Share

บทที่ 118

last update Terakhir Diperbarui: 2025-03-25 20:30:51

       หญิงชราเดินลากขาตามการโอบประคองของสามี สายตาฝ้าฟางเลื่อนลอยไม่รับรู้สิ่งใด แต่พอได้เห็นดวงหน้าของหลินเสวี่ยเฟิ่งเพียงเท่านั้น ดวงตาพลันเบิกโพลงด้วยความหวาดกลัวสุดชีวิต หญิงชรากรีดร้องเสียงดังโหยหวนราวกับสุกรถูกเชือด

       “ปีศาจ! มันคือปีศาจ ช่วยด้วยๆ ใครก็ได้ช่วยข้าที ปีศาจจะมาฆ่าข้า ปีศาจจะมาฆ่าข้าแล้ว” หญิงชราตีอกชกหัว หนีห่างจากเงาร่างของหลินเสวี่ยเฟิ่งอย่างหวาดผวา ใบหน้าถูไถไปกับลานพิธีอยากจะแทรกแผ่นดินหนี จนชายชราต้องรีบฉุดรั้งร่างของภรรยาไว้

       “ทุกท่านอาจจะยังไม่ทราบว่าบุรุษที่อยู่ข้างกายฝ่าบาทผู้นั้น คนที่ถูกแต่งตั้งให้เป็นถึงมารดาของแผ่นดิน ถูกยกย่องว่ามีคุณธรรมสูงส่ง อวดอ้างตนเองว่ามาจากตระกูลสูงศักดิ์ แต่แท้จริงแล้วเขาคือ ‘เกาต๋า’ บุตรบุญธรรมของสามีภรรยาแซ่เกา ซึ่งเป็นเพียงพ่อค้าวาณิชเล็กๆ ในเมืองเจียงโจว”

       คำบอกเล่าของหานจางหมิ่นทำเอาทุกคนในที่นี้ตะลึงงัน อย่างที่ทราบโดยทั่วกันว่าพ่อค้านั้นเป็นชนชั้นต่ำศ

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทนำ

    ยอดเขาซีเทียนเฟิงล่องลอยอยู่ท่ามกลางคลื่นเมฆาในดินแดนฮุ่นตุ้น[1] พระอาทิตย์ยามอัสดงเคลื่อนคล้อยผ่านทิวเมฆสาดแสงตกต้องป่าเฟิงผืนใหญ่แผ่คลุมเหนือยอดเขา เกิดเป็นสีสันอันงดงามตระการตาหาใดเปรียบ ท่ามกลางทิวทัศน์ซึ่งหาชมได้ยากนี้มีเรือนไม้หลังน้อยซุกซ่อนอยู่ ศาลาหอเก๋ง สระบัวสีมรกต โต๊ะหินอ่อนกลางลานเรือนถูกปกคลุมไปด้วยใบเฟิงสีอิฐแลดูสว่างไสว ล้อมรอบด้วยรั้วไม้ที่มีเถาวัลย์พันเกี่ยว หากในยามปกติคงเป็นบรรยากาศอันแสนอบอุ่นงดงาม แต่ทัศนียภาพดังกล่าวกลับถูกเปลวเพลิงจากเวทอัคคีมรณะกลืนกินจนแทบไม่หลงเหลือสิ่งใดให้ชื่นชม เปลวเพลิงเตโชกสิณสีดำทมิฬถาโถมโหมกระหน่ำร้อนแรงเผาผลาญทุกสรรพสิ่งให้ราพณาสูร ท่ามกลางเปลวเพลิงมรณะลุกโชติช่วงปรากฏเงาร่างของบุรุษในชุดอาภรณ์สีฟ้าครามกวัดแกว่งกระบี่ยาวคมกริบต้านรับดาบโค้งที่ฟาดฟันอย่างดุดันหมายปลิดชีพเขา แรงปะทะกันของอาวุธวิเศษสะเทือนเลื่อนลั่นดั่งภูผาทลาย ทำให้ทั้งสองฝ่ายถูกกระแทกไปไกลหลายจั้ง[2] สบโอกาสให้ชายหนุ่มคนดังกล่าวฉวยร่างของเด็กหนุ่มผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการต่อสู้มากอดแนบอก หมุนตัวหลบธนูเพลิงอัคคีมรณะที่กราดยิงดุจห่าฝน “ไป!” ‘ไป่ชิ

    Terakhir Diperbarui : 2024-11-12
  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 1 หนี้แค้นตระกูลหลี่

    “เกอเกอ... ท่านอย่าตายนะ... เกอเกอ...” ภายในตำหนักอี้ชิ่งอันกว้างใหญ่ ท่ามกลางผ้าม่านสีขาวโปร่งบางเป็นชั้นๆ ปลิวล้อสายลมยามย่ำรุ่ง ปรากฏเงาร่างกลมป้อมของ 'เฉินซือหยาง' นอนกระสับกระส่ายพลิกไปพลิกมาบนแท่นบรรทม มือเล็กกำผ้าห่มแน่น เหงื่อกาฬแตกพลั่กไหลโทรมกายเปียกชุ่มฟูกนอน เสียงละเมอของเด็กน้อยครางเครือในลำคอดังขึ้นเรื่อยๆ ทำเอาจางเสี่ยวเหล่ยหรือจางกงกงที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าประตูตำหนักตื่นตระหนกตกใจจนต้องรีบเข้าไปดู “องค์รัชทายาท องค์รัชทายาทพ่ะย่ะค่ะ” “เกอเกอ!” เฮือก!! เฉินซือหยางสะดุ้งตื่นจากฝันร้าย ผุดลุกขึ้นนั่งหายใจหอบหนัก ในห้วงความคิดภาพเหตุการณ์ในฝันยังคงวนเวียนอยู่ในหัว มันชัดเจนราวกับว่าเหตุการณ์นั้นได้เกิดขึ้นจริงที่ไหนสักแห่ง ไม่ใช่เพียงแค่ความฝัน ‘แล้วมันคือที่ใดกันเล่า เกอเกอที่ข้าเรียกหานั้นคือผู้ใดกัน’ เฉินซือหยางยิ่งคิดยิ่งสับสนมึนงง ใบหน้างามสง่าในห้วงฝันเริ่มเลือนรางห่างไกลราวกับคนผู้นี้ไม่มีอยู่จริง เหตุใดทุกครั้งที่เขาลืมตาตื่นพอนึกถึงภาพใบหน้าของคนผู้นั้นทีไรถึงนึกไม่ออกเล่า “เป็นอะไรไปพ่ะย่ะค่ะ ทรงพระสุบินร้ายอีกแ

    Terakhir Diperbarui : 2024-11-12
  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 2

    แคว้นต้าเฉินสถาปนาขึ้นหลังจากพระเจ้าเฉินไท่จูซึ่งในสมัยนั้นดำรงตำแหน่งแม่ทัพใหญ่ฝูกั๋ว[1] จับดาบต่อต้านจักรพรรดิราชวงศ์ก่อนที่ไม่สนใจบริหารราชกิจบ้านเมือง มัวเมาสุรานารี ปล่อยให้เหล่าขุนนางฉ้อราษฎร์บังหลวง แบ่งพรรคแบ่งพวกกันรีดนาทาเร้นประชาชนจนราชสำนักฟอนเฟะ ราษฎรอดอยากยากแค้น ชนเผ่าต่างแคว้นรุกราน เกิดภัยแล้งและภัยสงครามขึ้นทุกหย่อมหญ้า ประชาชนจึงลุกฮือขึ้นต่อต้านเหล่าขุนนางกังฉินจนแผ่นดินลุกเป็นไฟ ตอนนั้นพระเจ้าเฉินไท่จูได้รับคำสั่งให้ไปปราบจลาจลชาวบ้าน เพราะทนเห็นความอยุติธรรมไม่ไหวจึงรวบรวมไพร่พลใต้บังคับบัญชาเข้าร่วมกับชาวบ้านร่วมกันต่อต้านราชวงศ์ มุ่งหน้าทำศึกยึดเมืองต่างๆ จับกุมขุนนางกังฉินทั่วแผ่นดินตัดศีรษะแขวนศพประจานไว้หน้าประตูเมืองให้เป็นเยี่ยงอย่าง รวบอำนาจเบ็ดเสร็จมุ่งหน้ากรำศึกสุดท้ายที่ผิงอานเมืองหลวงของแคว้น จับจักรพรรดิโฉดชั่วผู้นั้นสังหาร แล้วปราบดาภิเษกขึ้นเป็นจักรพรรดิพระองค์ใหม่แห่งแคว้นต้าเฉิน เริ่มรัชสมัยอันรุ่งเรืองเฟื่อ

    Terakhir Diperbarui : 2024-11-13
  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 3

    “มาแล้วหรือ มานั่งนี่สิ” เฉินเทียนอี้ตบตักตนเองเบาๆ เรียกให้บุตรชายไปนั่งด้วย เฉินซือหยางเห็นดังนั้นก็ไม่อิดเอื้อนปีนขึ้นไปนั่งบนตักของเสด็จพ่ออย่างคุ้นชิน “เสด็จพ่อทรงทอดพระเนตรอะไรอยู่หรือพ่ะย่ะค่ะ” เฉินซือหยางชะโงกหน้ามองฎีกาที่เสด็จพ่อทรงอ่านค้างไว้ด้วยความอยากรู้อยากเห็น ศีรษะเล็กๆ ส่ายไปมาเล็กน้อยจนแทบไม่เห็นหากไม่สังเกตดูดีๆ ในระหว่างที่เจ้าตัวอ่านฎีกา ทำเอาผู้เป็นพ่อแย้มเยือนเอ็นดูในความใคร่รู้ของบุตรชาย “พ่อกำลังอ่านฎีกาที่เจิ้งกั๋วกง[1] ให้ม้าเร็วส่งมาให้” เฉินเทียนอี้บอกบุตรชายทั้งยังกอดร่างเล็กนุ่มนิ่มไว้ในอ้อมแขนเมื่อเจ้าตัวชะโงกหน้าเข้าไปใกล้โต๊ะมากเกินไป จนผู้เป็นบิดากลัวว่าบุตรชายจะหล่นจากพระที่นั่ง “เจิ้งกั๋วกงรบชนะเซียนเป่ยแล้วหรือพ่ะย่ะค่ะ ช่างเป็นเรื่องที่น่ายินดียิ่งนัก” “เป็นข่าว

    Terakhir Diperbarui : 2024-11-14
  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 4

    หลังจากเฉินซือหยางหารือข้อราชกิจกับเสด็จพ่อจนถึงยามโหย่ว[1] พอเดินออกจากตำหนักเฉียนชิงก็พบกับเหล่านางสนมที่มารอเข้าเฝ้า ทุกคนต่างผัดหน้าทาชาดกันมาแบบจัดหนักจัดเต็มยังกับจะมาเล่นละครงิ้วกันเสียเอง กลิ่นเครื่องหอมกำยานอบร่ำกันมาทั้งเนื้อทั้งตัวต่างคนก็ต่างกลิ่น คนนี้อบกลิ่นโม่ลี่ฮวา[2]คนนั้นอบกลิ่นอิงฮวา[3]คนโน้นเองก็อบกลิ่นเหมยกุ้ยฮวา[4]มีสารพัดกลิ่นราวกับยกหมู่มวลดอกไม้มาทั้งอุทยานหลวง กลิ่นเหม็นฉุนปะทะกันสารพัดกลิ่นแทบจะรมคนให้ตายได้ เฉินซือหยางได้กลิ่นคราแรกถึงกับหน้ามืดตาลาย เริ่มรู้สึกนับถือเสด็จพ่อจากก้นบึ้งของหัวใจที่พระองค์สามารถทนประทับอยู่กับสารพัดกลิ่นฉุนเหล่านี้ได้หลายปีดีดัก “ถวายบังคมองค์รัชทายาทเพคะ / พ่ะย่ะค่ะ” บรรดาสนมนางกำนัล และขันทีแต่ละตำหนัก ซึ่งตอนแรกพูดจาเสียดสีกันต่า

    Terakhir Diperbarui : 2024-11-15
  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 5

    เพียงชั่วก้านธูป[1] ผู้เป็นใหญ่แห่งวังหลังทั้งสองพระองค์ก็เสด็จกลับออกมา ภาพที่เฉินเทียนอี้เห็นในสายพระเนตรคือ ภาพของเหล่าสนม นางกำนัลนั่งคุกเข่ากันเรียงรายเป็นทิวแถวท่ามกลางหิมะตกหนัก ทุกคนหน้าซีดปากสั่นมีหิมะเกาะเต็มศีรษะสภาพน่าอเนจอนาถยิ่ง “ฝ่าบาท” “ฝ่าบาทเพคะ” เสียงร้องน่าเวทนาดังระงมดุจจักจั่นในฤดูร้อน ทำเอาเฉินเทียนอี้มุมปากกระตุก คิ้วคมเข้มขมวดฉับ ตวัดสายเย็นเฉียบมองคนต้นเรื่องด้วยความเดือดดาล จิตสังหารแผ่ซ่านจนซูโม่หลันสั่นสะท้านนึกเสียใจภายหลังที่ลงมือโดยพลการเช่นนี้ “หวังกงกง” “พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท” “ถอนรับสั่งของเต๋อเฟยเดี๋ยวนี้! บอกให้นางกำนัลปรนนิบัติเหล่าสนมรักของเราให้ดีอย่าให้

    Terakhir Diperbarui : 2024-11-18
  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 6

    แสงตะวันจับขอบฟ้าขับไล่ความหนาวเหน็บยามค่ำคืนในสารทฤดูให้จางหาย ละอองหิมะโปรยปรายลงมาบางเบาก่อนจะปลิวหายไปกับสายลมเย็นชื่น ผู้คนในเมืองผิงอานเริ่มต้นเช้าวันใหม่กันอย่างคึกคัก ชาวบ้านต่างพากันทำความสะอาดลานเรือนอย่างขะมักเขม้น โรงเตี๊ยมต่างๆ ร้านรวงริมทางเปิดทำการค้าแต่เช้าตรู่ พ่อค้าจากต่างถิ่นหลั่งไหลเข้ามาแลกเปลี่ยนสินค้า แต่วันนี้เมืองหลวงครึกครื้นยิ่งกว่าวันใด ที่นั่งในร้านรวงต่างๆ บนเส้นทางสัญจรสายหลักถูกจับจองจนแน่นขนัด เนื่องจากผู้คนต่างพากันมามุงดูขบวนทัพที่กำลังมุ่งหน้าเข้าสู่ประตูเมือง ชายวัยกลางคนหน้าตาดุดันเหี้ยมหาญในชุดออกศึกสวมเกราะหนักทั้งตัว ควบอาชาสีขาวพ่วงพีนำหน้าทัพหลวงเคลื่อนขบวนเข้ามาในเมืองผิงอานอย่างองอาจห้าวหาญธงรบสะบัดไหวรับกับจังหวะการย่างก้าวของกองทัพ เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังอันน่าเกรงขามจนผู้คนต่างพากันเลื่อมใส ร้องตะโกนแสดงความยินดีกับชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่ที่เหล่าทหารหาญแลกมาด้วยแรงกาย แรงใจ และหยาดโลหิต ดอกไม้งามโปรยตามเส้นทางที่ขบวนทัพเคลื่อนผ่านเป็นการต้อนรับเหล่าผู้กล้า หญิงสาวที่ยัง

    Terakhir Diperbarui : 2024-11-19
  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 7

    งานเลี้ยงฉลองชัยจัดขึ้น ณ ตำหนักไท่เหอ ภายในงานเต็มไปด้วยสุรา อาหารเลิศรส นักการสังคีตบรรเลงฉินคลอแผ่วท่วงทำนองลื่นไหลผ่อนคลายดุจสายน้ำกระทบหิน ขุนนางบุ๋นบู๊ขั้นสามขึ้นไปต่างพาครอบครัวทยอยมาเข้าร่วมงานเลี้ยง ภายในห้องโถงแบ่งออกเป็นสองฝ่าย บรรดาบุรุษต่างรวมตัวกันอยู่อีกฟากหนึ่งของห้อง จับกลุ่มพูดคุยกันถึงสถานการณ์บ้านเมืองที่เกิดขึ้นช่วงนี้ บ้างก็ปรึกษาหารือเกี่ยวกับข้อราชการที่ได้รับมอบหมาย ทางฟากฝั่งของสตรีเองก็ไม่น้อยหน้า บรรดาฮูหยินและฮูหยินตราตั้งทั้งหลายต่างจับกลุ่มพูดคุยสร้างเส้นสายเพื่อความก้าวหน้าในหน้าที่การงานของสามี บ้างก็พูดจาส่อเสียดเย้ยหยันตีวัวกระทบคราดกันไปมา บ้างก็สอดส่ายสายตาเสาะหาหนุ่มสาวอนาคตไกล ชาติตระกูลสูงส่งเพื่อเกี่ยวดองเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างชนชั้นสูง ซึ่งหนึ่งในนั้นมีกู้ฟางเหนียงรวมอยู่ด้วย วันนี้กู้ฟางเหนียงจับบุตรสาวแต่งตัวแบบจัดหนักจัดเต็ม เสื้อผ้าสีชมพูสดใส ปิ่นมุก กำไลหยกประโคมใส่ให้บุตรสาวราวกับจะเปิดร้านขายเครื่องประดับเสียเอง แต่ผู้ที่ให้ความร่วมมือดูเหมือนจะมีแค่บุตรคนที่สามอย่างจ้าวลี่เจียเพียงเท่า

    Terakhir Diperbarui : 2024-11-20

Bab terbaru

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 118

    หญิงชราเดินลากขาตามการโอบประคองของสามี สายตาฝ้าฟางเลื่อนลอยไม่รับรู้สิ่งใด แต่พอได้เห็นดวงหน้าของหลินเสวี่ยเฟิ่งเพียงเท่านั้น ดวงตาพลันเบิกโพลงด้วยความหวาดกลัวสุดชีวิต หญิงชรากรีดร้องเสียงดังโหยหวนราวกับสุกรถูกเชือด “ปีศาจ! มันคือปีศาจ ช่วยด้วยๆ ใครก็ได้ช่วยข้าที ปีศาจจะมาฆ่าข้า ปีศาจจะมาฆ่าข้าแล้ว” หญิงชราตีอกชกหัว หนีห่างจากเงาร่างของหลินเสวี่ยเฟิ่งอย่างหวาดผวา ใบหน้าถูไถไปกับลานพิธีอยากจะแทรกแผ่นดินหนี จนชายชราต้องรีบฉุดรั้งร่างของภรรยาไว้ “ทุกท่านอาจจะยังไม่ทราบว่าบุรุษที่อยู่ข้างกายฝ่าบาทผู้นั้น คนที่ถูกแต่งตั้งให้เป็นถึงมารดาของแผ่นดิน ถูกยกย่องว่ามีคุณธรรมสูงส่ง อวดอ้างตนเองว่ามาจากตระกูลสูงศักดิ์ แต่แท้จริงแล้วเขาคือ ‘เกาต๋า’ บุตรบุญธรรมของสามีภรรยาแซ่เกา ซึ่งเป็นเพียงพ่อค้าวาณิชเล็กๆ ในเมืองเจียงโจว” คำบอกเล่าของหานจางหมิ่นทำเอาทุกคนในที่นี้ตะลึงงัน อย่างที่ทราบโดยทั่วกันว่าพ่อค้านั้นเป็นชนชั้นต่ำศ

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 117

    เมื่อไม่กี่ชั่วยามก่อน “ยามซื่อ[1] แล้ว งานเลี้ยงมื้อกลางวันกำลังจะเริ่ม ทุกคนเร่งมือเข้า” ขันทีน้อยนายหนึ่งก้มหน้าก้มตายกจานขนมหวานบรรจุลงในกล่องไม้สำหรับใส่อาหารอย่างขะมักเขม้น รอจนหัวหน้าขันทีผู้คุมห้องเครื่องเดินผ่านไปตรวจงานยังส่วนอื่น มือหยาบหนาก็รวบผ้าผูกเป็นปมเพื่อกักเก็บความร้อน แล้วยกกล่องอาหารในห่อผ้าผืนงามเดินตามกลุ่มขันทีออกไป ขันทีผู้นั้นเดินตามหลังขันทีด้วยกันเงียบๆ ทุกคนต่างเร่งฝีเท้าไปยังลานพิธีหน้าตำหนักไท่เหอ ระหว่างเดินผ่านระเบียงทางเดินขบวนของเขาสวนกับเหล่านางกำนัล และขันทีกลุ่มอื่นเป็นระยะ แต่ขันทีหนุ่มก็ยังใจเย็น รอจนขบวนเดินผ่านเส้นทางร้างไร้ผู้คน เขาก็ชะลอฝีเท้าลง อาศัยจังหวะที่ผู้อื่นไม่ทันสังเกตเห็นปลีกตัวออกจากกลุ่มอย่างเงียบเชียบ เดินหลบหลีกผู้คน แล้วหายลับไปโดยไร้ผู้พบเห็น ขันทีคนดังก

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 116

    แดนบูรพา แคว้นต้าเฉิน เสียงคลื่นสาดซาซัดเข้าหาชายฝั่ง ฟองคลื่นม้วนตัวกระทบหาดทรายกลืนหายไปกับพื้นทรายเนื้อละเอียดไร้สีสันในยามค่ำคืน ลมทะเลพัดโหมริ้วผ้าโบกไสวใบเรือผืนใหญ่ส่ายสะบัดตามคลื่นลม นาวาลำใหญ่จอดนิ่งเรียบชายฝั่งเรียงกันหลายร้อยลำไกลสุดลูกหูลูกตา “เร่งมือเข้า” ชายผู้เป็นหัวหน้ากลุ่มคุมลูกน้องใต้สังกัดขนหีบไม้ใบใหญ่ด้านในเต็มไปด้วยอาวุธยุทโธปกรณ์ ทั้งหอก ดาบ โล่ ธนู และที่ขาดไม่ได้คือเสบียงกรังจำนวนมากถูกยกขึ้นเรือหีบแล้วหีบเล่าอย่างเงียบเชียบท่ามกลางความมืด ถึงแม้จะเบามือเบาเท้ามากเพียงไร แต่การเคลื่อนกำลังพลนับหมื่นย่อมไม่อาจรอดพ้นหูตาของหน่วยสืบราชการลับไปได้ หัวหน้าหน่วยสืบราชการลับส่งสัญญาณมือให้ลูกน้องใต้สังกัดถอนกำลังออกจากบริเวณนี้เงียบๆ หลังจากล่วง

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 115

    ดินแดนทางเหนือมีหิมะปกคลุมอยู่ชั่วนาตาปี ป้อมปราการสูงตระหง่านท้าลมพายุ ปุยหิมะโปรยปรายพัดพาความเย็นยะเยือกเข้าปกคลุมไปทุกอณูพื้นที่ ถึงภูมิอากาศจะเลวร้าย พืชพรรณธัญญาหารยากเพาะปลูก แต่ชาวบ้านก็ดำรงอยู่อย่างเข้มแข็งไม่คิดจะย้ายถิ่นฐาน เพราะชื่อเสียงของกองทัพตระกูลจ้าวเลื่องลือระบือไกลเป็นที่น่าครั่นคร้ามแก่อริราชศัตรู แม้แม่ทัพใหญ่อย่างจ้าวลี่จิ่นบุตรสาวของจ้าวมู่จะไม่อยู่ประจำการที่กองทัพด่านหน้า แต่แคว้นรอบข้างก็ยังไม่กล้ายกทัพเข้ามารุกราน ชาวบ้านจึงอาศัยอยู่ที่นี่อย่างเป็นสุขและปลอดภัย แต่แล้วความสงบสุขก็อันตรธานหายไป “ช่วยด้วย... กรี๊ดดด” เสียงกรีดร้องดังระงมไปทั่วทุกหนทุกแห่ง หมู่บ้านเป่ยปิงตกอยู่ในฝันร้ายอันน่าหวาดผวา ศพของผู้คนนอนกลาดเกลื่อนอยู่บนพื้นหิมะขาวโพลนทั้งเด็ก คนแก่ และสตรีที่ไร้เรี่ยวแรงหลบหนี แม้แต่บุรุษร่างสูงใหญ่ก็ยากจะต้านทานเมื่อต้องสู้กับสิ

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 114

    สัมผัสแผ่วเบาบริเวณปลายนิ้วปลุกจ้าวลี่หมิงให้ตื่นจากนิทรานัยน์ตาสีน้ำตาลซ่อนประกายมรกตคู่งามสะท้อนภาพดวงหน้าคมเข้มเคล้าคลอมือนิ่ม ริมฝีปากหยักจุมพิตนิ้วเรียวทีละนิ้วอย่างละเมียดละไม “ตื่นแล้วหรือ ข้ากวนเจ้า?” เฉินซือหยางเลิกคิ้วถาม นัยน์ตาสีนิลเต็มไปด้วยความหลงใหลคลั่งไคล้แฝงประกายอ่อนโยนอยู่เป็นนิจ “ท่านพึ่งรู้ตัวหรือ” จ้าวลี่หมิงหลบสายตา ชักมือหนีคนตัวโตทั้งใบหูแดงระเรื่อแต่ก็ไม่อาจหลุดพ้น หนำซ้ำยังโดนคนหน้าหนาจูบหลังมือนุ่มหนักๆ ไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยเขาไปง่ายๆ “อย่าซนสิ! ตอนนี้ยามใดแล้ว” “เพิ่งยามเฉิน[1] เจ้านอนต่ออีกหน่อยเถอะ” เฉินซือหยางนอนทอดหุ่ยสบายอารมณ์ มือหนาลูบไล้แผ่นหลังบางเขาหยุดว่าราชการหลายวันเพื่ออยู่เป็นเพื่อนภรรยาตัวน้อย โยนภาร

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 113

    ตำหนักบูรพาอบอวลไปด้วยความสุข ถึงแม้องค์รัชทายาทผู้เป็นเจ้าของงานจะปลีกตัวออกไปตั้งแต่ต้น แต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับการที่ฝ่าบาทยังประทับอยู่ที่นี่ ดังนั้นเป้าหมายในการประจบประแจงจึงเบนเข็มมายังเฉินเทียนอี้ ขุนนางบู๊บุ๋นทั้งหลายต่างดาหน้าเข้ามาคารวะสุราไม่ขาดสาย ทำเอาหลินเสวี่ยเฟิ่งอึดอัดนิดหน่อย “เสี่ยวเทียนข้าออกไปสูดอากาศข้างนอกสักครู่นะ” “ถ้าเจ้าเบื่อเรากลับกันเลยไหม” “อย่าดีกว่า ท่านคอยรับรองแขกแทนหยางเอ๋อร์เถอะ ข้าไปไม่นานหรอก” หลินเสวี่ยเฟิ่งตบหลังมือหนาเบาๆ แล้วปลีกตัวออกมาจากงาน โดยมีหวังกงกงตามรับใช้ใกล้ชิด หลินเสวี่ยเฟิ่งเหม่อมองตำหนักหลักที่ถูกใช้เป็นเรือนหอของบุตรชาย เทียนมงคลสาดแสงสีแดงสลัวราง บรรยากาศโดยรอบเงียบสงบต่างจากงานพิธี ณ ลานหน้าตำหนักโดยสิ้นเชิง หลินเสวี่ยเฟิ่งยิ้มบาง แ

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 112

    “ดีหรือไม่” เฉินซือหยางกระซิบถามเสียงพร่า ร่างหนาล้มตัวลงนอนทาบทับร่างโปร่งบาง กกกอดจ้าวลี่หมิงไว้ในอ้อมแขน ไม่ยอมถอดถอนตัวตนออกจากโพรงเนื้อนุ่มแม้เพียงชั่วขณะอยากจะซุกซบอยู่ในแอ่งอุ่นนี้ตราบนานเท่านาน “ยอดเยี่ยมที่สุด” จ้าวลี่หมิงถอนหายใจอย่างอิ่มเอม มือเรียวลูบไล้อกแกร่งเล่น ก่อนที่มือซุกซนจะเลื่อนไถลลงต่ำวนเวียนแถวๆ มัดกล้ามเป็นลอนงามเหนือหน้าท้องแกร่ง เล่นเอาไฟสวาทของเฉินซือหยางลุกโหมขึ้นมาอีกครั้งอย่างรวดเร็ว ลำกายแข็งชันเหยียดขยายช่องทางรักจนจ้าวลี่หมิงรู้สึกได้ “อีกครั้งนะ” เฉินซือหยางอ้อนเสียงพร่า มือหนาเริ่มยุ่มย่ามกับผิวเนื้อนวลเนียนชื้นเหงื่อให้สัมผัสลื่นมือ ตุ่มไตสีหวานตัดกับผิวขาวบางกระเพื่อมไหวตามการหายใจของจ้าวลี่หมิงยั่วเย้าให้ลมหายใจของคนร่างสูงหอบหนัก กระหายอยากคนร่างบางจนหน้ามืด “ไม่เอา เหนียว

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 111

    จ้าวลี่หมิงถูกอุ้มเข้าห้องหอ หลังจากท่านพ่อท่านแม่ของเขาเข้ามาทำพิธีปูเตียงให้เรียบร้อย เขาก็ได้แต่นั่งรออย่างสงบอยู่ภายในห้อง “ข้าจะออกไปต้อนรับแขกสักครู่ หากเจ้าหิวก็ทานก่อนได้เลยไม่ต้องรอข้า” เฉินซือหยางจูบหน้าผากอิ่มเนิ่นนานค่อยผละจากคนร่างเล็กอย่างอาลัยอาวรณ์ “ดูแลพระชายาให้ดี” “เพคะ” สาวใช้ประจำเรือนช่านไฉ่ทั้งสี่ตามมารับใช้จ้าวลี่หมิงด้วยรับคำโดยพร้อมเพรียง รอจนร่างสูงของเฉินซือหยางเดินจากไป จ้าวลี่หมิงก็โบกมือไล่เหล่าสาวใช้ “พวกเจ้าออกไปเถอะ หากมีอะไรแล้วข้าจะเรียก” “เพคะ” พอได้อยู่คนเดียวภายในห้องจ้าวลี่หมิงก็ทิ้งตัวลงนอนแผ่หลาพักผ่อนร่างกายให้คลายจากอาการเมื่อยขบ หลังจากยืนเกร็งอยู่เป็นนานในงานพิธี

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 110

    เฉินซือหยางกอดรัดร่างบางแนบแน่น ฝ่ามือลูบไล้แผ่นหลังเล็ก บรรยากาศอ่อนหวานโอบล้อมคนทั้งคู่คงจะดีถ้าไม่มีกลิ่นดอกเหมยหอมกรุ่นก่อกวนจมูกโด่งคม ไหนจะเนื้อตัวนุ่มนิ่มคอยบดเบียดอยู่ในอ้อมแขนนี้อีกเล่า ยั่วเย้าจนอะไรต่อมิอะไรของเขาผงาดกล้า “บ้าเอ๊ย! อยากเข้าหอชะมัด พวกเราข้ามขั้นตอนเลยดีไหม” ฟองอากาศแห่งความสุขลอยละล่องอยู่รอบกายแตกโพละเพราะคำพูดของชายหนุ่ม “บ้า! มันใช่เวลาไหม” จ้าวลี่หมิงทุบบ่าแกร่ง ดิ้นรนหลีกหนีจากอ้อมแขนของคนไม่รู้กาลเทศะ “อย่าดิ้น อยู่นิ่งๆ ก่อน” เฉินซือหยางสูดลมหายใจระงับอารมณ์เร่าร้อน จ้าวลี่หมิงตัวแข็งทื่อ ลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารดใบหูจนเขารู้สึกวูบไหวไปด้วย คนตัวเล็กเลยหยุดดิ้นนั่งนิ่งไม่กระดุกกระดิก รอจนลมหายใจหอบหนักของเฉินซือหยางกลับมาเป็นปกติ ค่อยผลักชายหนุ่มออกเบาๆ

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status