ในห้องอันเงียบสงบในบาร์ ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นบนชั้นสองถูกฉายบนจอขนาดใหญ่ร่างที่เกียจคร้านและยั่วยวนนอนครึ่งหนึ่งบนโซฟา ถือแก้วไวน์แดงในมือแล้วมองกล้องวงจรปิดเธอชื่อทิวลิปเจ้าของบาร์ลั่วเค่อ!ผู้หญิงที่สามารถเปิดบาร์ในดินแดนวุ่นวายได้นั้นไม่ใช่คนธรรมดาตอนที่เห็นว่าแบล็ควอเตอร์กำลังจะพาหลินตงออกไป เธอก็เตรียมที่จะให้คนไปหยุดพวกเขาแล้วแบล็ควอเตอร์ทำเรื่องแบบนี้ในบาร์ของเธอ ต่อไปใครจะกล้ามาใช้จ่ายที่บาร์ของเธอ? นี่ไม่ใช่การตัดเส้นทางการเงินของเธอและทำลายแบรนด์ของเธอเหรอ?อย่ามองว่าเป็นบาร์เล็ก ๆ ที่อื่นอาจมีรายได้ธรรมดา แต่ในดินแดนแห่งความวุ่นวายนี้เป็นต้นเงินต้นทองที่สามารถทําเงินได้มากมายให้เธอทุกวันและบาร์ในสถานที่แบบนี้ ความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญที่สุด แม้แต่ความปลอดภัยยังรับประกันให้ แขกที่เข้ามาไม่ได้ ต่อไปใครจะกล้ามาจับจ่ายใช้สอย?ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถปล่อยให้แบล็ควอเตอร์ฝ่าฝืนกฎของบาร์เธอได้แม้ว่าแบล็ควอเตอร์จะบอกเธอแล้ว แต่นายแบล็ควอเตอร์จับศัตรูของนายฉันไม่สนใจ ต้องการจะจับแขกของฉัน อย่าแม้แต่จะคิด!!!ส่วนจะใช่พวกเดียวกันมั๊ย?คนที่อยู่ในรายชื่อนักฆ่ามักจะไปโดดเดี่ยว
ชั้นสองของบาร์เงียบสงบไปหมด เหลือเพียงหลินตงและผู้หญิงที่นอนอยู่บนพื้นหลินตงเหลือบมองผู้หญิงคนนั้นนักฆ่าอันดับเก้า???บลูเดวิล???ผู้หญิงคนนี้ก็น่าจะอายุไม่เยอะนะ???เก่งขนาดนี้เลย???ดนตรีชั้นล่างยังคงเล่นต่อไปและผู้คนในฟลอร์เต้นรำก็เริ่มโยกอย่างบ้าคลั่งอีกครั้งสถานการณ์นี้พบได้บ่อยในเขตมั่นคงและทุกคนก็ไม่ได้รู้สึกแปลกอะไร สำหรับคนส่วนใหญ่ระดับหัวหน้ากองทหารรับจ้างแบล็ควอเตอร์ยังคงห่างไกลจากพวกเขามากพวกเขาไม่รู้จักแบล็ควอเตอร์ และไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นบนชั้นสอง พวกเขาคิดว่ากองทหารรับจ้างแบล็ควอเตอร์จับใครบางคนได้และจากไปแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงเริ่มสนุกอีกครั้งแต่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของบาร์ลั่วเค่อสองคนยืนอยู่ที่บันไดชั้นสองและไม่อนุญาตให้ใครขึ้นไปหลินตงสาดเหล้าห้าสีในแก้วของตัวเองลงบนใบหน้าของบลูเดวิลเขาไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้จะตื่นขึ้นมาได้เมื่อไหร่และไม่มีเวลารออยู่ที่นี่ เมื่อกี้ก็ลืมขอยาแก้พิษกับคนของกองทหารรับจ้างแบล็ควอเตอร์ ดังนั้นจึงใช้วิธีที่ง่ายและหยาบที่สุดโดยตรงแน่นอนว่าวิธีนี้ได้ผลค่อนข้างดี และไม่นานหลังจากนั้น บลูเดวิลก็ค่อย ๆ ตื่นขึ้นมาเธอล
"พูดแบบนี้ กองทหารรับจ้างแบล็ควอเตอร์ก็เป็นคนที่เคยทำลายบ้านของคุณมาก่อน?""ไม่ใช่ทั้งหมด แต่หัวหน้าและรองหัวหน้าอันดับหนึ่งของพวกเขาใช่ แต่ฉันสามารถฆ่าได้เฉพาะรองหัวหน้าอันดับหนึ่งของพวกเขา กลับฆ่าแบล็ควอเตอร์ที่เป็นหัวหน้าไม่ได้ การลอบสังหารครั้งนี้ยังโดนเขาวางกับดักด้วย จึงได้หนีมาที่นี่""เล่าเรื่องสถานการณ์ของคุณให้ผมฟังหน่อย ถ้าสามารถโน้มน้าวผมได้ ผมจะไม่ฆ่าคุณและยังจะให้เซอร์ไพรส์คุณด้วย" หลินตงกล่าวเขาต้องการฟังเรื่องราวของบลูเดวิลถ้าอย่างที่เธอพูดจริง ๆ ไม่เคยฆ่าคนบริสุทธิ์สักคน เขาคิดว่าการรับคนนี้ไปอยู่ใต้บังคับบัญชาก็ไม่เลวอย่างไรก็ตามอิทธิพลของตนเองก็ต้องการผู้มีความสามารถมากมาย แน่นอนว่าก่อนอื่นต้องผ่านคุณสมบัติเรื่องนิสัยก่อนบลูเดวิลเริ่มเล่าให้หลินตงเกี่ยวกับอดีตของเธอเธอรู้ว่าเธอไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลินตงเลย เธอสามารถสัมผัสได้ว่าหลินตงเหมือนมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ แต่เธอเป็นเพียงเรือใบรำเดียวนี่คือพรสวรรค์ของเธอ ไม่เพียงแต่สามารถซ่อนออร่าของตัวเองได้ แต่ยังสามารถสัมผัสได้ถึงจุดแข็งและจุดอ่อนของผู้อื่นอีกด้วย เธออาศัยสิ่งนี้จึงฆ่ารองหัวหน้าอันดับแรกของกองทหารรั
หลังจากได้ยินเรื่องราวของบลูเดวิลแล้ว หลินตงก็รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้น่าสงสารมากขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้โกหกหรือเปล่า?ตัวเองเพิ่งมาดินแดนแห่งความวุ่นวายนานแค่ไหนเอง? ก็เจอคนสองคนที่มีความแค้น แบกรับความแค้นแสนสาหัสคนแรกคือหลัวซา และคนที่สองคือบลูเดวิลคนนี้จะเรื่องบังเอิญขนาดนี้ได้ยังไง?หลัวซาน่าจะไม่มีปัญหา เนื่องเขาเป็นยอดฝีมือในระดับกลางของรายการมังกร ไม่จำเป็นต้องโกหกตัวเองแต่นั่นบลูเดวิลคนนี้ไม่แน่เขาสงสัยเล็กน้อยว่าผู้หญิงคนนี้สร้างเรื่องแบบนี้ขึ้นมาเพื่อเอาตัวรอดจากเงื้อมมือของเขาหรือเปล่าแต่เนื่องจากไม่สามารถแยกแยะจริงและเท็จได้ เก็บไว้ก่อนดีกว่า! ดูการกระทำของเธอในอนาคต เมื่อพบว่าเป็นเรื่องเท็จ ค่อยลงมือก็ยังไม่สาย เขาไม่กลัวว่าอีกฝ่ายจะกล้ามีความคิดอื่นเมื่อเผชิญกับความแข็งแกร่งที่แท้จริง แผนการและกลอุบายใด ๆ ก็ไร้ประโยชน์ที่จริงแล้วหลินตงไม่รู้ว่าในดินแดนแห่งความวุ่นวายนี้ มีผู้คนมากมายที่ต้องทนทุกข์จากความแค้นนองเลือด แต่มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถเติบโตขึ้นมาอย่างทรงพลังและมีโอกาสที่จะแก้แค้นเหมือนพวกเขาสองคน"จากนี้ไปผมจะเรียกคุณว่าเสี่
ทิวลิปพูดปุ๊บก็เปิดไวน์แดงขวดหนึ่ง รินให้หลินตงและตัวเองคนละแก้วหลินตงก็ไม่เกรงใจ หยิบแก้วไวน์และชนแก้วกับทิวลิป ทั้งสองก็จิบกันคนละอึก"ไม่ทราบว่านายน้อยชื่ออะไรคะ?" ทิวลิปถาม"ผมแซ่หลิน คุณสามารถเรียกผมว่าหน้ากากเงินก็ได้!""งั้นฉันเรียกคุณว่านายน้อยหลินดีกว่า! ไม่ทราบว่านายน้อยหลินอยากให้ฉันช่วยคุณทำอะไรคะ?""เถ้าแก่ทิวลิปน่าจะมีช่องทางติดต่อกองทหารรับจ้างขนาดใหญ่และขนาดกลางเหล่านั้นใช่ไหม?""ติดต่อได้บ้างจริง ๆ!""ผมอยากให้เถ้าแก่ทิวลิปช่วยผมแจ้งข่าวถึงกองทหารรับจ้างขนาดใหญ่และขนาดกลางเหล่านั้น!""นายน้อยหลินเชิญพูด!""อีกหนึ่งอาทิตย์กลุ่มทหารรับจ้างเปลวไฟของผมจะออกเดินทางไปโจมตีมุมมืด และจับกองทหารรับจ้างกระหายเลือด ใครก็ตามที่ต้องการมาช่วยเปลวไฟของผม ราคาสามารถเรียกได้ตามใจชอบ และจอมทรราชย์ต้องตายแน่ สัญญาว่าจะไม่ทิ้งอันตรายที่ซ่อนอยู่ใด ๆ ไว้!" หลินตงพูดอย่างจริงจังอะไรนะ???บลูเดวิลที่อยู่ด้านหลังทิวลิปและหลินตงตกใจ สูดลมหายใจเข้า!!!นายน้อยหลินคนนี้กลับต้องการโจมตีมุมมืดเหรอ???กองทหารรับจ้างกระหายเลือดเป็นกองทหารรับจ้างอันดับสามในโลกใต้ดินทั่วโลก และจอมทรราชย์ไ
ทิวลิปดูหวาดกลัวและอ้าปากอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็ไม่มีอะไรหลุดออกมาออร่านี้แข็งแกร่งมากจนเธอซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่ระดับลางของรายการมังกร ก็ไม่สามารถต้านทานได้เลย!เห็นได้ชัดว่านี่ไม่ใช่ออร่าที่เป็นของจุดสูงสุดของรายการมังกรอีกต่อไปหรือว่า???ทิวลิปมองหลินตงด้วยดวงตาเบิกกว้างหรือว่าเขาได้ก้าวข้ามก้าวเล็ก ๆ นั้นไปแล้ว?จะเป็นไปได้ยังไง???แม้ว่าหลินตงจะสวมหน้ากากเงินครึ่งหนึ่งและเสียงก็ผ่านการจัดการอย่างจงใจจากเขา แต่ทิวลิปรู้สึกว่าหลินตงน่าจะมีอายุไม่เกินสามสิบห้าปีในวัยนี้ก็ได้ก้าวข้ามจุดสูงสุดของรายการมังกรไปแล้ว ก้าวไปสู่ขั้นนั้นแล้ว ก็หมายว่าในอนาคตเขาจะเข้าสู่ระดับต่อไปได้อย่างมั่นคง?ขณะที่ทิวลิปตกใจ ในใจก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจที่ไม่มีที่สิ้นสุดนี่แหละคือบอสที่แท้จริงเพียงแค่คว้าโอกาสนี้และพึ่งพาต้นไม้ใหญ่ต้นนี้ ในอนาคตเธอทิวลิปก็สามารถมีชื่อเสียงไปทั่วโลกใต้ดินได้ทิวลิปไม่ใช่คนเดียวที่รู้สึกประหลาดใจกับเหตุการณ์นี้บลูเดวิลก็ตื่นเต้นมากเช่นกันศัตรูที่เหลือของเธอคือผู้บริหารระดับสูงของกองทหารรับจ้างขนาดใหญ่ที่รุกรานบ้านของเธอเมื่อสิบปีก่อน พวกเขาเป็นยอดฝีม
ถึงตอนนั้นทำไมตัวเองจะต้องใช้ชีวิตล่อแหลมในดินแดนแห่งความวุ่นวายนี้ด้วย?แม้ว่าเธอจะมีพลังและมาถึงระดับกลางรายการมังกรแล้ว แต่ในดินแดนแห่งความวุ่นวายนี้ หัวหน้าของกลุ่มทหารรับจ้างขนาดใหญ่หลายคนก็มาถึงช่วงท้ายของอันดับรายการมังกรแล้ว รองหัวหน้าอันดับแรกก็มีความแข็งแกร่งในระดับกลางของรายการมังกรเช่นกัน กองทหารรับจ้างแบล็ควอเตอร์ถือได้ว่าเป็นอันดับสุดท้ายในกองทหารรับจ้างขนาดใหญ่เท่านั้นตอนเจอพวกเขา ตัวเองก็ต้องลดท่าทีลงเพื่อเอาใจพวกเขามีหัวหน้าสองคนถึงกับให้ความสนใจเธอเป็นอย่างมาก เมื่อเผชิญหน้ากับกองทหารรับจ้างที่แข็งแกร่งเหล่านี้ เธอสามารถถ่วงเวลาได้เท่านั้นคราวนี้พอดีพาพวกเขามารวมตัวกัน ทำให้พวกเขาค้นพบความสัมพันธ์ของตนเองกับนายน้อยหลิน ด้วยพลังของนายน้อยหลินในตอนนี้ พวกเขาไม่กล้าคิดอะไรกับตัวเองอีกแน่นอนยิ่งกว่านั้นสถานการณ์ของเธอตอนนี้ค่อนข้างแย่ อาศัยอยู่ในดินแดนแห่งความวุ่นวายมาหลายปีและต้องการจากไป หากเธอไม่เข้าร่วมกองกำลังบางอย่าง ก็จะไม่มีที่ยืนสำหรับเธอจะไม่มีใครยอมให้เธอซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่ในระดับกลางของรายการมังกร และคนที่ไม่ทราบที่มาเคลื่อนไหวอยู่ในเขตอำนาจของตน
หนึ่งอาทิตย์ผ่านไปอย่างรวดเร็วสัปดาห์นี้ หลินตงและบลูเดวิลเดินไปตามถนนและตรอกซอกซอยของเขตมั่นคงทุกวันพวกเขากำลังวิธีตกปลา ล่อลวงคนที่ไม่ประกอบอาชีพที่ถูกต้องให้ติดเบ็ด ทุกคนที่คิดว่าพวกเขาเป็นเหยื่อและต้องการปล้น จะถูกสั่งสอนอย่างรุนแรงจากบลูเดวิลมีสองคนกลุ่มในนั้นต้องการที่อยากปล้นข่มขืน ก็ถูกบลูเดวิลสังหารเลยทันทีในหนึ่งอาทิตย์มีคนสองคนที่โหดเหี้ยมปรากฏตัวในเขตมั่นคง ทำให้ทุกคนที่ทำอาชีพนี้ตกใจไม่เบาและไม่กล้าออกไปข้างนอกเลยสองวันหลังไม่มีคนติดกับอีกแล้ววันนี้เป็นวันที่ทุกคนจะมารวมตัวกันหลินตงนั่งอยู่บนที่นั่งหลักของห้องโถงของสถานที่ชุมนุมชั่วคราวของกองทหารรับจ้างเปลวไฟบลูเดวิลและเซียวพ่อจวินยืนอยู่ข้างหลังเขา สิ่งที่แตกต่างจากห้องโถงเมื่ออาทิตย์ที่แล้วมีเพียงสิบกว่าคนในห้องโถง ตอนนี้ห้องโถงเต็มไปด้วยผู้คนแล้วล้วนเป็นหัวหน้าของกองทหารรับจ้างทั้งใหญ่และเล็กต่าง ๆ ในดินแดนแห่งความวุ่นวาย พวกเขาส่วนใหญ่มาเพราะค่าตอบแทนที่สูง คนที่เข้าร่วมเปลวไฟจริง ๆ มีไม่มากมีเพียงทีมเล็ก ๆ ของหลัวซาและกองทหารรับจ้างแบล็ควอเตอร์ และทหารรับจ้างที่กระจัดกระจายอยู่บางส่วนแต่ความแข็งแกร
ไป๋หลี่เหยียนหงไม่สามารถอธิบายได้ว่า ทำไมหลินตงถึงยังไม่สะทกสะท้าน จึงหันไปมองตัวละครหลักในเรื่องนี้แล้วพูด: "น้องซีเยว่ เธออยากไปกับฉันไหม?""ฉันจะฟังหลินตง!" หวงฝู่ซีเยว่ตอบไป๋หลี่เหยียนหงพูดไม่ออกอยู่ครู่หนึ่งและคิดสักครู่ก่อนจะพูดว่า "น้องซีเยว่! หลินตงได้เข้าสู่อาณาจักรนิรันดรและมีอายุยืนยาวไม่สิ้นสุด ตราบใดที่เขาไม่พบศัตรูที่แข็งแกร่งกว่าเขา เขาก็แทบจะอยู่ยงคงกระพัน แต่เธอไม่ใช่ หากไม่ได้เข้าสู่อาณาจักรนิรันดร สามพันปีคือขีดจำกัด และผู้คนจะค่อยๆ เสื่อมถอยและแก่ชราลงตามกาลเวลา อย่างไรก็ตาม หลินตงสามารถรักษาความเยาว์วัยเอาไว้ได้ตลอดไป เธอยอมรับได้ไหมว่า ภายในหนึ่งหรือสองพันปี คู่รักจะกลายเป็นปู่ย่าตายาย"นี่ไม่เพียงแต่เป็นสิ่งที่หวงฝู่ซีเยว่ไม่ต้องการเผชิญ แต่ยังเป็นสิ่งที่ยุนซี จ้าวซวน และคนอื่นๆ ไม่ต้องการเผชิญด้วยพวกเธอทั้งหมดจะแก่ในอนาคตหลินตงสามารถรักษารูปลักษณ์ปัจจุบันของเขาเอาไว้ได้เมื่อเดินเคียงข้างเขา ผู้คนจะคิดว่าพวกเขาอยู่คนละรุ่นกัน“ฉันไม่สนใจ! ไม่ว่าพวกเธอจะเปลี่ยนไปอย่างไร ฉันจะอยู่กับพวกเธอจนถึงวินาทีสุดท้าย” หลินตงกล่าวอย่างหนักแน่นอย่างไรก็ตาม ไป๋หลี่
อีกไม่กี่ร้อยปีข้างหน้า คนในหมู่พวกเธอคงเหลือแค่หลินตงและหวงฝู่ซีเยว่เท่านั้น!เมื่อถึงเวลานั้น ทั้งสองคนก็คงสามารถสำรวจจักรวาลร่วมกันได้อย่างสบายใจไร้กังวล"ซีเยว่เป็นเพียงผู้หญิงที่เกิดมาในอารยธรรมระดับต่ำ เธอจะทำให้ผู้บังคับใช้กฎหมายจักรวาลอย่างพี่หงเห็นคุณค่ามากขนาดนั้นได้อย่างไร?"หลินตงไม่หวั่นไหวกับคำพูดของไป๋หลี่เหยียนหงได้ง่ายๆหากไป๋หลี่เหยียนหงต้องการพาตัวหวงฝู่ซีเยว่ไปต้องแจ้งให้เขาทราบอย่างชัดเจนว่าทำไมมิฉะนั้นหลินตงจะไม่เห็นด้วยอย่าไว้ใจใครง่าย ๆ ต้องรู้จักระวังตัวไม่สามารถไว้วางใจใครซักคนที่เพิ่งพบเจอเพียงเพราะคำพูดไม่กี่คำแม้ว่าตอนนี้เขาจะได้สนทนาอย่างดีกับเฉินจิงจื่อหานแล้ว หลินตงก็จะไม่ไว้วางใจเขาอย่างเต็มที่ความไว้วางใจระหว่างผู้คนต้องสร้างขึ้นจากปฏิสัมพันธ์ที่สะสมมาเป็นเวลานาน"คุณคิดว่าฉันกำลังโกหกคุณอยู่หรือเปล่า?" ไป๋หลี่เหยียนหงถาม"ฉันรู้สึกสับสนนิดหน่อยเท่านั้น" หลินตงตอบ"คุณพูดไปแล้วว่าน้องซีเยว่เกิดมาในอารยธรรมระดับต่ำ ในขณะที่ฉันเป็นผู้บังคับใช้กฎหมายจักรวาลที่เหนือกว่า แล้วมีเหตุผลอะไรให้ฉันหลอกลวงเธอได้ล่ะ ส่วนเหตุผลที่แท้จริง ฉันยังบอ
แววตาของหวงฝู่ซีเยว่เต็มไปด้วยคำถาม หลินตงเองก็รับรู้ได้เป็นอย่างดีเมื่อพิจารณาจากตำแหน่งของคนทั้งหกคนนี้ในแถว ไม่มีข้อสงสัยเลยว่าเฉินจิงจื่อหานและหญิงงามวัยกลางคนที่อยู่แถวหน้ามีสถานะสูงสุดและเฉินจิงจื่อหานยังเรียกอีกฝ่ายว่าป้าหงด้วยเห็นได้ชัดว่าหญิงวัยกลางคนมีศักดิ์อาวุโสกว่าดังนั้นหญิงงามผู้เปี่ยมด้วยรัศมีเย้ายวนใจคนนี้คือผู้นำ?แล้วเหตุใดตอนนี้เธอถึงต้องการรับหวงฝูซียวี่เป็นลูกศิษย์ มีอะไรแอบแฝงหรือไม่?จริงหรือโกหกกันแน่?ความคิดของหลินตงก็เหมือนกับของหวงฝู่ซีเยว่หากอีกฝ่ายเป็นผู้ชายไม่ว่าหวงฝู่ซีเยว่จะตอบรับหรือไม่ หลินตงก็จะปฏิเสธโดยไม่ลังเลแต่ผู้หญิงคนนี้มีเสน่ห์มากกว่าหวงฝู่ซีเยว่ และหลินตงก็เข้าใจได้ยากเล็กน้อยหากอีกฝ่ายต้องการรับหวงฝู่ซีเยว่เป็นศิษย์อย่างจริงใจ หลินตงก็ย่อมเห็นด้วยอย่างแน่นอนปีต่อๆ ไปนั้นทั้งเหงาและเดียวดาย หากมีใครสักคนที่คุ้นเคยอยู่ข้างๆ ก็คงจะดีไม่น้อยหลินตงหวังว่ายุนซีและคนเหล่านี้จะสามารถทะลุทะล่วงไปสู่อาณาจักรนิรันดร เป็นอมตะเหมือนเขา และเดินเคียงข้างกันตลอดไปน่าเสียดายที่เขารู้ว่าความปรารถนานี้ยากเกินไปที่จะบรรลุอาณาจักรนิรั
และไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆแม้ว่าพรสวรรค์จะดี แต่ก็ไม่คุ้มที่จะพิจารณาเมื่อเทียบกับอัจฉริยะที่เคยต้องการสั่งสอนจากไป๋หลี่เหยียนหงแต่เนื่องจากไป๋หลี่เหยียนหงเป็นฝ่ายต้องการรับศิษย์ต้องมีบางอย่างที่เขาไม่รู้เป็นแน่สำหรับเรื่องที่ว่ามันคืออะไร!เฉินจิงจื่อหานก็ไม่รู้เช่นกันดูเหมือนว่าวิชาดวงตาจักรวาลของตนเอง ยังต้องพัฒนาอีกเยอะ!เขาต้องฝึกฝนต่อไปอย่างหนักเมื่อกลับไป"เอ๋???"หวงฝู่ซีเยว่ตกตะลึงไปชั่วขณะเกิดอะไรขึ้น?ทำไมผู้หญิงสวยคนนี้ถึงต้องการพาเธอไป?เพื่อดูโลกภายนอก?คำพูดแบบนี้เหมือนกับหลอกเด็กถ้าอีกฝ่ายเป็นผู้ชายหวงฝู่ซีเยว่ก็ยังพอคิดได้เพราะยังไง เธอเคยเจอผู้ชายหลายคนที่หลงใหลในความงามของเธอแต่คราวนี้อีกฝ่ายเป็นผู้หญิงที่สวยงามอย่างน่าทึ่ง ซึ่งแผ่รัศมีแห่งความเย้ายวนยิ่งไปกว่านั้นหวงฝู่ซีเยว่รู้สึกว่าอีกฝ่ายน่าดึงดูดใจกว่าตัวเธอเองเพียงแค่ดูท่าทางที่หลงใหลของผู้ชายบนโลกที่อยู่รายล้อมก็ชัดเจนแล้วตั้งแต่วินาทีที่ผู้หญิงคนนี้ปรากฏตัว พวกเขาก็หลงใหลจนโงหัวไม่ขึ้นมีเพียงไม่กี่คนที่ไม่ได้รับผลกระทบคนที่ไม่ได้รับผลกระทบเหล่านี้ ยกเว้นคนหนุ่มอย่างหลินตง ส่วน
"ยากไป! แต่ตอนนี้ฉันยังไปไม่ได้! บางทีฉันอาจจะออกไปดูในอนาคต แต่ไม่ใช่ตอนนี้!" หลินตงส่ายหัวและพูด"นาย...เฮ้อ! หลินตง พูดตามตรง ฉันชื่นชมนายมาก ฉันไม่อยากเห็นนายเสียเวลาในที่เล็กๆ แห่งนี้ ตอนนี้ถึงเวลาที่นายต้องทุ่มสุดตัวและไล่ตาม ไม่อย่างนั้นช่องว่างระหว่างนายกับคนพวกนั้นก็จะยิ่งกว้างไปเรื่อยๆ หากนายไม่ไล่ตามตอนนี้ ช่องว่างนั้นอาจไม่มีวันตามทันได้""ฉันรู้! แต่ฉันไม่สนใจ! ทุกคนต่างก็มีสิ่งที่มีค่าในใจ และหากนั่นไม่ใช่เป้าหมายของฉัน พี่เฉินก็ไม่จำเป็นต้องแนะนำอีกต่อไป"ทำไมนายถึงไม่เข้าใจ ทำไมนายต้องดื้อรั้นขนาดนั้น?" เฉินจิงจื่อหานพูดอย่างหมดหนทางบรรยากาศโดนรอบก็เงียบลงทุกอย่างที่ต้องพูดได้ถูกพูดไปแล้ว และเฉินจิงจื่อหานไม่รู้ว่าจะชักชวนหลินตงออกไปจากที่นี่ได้อย่างไรเขาได้ลดศักดิ์ศรีของตัวเองลงแต่หลินตงไม่ได้รู้สึกอะไรเลยถ้าเป็นคนอื่น เขาคงไม่เสียเวลาพูดไปมากมายขนาดนี้แน่เหตุผลที่หลินตงพยายามอย่างหนัก เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของเขาคือเพื่อปกป้องบ้านเกิดเมืองนอนและคนที่เขารักเขาจะไม่จากโลกนี้ไปอย่างแน่นอนส่วนการพายุนซีและพวกเธอไปด้วยกันถ้าเป็นแบบนั้น มีปัจจัยที่ไม่แ
คนอย่างหลินตงที่เกิดมาในอารยธรรมระดับต่ำ จะได้รับอนุญาตให้เรียกเขาว่าพี่เฉินได้อย่างไร?นี่ไม่ใช่การดูหมิ่นเขาหรือ?ตอนนี้เฉินจิงจื่อหานต้องการล่อหลินตงให้ออกจากกาแล็กซีทางช้างเผือก แล้วหาทางชักชวนให้เข้าร่วมสำนักเทียนซิงนี่อาจถือเป็นการคัดเลือกบุคคลที่มีศักยภาพสำหรับสำนักเทียนซิง ซึ่งอาจมีประโยชน์ในอนาคต"หลินตง! นายไม่คิดจะก้าวออกจากกาแล็กซีเล็กๆ แห่งนี้และออกสำรวจโลกภายนอกจริงๆ เหรอ?""พี่เฉิน! ตอนนี้ฉันไม่มีความคิดนั้นจริงๆ แม้ว่ากาแล็กซีทางช้างเผือกจะเป็นเพียงอารยธรรมระดับต่ำ แต่ที่นี่คือบ้านเกิดของฉัน มีทั้งครอบครัว เพื่อนและสิ่งที่ฉันห่วงใยอยู่ที่นี่ ดังนั้นฉันจะไม่จากที่นี่ไปในตอนนี้"หลินตงไม่ได้พูดในสิ่งที่คิด และไม่ได้บอกว่าจะไม่ออกจากกาแล็กซีทางช้างเผือกเด็ดขาดหลังจากเข้าสู่อาณาจักรนิรันดรและรู้แจ้งแล้ว หลินตงก็รู้ว่าเขาแตกต่างจากคนธรรมดาโดยสิ้นเชิงความแตกต่างที่ง่ายที่สุดคืออายุขัยของคนธรรมดามีจำกัด ในขณะที่อายุขัยของอาณาจักรนิรันดรนั้นไม่มีที่สิ้นสุดแม้แต่อาณาจักรนิรันดรครึ่งขั้นอย่างองค์จักรพรรดิเซี่ยอวิ๋นชวน ตราบใดที่ไม่อาจก้าวข้ามไปได้ อายุขัยของเขาก็ยังคง
หลินตงและเฉินจิงจื่อหานพูดคุยกันอย่างถูกคอแม้ว่าบางครั้งเฉินจิงจื่อหานจะรู้สึกว่า ความไม่รู้ของหลินตงเป็นเรื่องตลก แต่เขาก็ยังคงอธิบายอย่างอดทนแค่นี้ก็อธิบายทุกอย่างได้แล้วเฉินจิงจื่อหานไม่ใช่แค่ผู้ผู้บังคับใช้กฎหมายจักรวาลระดับสูงเท่านั้น จุดเริ่มต้นของเขานั้นยิ่งใหญ่ จนทำให้คนมากมายหมดหวังตั้งแต่ยังไม่เริ่มนี่คือชายผู้เกิดมาบนยอดปิรามิดการเติบโตในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ ทำให้เขากลายเป็นคนที่เย่อหยิ่งและมองคนอื่นต่ำกว่าตัวเองแต่สำหรับหลินตง ผู้เกิดมาในอารยธรรมระดับต่ำ เฉินจิงจื่อหานกลับให้ความสำคัญกับเขามากคนใช้สาวสวยทั้งสี่คนข้างหลังเขาเอง ก็ยังประหลาดใจคนหนึ่งอยู่บนยอดปิรามิดแห่งอารยธรรมระดับสูง ในขณะที่อีกคนเกิดมาในอารยธรรมชั้นล่างช่องว่างระหว่างทั้งสองคน กว้างเกินกว่าที่จะเปรียบเป็นเพียงฟ้ากับเหวมันไม่มีอะไรเทียบได้เลยแต่ทั้งสองกลับรู้สึกถูกชะตากันตั้งแต่แรกพบต้องเข้าใจว่า คนระดับนายน้อยของเรา ต่อให้เป็นอัจฉริยะจากอารยธรรมระดับสูงส่งแค่ไหน เขาก็ไม่เคยเห็นหัว เพราะฐานะของเขาที่สูงส่งนั้น เพียงพอที่จะไม่จำเป็นต้องใส่ใจแต่กับหลินตง นายน้อยกลับดูเป็นกันเองขึ้นเล็ก
ในขณะเดียวกัน ก็เป็นทูตปกป้องสันติภาพแห่งจักรวาลตัวตนประเภทนี้ไม่ควรเป็นศัตรู และคงไม่มีเจตนาใดต่อโลกใบนี้"ที่แท้พวกก็เป็นผู้บังคับใช้กฎหมายจักรวาล ยินดีที่ได้พบ ฉันชื่อหลินตง เจ้าแห่งกาแล็กซีทางช้างเผือก" หลินตงพูดอย่างสุภาพ"หลินตง นี่คือดาวบ้านเกิดของนายเหรอ?" เฉินจิงจื่อหานถาม"ใช่!!!" หลินตงตอบอย่างหนักแน่น"ฉันค่อนข้างสงสัยนะ! ดาวเคราะห์เล็กๆ แบบนั้นจะสร้างคนอย่างนายได้ยังไง ดูจากอายุของนายแล้ว คงไม่น่าจะแก่ขนาดนั้นใช่มั้ย!""ตัวตนที่ยิ่งใหญ่ไม่จำเป็นต้องมีชาติกำเนิดสูงส่ง! ใครตั้งกฏเอาไว้ว่า โลกไม่สามารถสร้างตัวตนที่ยิ่งใหญ่ได้?""ฮ่าๆ... พูดได้ดี พูดได้ดี! ตัวตนที่ยิ่งใหญ่ไม่จำเป็นต้องมีชาติกำเนิดสูงส่ง หลินตง แค่ประโยคนี้เท่านั้น ฉัน เฉินจิงจื่อหานก็ยอมรับนายแล้ว!" เฉินจิงจื่อหานหัวเราะอย่างสนุกสนาน“พี่เฉิน คุณใจดีเกินไป ฉันแค่พูดความจริงเท่านั้น คนเราไม่สามารถเลือกชาติกำเนิดได้ แต่สามารถเลือกเส้นทางชีวิตตัวเองได้”“หลินตง! หากนายพูดแบบนี้แถวบ้านฉันนะ หลายคนคงหัวเราะเยาะนายแล้ว แต่ฉันแตกต่างออกไป ฉันคิดว่าคำพูดของนายมีเหตุมีผล ฉันถือว่านายเป็นเพื่อนของฉันแล้ว ฉันเช
ในขณะนี้หลินตงและชาวโลกคนอื่นๆ เห็นจุดสีดำในดวงตาของพวกเขาภายในเวลาไม่กี่วินาที จุดสีดำนั้นก็เปลี่ยนเป็นเต่าขนาดใหญ่และบินเข้ามาบนท้องฟ้านี่คือ???เต่า???ซ่งซือหมินและปรมาจารย์ทรงพลังของโลกต่างก็ตกตะลึงเต่าตัวนี้ใหญ่เกินไปจริงๆใหญ่เกินกว่าจะจินตนาการได้สิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่เช่นนี้จะมีอยู่ได้อย่างไร?และแรงกดดันที่เต่าตัวนี้สร้างให้กับพวกเขาก็น่ากลัวเช่นกันหลินตงมองดูเต่าตัวใหญ่บนท้องฟ้านี่คือตัวตนที่เขาสัมผัสได้ก่อนหน้านี้อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ดูเหมือนจะไม่ปกติสักเท่าไรที่แท้เจ้าหมอนี่ก็ไม่ใช่ตัวจริงสถานการณ์นี้อาจซับซ้อนกว่าที่เขาคิดในตอนแรกระหว่างที่เต่าตัวใหญ่กำลังลงมา ร่างกายของมันค่อยๆ หดตัวลงและในที่สุดก็กลับคืนสู่ขนาดปกติไป๋หลี่เหยียนหงเก็บตำหนักบนหลังเต่ายักษ์มาไว้ในมือเรียบร้อยแล้วกระบวนการทั้งหมดรวดเร็วมากซ่งซือหมินและคนอื่นๆ รู้สึกเพียงชั่วพริบตาเต่าตัวใหญ่หายไป มีชายคนหนึ่ง หญิงห้าคน และคนหกคนก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าชายคนนั้นคือเฉินจิงจื่อหานหญิงห้าคน หนึ่งในนั้นมีรูปลักษณ์ของสาววัยกลางคน และนั่นก็คือไป๋หลี่เหยียนหงอีกสี่คนที่ยืนอยู่ด้านหลั