แชร์

บทที่ 182

ผู้เขียน: มู่อวิ๋นเฉิง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-24 17:00:00
หากหลานชายคนอื่น ๆ อายุไม่เกินเกณฑ์ นางก็เต็มใจไขว่คว้ามาเพื่อหลานชายคนอื่น ๆ เช่นกัน แต่อายุเกินเกณฑ์แล้ว ส่งเข้าไปจะดูเหมือนเป็นอะไร? แล้วคนอื่นจะคิดอย่างไรกับสกุลกู้ของพวกเขา?

กู้ซิวหมิงกล่าวอีกว่า “เช่นนั้นเมิ่งเฉิงจางเล่า? ท่านพ่อเป็นพี่เขยของเขา มีพี่เขยที่มีความรู้กว้างขวางเช่นนี้ เขาแค่มาอาศัยที่จวนพวกเรา มีคำถามที่ไม่เข้าใจก็ถามท่านพ่อเอาก็ได้แล้ว เหตุใดยังต้องส่งเข้าสำนักศึกษาหลิงซานด้วยขอรับ?”

ฮูหยินผู้เฒ่ากู้ฟังจนสับสน จึงถามอย่างสงสัยว่า “ซิวหมิง นี่มันเกี่ยวข้องอะไรกับเฉิงจางหรือ?”

กู้ซิวหมิงแค่รู้สึกน่าขันมาก จึงหัวเราะเยาะ และระบายความไม่พอใจออกมา “ท่านพ่อช่างลำเอียงยิ่งนัก ส่งหลานชายเข้าสำนักศึกษาหลิงซานก็ช่างเถอะ ถึงอย่างไรก็เป็นหลานชายแท้ ๆ และมีความสัมพันธ์ทางสายเลือด แต่เมิ่งเฉิงจางไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับเขาเลย แต่เพราะคลั่งรักเมิ่งจิ่นเหยา จึงส่งเมิ่งเฉิงจางเข้าสำนักศึกษาหลิงซาน ท่านพ่อทิ้งข้าไว้เพียงลำพัง ยังไม่ใช่เพราะข้าไม่ได้เป็นบุตรชายแท้ ๆ ของเขาหรอกหรือ? หากข้าเป็นบุตรชายแท้ ๆ ไยท่านพ่อจะลำเอียงเช่นนี้ขอรับ?”

“ซิวหมิง เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร?” กู้
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 183

    กู้ซิวหมิงสีหน้าซีดเผือด คำกล่าวของบิดาดังจนสะเทือนโสตประสาท เขาคิดไม่ถึงว่าบิดาจะปฏิบัติต่อเขาเช่นนี้เขาถูกบิดาลงโทษให้คัดคัมภีร์กตัญญูก็เท่ากับถูกตัดสินความผิดโทษฐานอกตัญญู บุตรอกตัญญู หากข่าวแพร่ออกไป ชื่อเสียงของเขาคงเพิ่มความอัปยศมาอีกหนึ่งอย่างบุตรอกตัญญู…กู้จิ่งซีถามเสียงทุ้มต่ำ “ซิวหมิง เจ้ายอมรับโทษหรือไม่?”แม้ในใจกู้ซิวหมิงจะไม่ยินยอม แต่กลับไม่กล้าต่อต้าน บิดาที่ดีของเขานี้เที่ยงธรรมไม่เห็นแก่หน้าใครทั้งสิ้น หากเขาไม่ยอมรับโทษ จะต้องมีโทษที่หนักยิ่งกว่ารอเขาอยู่ในภายหลังอย่างแน่นอน เขาจึงพยักหน้าและตอบกลับว่า “ลูกยอมรับโทษขอรับ”กู้จิ่งซีไม่อยากจะคุยกับเขามากนัก จึงกล่าวเสียงราบเรียบว่า “เช่นนั้นก็กลับไปที่เรือนของเจ้า ในช่วงกักบริเวณห้ามก้าวเท้าออกจากประตูแม้แต่ครึ่งก้าว”กู้ซิวหมิงขานรับเสียงหนึ่ง และทำความเคารพผู้อาวุโส หลังจากนั้นก็ออกจากโถงโซ่วอันอย่างสิ้นหวัง ราวกับสุนัขที่ไร้บ้าน หลี่หว่านเอ๋อร์ก็เดิมตามหลังมาอย่างใกล้ชิด พยายามจะกล่าวอะไร แต่กลับไม่กล้าเพราะเกรงจะไปทำร้ายความรู้สึกของเขาให้แย่ลงไปอีกในตอนนี้นางจางกับกู้จิ่งเซิ่งพึงพอใจต่อบทลงโทษนี้มาก แต่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 184

    ทันทีที่คำกล่าวนี้หลุดออกมา เมิ่งจิ่นเหยาก็มองเด็กหนุ่มด้วยความตกตะลึง เด็กหนุ่มรูปร่างผอมบาง กลับยืนตัวตรง และเห็นได้ชัดว่าเขาประหม่าจนกำหมัดแน่น แต่ยังคงใช้น้ำเสียงที่สงบนิ่งบรรยายถึงความอยุติธรรมของนาง เด็กชายตัวน้อยที่เมื่อก่อนเดินตามหลังนางต้อยๆ ได้เติบโตขึ้นในตอนที่นางยังไม่ทันได้รู้สึกตัวเสียแล้ว แถมเติบโตจนกลายเป็นชายชาตรีที่สามารถปกป้องนางได้อีกเมื่อฮูหยินผู้เฒ่ากู้ฟังจบ ก็ชะงักอีกครั้ง คิดไม่ถึงว่าเด็กหนุ่มนี้จะมีความกล้าหาญ และกล้าพูดคำเหล่านี้ต่อหน้าพวกเขาได้ถึงเพียงนี้ เมื่อมองชายหนุ่ม ราวกับนางจะเห็นอาเหยาในพิธีแต่งงานในวันนั้น พี่สาวน้องชายยังคงมีส่วนที่คล้ายกันอยู่ นางจึงกล่าวเสียงอ่อนโยนว่า “เฉิงจาง เจ้าไม่ต้องกังวล อาเหยาเป็นผู้อาวุโส ซิวหมิงรังแกนางไม่ได้หรอก และหากซิวหมิงไม่เคารพนาง ก็จะใช้กฎของสกุลลงโทษ วันนี้เจ้าก็เห็นแล้ว ว่าพี่เขยเจ้าไม่ใช่คนลำเอียง”“เช่นนั้นก็ดีขอรับ”เมิ่งเฉิงจางขานรับพลางพยักหน้าเบา ๆ เดิมเขาคิดว่าซิวหมิงก่อเรื่องเช่นนั้นออกมา จะมีความละอายใจกับพี่หญิงใหญ่ของเขา และคงจะไม่ทำให้พี่หญิงใหญ่ลำบากใจอย่างแน่นอน แต่คิดไม่ถึงว่าเพราะคู่หมั้นกล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 185

    อีกทางหนึ่ง ภายในโถงบุปผากู้จิ่งซีสีหน้าเรียบเฉย ราวกับอารมณ์ของเขาไม่ได้ถูกกระทบจากเรื่องของรุ่นหลัง และยกถ้วยชาขึ้นชิมรสชาติของชาอึกหนึ่ง พลางกล่าวอย่างอ่อนโยนว่า “ท่านแม่ชาของที่นี่ดีมากขอรับ กลิ่นหอมยังคงอยู่ในปาก และรสหวานก็ยังค้างอยู่ในลำคอ”เมื่อได้ยิน ไฟที่อยู่ในใจของฮูหยินผู้เฒ่ากู้ก็ลุกโชนขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุ เหลือบมองเขา และกล่าวตำหนิว่า “เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น เจ้ายังมีกะจิตกะใจดื่มชาอีกหรือ?”กู้จิ่งซียิ้มเล็กน้อย “จะทำให้ชาดี ๆ ของท่านแม่สูญเปล่าที่นี่ไม่ได้ขอรับ”เมื่อเห็นสีหน้าที่ไม่ไยดีของเขา ฮูหยินผู้เฒ่ากู้ก็บอกแน่นอนไม่ได้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ จึงถอนหายใจเบา ๆ และกล่าวอย่างกลุ้มใจว่า “เย่าหลิง ช่วงนี้ซิวหมิงก่อเรื่องนับวันยิ่งอุกอาจมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อก่อนเขาไม่เคยทำเรื่องเช่นนี้เลย”ท่าทางดื่มชาของกู้จิ่งซีชะงักลง เมื่อเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็กล่าวเสียงเบาว่า “บางทีนิสัยเดิมของเขาอาจเป็นเช่นนี้ ช่วงเวลาที่ดีสามารถแสดงด้านที่ดีที่สุดออกมาได้ แต่ในช่วงที่ยากลำบากกลับเผยนิสัยเดิมออกมา หรือบางทีอาจเป็นเพราะหลายปีมานี้เขาผ่านมาได้อย่างราบรื่นจนเกินไป แถมยังเป็นบุตรช

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-25
  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 186

    กู้จิ่งซีพยักหน้าและกล่าว “ท่านแม่วางใจ ลูกรู้จักขอบเขตของตนเองดีขอรับ”“ช่างเถอะ ช่างเถอะ ข้าไม่ยุ่งด้วยแล้ว” ฮูหยินผู้เฒ่ากู้ถอนหายใจ และไม่อยากดำเนินหัวข้อสนทนาที่น่าหงุดหงิดนี้ต่อ จึงกล่าวว่า “ในเมื่อเจ้ามาแล้ว ก็เดินเล่นเป็นเพื่อนข้าหน่อย พวกเราแม่ลูกไม่ได้เดินเล่นด้วยกันมานานแล้ว”“ขอรับ”กู้จิ่งซีวางถ้วยชาลง ยืนขึ้นก้าวเท้ามาข้างหน้าหลายก้าว และเอื้อมมืออยากจะพยุงนางฮูหยินผู้เฒ่ากู้เหลือบมองเขาอย่างตำหนิ “แม่รู้ว่าเจ้ามีความกตัญญู แต่ข้ายังไม่ถึงวัยที่อายุมากจนเดินเหินยังต้องให้คนพยุง”กู้จิ่งซียิ้มขอโทษพลางกล่าว “ท่านแม่พูดถูกขอรับ” ......เรื่องที่กู้ซิวหมิงสามคนทะเลาะกันเมื่อเช้า คนในจวนต่างรู้กันหมดแล้วแต่ฮูหยินผู้เฒ่ากู้สั่งปิดปากเงียบ จนสาวใช้ที่รู้เรื่องล้วนไม่กล้าเผยแพร่ออกไป ดังนั้นทุกคนจึงไม่ทราบสาเหตุที่สองสามคนนี้ทะเลาะกันคือเรื่องอะไรทางด้านเรือนรองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ กู้จิ่งซงไม่สนใจการทะเลาะกันระหว่างเด็ก ๆ กู้ซิวหงก็ไม่ใช่คนที่นินทา แม้แต่คิดจะส่งคนไปสอบถามยังไม่มีเลย และเก็บตัวอยู่ในห้องตำรา ตั้งใจอ่านเพียงตำรานักปราชญ์เท่านั้นกลับเป็นน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-25
  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 187

    วันนี้ อากาศสดใส และท้องฟ้าก็เป็นสีครามกว้างสุดลูกหูลูกตาเมิ่งเฉิงจางกับกู้ซิวเหวินเดินทางไปสำนักศึกษาหลิงซาน แผลที่ใบหน้ายังไม่หายดีทั้งหมด แต่เทียบกับวันก่อน ก็ดีขึ้นมากแล้ว เพียงแค่ต้องใส่ยาให้ตรงเวลา หลังจากถึงสำนักศึกษาในวันนั้น โดยพื้นฐานถือว่าฟื้นฟูได้ดี และมองไม่เห็นร่องรอยอะไรแล้วเป็นครั้งแรกที่กู้ซิวเหวินออกจากเรือน นางจางไม่อยากปล่อยไปอย่างยิ่ง เมื่อส่งบุตรชายถึงศาลาสิบลี้ที่อยู่นอกเมือง ถึงจะบอกลากับบุตรชายอย่างอาลัยอาวรณ์ เห็นใบหน้าของบุตรชายเต็มไปด้วยความตื่นเต้น กลับทำให้เห็นได้ชัดว่านางที่เป็นมารดาห่างจากบุตรชายไม่ได้นางจางไม่พูดอะไรมากอีก และกล่าวเตือนสติ “ลูกเอ๋ย เจ้าไปถึงสำนักศึกษาต้องตั้งใจเล่าเรียน และช่วงประเมินของทั้งสำนักตอนสิ้นปีก็พยายามประเมินให้ผ่าน มิเช่นนั้นจะถูกโน้มน้าวให้ลาออก อาสามของเจ้าก็จะขายขี้หน้าตามไปด้วย”กู้ซิวเหวินพยักหน้า “ท่านแม่ ข้าทราบแล้ว ท่านวางใจเถอะขอรับ”เมิ่งเฉิงจางรู้ความมาแต่ไหนแต่ไร เมิ่งจิ่นเหยาจึงไม่มีการเตือนสติอะไร เพียงแค่เตือนให้เขากินอิ่มสวมเสื้อผ้าดี ๆ อย่ากดดันตนเองมากจนเกินไป และกล่าวกับกู้ซิวเหวินว่า “ซิวเหวิน อยู

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-25
  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 188

    เมื่อเห็นสถานการณ์ เมิ่งจิ่นอวี้ก็กระทืบเท้าด้วยความโมโหทันที “ท่านแม่ ท่านดูนางสิเจ้าคะ แค่ได้เลื่อนตำแหน่งทางสังคม ก็ทำท่าเหมือนกิ้งก่าได้ทอง เห็นผู้อาวุโสก็ไม่รู้จักหยุดรถและลงมาทักทายกัน ท่านเลี้ยงดูนางมาสิบหกปีโดยไร้ประโยชน์จริง ๆ เจ้าค่ะ”นางซุนมองรถม้าที่ขับเคลื่อนไป ก่อนจะค่อย ๆ ชักสายตากลับ และระงับความโกรธแค้นที่ปั่นป่วนไว้ในใจ พลางดึงบุตรสาวขึ้นรถม้า จากนั้นก็กล่าวเสียงอ่อนโยนว่า “นางอวดเก่งได้ไม่นานหรอก อีกไม่กี่ปี สวยหายรักหด นางยิ่งไม่มีบุตรอยู่ข้างกาย หากไม่มีความโปรดปรานของฉางซินโหว นางก็ไม่มีค่าอะไร”“แม้ไม่มีความโปรดปรานของฉางซินโหว นางก็ยังคงเป็นฮูหยินของขุนนางผู้สูงส่งนะเจ้าคะ” หลังเมิ่งจิ่นอวี้พูดจบ ก็เบะปาก และรู้สึกหดหู่ใจ สองวันก่อนนางไปเข้าร่วมงานเลี้ยงรวมตัวของเหล่าพี่น้อง มีคนพูดฉีกหน้านาง บอกว่ามารดาของนางกับพี่หญิงใหญ่นางแตกคอกัน หากไม่มีความสัมพันธ์ของพี่หญิงใหญ่ แค่จวนหย่งชางป๋อที่ตกอับ คงหาครอบครัวสามีที่ดีให้นางไม่ได้ และทั้งชีวิตนี้นางก็อย่าหวังจะมีหน้ามีตาเหมือนพี่หญิงใหญ่ของนางเลยนางซุนหัวเราะเยาะอย่างไม่แยแส “ฮูหยินโหวนี่ของนาง เป็นเพียงหญิงที่อ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-25
  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 189

    เรือนเวยหรุยเซวียนเมิ่งจิ่นเหยาดูสมุดบัญชีที่คนดูแลหมู่บ้านส่งมาให้ ต่างก็เป็นทรัพย์สินส่วนตัวของกู้จิ่งซีทั้งนั้น นางดูสมุดบัญชี รายการที่บันทึกไว้ในนั้นดีมาก และที่ดินนี้ก็อยู่ภายใต้ชื่อของกู้จิ่งซีมาหลายสิบปีแล้วนางดูสมุดบัญชีหลายเล่ม และประเมินทรัพย์สินส่วนตัวของกู้จิ่งซีคร่าว ๆ ดู พบว่าสามีร่ำรวยมาก มิน่าเล่าถึงได้มอบตั๋วเงินให้นางสามหมื่นตำลึงได้เวลานี้ ชิงชิวก้าวเท้ามาข้างหน้าอย่างเชื่องช้า และแนะนำเสียงเบาว่า “ฮูหยิน ท่านก็ดูมานานแล้ว พักผ่อนเสียหน่อยไม่ดีกว่าหรือเจ้าคะ? และการจ้องมองนานเกินไปจะปวดตาเอา สมุดบัญชีนี่ก็ไม่ใช่ว่าต้องดูวันนี้ให้เสร็จด้วย”เมิ่งจิ่นเหยาก็รู้สึกเหนื่อยแล้วเช่นกัน จึงวางสมุดบัญชีลง นวดคลึงหว่างคิ้ว และพยักหน้าเบา ๆ “ก็ได้ เจ้าออกไปเดินเล่นเป็นเพื่อนข้าหน่อย”ชิงชิวพยักหน้าและขานรับ พลางช่วยนางเก็บสมุดบัญชีให้เรียบร้อยไม่นาน เซี่ยจู๋ก็ย่างก้าวเข้ามาอย่างรีบร้อน ยอบตัวทำความเคารพมาทางเมิ่งจิ่นเหยา และกล่าวรายงานว่า “ฮูหยิน ท่านโหวให้ท่านไปห้องหนังสือที่อยู่เรือนหน้าเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ” หลังจากเมิ่งจิ่นเหยาได้ยินก็ชะงัก และถามอย่างสงสัย “ท่านโหว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-26
  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 190

    เมิ่งจิ่นเหยารีบส่ายหน้า และกล่าวอธิบายอย่างกระอักกระอ่วนว่า “ข้า เมื่อครู่ข้ายังไม่ทันตั้งตัวเจ้าค่ะ”กู้จิ่งซีเม้มริมฝีปากและยิ้มเล็กน้อย พลางกล่าวติดตลกด้วยเสียงอ่อนโยนว่า “เช่นนั้นครั้งหน้าฮูหยินตอบช้าลงหน่อยก็ได้ และตอนที่ยังตั้งตัวไม่ทัน ก็อย่าถามฉีอวิ้นเหวินอีกว่ากู้เย่าหลิงคือผู้ใด มิเช่นนั้นครั้งหน้าคนอื่นจะคิดว่าพวกเราไม่คุ้นเคยกันจริง ๆ ”สีหน้าของเมิ่งจิ่นเหยาบึ้งตึงเล็กน้อย และฝืนยิ้มอย่างกระอักกระอ่วนแต่ยังคงสุภาพออกมา พลางจ้องมองเขาอย่างโกรธเคือง คนอื่นหยอกล้อก็ช่างเถอะ เขาจะหยอกล้อทำไม? เขาไม่เคยกล่าวถึงฉายานามของตนเองเลย ยังคงเป็นมารดาเขาที่เคยกล่าวถึงครั้งหนึ่ง แต่ก็แค่ครั้งนั้น ปกติไม่ได้เรียกฉายาเขา ส่วนใหญ่จะเรียกว่าท่านพี่ ดังนั้นจึงลืมไปในภายหลังเมื่อเห็นสถานการณ์ กู้จิ่งซีก็ไม่หยอกล้อนางอีก และหันไปมองฉีอวิ้นเหวิน พลางถามอย่างสงสัยว่า “ข้าให้ฮูหยินของข้าเข้ามา ไม่ได้เรียกเจ้าเสียหน่อย เจ้ามาทำไมหรือ?”ฉีอวิ้นเหวินฉุนกับคำพูดนี้เล็กน้อย หรือเขาไม่ควรมาปรากฏตัว?เขายักไหล่อย่างจนใจ “ตอนที่ข้ามา บ่าวรับใช้ของจวนเจ้าบอกว่าเจ้าอยู่ในห้องหนังสือ ข้าจึงให้เขาพาข้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-26

บทล่าสุด

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 254

    เฉียวหมอมอกระซิบเตือนสติ “เฉิงเอ๋อร์ เจ้าจงจำเอาไว้ว่าห้ามมีข้อบกพร่องแม้แต่เพียงนิดเดียว มิเช่นนั้นพวกเราแม่ลูกก็อย่าได้คิดว่าจะมีชีวิตรอดอีกเลย”ใบหน้าของหลี่เฉิงเผยให้เห็นถึงความตื่นตระหนก “หรือว่าคุณหนูใหญ่จะ…”สีหน้าของเฉียวหมอมอจริงจัง พลางส่ายหน้าแผ่วเบา “ไม่ใช่คุณหนูใหญ่”แต่เป็นฮูหยินฮูหยินสามารถทำให้ชุ่ยเอ๋อร์ตายได้ ก็สามารถทำให้นางกับหลี่เฉิงตายได้เช่นกัน พวกเขาทรยศฮูหยิน หลังจากที่ฮูหยินรู้เรื่อง ไม่มีทางปล่อยพวกเขาแม่ลูกเอาไว้แน่ และจะฆ่าพวกเขาเพื่อปิดปาก……ภายในห้องส่วนตัวเมิ่งจิ่นเหยาเหลือบมองจุดอ่อนทั้งสองฉบับที่เฉียวหมอมอและบุตรชายได้ประทับรอยนิ้วมือเอาไว้ มีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ฉายวาบผ่านนัยน์ตาราชวงศ์ปัจจุบันเชิดชูความกตัญญู บุตรฟ้องบิดามารดาถือว่าไม่กตัญญู ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นความจริงหรือไม่ บุตรล้วนต้องติดคุกสามปี ถูกโบยยี่สิบไม้ เช่นนั้นนางก็จะไม่ฟ้องร้องแล้ว ทว่าจะให้นางซุนอยู่มิสู้ตายเมิ่งจิ่นเหยาสั่งกำชับ “ชิงชิว เก็บของให้เรียบร้อย”ชิงชิวรับคำ พอพับกระดาษทั้งสองแผ่นเสร็จก็ใส่เข้าไปในซองจดหมายหนิงตงเคลื่อนเท้าไปที่หน้าต่างแล้วเหลือบมอง เมื่อมองเห็

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 253

    เมิ่งจิ่นเหยาส่งสายตาไปให้กับหนิงตงหนิงตงพยักหน้าอย่างเข้าใจ ทันใดนั้นก็หยิบตั๋วเงินใบหนึ่งออกมาจากถุงเงินแล้วส่งให้กับหลี่เฉิงนั่นคือตั๋วเงินที่มีค่าหนึ่งพันตำลึงจำนวนหนึ่งใบเมื่อหลี่เฉิงเห็นว่าจำนวนไม่ถูกต้อง ก็งุนงงเล็กน้อย ทว่าก็ไม่กล้าถามอันใด เพียงแค่เตือนอย่างตะกุกตะกักเท่านั้น “คุณหนูใหญ่ นะ นี่มันตั๋วเงินหนึ่งพันตำลึงเท่านั้นนะขอรับ”เมิ่งจิ่นเหยาพยักหน้าแผ่วเบา “ไม่ผิด นี่ก็คือหนึ่งพันตำลึง”เมื่อเฉียวหมอมอมองเห็นหนึ่งพันตำลึงนั่น ก็มองเมิ่งจิ่นเหยาอย่างสับสนและประหม่า ทั้ง ๆ ที่ตกลงกันแล้วว่าหกพันตำลึง อยู่ ๆ ก็กลายเป็นหนึ่งพันตำลึง หรือว่าต้องการกลับคำ และต้องการเล่นตลกกับพวกเขาแม่ลูกกระนั้นหรือ?หลี่เฉิงอดรนทนไม่ไหว จึงถามด้วยเสียงร้อนรน “คุณหนูใหญ่ ท่านบอกว่าหกพันตำลึงมิใช่หรือขอรับ?”เมิ่งจิ่นเหยากล่าวอย่างไม่รีบไม่ร้อน “เงินรายได้หนึ่งพันตำลึงของที่ดิน คงจะใกล้ได้เวลาส่งมอบสมุดบัญชีให้กับนางซุนแล้วกระมัง? เงินหนึ่งพันตำลึงนี้เจ้าเอาไปเติมเต็มรอยรั่วนี้ก่อน”นางพูดแล้วหยุดลงชั่วขณะ หันหน้าไปมองเฉียวหมอมอ พลางยกยิ้มแผ่วเบา “ส่วนที่เหลืออีกห้าพันตำลึง ก็ต้องดูคว

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 252

    สีหน้าของเมิ่งจิ่นเหยาอ่อนลง พลางถามอีกว่า “ชุ่ยเอ๋อร์เล่า?”เฉียวหมอมอตอบตามความเป็นจริง “หลังจากชุ่ยเอ๋อร์ออกเรือน ก็ตายเพราะคลอดยากเจ้าค่ะ”ตายเพราะคลอดยากงั้นหรือ?เมิ่งจิ่นเหยาหรี่ตาเล็กน้อย อย่าโทษที่นางคิดมากเกินไป ชุ่ยเอ๋อร์ออกไปจากสายตาของนางซุน ไม่อยู่ในการควบคุมของนางซุน ทว่าเมื่อรู้ความลับของนางซุนแล้ว ก็ยากที่จะหลีกเลี่ยงนางซุนให้ไม่ห่วงกังวล ด้วยเหตุนี้จึงมีความเป็นไปได้ว่าจะปิดปากนางเฉียวหมอมอสังเกตความเปลี่ยนแปลงในสีหน้าของนางอย่างไม่แสดงออก สามารถคาดเดาได้ว่านางกำลังคิดอะไรอยู่ พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงลังเลว่า “เป็นเหมือนที่คุณหนูใหญ่คิดจริง ๆ เจ้าค่ะ”ถูกต้องแล้ว ชุ่ยเอ๋อร์ตายเพราะคลอดยาก เป็นฝีมือของฮูหยินจริง ๆ ฮูหยินจงใจส่งของบำรุงครรภ์จำนวนมากเป็นพิเศษไปให้กับชุ่ยเอ๋อร์ชุ่ยเอ๋อร์ที่ซื่อ ๆ เข้าใจผิดคิดว่าฮูหยินคิดถึงไมตรีครั้งเก่า และเห็นความสำคัญของตนจึงได้ส่งของบำรุงมาให้กับตนเอง และทั้งหมดก็เป็นของดี เป็นของดีที่ปกติไม่ได้กิน จึงได้กินไปทั้งหมด สุดท้ายก็ตายเพราะคลอดบุตรยาก หนึ่งศพสองชีวิตเมื่อมาคิดดูในตอนนี้ ภายในใจของเฉียวหมอมอยังคงหวาดกลัวอยู่บ้าง นายหญ

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 251

    ในวินาทีที่สิ้นเสียงของนาง เสียงที่หนักแน่นของหลี่เฉิงก็ดังขึ้น “คุณหนูใหญ่ ข้าน้อยยินดีเป็นม้ารับใช้ของคุณหนูใหญ่ขอรับ”เมื่อหลี่เฉิงกล่าวจบ ก็ยื่นมือไปสัมผัสที่หมึก จากนั้นก็ประทับรอยนิ้วมือไปบนกระดาษทั้งสองแผ่น การเคลื่อนไหวลื่นไหลเป็นธรรมชาติ ไม่มีความลังเลแม้แต่น้อยเมื่อเฉียวหมอมอเห็นดังนั้น ก็ประทับนิ้วมือตามในทันทีจุดอ่อนมีหลักฐานที่เป็นรูปธรรมแล้ว พวกเขาแม่ลูกขึ้นเรือของเมิ่งจิ่นเหยาโดยสมบูรณ์ นับจากนี้เป็นต้นไปก็เป็นผู้ที่อยู่บนเรือลำเดียวกันแล้ว สามารถทำได้เพียงจงรักภักดีต่อเมิ่งจิ่นเหยาเท่านั้น มิเช่นนั้นหากถูกเปิดเผยต่อหน้านางซุน นางซุนไม่มีทางปล่อยพวกเขาไว้แน่เมิ่งจิ่นเหยาเหลือบมองรอยนิ้วมือที่อยู่บนนั้น รอยยิ้มฉายวาบผ่านนัยน์ตา พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เฉียวหมอมอ ผู้ดูแลหลี่ พวกเรามาร่วมมือกันอย่างมีความสุขเถิด”สีหน้าของนางสงบนิ่ง น้ำเสียงนุ่มนวล ดูแล้วท่าทางน่าคบค้าด้วยอย่างมากทว่าเฉียวหมอมอกับหลี่เฉิงกลับเกิดความรู้สึกหวาดกลัวนางขึ้นมาเล็กน้อย คนผู้นี้ไม่ได้รับความรักอย่างที่สุด เป็นบุตรสาวคนโตสายตรงของจวนหย่งชางป๋อที่แม้กระทั่งบ่าวไพร่ยังสามารถเหยียบย่ำ

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 250

    เมื่อนางจริงใจอย่างเต็มเปี่ยม เมิ่งจิ่นเหยาที่เงียบงันอยู่นานก็ได้พยักหน้าตอบ “ในเมื่อพวกเจ้าสองคนแม่ลูกมีความจริงใจ เรื่องนี้ก็จะมอบให้พวกเจ้าไปทำ ข้าก็คร้านจะหาผู้อื่นเช่นกัน สำหรับจะเป็นวัวเป็นม้าในอีกครึ่งชีวิตที่เหลือนั้น ก็ไม่จำเป็น เพียงแค่ต้องทำเรื่องนี้แทนข้าให้ดีก็พอแล้ว”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ หลี่เฉิงก็คุกเข่าตาม พลางกล่าวขอบคุณพร้อมกับเฉียวหมอมอ “ขอบคุณคุณหนูใหญ่”เมิ่งจิ่นเหยาส่งสายตาให้กับชิงชิวชิงชิวเข้าใจโดยสัญชาตญาณ จากนั้นก็หยิบซองจดหมายซองหนึ่งออกมาจากแขนเสื้อ เปิดซองจดหมายแล้วหยิบกระดาษที่เขียนตัวอักษรขึ้นมาสองแผ่น หลังจากนั้นก็รับกล่องขนาดเล็กทรงกลมกล่องหนึ่งมาจากมือของหนิงตงแล้วเปิดออก นั่นคือกล่องหมึกสีชาดกล่องหนึ่งเมิ่งจิ่นเหยากล่าวอีกว่า “เฉียวหมอมอ ผู้ดูแลหลี่ ประทับรอยนิ้วมือบนนี้เถิด”เมื่อกล่าวคำนี้ออกมา เฉียวหมอมอกับหลี่เฉิงก็ตะลึงงัน พากันลุกขึ้นยืน มองไปบนกระดาษสองแผ่นที่อยู่ตรงหน้าอย่างไม่รู้เหตุผลเฉียวหมอมอกล่าวอย่างงงัน “คุณหนูใหญ่ นี่คือ?”เมิ่งจิ่นเหยายิ้มอย่างใจเย็น พลางกล่าวอย่างช้า ๆ ว่า “ข้าจะให้เงินหกพันตำลึงแก่พวกเจ้า หากพวกเจ้ากลับคำไ

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 249

    “คุณหนูใหญ่ ในที่สุดท่านก็มาเสียที เชิญเข้ามาโดยเร็วเถิดขอรับ”เมื่อหลี่เฉิงมองเห็นเมิ่งจิ่นเหยา ก็เหมือนดังได้เห็นที่พึ่งสุดท้าย เป็นแสงสว่างในความมืดมิด ดวงตาทั้งคู่ของเขาเปล่งประกาย รีบหลบไปด้านข้างเพื่อหลีกทางเชิญเมิ่งจิ่นเหยาและสาวใช้สองคนเข้ามาเมิ่งจิ่นเหยาพยักหน้าเล็กน้อย พลางย่างเท้าเข้าไปในห้องส่วนตัวหนิงตงกับชิงชิวติดตามไปอย่างใกล้ชิดเมื่อเฉียวหมอมอมองเห็นเมิ่งจิ่นเหยากับสาวใช้อีกสองคนเข้ามา ก็ยิ้มอย่างกระอักกระอ่วน พลางรินน้ำชาให้กับเมิ่งจิ่นเหยา “คุณหนูใหญ่ เชิญดื่มชาเจ้าค่ะ”ก่อนหน้านี้ตอนที่เมิ่งจิ่นเหยายังไม่ออกเรือน เฉียวหมอมอคือคนสนิทที่อยู่ข้างกายของฮูหยิน สำหรับสตรีที่ไม่ได้รับความรักอย่างเมิ่งจิ่นเหยาแล้ว นางไม่จำเป็นต้องจะต้องใส่ใจ ทว่าตอนนี้นางกลับมีเรื่องที่ต้องขอร้องต่อหน้านาง ความรู้สึกเช่นนี้ทั้งน่ากระอักกระอ่วนและซับซ้อนเมิ่งจิ่นเหยาเหลือบมองดูเฉียวหมอมออยู่ชั่วครู่ จากนั้นก็กล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า “เงินหกพันตำลึงไม่ใช่เงินจำนวนเล็กน้อย ข้าต้องการเห็นคุณค่าถึงจะสามารถช่วยเหลือผู้ดูแลหลี่ได้ เฉียวหมอมอลองบอกมาก่อนเถิดว่ามีอันใดที่คุ้มค่ากับเงินหกพัน

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 248

    จนกระทั่งปลายปีที่แล้ว แม่สามีของนางในตอนนี้ได้จัดงานเลี้ยงขึ้น จึงได้เชิญท่านย่าของนางไปที่ตระกูลกู้เพื่อพูดคุยเรื่องการแต่งงาน ท่านย่าของนางจึงวางใจได้เสียที และจัดเตรียมการแต่งงานให้กับนางกู้จิ่งซีดูเหมือนจะไม่เข้าใจความหมายที่นางกล่าวออกมา จึงยิ้มพลางกล่าวว่า “ฮูหยินก็เป็นแม่คนแล้วเช่นกัน”เมิ่งจิ่นเหยา “…”หากเป็นลูกอกตัญญูเหมือนเช่นกู้ซิวหมิงก็ช่างเถิด นางไม่ต้องการ มีลูกอย่างกู้ซิวหมิง อายุคงสั้นลงไปอีกหลายปี……วันรุ่งขึ้น ใบหน้าของเฉียวหมอมอเต็มไปด้วยความกังวล นางติดตามหลี่เฉิงบุตรชายมารออยู่ที่ห้องส่วนตัวของโรงน้ำชาที่ตกลงกันไว้ ก่อนหน้านี้มิใช่ว่าบุตรชายไม่เคยติดหนี้การพนัน ทว่าก็ไม่เคยติดหนี้มากมายถึงเพียงนี้ไม่ต้องถึงห้าพันตำลึงของโรงบ่อน ต่อให้เป็นรายได้ของที่ดินที่ขาดดุลหนึ่งพันตำลึงนั่น นางก็ไม่สามารถเอามาคืนได้เช่นกันนางเป็นหมอมอคนสนิทที่อยู่ข้างกายฮูหยิน แต่กลับกำลังจะทำข้อตกลงกับคุณหนูใหญ่ คุณหนูใหญ่กับฮูหยินมีบุญคุณความแค้นต่อกัน นางทำเช่นนี้เป็นการทรยศฮูหยินที่เคยมีบุญคุณต่อนางอย่างไม่ต้องสงสัยความรู้สึกที่แท้จริงภายในใจทรมานไม่หยุดหย่อน ตอนนี้ถึงเวลา

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 247

    เมื่อมองเห็นท่าทางที่เตรียมพร้อมเป็นอย่างดีแล้วของแม่นางน้อย กู้จิ่งซีก็ถามอย่างสนใจว่า “ฮูหยินมีแผนอย่างไรงั้นหรือ?”เมื่อเมิ่งจิ่นเหยาหันมามองเขา ก็เห็นบุรุษผู้นี้กำลังมองดูตนเองด้วยสีหน้าอ่อนโยน ก็ไม่รู้ว่าเหตุใด ถึงได้มีความรู้สึกไว้วางใจเขาอย่างแปลกประหลาด ลังเลเพียงแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น ก็เล่าแผนทั้งหมดให้เขาฟังกู้จิ่งซีฟังแม่นางน้อยพูดจนจบ อันที่จริงแผนของแม่นางน้อย สำหรับเขาแล้วยังไม่ประสีประสายิ่งนัก ทว่าสตรีที่อยู่แต่ในเรือน สิ่งที่สามารถทำได้มีข้อจำกัด จึงสามารถทำได้แค่นี้เท่านี้เขาพยักหน้าแผ่วเบา พลางตอบไปสองคำ “ไม่เลว”เมื่อเมิ่งจิ่นเหยาได้ฟังคำยืนยันจากเขา รอยยิ้มที่มีอยู่บนใบหน้าก็กว้างขึ้น ยันข้อศอกไว้บนโต๊ะ มือทั้งสองเท้าคาง ยิ้มหวานพลางถามว่า “ท่านพี่มีแผนที่ดีกว่านี้หรือไม่เจ้าคะ?”กู้จิ่งซีหันมามองนาง พยักหน้าแล้วตอบว่า “มี ทว่าไม่เหมาะกับเจ้า”เมิ่งจิ่นเหยาส่งเสียง ‘หืม?’ อย่างไม่เข้าใจ เงยหน้ามองเขาด้วยความสับสน หมายจะสอบถามกู้จิ่งซีกล่าวด้วยเสียงอ่อนโยน “เป็นสตรี อย่าใช้วิธีการเปื้อนเลือดจะดีกว่า”เมื่อได้ฟังดังนั้น เมิ่งจิ่นเหยาก็เบ้ปาก สุดท้ายก็ไม่

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 246

    เมิ่งจิ่นเหยาพยักหน้าแผ่วเบา ครุ่นคิดอย่างลังเลอยู่ชั่วครู่ก็ถามอีกว่า “ที่ดินในเขตชานเมืองของข้าขาดผู้ดูแล เจ้ายินดีไปหรือไม่?”ทุกวันนี้ นางรู้สึกว่าความสามารถของหลินรุ่ยค่อนข้างใช้ได้ บังเอิญในสินเดิมของมารดานางมีที่ดินอยู่และต้องการเปลี่ยนผู้ดูแล หลินรุ่ยเหมาะสมที่จะไปทำหน้าที่ผู้ดูแลได้พอดีประการแรกเป็นเพราะว่าหลินรุ่ยมีความสามารถประการที่สองเป็นเพราะว่าหลินรุ่ยเป็นคนของนาง สามารถเชื่อใจได้ รายได้ของที่ดินนั่นดีมาก เขาไม่มีทางทำบัญชีเท็จและปิดบังเงินรายได้ที่ดินกับร้านค้าพวกนั้นอยู่ในสินเดิมของมารดานาง ถูกนางซุนดูแลมานานหลายปี ผู้ดูแลเดิมได้ถูกนางซุนเปลี่ยนตัวไปตั้งนานแล้ว ตอนนี้ผู้ดูแลพวกนั้นล้วนแต่เป็นคนที่นางซุนปลูกฝังมา หรือไม่ก็เป็นพวกคนไม่ซื่อสัตย์ที่ไปพึ่งพานางซุนตอนนี้นางรับกลับมาดูแลต่อ คนของนางซุนย่อมต้องเปลี่ยนออกไปเป็นธรรมดา เปลี่ยนออกไปทั้งหมด ช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ไม่สามารถหาคนที่เชื่อใจได้มากมายขนาดนั้น ช่วงนี้สามารถทำได้เพียงเปลี่ยนคนที่ไม่เข้าตาที่สุดออกไป ส่วนคนอื่น ๆ ก็ค่อย ๆ สังเกตกันไป ค่อยเป็นค่อยไป คนที่นางสามารถใช้ประโยชน์ได้ก็เก็บเอาไว้ก่อนหลินรุ่ย

DMCA.com Protection Status