จุมพิตที่นางได้รับจากเขาในยามป้อนยา นางยังจดจำได้เป็นอย่างดี เรื่องนี้เขาก็ไม่เคยเอ่ยถึง นางคิดว่าเขาคงทำเพราะจำใจ ทว่าเมื่อจำใจไยจึงใช้ลิ้นเกี่ยวกระหวัดปลายลิ้นของนางเล่าความสับสนพลันเกิดขึ้นแก่จิตใจอันอ่อนไหวของนางนางครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะก็ไม่อาจหักห้ามความต้องการของตัวเองได้เอง ยามนี้นิ้วเรียวจึง
อาจางจับนกพิราบสื่อสารได้ตัวหนึ่ง เขาจึงนำไปให้หัวหน้าหมู่บ้าน ผู้เฒ่าอ่านม้วนกระดาษที่ติดมากับขาของนกพิราบก่อนจะเอ่ยว่า“นำไปให้คุณชายจู และคืนนี้บอกให้เขาพาฮูหยินมาร่วมงานเลี้ยงเก็บเกี่ยวของเราด้วย”“ขอรับ”จูชางหลางได้รับการติดต่อจากจั่วเจี้ยนแล้ว ที่แท้นกพิราบสื่อสารนั่นเป็นนกที่จั่วเจี้ยนส่งกลั
“น้องจูความจริงแล้วข้าอดใจหายไม่น้อย ต่อไปไม่รู้ผู้ใดจะสอนข้ายิงธนู ตั้งแต่เจ้าสอนข้ายิงธนูฝีมือข้าก็ดีขึ้นมาก ยังมีเพลงดาบของเจ้าอีก อีกทั้งผู้ใดจะร่วมดื่มกับข้าได้เช่นเจ้ากัน”“พี่จางหากมีวาสนาข้าจะกลับมาหาท่านอีก”อาจางกลับส่ายหน้า“แม่เฒ่าของเราคงไม่ยินยอม หากคราหน้าเจ้าจะมาที่นี่คงต้องใช้บั้นปล
เมื่อถึงเวลาอันเป็นมงคล แม่เฒ่าหัวหน้าหมู่บ้านก็เริ่มทำพิธีศักดิ์สิทธิ์ขอบคุณเทพผู้คุ้มครองแผ่นดิน ก่อนที่จะร่วมดื่มฉลองกับคนในหมู่บ้านหมูป่า กวางป่า กระทั่งกระต่ายน้อย ต่างถูกนำมาย่างบนกองไฟส่งกลิ่นหอมไปทั่วจูชางหลางที่บัดนี้อยู่กับบรรดาบุรุษเห็นว่านางมองเนื้อกวางที่อยู่บนกองฟืนด้วยสายตาโหยหา ใบห
แม่เฒ่าที่นั่งอยู่ข้าง ๆ กับหยางอี้หงเห็นสองสามีภรรยาคลอเคลียเช่นนี้พลันอมยิ้ม ก่อนจะเอ่ยว่า“ฮูหยินจู ท่านเคยบอกข้าว่าชอบเล่นผีผาไม่ทราบว่าวันนี้จะบรรเลงให้ผู้เฒ่าเช่นข้าได้ฟังสักครั้งจะได้หรือไม่”หยางอี้หงแย้มยิ้มงดงามก่อนจะเอ่ยว่า“บุญคุณของแม่เฒ่าอี้หงไม่มีโอกาสตอบแทน ครานี้หากได้มีโอกาสบรรเลงเ
จูชางหลางนั่งดื่มสุราข้างกายนางเงียบ ๆ หยางอี้หงบังเกิดความรู้สึกนึกสนุก นางจึงหยิบเลือกหยิบดอกไม้สีแดงดอกใหญ่ที่งดงามที่สุดจากหลายดอกที่อยู่เบื้องหน้าของตนเองและโยนลงไปตรงหน้าจูชางหลางทันใดเขาชะงักเล็กน้อยก่อนจะหันมามองนาง หยางอี้หงยิ้มแป้นคืนนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วที่นางจะได้เป็นภรรยาของเขา และ
เบื้องบนคือแผ่นฟ้ากว้างแสงสว่างกระจ่างด้วยแสงจันทร์งามผ่อง เบื้องล่างคือแผ่นน้ำกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา ในยามที่แสงจันทร์ส่องสะท้อนกระทบแผ่นน้ำนั้นช่างงดงามประดุจแดนสวรรค์หยางอี้หงยังอยู่ในอ้อมแขนของจูชางหลางในขณะที่คนผู้นั้นก็เหม่อสายตาไปตามแผ่นน้ำกว้างใหญ่เช่นกัน“ซื่อจื่อเจ้าคะ เหตุใดพาข้ามาที่นี่
น้ำเสียงของเขาทั้งเยือกเย็นและทุ้มต่ำราวเสียงของเพลงพิณ ยังทำให้นางเคลิบเคลิ้มและดึงดูดนางให้หลงใหล กระทั่งเขาเอ่ยต่อว่า“ผีผาของเจ้าวันนี้เล่นได้ไพเราะยิ่งนัก”หยางอี้หงได้สติจึงเงยหน้ามองเขา และยามนี้ก็ได้สบตากันอีกครั้ง นางไม่อาจหลบสายตาของเขาได้เพราะกำลังถูกดวงตาคมคู่นี้ดึงดูดนางให้เคลิบเคลิ้ม“
ปีค.ศ.1970คุณนายสกุลฉางให้กำเนิดบุตรีคนแรก ผิวขาวราวหยกใบหน้าจิ้มลิ้ม ซินแสทำนายวาสนาสูงส่งยิ่งนัก ทำให้กิจการค้าขายของบิดามารดาเจริญรุ่งเรืองในยามนั้นบิดาได้หมั้นหมายเด็กหญิงเอาไว้กับบุตรชายคนโตของเพื่อนรักแห่งสกุลต้วนต้วนชางหลางเด็กชายอายุราวหกขวบกำลังจ้องมองทารกตัวน้อยที่นอนอยู่ในเปลด้วยความสน
จูชางหลางอุ้มสตรีร่างผอมขึ้นมาวางนางเอาไว้บนตักของเขาโถมร่างกายก้มกอดนางแนบแน่นจนลึกสุดหัวใจ เส้นผมของนางกลายเป็นสีขาวโพลน รวมทั้งผมของเขาเช่นกัน ยามนี้เมื่อใกล้ชิดเส้นผมขาวของคนทั้งคู่กำลังเคลียคลอซึ่งกันและกันโดยไม่อาจแยกแยะว่าเป็นผมของผู้ใดกันแน่จูชางหลางเข้าใจชีวิต มิมีผู้ใดฝืนสังขารของร่างกาย
ตอนพิเศษ ตอนที่ 1ยี่สิบปีต่อมา“ท่านตา ท่านยายแย่แล้วขอรับ”จู่ ๆ ก็มีเด็กผู้หนึ่งวิ่งเข้ามาบอกเขาในเรือนสมุนไพร จูชางหลางที่กำลังนั่งยอง ๆ พร้อมกับใช้พัดโหมไฟให้ลุกโชนเพื่อต้มสมุนไพรให้กับหยางอี้หงถึงกับมือสั่นระริกทำพัดที่อยู่ในมือหลุดลงทันใดเขาวิ่งไปที่เรือนของนางอย่างรวดเร็ว หลายปีมานี้หยางอี้
มู่เหยาทอดสายตามองแผ่นน้ำเบื้องหน้าที่คล้ายกำลังเต้นรำระริกไหวไปตามแสงจันทราแล้วยิ้มงดงาม“ท่านแม่ ขอให้ท่านคุ้มครองให้ข้ามีความสุขด้วยนะเจ้าคะ”เอ่ยคำนี้แล้วนางจึงโปรยดอกไม้ลงไปเบื้องล่าง ก่อนจะเดินกลับลงมายังหมู่บ้านก่อนจะถึงทางเข้าหมู่บ้านนั่นเอง จู่ ๆ มู่เหยาก็ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือของค
มู่เหยายิ้มไม่หุบ คำชมเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อเอาใจนี้ไม่น่าเชื่อว่าจะส่งผลต่อนางเพียงนี้ "หลานชายช่างปากหวานยิ่งนัก เช่นนี้สตรีใดได้พบคงไม่อาจถอนใจได้ ด้วยใบหน้างดงามเช่นนี้ต่อไปคงทำให้สตรีเสียใจอีกหลายคน"จูอี้หลางส่ายหน้า"ข้าไม่คิดหลอกสตรีใด จิตใจของข้าจะมอบให้กับสตรีที่ข้ารักเพียงผู้เดียวเช่นท่านพ่
เมื่ออยู่กันเพียงลำพังจูชางหลางจึงเอ่ยขึ้นว่า“เจ้าได้พบนางแล้วใช่หรือไม่”จูอี้หลางพยักหน้า“ท่านพ่อ เป็นท่านแม่จริงหรือ”จูชางหลางพยักหน้า“ที่นี่ไกลจากหน้าผาที่แม่เจ้าตกลงมายิ่งนัก พ่อไม่คิดว่านางจะรอดกระทั่งมีคนของหมู่บ้านนายพรานไปพบเข้าระหว่างที่นางลอยไปตามกระแสน้ำ ท่านแม่ของเจ้าลืมทุกเรื่องไปจ
จูอี้หลางขมวดคิ้ว เขาแน่ใจว่านางย่อมคือมารดาของเขา อยากจะบอกออกไปให้รู้แล้วรู้รอดแต่ก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มอย่างไร ดูเหมือนว่าสตรีนางนั้นจะลืมทุกสิ่งทุกอย่างจนหมดสิ้น จูอี้หลางถอนหายใจยาวเขาต้องสนิทกับเด็กคนนี้ให้เร็วที่สุดเพื่อสืบถามเรื่องราวเอาไปบอกบิดา“แล้วพ่อแม่ของเจ้าเล่า”“ท่านพ่อท่านแม่ของข้าหรือ
"ถึงจะเป็นเช่นนั้นก็ต้องรีบปล่อยเขาออกจากเขตหมู่บ้านตามกฎ มิใช่จับเขามามัดเอาไว้เช่นนี้ เห็นท่าแล้วเจ้าอยากได้ม้าของเขาใช่หรือไม่ เจ้ารู้หรือไม่ว่าตราประจำตัวม้าเป็นตราราชสำนัก เจ้ากำลังนำความเดือดร้อนมาให้คนในหมู่บ้านแล้ว”มู่เยี่ยนลืมคิดถึงเรื่องนี้ไป ดวงตากลมโตตระหนกอย่างเห็นได้ชัด ท่านน้าของนางจ
จูอี้หลางเป็นองค์รัชทายาทผู้สูงศักดิ์ ตั้งแต่เกิดมาทุกคนล้วนนอบน้อมกับเขา นี่จึงเป็นครั้งแรกที่มีคนเรียกเขาว่าเจ้าหน้าขาว ทั้งยังกล้าจับเขามัดอย่างไม่กลัวเกรง ทว่าเห็นท่าทางน่ารักของเด็กหญิงผู้นี้แล้วเขากลับไม่นึกโกรธ ยังนึกชื่นชมในความกล้าหาญของนางด้วยซ้ำ“เช่นนั้นบอกข้ามาก่อนว่าข้าอยู่ที่ใด แล้วเจ