กายสาวสั่นระริก ยามถูกดุ้นยักษ์กระแทกอย่างไร้ความปราณี เลือดสาวหลั่งรินผสมกับน้ำสวาท อาบท่วมดุ้นงามสุดแข็งแกร่งที่เธอโหยหามาตลอดเธอตกเป็นของเขาแล้ว ทั้งร่างกายและวิญญาณ“ข้าเป็นเมียท่านแล้ว อ่า...”“คุณรักผมมานานแล้วใช่มั้ย”“ใช่ ตั้งแต่แรกพบ”“วันที่ผมหลงเข้ามาในถ้ำนี้นะเหรอ”“อืม...ท่านงดงามเหลือเกินนาเคนทร์ หากไม่ใช่เพราะพี่สาวของข้า...”เธอพูดไม่ทันจบก็หลับตาลง อิ่มเอมกับบทสวาทที่เขายังละเล็งไม่หยุดหย่อนยอดดุ้นสุดดุดันที่กระทุ้งกระแทกถี่ยิบ ทำให้เนื้อเนินของเธอแทบจะปลิ้นออกมาแล้ว“โอย...คุณรัดผมซะแน่นเลย” เขาก้มลงไปดูตรงจุดเชื่อมต่อ ก็ได้เห็นคราบเลือดที่อาบท่อนเนื้อของเขาอยู่ “เฮ๊ย ของคุณฉีกเหรอ...เจ็บมั้ย”“เจ็บสิ...แต่ข้ามีความสุขมาก ท่านทำต่อได้เลย ปล่อยน้ำอุ่น ๆ ของท่านใส่ในกายข้า ทำให้ข้าเป็นของท่านอย่างเต็มตัวเถอะ”เมื่อเธอเชิญชวนเสียขนาดนี้ เขาก็คงไม่รั้งรออีก กดบั้นท้ายอย่างแรงเพื่อให้ดุ้นฝังตัวเต็มลำ“อ๊า...” จากนั้นก็ปั่นถี่ยิบ ชักเข้าชักออกจนน้ำจากภายในกระฉอกออกมาจนแฉะ“โอ๊ว...ไม่ไหวแล้ว...อ่า...ผมจะ...อึ๊บ...” ในที่สุด เขาก็เสร็จในกายเธอ“ผมเสร็จแล้ว...” เขาหน้าบิดเบ
“ก็...” เธออ้าปากหวอ “นายก็รู้ว่าฉันมีใจให้นาย”“แล้วไง”“แล้วไงเหรอ...ไม่มีผู้ชายคนไหนในเมืองนี้ปฏิเสธฉัน”เพราะผกาแก้วเป็นหญิงสาวที่สวยที่สุดในเมืองนี้ แถมยังรวยที่สุดเลยก็ว่าได้เธอเป็นบุตรสาวคนเดียวของวันวิสาและชาญวุฒิ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของมารดาและบิดาของเขานั่นเอง “และฉันรู้ว่านายเองก็สนใจฉันเหมือนกัน”“เธอเข้าใจผิดแล้ว เราไม่เคยคิดกับเธอเกินน้องสาว ไม่เคยคิดที่จะจีบเธอเลยสักครั้ง”“นี่นาย!!!”“เราต้องขอโทษด้วยนะ ถ้าเผลอทำอะไรให้เธอเข้าใจผิด แต่แน่ใจไว้เถอะ ว่าเรื่องระหว่างเราไม่มีทางเป็นไปได้แน่”“มันจะมากไปแล้วนะ คอยดูนะฉันจะฟ้อง...”“น้าผึ้ง...” ชื่อมารดาของเขาเอง...แพรทองหรือผึ้ง หญิงสาวผู้กุมหัวใจนาคินทร์ พญางูผู้อยู่เหนืองูทั้งปวงในหุบเขาแถบนี้ “ฟ้องว่าไง ฟ้องเรื่องที่ฉันไม่เอาเธอเป็นเมียน่ะเหรอ”ผกาแก้วเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน โกรธก็โกรธ อายก็อาย อารมณ์นี้อยากจะมุดหายลงดินไปเลย แต่เพราะเธอเป็นแค่มนุษย์ธรรมดา ๆ ที่ยังพอมียางอายอยู่บ้าง จึงใช้วิธีวิ่งหนีไปราวกับนางเอกหนังอินเดียแต่มันต่างกันก็ตรงที่...พระเอกไม่ได้วิ่งตามไปน่ะสิ “เฮ้อ...หมดจากงูหื่นพวกนั้น ก็เป็นยัยนี่ หมด
เขาไม่เคยได้ข่าวคราวของเธออีกเลยนับแต่นั้น...“เฮ่อ...เธอหายไปอยู่ที่ไหนนะ...เราคิดถึงเธอเหลือเกิน ไม่รู้ว่าอีกกี่ปี เราถึงจะลืมเธอได้”เขาไม่เคยลืมเธอได้เลย ไม่เคยลืม ทุกค่ำคืนก็ยังคงฝันถึงเธอเสมอ...วารี...สายน้ำที่ไม่เคยไหลกลับ หญิงสาวตื่นขึ้นมาในตอนดึกเพราะความฝันบ้าบอคอแตกที่เคยฝันซ้ำแล้วซ้ำเล่า เธอมักจะฝันเรื่องเดิมนี้ในคืนพระจันทร์เต็มดวง ฝันมาตลอดหลายปี และนี่ก็เป็นอีกคืนที่เธอต้องผจญกับมัน“เอาอีกแล้ว...”เธอเหงื่อแตกซิก สั่นสะท้านไปทั้งตัวด้วยหวาดกลัวกับภาพอันน่าพรั่นพรึงเหล่านั้น“ฝันทุเรศอีกแล้วเหรอเรา”เธออกสั่นขวัญแขวน ก่อนก้าวลงจากเตียงแล้วเดินไปเปิดตู้เย็น หยิบขวดน้ำเปล่ามาเปิดดื่มอั่ก ๆ ราวกับกระหายจัด“เฮ้อ...ทำไมเรายังไม่ลืมไอ้บ้านั่นไปสักทีนะ” ผู้ชายที่เธอแอบรักมาตั้งแต่เด็ก และเคยหน้าด้านไปสารภาพรักกับเขา ตอนวันวาเลนไทน์ปีที่เรียนอยู่ ม.6เธอมอบดอกกุหลาบให้เขา แต่เขากลับปฏิเสธด้วยถ้อยคำรุนแรง‘ตัวแค่นี้หัดแรดซะแล้ว พ่อแม่ส่งมาเรียน ไม่ใช่ให้มาหาผู้ชาย...ตัดใจซะเถอะ มันเป็นไปไม่ได้หรอกวารี’‘ทำไมล่ะ’‘บอกว่าไม่ได้ก็ไม่ได้สิ เธอนี่น่ารำคาญจริง’‘อืม ฉันเข้าใจแล
เธอคงโง่มาก ที่ไม่ยอมตัดใจจากชายหนุ่มผู้เย็นชาไร้หัวใจคนนั้น ซึ่งเธอเองก็ไม่รู้ว่ามันเวรกรรมอะไรกันนักหนา“ป่านนี้เขาจะเป็นยังไงบ้างนะ แต่งงานไปกับใครแล้วหรือยัง มีลูกไปกี่คนแล้ว แล้ว...ยังจำฉันได้รึเปล่า”เธอเองก็ไม่เคยได้ยินข่าวคราวของเขาเลย เพราะตั้งใจปิดตัวเองจากสังคมเดิม ๆ เธออยากเริ่มต้นชีวิตใหม่อย่างจริงจัง จึงไม่เล่นโซเชี่ยลใด ๆ ทั้งสิ้น“เขาทำอะไรอยู่นะ และตอนนี้จะเปลี่ยนไปมากแค่ไหน ยังหล่อและสง่างามเหมือนเดิมรึเปล่า”ความจริง เธออดตื่นเต้นไม่ได้เหมือนกัน เมื่อคิดว่าจะได้เห็นหน้าเขาอีกครั้ง “ใช่...เราไม่ควรหนีอีกแล้ว เราต้องสู้กับความจริงสิ ไม่แน่ การได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง อาจจะทำให้ทุกอย่างจบลงแบบถาวรก็ได้”วารีขับรถเก๋งคันใหญ่ ซึ่งซื้อด้วยน้ำพักน้ำแรงของเธอเอง มุ่งสู่จังหวัดหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขงทางตอนเหนือที่แห่งนั้นเต็มไปด้วยภูเขาลูกเล็กใหญ่และป่าทึนทึบน่าเกรงขาม แต่กระนั้นก็เต็มไปด้วยเสน่ของผู้คน วัฒนธรรม และวิถีชีวิตบ้านเก่าของเธอตั้งอยู่ในเมือง อยู่ในเขตที่ไม่พลุกพล่านมากนัก เธอตั้งใจจะเปิดคลินิกรักษาสัตว์ที่บ้านของเธอเอง โดยจะใช้พื้นที่ชั้นล่างทั้งหมด
“เอา ๆ ...มาช่วยแล้วไง...คราวหลังก็ระวังตัวหน่อยสิ”เขาฟังงูตัวนั้นคำราม“อ้อ...ตกลงมาจากต้นไม้...”เขาว่าพลางก็อุ้มงูตัวใหญ่ เดินกลับมายังฝั่ง อย่างทุลักทุเล เมื่อถึงฝั่งก็วางงูตัวใหญ่ลงบนพื้นดินที่ฉ่ำแฉะ“จะไปไหนก็ไป...แต่อย่าไปในเขตที่มีคนอยู่นะ หาที่ซ่อนตามสุมทุมพุ่มไม้ไปก่อน แล้วพอน้ำลดก็ค่อยหาทางกลับเข้าป่า”งูสาวคำรามอีกครั้ง เขาถึงกับขมวดคิ้ว“ว่าไงนะ ได้รับบาดเจ็บ เดี๋ยวนะ” เขานั่งลงแล้วจับหางงูขึ้นมาดู ถึงได้เห็นบาดแผลใหญ่พอสมควร “โอ แผลยาวซะด้วยสิ สงสัยจะต้องเย็บ...”“งูเหลือมรึครับผู้กอง”พลทหารคมสัน...ลูกน้องคนสนิทของเขาเข้ามาถามไถ่“ใช่ ตกลงมาจากต้นไม้ที่แอ่งด้านบนโน่น แล้วถูกน้ำมันพัดมาถึงนี่ มีแผลใหญ่เลยนะ เดี๋ยวนายไปเตรียมเครื่องมือ...”“ผมว่าผู้กองพามันไปหาหมอที่คลินิกดีกว่าครับ มีคลินิกรักษาสัตว์เปิดใหม่ในเมือง ผมได้ข่าวมาว่าคุณหมอเจ้าของคลินิกสวยซะด้วย”“ที่ให้ไปหาหมอนี่ เพราะเก่ง หรือเพราะสวยวะ”“ก็ทั้งสองอย่างล่ะครับ”“ไม่เป็นไรหรอก เรื่องแค่นี้ผมจัดการเองได้”“โธ่ผู้กองครับ อาชีพใครอาชีพมันสิครับ นะครับ เราอยู่แต่ในป่าแบบนี้ ไม่ได้เจอสาว ๆ สวย ๆ เลยนะครับ เ
“ฮ๊า...มันวิ่งออกไปที่ถนนแล้วค่ะ”เธอชี้ออกไปด้วยความกระวนกระวายใจ เขาจึงวิ่งแซงเธอออกไปอย่างเร็ว ขณะรถเก๋งคันหนึ่งวิ่งมาพอดีชายหนุ่มกระโดดไปขวางรถไว้ ก่อนที่รถจะเหยียบเจ้าโกโก้แบบเฉียดฉิวเอี๊ยดดดดดดด...วารีมองเหตุการณ์ด้วยความระทึกและตะลึงงัน ก่อนจะวิ่งไปหาชายหนุ่มที่ช่วยชีวิตเจ้าโกโก้ไว้“อะ........”เขาอุ้มหมาขึ้นมาแล้วหันมาหาเธอ “เกือบตาย”“ขอบ...”เมื่อเธอได้เห็นใบหน้าของชายหนุ่มชัดเจน เธอถึงกับช็อคไปเลย เพราะเขาคือผู้ชายที่เธออยากจะลืมให้หมดใจนาเคนทร์ที่กลายเป็นหนุ่มแน่นในชุดทหารสุดเท่ หล่อเข้ม คมคร้าม และตัวโตกว่าเธอมาก...เธอจำแววตาเย็นชาของเขาได้ทันทีที่สบมอง แต่เขาจะจำเธอได้หรือเปล่า เธอไม่แน่ใจ“นี่หมาคุณ”“อ้อ...เปล่าหรอกค่ะ ของลูกค้า” เธอสูดลมหายใจเล็กน้อย เพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดในช่องท้องเธอรู้สึกตื่นเต้น เลือดลมสูบฉีดเมื่อได้เจอเขาอีกครั้ง กระทั่ง...แววตาและสีหน้าของชายหนุ่มตัวโตตรงหน้าบ่งบอกว่าจำเธอไม่ได้เลยสักนิดเดียว“เฮ๊ย!” กระจกรถเก๋งคันงามลดลง แล้วไอ้คนขับที่หน้าตาทะมึงทึงก็ยื่นออกมา “ไม่มีที่ยืนจีบกันรึไงวะ นี่บนถนนนะโว๊ย”“เออ กูรู้ว่าบนถนน” เขาตอบโต้ก
“อ๋อ...ค่ะ” เธอคว้าจับหางเจ้างูเหลือมแล้วพลิกดูแผลไปมาอย่างใช้ความคิด “คุณจับมันไว้นะคะ เดี๋ยวฉันไปเตรียมอุปกรณ์แป๊บ...”“เอ่อ...”เหมือนเขาจะพูดอะไร เธอหยุดและมองเขาอย่างมีคำถาม แต่เขากลับไกวมือไล่ให้เธอรีบไปหยิบของที่ว่านั่นแทนหญิงสาวคงไม่รู้ว่าเวลานี้ หัวใจเขาแทบวายแล้ว ทันทีที่รู้ว่าเธอคือเจ้าของอบอุ่นคลินิกและเป็นคุณหมอคนสวยที่ลูกน้องของเขาเอาไปร่ำลือกันหัวใจของนาเคนทร์เต้นไม่เป็นส่ำ หากหลุดจากอกได้ มันคงหลุดมาตั้งอยู่บนโต๊ะนี่เสียแล้วเขาทำอะไรไม่ถูกเมื่ออยู่ต่อหน้าหญิงสาว ก็เลยต้องทำสิ่งที่ถนัดที่สุด นั่นก็คือการเก๊ก ซึ่งเป็นการป้องกันตัวเองที่ได้ผลมาตลอดชีวิต เขารู้สึกร้อนรุ่มไปหมด ท้องไส้ปั่นป่วนราวกับมีพายุอยู่ข้างใน เลือดลมสูบฉีดพลุ่งพล่านและไม่แน่ใจตัวเองว่าเวลานี้ใบหน้าเข้ม ๆของเขาอาจแดงเรื่อด้วยความตื่นเต้นที่ไม่อาจระงับได้“คุณหมอไม่กลัวเหรอ”เขาสังเกตเธออยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถามขึ้น ขณะเธอกำลังเย็บแผลให้งูเหลือมอย่างตั้งใจ“กลัวทำไมคะ ถ้ากลัวฉันคงไม่เลือกเรียนด้านนี้หรอก”เขาแอบยิ้มนิด ๆ “อืม มันก็จริง”“เสร็จแล้วค่ะ”“เร็วดีจริง ถ้าผมทำเองคงใช้เวลากว่านี้เยอะ”เธอเง
ในค่ำคืนนี้ หญิงสาวเข้านอนด้วยหัวใจที่ร้อนลุ่ม ในสมองของเธอนั้นเต็มไปด้วยใบหน้า สายตาและเสียงของชายหนุ่ม มันทำให้เธอนอนไม่หลับนารีลุกออกมาเปิดหน้าต่าง เพื่อให้ลมเย็น ๆจากแม่น้ำโขงส่งความหวานเข้ามาถึงหัวใจเธอคืนนี้พระจันทร์เต็มดวงอีกครั้ง ส่องแสงสว่างไสวเต็มท้องฟ้า แต่เธอจ้องมองดวงจันทร์ดวงโตด้วยหัวใจที่ห่อเหี่ยว“ทำไมเราถึงลืมเขาไม่ได้นะ” เธอรู้สึกเหมือนตัวเองถูกสาปด้วยมนต์ดำที่แสนร้ายกาจ “ทำยังไงถึงจะลืมเขาได้นะ”ขณะกำลังทอดถอนใจอยู่นั้นเอง เธอก้มลงไปมองที่สนามผืนเล็กหน้าบ้าน แล้วก็ต้องตกใจตาเหลือกเมื่อได้เห็นงูขนาดใหญ่นอนชูคอโชว์แม่เบี้ยแผ่หราอยู่กลางสนามแสงจันทร์สาดส่องลำตัวของงูขนาดใหญ่ยาวราวสิบห้าเมตร มันกำลังจ้องมองขึ้นมายังหน้าต่างของเธอ“หือ...งูเห่าหรืองูจงอางล่ะนั่น ทำไมมันใหญ่อย่างนี้”เมื่อเห็นทีแรก เธอตกใจอยู่ แต่พอตั้งสติได้ เธอกลับใจเย็นลง และคิดว่าจะทำยังไงต่อหากเธอไล่มันออกจากบ้านไป ก็อาจเป็นอันตรายกับคนอื่น และหากเธอแจ้งไปยังอาสาสมัคร“โอ๊ย ดึกขนาดนี้แล้ว เกรงใจเขา หรือว่า...โทรไป...”หรือว่าเธอจะลองโทรไปที่เบอร์ของหน่วยทหารลาดตระเวนดู...“แต่เขาคงไม่มาหรอก...
ชายหนุ่มเร่งเร้า เหงื่อโทรมกาย อวัยวะภายในปั่นป่วนไปหมด เลือดลมสูบฉีกคุคลั่ง ท่อนลำกำแดงแทบจะแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ“อ๊า...โอว...” เขาเกือบจะระเบิดน้ำคาวออกมาแล้ว หากกดกำหนัดได้ดีขึ้น จึงรีบถอนดุ้นเนื้อออกจากรูเสียว แล้วเปลี่ยนให้เธอนั่งในท่าสุนัขแทนก่อนจะสอดใส่อีกครั้ง เขาใช้นิ้วถูร่องและรูฉ่ำของเธอไปสองสามรอบ ถึงจะใช้สามนิ้วสอดเข้ารูแล้วละเล็งถี่ยิบจนแก้มก้นแดงเรื่อของเธอกระเพื่อมไหว“อ๊า...อ๊า...อ๊า...” เธอร้องครางเสียงหลง ตอนที่น้ำอีกชุดของเธอพุ่งออกมาพรมนิ้วของเขา“อึ๊บ...อ๊า” เขานำหัวแดงเข้าจ่อปากรูแล้วกะสะโพกแทงพรวดเข้าไปจมลึก ชิดผนังถ้ำ เธอสะดุ้งเล็ก ๆ แก้มก้นสั่นพร่ายามถูกฝ่ามือของเขาตบตีแรง ๆ“โอ๊ย...อะ...อะ...อะ” เขากระแทกซ้ำ ๆ กระทุ้งถี่ ๆ ย้ำซ้ายทีขวาทีไม่หยุดหย่อน เธอร้องครางเสียว ๆ ไม่หยุดปากเขาใช้ฝ่ามือจับก้นแน่นเธอไว้มือหนึ่ง ส่วนอีกมือล้วงไปบีบนมที่ห้องโตงเตงหวัดแกว่งเวลาผ่านไปครู่ใหญ่ ร่างกายของทั้งคู่ก็ถึงคราวปั่นป่วน ความสยิวซ่านเเล่นลามไปทั่วตัว ขนลุกขนชันในทุกอณูเนื้อ ก่อนราคะจะแผดเผามอดไหม้“อ๊า...โอ๊ะ!” เขาเร่งระรัวจนก้นส่ายระริก ก่อนจะหยุดนิ่งค้างคาแนบแน่น ทั้
“อ๊า...เสียวอูย...ตรงนั้นแหละ อ๋อย...ตรงนั้น อื้อ...น้ำจะมาแล้ว อ๊า...น้ำจะแตกแล้วที่รัก”เมื่อเธอส่งสัญญาณ เขาก็ยิ่งเร่งมือ ไม่นานนัก น้ำคาวหวานของเธอก็พุ่งพรวดออกมาจนเต็มนิ้วมือของเขา“โอ๊ะ...อ๊า...อูยยย...ทำไมมันดีอย่างนี้ คุณเก่งจังเลยที่รัก...ฉันรักคุณจัง”เขานั่งยองลงแล้วมุดหน้าเข้าไปหาซอกขาที่อ้าเปิดของเธอ แลบลิ้นออกมาแล้วกวาดเลียน้ำหวานบนเนินและรูเสียวจนเกลี้ยงเกลาเมื่อเขายืนขึ้น เธอคว้าใบหน้าเขามาดูดลิ้นอย่างดูดดื่มลืมตาย ก่อนจะผละออก แล้วเลียใบหน้าหล่อเหลาจนทั่วทั้งใบหน้า ก่อนจะเลื่อนลงมาตามต้นคอ“อือ...วา...วารี...โอว...” เขาครางกระเส่า ยามเจ้าหล่อนตวัดลิ้นเลียหัวนมของเขาอย่างเชื่องช้า เขาขนลุกขนชันไปหมด ไม่เคยรู้สึกเร้าใจเท่านี้มาก่อนเธอเลียและดูดหัวนมของเขาทั้งสองข้างจนหนำใจ ก่อนจะเลียผ่านซิกแพคงดงามของเขาลงมาระเรื่อย“โอว...วารี...อืม” เขาเลียริมฝีปากของตัวเอง เพื่อคลายกำหนัดที่กำลังพลุ่งพล่าน เขาลูบไล้เส้นผมดุจแพรไหมของหญิงสาวอย่างรักใคร่เอ็นดู“ง่ำ...ขอกัดนะที่รัก” เธอเลียไรขนรก ๆ เหนือเนินเหน่าของเขา เลียจนเปียกชุ่ม ก่อนคว้าจับลำยักษ์ที่กำลังชูชันคั่งเลือด มันคงอยาก
“งั้นมาลองดูกันมั้ยล่ะ” ลมหายใจของทั้งคู่ที่ประสานร่วมกัน มันยิ่งกว่าฟีราโมนแห่งความสุข มันเต็มไปด้วยเสน่หา ความคลั่งไคล้และความลุ่มหลงสายตาของเขา กลิ่นกายของเขา ไรขนของเขา ผิวเนื้อของเขาที่เธอกำลังสัมผัส หรือแม้แต่กลิ่นคาวเลือดจากรอยแผลของเขาเธออยากจะมอบทั้งร่างกายและวิญญาณให้เขาเสียเดี๋ยวนี้ เธอลูบไล้ใบหน้าของเขาแผ่วเบา ไล้นิ้วชี้ตั้งแต่หน้าผาก สันจมูก จนลงมาถึงริมฝีปาก“อยากกัดฉันมั้ย”ใบหน้าหล่อแดงก่ำไปด้วยไฟราคะที่ลุกโชน เขาอยากจะขย้ำและกัดกลืนเธอเสียเดี๋ยวนี้เลย“อยากสิ...” เขาพูดจบก็ก้มเข้าหาริมฝีปากสวยซึ่งเผยอยื่นยั่วไม่ห่าง ริมฝีปากอุ่นประกบแน่น พร้อมกระแทกกระทั้นทันทีไม่ให้เสียเวลาเธอจูบตอบเขาอย่างดูดดื่ม ดึงเคล้นดูดลิ้นเขาอย่างกระหาย ถอดแจ๊กเก็ตยีนของตัวเองทิ้ง แล้วกลับมาจับใบหน้าของเขาไว้เพื่อให้เขาตรึงกับเธอทุกวินาที“อืม...” เธอมีความสุขเหลือเกิน มันสุขจนล้น สุขกว่าครั้งไหน ๆ และยิ่งรู้สึกดีเมื่อได้เป็นมนุษย์คนแรกที่รู้ความลับของเขา หากย้อนเวลากลับไปได้ เธอคงไม่หนีไปไหนเธอจะอยู่ที่นี่ เพื่อโอบกอดเขาไว้และรักเขาให้สุดหัวใจอย่างที่เขาเองก็รักเธอเท่าชีวิตลิ้นอุ่นของเขา
“ก็ยุ่งกับคู่หมั้นคนอื่นไง”วารีหัวเราะคิก เขาทำเหมือนหึง “แผลที่โดนงูกัดเป็นไงบ้างคะ”“หายแล้ว”“ขอดูหน่อยสิ”“อย่าเลย” แต่เธอไม่ฟัง ยังไงเธอจะต้องดูแผลที่ตัวเขาให้ได้ เธอกระโจนเข้าไปจับตัวเขาไว้ แล้วพยายามจะเปิดเสื้อเข้าออก “นี่คุณ!”ก่อนจะโดนเข้าด่า เธอจัดการจูบเขาซะ จูบดูดดื่มจนเขาเคลิ้มไปหลายอึดใจ มือไม้ของเธอก็อยู่ไม่สุก รุกเร้าไปตามแผงอกและแผ่นหลัง เลื้อยต่ำลงไปจนถึงก้นแน่น ๆ“อือ...” เธอกระตุ้นไฟราคะของเขาอย่างจงใจ เพื่อจะให้เขาลืมป้องกันตัวเอง“อูว...” จูบกันจนหนำใจ เขาก็ฉกลิ้นเธอมาดูดอย่างโหยหา หากไม่ติดว่ายังอยู่ตรงหน้าระเบียงบ้าน เขาคงล้วงเข้าไปหาเนินอิ่มที่แสนน่ารักนั่นแล้ว“อุ๊ย...” ในที่สุด มือของเธอก็คลำเจอแผลที่ข้างสะเอวของเขา เธอผละจากริมฝีปากร้อนแรง แล้วก้มมองที่มือตัวเองซึ่งมีเลือดติดมาด้วย “คุณมีแผลนี่คะ”เขาตกใจตาเหลือก ก่อนจะรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติที่สุดเท่าที่จะทำได้“อ๋อ...ก็...พอดี”“คุณถูกยิงใช่มั้ยคะ”เขาหน้าชาเล็กน้อย “แค่ถลอกน่ะ ผมเพิ่งปะทะกับพวกโจรลักลอบตัดไม้ในป่า...”“ในป่าจริงๆ หรือคะ” เธอพยายามจ้องหน้าเขาเพื่อจับผิด เขาพยายามหลบตาอย่างคนร้ายที่ไม่ยอ
“ห๊า...เฮ๊ย...มึงอีกแล้วเหรอวะ มึงจะจองเวรจองกรรมกูไปถึงไหนห๊า” เขาตะโกนลั่น ดวงตาถลึงโปน ก่อนจะวิ่งไปหยิบปืนออกมาถือไว้“คราวนี้มึงไม่รอดแน่ กูยิงมึงไส้แตกแน่ ไป! ชิ่ว!”ขาดคำนั้น วารีลืมตาพรึ่บ เธอหันไปเห็นงูที่นอนชูคออยู่หน้าห้องน้ำ ก็ตกใจ“แทน...อย่ายิงนะ”“ไม่ได้ ผมจะเอามันให้ตายเลย” แล้วเขาก็กระหน่ำยิงไปหลายนัด...ยิง ๆ ๆ ๆ จนกระสุนหมด“กรี๊ดดดดดด” เธอปิดหน้าอุดหูด้วยความกลัวและตกใจ หากคิดว่างูตัวนั้นคงตายเสียแล้ว“หา...นี่มึงยังไม่ยอมตายหรือวะ” แทนชัยตาเหลือก ทิ้งปืนลงบนพื้นวารีเงยหน้าขึ้นมาหายใจหายคอ หันไปมองงูที่ยังอยู่ในสภาพปกติ แม้มีเลือดไหลอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้ระคายผิวมัน มันขู่ฟ่อ ก่อนจะเลื้อยอย่างเร็วเข้าไปหาแทนชัย แล้วฉกเข้าที่ขาอย่างแรง“เฮ๊ย...อ๊ากกกกก” แทนชัยกรีดร้อง ก่อนสะบัดงูออกจากขา แล้ววิ่งโกยแน่บออกจากห้องไปนาทีต่อมา เธอได้ยินเสียงติดเครื่องรถยนต์ ก่อนจะเป็นเสียงรถที่ขับออกจากหน้าบ้านไปอย่างเร็ว“เอ่อ...อะไรกันเนี่ย” เธอตั้งสิได้ ก็ลงจากเตียง เธอไม่รู้ว่าสิ่งแรกที่ต้องทำคืออะไร แต่... “งู...แกถูกยิงใช่มั้ย”เธอรู้ในวินาทีต่อมาว่าควรจะช่วยงูตัวนั้นก่อน เธอเดิน
แววตาของเขากร้าวขึ้น นั่นเพราะเสียงเตือนของนรคีที่บอกว่ามนุษย์สาวไม่มีทางยอมรับได้ ขอให้เขากลับไปหาพวกเธอสองพี่น้องเสียดีกว่า“ใช่...เราอย่าเจอกันอีกเลยวารี” เขาขบกรามแน่น ตัดสินใจพูดในสิ่งที่ควรจะเป็นวารีนิ่วหน้าด้วยความตกใจ “หมายความว่าไง”“เรื่องเมื่อคืนมันเป็นเรื่องสุดวิสัย ผมขอโทษด้วยจริง ๆ ถ้ามันทำให้คุณคิดมาก แต่เราหยุดกันแค่นี้เถอะ”หญิงสาวได้แต่อึ้ง เพราะคิดว่าเขาเริ่มอ่อนลงแล้ว เขาอาจนึกชอบเธอจึงตามไปช่วยเธอ แต่ที่ไหนได้ เขาทำไปเพราะสังเวชอย่างนั้นหรือ“เรื่องของเรามันเป็นไปไม่ได้หรอก”แต่มันเป็นไปแล้ว...วารีมั่นใจว่าเขาไม่ได้เกลียดเธอสักนิด แววตาของเขาบอกว่ารักเธอด้วยซ้ำ แต่เขาไม่ยอมรับความจริง เขามีความลับบางอย่างที่บอกใครไม่ได้ซึ่งเธอแน่ใจว่ามันต้องเกี่ยวกับงูจงอางตัวนั้น!!!“เจ้างูนั่น...ฉันจะทำให้มันโผล่ออกมาอีกครั้ง”วารีกลับบ้านมาด้วยความช้ำใจ ในหัวของเธอยังคงคิดถึงแต่เรื่องนาเคนทร์“ความลับของเขาอยู่ที่งูตัวนั้นแน่”และเธอพอจะรู้วิธีพาเขาออกมา“แทนเหรอ...คืนนี้คุณมาหาฉันที่บ้านได้มั้ย” เธอยื่นขอเสนอไปแบบนั้น มีหรือที่ชายหนุ่มจะปฏิเสธแทนชัยเตรียมตัวมาอย่างดี เขามั่
“ไอ้นี่ มันน่านัก” เขาเกิดอาการแค้นอย่างเห็นได้ชัด หากย้อนเวลากลับไปได้ เขาคงจะกัดมันให้ตายคาปากไปเลย“แล้วเธอยังจะคบหากับมันอีกเหรอ”“ถามได้” เธอชักสีหน้าใส่เขา ก่อนจะเดินไปดูที่กรงงูเหลือม แล้วจ้องมองมันอย่างละเอียด “เมื่อคืนนี้ ถ้าฉันไม่ได้งูจงอางช่วยไว้ ฉันก็คงไม่รอดจากเงื้อมมือของแทนชัยหรอก”แววตาของชายหนุ่มเป็นประกาย ก่อนเดินเข้ามายืนมองงูเหลือมใกล้กับเธอ จนแก้มแทบจะแตะกัน“งูจงอางเนี่ยนะ พูดเล่นรึเปล่า”ใบหน้าสวยหันไปสบตาเขา เขาสบตาตอบ ทั้งคู่จ้องกันชั่วอึดใจหนึ่ง ก่อนเป็นหญิงสาวก็ผละไป“ใช่ ฉันแน่ใจ ฉันว่ามันต้องชอบฉันแน่ ๆ ”“หึ ชอบเนี่ยนะ คนกับสัตว์จะรักจะชอบกันได้ไง โดยเฉพาะสัตว์เลือดเย็น”“เจ้าเหลือมมันน่าจะโอเคแล้วล่ะ คุณจะปล่อยกลับป่าเมื่อไหร่”“สักสองสามวันมั้ง” แต่เหลือมสาวกลับส่งเสียงคำรามแผ่วเบาตัดพ้อชายหนุ่ม เธอยังอยากอยู่กับเขา ยังไม่อยากเข้าป่าเลยสักนิด“ฉันอยากไปปล่อยมันด้วยจัง”“ได้สิ เดี๋ยวผมไปรับเอง” หลังจากเมื่อคืน เธอรู้สึกได้เลยว่าเขาผ่อนคลายขึ้น โดยเฉพาะการแสดงออกทางแววตา“งั้น ฉันกลับก่อนนะ” เธออยากให้เขารั้งเธอไว้จัง แต่เขาก็แค่พยักหน้า เขาไม่คิดจะพูดถึ
“เฮ่อ...” เขาเอาแต่ถอนหายใจ คิดไม่ตกเรื่องของวารี หญิงสาวจะเป็นเช่นไรบ้าง เมื่อต้องสูญเสียสิ่งสำคัญให้แก่ผู้ชายที่น่ารังเกียจแบบเขา“ผม...คิดถึง...คุณ” ทุกลมหายใจของเขาขณะนี้ มีเพียงหญิงสาวเท่านั้น“คิดถึงใครคะ” เจ้าหล่อนสวมกอดเขาจากด้านหลังจนแนบแน่น ซึ่งเขารู้ได้ทันทีว่าใคร“ผกาแก้ว...ปล่อยเร็ว...เดี๋ยวมีคนเห็น”“มีคนเห็นก็ดีสิ คนจะได้เอาไปลือกันแล้วเรื่องการหมั้นหมายจะได้จบลงซะที”เขาแกะมือเธอออกแล้วดันตัวเธอออกห่าง“ไปหาคู่หมั้นเธอแล้วคุยกับมันซะ”“ถ้าฉันไปคุยแล้ว นาคจะยอมแต่งกับแก้วมั้ยล่ะ”“นี่แก้ว...”ผกาแก้วไม่รอให้เขาพูดจบ แต่ตรงเข้าสวมกอดเขาอีกครั้งแล้วรัดกายเขาซะแน่น“อะ...”วารีเดินเข้ามาแล้วเห็นเข้าพอดี เธอตกใจหน้าซีด ก่อนจะรีบหันหลัง“เดี๋ยว...วา”ผกาแก้วปล่อยแขนจากนาเคนทร์แล้วหันไปมองเจ้าของชื่อ เธอตกใจเล็กน้อยที่ได้เห็นอดีตเพื่อนร่วมห้องที่นี่“ยัยวาเหรอ”วารีฝืนใจหยุดเดิน แล้วหันมายิ้มให้ทั้งสองคน ดวงตาผิดหวังของเธอสบกับดวงตาคู่ดุของนาเคนทร์ มันมีแววตาของความโกรธและน้อยใจแฝงอยู่“ขอโทษที่เข้ามาขัดจังหวะนะ พอดีจะมาดูอาการ...”“อ้อ...มาดูงูใช่มั้ย” เขาต่อให้เอง ก่อนจะเดิ
“ห๊า...อะไรกันเนี่ย” พอไฟสว่างโร่ เจ้างูจงอางตัวนั้นก็หายไปแล้ว เธอไม่เห็นมันแม้แต่เงา“เราตาฝาดอีกแล้วเหรอ” เธอตั้งสติสองสามวินาที ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่า... “นาเคนทร์...คุณหายไปไหน...นาเคนทร์”ประตูห้องน้ำเปิดออก ชายหนุ่มร่างกายเปลือยเปล่าเดินออกมา ท่วงท่าสบาย ๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น“คุณเข้าห้องน้ำไปตอนไหน”“ก็...ก่อนที่คุณจะเปิดไฟไง มีอะไร” เขาพูดพลางจ้องมองเรือนร่างเปลื่อยเปล่าแดงก่ำของหญิงสาว ด้วยสายตาหื่น“มองอะไร” เธอเขินไม่น้อย แต่ก็ทำหน้าดุกลบเกลื่อน รีบเดินไปหยิบผ้าห่มมาคลุมตัวไว้ “คุณเองก็น่าจะหาเสื้อผ้าใส่หน่อยนะ”เขาก้มลงมองเรือนร่างตัวเองด้วยความภูมิใจ ก่อนจะเดินไปทิ้งตัวลงบนเตียงนอน“เราได้กันแล้ว จะเอาไงต่อ”“ก็...ไม่รู้สิ...คงไม่เอาไงต่อมั้ง ก็คุณแค่ช่วยฉัน” แล้วเธอก็นึกได้ว่า... “คุณเข้ามาในห้องนี้ได้ยังไง แล้วคุณ...”“อ๋อ...ความจริงผมมาพักอยู่ที่ห้องข้าง ๆ เห็นไอ้แทนมันพาคุณมา ท่าทางคุณไม่ค่อยโอเค ก็เลย...”“อย่างนั้นเหรอ”“ใช่” เขาพยายามจะแสดงสีหน้าให้เป็นปกติที่สุด หลังจากตกใจสุดขีดที่ตัวเองเผลอกลายร่างเต็มตัวตอนเสร็จสมอารมณ์หมาย ทั้ง ๆที่เวลาร่วมสังวาสกับสองนางงู