Share

บทที่ 22

Penulis: เย่ชิงขวง
ฮะ...

ให้เธอดีดฉิน?

เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า?

จะให้เธอดีดอะไร?

เธอไม่รู้ว่าเมื่อกี้เขาสอนอะไรด้วยซ้ำ?

กู้ชูหน่วนรีบหันไปหาเซียวอวี่เชียน

เซียวอวี่เชียนหันหน้าหนี

อย่าลากเขาไปซวยด้วยเลย

เขาเองก็ไม่รู้ว่าอาจารย์ซ่างกวานสอนอะไร ขืนอาจารย์ซ่างกวานให้เขาดีดฉินขึ้นมา เขาจะทำอย่างไร?

"คุณหนูสามกู้ เชิญ" อาจารย์ซ่างกวานชี้ไปที่ฉินบนโต๊ะ ทำท่าเชิญอย่างสุภาพ

กู้ชูหน่วนหนังหัวชาดิก

"อา...อาจารย์ ข้าเล่นเพลงไหนก็ได้ใช่ไหม?"

"ก็ย่อมได้ เล่นเพลงถนัดของเจ้าก็ได้"

"เช่นนั้นก็ได้ เล่นก็เล่น ใช่ว่าจะไม่เคยเล่นเสียหน่อย"

กู้ชูหน่วนนั่งลง สองมือวางลงบนฉิน ราวกับกำลังชั่งใจว่านิ้วไหนควรวางตำแหน่งใด

เสียงหัวเราะเยาะดังขึ้นริมทะเลสาบอีกครั้ง

"ฮ่าๆ...คงไม่ถึงขั้นไม่รู้ว่าต้องวางมืออย่างไรหรอกกระมัง"

"ต้องเป็นเช่นนั้นแน่นอน ดูท่าวางมือของนางสิ ผิดหมดเลย"

สายตาเย็นชาของกู้ชูหลันมองดูเรื่องตลก สะใจยิ่งนัก

กู้ชูอวิ๋นนิ่งเฉย ราวกับเป็นคนนอก

เจ๋ออ๋องสีหน้าไร้อารมณ์ ประหนึ่งว่าทุกอย่างที่เป็นกู้ชูหน่วนนั้นไม่ข้องเกี่ยวกับเขา

ส่วนคนอื่นก็พากันหัวเราะ รอดูเรื่องขบขัน

เซียวอวี่เชียนโวยกลับอย่างไม่เก
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 23

    "อาจารย์ ซ้อมห้าสิบรอบนั่นก็ยกเลิกเสียเถิด ข้าเห็นคนในสำนักบัณฑิตเล่นเก่งกว่าข้าทั้งนั้น""ต้องซ้อม ฝีมือดีดฉินของพวกเขาสู้คุณหนูสามไม่ได้เลย หากคุณหนูสามไม่เล่น ข้าจะกราบทูลฝ่าบาท กราบทูลหานอ๋อง แจ้งท่านอัครเสนาบดี ให้พวกเขามารับฟังบทเพลงอันไพเราะของคุณหนูสาม"อาจารย์ซ่างกวานยังคงยิ้มบางเหมือนก่อนหน้า ชดช้อยสง่างามทว่าในสายตาของกู้ชูหน่วนนั้น กลับรู้สึกว่ารอยยิ้มนั้นชั่วร้ายเสียไม่มีข่มขู่แบบนี้มันข่มขู่กันชัดๆเป็นถึงอาจารย์แต่ไม่ตั้งใจสอน เธออุตส่าห์ไม่เอาเรื่อง แต่จงใจกลั่นแกล้งเธอเช่นนี้ เธอไม่นับเป็นครูหรอกทุกคนทั้งตกใจทั้งตลกตกใจที่อาจารย์ซ่างกวานที่ไม่เคยลงโทษนักเรียน ทว่าวันนี้เขากลับแหกกฎสวรรค์ทำโทษคุณหนูสามกู้ตลกที่กู้ชูหน่วนอวดดีขนาดนั้น สมแล้วที่โดนลงโทษกู้ชูหน่วนกัดฟันกรอด "ได้ เล่นก็เล่น หากพวกเจ้าไม่รำคาญก็แล้วแต่ ข้าจะเล่นเดี๋ยวนี้เลย""ระหว่างเรียน ขอโปรดอย่ารบกวนนักเรียนคนอื่น เลิกเรียนแล้วค่อยว่ากัน"ให้ตายสิ...นี่มันบังคับให้อยู่ต่อชัดๆหลังเลิกเรียนนางต้องไปร้านยาอีกนะ"การแข่งขันครั้งนี้มีทั้งฉิน หมากล้อม เขียนพู่กัน วาดภาพ เมื่อครู่สอนฉินไปแ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 24

    "เอ่อ...ก็พอไหว""เช่นนั้นขอเชิญคุณหนูสามวาดภาพพร้อมให้คำบรรยาย"กู้ชูหน่วนหมดคำจะพูดซ่างกวานฉู่วางแผนมาแล้วสินะ ให้เธอวาดรูปแล้วแต่งกลอนประกอบอีกบทหนึ่ง เพื่อทดสอบทั้งการเขียนพู่กัน วาดภาพ แต่งกลอน"อาจารย์ ข้าวาดภาพเก่งเกินไป กลัวว่าคนอื่นเห็นแล้วจะน้อยเนื้อต่ำใจ ข้าขอไม่วาดดีกว่า"ทุกคนแทบกระอักเลือดวาดเก่งเกินไป กลัวว่าพวกเขาเห็นแล้วจะน้อยเนื้อต่ำใจ หมายความว่าอย่างไร?เพ้อเจ้อใครจะเชื่อพวกหลิ่วเยว่หันไปมองเซียวอวี่เชียนลูกพี่ของพวกเขาไหวไหมเนี่ย ทำไมรู้สึกเหมือนเชื่อถือไม่ได้เลยเซียวอวี่เชียนปิดหน้าตัวเองไม่ต้องบอกก็รู้ว่าลูกพี่ของเขาทำเรื่อง 'งามหน้า' สำนักบัณฑิตหลวงอีกแล้ว"ไม่เป็นไร ทุกคนต้องการกำลังใจจากคุณหนูสาม"ซ่างกวานฉู่ยิ้มไร้พิษภัย อาจารย์ต้นแบบที่ทุกคนในสำนักบัณฑิตต่างชื่นชม เพราะมีแค่อาจารย์ซ่างกวานที่ความอดทนสูงขนาดนี้ทว่ากู้ชูหน่วนด่าเขาอยู่ในใจไม่รู้กี่หนต่อกี่หนนางหยิบพู่กันขึ้นมา จุ่มลงน้ำหมึกอย่างแรง ก่อนจะละเลงลงบนกระดาษขาว น้ำหมึกที่จรดฝ่าฝีแปรงทั้งเข้มทั้งหนาทั้งแน่นทุกคนตกตะลึงนางวาดวงกลมแล้วต่อด้วยอีกวง จนสุดท้ายยังถมหมึกดำจนเต็

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 25

    "เอาละ คาบวันนี้จบลงเท่านี้ พรุ่งเช้าเรียนตามปกติ ส่วนตอนบ่ายจะเริ่มการแข่งขันอย่างเป็นทางการ ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อม อย่าได้เสียชื่อสำนักบัณฑิตหลวง""ขอรับอาจารย์""คุณหนูสามกู้ อย่าลืมซ้อมห้าสิบหน ท่านชายเซียว อยู่คอยเฝ้าด้วย หากซ้อมไม่ครบห้าสิบรอบ เจ้าก็ดีดแทนนาง"ให้ตายสิซ่างกวานฉู่บ้าไปแล้วหรือทำโทษนางก็ทำไปสิ แต่ยังต้องมีคนคอยเฝ้าอีกเซียวอวี่เชียนหน้าบูดบึ้งในทันใดฉินที่กู้ชูหน่วนดีด ใครจะทนฟังไหว? หากต้องฟังห้าสิบรอบจริงๆ เขาไม่เลือดไหลทะลักออกทุกทวารหรอกหรือเดิมคนในสำนักบัณฑิตหมายจะอยู่รอดูเรื่องสนุกด้วย แต่ฉินที่กู้ชูหน่วนเล่นนั้นบาดหูเหลือเกิน พวกเขาได้ยินแล้วถึงกับหูอื้อตาลาย จึงไม่กล้าอยู่ต่อจริงๆ ก่อนจะพากันแยกย้ายราวกับวิ่งหนีเตลิดเปิดเปิงเซียวอวี่เชียนหยิบที่อุดหูออกมาแล้วยัดเข้าหูในทันที เบะปากอย่างหมดคำจะพูด"แหน่ว แหน่ว แหน่ว..."เสียงฉินบาดหูดังไปทั่วสำนักบัณฑิตหลวง เหล่าองครักษ์ที่ได้ยินแทบอยากจะลาออกมันเดี๋ยวนั้นหนวกหูหนวกหูเกินไปแล้วในห้องโอ่อ่าห้องหนึ่งของสำนักบัณฑิตหลวงเย่จิ่งหานเห็นทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนบ่าย อดไม่ได้ที่จะสนใจในตัวก

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 26

    "จริงหรือ?"เซียวอวี่เชียนไม่เชื่อที่นี่นอกจากพวกเขาสองคนแล้ว ก็ไม่มีใครอื่น นางจะขโมยมาจากไหน"จริงสิ โกหกเจ้าแล้วได้อะไรขึ้นมา""เหอะ กู้ชูหน่วน เจ้าคิดว่าข้าโง่หรือ หมึกยังไม่แห้งเลยด้วยซ้ำ"ซวยแล้ว เจ้าหมอนี่ตาไวชะมัด ขนาดนี้ยังเห็นอีกหรือนางเอ่ยพึมพำเฉไฉ "เมื่อครู่คนเยอะ ข้าเลยแสดงฝีมือได้ไม่เต็มที่ ตอนนี้ไม่มีคนแล้ว เขาก็เลยเขียนได้ตามปกติ"คำพูดนี้หลอกเด็กยังพอไหว แต่ใช้หลอกเขาน่ะหรือ? ไปหัดมาใหม่เซียวอวี่เชียนเองก็ไม่อยากเซ้าซี้เรื่องนี้ จึงเปลี่ยนเรื่องคุย"ยาสองชนิดนั้นหายากมาก ในแคว้นนี้คงมีอยู่ไม่กี่ต้น แต่ดอกเยียนหลัวข้ารู้ว่าอยู่ที่ไหน"กู้ชูหน่วนตาเป็นประกาย ถามอย่างตื่นเต้น "เจ้าว่าอะไรนะ เจ้ารู้หรือว่าดอกเยียนหลัวอยู่ที่ไหน?""รู้ไปก็เท่านั้น แต่เจ้าเด็ดมันไม่ได้หรอก""เจ้าลองว่ามาก่อน""ยัยขี้เหร่ เจ้าจะเอาดอกเยียนหลัวไปทำอะไร นั่นมันยาพิษนะ"หากไม่ใช่พิษ นางไม่อยากจะเอาด้วยซ้ำพิษบนใบหน้าของนางก็ต้องสู้ด้วยพิษ"เห็นแก่มิตรภาพ เจ้าบอกข้ามาเถอะน่า ดอกเยียนหลัวอยู่ที่ไหนหรือ?"เซียวอวี่เชียนก็ยังไม่ยอมบอก กู้ชูหน่วนเซ้าซี้อยู่นานกว่าจะหลอกล่อให้เขาพู

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 27

    เป็นที่รู้กันว่ากู้ชูหน่วนได้ฉายาว่าคนไม่เอาถ่าน คนส่วนใหญ่วางเดิมพันให้กับเจ๋ออ๋องหรือกู้ชูอวิ๋น เมื่อชื่อเสียงของเจ๋ออ๋องและกู้ชูอวิ๋นนั้นเป็นที่รู้จักมานานในแคว้นเย่ข่าวฉาวของกู้ชูหน่วนนั้นไม่น่าฟังเอาเสียเลย ชิวเอ๋อร์ได้ยินแล้วก็เดือดเป็นไฟ สีหน้าของเซียวอวี่เชียนก็ไม่สู้ดีนักเซียวอวี่เชียนหน้าบูดบึ้ง กลอกตาใส่นาง "ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเจ้าคิดจะทำอะไร คนอื่นเขากลัวว่าชื่อเสียงของตัวเองจะป่นปี้ แต่เจ้ากลับกัน ใช้เงินจ้างคนมาทำลายชื่อเสียงของตัวเอง อย่างกับกลัวคนอื่นไม่รู้ว่าเจ้าเป็นคนไม่เอาถ่าน""ใช้แล้วเจ้าค่ะๆ"ชิวเอ๋อร์เองก็โมโห เดิมที่คุณหนูหน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่ก็ขายออกยากอยู่แล้ว ยามนี้ยังมาทำให้ตัวเองเสียชื่ออีก ใครจะกล้ามาสู่ขอนางกลัวว่าแม้แต่เทพสงครามจะโมโหจะฆ่านาง"เจ้าจะไปเข้าใจอะไร"กู้ชูหน่วนผ่อนคลายสบายอารมร์ ลิ้มรสสุราชั้นดีของร้านผิงอัน ราวกับคนที่ถูกหัวเราะเยาะนั้นไม่ใช่นาง"คุณหนู ข้าไม่เข้าใจเลย ท่านบอกหน่อยได้ไหมว่าเหตุใดถึงได้ทำเช่นนี้?""จะเพราะอะไรอีกเล่า ก็หาเงินไง"ชิวเอ๋อร์แทบจะเป็นลมแล้วนี่มันเกี่ยวอะไรกับหาเงินเล่า?อีกอย่างเพื่อเงินเพียงน้อยนิ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 28

    ชิวเอ๋อร์ตาแดงก่ำกว่าจะมีเงินพันตำลึงสักที แต่กลับหายวับ...หายวับ...ไปกับตา"แม่นาง วางเงินเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ไม่มีโอกาสเปลี่ยนใจแล้วนะ" คนตั้งโต๊ะเดิมพันหัวเราะคิกคัก ราวกับกลับว่านางจะเปลี่ยนใจ"วางใจเถิด ท่านไม่เปลี่ยนใจเป็นพอ"กู้ชูหน่วนหันไปมองเซียวอวี่เชียน แล้วแบมือขาวของตัวเองออกมา"เจ้ายังมีเงินติดตัวอีกเท่าไหร่ เอาออกมาให้หมด""ก่อนหน้านี้เจ้าเพิ่งเอาไปจากข้าตั้งพันตำลึง แล้วก็เอาหนึ่งร้อยตำลึงสุดท้ายของข้าไปอีก ตอนนี้ข้าตัวเปล่าแล้ว จะมีเงินที่ไหนอีก""จริงหรือ?""พูดมากนัก ไม่จริงกระมัง"กู้ชูหน่วนค้นตัวเขา ทำเอาเซียวอวี่เชียนโมโหยกใหญ่"หญิงผู้นี้ รู้จักไหมสิ่งที่เรียกว่าชายหญิงห้ามแตะเนื้อต้องตัวกันน่ะ ยังจะมาลูบอีก... แม่เจ้า ที่มันลูกสาวบ้านไหน รีบมาจับตัวไปที""เป็นไปไม่ได้ ไม่มีเงินแล้วจริงๆ" กู้ชูหน่วนผิดหวัง จึงกระตุกเครื่องประดับหยกทั้งหมดบนตัวเขาออกมาวางเดิมพันข้างกู้ชูหน่วน"นี่มันหยกโบราณหมื่นปี ราคาสูงมาก เฮ้ย นั่นมันหยกสลักที่ตกทอดมาจากตระกูลข้านะ เจ้าเอาไปเดิมพันได้อย่างไร"เซียวอวี่เชียนสาบานเลยว่า หากยังคบหากับนางอีก เขาไม่ขอใช้แซ่เซียวอีกต่อ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 29

    วิ่งไม่หยุดมาทั้งคืน ในที่สุดกู้ชูหน่วนก็ได้เห็นอักษรตัวใหญ่ที่เขียนว่าเรือนชิวฟงที่แห่งนี้กินพื้นที่กว้าง กู้ชูหน่วนหลับตาลง สัมผัสได้ถึงลมหายใจในอากาศชาติก่อนเธอคือยอดสายลับระดับโลก ถนัดปฏิบัติการตอนกลางคืนเป็นที่สุด การลักลอบเข้าไปในสถานที่แห่งหนึ่งนั้น ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเธอแต่ว่า...ดวงตาเฉียบคมของกู้ชูหน่วนก็พลันเบิกกว้างความคลื่นไหวในอากาศแปลกไป หากเธอเดาไม่ผิดละก็ หน้าประตูไม่ได้มีเพียงแค่ยอดฝีมือซ่อนตัวอยู่ แต่ยังมีค่ายกลอีกมากมาย แม้ค่ายกลจะถูกซ่อนไว้ แต่พลังงานที่แผ่ซ่านออกมานั้นยังคงสัมผัสได้ก็แค่เรือนหลังหนึ่ง ต้องคุ้มกันหนาแน่นขนาดนี้เลย?กู้ชูหน่วนรู้ว่าไม่มีทางเข้าประตูหน้าได้ จึงหายตัววับไปอย่างรวดเร็วราวกับนกเค้าแมวอีกครั้ง เดินสำรวจรอบเรือนชิวฟงแห่งนี้ หาจุดที่คุ้มกันเบาบางที่สุดเพื่อบุกเข้าไปหลังจากเดินวนรอบใหญ่ กู้ชูหน่วนถึงได้รู้ว่าทำไมเซียวอวี่เชียนถึงบอกว่าการบุกเข้าเรือนชิวเฟิงคือการรนหาที่ตายเรือนหลังใหญ่นี้...ไม่มีที่ไหนที่จะแอบซ่อนตัวเข้าไปได้เลย ที่นี่มียอดฝีมือทั้งที่มองเห็นและมองไม่เห็นคอยจับตามองอยู่หรือว่าต้องบุกเข้าไปตรงๆ?กู้ชูหน่

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 30

    ดวงตาเยือกเย็นของกู้ชูหน่วนหรี่ลง มุ่งหน้าไปยังพื้นที่ต้องห้ามเป็นไปตามคาด คนของเรือนชิวเฟิงหยุดลงตรงหน้าพื้นที่ต้องห้าม ราวกับหวาดกลัวที่แห่งนี้"คนที่อยู่ข้างในรีบออกมาเดี๋ยวนี้ เข้าพื้นที่ต้องห้ามโดยพลการโทษตายสถานเดียว หากเจ้าออกมา ไม่แน่ว่าจะเหลือศพเจ้าไว้"กู้ชูหน่วนยิ้มผยอง "ในเมื่อต้องตายอยู่ดี เหตุใดข้าต้องออกไปด้วย ชมทิศทัศน์งดงามที่นี่ไม่ดีว่าหรือ?""หาเจ้ากล้าเดินเข้าไป เชื่อหรือไม่พวกข้าจะเผาเจ้าเจ็ดชั่วโคตร""อยากเผาก็เผาไป" ในเมื่อเธอไม่ได้ผูกพันอะไรกับคนในจวนอัครเสนาบดีอยู่แล้วกู้ชูหน่วนมองไปรอบพื้นที่ต้องห้ามพื้นที่ต้องห้ามคือป่าหิน เมื่อทอดสายตามองออกไปก็มีแต่หินขนาดยักษ์รูปร่างแปลกตาเล็กใหญ่สลับกันไปเธอเดินหน้าอย่างระแวดระวัง ไม่รู้ว่าเดินไปนานแค่ไหนกว่าจะเห็นหน้าผาที่สุดทางป่าหินกู้ชูหน่วนพลันดีใจหรือว่านี่คือผาหินหลังเรือนชิวเฟิง?เมื่อครู่เธอสำรวจรอบเรือนชิวเฟิงแต่กลับไม่เห็นหน้าผาเลย คงต้องเป็นที่อย่างไม่ต้องสงสัยเพราะเป็นยามกลางคืน เธอจึงมองไม่เห็นว่าผานั้นลึกลงไปมากแค่นไหน ทำได้เพียงโยนก้อนลงจากหน้าผา รออยู่นานก็ไม่ได้ยินเสียงสะท้อนกลับมา กู้

Bab terbaru

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 444

    เวลาค่อยๆ ผ่านไปอย่างช้าๆ กู้ชูหน่วนและเวินเส้าอี๋ก็ไม่รู้ว่าทนกับคลื่นความร้อนไปเท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ พวกเขาทั้งสองเหงื่อโชก ลมหายใจหอบถี่ ล้วนแต่อยู่ในจุดที่กำลังจะทนไม่ไหว ลมอุ่นพัดผ่านไป สติของกู้ชูหน่วนและเวินเส้าอี๋แตกกระเจิงโดยสิ้นเชิง ทนไม่ไหวอีกต่อไป ไม่รู้ว่าใครเป็นฝ่ายเข้าหาก่อน แต่ทั้งคู่ก็คลอเคลียอยู่ด้วยกันแล้ว ในขณะที่พวกเขากำลังจะพัฒนาไปถึงขั้นสุดท้าย ยอดหน้าผาพลันปรากฏเงาร่างสีครามอาบเลือดมือเกาะเถาวัลย์ที่วางไว้ก่อนหน้านี้แล้วกระโดดลงมาจากยอดของหน้าผาด้วยความรวดเร็ว สายตาของประมุขชิงมองไปรอบๆ ด้วยความร้อนรน พยายามตามหาหญิงในความทรงจำผู้นั้น คลื่นลาวายักษ์ซัดเข้าไปเป็นระยะ ทุกครั้งที่คลื่นซัดสาด คล้ายกับยืนอยู่ใจกลางกองเพลิงแผดเผาร่างของเขาไม่หยุดหย่อน แต่เขาไร้ซึ่งความหวาดกลัว ดวงตาดื้อรั้นคู่นี้ราวกับว่าหากหากู้ชูหน่วนไม่เจอ ก็จะไม่มีทางรามือ ทันใดนั้น เขาเห็นกู้ชูหน่วนบนผาหินที่ยื่นออกไป หัวใจที่บีบรัดอยู่ของประมุขชิงพลันผ่อนคลายลงมาในพริบตา ทว่าไม่ทันไร ใจของเขาพลันตื่นตระหนกขึ้นมาอีกครั้ง เพราะแววตาของนางล่องลอย เสื้อผ้าไม่เป็นระเบียบ กำลั

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 443

    เวินเส้าอี๋ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นไปมองกู้ชูหน่วน เขากลัวว่าหากมองแล้วตนจะทนไม่ไหว ตรงกลางหน้าผา ร่างของกู้ชูหน่วนและเวินเส้าอี๋ล้วนแต่ขดตัวเป็นวง ต่างก็พยายามอดกลั้นด้วยชีวิต ลมอ่อนๆ พัดโชยไป เกิดคลื่นลาวาเป็นชั้นๆ ลมที่พัดผ่านไปก็เป็นลมร้อน ไร้ซึ่งความเย็นแต่อย่างใด เจ็บปวดจนเกินจะทน เวินเส้าอี๋พยายามนั่งขัดสมาธิ ปากก็คอยสวดมนต์ไม่หยุด หวังว่าใจจะสงบลงตามธรรมชาติ กู้ชูหน่วนตวาดออกมาอย่างอดไม่ได้ "ให้ตายสิ เวลานี้แล้วยังจะสวดมนต์อะไรอีก หากสวดมนต์ได้ผล แม่หมูคงปีนต้นไม้ได้แล้ว" เขาไม่รู้บ้างเลยหรือ ว่าทันทีที่เขาเอ่ยปาก มีแต่จะกระตุ้นความต้องการที่นางอดกลั้นเอาไว้ด้วยความยากลำบากให้รุนแรงขึ้นกว่าเดิม คิ้วดกดำดั่งขุนเขาของเวินเส้าอี๋ขมวดเข้าหากัน เขาใกล้จะทนไม่ไหวแล้ว ความรู้สึกนี้หากจะบอกว่า จะอยู่ก็ไม่ได้ จะตายก็ไม่ดี ไม่เกินจริงเลยสักนิด สวดมนต์ก็ไม่อาจทำให้อารมณ์ที่พลุ่งพล่านรุนแรงของเขาดีขึ้นได้แต่อย่างใด เวินเส้าอี๋จึงยอมแพ้ไป และยังคงขดตัวเป็นวงอยู่ติดกับผาหินอย่างไร้ที่พึ่ง "แม่เจ้าโว้ย ข้าทนไม่ไหวแล้ว" กู้ชูหน่วนไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเวินเส้าอี๋สมาธิดีเ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 442

    อยู่ดีๆ เหตุใดจึงถูกวางยาเสียได้ กู้ชูหน่วนพยายามคิดทบทวน ทันใดนั้นเอง นางก็พลันโมโหจนต้องตบเข่าฉาด บ้าเอ้ย... เมื่อกี้ตอนที่เวินเส้าอี๋เกาะยึดผาพลางกอดนางไว้ บนกำแพงหินมีดอกพันรักขึ้นอยู่เต็มไปหมด ดอกพันรักเป็นดอกไม้ปลุกกำหนัดที่มีฤทธิ์รุนแรงนัก ยามนี้ดอกพันรักบานสะพรั่ง ทุกที่บนกำแพงหินล้วนเต็มไปด้วยกลิ่นหอมของดอกไม้ คนธรรมดาเพียงแค่ดมกลิ่นของดอกไม้ชนิดนั้นเข้าไป ก็จะจมดิ่งลงสู่ห้วงทะเลแห่งความปรารถนา ส่วนพวกนาง......เมื่อครู่สูดกลิ่นของดอกพันรักบนกำแพงไปปริมาณมาก โดยเฉพาะมือของเวินเส้าอี๋ที่ชุ่มไปด้วยเลือดแล้วยังไปสัมผัสโดนเกสรของดอกพันรัก จึงโดนพิษเข้าไปลึกกว่านางนัก กู้ชูหน่วนอยากจะเป็นลมตายลงไปเสียตรงนั้นให้รู้แล้วรู้รอด เพิ่งข้ามมิติมาได้ไม่นาน นางก็ถูกวางยาไปแล้วสองหน อีกทั้งสองครั้งนี้ล้วนแต่เป็นยาปลุกกำนัดอานุภาพรุนแรงทั้งสิ้น "ร้อน......" เวินเส้าอี๋ปากลิ้นแห้งผาก ทรมานจนต้องฉีกคอเสื้อของตนออก กู้ชูหน่วนเอ่ยด้วยความลนลาน "เฮ้ย ข้าขอบอกเจ้าไว้ก่อน หญิงชายไม่ควรใกล้ชิดกัน เจ้าอย่าทำอะไรบุ่มบ่ามเชียวล่ะ" นางตามหาในแหวนปริภูมิจนทั่วแล้ว ยาส

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 441

    นอกเจ้านายท่านหลันและคนอื่นๆ เย่จิ่งหานและพวกต่างก็รู้สึกบีบคั้นหัวใจ เย่จิ่งหานพยายามดีดดิ้นเพื่อให้หลุดจากพันธนาการแล้วออกไปตามหากู้ชูหน่วนด้วยตนเอง เขาไม่อยากจะจินตนาการเอาเองอีกต่อไปว่ากู้ชูหน่วนต้องประสบพบเจอกับเรื่องแบบใดกันแน่ถึงได้กรีดร้องอย่างกับจะขาดใจเช่นนั้น ประมุขชิงตื่นตระหนกยิ่งกว่า ร่างของเขาสั่นเทิ้มอย่างไม่อาจหยุดได้ ฝีเท้าเร่งเร็วขึ้นเรื่อยๆ อาหน่วน... เจ้าอย่าเป็นอะไรไปเด็ดขาด จะต้องรอข้าก่อน หากเจ้าตาย ไม่ว่าชาตินี้หรือชาติใด ข้าไม่มีวันอภัยให้เจ้าเป็นแน่ เสียงร้องที่หดหู่ดังก้องไปเรื่อยๆ ประมุขชิงมาถึงบริวเวณปากคอขวดน้ำเต้าที่กู้ชูหน่วนเพิ่งไปเมื่อครู่แล้ว บนปากคอขวด มีร่องรอยของกรงเล็บมังกรยักษ์หลงเหลืออยู่ รอยเท้าฝังลึกลงไปในพื้นดิน ทุกรอยเท้ามีความลึกหลายสิบเมตร เห็นได้เลยว่าเรี่ยวแรงที่ประทับลงไปนั้นมหาศาลเพียงใด ทอดมองออกไปยังสนามรบที่เละไม่เหลือชิ้นดีหลังจากการสู้ครั้งใหญ่ของยอดฝีมือ ประมุขชิงสั่นสะท้าน ลึกลงไปในใจรู้สึกถึงลางไม่ดีบางอย่าง อาหน่วนเคยบอกไว้ โลกนี้มีมังกรอสูรขั้นเจ็ดทั้งหมดสองตัว ตัวหนึ่งคือมังกรน้ำ อยู่ในสถ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 440

    แม้ว่ากู้ชูหน่วนจะมีชีวิตถึงหมื่นชีวิต ก็คงต้องตายอย่างแน่นอนภารกิจบนบ่าของเขานั้นหนักอึ้งนัก เขาควรจะสลัดออกไปอย่างเต็มกำลัง เพื่อรักษาพลังปราณที่เหลืออยู่ในร่างกาย แต่......ไม่รู้ทำไม เขาถึงลังเลภาพของกู้ชูหน่วนที่ดูมีชีวิตชีวาและฉลาดหลักแหลมค่อยๆ ปรากฏขึ้นในสมองของเขาพร้อมกับใบหน้าเล็กๆ ของนางที่กำลังดิ้นรนด้วยความเจ็บปวดและอดทนต่อความทุกข์ทรมานอย่างแข็งขัน เวินเส้าอี๋ก็แอบลังเลเวินเส้าอี๋รีบดึงพลังฝ่ามือของเขากลับ เขาพยายามมาหลายวิธีแต่ก็ไม่ได้ผล ทำได้เพียงเฝ้าดูพลังภายในที่เขาฝึกฝนมาหลายปี ค่อยๆ หายไปในชั่วข้ามคืน และกลายเป็นของคนอื่นเมื่อหันมองกู้ชูหน่วนอีกครั้งใบหน้าเล็กๆ ของนางขมวดเป็นปมด้วยความเจ็บปวด ใบหน้าอันงดงามไร้ที่ติของนางค่อยๆ เปลี่ยนจากซีดขาวเป็นแดงระเรื่อ ในที่สุดร่างกายของนางก็เหมือนถูกไฟไหม้ ร้อนจนคนไม่กล้าสัมผัสร่างกายของนางรับพลังภายในมากเกินไปไม่ได้ พลังปราณในร่างกายของนางพุ่งชนไปมาอย่างต่อเนื่อง ราวกับจะทำลายร่างกายของนาง"วิชาดูดพลังคืออะไร" กู้ชูหน่วนอดทนต่อความเจ็บปวดระลอกแล้วระลอกเล่าอย่างอดทน แล้วกัดฟันถาม"……""เวินเส้าอี๋ รีบถอนมือเร็ว

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 439

    ณ หน้าผาเวินเส้าอี๋ค่อยๆ ฟื้นขึ้นมา ภาพที่เห็นคือแผ่นหินที่ยื่นออกมาจากกลางหน้าผา เมื่อมองขึ้นไปด้านบนก็เห็นเมฆสีขาวจำนวนมาก ไม่รู้ว่าสูงเพียงใดเมื่อมองลงไปด้านล่างเป็นทะเลโลหิตที่เดือดพล่าน คลื่นเลือดสาดกระเซ็นเป็นระยะๆ อุณหภูมิสูงจนน่าตกใจเมื่อมองไปด้านข้าง กู้ชูหน่วนหมดสติอยู่ข้างเขา ไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไรเวินเส้าอี๋พยายามลุกขึ้นยืน เดินโซเซไปหากู้ชูหน่วน มือที่เต็มไปด้วยเลือดของเขาลองแตะที่จมูกของนาง ยังมีลมหายใจอ่อนๆ ทำให้ใจที่ตึงเครียดของเวินเส้าอี๋๋ผ่อนคลายลงโชคดีที่มีแผ่นหินที่ยื่นออกมานี้ มิฉะนั้นพวกเขาคงตายไปแล้วหน้าผาสูงเกินไป เขาถูกมังกรไฟทำร้ายสาหัส หากอยู่คนเดียวอาจจะขึ้นไปได้ แต่การพากู้ชูหน่วนขึ้นไปบนยอดผา ช่างยากยิ่งกว่าการปีนขึ้นสวรรค์เสียอีก"เจ้าขมวดคิ้วดูไม่ดีเลย"กู้ชูหน่วนฟื้นตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่รู้ แล้วพึมพำเสียงเบา"แค่ก แค่ก......"นางไอออกมาเป็นชุด ไอออกมาเป็นกองเลือดเวินเส้าอี๋จับชีพจรของนาง มองสีหน้าที่อ่อนแรงและซีดเซียวของนาง น้ำเสียงของเขาค่อนข้างหนักแน่น "เจ้าตกจากที่สูง ปอดและอวัยวะภายในได้รับบาดเจ็บ""ข้าดวงแข็ง พญายมยังกลัวข้า

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 438

    "ปัง......"กู้ชูหน่วนและเวินเส้าอี๋ตกลงมา เพียงแต่สถานที่ที่ตกลงมาไม่ใช่ทะเลโลหิต แต่ตกลงกระแทกบนแผ่นหินที่ยื่นออกมา"โอ๊ย......"กู้ชูหน่วนส่งเสียงครางเบาๆ เอวของนาง......เกือบหักแล้ว"ฟิ้ว......"เวินเส้าอี๋โยนกู้ชูหน่วนขึ้นไปในอากาศ เพื่อลดแรงกระแทกจากการตกลงมาของนาง ส่วนตัวเองก็ตกลงกระแทกบนแผ่นหินอย่างจัง แรงกระแทกนั้นรุนแรงมาก จนเขาอดไม่ได้ที่จะกระอักเลือดออกมาคำหนึ่ง กระดูกทั่วร่างราวกับแตกกระจาย แม้แต่อวัยวะภายในก็ยังกระเพื่อมอย่างรุนแรงทั้งสองหมดสติไปพร้อมกัน เสียงคำรามของสัตว์อสูรบนยอดผา พร้อมกับเสียงกรีดร้องโหยหวนยังคงดังต่อเนื่องในหุบเขาทางทิศตะวันตก เย่จิ่งหานและน้องเก้าราวกับรับรู้ได้ว่ากู้ชูหน่วนประสบเคราะห์ร้ายเย่จิ่งหานพยายามลุกขึ้นยืน โดยไม่สนใจสิ่งใดๆ ต้องการออกไปตามหากู้ชูหน่วน แต่ไม่รู้ว่ากู้ชูหน่วนทำอะไรกับเขา ไม่เพียงทำให้เขาทั้งร่างกายอ่อนแรง พลังภายในสูญสิ้น แม้แต่จะขยับตัวก็ทำไม่ได้เลย จึงทำได้เพียงร้อนใจอยู่ภายใน"หลีลั่ว ส่งคนออกไปทั้งหมด ไม่ว่าจะอย่างไรก็ต้องนำพระชายากลับมาอย่างปลอดภัย""นายท่าน หากทำเช่นนั้น สถานะของพวกเราก็จะถูกเปิดเผย ถึงย

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 437

    เวินเส้าอี๋ได้รับบาดเจ็บสาหัส......ขณะที่กู้ชูหน่วนลังเลว่าจะย้อนกลับไปช่วยเวินเส้าอี๋หรือไม่ อุณหภูมิในท้องฟ้าก็ลดลงอย่างกะทันหัน และยังมีหิมะโปรยปรายลงมาอย่างช้าๆฤดูนี้มีหิมะได้อย่างไร?ที่นี่มีน้ำไม่มาก แล้วจะรวมตัวกันเป็นหิมะได้อย่างไรกัน?หรือว่าเวินเส้าอี๋ใช้พลังภายในแปลงเป็นหิมะ?ความคิดยังไม่ทันกระจ่าง เวินเส้าอี๋ก็ไม่รู้ว่าใช้วิธีใดสะบัดหลุด และตามนางทันแล้วเขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงค่อนข้างร้อนรน "ไปเร็ว""ข้าใช้พลังทั้งหมดที่มีแล้ว"ทั้งสองเดินเคียงข้างกันด้วยความเร็วราวสายฟ้าทะเลโลหิตทั่วฟ้าโปรยปรายลงมาราวกับฝนเลือด ไม่ว่าจะเป็นหินหรือหญ้าที่โดนฝนเลือด ก็ล้วนละลายหรือลุกไหม้อย่างรวดเร็วเวินเส้าอี๋หลบหนีพลางใช้พลังฝ่ามือปัดป้องฝนเลือดไปด้วยทันใดนั้น ภูเขาหินที่ปกติก็แตกออกเป็นโพรงขนาดใหญ่ทั้งสองพลาดพลั้งเหยียบพลาดไป"อ้าก......"เสียงร้องตกใจดังขึ้นกู้ชูหน่วนและเวินเส้าอี๋ตกลงไปก้นเหว เสียงร้องหวาดกลัวดังก้องไปทั่วทั้งภูเขาเวินเส้าอี๋สีหน้าเปลี่ยน เขาปลดปล่อยกระบวนท่าพันจินจุ้ย เร่งความเร็วในการตกลง และใช้มือข้างหนึ่งโอบเอวของกู้ชูหน่วนไว้ ส่วนอีกมือเกาะกำแ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 436

    ในขณะที่ลูกไฟกำลังจะตกลงมาใส่นาง พลังฝ่ามืออันเฉียบคมก็สั่นคลอนลูกไฟออกไปทันทีจากนั้นเวินเส้าอี๋ก็ลอยขึ้นไปกลางอากาศ ประสานมือสร้างสัญลักษณ์ และสร้างเกราะป้องกันแสงสีขาวด้วยพลังภายในของเขาที่เส้นแบ่งระหว่างทะเลโลหิตกับหิน เพื่อป้องกันการโจมตีอย่างต่อเนื่องของมังกรไฟมังกรไฟสะบัดหาง เกราะป้องกันแสงสีขาวสั่นสะเทือนหลายทีตาข่ายขนาดใหญ่ไม่สะทกสะท้าน มังกรไฟว่ายอยู่กลางอากาศ กระแทกตาข่ายขนาดใหญ่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ราวกับจะกลืนกินกู้ชูหน่วนและเวินเส้าอี๋เข้าไปในท้อง"ปัง ปัง ปัง......"ทุกครั้งที่กระแทก เกราะป้องกันแสงจะอ่อนแอลงเวินเส้าอี๋กระตุ้นพลังภายในอย่างต่อเนื่องเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับเกราะป้องกันแสง"ปัง......"เกิดการกระแทกครั้งใหญ่อีกครั้ง พร้อมกับลาวาจากทะเลโลหิตที่กระจัดกระจายไปทั่วท้องฟ้ามุมปากของเวินเส้าอี๋ปรากฏเลือดไหลซึมออกมาในดวงตาอ่อนโยนและสงบนนิ่งของเขาเผยร่องรอยของความตกใจสัตว์อสูรขั้นเจ็ด......เป็นสัตว์อสูรขั้นเจ็ดจริงๆ ด้วย และเป็นมังกรไฟของทะเลโลหิตที่มีพลังการต่อสู้ที่แข็งแกร่งมากเขาและเย่จิ่งหาน หัวหน้าเผ่าหมอ อยู่ในระดับเดียวกัน แต่พวกเขาทั้งสาม

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status