"เอ่อ...ก็พอไหว""เช่นนั้นขอเชิญคุณหนูสามวาดภาพพร้อมให้คำบรรยาย"กู้ชูหน่วนหมดคำจะพูดซ่างกวานฉู่วางแผนมาแล้วสินะ ให้เธอวาดรูปแล้วแต่งกลอนประกอบอีกบทหนึ่ง เพื่อทดสอบทั้งการเขียนพู่กัน วาดภาพ แต่งกลอน"อาจารย์ ข้าวาดภาพเก่งเกินไป กลัวว่าคนอื่นเห็นแล้วจะน้อยเนื้อต่ำใจ ข้าขอไม่วาดดีกว่า"ทุกคนแทบกระอักเลือดวาดเก่งเกินไป กลัวว่าพวกเขาเห็นแล้วจะน้อยเนื้อต่ำใจ หมายความว่าอย่างไร?เพ้อเจ้อใครจะเชื่อพวกหลิ่วเยว่หันไปมองเซียวอวี่เชียนลูกพี่ของพวกเขาไหวไหมเนี่ย ทำไมรู้สึกเหมือนเชื่อถือไม่ได้เลยเซียวอวี่เชียนปิดหน้าตัวเองไม่ต้องบอกก็รู้ว่าลูกพี่ของเขาทำเรื่อง 'งามหน้า' สำนักบัณฑิตหลวงอีกแล้ว"ไม่เป็นไร ทุกคนต้องการกำลังใจจากคุณหนูสาม"ซ่างกวานฉู่ยิ้มไร้พิษภัย อาจารย์ต้นแบบที่ทุกคนในสำนักบัณฑิตต่างชื่นชม เพราะมีแค่อาจารย์ซ่างกวานที่ความอดทนสูงขนาดนี้ทว่ากู้ชูหน่วนด่าเขาอยู่ในใจไม่รู้กี่หนต่อกี่หนนางหยิบพู่กันขึ้นมา จุ่มลงน้ำหมึกอย่างแรง ก่อนจะละเลงลงบนกระดาษขาว น้ำหมึกที่จรดฝ่าฝีแปรงทั้งเข้มทั้งหนาทั้งแน่นทุกคนตกตะลึงนางวาดวงกลมแล้วต่อด้วยอีกวง จนสุดท้ายยังถมหมึกดำจนเต็
"เอาละ คาบวันนี้จบลงเท่านี้ พรุ่งเช้าเรียนตามปกติ ส่วนตอนบ่ายจะเริ่มการแข่งขันอย่างเป็นทางการ ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อม อย่าได้เสียชื่อสำนักบัณฑิตหลวง""ขอรับอาจารย์""คุณหนูสามกู้ อย่าลืมซ้อมห้าสิบหน ท่านชายเซียว อยู่คอยเฝ้าด้วย หากซ้อมไม่ครบห้าสิบรอบ เจ้าก็ดีดแทนนาง"ให้ตายสิซ่างกวานฉู่บ้าไปแล้วหรือทำโทษนางก็ทำไปสิ แต่ยังต้องมีคนคอยเฝ้าอีกเซียวอวี่เชียนหน้าบูดบึ้งในทันใดฉินที่กู้ชูหน่วนดีด ใครจะทนฟังไหว? หากต้องฟังห้าสิบรอบจริงๆ เขาไม่เลือดไหลทะลักออกทุกทวารหรอกหรือเดิมคนในสำนักบัณฑิตหมายจะอยู่รอดูเรื่องสนุกด้วย แต่ฉินที่กู้ชูหน่วนเล่นนั้นบาดหูเหลือเกิน พวกเขาได้ยินแล้วถึงกับหูอื้อตาลาย จึงไม่กล้าอยู่ต่อจริงๆ ก่อนจะพากันแยกย้ายราวกับวิ่งหนีเตลิดเปิดเปิงเซียวอวี่เชียนหยิบที่อุดหูออกมาแล้วยัดเข้าหูในทันที เบะปากอย่างหมดคำจะพูด"แหน่ว แหน่ว แหน่ว..."เสียงฉินบาดหูดังไปทั่วสำนักบัณฑิตหลวง เหล่าองครักษ์ที่ได้ยินแทบอยากจะลาออกมันเดี๋ยวนั้นหนวกหูหนวกหูเกินไปแล้วในห้องโอ่อ่าห้องหนึ่งของสำนักบัณฑิตหลวงเย่จิ่งหานเห็นทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนบ่าย อดไม่ได้ที่จะสนใจในตัวก
"จริงหรือ?"เซียวอวี่เชียนไม่เชื่อที่นี่นอกจากพวกเขาสองคนแล้ว ก็ไม่มีใครอื่น นางจะขโมยมาจากไหน"จริงสิ โกหกเจ้าแล้วได้อะไรขึ้นมา""เหอะ กู้ชูหน่วน เจ้าคิดว่าข้าโง่หรือ หมึกยังไม่แห้งเลยด้วยซ้ำ"ซวยแล้ว เจ้าหมอนี่ตาไวชะมัด ขนาดนี้ยังเห็นอีกหรือนางเอ่ยพึมพำเฉไฉ "เมื่อครู่คนเยอะ ข้าเลยแสดงฝีมือได้ไม่เต็มที่ ตอนนี้ไม่มีคนแล้ว เขาก็เลยเขียนได้ตามปกติ"คำพูดนี้หลอกเด็กยังพอไหว แต่ใช้หลอกเขาน่ะหรือ? ไปหัดมาใหม่เซียวอวี่เชียนเองก็ไม่อยากเซ้าซี้เรื่องนี้ จึงเปลี่ยนเรื่องคุย"ยาสองชนิดนั้นหายากมาก ในแคว้นนี้คงมีอยู่ไม่กี่ต้น แต่ดอกเยียนหลัวข้ารู้ว่าอยู่ที่ไหน"กู้ชูหน่วนตาเป็นประกาย ถามอย่างตื่นเต้น "เจ้าว่าอะไรนะ เจ้ารู้หรือว่าดอกเยียนหลัวอยู่ที่ไหน?""รู้ไปก็เท่านั้น แต่เจ้าเด็ดมันไม่ได้หรอก""เจ้าลองว่ามาก่อน""ยัยขี้เหร่ เจ้าจะเอาดอกเยียนหลัวไปทำอะไร นั่นมันยาพิษนะ"หากไม่ใช่พิษ นางไม่อยากจะเอาด้วยซ้ำพิษบนใบหน้าของนางก็ต้องสู้ด้วยพิษ"เห็นแก่มิตรภาพ เจ้าบอกข้ามาเถอะน่า ดอกเยียนหลัวอยู่ที่ไหนหรือ?"เซียวอวี่เชียนก็ยังไม่ยอมบอก กู้ชูหน่วนเซ้าซี้อยู่นานกว่าจะหลอกล่อให้เขาพู
เป็นที่รู้กันว่ากู้ชูหน่วนได้ฉายาว่าคนไม่เอาถ่าน คนส่วนใหญ่วางเดิมพันให้กับเจ๋ออ๋องหรือกู้ชูอวิ๋น เมื่อชื่อเสียงของเจ๋ออ๋องและกู้ชูอวิ๋นนั้นเป็นที่รู้จักมานานในแคว้นเย่ข่าวฉาวของกู้ชูหน่วนนั้นไม่น่าฟังเอาเสียเลย ชิวเอ๋อร์ได้ยินแล้วก็เดือดเป็นไฟ สีหน้าของเซียวอวี่เชียนก็ไม่สู้ดีนักเซียวอวี่เชียนหน้าบูดบึ้ง กลอกตาใส่นาง "ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเจ้าคิดจะทำอะไร คนอื่นเขากลัวว่าชื่อเสียงของตัวเองจะป่นปี้ แต่เจ้ากลับกัน ใช้เงินจ้างคนมาทำลายชื่อเสียงของตัวเอง อย่างกับกลัวคนอื่นไม่รู้ว่าเจ้าเป็นคนไม่เอาถ่าน""ใช้แล้วเจ้าค่ะๆ"ชิวเอ๋อร์เองก็โมโห เดิมที่คุณหนูหน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่ก็ขายออกยากอยู่แล้ว ยามนี้ยังมาทำให้ตัวเองเสียชื่ออีก ใครจะกล้ามาสู่ขอนางกลัวว่าแม้แต่เทพสงครามจะโมโหจะฆ่านาง"เจ้าจะไปเข้าใจอะไร"กู้ชูหน่วนผ่อนคลายสบายอารมร์ ลิ้มรสสุราชั้นดีของร้านผิงอัน ราวกับคนที่ถูกหัวเราะเยาะนั้นไม่ใช่นาง"คุณหนู ข้าไม่เข้าใจเลย ท่านบอกหน่อยได้ไหมว่าเหตุใดถึงได้ทำเช่นนี้?""จะเพราะอะไรอีกเล่า ก็หาเงินไง"ชิวเอ๋อร์แทบจะเป็นลมแล้วนี่มันเกี่ยวอะไรกับหาเงินเล่า?อีกอย่างเพื่อเงินเพียงน้อยนิ
ชิวเอ๋อร์ตาแดงก่ำกว่าจะมีเงินพันตำลึงสักที แต่กลับหายวับ...หายวับ...ไปกับตา"แม่นาง วางเงินเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ไม่มีโอกาสเปลี่ยนใจแล้วนะ" คนตั้งโต๊ะเดิมพันหัวเราะคิกคัก ราวกับกลับว่านางจะเปลี่ยนใจ"วางใจเถิด ท่านไม่เปลี่ยนใจเป็นพอ"กู้ชูหน่วนหันไปมองเซียวอวี่เชียน แล้วแบมือขาวของตัวเองออกมา"เจ้ายังมีเงินติดตัวอีกเท่าไหร่ เอาออกมาให้หมด""ก่อนหน้านี้เจ้าเพิ่งเอาไปจากข้าตั้งพันตำลึง แล้วก็เอาหนึ่งร้อยตำลึงสุดท้ายของข้าไปอีก ตอนนี้ข้าตัวเปล่าแล้ว จะมีเงินที่ไหนอีก""จริงหรือ?""พูดมากนัก ไม่จริงกระมัง"กู้ชูหน่วนค้นตัวเขา ทำเอาเซียวอวี่เชียนโมโหยกใหญ่"หญิงผู้นี้ รู้จักไหมสิ่งที่เรียกว่าชายหญิงห้ามแตะเนื้อต้องตัวกันน่ะ ยังจะมาลูบอีก... แม่เจ้า ที่มันลูกสาวบ้านไหน รีบมาจับตัวไปที""เป็นไปไม่ได้ ไม่มีเงินแล้วจริงๆ" กู้ชูหน่วนผิดหวัง จึงกระตุกเครื่องประดับหยกทั้งหมดบนตัวเขาออกมาวางเดิมพันข้างกู้ชูหน่วน"นี่มันหยกโบราณหมื่นปี ราคาสูงมาก เฮ้ย นั่นมันหยกสลักที่ตกทอดมาจากตระกูลข้านะ เจ้าเอาไปเดิมพันได้อย่างไร"เซียวอวี่เชียนสาบานเลยว่า หากยังคบหากับนางอีก เขาไม่ขอใช้แซ่เซียวอีกต่อ
วิ่งไม่หยุดมาทั้งคืน ในที่สุดกู้ชูหน่วนก็ได้เห็นอักษรตัวใหญ่ที่เขียนว่าเรือนชิวฟงที่แห่งนี้กินพื้นที่กว้าง กู้ชูหน่วนหลับตาลง สัมผัสได้ถึงลมหายใจในอากาศชาติก่อนเธอคือยอดสายลับระดับโลก ถนัดปฏิบัติการตอนกลางคืนเป็นที่สุด การลักลอบเข้าไปในสถานที่แห่งหนึ่งนั้น ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเธอแต่ว่า...ดวงตาเฉียบคมของกู้ชูหน่วนก็พลันเบิกกว้างความคลื่นไหวในอากาศแปลกไป หากเธอเดาไม่ผิดละก็ หน้าประตูไม่ได้มีเพียงแค่ยอดฝีมือซ่อนตัวอยู่ แต่ยังมีค่ายกลอีกมากมาย แม้ค่ายกลจะถูกซ่อนไว้ แต่พลังงานที่แผ่ซ่านออกมานั้นยังคงสัมผัสได้ก็แค่เรือนหลังหนึ่ง ต้องคุ้มกันหนาแน่นขนาดนี้เลย?กู้ชูหน่วนรู้ว่าไม่มีทางเข้าประตูหน้าได้ จึงหายตัววับไปอย่างรวดเร็วราวกับนกเค้าแมวอีกครั้ง เดินสำรวจรอบเรือนชิวฟงแห่งนี้ หาจุดที่คุ้มกันเบาบางที่สุดเพื่อบุกเข้าไปหลังจากเดินวนรอบใหญ่ กู้ชูหน่วนถึงได้รู้ว่าทำไมเซียวอวี่เชียนถึงบอกว่าการบุกเข้าเรือนชิวเฟิงคือการรนหาที่ตายเรือนหลังใหญ่นี้...ไม่มีที่ไหนที่จะแอบซ่อนตัวเข้าไปได้เลย ที่นี่มียอดฝีมือทั้งที่มองเห็นและมองไม่เห็นคอยจับตามองอยู่หรือว่าต้องบุกเข้าไปตรงๆ?กู้ชูหน่
ดวงตาเยือกเย็นของกู้ชูหน่วนหรี่ลง มุ่งหน้าไปยังพื้นที่ต้องห้ามเป็นไปตามคาด คนของเรือนชิวเฟิงหยุดลงตรงหน้าพื้นที่ต้องห้าม ราวกับหวาดกลัวที่แห่งนี้"คนที่อยู่ข้างในรีบออกมาเดี๋ยวนี้ เข้าพื้นที่ต้องห้ามโดยพลการโทษตายสถานเดียว หากเจ้าออกมา ไม่แน่ว่าจะเหลือศพเจ้าไว้"กู้ชูหน่วนยิ้มผยอง "ในเมื่อต้องตายอยู่ดี เหตุใดข้าต้องออกไปด้วย ชมทิศทัศน์งดงามที่นี่ไม่ดีว่าหรือ?""หาเจ้ากล้าเดินเข้าไป เชื่อหรือไม่พวกข้าจะเผาเจ้าเจ็ดชั่วโคตร""อยากเผาก็เผาไป" ในเมื่อเธอไม่ได้ผูกพันอะไรกับคนในจวนอัครเสนาบดีอยู่แล้วกู้ชูหน่วนมองไปรอบพื้นที่ต้องห้ามพื้นที่ต้องห้ามคือป่าหิน เมื่อทอดสายตามองออกไปก็มีแต่หินขนาดยักษ์รูปร่างแปลกตาเล็กใหญ่สลับกันไปเธอเดินหน้าอย่างระแวดระวัง ไม่รู้ว่าเดินไปนานแค่ไหนกว่าจะเห็นหน้าผาที่สุดทางป่าหินกู้ชูหน่วนพลันดีใจหรือว่านี่คือผาหินหลังเรือนชิวเฟิง?เมื่อครู่เธอสำรวจรอบเรือนชิวเฟิงแต่กลับไม่เห็นหน้าผาเลย คงต้องเป็นที่อย่างไม่ต้องสงสัยเพราะเป็นยามกลางคืน เธอจึงมองไม่เห็นว่าผานั้นลึกลงไปมากแค่นไหน ทำได้เพียงโยนก้อนลงจากหน้าผา รออยู่นานก็ไม่ได้ยินเสียงสะท้อนกลับมา กู้
“สามหาว เจ้ามันหญิงไร้ยางอาย...”เสียงตวาดดังลั่น แม้แต่สัตว์ร้ายยังวิ่งเตลิด เสียงเดือดดาลของเย่จิ่งหานดังสะท้อนไปทั่วเรือนชิวเฟิงกว้างใหญ่กู้ชูหน่วนเกาหู รีบลุกพรวดขึ้น อยากจะหลบหนีแต่ถูกเย่จิ่งหานกอดขาไว้แน่น“คิดจะหนีหรือ ไม่มีทางหรอก”กู้ชูหน่วนดีดดิ้นแต่ก็สะบัดมือเขาไม่หลุด ใบหน้าง้ำงอน้ำตาไหลอย่างห้ามไม่อยู่ “พี่ชาย หากไม่ใช่เพราะเจ้าสร้างค่ายกลในค่ายกลอีกที ข้าคงไม่ติดกับดัก แล้วก็คงไม่ล้มทับเจ้า ไม่ลูบคลำเจ้าแบบนี้ ข้าขอโทษก็ยังไม่พออีกหรือ”“ยังมีหน้ามาพูดอีก”“ก็ได้ๆ ข้าไม่พูดแล้วก็ได้ หากเจ้าคิดว่าตัวเองเสียหาย ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็ล้มทับข้าคืน แล้วก็ลูบคลำคืน”"……"ฟรึ่บ ฟรึ่บ ฟรึ่บ...อุณหภูมิด้านล่างหน้าลดลงฉับพลัน หวานจนกู้ชูหน่วนสั่นไปทั้งตัว เมื่อเห็นเขาโกรธจัดจนแทบกินคน นางก็หวาดหวั่นอย่างห้ามไม่ได้คนที่ปรากฏตัวอยู่ในพื้นที่ต้องห้ามของเรือนชิวเฟิงได้ แถมยังโดนยาพิษ สองขาพิการ...หรือว่า...เขาจะเป็นเทพสงครมหานอ๋องกู้ชูหน่วนหัวใจเต้นตึกตักดูท่าแล้วเธอคงเจอขาใหญ่เข้าแล้วจริงๆ“คือว่า... ตอนนี้เจ้ากำลังอยู่ในช่วงสำคัญของการล้างพิษ ห้ามโมโหเด็ดขาด ไม่อย่างนั้
หากไม่พูดถึงอาจารย์ซ่างกวานก็แล้วไป แต่พอเอ่ยถึงเขา สีหน้าขององค์หญิงตังตังก็แย่ยิ่งไปกว่าเดิมกู้ชูหลันร้อนรน หากองค์หญิงจ่ายหนึ่งล้านตำลึงจริงๆ เช่นนั้นนางก็ต้องจ่ายสองแสนตำลึงเช่นกันหรือ?เมื่อคิดได้ดังนั้น กู้ชูหลันก็ยิ้มเย็นเอ่ย "เจ้ามิได้ใช้ความสามารถผ่านเข้ารอบเป็นสามอันดับแรก เดิมพันครั้งนี้เป็นโมฆะ""ลูกสาวอนุก็คือลูกสาวอนุ ไร้อารยะ น่ากลัวแท้""เจ้าด่าใคร ข้าไร้อารยะอย่างไร?" ต่อให้นางจะไร้อารยะแค่ไหน แต่ก็เหนือกว่ากู้ชูหน่วนหลายขุมก็แล้วกัน"ตอนพวกเราวางเดิมพัน ได้กำหนดหรือว่าห้ามใช้อาศัยดวง? ดูเหมือนว่าจะตัดสินกันที่แพ้ชนะเท่านั้นนะ?""แต่...""องค์หญิง คนชั่วบางคนแค่เงินน้อยนิด ก็ไม่ยอมจ่าย ข้าเชื่อว่าองค์หญิงอย่างท่าน คงไม่หน้าด้านหน้าทนเหมือนนางแน่นอน"องค์หญิงตังตังและกู้ชูหลันโมโหจนธาตุไฟแทบแตกกู้ชูหน่วนบีบให้พวกนางจ่ายเงินชัดๆ หากไม่จ่าย พวกนางก็จะเสียหน้าไม่เหลือชิ้นดีองค์หญิงตังตังกัดฟันกรอด "ข้ากล้าพนันก็กล้าเสีย ประเดี๋ยวให้บ่าวนำเงินหนึ่งล้านตำลึงมาส่งให้เจ้า" องค์หญิงตังตังกัดฟันจนปากสั่นยามพูดนั่นมันเงินหนึ่งล้านตำลึงเชียวนะ กลัวก็แต่จวนองค์หญิงมี
ทั้งห้องมีเพียงองค์หญิงตังตังและกู้ชูหลันที่ใบหน้าเหยเก เดิมที่การพนัยครั้งนี้พวกนางต้องชนะแน่นอน แต่ยามนี้กู้ชูหน่วนกลับโชคหล่นทับดอกไม้แดงอยู่ในมือนาง เช่นนั้นก็แปลว่านางคือคนที่ได้เข้ารอบชิงชนะเลิศเซียวอวี่เชียนตกใจอยู่ครู่หนึ่ง แต่กระนั้นก็ไม่อาจปกปิดความดีใจได้"ยัย...ยัยขี้เหร่ เสียงกลองหยุดแล้ว เจ้าชนะแล้ว"กู้ชูหน่วนก็เองก็คิดไม่ถึงเลยว่าวันนี้โชคจะหล่นทับเธอ เธอยังคิดอยู่เลยว่าการจะเข้ารอบชิงชนะเลิศให้ได้ คงต้องใช้เวลาสักหน่อยนอกจากอาจารย์ซ่างกวานแล้ว อาจารย์ทุกคนต่างมุมปากกระตุกหงึกยกตำแหน่งนี้ให้นาง เท่ากับดูหมิ่นทุกสรรพสิ่ง นางเป็นแค่คนไม่เอาถ่ายคนหนึ่ง จะสู้ยอดฝีมือจากแคว้นจ้าว แคว้นหวา หรือแคว้นฉู่"กู้ชูหน่วน คุณหนูสามตระกูลกู้ เข้ารอบชิงชนะเลิศโดยมิต้องผ่านการทดสอบ" ตาเฒ่าสวีพูดอย่างไม่เต็มใจองค์หญิงตังตังลุกพรวดขึ้นมาคนแรก "อาจารย์ เช่นนี้ไม่ยุติธรรม หากไม่ใช่เพราะเซียวอวี่เชียนยื้อดอกไม้เอาไว้นานขนาดนั้น เสียงกลองคงไม่หยุดที่กู้ชูหน่วนพอดี"กู้ชูหลันพยักหน้า "องค์หญิงพูกถูกต้องเจ้าค่ะ เซียวอวี่เชียนโกง ครั้งนี้ไม่นับ"หากกู้ชูหน่วนชนะ สองแสนตำลึงของนางก
"ใช่แล้ว""อาจารย์ เช่นนั้นพวกเราจะเลือกอย่างไร?"ทุกคนเตรียมตัวพร้อม อยากให้ข่าวดีเกิดขึ้นกับตัวเอง"ตีกลองส่งดอกไม้ พวกเราส่งต่อดอกไม้ทีละคน หากเสียงกลองหยุดแล้วดอกไม่อยู่ที่ใคร คนนั้นก็จะได้เข้ารอบชิงชนะเลิศ""นี่มันวัดดวงชัดๆ"พวกหลิ่วเยว่และเซียวอวี่เชียนต่างให้ความสนใจ"พี่ใหญ่ หากดอกไม่ส่งมาถึงพวกเราได้ พวกเราก็จะดังข้ามคืนเชียวนะ""เซียวอวี่เชียนเองก็ยิ้มหากได้ตำแหน่งคนที่สีมา ไม่แน่ว่าวันหน้าท่านพ่อจะไม่ด่าไม่ทุบตีเขาอีกไม่สิ...คนที่ต้องการตำแหน่งนี้มากที่สุดน่าจะเป็นกู้ชูหน่วนหากนางแพ้ เช่นนั้นแล้ว...สิ่งที่นางสูญเสียอาจจะเป็นชีวิตเซียวอวี่เชียนตัดสินใจแล้ว ไม่ว่าอย่างไรก็จะแย่งชิงดอกไม้นั้นมาให้นางให้ได้ตีกลองส่งดอกไม้ได้เริ่มต้นขึ้น ฝ่ามือเรียวขาวของซ่างกวานฉู่หนิบดอกไม้สีแดงสดขึ้นมา เผนยิ้มสง่างาม "ส่งต่อตามลำดับ ไม่ว่าก็ห้ามเก็บดอกไม้ไว้กับตัว ไม่อยากนั้นจะถูกตัดสิทธิ์"ว่าจบเขาก็ส่งสัญญาณเมือน กู้ชูอวิ๋นรับต่อ ใบหน้างดงามสมบูรณ์แบบนั้นแดงระเรื่อด้วยขณะเดียวกัน คนด้านล่งก็เริ่มตีกลอง เสียงกลองตึงตัง กู้ชูอวิ๋นเสียดายแต่ก็จำใจส่งต่อกู้ชูหลันกับองค์ห
วิชานี้มีอาจารย์มาหลายคน ผู้สอนคืออาจารย์สวี พอได้ยินเสียงบ่นของเขา กู้ชูหน่วนก็อ้าปากหาววอด ฟุบลงกับโต๊ะแล้วผล็อยหลับไป"ปึง..."ทันใดนั้นก็มีคนตบโต๊ะของเธออย่างแรงจนเธอสะดุ้งตื่น"ใครกันไร้คุณธรรมเสียจริง ตบโต๊ะข้าได้อย่างไร?" กู้ชูหน่วนยกหมัดสวน"พัวะ..."หมัดนั้นต่อยเข้าที่เบ้าตาขวาของอาจารย์สวี เจ็บจนเขาร้องโอดโอย ดวงตาบวมช้ำคล้ำเขียว"กู้ชูหน่วน สามหาวนัก กล้าต่อยแม้แต่อาจารย์ ข้า...ข้าจะทูลฝ่าบาท ให้ฝ่าบาทลงโทษเจ้า""โธ่ ที่แท้ก็อาจารย์สวีนี่เอง ท่านสอนหนังสืออยู่ดีๆ แล้วมาตบโต๊ะข้าทำไมกันเล่า เขากำลังฟันเห็นโจรป่า คิดว่าโจรป่าจะทำมิดีมิร้ายข้า ข้าถึงได้คิดว่าท่านเป็นโจรป่าอย่างไรเล่า?"อาจารย์สวีโมโหจนหายใจหอบ "หลับให้ห้องเรียน ยังจะมาเถียงอีก""เมื่อวานท่านรับปากเองแล้วนี่ ว่าอนุญาตให้ข้าหลับในคาบเรียนได้? หากท่านจะกราบทูลฝ่าบาท ข้าก็ไม่ติดใจ เอาเป็นว่าเมื่อวานท่านอนุญาตให้ข้าหลับเพื่อให้ข้าท่องกลอนซูหลีประโยคสุดท้าย คนได้ยินทั้งห้อง ท่านหนีไม่พ้นหรอก"อาจารย์ทุกคนหันไปทางอาจารย์สวี อาจารย์สวีตั้งรับไม่ไหว ทำได้เพียงตวาดลั่น "เกินกำลังที่ข้าจะสั่งสอน เกินกำลังที่ข้าจ
พวกหลิ่วเยว่เดินวนไปมาอย่างร้อนใจ "ลูกพี่ ท่านพนันด้วยมือและเท้าทั้งคู่เลยนะ พวกเราจะไม่เดิมพันได้อย่างไร""สองแสนตำลึงเชียวนะ เหตุใดไม่เดิมพัน?""นางเป็นแค่ลูกสาวอนุ จะมีเงินสองแสนตำลึงได้อย่างไร? ชนะแล้ว ก็ไม่ได้เงินอยู่ดี ถ้าแพ้แล้ว แต่ท่านถูกตัดมือตัดเท้าเลยนะ"กู้ชูหน่วนยกยิ้มก่อนจะเอ่ยในทันใด "น้องหา หลิ่วเยว่พูดมีเหตุผล หากเจ้าไม่มีเงินสองแสนขึ้นมา เช่นนั้นหากข้า...ชนะ ก็ไม่ได้เงินน่ะสิ? ข้าว่าเดิมพันครั้งนี้ถือว่าไม่เกิดขึ้นก็แล้วกัน"เมื่อครู่กู้ชูหลันยังสงสัยว่านางมีกลโกง แต่เห็นนางถอยเช่นนี้ จึงคิดว่าอีกฝ่ายกลัว รู้สึกมั่นใจอย่างบอกไม่ถูกนางล้วงตราประทับออกมาจากอกแล้ววางบนโต๊ะ "นี่คือสิ่งที่ท่านตามอบให้ข้า ด้วยตราประทับนี้ เจ้าจะครอบครองร้านค้าทั้งหมกหลายสิบแก่ง คงพอสองแสนตำลึงแล้วกระมัง?"กู้ชูหน่วนยิ้มร้ายประโยคนี้แหละที่รออยู่"ได้ เช่นนั้นก็ลงชื่อเป็นหลักฐาน"กู้ชูหน่วนและกู้ชูหลันลงนามในสัญญา ทุกคนต่างตกตะลึง"แม่เจ้า ที่ข้าเห็นคืออะไร... กู้ชูหลันมิใช่ลูกสาวอนุหรอกหรือ? เหตุใดนางถึงได้มีเงินเยอะขนาดนั้น""เหมือนท่านตาของนางจะเป็นเศรษฐีอันดับหนึ่งของเมืองค้
"แต่ว่า...""ข้าว่าที่คุณหนูห้าพูดก็มีเหตุผล เดิมพันครานี้ ข้าต้องชนะแน่นอน มีอะไรต้องกลัวกัน"นางว่าพลางลงนามด้วยพู่กันกู้ชูหลันกลัวว่ากู้ชูหน่วนจะเปลี่ยนใจ จึงรีบเร่งให้นางลงนามเช่นกัน กู้ชูหน่วนจ้องพู่กันที่นางยื่นให้อยู่นาน สุดท้ายจึงเลือกประทับรอยนิ้วมือแทนทุกคนพากันหัวเราะ"แม้แต่ชื่อตัวเองนางยังเขียนไม่เป็น ยังคิดจะเข้ารอบชิงอีก ฝันกลางวันชัดๆ""นี่ หากต้องตกอยู่ในกำมือองค์หญิงตังตัง สู้ตายไปเสียยังจะดีกว่า จะได้ไม่ต้องทรมาน"หลิ่วเยว่และพรรคพวกเตือนนางก็แล้วก็ไม่สำเร็จ ทำได้เพียงร้อนใจ แถมไม่รู้เพราะเหตุใดพี่ใหญ่เซียวอวี่เชียนดันมาสายอีกทุกคนต่างคิดว่ากู้ชูหน่วนแพ้แน่นอน มีเพียวกู้ชูอวิ๋นเท่านั้นที่นึกคลางแคลงใจนางเองก็ไม่ได้คิดจะห้ามองค์หญิงตังตังจริงๆ หรอก ก็แค่ทำพอเป็นพิธีองค์หญิงตังตังยิ้มลำพองใจ "หากเจ้าแพ้ละก็ ข้าจะตบหน้าเจ้าหน้าประตูสำนักบัณฑิตหลวงห้าร้อยครั้ง ข้าจะขังเจ้าในสังเวียนชนสัตว์ ให้เจ้าดวลกับสัตว์ป่า แล้วข้าก็จะ...""องค์หญิง รอท่านชนะก่อนแล้วค่อยพูดเรื่องพวกนั้นดีกว่า? หากท่านแพ้ขึ้นมา เดี๋ยวจะหน้าแตกเอา""ข้าจะแพ้ได้อย่างไร""เด็กดี เรียกน้
องค์หญิงตังตังเดินเข้ามาอย่างโดดเด่นดั่งเดือนท่ามกลางหมู่ดาว ตามหลังมามีทั้งกู้ชูหลันและกู้ชูอวิ๋นนางเอ่ยเหน็บแนม "ใครบางคนไม่ประมาณตน คิดว่าตัวเองจะชนะ ไม่ดูสภาพตัวเองเลย""เอ๊ะ นั่นมิใช่หลานสาวข้าหรอกหรือ อรุณสวัสดิ์ เจ้าก็มาลงเดิมพันว่าน้าสะใภ้จะชนะใช่หรือไม่""น้าสะใภ้อะไรเล่า เจ้ามีสิทธิอะไรมาเป็นน้าสะใภ้ข้า""แปลกนัก หรือว่าเทพสงครามมิใช่เสด็จน้าของเจ้า? เช่นนั้นก็ได้ ในเมื่อเทพสงครามไม่คู่ควรจะเป็นเสด็จน้าของเจ้า ก็คิดเสียว่าข้าไม่เคยพูด"องค์หญิงตังตังเลือดขึ้นหน้า "ข้าด่าเจ้า เกี่ยวอะไรกับเสด็จน้าของข้า?""ข้าเป็นคู่หมั้นของเขา ก็เหมือนคนๆ เดียวกัน หากข้าไม่คู่ควร เช่นนั้นแล้วเขาจะคู่ควรได้อย่างไร? เจ้าวางใจเถิด หากข้าได้พบเขา ข้าจะบอกเขาตามความจริง บอกว่าองค์หญิงตังตังพูดต่อหน้าทุกคนว่าเขาไม่คู่ควรจะเป็นเสด็จน้าของเจ้า"องค์หญิงตังตังแทบกระอักเลือด เหตุใดถึงไม่มีใครบอกเลยว่ากู้ชูหน่วนปากร้ายปานนี้?เมื่อวานถูกฉีกหน้ากลางที่สาธารณะ นางก็แทบทนไม่ไหวแล้ว ตอนนี้ยังมาดูแคลนนางต่อหน้าผู้คนอีก หากนางอดทนได้ อย่ามาเรียกนางว่าองค์หญิงตังตังเลยขณะที่กำลังระเบิดอารมณ์กลับเห็น
นางเป็นห่วงตัวเองเสียที่ไหน นางเป็นห่วงคุณหนูต่างหากถึงได้เสี่ยงหนีออกจากมาจากจวน ออกตามหาคุณหนู บอกเรื่องราวที่เกิดขึ้นในจวน "เรือถึงฝั่งแล้วค่อยเทียบท่า ทหารบุกมาค่อยรับมือ หากน้ำหลากย่อมมีดินสูบ" แม้ปากของกู้ชูหน่วนจะพูดว่าไม่ใส่ใจ แต่ในแววตานั้นมีความกระวนกระวายแฝงอยู่ตามที่เธอคาดการณ์ไว้ เซี่ยอวี่น่าจะตายอย่างเร็วคงเป็นตอนบ่ายวันนี้ แต่ทำไมถึงได้ตายตั้งแต่เมื่อคืนวานแล้ว ในจวนมีคงมีคนอยากกำจัดมือเท้าของอี๋เหนียงห้าไปให้พ้นเสียทีโชดคีที่ชิวเอ๋อร์เป็นห่วงเธอ แล้วหนีออกมาก่อน ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่คิดถึงผลที่ตามมาใกล้ถึงเวลาเข้าเรียนแล้ว นักเรียนสี่ห้าคนจับกลุ่มกันเดินเข้ามาในสำนักบัณฑิต กู้ชูหน่วนเอ่ยเสียงเรียบ "วันนี้เจ้าอยู่ที่สำนักบัณฑิตหลวงนี่แหละ ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น"ชิวเอ๋อร์ร้องได้สะอื้นตอนกลางวันพวกนางยังพอซ่อนตัวอยู่ที่นี่ได้ แต่ประเด็นคือตอนกลางคืนเล่า?ชิวเอ๋อร์ไม่คิดจะถามต่อแล้ว กู้ชูหน่วนก็เดินเข้าไปเข้าไปยังชั้ยในสำนักบัณฑิตแบ่งเป็นขั้นในกับชั้นนอก บ่าวรับใช้อย่างพวกนางต้องรออยู่ชั้นนอกเท่านั้นตลอดทางที่กู้ชูหน่วนเดินผ่าน ทุกคนต่างมองนางด้วยสายตาแปลกประหลา
เลือดลมตีกลับ พิษแล่นเข้าสู่หัวใจ หากไม่ช่วยชีวิต เขานั้นตายแน่นอนอย่างไม่ต้องสงสัย"ไม่รู้ว่าชาติที่แล้วทำเวรทำกรรมอะไรไว้ ชาตินี้ถึงได้เจอเจ้าอยู่เรื่อย ช่างเถอะ เห็นแก่ที่แทะโลมเจ้าไป จะช่วยชีวิตเจ้าอีกสักครั้งก็ได้"กู้ชูหน่วนว่าพลางคุกเข่าลง จับชีพจรของเขา เพียงสัมผัสชีพจร สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปอย่างชัดเจนโดนพิษถึงสองชนิดเลยหรือ แถมยังเป็นพิษที่ร้ายแรงและโหดเหี้ยมที่สุดในโลกอีกต่างหากชนิดแรกคือพิษเหมันต์ พิษเหมันต์นี้คงจะติดตัวมาตั้งแต่ตอนที่เขาอยู่ในท้องแม่ หลังจากคลอดออกมา ทุกวันที่สิบหน้าของเดือนเขาถึงต้องทรมานกับความเจ็บปวดที่คนทั่วไปไม่อาจต้านทานได้เมื่อพิษเหมันต์ออกฤทธิ์ เลือดที่ส่งไปยังอวัยวะภายในทั้งห้าและทวารทั้งหกจะแข็งตัวเป็นน้ำแข็ง ทำในเขาหนาวเหน็บเหมือนตายทั้งเป็น แต่กลับตายไม่ได้อีกชนิดหนึ่งคือพิษมารทลโลหิต พิษนี้ร้ายแรงถึงชีวิต เมื่อออกฤทธิ์จะทะลวงเข้าไปถึงกระดูก ร่างทั้งร่างเหมือนถูกมดนับหมื่นรุมตอมกัด ประหนึ่งมีดนับพันทิ่มแทงเขาหมายจะใช้พิษเหมันต์และหมื่นบุปผายับยั้งพิษมารทลโลหิต เพื่อรักษาชีวิตของตัวเองไว้ทว่าพิษทั้งสองชนิดนี้ไม่ถูกกัน ความเจ็บปวดท