แชร์

บทที่ 179

ผู้เขียน: เย่ชิงขวง
เมื่อมองไปที่หน้ากระท่อมฟาง หญิงชราสวมเสื้อผ้าเรียบง่ายที่มีรอนปะชุนมากมาย ใบหน้าเหี่ยวย่น กำลังยืนอยู่หน้ากระท่อมฟาง ราวกับรอบางสิ่งอย่างร้อนใจ

เบ้าตาของนางกลวงโบ๋ ไม่รู้ว่าตาบอดมานานแล้วเท่าใด แต่สายตาของนางยังคงทอดมองออกไปข้างหน้า

เซียวอวี่เชียนถาม "ผู้เฒ่าคนนั้นคือย่าของเยี่ยเฟิงหรือ? หน้าตาไม่เหมือนเลยแฮะ"

กู้ชูหน่วนไม่ตอบ เพียงแต่มองเยี่ยเฟิงที่อดกลั้นความเจ็บปวด เดินกลับบ้านราวกับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น เอ่ยเสียงอ่อนโยน "ท่านย่า ท่านแข้งขาไม่ดี เหตุใดถึงมายืนรอข้าตรงนี้ ข้าพยุงท่านกลับเข้าไปนอนพักดีกว่า"

หัวใจที่เต้นรัวของแม่เฒ่าเยี่ยผ่อนคลายลงไปมาห เอ่ยถามเสียงร้อนรน "เฟิงเอ๋อร์รึ?"

"ขอรับ ข้ากลับมาแล้ว ขอโทษขอรับ ที่สำนักบัณฑิตมีเรื่องนิดหน่อย จึงได้กลับมาช้า ทำให้ท่านต้องเป็นห่วง"

เยี่ยเฟิงพยุงนางให้นั่งลงบนม้านั่งหิน แววตาเย็นชานั้นแฝงไปด้วยความเจ็บปวดที่ไม่อาจบรรเทา

แม่เฒ่าเยี่ยกุมมือเขาเอาไว้ เผลอไปโดนแผลบนข้อมือของเขาเข้า เยี่ยเฟิงฝืนทนเอาไว้ เรียวคิ้วขมวดแน่น

"หิวแล้วกระมัง ข้าต้มข้าวต้มไว้ให้เจ้า อุ่นไว้อยู่ตลอด รอเจ้ากลับมากิน ข้าจะไปยกมาให้เจ้า"

แม่เฒ่าเยี่ยคลำทา
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 180

    เซียวอวี่เชียนถอนหายใจ "ยัยขี้เหร่ เยี่ยเฟิงบาดเจ็บหนักขนาดนั้น เขาจะไปไหนของเขา?""คงจะ... หาที่ที่ไม่คนเห็นเพื่อหลบเลียแผลใจกระมัง ไปกัน ไปเดินดูรอบๆ บ้านเขา""พวกเราเข้าไปตอนนี้ไม่ดีกระมัง"เมื่อเห็นกู้ชูหน่วนเดินมุ่งไปยังกระท่อมฟาง เซียวอวี่เชียนจึงรีบตามไปยังไม่ทันถึงหน้ากระท่อม แม่เฒ่าเยี่ยก็พึมพำออกมา "แม่หนูกู้ มาแล้วหรือ""ท่านย่าหูดีนัก อยู่ห่างตั้งไกลยังได้ยินเสียงพวกข้า""กายเจ้ามีกลิ่นยาเฉพาะตัว แค่ลมพัดผ่าน กลิ่นยาก็ฟุ้งไปทั่ว ข้าย่อมได้กลิ่นเป็นธรรมดา"กลิ่นยาอย่างนั้นหรือ?เหตุใดนางถึงไม่ได้กลิ่น?แม่เฒ่าเยี่ยหันไปทางเซียวอวี่เชียน ท่าทางราวกับกำลังมองสำรวจกู้ชูหน่วนแนะนำ "เขาชื่อเซียวอวี่เชียนเจ้าค่ะ เป็นเพื่อนร่วมชั้นที่สำนักบัณฑิตหลวง เขาเองก็เป็นเพื่อนของเยี่ยเฟิง"แม่เฒ่าเยี่ยเศร้าโศกอยู่ไม่น้อย ดูท่าไม่ค่อยดีใจเหมือนก่อนหน้า หลังจากทักทายพวกเขาแล้วก็นั่งลง ทอดถอนใจอย่างเซื่องซึม "เยี่ยเฟิง เด็กคนนั้นชอบโทษตัวเอง เก็บตัว พูดน้อย มักคิดว่าตัวเองเป็นตัวซวย คนที่อยู่กับเขาไม่มีใครมีจุดจบที่ดีเลยสักคน เขาจึงไม่ผูกมิตรกับใครง่ายๆ"กู้ชูหน่วนนั่งลง เรียวคิ้

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 181

    "นายท่านหลัน ประมุขสูงสุดแห่งตระกูลหลัน เขานิสัยโหดเหี้ยม ฆ่าคนเหมือนผักปลา ชอบทรมานคน ทั้งยังมีรสนิยมประหลาดด้านนั้น เยี่ยเฟิงแสนน่าสงสาร เพิ่งอายุได้ห้าปี ก็ถูกเขาย่ำยีเสียแล้ว"แม่เฒ่าเยี่ยเล่าถึงเรื่องราวอันเจ็บปวด ระทมใจจนต้องกุมหน้าอกเอาไว้ อารมณ์อ่อนไหวนักกู้ชูหน่วนและเซียวอวี่เชียนมองหน้ากัน นึกถึงบาดแผลฟกช้ำบนตัวเยี่ยเฟิง ก็เข้าใจในทันทีว่าถูกย่ำยีนั้นหมายความว่าอย่างไร?สีหน้าของทั้งสองไม่สู้ดีนัก เซียวอวี่เชียนเดือดดาลขึ้นมาในทันใด "เพิ่งจะห้าขวบ เขาเป็นอสูรกายหรืออย่างไร? เหตุใดถึงทำได้ลงคอ?""ข้าเป็นแม่ครัว เดิมทำกับข้าวให้กับพวกองครักษ์ที่เรือนทาส แต่เพราะทำอาหารอร่อยจึงถูกบังคับให้ย้ายไปทำอาหารในตระกูล วันนั้นข้าเป็นกับตาว่าเยี่ยเฟิงถูกทรมานจนแทบขาดใจ ช่างน่าอนาถนัก เด็กอายุห้าขวบถูกทารุณปานนั้น ช่างน่าสงสารเหลือเกิน"ไม่รู้ว่านึกอะไรขึ้นได้ ร่างทั้งร่างของแม่เฒ่าเยี่ยจึงได้สั่นสะท้าน"ข้าอยากเอายาให้เขา แต่ก็กลัวจะโดนหางเลข ทำได้เพียงมองเขาหลบเลียแผลตัวเองอยู่ห่างๆ ครั้งนั้นเขานอนซบอยู่บนเตียงครึ่งเดือนเต็มๆ เกือบเอาชีวิตไม่รอด""ข้าเคยเห็นเยี่ยเฟิงคิดจะฆ่าตัวตา

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 182

    "เพราะข้าให้ซาลาเปาลูกหนึ่งกับเขา ปีนั้นเขาอายุหกขวบ คนหนึ่งในกลุ่มของเขาลอบฆ่านายท่านหลัน ถูกจับแล้วสับทั้งเป็น หลังจากเก้าคนที่เหลือถูกซ้อมจนน่วมแล้ว ก็ถูกจับไปทิ้งหลังเขาหิมะ""ฤดูหนาวปีนั้นหนาวนัก หิมะตกหนักไม่หยุด บนภูเขาหิมะไม่มีของกิน ทั้งยังมีหมาป่าหิมะพลุกพล่าน แปดคนที่เหลือตายหมด เหลือเขาเพียงคนเดียว ข้าเห็นเขาทั้งหนาวทั้งหิวทั้งทรมาน จึงแอบเอาซาลาเปาให้เขาลูกหนึ่ง เพราะเหตุนั้น... เขาถึงเห็นข้าเหมือนครอบครัว""ต่อมาสามีฆ่าผิดใจกับพ่อบ้านผู้ดูแลจึงถูกฆ่า ลูกๆ ที่น่าสงสารของข้าก็โดนหางเลข ตายก่อนวัยอันควร ข้าเองก็ชีวิตพลิกผัน ถูกส่งไปเป็นบ่าวรับใช้ของแม่ครัว ทั้งยังป่วยหนัก นั่นคือช่วงเวลาอันมืดมนของข้า โชคดีที่เยี่ยเฟิงตอบแทบบุญคุณซาลาเปาลูกนั้น ดูแลข้ามาตลอด หากไม่มีเขา ข้าคงสิ้นไปตั้งนานแล้ว""ตัวเขาเองยังกินไม่อิ่มนอนไม่อุ่น แต่ยังเก็บของที่ดีที่สุดไว้ให้ข้า หลายปีมานี้ เขาดูแลข้าทุกสิ่งทุกอย่าง เพียงเพราะซาลาเปาลูกเดียวที่ข้าให้เขา""ครึ่งปีก่อนหน้านี้ ข้าไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้นกับเขา เป็นครั้งแรกที่เขาขัดขืนนายท่านหลัน นายท่านหลันเดือดดาลนัก ควักลูกตาของข้าทั้งส

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 183

    "เขามีสติปัญญา เขามีฝีมือ หากไม่มีข้า บางทีเขาอาจหาทางหลุดพ้นจากเผ่าหมอได้ แต่เขายังพาตัวถ่วงอย่างข้าไปด้วย ยอมลำบากทุกข์ทน""ครึ่งปีมานี้เขาแบกข้าตะเวนไปหมู่บ้านแล้วหมู่บ้านเล่า ต่อให้ชีวิตของพวกเราจะลำบากเพียงใด เขาก็ไม่เคยลักขโมยเงินแม้แต่อีแปะเดียว แล้วก็ไม่มีทางทำเรื่องเลวร้ายด้วย""ข้าให้ซาลาเปาเขาแค่ลูกเดียว เขายังดีกับข้าถึงเพียงนี้ พวกเจ้าว่าคนเช่นนี้ จะฆ่าเจ้าสำนักที่มีพระคุณต่อเขาได้หรือ"แม่เฒ่าเยี่ยพูดจบอารมณ์ก็พลันอ่อนไหว เสียงสะอึกสะอื้น ทั้งยังคุกเข่าลงให้กับกู้ชูหน่วนและเซียวอวี่เชียน"เจ้าทั้งสอง ข้ารู้ว่าข้าชาติกำเนิดต่ำต้อย ไม่มีสิทธิ์ร้องขอพวกเจ้า แต่ข้าก็ยังอยากอ้อนวอนพวกเจ้า โปรดช่วยเยี่ยเฟิงด้วยเถิด เขาเป็นเด็กซื่อตรงคนหนึ่ง เขาไม่มีทางฆ่าคนแน่นอน""ท่านย่า ท่านรีบลุกขึ้นเถิด"กู้ชูหน่วนประคองนางยืนขึ้น แม่เฒ่าเยี่ยกลับไม่ยอมลุก กลับกันยังโขกหัวจรดพื้นอย่างแรง"ข้าขอร้องพวกเจ้าละ เยี่ยเฟิงโดดเดี่ยวไร้ที่พึ่ง นอกจากคนแก่อย่างข้าแล้ว เขาไม่มีเพื่อน ไม่มีครอบครัวข้างกายแม้สักคน เขาพูดไม่ค่อยเก่ง คนอื่นใส่ร้ายเขา เขาก็พูดแก้ตัวไม่เป็น ได้แต่เงียบอย่างเดียว"

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 184

    หลังกลับจากหมู่บ้านเสี่ยวเหอชุน ฟ้าก็มืดแล้วแต่ที่คาดไม่ถึงก็คือ เยี่ยเฟิงก็กลับมาเร็วกว่าที่คิดเขาเปลี่ยนชุดใหม่ทั้งตัว เนื้อผ้าหยาบ ทว่าตัดเย็บอย่างประณีต"เสื้อผ้าของเจ้า ข้าซักเรียบร้อยแล้ว แต่ว่ามีรอยขาดอยู่แห่งหนึ่ง ขอโทษด้วย... เสื้อผ้าเจ้าราคาเท่าไหร่ ข้าจะชดใช้ให้"อาจเป็นเพราะริมฝีปากบวมเบ่ง ซ้ำใบหน้ายังมีรอยฟกช้ำและรอยฝ่ามือ เยี่ยเฟิงจึงคลุมหน้าด้วยผ้าโปร่งสีดำ ปกปิดร่อยรอยพวกนั้นเผยให้เห็นเพียงตาสองข้างของเขาท่าทีเขาไม่สู้ดีนัก ในตามีแต่เส้นเลือดฝอยแดงฉาน แต่เพราะเปลี่ยนชุดใหม่ หากมองจากภายนอกจึงไม่เห็นบาดแผลมากมายบนตัวเขาเซียวอวี่เชียนยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ "แค่เสื้อผ้าผืนเดียว ขาดก็ขาดไปเถอะ จะทิ้งก็ได้ ร่างกายเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง""ดีขึ้นมาแล้ว ขอบใจ"แววตาของเยี่ยเฟิงไหววูบ ค่อยๆ ก้มหน้าลง ไม่กล้าสบตาพวกเขากู้ชูหน่วนพลันยิ้มบาง เดินอ้อยอิ่งมาหยุดอยู่ตรงหน้าเยี่ยเฟิง ชี้ไปที่เสื้อผ้าที่พับเป็นระเบียบเรียบร้อยในมือเขา ก่อนจะเอ่ยด้วยรอยยิ้ม"เยี่ยเฟิง เจ้ารู้หรือไม่ว่าเสื้อตัวนี้ทำมาจากผ้าอะไร?"เยี่ยเฟิงชะงักไปเซียวอวี่เชียนเองก็พลันตกใจไม่เข้าใจว่านาง

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 185

    จวนเจ๋ออ๋องหรูหราโอ่อ่า สมยศฐาบรรดาศักดิ์เจ๋ออ๋องย้ายออกไปแล้ว แต่ในจวนยังเหลือบ่าวไพร่ที่ไม่มีที่ไปอยู่มากมาย กู้ชูหน่วนเมตตาให้พวกเขาอยู่ต่อไป ทั้งยังเปลี่ยนป้ายจากจวนเจ๋ออ๋องเป็นเรือนหน่วนเจ๋ออ๋องนับว่ารักษาคำพูด ไม่ได้เอาของมีค่าในจวนอ๋องไปด้วยเลย กู้ชูหน่วนเข้าครัวเอง ทำโจ๊กตุ๋นยาให้เยี่ยเฟิง ทั้งยังอาหารค่ำมื่้อสำหรับสามคนอาหารรสเลิศนั้นเป็นเพียงเรื่องรอง แต่ประเด็นคือโจ๊กตุ๋นยาชามนั้นเซียวอวี่เชียนชาติตระกูลดี โจ๊กตุ๋นยานั่นใช้วัตถุดิบใดบ้าง เขามองปราดเดียวก็รู้"ยัยขี้เหร่ ของข้าเล่า""ของอร่อยเยอะแยะขนาดนี้ยังไม่พออีกหรือ?" กู้ชูหน่วนถลึงตาใส่เขา บ่งบอกว่าเขากำลังพูดจาเพ้อเจ้อ"กินๆ จะกินให้เจ้าล่มจมไปเลย""รีบกินเถอะ" กู้ชูหน่วนกินพลางช้อนตามอง บอกให้เยี่ยเฟิงกินด้วยกันเยี่ยเฟิงเหม่อมองอาหารเรียงรายบนโต๊ะ ดวงตาแดงก่ำนั้นเต็มไปด้วยความสงสัย"คิดอะไรอยู่น่ะ เจ้ากินได้แต่โจ๊กตรงหน้านั่นแหละ จานอื่นไม่ใช่ของเจ้า""ข้าไม่หิว"เยี่ยเฟิงผลักโจ๊กตุ๋นยาตรงหน้าออกเขาชาติกำเนิดต่ำต้อย แต่ใช่ว่าเขาจะไม่รู้จักของดีแต่ก่อนยามปรนนิบัตินายท่านหลัน เขาเองก็เคยเห็นโจ๊กที่ต

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 186

    ชิงเฟิงเข็นเย่จิ่งหานออกมาประหนึ่งดวงจันทร์ท่ามกลางหมู่ดาว ข้างกายมีเจี้ยงเสวี่ยตามติด สองฝั่งมีองครักษ์จากจวนหานอ๋องเย่จิ่งหานสีหน้าเย็นชา ความหนาวเหน็บนั้นเหมือนกำลังแผ่ซ่านไปรอบกายเขาเขากำลังโมโหแต่กู้ชูหน่วนไม่รู้ว่าเพราะอะไร รู้สึกเพียงแค่ว่าในความโมโหนั้นแฝงไปด้วยความเศร้า ฮึดฮัดเหมือนหญิงเง้างอนนางยกเนื้อจานใหญ่ตรงหน้าขึ้นมา ยิ้มตาหยีทั้งสองข้าง เค้นรอยยิ้มออกมา "ท่านอ๋อง ท่านมาขอข้าวกินหรือ?"เย่จิ่งหานเลิกคิ้ว มองอาหารละลานตาบนโต๊ะกับชายงามสองคนที่นั่งสองฝั่งซ้ายขวาของนาง แทบอยากจะฟาดนางเสียให้เข็ดเขายังไม่ทันตายนางก็เริ่มเที่ยวเกี้ยวหนุ่มแล้วหรือ?"ดูท่าแล้ว วันนี้อ๋องเฟยของข้าคงสำราญดีแท้"เย่จิ่งหานเน้นหนักคำว่าอ๋องเฟยสองพยางค์นั้น น้ำเสียงทุ้มต่ำแฝงไปด้วยคำเตือนชิงเฟิงและเจี้ยงเสวี่ยจ้องไปทางกู้ชูหน่วนอย่างไม่พอใจหูทวนลมกับคำพูดของนายท่านก็แล้วไปแต่กลับนี่เพิ่งถอนพิษของนายท่านได้ครึ่งทางก็ล้มเลิกเสียแล้ว นี่นางลืมนางท่านไปแล้วหรือ?กู้ชูหน่วนยิ้มเจื่อน "ก็พอไหวๆ"ตั้งแต่ข้ามการเวลามา นางก็ไม่เคยได้นอนหลับอย่างสงบสุขเลยสักคืน ความสงบสุขอยู่ที่ไหน?เม

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 187

    "งั้นรึ?" เย่จิ่งหานไม่เชื่อ"จริงเสียยิ่งกว่าจริง ท่านรอก่อน ข้าจะไปยกมาให้ท่าน"ร่างอรชรในชุดสีชมพูเดินออกไป ไม่นานก็ยกถ้วยโจ๊กตุ๋นยากลับมา โจ๊กตุ๋นยานั้นเย็นชืดแถมยังไหม้เกรียมอีกต่างหาก แต่หากดูให้ดีแล้ววัตถุดิบภายในนั้นเคี่ยวมาจากยาชั้นยอดทั้งนั้น"เพิ่งเคยเคี่ยวโจ๊กครั้งแรก คุมไฟไม่ค่อยดีนัก แต่ก็พอกินได้""โจ๊กเย็นหมดแล้ว" สีหน้าของเย่จิ่งหานดีขึ้นมาเล็กน้อยถ้วยของเขาไหม้ แต่ถ้วยของเยี่ยเฟิงกลับไม่ไหม้ หรือว่าถ้วยนี้นางเพิ่งเคี่ยวเองครั้งแรกจริงๆ?"เย็นแล้วถึงจะอร่อย โจ๊กร้อนจะลวกคอเอา ข้าตั้งใจเป่าให้เย็น ท่านลองชิมดูว่าอร่อยหรือไม่"ชิงเฟิงเบ้ปาก "โจ๊กไหม้ขนาดนี้ ร่างกายของนายท่านสูงส่ง จะให้กินโจ๊กไหม้ได้อย่างไร"กู้ชูหน่วนโต้กลับเสียงขึงขัง "ร่างกายนายท่านเจ้าสูงส่ง เพียงพลิกฝ่ามือก็เรียกฟ้าเรียกฝนได้ มีโจ๊กตุ๋นยาแบบใดที่เขาอยากกินแล้วไม่ได้กิน แต่โจ๊กชามนี้ข้าเป็นคนทำเองกับมือ คุณค่าอยู่ที่ความตั้งใจ เจ้าเข้าใจหรือไม่"ชิงเฟิงแทบกระอักเลือดคุณหนูสามแค่หาข้ออ้างมาประเหลาะนายท่านชัดๆ แถมยังพูดเป็นตุเป็นตะอีกต่างหากเขามั่นใจเลยว่านางไม่มีทางเคี่ยวโจ๊กชามนี้ให้นาย

บทล่าสุด

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 302

    อินต้ากุ่ยกับนายท่านหลันสบตากันกัน พวกเขาล้วนเห็นเจตนาฆ่าในดวงตาของอีกฝ่ายกู้ชูหน่วนอาจจะเกี่ยวพันกับสำนักซิวหลัว และยังฆ่าคนแคระเจี่ยน ยุยงเทพสงครามให้โจมตีเขาหมายวิญญาณ ทำให้พวกเขาล้มตายไปจำนวนมาก แม้แต่เขาหมายวิญญาณก็ถูกทำลายไปเกินครึ่งหากไม่ฆ่านาง ก็คงไม่สามารถคลายความแค้นในใจได้ขอเพียงคนเหล่านี้ถูกฆ่าทั้งหมด ถึงเวลานั้นก็ไม่มีหลักฐาน และหัวหน้าเผ่าหมออาจจะไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นคนฆ่าด้วยซ้ำสิ่งที่นายท่านหลันเกลียดที่สุดคือความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจนของนางกับเยี่ยเฟิงเยี่ยเฟิงเป็นคนของเขา ชีวิตนี้มีเพียงเขาเท่านั้นที่สามารถแตะต้องได้ แม้แต่ความตายก็มีเพียงเขาเท่านั้นที่ฆ่าได้กู้ชูหน่วนถอยหลังไปหลายก้าวและเอ่ยเสียงดังว่า "พวกเจ้ารีบไปเร็ว ไปหาเย่จิ่งหาน""ไป? นอกจากนรกแล้ว พวกเจ้าไปที่ไหนไม่ได้ทั้งสิ้น"เจ็ดปีศาจแห่งเขาอินซานและพวกนายท่านหลันยืนอยู่ในทิศทางเดียว แล้วก่อตัวเป็นวงล้อมปิดกั้นเส้นทางของพวกเขาพวกเขาทั้งหก ไม่ว่าใคร ล้งนเป็นยอดฝีมือผู้เลื่องชื่อแห่งยุค โดยเฉพาะนายท่านหลันกับอินต้ากุ่ย ซึ่งหาคู่ต่อสู้บนโลกได้ยากยิ่งแต่ที่นี่ พวกเขาทั้งหมดเป็นคนแก่และคนพิการ ไม่ม

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 301

    กู้ชูหน่วนค่อนข้างรู้สึกแปลกๆ และเมื่อหันศีรษะไปเห็นนายท่านหลันผู้มีสีหน้ามืดมนจนน่ากลัว นางก็ตกใจจนตัวสั่น"คนทำให้คนตกใจจนตายได้เลยนะ"ผู้พิทักษ์ซานเงื้อค้อนฟาดไปข้างหน้าด้วยความโกรธ "นังผู้หญิงสมควรตาย ไม่เพียงยุยงเทพสงครามโจมตีเขาหมายวิญญาณ ยังกล้ายุแหย่ให้แตกแยกกันอีก สมควรตายนัก"สีหน้าขององครักษ์ลับเปลี่ยนไป พลิกดาบยาวในมือ ปัดป้องค้อนเหล็กขนาดใหญ่"ปัง ปัง ปัง......"เพียงชั่วครู่ ก็ปะทะกันไปหลายสิบกระบวนท่าแล้ว"ตู้ม......"เสียงดังสนั่น องครักษ์ลับกระอักเลือด ผู้พิทักษ์ซานกลับไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย ชัยชนะและความพ่ายแพ้จึงปรากฏขึ้นทันทีกู้ชูหน่วนยิ้มเยาะ "ทำไม พูดความจริงแล้วโกรธจนทนไม่ได้รึ? นายท่านหลัน ไม่ใช่ว่าข้าว่าเจ้านะ เจ้านี่หน้าไม่อายเสียจริงๆ พวกเจ็ดปีศาจแห่งเขาอินซานเห็นเจ้าเป็นพี่ เป็นสหาย แต่เจ้ากลับหลอกแม้กระทั่งพวกเขา"พลังภายในมือของนายท่านหลันรวมตัวเป็นลูกไฟ และเห็นได้ชัดว่าขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว ดวงตาที่ไร้ซึ่งอุณหภูมินั้นก็จ้องมองไปที่กู้ชูหน่วน ราวกับว่ากู้ชูหน่วนกลายเป็นคนตายไปแล้วเยี่ยเฟิงคลานขึ้นอย่างยากลำบาก และเตือนด้วยเสียงสั่นเครือ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 300

    สวีซานเหนียงหัวเราะเยือกเย็น "นังหนู ข้าจะบอกพวกเจ้าตามตรงแล้วกัน นายท่านหลันกับพวกเราสนิทกันนัก เจ้าจะว่าร้ายผู้ใดก็ได้ แต่กลับชี้ไปที่เขา เจ้าคิดว่าพวกเราจะเชื่อเจ้าหรือ อีกอย่าง พวกเราก็เพิ่งกลับมาจากเขาหมายวิญญาณ"กู้ชูหน่วนเหยียดหยันในใจช่างสมเป็นปลาข้องเดียวกันเสียจริง มีเพื่อนที่วิปริตอย่างนายท่านหลัน ไม่แปลกใจเลยที่พวกเขาน่าขยะแขยงขนาดนี้กู้ชูหน่วนแสร้งทำเป็นตกใจ "เป็นไปไม่ได้ ในเมื่อพวกเจ้าเป็นเพื่อนของนายท่านหลัน นายท่านหลันยังหลอกพวกเจ้าได้ลงอีกหรือ"สวีซานเหนียงและคนอื่นๆ ขมวดคิ้วมุ่นกู้ชูหน่วนถอนหายใจอย่างจนปัญญา "เจ้าคิดว่าเหตุใดหานอ๋องถึงส่งทหารไปที่เขาหมายวิญญาณเล่า เป็นเพราะข้าอย่างนั้นหรือ พวกเจ้าช่างใสซื่อเหลือเกิน เทพสงครามบุกเขาหมายวิญญาณ เพียงเพราะกระดิ่งภินวิญญาณอยู่ที่นายท่านหลันก็เท่านั้น ไม่เช่นนั้นเขาจะยอมทำเพื่อสตรีเพียงผู้เดียว ทั้งยังเป็นหญิงอัปลักษณ์ เพื่อผิดใจกับหัวหน้าเผ่าหมอได้อย่างไร"เดิมทีตีเจ็ดปีศาจแห่งเขาอินซานให้ตาย พวกเขาก็ไม่มีทางเชื่อคำพูดของกู้ชูหน่วนแต่เหตุการณ์ตรงหน้า คำพูดนี้ของนาง ฟังดูมีเหตุผลยิ่งนักเทพสงครามคือผู้ใด เขาต้อง

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 299

    เจ็ดปีศาจแห่งเขาอินซาน ไม่ว่าคนไหนก็ล้วนแต่เป็นบุคคลสำคัญที่เลื่องชื่อในยุทธภพ โดยเฉพาะอินต้ากุ่ย ลูกพี่ใหญ่ของเจ็ดปีศาจแห่งเขาอินซาน วิทยายุทธสูงล้ำถึงขั้นที่แม้แต่เทพและปีศาจก็ไม่อาจคาดเดา แทบจะสูสีคู่คี่กับนายท่านหลันได้เลยยามนี้พวกเขาทั้งสามปรากฏตัวขึ้นที่นี่พร้อมกัน คิดว่าต้องไม่ประสงค์ดีเป็นแน่องครักษ์ลับคุ้มกันกู้ชูหน่วน พูดเสียงกร้าว "พวกเราคือคนของเทพสงครามหานอ๋อง ใต้เท้าไม่ใช่คนของเผ่าเทียนเฝิน แล้วก็ไม่ใช่คนของเผ่าหมอ จะช่วยไว้หน้ากันได้หรือไม่"จู่ๆ สวีซานเหนียงก็หัวเราะออกมาด้วยความคุ้มคลั่ง ดวงตาคู่นั้นจ้องเขม็งไปยังเยี่ยเฟิงที่บาดแผลเต็มตัว มีทั้งความชื่นชอบ ความโกรธ ซับซ้อนยากจะเข้าใจ"ไว้หน้าพวกเจ้างั้นรึ ตอนนั้นที่นังเด็กนั่นกับเจ้าเด็กคนนั้นฆ่าพี่น้องของข้า เคยไว้หน้าพวกข้าหรือไม่"ดวงตาทั้งสองข้างของสวีเจิ้นบอดสนิท มองไม่เห็นรูม่านตา เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เกรี้ยวกราด "ยังมีดวงตาของข้า ลูกตาทั้งสองข้างของข้าถูกควักออกไป ล้วนแต่เป็นเพราะพวกเจ้า แค้นนี้ไม่ว่าอย่างไรวันนี้ก็ต้องสะสางให้รู้เรื่อง"แม้ตาทั้งสองข้างของสวีเจิ้นจะมืดบอด แต่ความสามารถในการฟังกลับเป็นเล

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 298

    ด้านบนมีค้างคาวกินคน ด้านล่างมีฝูงงูพิษวิธีการเช่นนี้ช่างโหดร้ายเกินไปองครักษ์ลับพากันเลียนแบบฝูกวง ใช้กำลังภายในของตนโจมตีฝูงค้างคาว พยายามปกป้องกู้ชูหน่วนสุดกำลังที่ตนมีกู้ชูหน่วนเอ่ย "เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้ ฝูกวง เจ้าคิดหาวิธีตามหาผู้อาวุโสที่แซ่ตงผู้นั้น แล้วคุมตัวนางไว้ ไม่เช่นนั้นพวกเราไม่มีผู้ใดหนีรอดไปได้แน่""แต่หากข้าน้อยไปแล้ว นายหญิงจะทำเช่นไร""ข้ามีวิธีของข้า ข้าจะคุ้มกันเจ้า เจ้ารีบไป ไม่เช่นนั้นรอจนเจ้าใช้กำลังภายในหมด อยากจะจัดการนางก็คงไม่ไหวแล้ว"ฝูกวงกวาดสายตามองดูสถานการณ์การต่อสู้รอบๆสภาพการณ์ตรงหน้าไม่สู้ดีเท่าไหร่นักผู้ใต้บัญชาของเย่จิ่งหานแต่ละรายต่างได้รับบาดเจ็บไม่มากก็น้อยเยี่ยเฟิงบาดเจ็บสาหัส ทั้งยังต้องปกป้องแม่เฒ่าเยี่ย ไม่มีความสามารถในการต่อสู้แล้วที่ยังสู้ได้ก็มีเพียงแค่เขากับองครักษ์ลับของเย่จิ่งหานจำนวนไม่กี่คนหากประวิงเวลาต่อไป เกรงว่าพวกเขาจะต้องตายเพราะใช้กำลังภายในจนหมดจริงๆคิดได้เช่นนี้ ฝูกวงจึงทำได้เพียงแค่กัดฟันพูด "ข้าพอจะรู้ตำแหน่งที่นางอยู่ นายหญิง อดทนไว้ ข้าน้อยจะใช้เวลาให้น้อยที่สุดหานางให้เจอ แล้วจะจัดการนางเสีย""ด

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 297

    ท่ามกลางความมืด มีเสียงซู่ซู่ดังมาจากกอหญ้าทันทีที่กู้ชูหน่วนและคนอื่นๆ หันไปก็อดตกตะลึงไม่ได้ งูพิษที่กำลังแลบลิ้นขู่ฟ่อๆ หลายตัวกำลังเลื้อยเข้ามาทางพวกเขาจากทุกทิศงูพวกนี้มีหลายสายพันธุ์ หลากสีสันปะปนอยู่ด้วยกัน พุ่งเข้ามาฉกราวกับมีเป้าหมายอยู่แล้วทุกคนที่อยู่ตรงนั้นต่างก็รู้ว่างูทุกตัวล้วนแต่มีพิษร้ายแรง หากทุกฉก ชีวิตพวกเขาก็คงหาไม่"เหตุใดถึงได้มีงูมากมายเพียงนี้" ไม่รู้ว่าใครในกลุ่มตะโกนออกมาฝูกวงเอ่ยเสียงขรึม "นายหญิง คงเป็นผู้อาวุโสตงเผ่าเทียนเฝิน นางสันทัดเรื่องการควบคุมแมลง งูและมดมีพิษ""มีวิธีจัดการหรือไม่""นอกเสียจากฆ่าผู้อาวุโสตง หรือไม่ก็คุมตัวนางไว้ แต่โดยปกติแล้วนางจะควบคุมผ่านการใช้เวทคาถาจากที่ที่อยู่แสนไกล พวกเราไม่รู้ตำแหน่งของนาง"เขาเองก็ไม่กล้าทิ้งนายหญิงไป ด้วยเกรงว่านายหญิงจะมีอันตรายฝูงงูเลื้อยเข้ามาใกล้ องครักษ์ลับห้อมล้อมกู้ชูหน่วนและคนอื่นๆ ไว้ตรงกลางโดยอัตโนมัติ ทุกคนชักดาบเอามาเล็งไปที่ฝูงงูทว่าฝูงงูมีมากเกินไป ฟันไปตัวหนึ่ง ก็มีอีกตัวเข้ามาอีก เลื้อยกันเข้ามายั้วเยี้ย ไม่มีทางฟันให้หมดไปได้เข็มเงินของกู้ชูหน่วนถูกยิงออกไป ฟึ่บฟึ่บฟึ่บ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 296

    อีกด้าน กู้ชูหน่วนกำลังพาฝูกวงมุ่งหน้าไปยังเขาหมายวิญญาณเขาหมายวิญญาณทั้งลูกสนั่นหวั่นไหว นางซวนเซทรงตัวไม่อยู่ มองดูสิ่งมหึมาที่อยู่กลางฟ้าด้วยความตกตะลึงหากไม่ได้เห็นกับตา นางไม่มีทางเชื่อว่าจะมีคนสามารถเปลี่ยนน้ำให้กลายเป็นมังกร เปลี่ยนใบไม้ให้กลายเป็นเฟิ่งหวงได้ อีกทั้งยังเป็นมังกรและเฟิ่งหวงที่ดูสมจริง ไอสังหารรุนแรงถึงขนาดนี้"ช่างเป็นพละกำลังที่กล้าแกร่งยิ่งนัก" กู้ชูหน่วนตะลึงอยู่ในใจจะต้องเป็นยอดฝีมือที่เก่งกาจเพียงใดถึงได้มีความสามารถเช่นนี้สีหน้าของฝูกวงดูไม่สู้ดี ใบหน้าตุ๊กตาที่ดูจิ้มลิ้มฉายให้เห็นแววความเกลียดชังปราดหนึ่ง"เผ่าเทียนเฝิน คนของเผ่าเทียนเฝินเริ่มต่อสู้กับเทพสงครามแล้ว นั่นคือหนึ่งในกระบวนท่าเด็ดของหัวหน้าเผ่ารุ่นต่อไปของเผ่าเทียนเฝินผลึกวารีหมื่นลี้""ผลึกวารีหมื่นลี้ ?""ขอรับ ในช่วงที่พลังของเขากำลังโชติช่วง เขาสามารถใช้น้ำแข็งผนึกเขาหมายวิญญาณทั้งลูก และช่วงชิงทั้งหมดที่นี่ไปในชั่วพริบตา" แต่หลังจากที่เขาใช้ผลึกวารีแล้ว เขาเองจะเจ็บหนัก เขาจึงไม่ใช้กระบวนท่านี้ง่ายๆตลอดทั้งชีวิตของเขา บางทีอาจจะใช้เพียงครั้งเดียว ครั้งนั้นคือการใช้มาจัดการกับ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 295

    เย่จิ่งหานเล่นขลุ่ยหยกขาวในมือด้วยท่าทางหน่ายคร้าน ริมฝีปากเรียวบางเปล่งออกมาหนึ่งประโยค"แค่เขาหมายวิญญาณเล็กๆ ข้าอยากจะตีก็ตี จำเป็นต้องผ่านความเห็นชอบจากเจ้าหรือ"บ้าบ้าคลั่งเกินไปแล้ว...เย่จิ่งหานวิทยายุทธสูงส่ง พลังอำนาจแข็งกล้าวิทยายุทธของหัวหน้าเผ่าหมอไม่ได้ด้อยไปกว่าเขา พลังอำนาจก็ไม่ได้น้อยไปกว่าเขา ยิ่งไปกว่านั้นยังมีเผ่าเทียนเฝินที่คอยจ้องตามันเย่จิ่งหานพูดเช่นนี้ เป็นการฉีกหน้าหัวหน้าเผ่าหมออย่างไม่ต้องสงสัยหรือควรจะพูดว่า ตอนที่เขาส่งทหารไปตีเขาหมายวิญญาณ ก็เท่ากับท้าทายอำนาจของหัวหน้าเผ่าหมอ แตกหักกับเขาโดยสิ้นเชิงหัวหน้าเผ่าหมอหัวเราะเจ้าเล่ห์ ดวงตาสีฟ้าอ่อนเผยให้เห็นความเย้ายวนที่ชวนให้คนหวาดกลัวชายชุดขาวยืนอยู่ใต้แสงจันทร์ ลมเย็นพัดเสื้อของเขาไหวสะบัด ราวกับจะติดปีกเป็นเซียนได้ทุกเมื่อภายใต้หน้ากากผีเสื้อ ดวงตาใสเป็นประกายเผยให้เห็นความชอบใจ เหมือนกำลังรอดูฉากเด็ดอยู่ทว่าประโยคต่อไปของหัวหน้าเผ่าหมอกลับทำให้ชายชุดขาวเกิดความสับสนว้าวุ่นเล็กน้อย"พวกเจ้าทั้งสองสู้กันไป หากสู้ไม่ไหว ข้าจะสู้แทนเอง"ทุกคน "..."นี่คือคำพูดที่หัวหน้าเผ่าหมอควรจะพูดเช

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 294

    "ไม่นาน เพิ่งจะเดือนกว่าเท่านั้น" เย่จิ่งหานแม้จะกำลังยิ้ม แต่รอยยิ้มก็ไม่ได้ส่งไปที่ดวงตาเช่นกันหนึ่งเดือนกว่าๆ ที่ผ่านมา เขาหลงกลแผนของเผ่าเทียนเฝิน ทำให้ถูกพิษ สูญเสียความสามารถในการเคลื่อนไหวไป สุดท้ายก็ถูกนางผู้นั้นลากเข้าไปในกองหญ้า จากนั้น...เมื่อคิดถึงค่ำคืนนั้น ไอความหนาวเหน็บของเย่จิ่งหานก็รุนแรงขึ้นกว่าเดิม"เทพสงครามดูน่าเกรงไม่ลดไปจากตอนนั้นเลย การต่อสู้อย่างดุเดือด สังหารผู้อาวุโสเผ่าเทียนเฝินของข้าไปถึงสิบหกคน ช่างเก่งกาจยิ่งนัก""ไม่เก่งกาจเท่าเผ่าเทียนเฝินหรอก ที่ทำเป็นแค่เรื่องไร้ศักดิ์ศรีลับหลังผู้อื่นเท่านั้น"ประโยคเดียวของเย่จิ่งหานทำให้ถึงทางตัน บรรยากาศพลันครุกรุ่นความบาดหมางเคียดแค้นของทั้งสอง เกิดขึ้นนานแล้ว ระหว่างนี้ผ่านมาหลายสิบรุ่น ไม่ใช่สิ่งที่จะสะสางได้วันสองวันเชื้อเพลิงสงครามพร้อมจะลุกโชนได้ทุกเมื่อการปะทะกันระหว่างยอดฝีมือเช่นนี้ ผู้อื่นในเหตุการณ์ไม่มีใครกล้าเข้าร่วม เพียงแค่ถอยหลังไปหลายก้าว เพื่อที่จะได้ไม่ต้องโดนลูกหลงในขณะที่สงครามกำลังจะเริ่มพลันมีเงาร่างสีแดงเพลิงอีกร่างลงมาจากกลางอากาศผู้ที่มาก็เป็นชายหนุ่มวัยเยาว์ เพียงแต่เ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status