ้ำกันก่อน""ห้ะ...ไปที่ถ้ำทำไม"เซียวอวี่เชียนเขกกะโหลกพวกเขาคนละที "ยัยขี้เหร่สั่งให้พวกเจ้าไป พวกเจ้าก็ไป เหตุใดถึงมากความเช่นนี้"ทั้งสี่คน ชายสามหญิงหนึ่งเดินย่องเข้าไปถึงถ้ำ ถ้ำไม่ใหญ่มาก จุได้เพียงแค่พวกเขาสี่คน รอบๆ ที่แห่งนี้ล้วนแต่เป็นผนังดิน หลิ่วเยว่อวี๋ฮุยพลิกแผ่นดินหาอยู่ครึ่งค่อนวันก็ไม่เจอของล้ำค่าใด ในใจเริ่มร้อนรนขึ้นมาเล็กน้อยกู้ชูหน่วนหยิบขวดยาออกมาสิบกว่าขวด โยนลงตรงหน้าพวกเขา "แบ่งกันเองแล้วกันนะ ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็จำเป็นต้องเพิ่มความแข็งแกร่งอยู่เสมอ มีแค่แข็งแกร่งพอ ถึงจะไม่โดนผู้อื่นรังแก"เซียวอวี่เช

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 387

    แต่เหตุใดนางกินยาไปไม่ต่ำกว่าร้อยเม็ด อีกทั้งยังเป็นยาชำระไขกระดูกชั้นดีทั้งหมด ถึงจะสามารถเปิดประตูชั้นแรกไปได้แบบถูๆ ไถๆหลิ่วเยว่อวี๋ฮุยพูดด้วยความตื่นเต้น "ลูกพี่ ท่านดีกับพวกข้ายิ่งนัก ชีพจรยุทธของข้าเพิ่มขึ้นมาอีกเท่าหนึ่งแล้ว น่าเสียดายที่ข้าสติปัญญาโง่เขลา กินยาชำระไขกระดูกไปตั้งสองเม็ดแล้วยังเพิ่งจะทำลายขีดจำกัดได้แค่ชั้นเดียว"กู้ชูหน่วนรู้สึกว่า ประโยคนี้ของพวกเขาทั้งสองกำลังโจมตีนางอยู่หากพวกเขาสติปัญญหาไม่ดีเช่นนั้นหากรู้ว่านางกินยาไปร้อยกว่าเม็ด ถึงจะฝืนเปิดชีพจรยุทธชั้นแรกได้ พวกเขาจะไม่ตกใจแย่เลยหรือกู้ชูหน่วนรีบเปลี่ยนบทสนทนา "ยังมีอีกตั้งหลายเม็ด เหตุใดไม่กินให้เยอะๆ หน่อยเล่า ดูซิว่าจะขึ้นไปได้ถึงชั้นไหน"เซียวอวี่เชียนกลอกตามองบนใส่นางไปหนึ่งที "เจ้าคิดว่ายาชำระไขกระดูกคือข้าว จะกินเท่าไหร่ก็ได้หรืออย่างไร พวกข้ากินไปสองสามเม็ดก็ถึงขีดจำกัดแล้ว ขืนกินต่อไป ร่างมีแต่จะระเบิดตาย"เอิ่ม......เช่นนั้นนางกินติดต่อกันเจ็ดวัน ในปริมาณหลายร้อยเม็ด เหตุใดไม่เห็นเป็นไรเลย"ยัยขี้เหร่ ไม่เช่นนั้นเจ้าก็กินสักเม็ดสิ ดูว่าจะเปิดชีพจรยุทธได้หรือไม่ พวกข้าสามคนจะใช้ปรา

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 388

    เซียวอวี่เชียนตอกกลับไป "ขำๆๆ มีสิ่งใดน่าขำ พวกข้าเต็มใจจะเก็บหญ้า ไปล่วงเกินอะไรพวกเจ้าหรือ ไปๆๆ รีบไปให้พ้น"หลิ่วเยว่อวี๋ฮุยเองก็รีบพากันไล่ผู้อื่นไป ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่เรื่องมีหน้ามีตาอะไร"ยัยขี้เหร่ เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าทำลายขีดจำกัดชีพจรยุทธได้แล้ว ยามนี้เป็นชั้นที่เจ็ดแล้ว รอข้าทำลายขีดจำกัดไปถึงชั้นที่เก้า ก็จะสามารถเข้าสู่ขั้นหนึ่งได้แล้ว หลังจากนั้นก็จะได้ไม่ต้องกลัวมู่หรงเฉินและตงฟางเจ๋ออีก""ลูกพี่ พวกข้าสองคนก็ทำลายขีดจำกัดขึ้นอีกไปชั้นแล้ว นี่คือยาสร้างฐานปราณที่ยังเหลืออยู่ ท่านรีบเก็บไว้ให้ดี ยานี้มูลค่าสูงนัก หากบัณฑิตคนอื่นๆ ในสำนักบัณฑิตรู้เข้า ไม่แน่อาจจจะมาแย่งเช่นไรก็ได้"นอกจากอิจฉา กู้ชูหน่วนก็มีแต่ความอิจฉายาสร้างฐานปราณเพียงเม็ดเดียวพวกเขาก็สามารถทำลายขีดจำกัดได้แล้ว เหตุใดนางยังค้างอยู่ที่ชั้นที่สองของทางยุทธอยู่อีก ไม่ว่านางจะกินยาไปเยอะเพียงใด ก็ไม่มีวี่แววว่าจะทำลายขีดจำกัดได้เลยหลิ่วเยว่เอ่ย "ลูกพี่ พวกเรายังต้องหาที่หลบซ่อนจากมู่หรงเฉินและตงฟางเจ๋อหรือไม่"กู้ชูหน่วน "……"นางมายังเขาสวินหลง เพื่อจะซ่อนตัวจากพวกเขาสองคนเสียเมื่อไหร่"พวกเจ้าลองด

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 389

    "พวกเขาเพิ่งบอกไปไม่ใช่หรือว่าทางทิศตะวันออกเฉียงใต้มีสัตว์ร้ายน่ะ อีกอย่างทิศตะวันออกเฉียงใต้มีคนอยู่น้อย หากพวกตงฟางเจ๋อตามมาจะทำเช่นไร"กู้ชูหน่วนฉีกยิ้มกว้าง ดวงตาเต็มไปด้วยแผนการเซียวอวี่เชียนและคนอื่นๆ รู้สึกเย็นวาบที่หลังขึ้นมาอย่างประหลาด นางผู้นี้กำลังวางแผนอะไรอีกแล้ว"หลิ่วเยว่ อวี๋ฮุย พวกเจ้าสองคนเก็บสมุนไพรต่อไป เก็บในที่ที่มีคนอยู่เยอะ เซียวอวี่เชียน เจ้ามากับข้า""ห้ะ...พวกเราเก็บมาเยอะขนาดนี้แล้ว ยังต้องเก็บอีกรึ""นั่นน่ะสิ พวกเรามาหาสมบัติล้ำค่าที่เขาสวินหลงนะ เก็บแบบนี้ต่อไป พวกเราไม่มีเวลาหาสมบัติล้ำค่าแน่""สมบัติมีอยู่ทุกที่ไม่ใช่หรือ พวกเขามองไม่ออก ข้าเชื่อว่าพวกเจ้าจะต้องมีสายตาที่แหลมคมเป็นแน่ รอข้ากลับมา พวกเจ้าต้องเก็บให้ได้อย่างน้อยสองถุงกระสอบใหญ่ หากเก็บไม่ได้ พวกเจ้าได้เจอดีแน่" กู้ชูหน่วนกำลังยิ้ม ทว่าภายในรอยยิ้มแฝงไว้ด้วยความข่มขู่ไม่รอหลิ่วเยว่อวี๋ฮุยตอบตกลง กู้ชูหน่วนดึงตัวเซียวอวี่เชียนไปแล้ววิทยายุทธของเซียวอวี่เชียนไปถึงชั้นที่เจ็ดของเส้นทางยุทธแล้ว ขอเพียงแค่ทำลายขีดจำกัดชั้นที่เก้าได้ ก็จะสามารถเข้าสู่ขั้นหนึ่ง แน่นอนว่าความสามารถในก

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 390

    มู่หรงเฉินและตงฟางเจ๋อตะลีตะลาน เสือดาวมีมากเกินไป อีกทั้งยังล้วนแต่เป็นสัตว์อสูรขั้นหนึ่ง เหตุใดเขาสวินหลงถึงได้มีสัตว์อสูรมากมายเช่นนี้ตรงหน้าคือเหว กู้ชูหน่วนมีความกล้าที่จะกระโดดลงไป แต่พวกเขากลับไม่มีความกล้าพอ ทั้งสองคนเล็งหาโอกาส วิ่งหนีไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้พวกเขารวดเร็วว่องไว ทว่าความเร็วของเสือดาวไวยิ่งกว่า ที่ซวยไปกว่านั้นคือ ทิศตะวันตกเฉียงใต้ก็มีเสือดาวอีกกลุ่มกระโจนเข้ามาด้วยเช่นกัน หน้าของมู่หรงเฉินพลันเปลี่ยนสี ผลักตงฟางเจ๋อเข้าไปแทบจะในทันทีด้วยสัญชาตญาณ ส่วนตนวิ่งเผ่นออกไปอีกทางตงฟางเจ๋อผู้น่าสงสารถูกมู่หรงเฉินผลักเช่นนี้ ต่อให้อยากวิ่งหนีเพียงใดก็ไม่ทันแล้ว ถูกกลุ่มสัตว์อสูรฉีกเป็นชิ้นๆ และเขมือบทั้งเป็นทันที"ตึงตึงตึง......"ฝูงเสือดาวพากันไล่ไปทางมู่หรงเฉิน พื้นดินสั่นไหวไม่หยุดราวกับเกิดแผ่นดินไหวด้านล่างหน้าผากที่อยู่ตรงครึ่งหนึ่งของเชิงเขากู้ชูหน่วนมือข้างหนึ่งคว้าเถาวัลย์ มืออีกข้างโอบเอวเซียวอวี่เชียนเอาไว้ สายตาเยือกเย็นทอดมองขึ้นไปยังทะเลหมอก ภายในดวงตาเผยให้เห็นความหนาวเหน็บเซียวอวี่เชียนหัวใจเต้นตึกตักยอดฝีมือขั้นหนึ่ง ถูกสัตว์อสูรกินไปอย

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 391

    นางเปิดแหวนปริภูมิ หยิบสารหนูออกมาทาบนร่างของนางและเซียวอวี่เชียน"ถือโอกาสตอนที่มันกำลังหลับอยู่ พวกเราแอบเข้าไปหยิบผลึกหิมะออกมา หากมันไม่รู้สึกตัว พวกเราค่อยอ้อมเข้าไปในถ้ำ หากมันรู้ตัวแล้ว เจ้าก็ฉวยโอกาสนี้เข้าถ้ำไป ค้นหาดูว่าด้านในมีสมบัติล้ำค่าอะไรหรือไม่""แล้วเจ้าจะทำเช่นไร""วางใจ ข้าย่อมมีวิธีรับมือของข้า""ไม่ได้ เจ้าเพิ่งจะเปิดชีพจรยุทธได้ งูหลามสองหัวตัวนี้เป็นถึงสัตว์อสูรขั้นสอง เจ้ารับมือไม่ไหวหรอก"กู้ชูหน่วนสองมือกอดออก มองเขาด้วยรอยยิ้มมีเลศนัย สายตาคู่นั้นดูเหมือนกำลังหัวเราะเยาะ นางอ่อนแอขนาดนั้นเสียเมื่อไหร่เซียวอวี่เชียนชะงัก รีบชิงพูดก่อน "ข้าเข้าไปขโมยผลึกหิมะ เจ้าแอบเข้าไป เอาแบบนี้แหละ""ได้สิ"ได้สิ ?ง่ายขนาดนี้เลยหรือนี่ไม่กลัวว่าจะเกิดเรื่องกับเขาเลยหรืออย่างไรมองดูสายตาของกู้ชูหน่วนอีกครั้ง เต็มไปด้วยความมั่นใจเซียวอวี่เชียนอัดอั้นตันใจ แต่กลับทำได้เพียงแค่ค่อยๆ ย่องไปข้างหน้าเบาๆ พยายามไม่ทำให้งูหลามสองหัวตกใจตื่นห้าก้าว สี่ก้าว สามก้าว...เหลือเพียงแค่สองก้าวก็จะเอาผลึกหิมะมาได้แล้ว ดวงตาเซียวอวี่เชียนเผยให้เห็นความปลื้มปริ่ม ขณะที่กำลั

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 392

    "เจ้าไปก่อน" กู้ชูหน่วนดันเซียวอวี่เชียนไปด้านหน้า จากนั้นพลิกมือขวาออกไป เข็มพิษพลันพุ่งทางไปงูหลามราวกับเม็ดฝนซัดสาดงูหลามตัวนั้นยังคงแข็งแกร่งมั่นคงดุจกำแพง เข็มพิษหลายสิบเล่มพุ่งเข้าไปบนตัวมัน เสมือนพุ่งเข้าใส่เครื่องโลหะ มีแค่เสียงแก๊งแก๊งดังขึ้นก่อนจะร่วงลงมาพร้อมกัน ไม่มีครั้งใดที่โดนเข้าจังๆ"เฮือก......"งูเหลือมไม่กลัวสารเหลือง ลิ้นเป็นแฉกพลันพ่นเปลวไฟที่ลุกโชนออกมาเปลวไฟอุณหภูมิสูงมาก แม้จะอยู่ไกล แต่ก็ยังถูกแผดเผาจนร้อนไปทั้งตัวกู้ชูหน่วนเกือบจะสติหลุด "บ้าเอ้ย นี่มันมังกรไฟหรืองูไฟ เหตุใดถึงพ่นไฟได้ด้วย""ยัยขี้เหร่ ไฟของมันมีพิษ หากโดนตัวอาจจะตายจากพิษและการกัดกร่อนได้"เซียวอวี่เชียนกางพัดออกดังฟรึ่บ ก่อนจะดึงกลไกลทำให้พัดที่ประณีตงดงามกลายเป็นอาวุธในพริบตา พุ่งไปทางหัวของงูหลามพร้อมกับกำลังภายในที่ครุกกรุ่นของเซียวอวี่เชียนงูหลามพ่นไฟลูกโตออกมาอีกครั้ง พัดถูกแรงสั่นสะเทือนปลิวกลับไป หากไม่ใช่เพราะเซียวอวี่เชียนตาเร็วมือไวหลบได้ทันเวลา เกรงว่าคงจะถูกพัดของตนย้อนกลับมาฆ่าเสียแล้วการโจมตีหลายครั้งทำให้งูหลามเดือดดาล ผงาดร่างขึ้นแล้วโฉบลงมาด้วยความเร็วดุจสายฟ้

Bab terbaru

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 450

    ผู้ที่อยู่ข้างกายไม่มีการตอบสนอง กู้ชูหน่วนหันไปด้วยความสงสัย ทว่ากลับเห็นว่าอี้เฉินเฟยหมดสติไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ใบหน้าขาวซีดจนน่ากลัว กู้ชูหน่วนจับชีพจรของเขา กลับพบว่าชีพจรของเขาอ่อนมาก จนใกล้เคียงกับไม่มีชีพจรอยู่แล้ว ที่ทำให้นางตกตะลึงยิ่งไปกว่านั้นคือ พลังชีวิตของเขาดูเหมือนกำลังค่อยๆ สลายไป ชี่ขุ่นมัวภายในร่างแพร่กระจายไปยังเส้นเลือด หรือแม้แต่ไขกระดูกไม่หยุด ทำลายความสมดุลภายในร่างกายของเขา นี่คือบาดแผลที่รุนแรงถึงชีวิต ขืนปล่อยไว้ต่อไป อี้เฉินเฟยมีแต่จะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย ทว่านี่คืออาการป่วยของโรคใด นางเป็นหมอมาหลายปี กลับไม่เคยเห็นมาก่อน ไม่รู้ว่าควรจะรักษาเช่นไร เห็นเลือดสีแดงสดของเขาไหลออกมาไม่หยุด บริเวณที่ถูกเผาไหม้ก็เป็นวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ กู้ชูหน่วนรีบหยิบมุกอุ่นประภพในตัวออกมา กระตุ้นกำลังภายใน ตั้งใจจะใช้มุกอุ่นประภพรักษาอาการป่วยให้เขา ถึงได้เริ่มทำแผลให้เขา "ฟ่อ ฟ่อ......" หัวใหญ่ๆ ของน้องเก้าถูไถไปที่อี้เฉินเฟย ซบไปบนตัวเขาด้วยความอาลัยอาวรณ์ คล้ายสงสาร และกังวล กู้ชูหน่วนเลิกคิ้ว "เจ้ารู้จักอี้เฉินเฟย" "ฟ่อฟ่อฟ่อ..." น้อง

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 449

    ประมุขชิงบาดเจ็บสาหัส นางเองก็เจ็บหนัก เถาวัลย์ก็ยังอยู่ในสภาพการณ์สุ่มเสี่ยง บริเวณที่อยู่ไม่มีแม้แต่จุดที่จะยืนได้ พวกกู้ชูหน่วนกำลังเป็นรอง "ข้ายังมีอาวุธลับติดตัวอยู่ ก็แค่หนอนผีเสื้อตัวเดียว ข้าจัดการได้" กู้ชูหน่วนตั้งสติ หยิบอาวุธลับออกมาจากแหวนปริภูมิ ทว่ากลับได้ยินเสียงที่สั่นเครือของประมุขชิง "ไม่ใช่ตัวเดียว แต่หลายตัว" "หลายตัว ?" กู้ชูหน่วนเพ่งมองดูดีๆ ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกชาวาบไปทั้งตัว ด้านบนของผาหินอัดแน่นไปด้วยงูเหลือมยักษ์สีขาวสลับดำ เพียงแต่สีของพวกมันใกล้เคียงกับโขดหิน บวกกับที่แต่ละตัวต่างก็กำลังขดตัวหลับอยู่ หากไม่ตั้งใจดูดีๆ ก็มองไม่เห็นแต่อย่างใด งูมากมายขนาดนี้ นางจะฆ่าได้อย่างไร อย่าว่าแต่นางที่ตอนนี้บาดเจ็บหนัก ต่อให้เป็นตอนที่พลังเต็มเปี่ยมก็ฆ่างูจำนวนมากขนาดนี้ไม่ไหว "เป็นงูไฟขั้นสอง ชอบจำศีลอยู่ในเขตร้อน แม้จะเป็นเพียงแค่ขั้นสอง พลังสังหารไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก แต่พวกมันเป็นสัตว์ที่จู่โจมเป็นฝูง สามัคคีกันมาก หากมีตัวใดบาดเจ็บ หรือตัวใดเริ่มโจมตี งูทุกตัวในฝูงก็จะกรูกันเข้ามา" ประมุขชิงอธิบาย กู้ชูหน่วนรู้สึกชาไปถึงห

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 448

    ถูกไหม้หนักขนาดนี้ เหตุใดเพิ่งจะส่งกลิ่นไหม้เกรียมตอนนี้ หรือเมื่อกี้เขาฝืนตัวเองอยู่ตลอด กู้ชูหน่วนตกตะลึง "ท่านถูกมังกรไฟทำร้ายมาหรือ" ความเร็วของประมุขชิงยังคงที่ ใช้ทั้งสองมือและสองขาพยายามปีนไปด้านหน้าอย่างสุดกำลัง พลางเอ่ยด้วยท่าทางสบายๆ "ไม่เป็นไร บาดแผลเล็กน้อย" แผลเล็ก ? นี่มันแผลเล็กแบบใดกัน "ท่านวางข้าลงเถอะ ข้าปีนขึ้นไปเองได้ ท่านเจ็บหนักเกินไป หากพาข้าไปด้วย พวกเราสองคนจะไปไหนไม่รอดกันหมด" "เด็กโง่ ในเมื่อข้าบอกแล้วว่าจะพาเจ้าขึ้นข้างบน ก็จะต้องพาเจ้าขึ้นไปให้ได้ อย่ากลัวไปเลย หากเจ้าเหนื่อย ก็งีบสักพัก ตื่นขึ้นมาอีกที พวกเราก็จะขึ้นไปด้านบนกันแล้ว" ประมุขชิงพูดด้วยความผ่อนคลาย กู้ชูหน่วนกลับรู้สึกว่าลมปราณของเขาไม่เพียงพอขึ้นไปเรื่อยๆ ท่าทางก็ดูใช้แรงหนักขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้ชัดว่าถึงขีดจำกัดแล้ว กู้ชูหน่วนดวงตาแดงก่ำ นางยื่นมือออกไปเปิดหน้ากากบนใบหน้าของเขาออก เผยให้เห็นใบหน้าหล่อเหลาที่คุ้นเคย คืออี้เฉินเฟย... ใช่เขาจริงๆ... รูปโฉมของอี้เฉินเฟยจัดว่าเป็นชายงามอันดับต้นๆ ของใต้หล้า เครื่องหน้าของเขาคมชัด อ่อนโยน สง่างาม คิ้วดกดำดุจขุนเขาเรี

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 447

    ยังดี...ที่ประมุขชิงยั้งมือกลับไปตอนที่ฝ่ามืออยู่ห่างจากกู้ชูหน่วนเพียงคืบ ไม่ได้สังหารนางจริงๆ เขาคิดไม่ถึงว่า ในช่วงเวลาแห่งความเป็นความตาย กู้ชูหน่วนจะใช้ชีวิตของตนเองปกป้องเขา ทันใดนั้น สายตาของเวินเส้าอี๋ที่มองไปยังกู้ชูหน่วนพลันเจือแววสับสน ประมุขชิงสลายพลังฝ่ามือ อัดอั้นความโกรธไว้ภายในใจ เขาเอ่ยเสียงเย็น "เวินเส้าอี๋ เจ้าจงจำไว้ วันนี้อาหน่วนใช้ชีวิตของนางช่วยเจ้าไว้ นางไม่ติดค้างอะไรเจ้าอีก เจอกันครั้งหน้า ข้าไม่มีทางปราณีอีกเป็นแน่" เวินเส้าอี๋กุมแผงอกของตนไว้แน่น ไม่มีแม้แต่แรงจะพูด กู้ชูหน่วนคลี่ยิ้ม เผยให้เห็นลักยิ้มสองข้าง "รู้อยู่แล้วว่าท่านดีที่สุด ขอบใจ ท่านวางใจเถอะ หากเขากล้าทำสิ่งใดที่ผิดต่อสำนักซิวหลัว ข้าจะเป็นคนแรกที่ไม่ปล่อยเขาไป" "ขอให้เจ้าไม่เสียใจกับการตัดสินใจวันนี้ในภายหลังแล้วกัน และอย่าลืมคำพูดของเจ้าในวันนี้ด้วย" "ไม่ลืมลืม จะลืมได้อย่างไร" "แม้ข้าจะไม่ฆ่าเขา แต่ก็จะไม่มีทางช่วยเขาแน่ เขาจะเป็นหรือตาย ล้วนแต่ต้องพึ่งชะตาของเขาเอง" กู้ชูหน่วนเข้าใจแล้ว แม้ประมุขชิงจะไม่ได้ฆ่าเขา แต่กลับทิ้งเขาไว้ที่นี่ ปล่อยเขาไปตามยถากรรม

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 446

    เวินเส้าอี๋ยิ้มเยาะกับตัวเอง ด้วยความสัมพันธ์ที่ต้องตายกันไปข้างหนึ่งของสำนักซิวหลัวและเผ่าเทียนเฝิน มีหรือที่ประมุขชิงจะยอมปล่อยเขาไป หากเป็นเขาที่อยู่ในจุดนั้น เขาเองก็ไม่มีทางปล่อยประมุขชิงไปเช่นกัน เวินเส้าอี๋กวาดสายตามองผาหินแวววาวและทะเลโลหิตที่เดือดระอุ เขาเคยคิดว่าจะต้องตายด้วยน้ำมือเจ้าสำนักซิวหลัว เคยคิดว่าต้องตายด้วยน้ำมือหอเลิศหล้า เคยคิดว่าต้องตายด้วยน้ำมือของเย่จิ่งหาน สิ่งเดียวที่ไม่เคยคิดมาก่อนคือต้องมาตายในที่แห่งนี้ "สำนักซิวหลัวและเผ่าเทียนเฝินมีความแค้นอันใดต่อกันกันแน่" กู้ชูหน่วนเอ่ยถาม "เป็นแค้นที่ฝังลึกยิ่งนัก เป้าหมายในการมีชีวิตอยู่ของชาวสำนักซิวหลัวทุกคนก็คือหาแก้วมังกรให้พบ แล้วกำจัดเผ่าเทียนเฝิน อาหน่วน หากเจ้ายังเห็นข้าเป็นสหาย ก็อย่ายุ่งเรื่องนี้เลย" ประมุขชิงไม่ได้อธิบายรายละเอียด แต่จุดยืนของเขาหนักแน่น ไม่เหลือทางให้หันหลังกลับอีกแล้ว เขารวบรวมกำลังภายในไว้ที่ฝ่ามือ ยกมือขึ้นมาตั้งใจจะสะเทือนกระดูกของเวินเส้าอี๋ให้แหลก ไม่พูดถึงเรื่องที่เวินเส้าอี๋ถูกพิษดอกพันรักทำให้ทรมานราวกับตายทั้งเป็น แต่แค่กำลังภายในของเขาที่สูญไปแทบจะหมดสิ้น

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 445

    กู้ชูหน่วนลุกลน อยากจะขวางการถ่ายทอดกำลังภายในให้นางของประมุขชิง ทว่ากลับช้าไปหนึ่งก้าว กำลังภายในของประมุขชิงเหมือนกับเวินเส้าอี๋ ไม่รู้ด้วยเหตุใดถึงได้ถูกนางดูดเข้าไปไม่หยุด "ข้าไม่ต้องการดูดกำลังภายในของเจ้า เจ้ารีบดึงมือออก" "ไม่เป็นไร หากเจ้าต้องการ ข้าให้เจ้าทั้งหมดจะเป็นไรไป" ประมุขชิงคลี่ยิ้ม ภายในดวงตาอ่อนโยนเต็มไปด้วยความทะนุถนอมเอ็นดู เขาไม่ได้ดึงมือออก แต่กลับพยายามอย่างสุดกำลังเพื่อสยบพิษของดอกพันรัก เมื่อเห็นดวงตาที่เต็มไปด้วยความเอ็นดูคู่นั้นและรอยยิ้มที่คุ้นเคย กู้ชูหน่วนก็ยิ่งมั่นใจในความคิดของตน ประมุขชิงก็คืออี้เฉินเฟย กู้ชูหน่วนทั้งร้อนรนทั้งโมโหและทุกข์ทรมาน ที่ร้อนรนเพราะ นางอยากจะเอามือออกแต่กลับทำไม่ได้ ที่โมโหเพราะอี้เฉินเฟยโง่เง่านัก มีผู้ใดบ้างที่จะยอมมอบกำลังภายในที่ตนฝึกฝนมาอย่างยากลำบากให้ผู้อื่น เขาไม่รู้หรือว่านางอาจจะดูดกำลังภายในของเขาจนหมดและตายได้ ที่ทุกข์ทรมานเพราะ พิษของดอกพันรักแล่นไปทั่วทั้งร่างกายของนางยังพอว่า กำลังภายในของประมุขชิงก็หลั่งใหลไปทั่วร่างนางด้วย คล้ายกับร่างของนางถูกดึงให้ฉีกออกจากกันไม่หยุด

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 444

    เวลาค่อยๆ ผ่านไปอย่างช้าๆ กู้ชูหน่วนและเวินเส้าอี๋ก็ไม่รู้ว่าทนกับคลื่นความร้อนไปเท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ พวกเขาทั้งสองเหงื่อโชก ลมหายใจหอบถี่ ล้วนแต่อยู่ในจุดที่กำลังจะทนไม่ไหว ลมอุ่นพัดผ่านไป สติของกู้ชูหน่วนและเวินเส้าอี๋แตกกระเจิงโดยสิ้นเชิง ทนไม่ไหวอีกต่อไป ไม่รู้ว่าใครเป็นฝ่ายเข้าหาก่อน แต่ทั้งคู่ก็คลอเคลียอยู่ด้วยกันแล้ว ในขณะที่พวกเขากำลังจะพัฒนาไปถึงขั้นสุดท้าย ยอดหน้าผาพลันปรากฏเงาร่างสีครามอาบเลือดมือเกาะเถาวัลย์ที่วางไว้ก่อนหน้านี้แล้วกระโดดลงมาจากยอดของหน้าผาด้วยความรวดเร็ว สายตาของประมุขชิงมองไปรอบๆ ด้วยความร้อนรน พยายามตามหาหญิงในความทรงจำผู้นั้น คลื่นลาวายักษ์ซัดเข้าไปเป็นระยะ ทุกครั้งที่คลื่นซัดสาด คล้ายกับยืนอยู่ใจกลางกองเพลิงแผดเผาร่างของเขาไม่หยุดหย่อน แต่เขาไร้ซึ่งความหวาดกลัว ดวงตาดื้อรั้นคู่นี้ราวกับว่าหากหากู้ชูหน่วนไม่เจอ ก็จะไม่มีทางรามือ ทันใดนั้น เขาเห็นกู้ชูหน่วนบนผาหินที่ยื่นออกไป หัวใจที่บีบรัดอยู่ของประมุขชิงพลันผ่อนคลายลงมาในพริบตา ทว่าไม่ทันไร ใจของเขาพลันตื่นตระหนกขึ้นมาอีกครั้ง เพราะแววตาของนางล่องลอย เสื้อผ้าไม่เป็นระเบียบ กำลั

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 443

    เวินเส้าอี๋ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นไปมองกู้ชูหน่วน เขากลัวว่าหากมองแล้วตนจะทนไม่ไหว ตรงกลางหน้าผา ร่างของกู้ชูหน่วนและเวินเส้าอี๋ล้วนแต่ขดตัวเป็นวง ต่างก็พยายามอดกลั้นด้วยชีวิต ลมอ่อนๆ พัดโชยไป เกิดคลื่นลาวาเป็นชั้นๆ ลมที่พัดผ่านไปก็เป็นลมร้อน ไร้ซึ่งความเย็นแต่อย่างใด เจ็บปวดจนเกินจะทน เวินเส้าอี๋พยายามนั่งขัดสมาธิ ปากก็คอยสวดมนต์ไม่หยุด หวังว่าใจจะสงบลงตามธรรมชาติ กู้ชูหน่วนตวาดออกมาอย่างอดไม่ได้ "ให้ตายสิ เวลานี้แล้วยังจะสวดมนต์อะไรอีก หากสวดมนต์ได้ผล แม่หมูคงปีนต้นไม้ได้แล้ว" เขาไม่รู้บ้างเลยหรือ ว่าทันทีที่เขาเอ่ยปาก มีแต่จะกระตุ้นความต้องการที่นางอดกลั้นเอาไว้ด้วยความยากลำบากให้รุนแรงขึ้นกว่าเดิม คิ้วดกดำดั่งขุนเขาของเวินเส้าอี๋ขมวดเข้าหากัน เขาใกล้จะทนไม่ไหวแล้ว ความรู้สึกนี้หากจะบอกว่า จะอยู่ก็ไม่ได้ จะตายก็ไม่ดี ไม่เกินจริงเลยสักนิด สวดมนต์ก็ไม่อาจทำให้อารมณ์ที่พลุ่งพล่านรุนแรงของเขาดีขึ้นได้แต่อย่างใด เวินเส้าอี๋จึงยอมแพ้ไป และยังคงขดตัวเป็นวงอยู่ติดกับผาหินอย่างไร้ที่พึ่ง "แม่เจ้าโว้ย ข้าทนไม่ไหวแล้ว" กู้ชูหน่วนไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเวินเส้าอี๋สมาธิดีเ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 442

    อยู่ดีๆ เหตุใดจึงถูกวางยาเสียได้ กู้ชูหน่วนพยายามคิดทบทวน ทันใดนั้นเอง นางก็พลันโมโหจนต้องตบเข่าฉาด บ้าเอ้ย... เมื่อกี้ตอนที่เวินเส้าอี๋เกาะยึดผาพลางกอดนางไว้ บนกำแพงหินมีดอกพันรักขึ้นอยู่เต็มไปหมด ดอกพันรักเป็นดอกไม้ปลุกกำหนัดที่มีฤทธิ์รุนแรงนัก ยามนี้ดอกพันรักบานสะพรั่ง ทุกที่บนกำแพงหินล้วนเต็มไปด้วยกลิ่นหอมของดอกไม้ คนธรรมดาเพียงแค่ดมกลิ่นของดอกไม้ชนิดนั้นเข้าไป ก็จะจมดิ่งลงสู่ห้วงทะเลแห่งความปรารถนา ส่วนพวกนาง......เมื่อครู่สูดกลิ่นของดอกพันรักบนกำแพงไปปริมาณมาก โดยเฉพาะมือของเวินเส้าอี๋ที่ชุ่มไปด้วยเลือดแล้วยังไปสัมผัสโดนเกสรของดอกพันรัก จึงโดนพิษเข้าไปลึกกว่านางนัก กู้ชูหน่วนอยากจะเป็นลมตายลงไปเสียตรงนั้นให้รู้แล้วรู้รอด เพิ่งข้ามมิติมาได้ไม่นาน นางก็ถูกวางยาไปแล้วสองหน อีกทั้งสองครั้งนี้ล้วนแต่เป็นยาปลุกกำนัดอานุภาพรุนแรงทั้งสิ้น "ร้อน......" เวินเส้าอี๋ปากลิ้นแห้งผาก ทรมานจนต้องฉีกคอเสื้อของตนออก กู้ชูหน่วนเอ่ยด้วยความลนลาน "เฮ้ย ข้าขอบอกเจ้าไว้ก่อน หญิงชายไม่ควรใกล้ชิดกัน เจ้าอย่าทำอะไรบุ่มบ่ามเชียวล่ะ" นางตามหาในแหวนปริภูมิจนทั่วแล้ว ยาส

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status