หลินตงหาโรงแรมที่ตกแต่งค่อนข้างดีเพื่อพัก ยังมีเวลาอีกหนึ่งสัปดาห์ เขาเตรียมที่จะพักที่นี่ เนื่องจากเขาไม่ใช่ทหารรับจ้างและยังไม่ชินกับวิถีชีวิตของพวกเขาสภาพโรงแรมไม่เลว แต่ราคาแพงไปหน่อย แน่นอนว่าหลินตงไม่สนใจเรื่องนี้ เงินเป็นเพียงตัวเลขสำหรับเขาคนที่สามารถพักโรงแรมแบบนี้ได้มักจะเป็นผู้บริหารระดับสูงของกองทหารรับจ้างขนาดกลาง หรือบุคคลที่มีอำนาจบางคน เพราะพวกเขามีรายได้เยอะ จึงจะสนับสนุนการบริโภคของพวกเขาที่นี่ได้"ตึ้งตึ้งตึ้ง!!!"หลังจากเข้าไปในห้องพักของโรงแรมได้ไม่นานก็มีเสียงเคาะประตูหลินตงเปิดประตู ก็เห็นสาวสวยผมบลอนด์นุ่งน้อยห่มน้อยยืนอยู่หน้าประตู"คุณผู้ชาย! ต้องการบริการไหมคะ?"เห็นได้ชัดว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่คนต้าเซี่ย น่าจะเป็นคนจากประเทศเล็ก ๆ รอบ ๆ แต่พูดภาษาต้าเซี่ยได้อย่างคล่องแคล่วในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ หลินตงรู้ดีว่าบริการที่หมายถึงคืออะไร แต่เขาไม่สนใจแม้แต่สาวสวยอย่างหานชือหยุนเขาก็ยังอดทนได้ นับประสาอะไรกับผู้หญิงสำส่อนแบบนี้เขาไม่อยากครั้งแรกของตัวเองให้กับผู้หญิงแบบนี้"ไม่ต้องการ! ขอบคุณ!" หลินตงตอบพูดจบเขาก็เตรียมปิดประตูแต่ประตูกับถูกอีกฝ่าย
ในตอนเย็น หลินตงออกจากโรงแรมโรงแรมที่นี่ไม่ได้เตรียมอาหารไว้ผู้เข้าพักต้องจัดการอาหารสามมื้อต่อวันด้วยตนเองหลินตงหาร้านอาหารแห่งหนึ่ง และเตรียมตัวกลับโรงแรมหลังจากรับประทานอาหารเสร็จ แต่ระหว่างทางกลับเห็นบาร์อยู่ข้าง ๆ - บาร์ลั่วเค่อเขารู้สึกว่าตัวเองกลับไปก็ไม่มีอะไรทำ จึงเดินเข้าไปบาร์ใหญ่มากและมีเสียงดัง!เด็กผู้หญิงนุ่งน้อยห่มน้อยหลายคนเต้นอยู่บนเวที ในขณะที่ผู้คนนับไม่ถ้วนคำรามและตะโกนอยู่ด้านล่างหลินตงไปที่ชั้นสองเพื่อหาที่นั่งลงและมองดูฝูงชนที่บิดร่างกายอย่างบ้าคลั่งในฟลอร์เต้นรำชั้นล่าง พวกเขาดูเหมือนกำลังปลดปล่อยความกดดันของตัวเองไม่นานก็มีพนักงานเดินเข้ามา"คุณผู้ชาย! ไม่ทราบว่าคุณต้องการสั่งอะไรไหม?""มีเหล้าอะไรขึ้นชื่อให้ผมสองแก้ว!" หลินตงกล่าว"ได้ครับ! คุณผู้ชายกรุณารอสักครู่ครับ!"พนักงานพูดจบก็ออกไปไม่นานหลังจากนั้นเหล้าห้าสีสันสองแก้วก็ถูกเสิร์ฟหลินตงกำลังดื่มในขณะที่มองดูฝูงชนชั้นล่างที่ปลดปล่อยด้วยวิธีนี้เขาเพลิดเพลินกับช่วงเวลาแบบนี้เวลาผ่านไปอย่างช้า ๆในบาร์มีคนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆชั้นสองที่เมื่อกี้ยังว่างอยู่ ตอนนี้เต็มไปด้วยคนแล้ว
ทันใดนั้นก็มีหลายคนก้าวไปข้างหน้าและเตรียมที่จะอุ้มผู้หญิงคนนั้นออกไปหลินตงก็กะว่าจะไม่สนใจเรื่องไร้สาระนี้ ในดินแดนแห่งความวุ่นวายทุกคนมีแต่หมากัดหมาเท่านั้น ใครจะแน่ใจได้ว่าผู้หญิงที่นอนอยู่บนพื้นเป็นคนดีไม่คิดว่าคนกลุ่มนี้กำลังจะจากไปแล้ว จู่ ๆ แบล็ควอเตอร์ก็หันไปมองหลินตง เห็นหลินตงไม่เพียงแต่นั่งอยู่ชั้นบนของวีไอพีเท่านั้น แต่ยังดื่มเหล้ารสเลิศอีกด้วย สวมเสื้อผ้าก็ไม่เลว จึงพูดว่า "นายเป็นพวกเดียวกับเธอใช่ไหม?"หลินตงขี้เกียจเกินกว่าจะสนใจเขาเมื่อเห็นว่าหลินตงไม่พูดจา เขาจึงกล่าวเสริมว่า "เอาเขาไปด้วย แม่งเอ๊ย กล้าฆ่าฉัน ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วใช่ไหม"แขกคนอื่น ๆ บนชั้นสองมองหลินตงและมีสีหน้าที่โชคร้ายแทนเขาตอนพวกเขาขึ้นมา ก็เห็นหลินตงนั่งอยู่ที่นี่แล้ว ผู้หญิงคนนี้เพิ่งวิ่งมานั่งตรงข้ามเขา หลินตงก็พูดให้อีกฝ่ายออกไปแล้ว อย่างอื่นไม่ได้สื่อสารกันเลยไม่ใช่พวกเดียวกันแน่นอน เห็นได้ชัดว่าหัวหน้ากองทหารรับจ้างแบล็ควอเตอร์เห็นว่าหลินตงดูเหมือนเหยื่ออ้วน และต้องการแบล็กเมล์เขา สถานการณ์แบบนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกในเขตมั่นคง มักจะใช้เงินเล็กน้อยเพื่อจัดการแต่ด้วยชื่อเสียงที่ไม่ดี
ในห้องอันเงียบสงบในบาร์ ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นบนชั้นสองถูกฉายบนจอขนาดใหญ่ร่างที่เกียจคร้านและยั่วยวนนอนครึ่งหนึ่งบนโซฟา ถือแก้วไวน์แดงในมือแล้วมองกล้องวงจรปิดเธอชื่อทิวลิปเจ้าของบาร์ลั่วเค่อ!ผู้หญิงที่สามารถเปิดบาร์ในดินแดนวุ่นวายได้นั้นไม่ใช่คนธรรมดาตอนที่เห็นว่าแบล็ควอเตอร์กำลังจะพาหลินตงออกไป เธอก็เตรียมที่จะให้คนไปหยุดพวกเขาแล้วแบล็ควอเตอร์ทำเรื่องแบบนี้ในบาร์ของเธอ ต่อไปใครจะกล้ามาใช้จ่ายที่บาร์ของเธอ? นี่ไม่ใช่การตัดเส้นทางการเงินของเธอและทำลายแบรนด์ของเธอเหรอ?อย่ามองว่าเป็นบาร์เล็ก ๆ ที่อื่นอาจมีรายได้ธรรมดา แต่ในดินแดนแห่งความวุ่นวายนี้เป็นต้นเงินต้นทองที่สามารถทําเงินได้มากมายให้เธอทุกวันและบาร์ในสถานที่แบบนี้ ความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญที่สุด แม้แต่ความปลอดภัยยังรับประกันให้ แขกที่เข้ามาไม่ได้ ต่อไปใครจะกล้ามาจับจ่ายใช้สอย?ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถปล่อยให้แบล็ควอเตอร์ฝ่าฝืนกฎของบาร์เธอได้แม้ว่าแบล็ควอเตอร์จะบอกเธอแล้ว แต่นายแบล็ควอเตอร์จับศัตรูของนายฉันไม่สนใจ ต้องการจะจับแขกของฉัน อย่าแม้แต่จะคิด!!!ส่วนจะใช่พวกเดียวกันมั๊ย?คนที่อยู่ในรายชื่อนักฆ่ามักจะไปโดดเดี่ยว
ชั้นสองของบาร์เงียบสงบไปหมด เหลือเพียงหลินตงและผู้หญิงที่นอนอยู่บนพื้นหลินตงเหลือบมองผู้หญิงคนนั้นนักฆ่าอันดับเก้า???บลูเดวิล???ผู้หญิงคนนี้ก็น่าจะอายุไม่เยอะนะ???เก่งขนาดนี้เลย???ดนตรีชั้นล่างยังคงเล่นต่อไปและผู้คนในฟลอร์เต้นรำก็เริ่มโยกอย่างบ้าคลั่งอีกครั้งสถานการณ์นี้พบได้บ่อยในเขตมั่นคงและทุกคนก็ไม่ได้รู้สึกแปลกอะไร สำหรับคนส่วนใหญ่ระดับหัวหน้ากองทหารรับจ้างแบล็ควอเตอร์ยังคงห่างไกลจากพวกเขามากพวกเขาไม่รู้จักแบล็ควอเตอร์ และไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นบนชั้นสอง พวกเขาคิดว่ากองทหารรับจ้างแบล็ควอเตอร์จับใครบางคนได้และจากไปแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงเริ่มสนุกอีกครั้งแต่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของบาร์ลั่วเค่อสองคนยืนอยู่ที่บันไดชั้นสองและไม่อนุญาตให้ใครขึ้นไปหลินตงสาดเหล้าห้าสีในแก้วของตัวเองลงบนใบหน้าของบลูเดวิลเขาไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้จะตื่นขึ้นมาได้เมื่อไหร่และไม่มีเวลารออยู่ที่นี่ เมื่อกี้ก็ลืมขอยาแก้พิษกับคนของกองทหารรับจ้างแบล็ควอเตอร์ ดังนั้นจึงใช้วิธีที่ง่ายและหยาบที่สุดโดยตรงแน่นอนว่าวิธีนี้ได้ผลค่อนข้างดี และไม่นานหลังจากนั้น บลูเดวิลก็ค่อย ๆ ตื่นขึ้นมาเธอล
"พูดแบบนี้ กองทหารรับจ้างแบล็ควอเตอร์ก็เป็นคนที่เคยทำลายบ้านของคุณมาก่อน?""ไม่ใช่ทั้งหมด แต่หัวหน้าและรองหัวหน้าอันดับหนึ่งของพวกเขาใช่ แต่ฉันสามารถฆ่าได้เฉพาะรองหัวหน้าอันดับหนึ่งของพวกเขา กลับฆ่าแบล็ควอเตอร์ที่เป็นหัวหน้าไม่ได้ การลอบสังหารครั้งนี้ยังโดนเขาวางกับดักด้วย จึงได้หนีมาที่นี่""เล่าเรื่องสถานการณ์ของคุณให้ผมฟังหน่อย ถ้าสามารถโน้มน้าวผมได้ ผมจะไม่ฆ่าคุณและยังจะให้เซอร์ไพรส์คุณด้วย" หลินตงกล่าวเขาต้องการฟังเรื่องราวของบลูเดวิลถ้าอย่างที่เธอพูดจริง ๆ ไม่เคยฆ่าคนบริสุทธิ์สักคน เขาคิดว่าการรับคนนี้ไปอยู่ใต้บังคับบัญชาก็ไม่เลวอย่างไรก็ตามอิทธิพลของตนเองก็ต้องการผู้มีความสามารถมากมาย แน่นอนว่าก่อนอื่นต้องผ่านคุณสมบัติเรื่องนิสัยก่อนบลูเดวิลเริ่มเล่าให้หลินตงเกี่ยวกับอดีตของเธอเธอรู้ว่าเธอไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลินตงเลย เธอสามารถสัมผัสได้ว่าหลินตงเหมือนมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ แต่เธอเป็นเพียงเรือใบรำเดียวนี่คือพรสวรรค์ของเธอ ไม่เพียงแต่สามารถซ่อนออร่าของตัวเองได้ แต่ยังสามารถสัมผัสได้ถึงจุดแข็งและจุดอ่อนของผู้อื่นอีกด้วย เธออาศัยสิ่งนี้จึงฆ่ารองหัวหน้าอันดับแรกของกองทหารรั
หลังจากได้ยินเรื่องราวของบลูเดวิลแล้ว หลินตงก็รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้น่าสงสารมากขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้โกหกหรือเปล่า?ตัวเองเพิ่งมาดินแดนแห่งความวุ่นวายนานแค่ไหนเอง? ก็เจอคนสองคนที่มีความแค้น แบกรับความแค้นแสนสาหัสคนแรกคือหลัวซา และคนที่สองคือบลูเดวิลคนนี้จะเรื่องบังเอิญขนาดนี้ได้ยังไง?หลัวซาน่าจะไม่มีปัญหา เนื่องเขาเป็นยอดฝีมือในระดับกลางของรายการมังกร ไม่จำเป็นต้องโกหกตัวเองแต่นั่นบลูเดวิลคนนี้ไม่แน่เขาสงสัยเล็กน้อยว่าผู้หญิงคนนี้สร้างเรื่องแบบนี้ขึ้นมาเพื่อเอาตัวรอดจากเงื้อมมือของเขาหรือเปล่าแต่เนื่องจากไม่สามารถแยกแยะจริงและเท็จได้ เก็บไว้ก่อนดีกว่า! ดูการกระทำของเธอในอนาคต เมื่อพบว่าเป็นเรื่องเท็จ ค่อยลงมือก็ยังไม่สาย เขาไม่กลัวว่าอีกฝ่ายจะกล้ามีความคิดอื่นเมื่อเผชิญกับความแข็งแกร่งที่แท้จริง แผนการและกลอุบายใด ๆ ก็ไร้ประโยชน์ที่จริงแล้วหลินตงไม่รู้ว่าในดินแดนแห่งความวุ่นวายนี้ มีผู้คนมากมายที่ต้องทนทุกข์จากความแค้นนองเลือด แต่มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถเติบโตขึ้นมาอย่างทรงพลังและมีโอกาสที่จะแก้แค้นเหมือนพวกเขาสองคน"จากนี้ไปผมจะเรียกคุณว่าเสี่
ทิวลิปพูดปุ๊บก็เปิดไวน์แดงขวดหนึ่ง รินให้หลินตงและตัวเองคนละแก้วหลินตงก็ไม่เกรงใจ หยิบแก้วไวน์และชนแก้วกับทิวลิป ทั้งสองก็จิบกันคนละอึก"ไม่ทราบว่านายน้อยชื่ออะไรคะ?" ทิวลิปถาม"ผมแซ่หลิน คุณสามารถเรียกผมว่าหน้ากากเงินก็ได้!""งั้นฉันเรียกคุณว่านายน้อยหลินดีกว่า! ไม่ทราบว่านายน้อยหลินอยากให้ฉันช่วยคุณทำอะไรคะ?""เถ้าแก่ทิวลิปน่าจะมีช่องทางติดต่อกองทหารรับจ้างขนาดใหญ่และขนาดกลางเหล่านั้นใช่ไหม?""ติดต่อได้บ้างจริง ๆ!""ผมอยากให้เถ้าแก่ทิวลิปช่วยผมแจ้งข่าวถึงกองทหารรับจ้างขนาดใหญ่และขนาดกลางเหล่านั้น!""นายน้อยหลินเชิญพูด!""อีกหนึ่งอาทิตย์กลุ่มทหารรับจ้างเปลวไฟของผมจะออกเดินทางไปโจมตีมุมมืด และจับกองทหารรับจ้างกระหายเลือด ใครก็ตามที่ต้องการมาช่วยเปลวไฟของผม ราคาสามารถเรียกได้ตามใจชอบ และจอมทรราชย์ต้องตายแน่ สัญญาว่าจะไม่ทิ้งอันตรายที่ซ่อนอยู่ใด ๆ ไว้!" หลินตงพูดอย่างจริงจังอะไรนะ???บลูเดวิลที่อยู่ด้านหลังทิวลิปและหลินตงตกใจ สูดลมหายใจเข้า!!!นายน้อยหลินคนนี้กลับต้องการโจมตีมุมมืดเหรอ???กองทหารรับจ้างกระหายเลือดเป็นกองทหารรับจ้างอันดับสามในโลกใต้ดินทั่วโลก และจอมทรราชย์ไ
เซี่ยจิ่วโหยวปะปนกับฝูงชน รับรู้สถานการณ์การต่อสู้บนท้องฟ้าตลอดเวลาเมื่อเซี่ยอวิ๋นชวนได้จังหวะ ก็ใช้หมัดส่งหลี่เทียนกระเด็นไปไกล พร้อมกับเตรียมที่จะไล่ตามไป จู่ๆ เซี่ยจิ่วโหยกลับรู้สึกได้ถึง พลังจากระดับอาณาจักรนิรันดรครึ่งขั้น ถึงสี่คนกำลังมุ่งเข้าใกล้เซี่ยอวิ๋นชวนพร้อมกันอย่างรวดเร็วเกือบจะทำให้เขาตกใจจนตัวสั่นอาณาจักรนิรันดรครึ่งขั้นสี่คน?เผ่ามังกรเก้าหัวส่งปรมาจารย์ระดีบอาณาจักรนิรันดรครึ่งขั้นสี่คนพร้อมกันโดยไม่คาดคิด?พวกเขาไม่กลัวที่จะดึงดูดความสนใจของผู้คุมกฎจักรวาลจริงหรือ?อาณาจักรนิรันดรครึ่งขั้นสี่คนได้แซงหน้าพลังการต่อสู้ระดับสูงทั้งหมดในกาแล็กซีทางช้างเผือกไปหมดแล้วไม่ใช่เรื่องเกินจริงเลยถ้าทั้งสี่คนร่วมมือกัน โดยไม่คำนึงถึงเวลา พวกเขาสามารถทำลายทั้งจักรวาลได้ทันทีจำนวนไม่มีผลกับพวกเขาเลย ไม่ว่าจะมีคนกี่คนก็ตาม พวกมันเป็นเพียงมดเท่านั้นนี่เป็นการละเมิดสนธิสัญญาจักรวาลอย่างสมบูรณ์ และเมื่อผู้คุมกฎจักรวาลรู้เข้า เผ่ามังกรเก้าหัวจะต้องจ่ายราคาที่สูงมากอย่างแน่นอนพวกเขากล้าทำอย่างนี้ได้อย่างไรไม่มีเวลาให้คิดอย่างละเอียดร่างกายของเซี่ยจิ่วโหยวได้รุดออกไ
แต่เนื่องจากเขากล้าที่จะแก้แค้นอาณาจักรก็ย่อมมีการพึ่งพาบ้างไม่อย่างนั้นหากรู้ตัวว่าต้องแพ้ จะมาที่นี่ไปเพื่ออะไร?เบื่อหน่ายที่จะมีชีวิตเช่นนั้นหรือ?"คุณชาย! คุณคิดว่าใครจะชนะ?" เย่ชิงหวู่อดไม่ได้ที่จะถามข้างๆ เธอเธอไม่ได้รับผลกระทบเลยตั้งแต่การต่อสู้จนถึงตอนนี้"ถ้าไม่มีอะไรที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น เซี่ยอวิ๋นชวนจะชนะ แต่เนื่องจากหลี่เทียนกล้าที่จะมาที่นี่ เขาจะได้รับการสนับสนุนอย่างแน่นอน ดังนั้นไม่มีใครสามารถพูดได้แน่ชัดจนกว่าผลสุดท้ายจะออกมาเช่นไร" หลินตงตอบทันทีที่เขาพูด เขาก็ได้รับสายตาเยาะเย้ยจากผู้คนรอบข้างทันทีเจ้าบ้านี่เป็นใคร?กล้าประเมินการต่อสู้ระหว่างสองปรมาจารย์อาณาจักรนิรันดรครึ่งขั้นได้อย่างไร?แถมยังกล้าเรียกองค์จักรพรรดิเซี่ยอวิ๋นชวนได้อีกหรือ?เป็นลูกหลานของตระกูลไหน?ไร้มารยาทขนาดนั้นเลยเหรอ?แม้ว่าจะไม่อยากมีชีวิตอยู่ แต่ยังอยากจะตายพร้อมกับกองกำลังที่หนุนหลังด้วยหรือ?ชายหนุ่มบึกบึนไม่เกรงใจใครคนหนึ่งตรงเข้ามา ชี้ไปที่หลินตงแล้วด่าด้วยเสียงดังว่า: "ไอ้หนุ่น! แกเป็นใครมาจากไหน? ทำไมแกนถึงหยาบคายขนาดนี้? ชื่อขององค์จักรพรรดิก็เป็นสิ่งที่แกควรใช้ปากข
ทั้งสองคนต่อสู้กันอีกครั้งในอากาศ และเสียงปะทะกันก็ดังไม่หยุดหย่อนเซี่ยหยุนชวนพยายามอย่างสุดความสามารถ เพื่อดึงการต่อสู้ให้สูงขึ้นไปในอากาศสิ่งนี้สามารถป้องกันไม่ให้ผู้คนด้านล่างได้รับอันตรายจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นการต่อสู้ระหว่างสองอาณาจักรนิรันดรครึ่งขั้นคนอื่นๆ ไม่สามารถเข้าร่วมได้แม้แต่ปรมาจารย์ขั้นสูงสุดของปรมาจารย์มหาจักรวาล ก็ยังไม่สามารถทำได้ความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยอาจส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสหรืออาจถึงแก่ชีวิตได้ไม่อย่างนั้นเซี่ยอวิ๋นชวน อาณาจักรนิรันดร์ครึ่งขั้นนี้คงไม่กลายเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดในกาแล็กซีทางช้างเผือกเซี่ยจิ่วโหยวปะปนกับฝูงชน ตรวจจับหาบุคคลที่ปรากฏตัวเมื่อวานนี้ตลอดเวลาอย่างไรก็ตาม จนถึงตอนนี้ ยังไม่ได้ผลลัพธ์อะไรเลยบุคคลนี้ซ่อนตัวดีเกินไปหากไม่มีการดำรงอยู่ของบุคคลนี้เขาคงรีบเร่งไปรวมพลังกับเซี่ยอวิ๋นชวน และสังหารหลี่เทียนแล้วคนที่มีพละกำลังต่ำอาจมองไม่เห็นรู้เพียงว่าเซี่ยอวิ๋นชวนและหลี่เทียนสู้กันอย่างสูสี ไม่มีผู้ชนะหรือผู้แพ้แต่คนที่ไปถึงระดับหนึ่งย่อมรู้ได้เซี่ยอวิ๋นชวนดันหลี่เทียนให้สู้การป้องกันของหลี่เทียนน่ากลัวมาก
แม้ว่าคลื่นพลังจากการต่อสู้ จะถูกสกัดกั้นไว้โดยปรมาจารย์ขั้นสูงสุดของปรมาจารย์มหาจักรวาลหลายคนเป็นส่วนใหญ่แต่ก็ยังมีคลื่นพลังเล็กๆ สามารถเล็ดลอดไปยังหอคอยทองคำได้หลายคนที่มีพละกำลังไม่เพียงพอไม่สามารถทนได้และเริ่มเอามือทั้งสองปิดหู คุกเข่าลงบนพื้นและคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวดในช่วงเวลาของการปะทะกัน หลินตงก็คิดถึงเซี่ยมู่ขึ้นมาทันใดเซี่ยมู่ถือเป็นเพื่อนของเขาได้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นดังนั้น หลินตงจึงปล่อยร่องรอยของพลังงานจิตวิญญาณเพื่อปกป้องเซี่ยมู่ และหลังจากต้านทานผลที่ตามมาของการปะทะกัน เขาก็ถอยกลับอย่างรวดเร็วแม้ว่าความแข็งแกร่งของหลิวนิ่งเหยียนจะไม่อ่อนแอแต่ภายใต้การต่อสู้กันของปรมาจารย์ระดับอาณาจักรนิรันดรครึ่งขั้น ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะปกป้องเซี่ยมู่จากอันตรายใดๆ ได้อย่างสมบูรณ์โดยเฉพาะตำแหน่งการปะทะ มันอยู่ใกล้พวกเขาเกินไป"มู่มู่! มู่มู่! ลูกเป็นยังไงบ้าง ลูกปลอดภัยไหม" หลิวนิ่งเหยียนถามด้วยความกังวล"เสด็จแม่ ไม่ต้องกังวล ดูเหมือนลูกจะไม่เป็รอะไรเลย" เซี่ยมู่ตอบ"ลูกไม่เป็นไรจริงๆ เหรอ"หลิวนิ่งเหยียนดูไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่"เสด็จแม่! ฉันสบายดีจริงๆ"หลิวนิ่งเหยี
ในขณะนั้น เสียงก็ดังก้องจากท้องฟ้า เป็นเสียงของท่านผู้นำอาณาจักรสวรรค์ หลี่เทียน!"เซี่ยอวิ๋นชวน! ไม่เจอกันนาน!""หลี่เทียน! อยู่ดีไม่ว่าดี อยากตายนักใช่ไหม!" เซี่ยอวิ๋นชวนหรี่ตาแล้วพูด"อยากตายงั้นเหรอ? เซี่ยอวิ๋นชวน แกมองตัวเองสูงส่งเกินไป วันนี้ ฉันมาที่นี่เพื่อเอาคืนทุกสิ่งที่เป็นของอาณาจักรสวรรค์ของฉัน และถือโอกาสส่งตระกูลเซี่ยของแกลงนรก เพื่อไปร่วมเดินทางกับนักรบผู้กล้าหาญของอาณาจักรสวรรค์ที่ล้มตายไปในช่วงหลายปีที่ผ่านมา""เพ้อเจ้อหาแม่แกเหรอ!!! หลี่เทียน เมื่อก่อนอาณาจักรของฉันสามารถเอาชนะพวกเแกจนราบคาบได้ และวันนี้เราก็ทำได้เช่นกัน และครั้งนี้ แกกล้าสมคบคิดกับเผ่ามังกรเก้าหัว พยายามสร้างความโกลาหลให้กับมนุษยชาติของเรา""หุบปาก!"หลี่เทียนขัดจังหวะคำพูดของเซี่ยอวิ๋นชวนทันทีถ้าเขาพูดต่อไป สถานการณ์ของเผ่ามังกรเก้าหัวจะถูกเปิดเผยเหตุผลที่อาณาจักรสวรรค์เลือกที่จะลงมือกับอาณาจักรในเวลานี้ก็เพื่อป้องกันไม่ให้เซี่ยอวิ๋นชวนเปิดเผยเรื่องเผ่ามังกรเก้าหัวต่อหน้ากองกำลังทั้งหมดในทางช้างเผือกหลี่เทียนปล่อยให้เขาบรรลุความปรารถนาของเขาได้อย่างไร"ฮ่าๆ... หลี่เทียน แกไม่ต้องการให้
หยิบกล่องเหล็กออกมา แล้วปล่อยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มองไม่เห็นออกมา ตัดสัญญาณเครือข่ายทั้งหมดของดวงดาวจักรพรรดิทำให้ส่วนอื่นๆ ทั้งหมดของกาแล็กซีทางช้างเผือกไม่สามารถรับสัญญาณจากดวงดาวจักรพรรดิได้ทันทีคนที่กำลังเฝ้าดูงานเลี้ยงของรัฐ ไม่สามารถมองเห็นอะไรได้ในทันที"บ้าเอ๊ย! เกิดอะไรขึ้น ทำไมสัญญาณถึงขาดหายไป ฉันกำลังจะด฿องค์หญิงสิบเก้าพอดี!" ชายหนุ่มในห้องของเขาด่าเสียงดังเขาติดต่อเพื่อนๆ ของเขาทันทีแต่ก็พบว่าคนอื่นๆ ทุกคนก็ประสบปัญหาเดียวกันไม่มีใครที่เขารู้จักเห็นงานเลี้ยงของรัฐอีกต่อไปเสียงโกรธเกรี้ยวดังขึ้นทั่วทุกมุมของกาแล็กซีแผนกสื่อสารของดวงดาวจักรพรรดิยังค้นพบว่ามีบางอย่างผิดปกติและกำลังรายงานเบื้องบนในขณะนี้ ไม่มีใครคาดคิดว่าเศษซากอาณาจักรสวรรค์จะกล้าแทรกซึมเข้าไปในดวงดาวจักรพรรดิอย่างเปิดเผยเมื่อพิจารณาโดยรวมแล้ว ในดวงดาวจักรพรรดิในปัจจุบัน มียอดฝีมือ 80% ในกาแล็กซีทางช้างเผือก รวมถึงองค์จักรพรรดิผู้แข็งแกร่งที่สุดใครมันจะกล้ามากระตุกหนวดเสือ?ดังนั้นทุกคนต่างเฝ้าดูงานเลี้ยงของรัฐ และสำหรับงานป้องกันของดวงดาวจักรพรรดิ ก็ไม่ได้ทำได้ดีนักแม้แต่พระราชวังใหญ่ท
หลินตงและเย่ชิงหวู่ถูกจัดให้นั่งอยู่ในแถวแรกเรียกได้ว่า โดนลากออกมาตบหน้ากลางสี่แยกเลยทีเดียวจากคำถามและเสียงหัวเราะเยาะเมื่อครู่ กลายเป็นความกระอักกระอ่วนในตอนนี้แทนเนื่องจากหลินตงมาถึงเป็นคนสุดท้ายไม่นานหลังจากที่พวกเขานั่งลง งานเลี้ยงก็เริ่มขึ้นคนแรกที่ปรากฏตัวคือองค์จักรพรรดิเซี่ยอวิ๋นชวนแห่งอาณาจักรกาแล็กซี ซึ่งสวมมงกุฎจักรพรรดิและเสื้อคลุมทองคำที่มีลวดลายมังกรฟ้า พยัคฆ์ขาว หงส์เพลิง และพญาเต่าแกะสลักอยู่สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่นี้ ได้รับการบูชาโดยอาณาจักรกาแล็กซีด้วยห้องโถงใหญ่ทั้งสี่ของอาณาจักรก็มีต้นกำเนิดมาจากสิ่งนี้เช่นกันทันทีที่เซี่ยอวิ๋นชวนปรากฏตัว เขาก็ดึงดูดความสนใจของทุกคนที่อยู่ที่นั่นทันทีนี่คือองค์จักรพรรดิแห่งอาณาจักรกาแล็กซีแถมยังเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดในกาแลกซีทางช้างเผือกด้วยตัวตนในตำนานถ้าไม่ใช่เพราะโอกาสในวันนี้มีผู้คนนับล้านเข้าร่วม ซึ่งอย่างน้อย 99% ไม่เคยมีโอกาสได้พบองค์จักรพรรดิตัวเป็นๆ ในชีวิตของพวกเขาเลยแค่การได้เห็นองค์จักรพรรดิด้วยตาตัวเองก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้หลายๆ คนคุยโวไปตลอดชีวิตหลังจากองค์จักรพรรดิปรากฏตัว ตามด้วยจักร
"ขออภัยทั้งสองท่านด้วย หากไม่ได้รับจดหมายเชิญ เราไม่สามารถจัดที่นั่งได้ เนื่องจากตำแหน่งของเราถูกจัดไว้ตามคำเชิญที่อาณาจักรออกให้ หากไม่ได้รับคำเชิญ ก็จะไม่มีสิทธิ์เข้า รบกวนทั้งสองท่านเชิญกลับไปด้วย" เจ้าหน้าที่อธิบาย"แม้ว่าเราจะไม่ได้รับจดหมายเชิญ แต่เราได้รับคำเชิญจากองค์หญิงสิบเก้า นี่คือตราที่เธอให้มา คุณช่วยจัดการได้ไหม ถ้าไม่ได้ผล ฉันสามารถติดต่อองค์หญิงสิบเก้าและขอให้เธอมารับฉันได้"หลินตงพูดในขณะที่เขายื่นตราที่เซี่ยมู่มอบให้กับอีกฝ่ายในตอนแรก เจ้าหน้าที่ของอาณาจักรสองคนไม่เชื่อและเชื่อว่าหลินตงที่กำลังคุยโวล้อเล่นใช่ไหมนิ!องค์หญิงสิบเก้าอยากเรียกออกมาก็เรียกออกมาได้เหรอ?เธอยังออกมารับอีก?คิดว่าตัวเองเป็นใคร?ไม่มีทายาทสายตรงของกองกำลังใหญ่ในกาแล็กซีทางช้างเผือก ที่กล้าเชิญองค์หญิงสิบเก้ามาต้อนรับเป็นการส่วนตัวหลินตงและเย่ชิงหวู่ไม่ได้แก่ แต่ทักษะการคุยโวของพวกเขาค่อนข้างน่าประทับใจพวกเขาต้องการแค่ให้หลินตงออกไปและไม่ก่อปัญหาที่นี่หลินตงยื่นตราให้มีคนหนึ่งรับตราขึ้นมาดูหรี่ตาลง และหัวใจสั่นสะท้านฉิบหาย!!!นี่มันตราขององค์หญิงสิบเก้าจริงๆเขาตอบอย่าง
วันต่อมาในตอนเช้าดวงดาวจักรพรรดิทั้งหมดเริ่มยุ่งวุ่นวายงานเลี้ยงระดับรัฐของอาณาจักรกาแล็กซีกำลังจัดขึ้นในวันนี้ตัวแทนกองกำลังทั้งหมดจากทุกมุมของกาแลกซีทางช้างเผือกตื่นแต่เช้าจากนั้นก็อาบน้ำอาบท่า เตรียมตัว และรวมตัวกันที่ยอดเขาสีทองของดวงดาวจักรพรรดิกำลังรองานเลี้ยงระดับรัฐที่จะจัดขึ้นด้วยรูปลักษณ์ที่ดีที่สุดครั้งนี้ ไม่เพียงแต่ท่านผู้เฒ่าของแต่ละฝ่ายเท่านั้นที่มาถึง แต่พวกเขายังนำคนรุ่นเยาว์ที่โดดเด่นของฝ่ายตนเองมาด้วย เตรียมที่จะให้พวกเขาได้เห็นโลกกว้างท้ายที่สุดแล้ว โอกาสเช่นนี้มีน้อยหลังจากไปถึงยอดเขาสีทองแล้วขั้นแรก ให้เตรียมหาที่นั่งกองกำลังที่ไปถึงทั้งหมด ต้องนำคำเชิญที่ออกโดยอาณาจักรมาแสดง คำเชิญแต่ละฉบับจะแตกต่างกัน และเจ้าหน้าที่ของอาณาจักรจะจัดลำดับที่นั่งตามนี้บุคคลระดับท่านผู้เฒ่าของกองกำลังใหญ่จะนั่งอยู่แถวหน้าโดยธรรมชาติตัวอย่างเช่น ผู้เชี่ยวชาญระดับสูงหลายคนในขั้นสูงสุดของปรมาจารย์มหาจักรวาล นำโดยผู้อาวุโสหลิวชิงแห่งพระราชวังหมิงเยว่ถัดมาคือช่วงหลัง ช่วงกลาง และช่วงต้นของระดับปรมาจารย์มหาจักรวาล เป็นต้นนอกจากนี้ยังมีผู้สืบทอดกองกำลังใหญ่บางส่