แชร์

บทที่ 0004

ผู้เขียน: Shine-Month
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-14 16:47:26

จวนท่านแม่ทัพหวงหยางหมิง

หลังจากที่หวงหยางหมิงกลับมาถึงจวนของตัวเอง เขาก็ให้คนไปเตรียมของเพื่อที่จะอาบน้ำชำระร่างกายทันที

จวนหลังนี้เป็นจวนพระราชทานจากองค์ฮ่องเต้ ตอนที่เขาได้ขึ้นเป็นแม่ทัพพอได้จวนนี้มา หวงหยางหมิงก็ย้ายออกมาจากจวนหลักทันที เพราะเดิมทีหวงหยางหมิงเองก็ไม่ต้องการที่จะอยู่จวนเดิมอยู่แล้วตั้งแต่ที่มารดาของตัวเองเสียชีวิตไป จวนที่มากไปด้วยเล่ห์อุบายของผู้คนในนั้น หวงหยางหมิงสะอิดสะเอียดเกินทน หากให้เขาทนอยู่ในนั้น หวงหยางหมิงเกรงว่าคงได้ฆ่าคนในจวนนั้นหมดอย่างแน่นอน

จวนที่ได้รับพระราชทานนี้ค่อนข้างใหญ่ มีเรือนใหญ่และเรือนเล็กแบ่งเป็นสัดส่วน เรือนที่หวงหยางหมิงพักนั้นมีชื่อว่าเรือนจันทรา เป็นเรือนใหญ่ที่สุดและเขาเองก็ชื่นชอบที่สุดด้วย เพราะด้านหลังเรือนนั้นมีสระน้ำขนาดใหญ่ที่เอาไว้ให้เขาได้อาบน้ำชำระร่างกาย สระน้ำนี้ล้อมรอบไปด้วยต้นไผ่เขียวและดอกไม้นานาพรรณ ทำให้สระนี้งดงามเป็นอย่างมาก ที่เด่นชัดเลยในยามค่ำคืน พระจันทร์จะสาดส่องลงมากระทบเป็นเงากับสระน้ำนี้พอดี ทำให้คนที่พบเห็นนั้นเกิดความสบายใจ หวงหยางหมิงเลยตั้งชื่อเรือนจันทรานี้ด้วยตนเอง

ร่างกำยำค่อย ๆ ปลดเสื้อผ้าและอาภรณ์ต่าง ๆ ออกจากร่างกาย ในขณะที่ขาแกร่งก้าวเดินไปยังสระน้ำ ไหล่กว้างขยับไปมาเพื่อบรรเทาความปวดเมื่อย ร่างที่อัดแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อทำให้เวลาขยับได้ยินเสียงกระดูกดังลั่นบริเวณที่เขาขยับ ขาของหวงหยางหมิงก้าวลงสระที่มีหมอกจาง ๆ ปกคลุม กล้ามหน้าท้องนูนเป็นรูปเด่นชัด หากไม่มีแผลเป็นด้านข้างที่เกิดขึ้นเพราะเขาถูกพิษในตอนนั้น ย่อมถือได้ว่ากล้ามหน้าท้องของหวงหยางหมิงนั้นงดงามอย่างไม่มีที่ติ หลังจากที่ลงไปนั่งในสระน้ำแล้ว มือขวาก็ยกขึ้นมาเพื่อถอดหน้ากากที่ปิดใบหน้าเอาไว้ ตอนนี้ในสระน้ำสะท้อนใบหน้าบุรุษคนหนึ่งที่เป็นเงาคู่กับพระจันทร์ที่กำลังสาดส่องลงมาพอดี ใบหน้าคมคายรูปงามเกินกว่าบุรุษ กำลังนั่งหลับตาในสระอย่างเงียบ ๆ เพื่อผ่อนคลายอารมณ์ คิดถึงเรื่องที่ผ่านมา หวงหยางหมิงก็อดยกยิ้มมุมปากไม่ได้

“ถึงเวลาแล้วสินะ” เสียงทุ้มบ่นกับตัวเอง

ขณะที่กำลังแช่น้ำอย่างสำราญใจ พ่อบ้านโจวก็เข้ามาหานายตัวเองเงียบ ๆ แต่เดิมพ่อบ้านโจวนั้นเคยรับใช้อยู่ที่จวนหลัก จนกระทั่งหวงหยางหมิงย้ายออกมา เขาก็ขอออกมารับใช้นายของตนเอง

“คุณชายขอรับ ผิงอี๋เหนียงต้องการเข้ามาปรนนิบัติคุณชายขอรับ”

“สตรีที่เมียรักของบิดาข้าส่งมาน่ะรึ” ท้ายเสียงที่บ่งบอกถึงความไม่สบอารมณ์ “ให้นางกลับเรือนไป”

พ่อบ้านโจวน้อมรับพร้อมกับออกจากห้องนี้ไปเงียบ ๆ เพราะเขานั้นรู้จักนิสัยคุณชายของตัวเองดีว่าเป็นเช่นไร

ด้านนอกเรือนจันทรามีสตรีทรวดทรงเย้ายวนยืนรออยู่ด้วยท่าทีกระวนกระวาย เพราะจะบุกเข้าไปก็เข้าไม่ได้เนื่องจากทางเข้าเรือนนั้นมีทหารคอยเฝ้าอยู่ แม้ว่าอยากจะบุกเข้าไปเพียงใด แต่ทหารที่เฝ้านั้นไม่ยอมอ่อนข้อให้นางเลยแม้แต่น้อย

รอไม่นาน พ่อบ้านโจวก็เดินออกมาหาสตรีที่ยืนรออยู่ด้านนอก ผิงอันเห็นพ่อบ้านโจวออกมา ก็รีบวิ่งเข้าไปหาด้วยความตื่นเต้นทันที

“พ่อบ้านโจว ท่านแม่ทัพให้ข้าเข้าไปปรนนิบัติได้ใช่หรือไม่”

“คุณชายแจ้งว่าให้อี๋เหนียงกลับเรือนไปขอรับ”

ผิงอันได้ยินเช่นนั้นใบหน้างามก็บิดเบี้ยวด้วยความโกรธทันที ก่อนจะหันหลังกระทืบเท้ากลับเรือนของตัวเองไปด้วยความไม่พอใจ พ่อบ้านโจวได้แต่ส่ายหัวให้กับความวุ่นวายนี้ หากไม่ใช่เพราะฮูหยินหวงคนปัจจุบันส่งอนุมาให้หวงหยางหมิงจวนนี้คงสงบไม่น้อย

แต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่อคุณชายของเขาก็ถูกมัดมือชกเช่นกัน เพราะฮูหยินเอกนั้นใช้วิธีสกปรก แต่งอนุมาตอนที่หวงหยางหมิงไปออกรบ โดยให้เหตุผลว่าจะได้มีคนมาช่วยดูแลงานในจวน ซึ่งนายท่านหวงเองก็เห็นดีเห็นงามด้วย

ความจริงแล้วฮูหยินเอกคนนั้นต้องการแต่งภรรยาให้หวงหยางหมิงเลยต่างหาก แต่เพราะหวงหยางหมิงนั้นได้เอ่ยคำพูดที่เป็นเหมือนกับคำมั่นสัญญาระหว่างมารดาของเขาที่เสียไปกับท่านพ่อของเขาว่าจะให้หวงหยางหมิงนั้นเลือกฮูหยินด้วยตนเอง หนิงซูหรือว่าฮูหยินเอกประจำตระกูลหวงคนปัจจุบันจึงทำได้เพียงแต่งอนุเท่านั้น

อนุที่นางแต่งให้กับหวงหยางหมิงมีหน้าที่ช่วยสอดส่องและรายงานเรื่องต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นให้นางได้รับรู้

แต่หนิงซูนั้นคิดตื้นเกินไป นางคิดว่าหวงหยางหมิงจะมีนิสัยใจคอเหมือนกับบิดา เจอสาวงามก็ลุ่มหลงและโปรดปรานดั่งเช่นบิดาของตน แต่เปล่าเลย เพราะตั้งแต่ที่หวงหยางหมิงกลับมา นอกจากจะไม่สนใจนางแล้วแม้แต่จะพูดด้วยสักคำก็ยังไม่เคย ยามเห็นหน้าผิงอันก็มองเห็นแต่ไกล ๆ เวลาจะเข้าใกล้ก็จะมีบ่าวรับใช้คอยกันท่าไม่ให้นางเข้าใกล้ จนนางเองก็อดโมโหไม่ได้ เพราะจนตอนนี้ ผิงอันยังไม่ได้เขียนรายงานนายหญิงของตนเองแม้แต่ฉบับเดียว

ผิงอันเดินกลับมายังเรือนตนที่อยู่เกือบท้ายจวนด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัว มาถึงเรือนตน ผิงอันก็กวาดสิ่งของที่อยู่บนโต๊ะทันที

“เจ้าอัปลักษณ์นั่นถือดีอย่างไร ถึงกล้าปฏิเสธข้า!” ผิงอันสบถออกมาอย่างอดไม่ได้

“อี๋เหนียงเบา ๆ เจ้าค่ะ ประเดี๋ยวบ่าวคนอื่นได้ยิน จะนำไปฟ้องท่านพ่อบ้านนะเจ้าคะ” สาวใช้ประจำตัวเอ่ยตักเตือนนายของตน ก่อนจะรีบปิดประตูเรือนเพื่อไม่ให้คนข้างนอกได้ยิน

ผิงอันได้ยินอย่างนั้นก็ไม่มีทีท่าว่าจะยอมสงบแม้แต่น้อย นางหันหน้ามาหาสาวใช้ด้วยแววตาที่แดงก่ำ

“แล้วอย่างไรอยากฟ้องก็ไปฟ้องเลย ข้าก็เบื่อเจ้าอัปลักษณ์นั่นเต็มทนแล้ว ถ้ายังเป็นแบบนี้ข้าจะรายงานฮูหยินได้อย่างไรกัน!”

ผิงอันครุ่นคิดถึงแผนการ หากทำแผนการไม่สำเร็จ หนิงซูอาจจะส่งคนอื่นมาเป็นอนุอีก ถึงตอนนั้นนางก็จะเป็นตัวไร้ประโยชน์ หนิงซูต้องไม่เก็บนางไว้แน่นอน

“หรือว่าท่านแม่ทัพอายเกินกว่าจะกล้าพบหน้าอี๋เหนียงเจ้าคะ อี๋เหนียงรูปโฉมงดงามปานนี้ ท่านแม่ทัพอาจจะละอายตนเองก็ได้เจ้าค่ะ”

สาวใช้บีบนวดร่างกายผิงอันพร้อมกับพูดปลอบเพื่อไม่ให้นายตนอาละวาดมากไปกว่านี้

“เจ้าคิดเช่นนั้นรึ”

“บ่าวก็แค่สงสัยเจ้าค่ะ หากท่านแม่ทัพไม่ละอายตนเอง หรือว่า...”

“หรือว่าอะไร”

“หรือว่า...ท่านแม่ทัพเป็นบุรุษตัดแขนเสื้อเจ้าคะ”

ทันทีที่ได้ยินดวงตาผิงอันเบิกกว้างด้วยความตกใจ

“อาจจะจริงอย่างที่เจ้าว่าก็ได้ แต่ข้าไม่สนใจหรอกนะ ท่านแม่ทัพจะอัปลักษณ์หรือเป็นบุรุษตัดแขนเสื้อ สิ่งเดียวที่ข้าสนใจคือ ทำอย่างไรก็ได้ให้ข้าได้เข้าใกล้แม่ทัพ ไม่อย่างนั้น ข้าก็คงเป็นแค่อนุที่อยู่ท้ายจวนเช่นนี้ และถ้าหากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป ฮูหยินไม่ปล่อยข้าไว้แน่นอน”

ผิงอันกำมือแน่น ไม่ว่าอย่างไรนางก็ต้องส่งข่าวคราวให้หนิงซูได้รับรู้และความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ภายในจวนนี้

จริงอยู่ที่หวงหยางหมิงจะแยกจวนออกมา แต่อย่างไรหนิงซูก็ยังไม่ไว้วางใจ เพราะกว่าที่นางจะขึ้นมาเป็นฮูหยินเอกประจำตระกูลหวงได้ นางลงทุนลงแรงไปไม่น้อย อีกอย่างนางไม่ยอมให้บรรดาบุตรของนางต้องด้อยไปกว่าหวงหยางหมิงอย่างแน่นอน

ระหว่างที่ทั้งคู่สนทนากันอยู่นั้น ไม่ได้รับรู้เลยว่าคำพูดที่พวกนางพูดคุยกันได้ถ่ายทอดให้อีกบุคคลฟังอย่างไม่ขาดตกบกพร่องแม้แต่คำเดียว

หวงหยางหมิงที่สวมเสื้อผ้าไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไรนัก เพราะเพิ่งอาบน้ำเสร็จ ชุดที่มัดไม่เรียบร้อยทำให้ท่อนบนเห็นแผ่นอกที่เปลือยเปล่า ดวงตาเข้มจ้องมองดูพระจันทร์ที่ส่องแสงทั่วนภา มือหนึ่งข้างกำลังถือจอกสุราส่วนอีกข้างก็พาดไว้ที่ขอบเก้าอี้อย่างเกียจคร้านขณะที่กำลังนั่งฟังรายงานจากองครักษ์ของตนเอง

“ท่านแม่ทัพจะทำเช่นไรต่อไปหรือขอรับ” องครักษ์เอ่ยถามนายของตนเองหลังจากที่รายงานเรื่องทุกอย่างให้ฟังเรียบร้อยแล้ว

หวงหยางหมิงหลับตาลงอย่างเกียจคร้าน แม้ว่ามือข้างหนึ่งจะถือจอกสุราอยู่แต่ก็ไม่ยอมปล่อย

“จะฆ่าทิ้งคงจะไวเกินไป อีกอย่างนางก็ยังได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมียของบิดาข้า แม้ว่านางจะไม่ชอบข้าแต่นางก็ยังทำหน้าที่ภรรยาและฮูหยินของจวนได้ดี คงรักบุตรชายตนเองมากเกินไปถึงทำเช่นนี้...”

“แล้วท่านแม่ทัพ....”

“ปล่อยไปก่อน ข้าก็อยากรู้เช่นกันว่าสตรีที่นางแต่งมาให้ข้าจะมีความสามารถขนาดไหน อีกอย่างตอนนี้ข้ามีเรื่องสำคัญกว่าที่ต้องทำ”

มุมปากหวงหยางหมิงยกขึ้นอย่างอดมิได้ เมื่อคิดถึงเรื่องสำคัญที่เขาจะต้องทำในไม่ช้า

หลายวันต่อมา....

เซียวเหม่ยอิงออกมาตรวจกิจการของตระกูลตนเอง ปกติแล้วนางจะมีหลงจู๊ที่ไว้วางใจช่วยดูแลกิจการต่าง ๆ ของนางได้เป็นอย่างดี ทำให้นางไม่ต้องคอยออกมาตรวจเท่าใดนัก มีเพียงครั้งคราวเท่านั้นหรือหากรู้สึกเบื่อหน่ายเซียวเหม่ยอิงถึงจะมา

ขณะที่กำลังเดินเข้าไปในร้านอาหารของตนเอง ก็พบกับน้องสาวของนางที่กำลังพากันทานอาหารกันอยู่กับเหล่าบรรดาสหาย เซียวเหม่ยอิงถอนหายใจออกมาอย่างอดไม่ได้

น้องสาวของนางเป็นคนจิตใจดีชาวบ้านชาวเมืองนั้นรับรู้ได้ เพราะเซียวลี่หงชอบนำอาหารที่ร้านไปแจกทานแก่คนจนคนจรโดยมีบรรดาสหายของนางไปร่วมด้วย ครั้งนี้เองก็เช่นกัน นางกับบรรดาสหายคงเพิ่งกลับมาจากแจกทาน ถึงได้พาสหายมานั่งทานอาหารเช่นนี้

หลงจู๊เห็นเซียวเหม่ยอิงมาที่ร้านก็มีสีหน้าหนักใจ รีบเดินเข้ามาหาเซียวเหม่ยอิงทันที

“คุณหนูใหญ่ขอรับ เอ่อ...คุณหนูเล็ก...”

“ไม่เป็นไรท่านลุงฉี ให้หงเอ๋อร์กับสหายทานอาหารเหมือนเช่นเคยเถิดเจ้าค่ะ”

ฉีห่าวอี้หรือหลงจู๊ประจำร้านแห่งนี้ เขาทำหน้าที่ของตนได้อย่างขยันขันแข็งไม่ขาดตกบกพร่อง เขียนรายงานและสรุปยอดขายที่เกี่ยวกับร้านไม่ตกหล่นรวมถึงเรื่องที่เซียวลี่หงทำ ฉีห่าวอี้ก็เขียนลงบัญชีด้วยเช่นกันแม้ว่าตระกูลเซียวจะร่ำรวยแต่เซียวเหม่ยอิงก็ไม่ปล่อยปละละเลยเรื่องเงินทองในส่วนที่ควรเป็นกำไรของตระกูล กำไรจากการค้ากิจการนั้นจะเข้าคลังกองกลาง ทำให้บ่อยครั้งที่เซียวเหม่ยอิงต้องยอมควักเงินตำลึงของตัวเองที่ได้จากเบี้ยหวัด ใส่เข้าไปในกองกลางแทนกำไรที่ขาดหายไปจากการกระทำของเซียวลี่หงน้องสาวของตนเอง

หลังจากดูความเรียบร้อยภายในร้านแล้ว เซียวเหม่ยอิงก็เดินขึ้นบันไดไปชั้นสองเพื่อไปตรวจบัญชีที่หลงจู๊ได้ทำไว้ ขณะที่นางกำลังจะเดินขึ้นบันได ก็มีเสียงที่คุ้นเคยทักนางเสียก่อน

“พี่ใหญ่... ท่านมาถึงนานหรือยังเจ้าคะ” เป็นเซียวลี่หงที่เอ่ยทัก นางยืนอยู่ตรงกลางบรรดาสหายของตน

“ข้าเพิ่งมาถึง ว่าจะขึ้นไปตรวจบัญชีเสียหน่อย” เซียวเหม่ยอิงยิ้มให้น้องสาวของตนเอง กำลังจะก้าวขึ้นบันได ทว่าโดนมือน้องสาวตัวเองฉุดดึงไว้เสียก่อน

“ท่านพี่ ท่านอย่าตำหนิข้าเลยนะ ที่ข้าพาสหายมาที่ร้านของเรา เพราะพวกนางช่วยข้าแจกทานแก่ผู้ยากไร้ ข้าเลยอยากเลี้ยงอาหารพวกนางเพื่อเป็นการขอบคุณ”

บรรดาคนที่ได้ยินต่างพากันรู้สึกเห็นใจเซียวลี่หง เพราะน้ำเสียงของนางไม่สู้ดีเท่าใดนัก ต่างจากเซียวเหม่ยอิงที่ถอนหายใจรอบแล้วรอบเล่ากับคำพูดน้องสาวตนเอง คำพูดนางช่างดึงดูดให้คนสงสารเก่งเสียจริง

เซียวเหม่ยอิงเห็นว่าพวกนางเริ่มเป็นจุดสนใจของคนในร้าน นางก็เดินขึ้นไปยังชั้นสองทันที โดยไม่ได้สนใจกลุ่มน้องสาวตนเลยแม้แต่น้อย เพราะนางคิดว่าไม่จำเป็นต้องอธิบายเรื่องราวให้คนอื่นฟัง

นี่ฮวานั้นเป็นคนรักสหาย นางรู้สึกว่าเซี่ยวลี่หงกำลังหวาดกลัวก็เข้าไปกุมมือเป็นการปลอบพร้อมกับเอ่ยคำปลอบโยนสหายตนเอง

“หงเอ๋อร์พวกข้าขอโทษนะ ที่ทำให้เจ้าต้องโดนพี่สาวเจ้าตำหนิ เป็นเพราะพวกข้าแท้ ๆ เลย”

เซียวลี่หงยิ้มบางให้สหายของตนเอง “ไม่ใช่ความผิดพวกเจ้าเสียหน่อย อีกอย่างท่านพี่ยังไม่ได้ตำหนิข้า พวกเจ้าคิดมากเกินไปแล้ว”

“เจ้ายังปกป้องพี่สาวเจ้าอยู่อีกรึ ข้าว่าพี่สาวเจ้ากำลังไม่พอใจเจ้าอยู่เป็นแน่ ถึงได้เดินหนีไปเช่นนั้น ไม่ใช่ว่าพอเจ้ากลับไปถึงจวนแล้วโดนพี่สาวเจ้าเรียกไปตำหนินะ”

เซียวลี่หงได้แต่มองไปยังชั้นสอง ชั้นที่พี่สาวนางเดินขึ้นไป ก่อนจะหันมาคุยกับสหายของตัวเอง

“ไปเดินเล่นกันเถิด”

ทุกคนยอมตามเซียวลี่หงไปแต่โดยดี ไม่ได้พูดหรือเอ่ยถามเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้แล้ว หากเซียวลี่หงไม่อยากเอ่ยให้ฟัง พวกนางก็ไม่ซักไซ้ถามต่อเช่นกัน เพราะไม่อยากให้เซียวลี่หงรู้สึกไม่ดีจนเกินไป

ตั้งแต่ที่ไปตรวจร้านค้าในวันนั้น ก็ผ่านมาเกือบอาทิตย์ที่เซียวเหม่ยอิงไม่ได้ออกไปไหน นางยังคงนั่งจิบชาอยู่ที่ศาลาเช่นเคย

ขณะที่เซียวเหม่ยอิงกำลังนั่งจิบชาเพื่อฆ่าเวลา เพราะอีกไม่กี่ชั่วยาม นางต้องไปเตรียมมื้อเย็นให้บิดามารดาของตัวเอง เซียวเหม่ยอิงกำลังจิบชาเพลิน ๆ อยู่นั้น ลี่จินก็วิ่งมาหาคุณหนูของตนด้วยสีหน้าที่แตกตื่น

“คุณหนูใหญ่เจ้าคะ คุณหนูมีราชโองการมาเจ้าค่ะ” ลี่จินที่วิ่งมาหายใจด้วยความลำบาก

เซียวเหม่ยอิงได้ยินว่ามีราชโองการมายังจวนก็รีบเดินไปยังเรือนรับรองทันที เดินมาถึงก็เห็นว่าบิดามารดาและน้องสาวตนอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันแล้ว พร้อมกับมีรถม้าของพระราชวังจอดอยู่หน้าจวน เซียวเหม่ยอิงก็เดินเข้าไปใกล้ ๆ บิดามารดาทันที

กงกงท่านหนึ่งเดินมาพร้อมกับพานที่มีราชโองการมาด้วย กงกงกางราชโองการนั้นออกมาพร้อมกับอ่านด้วยน้ำเสียงดังกังวาน

“ตระกูลเซียวรับพระราชโองการ...”

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ชะตารักฮูหยินจำเป็น   บทที่ 0005

    กงกงท่านหนึ่งเดินมาพร้อมกับพานที่มีพระราชโองการมาด้วย กงกงกางราชโองการนั้นออกมาพร้อมกับอ่านด้วยน้ำเสียงดังกังวาน"ตระกูลเซียวรับพระราชโองการ...เซียวฟู่ซินนั้นดำรงตำแหน่งด้วยความชอบธรรม ทั้งยังสั่งสอนบุตรสาวทั้งสองคนให้รู้จักทำความดี มีคุณธรรม เมตตาต่อผู้อื่น มีคุณสมบัติครบถ้วนในสิ่งที่สตรีพึงมี ข้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-14
  • ชะตารักฮูหยินจำเป็น   บทที่ 0006

    “หงเอ๋อร์เจ้าอย่าทำตัวเป็นเด็ก นี่ไม่ใช่เรื่องที่จะทำตามอำเภอใจได้! เจ้าเตรียมตัวเตรียมใจออกเรือนในอีกสามเดือนเสีย!” เซียวฟู่ซินเอ่ยขึ้นอย่างอดไม่ได้ เซียวลี่หงถูกตามใจจนเคยตัวถึงได้มีกิริยาเช่นนี้ แต่ครั้งนี้เขาไม่อาจจะตามใจบุตรสาวอย่างที่เคยทำ เพราะหากขัดก็ถือว่าเป็นกบฏแผ่นดิน ถึงแม้ว่าในพระราช

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-14
  • ชะตารักฮูหยินจำเป็น   บทที่ 0007

    หลังจากเกิดความวุ่นวายมาหลายวัน ความสงบสุขก็กลับมาสู่จวนตระกูลเซียวอีกครั้ง “อิงเอ๋อร์ ขอบใจเจ้ามากที่เจ้าเห็นแก่ตระกูลและน้องของเจ้า หาไม่แล้ว” ทุกครั้งยามหลับตา เซียวเหม่ยอิงยังได้ยินคำพูดในวันนั้นซ้ำไปซ้ำมาไม่รู้จบ กลับมาถึงเรือนลี่จินเองร้องไห้ไม่หยุด เพราะสงสารคุณหนูตัวเอง เซียวเหม่ยอิงนั้นไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-14
  • ชะตารักฮูหยินจำเป็น   บทที่ 0008

    แม้ว่าที่เรือนจะมีผิงอี๋เหนียงเป็นอนุ แต่นางก็ไม่ได้รับมอบหมายให้จัดการงานในจวน เพราะฉะนั้นงานในจวนตอนนี้ยังคงเป็นพ่อบ้านโจวดูแลอยู่“คุณชายจะมอบเรือนไหนให้ฮูหยินหรือขอรับ ข้าจะได้ให้คนไปจัดเตรียมไว้”หวงหยางหมิงลืมตาขึ้นมองไปที่หน้าต่าง “เรือนจันทรา” เสียงทุ้มต่ำเอ่ย แม้จะตกใจแต่พ่อบ้านโจวก็เก็บ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-14
  • ชะตารักฮูหยินจำเป็น   บทที่ 0009

    ตุบ! เสียงบางอย่างตกลงพื้น พ่อบ้านโจวกับเหล่าองครักษ์ที่เฝ้าบริเวณเรือนจันทรา ก็รีบตามหาเสียงนั้นทันที พอไปถึงก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่าเป็นสิ่งใดตกลงมา“คุณชาย/ท่านแม่ทัพ!” พวกเขารีบเข้าไปประคองหวงหยางหมิงที่นอนอยู่กับพื้น ที่มุมปากมีคราบเลือดติด แต่เลือดที่ติดนั้นเป็นสีคล้ำ ไม่ใช่สีแดงอย่างเลือดทั่วไป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-14
  • ชะตารักฮูหยินจำเป็น   บทที่ 0010

    พรุ่งนี้ก็ครบกำหนดที่ต้องออกเรือน ตอนนี้จวนตระกูลเซียวกำลังยุ่งอยู่กับเตรียมสินเดิมให้กับคุณหนูใหญ่เซียวเหม่ยอิงนั่งมองชุดแต่งงานสีแดงที่วางอยู่บนเตียงนอนด้วยความรู้สึกที่หลากหลายพรุ่งนี้แล้วที่นางจะแต่งงานพรุ่งนี้แล้วที่นางจะต้องได้ออกจากจวนนี้พรุ่งนี้แล้วที่นางจะเป็นฮูหยินเอกเซียวเหม่ยอิงไม่อ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-15
  • ชะตารักฮูหยินจำเป็น   บทที่ 0011

    ชาวบ้านต่างมายืนดูขบวนเจ้าสาวที่ยิ่งใหญ่ ผู้คนมายืนดูมากมาย อีกทั้งยังมีคนคอยโปรยของแจกชาวบ้านที่มายืนดูอีกด้วย บุรุษที่นั่งบนอาชาอย่างสง่า แม้ใบหน้าจะปิดบังด้วยหน้ากากก็ไม่อาจลดความสง่างามนั้นลงได้แม้แต่น้อย ประหนึ่งว่าหน้ากากนี้เหมาะสมกับใบหน้าของคนที่ใส่อย่างแท้จริง ยิ่งทำให้ผู้คนอยากเห็นใบหน้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-15
  • ชะตารักฮูหยินจำเป็น   บทที่ 0012

    หลังจากที่ลี่จินเตรียมของเสร็จเรียบร้อยแล้ว นางก็รีบตามนายของตนไปทันที แต่ก็ต้องตกใจเมื่อมีใครบางคนมายืนขวางนางไว้เสียก่อน“พ่อบ้านโจว”“จะไปไหน” ชายที่ดูค่อนข้างมีอายุ เอ่ยถามสาวใช้ที่ดูท่าทางรีบร้อน“เอ่อ... ข้าจะไปอาบน้ำให้คุณ... ฮูหยินเจ้าค่ะ" เพราะความเคยชินทำให้ลี่จินเกือบเรียกว่าคุณหนูอย่างเค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-15

บทล่าสุด

  • ชะตารักฮูหยินจำเป็น   บทที่ 0085

    “เรื่องราวในตอนนั้นท่านจำมาได้ตลอดเลยหรือเจ้าคะ?”หวงหยางหมิงทำท่าครุ่นคิด “อืมมม คราแรกข้าก็ลืมเลือนไปบ้าง เพราะพวกเรายังเด็กทั้งคู่ มาจำได้ตอนที่เห็นเจ้ากำลังช่วยเด็กคนหนึ่งที่กำลังถูกจับตัวไป และข้าก็ไปช่วยเจ้าได้ทันพอดี” เซียวเหม่ยอิงฟังและนึกตามคำพูดของสามี ดวงตางามเบิกตากว้างด้วยความตกใจ คน

  • ชะตารักฮูหยินจำเป็น   บทที่ 0084

    “ฮ่าฮ่าฮ่า สมแล้วที่เป็นบุตรสาวของเรา ช่างพูด และกล้าขอผู้ชายแต่งงานตั้งแต่เด็กเหมือนแม่ของเจ้าไม่มีผิด ฮ่าฮ่าฮ่า” หวงหยางหมิงหัวเราะออกมาอย่างอดกลั้นกับการกระทำของบุตรสาว มันเหมือนว่าเขาย้อนเวลากลับไปตอนที่เซียวเหม่ยอิงทำกับเขาในตอนนั้น สมแล้วที่เป็นแม่ลูกกัน เหมือนกันจริง ๆ“ทะ ท่านพี่ ท่านหมายควา

  • ชะตารักฮูหยินจำเป็น   บทที่ 0083

    วันนี้บรรยากาศภายในจวนของหวงหยางหมิงเต็มไปด้วยความรักและความอบอุ่น หวงจื่อหานอยู่รับประทานอาหารกับหลาน ๆ ของเขาอย่างมีความสุข หลังจากที่รับประทานอาหารและส่งหลานเข้านอนเรียบร้อยแล้วก็ถึงเวลากลับจวนตนเอง“ท่านพ่อนอนค้างที่จวนข้าก็ได้นะขอรับ”“ไม่เป็นไรหรอก เจ้าก็รู้นิว่าข้ามีเรื่องต้องกลับไปจัดการ”

  • ชะตารักฮูหยินจำเป็น   บทที่ 0082

    “แล้วเหตุใดท่านถึงไม่เคยอธิบายให้ข้าฟังบ้างเลย”“ทั้งจวนมีแต่คนของหนิงซู ต่อให้พูดในที่ลับก็มีคนของนางแอบฟังอยู่ดี เฮ้อ ข้ายอมรับผิดที่ข้าเห็นแก่ตัว ที่เห็นอำนาจดีความถูกต้อง” ที่เขามาในวันนี้ไม่ได้มาเพื่อแก้ตัวแต่อย่างใด มันเป็นความรู้สึกผิดที่ติดอยู่ในใจมานานเกือบยี่สิบปี อีกอย่างอดีตผ่านมันมาแ

  • ชะตารักฮูหยินจำเป็น   บทที่ 0081

    “ท่านพี่ ท่านปู่คือผู้ใดหรือเจ้าคะ”“เดี๋ยวแม่อธิบายให้ฟังเอง พวกเราเข้าไปในเรือนกันดีกว่า” เซียวเหม่ยอิงหันไปมองสามีอย่างรู้หน้าที่ นางจูงมือบุตรชายและบุตรสาวเข้าไปในเรือน เพื่อให้สามีของนางได้พูดคุยกับบิดาตามลำพัง หลังจากที่เซียวเหม่ยอิงได้พาลูก ๆ เข้าไปในเรือนแล้ว หวงหยางหมิงก็นั่งรอคนที่ก

  • ชะตารักฮูหยินจำเป็น   บทที่ 0080

    “เจ้าคิดจะมีลูกกี่คนกัน?” องค์รัชทายาทเหลียงซินเผงอดถามสหายตนเองไม่ได้ เพราะหลังจากที่เซียวเหม่ยอิงคลอดบุตรคนแรกไปไม่ทันไร ตอนนี้สหายตัวดีของเขากำลังมีบุตรคนที่สองแล้ว “กระหม่อมเองก็ไม่ทราบพ่ะย่ะค่ะ เพราะเรื่องนี้กระหม่อมไม่ได้เป็นคนตัดสินใจ กระหม่อมเพียงทำตามความต้องการฮูหยินตนเองเท่านั้น” คำตอ

  • ชะตารักฮูหยินจำเป็น   บทที่ 0079

    ดวงตางามค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาหลังจากที่พักผ่อนจนเพียงพอ ทันทีที่ลืมตาขึ้นมาก็พบว่ามือของนางถูกกุมเอาไว้ด้วยมือของใครอีกคน ภายในใจของนางนั้นเต็มไปด้วยกระแสความอบอุ่นที่แล่นเข้ามา“ท่านพี่”“อิงเอ๋อร์ตื่นแล้วรึ เป็นอย่างไรบ้าง ค่อย ๆ ลุกนะ” หวงหยางหมิงคประคับประคองเซียวเหม่ยอิงให้ลุกขึ้นนั่งในท่าที่สบายท

  • ชะตารักฮูหยินจำเป็น   บทที่ 0078

    หลังจากเหตุการณ์ในตอนนั้นเซียวลี่หงได้แต่งเข้าไปในฐานะอนุภรรยาของท่านอ๋องสาม เพราะนางใช้แผนสกปรก อีกทั้งชื่อเสียงของนางไม่มีดีเลยแม้แต่น้อย ชาวบ้านต่างพูดเรื่องนี้ราวกับว่าเป็นนิทานเรื่องหนึ่งเลยก็ว่าได้ พระชายาจึงให้นางเข้ามาในฐานะอนุภรรยาเท่านั้น และหลังจากที่จัดการเรื่องทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ท่าน

  • ชะตารักฮูหยินจำเป็น   บทที่ 0077

    ตอนนี้ผิงอันมีแต่ความกลัวเต็มไปหมด หากปากนางไม่ได้ถูกผ้ามัดเอาไว้นางก็คงพูดออกมาแล้ว ว่าแม่ทัพดูแลนางดีจริง ๆ สิ่งของเครื่องใช้เบี้ยหวัดนางก็ได้รับไม่เคยขาด แต่เพราะ...“เพราะเจ้าไม่ได้มีใจคิดดีกับข้าตั้งแต่แรก จึงได้วางแผนที่ไร้สมองแบบนั้นออกมา ข้าถามเจ้าหน่อยเถิด ทุกสิ่งอย่างที่เกิดขึ้นในจวน จะไม่

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status