หยางอี้หงหัวเราะลั่นไม่อาจรั้งสติได้อีกต่อไป “เช่นนั้นเราทั้งคู่ก็มาตายด้วยกันเถิด ทว่าก่อนตายข้าจะให้เจ้าได้รับความทรมานอย่างสาสม”หยางอี้หงตวัดดาบรวดเร็ว ตัดใบหูของฉางหมิงฟู่ทั้งสองข้าง ตัดนิ้วของนางผู้นั้นออกจนกุด เลือดไหลนองไปทั่วพื้นท่ามกลางเสียงกรีดร้องของฉางหมิงฟู่ที่บ่งบอกว่าทรมานและเจ็บปวด
จูชางหลางจึงรีบรุดมายังที่เกิดเหตุ เมื่อมาถึงที่นี่คาดไม่ถึงว่าคนร้ายจะกลายเป็นหยางอี้หงเสียเอง เขามองเลือดที่สาดกระเซ็นจนเต็มพื้น จูชางหลางสูดลมหายใจลึก แล้วเอ่ยถาม“เกิดอะไรขึ้น”หยางอี้หงเห็นแล้วว่าเป็นจูชางหลาง น้ำตาพลันไหลรินเอ่ยทั้งกรีดร้อง“ชางหลาง ลูก ลูกของเรา ถูกฮองเฮาสังหารแล้ว เขาตายแล้ว
อัครมหาเสนาบดีเข้าขัดขวาง เหล่าขุนนางที่กำลังประชุมกันอยู่ได้รับรายงานจึงตามเขามาที่ตำหนักนี้นับสิบคน ล้วนเป็นขุนนางสำคัญของราชสำนักอัครมหาเสนาบดีเห็นร่างของบุตรสาวแล้ว เขารีบวิ่งไปดูนางคุกเข่าร่ำไห้อยู่ตรงนั้นดึงร่างบุตรสาวมากอดไว้แน่น ปากร้องให้หมอหลวงมารักษาในขณะที่ดวงตาจับจ้องจูชางหลางเขม็ง“ฝ่
ค่ำคืนนี้หยางอี้หงถูกขังในคุกหลวง จูชางหลางวางนางลงบนพื้นฟางยังใช้เสื้อคลุมมังกรของเขาห่มร่างเล็ก โชคดีที่นางไม่ได้รับบาดเจ็บมากนักหยางอี้หงจับมือของเขาเอาไว้แล้วลูบเบา ๆ คนสองคนมองตากันอย่างลึกซึ้งเข้าใจความเจ็บปวดทรมานของกันและกัน หมอหลวงตามมาดูแลร่างกายของนางถึงที่นี่จูชางหลางถึงวางใจ“เจ้าอดทนเ
ในตำหนักเฉียนชิงจู่ ๆ จูชางหลางก็พบว่าเนื้อตัวของบุตรชายยังคงอุ่น เขาหยุดหายใจมาได้เกือบสามชั่วยามแล้วไม่ใช่หรือ ดวงตาของจูชางหลางเบิกกว้างด้วยความตื่นเต้น หรือว่าจะมีบางสิ่งผิดพลาด ความหวังพลันเกิดขึ้น ฮ่องเต้หนุ่มจ้องใบหน้าเล็กของบุตรชายแล้วเอ่ยเสียงดัง“พวกเจ้าไปปล่อยตัวหมอหลวงมาที่นี่ให้หมด ข้
จั่วเจี้ยนยังรั้งอยู่จวนอ๋องเพื่อคอยอารักขาจูอ๋อง กระทั่งจูอ๋องฟื้นขึ้นมาจึงเรียกเขาเข้าพบ“ท่านอ๋องจั่วเจี้ยนมาแล้วขอรับ”น้ำเสียงอิดโรยเอ่ยขึ้นแผ่วเบา“จั่วเจี้ยนข้าอยากไปพบคนพวกนั้น”จั่วเจี้ยนขยับเข้าไปข้างเตียงแล้วเอ่ยถาม“ผู้ใดหรือขอรับ”“คนจากแคว้นเจี่ย”คนจากแคว้นเจี่ยที่ยังมีในจวนอ๋องก็มีเพ
หยางอี้หงยังคงนอนนิ่งอยู่ในคุก เสื้อคลุมปักลายมังกรเปรอะเปื้อนเลือดของนางจนเป็นคราบ นางคุ้นเคยกับกลิ่นเลือดและความตายเป็นอย่างดี การอยู่ในคุกหลวงนี้จึงไม่นับเป็นอะไรได้ ตลอดคืนที่ผ่านมาจึงไม่ได้มีอาการหวาดกลัวหรือตื่นตระหนกเลยแม้แต่น้อยอาหารถูกนำมาให้นาง ล้วนแต่เป็นอาหารชั้นดีเนื่องจากเป็นอาหารมื้อ
เมื่อถึงยามซวี ทหารผู้หนึ่งกลับมารายงานว่าบัดนี้หยางอี้หงไม่ได้อยู่ในคุกแล้ว สตรีที่อยู่ในคุกผู้นั้นกลายเป็นนางกำนัลที่เข้าไปส่งอาหารแทน และบัดนี้ทหารที่เฝ้าหน้าประตูห้องขังล้วนถูกวางยาเสียสลบไม่รู้สึกตัวอัครมหาเสนาบดีจ้องมองจูชางหลางด้วยความโกรธแค้น การกระทำนี้หากไม่ใช่ฝ่าบาทแล้วจะเป็นผู้ใด ทว่าเข
ปีค.ศ.1970คุณนายสกุลฉางให้กำเนิดบุตรีคนแรก ผิวขาวราวหยกใบหน้าจิ้มลิ้ม ซินแสทำนายวาสนาสูงส่งยิ่งนัก ทำให้กิจการค้าขายของบิดามารดาเจริญรุ่งเรืองในยามนั้นบิดาได้หมั้นหมายเด็กหญิงเอาไว้กับบุตรชายคนโตของเพื่อนรักแห่งสกุลต้วนต้วนชางหลางเด็กชายอายุราวหกขวบกำลังจ้องมองทารกตัวน้อยที่นอนอยู่ในเปลด้วยความสน
จูชางหลางอุ้มสตรีร่างผอมขึ้นมาวางนางเอาไว้บนตักของเขาโถมร่างกายก้มกอดนางแนบแน่นจนลึกสุดหัวใจ เส้นผมของนางกลายเป็นสีขาวโพลน รวมทั้งผมของเขาเช่นกัน ยามนี้เมื่อใกล้ชิดเส้นผมขาวของคนทั้งคู่กำลังเคลียคลอซึ่งกันและกันโดยไม่อาจแยกแยะว่าเป็นผมของผู้ใดกันแน่จูชางหลางเข้าใจชีวิต มิมีผู้ใดฝืนสังขารของร่างกาย
ตอนพิเศษ ตอนที่ 1ยี่สิบปีต่อมา“ท่านตา ท่านยายแย่แล้วขอรับ”จู่ ๆ ก็มีเด็กผู้หนึ่งวิ่งเข้ามาบอกเขาในเรือนสมุนไพร จูชางหลางที่กำลังนั่งยอง ๆ พร้อมกับใช้พัดโหมไฟให้ลุกโชนเพื่อต้มสมุนไพรให้กับหยางอี้หงถึงกับมือสั่นระริกทำพัดที่อยู่ในมือหลุดลงทันใดเขาวิ่งไปที่เรือนของนางอย่างรวดเร็ว หลายปีมานี้หยางอี้
มู่เหยาทอดสายตามองแผ่นน้ำเบื้องหน้าที่คล้ายกำลังเต้นรำระริกไหวไปตามแสงจันทราแล้วยิ้มงดงาม“ท่านแม่ ขอให้ท่านคุ้มครองให้ข้ามีความสุขด้วยนะเจ้าคะ”เอ่ยคำนี้แล้วนางจึงโปรยดอกไม้ลงไปเบื้องล่าง ก่อนจะเดินกลับลงมายังหมู่บ้านก่อนจะถึงทางเข้าหมู่บ้านนั่นเอง จู่ ๆ มู่เหยาก็ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือของค
มู่เหยายิ้มไม่หุบ คำชมเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อเอาใจนี้ไม่น่าเชื่อว่าจะส่งผลต่อนางเพียงนี้ "หลานชายช่างปากหวานยิ่งนัก เช่นนี้สตรีใดได้พบคงไม่อาจถอนใจได้ ด้วยใบหน้างดงามเช่นนี้ต่อไปคงทำให้สตรีเสียใจอีกหลายคน"จูอี้หลางส่ายหน้า"ข้าไม่คิดหลอกสตรีใด จิตใจของข้าจะมอบให้กับสตรีที่ข้ารักเพียงผู้เดียวเช่นท่านพ่
เมื่ออยู่กันเพียงลำพังจูชางหลางจึงเอ่ยขึ้นว่า“เจ้าได้พบนางแล้วใช่หรือไม่”จูอี้หลางพยักหน้า“ท่านพ่อ เป็นท่านแม่จริงหรือ”จูชางหลางพยักหน้า“ที่นี่ไกลจากหน้าผาที่แม่เจ้าตกลงมายิ่งนัก พ่อไม่คิดว่านางจะรอดกระทั่งมีคนของหมู่บ้านนายพรานไปพบเข้าระหว่างที่นางลอยไปตามกระแสน้ำ ท่านแม่ของเจ้าลืมทุกเรื่องไปจ
จูอี้หลางขมวดคิ้ว เขาแน่ใจว่านางย่อมคือมารดาของเขา อยากจะบอกออกไปให้รู้แล้วรู้รอดแต่ก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มอย่างไร ดูเหมือนว่าสตรีนางนั้นจะลืมทุกสิ่งทุกอย่างจนหมดสิ้น จูอี้หลางถอนหายใจยาวเขาต้องสนิทกับเด็กคนนี้ให้เร็วที่สุดเพื่อสืบถามเรื่องราวเอาไปบอกบิดา“แล้วพ่อแม่ของเจ้าเล่า”“ท่านพ่อท่านแม่ของข้าหรือ
"ถึงจะเป็นเช่นนั้นก็ต้องรีบปล่อยเขาออกจากเขตหมู่บ้านตามกฎ มิใช่จับเขามามัดเอาไว้เช่นนี้ เห็นท่าแล้วเจ้าอยากได้ม้าของเขาใช่หรือไม่ เจ้ารู้หรือไม่ว่าตราประจำตัวม้าเป็นตราราชสำนัก เจ้ากำลังนำความเดือดร้อนมาให้คนในหมู่บ้านแล้ว”มู่เยี่ยนลืมคิดถึงเรื่องนี้ไป ดวงตากลมโตตระหนกอย่างเห็นได้ชัด ท่านน้าของนางจ
จูอี้หลางเป็นองค์รัชทายาทผู้สูงศักดิ์ ตั้งแต่เกิดมาทุกคนล้วนนอบน้อมกับเขา นี่จึงเป็นครั้งแรกที่มีคนเรียกเขาว่าเจ้าหน้าขาว ทั้งยังกล้าจับเขามัดอย่างไม่กลัวเกรง ทว่าเห็นท่าทางน่ารักของเด็กหญิงผู้นี้แล้วเขากลับไม่นึกโกรธ ยังนึกชื่นชมในความกล้าหาญของนางด้วยซ้ำ“เช่นนั้นบอกข้ามาก่อนว่าข้าอยู่ที่ใด แล้วเจ