"ทำไมไปห้องน้ำนานจังยัยเซียร์"
ชมพูที่เริ่มเมากรึ่มเอ่ยถามลูเซียร์ที่เดินกลับมายังโต๊ะ ก่อนหน้านั้นไม่กี่นาที พวกเธอเพิ่งพูดเรื่องเพื่อนคนนี้หยกๆ ว่าทำไมไปห้องน้ำนาน เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า นี่ถ้ายังไม่กลับมา พวกเธอคงเดินไปตามแล้ว "พอดีคนเยอะนิดหน่อย เลยต้องต่อคิวเข้า" เธอตอบเพื่อนกลับ จังหวะกำลังนั่งลงที่เดิม สายตาเหลือบเห็นอังเดรที่เดินเข้าไปนั่งร่วมโต๊ะกับชายหนุ่มหน้าตาดีสามคน ซึ่งก่อนหน้าเธอไม่เห็นเขาอยู่ตรงนั้น "เซียร์ ออกไปเต้นเป็นเพื่อนฉันหน่อย" "ไม่เอาอะ ฉันไม่ถนัด แกชวนยัยนิวก็ไม่ชมพูไปเลย" เธอตอบกลับปันปันที่เอ่ยชวนออกไปเต้นหน้าเวที ซึ่งนั่นไม่ใช่สายเธอ แอบเต้นคนเดียวในห้องน้ำยังพอโอเค นี่เต้นท่ามกลางคนมากมาย เธอขอบายดีกว่า "ใครจะไปเต้นกับฉันแทนยัยเซียร์?" "แกเมาแล้วก็นั่งลงสักทียัยปัน ไปเต้นเหยียบเท้าใครเข้า โดนตบมาไม่ช่วยนะ" นิวเยียร์พูด "นี่ใคร ฉันปันปัน หลานสาวเจ้าพ่อ ใครจะกล้ามีเรื่องด้วย" "จ้า แม่คนเก่ง" เธอนั่งฟังปันปันและนิวเยียร์กัดกันแล้วอดขำตามไม่ได้ สายตาเธอหลุดโฟกัสไปยังโซนวีไอพีฝั่งอังเดร เธอแอบรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยที่มีผู้หญิงนุ้งน้อยห่มน้อยเข้าไปนั่งข้างคู่หมั้น เธอดึงสายตากลับมา เอื้อมมือจับขวดน้ำเมาเทลงแก้วว่างแล้วกระดกอึกเดียวจนหมด แก้วเดียวไม่พอ เธอเทลงอีกครั้งเพื่อต่อแก้วสอง สาม และไปเรื่อยๆ จนเริ่มเมามาย "หายไปแป๊บเดียว เหล้าไปไหนหมดวะ" ปันปันที่เพิ่งเต้นกับนิวเยียร์เสร็จเดินกลับมาถามหาเหล้าที่เคยเหลือครึ่งขวด "ถามยัยเซียร์สิ กระดกเอาๆ คนเดียวจนหมด" ชมพูพูดขึ้น ปันปันและนิวเยียร์พลันสายตาไปมองลูเซียร์ที่นั่งยิ้มเจื่อนราวคนทำความผิดมา ตานั้นเยิ้มเชื่อม ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเมา "ดื่มไปดื่มมา น้ำขมๆ นี่ก็อร่อยเหมือนกันนะ" ลูเซียร์พูดด้วยน้ำเสียงหย่อนยานตามประสาคนเมา "รู้ว่าเป็นครั้งแรกที่ดื่มแถมยังคออ่อน ยังอวดเก่งดื่มคนเดียวจนหมด นัมเบอร์วันเลยเพื่อนกู" นิวเยียร์มองสภาพลูเซียร์แล้วพูดขึ้นมาคนเดียว พลางถอนหายใจแล้วส่ายหน้าไปมา "แล้วนี่แกจะไปไหน" ปันปันถามเมื่อลูเซียร์ลุกขึ้น "ไปหาคู่หมั้น~" พูดจบก็เดินเซออกไปจากโต๊ะตัวเอง เป้าหมายของเธอก็คือ อังเดร เขาจะทำเหมือนตัวเองไม่มีคู่หมั้นไม่ได้ เธอนั่งหัวโด่ตรงนั้น ยังให้ผู้หญิงคนอื่นมานั่งข้างกายอีก อังเดรเหลือบมองลูเซียร์ที่ตาเยิ้มยิ้มหวานมาแต่ไกล แค่เห็นหน้าเธอ เขาก็ถอนหายใจเอือมระอาไว้รอแล้ว นี่คู่หมั้นหรือเจ้ากรรมนายเวร เมื่อไหร่จะหลุดพ้น "พี่เดย์ขา~" เหล่าแก๊งเพื่อนอังเดรหันมองหน้ากันด้วยความประหลาดใจ เมื่อมีหญิงสาวหน้าตาน่ารักเข้ามานั่งตักอังเดร แถมยังเป็นคนแรกที่กล้านั่งตักอังเดรโดยไม่มีคำอนุญาตจากอังเดร "พี่เดย์~" "เมาแล้วก็กลับไป อย่ามาวุ่นวายแถวนี้" "ลูเซียร์จะกลับพร้อมพี่เดย์" "ลูเซียร์ ลูเซียร์ที่เป็นคู่หมั้นของมึงเหรอไอ้เดย์" ออสตินถามขึ้นหลังจากนั่งทวนชื่อนั้นคนเดียวมาพักหนึ่ง หากจำไม่ผิด ลูเซียร์คือคู่หมั้น ที่อังเดรเคยพูดถึงแล้วบอกว่าไม่สวย แต่ที่เห็นตอนนี้ ถ้าคู่หมั้นอังเดรไม่สวย บนโลกนี้คงไม่มีใครสวยอีกแล้ว "ใช่ค่ะ เซียร์เป็นคู่หมั้นของพี่เดย์" "ไหนมึงบอกเขาไม่สวยไง ระดับนางฟ้าขนาดนี้ ถ้าพี่เดย์บอกไม่สวย พี่เดย์คงต้องไปตัดแว่นแล้ว" มังกรแซะเพื่อนสนิท "พี่เดย์บอกว่าเซียร์ไม่สวยจริงเหรอคะ" ลูเซียร์หันมาถามอังเดร คนรอบข้างเอาแต่ชมเธอว่าสวย น่ารัก ผิดกับคู่หมั้นจอมเย็นชาที่บอกว่าเธอไม่สวย "เมาแล้วก็กลับไปนอน อย่าทำให้น่ารำคาญ" "เซียร์ไม่กลับหรอก พี่เดย์กลับตอนไหน เซียร์ก็จะกลับตอนนั้น" "อย่าให้ฉันรายงานพฤติกรรมเธอกับพ่อแม่เธอ" "เซียร์ก็รายงานว่าพี่เดย์ยุ่งกับผู้หญิงคนอื่นทั้งที่มีคู่หมั้นอยู่แล้วกับพ่อแม่พี่เดย์" อังเดรมองลูเซียร์ตาเขม็งด้วยความไม่พอใจที่โดนอีกฝ่ายย้อนกลับมาแบบนั้น แก้วในมือถูกคู่หมั้นสาวแย่งไปกระดกดื่มจนหมด "เซียร์ไม่คิดว่าเหล้าจะอร่อยขนาดนี้" "อย่าทำให้ฉันหมดความอดทนด้วย" เขากดเสียงต่ำบอกลูเซียร์ "พี่เดย์จะทำอะไรเซียร์เหรอ?" "มันไม่ยากถ้าฉันจะส่งเธอกลับนิวยอร์ก" "ถ้าคิดว่าทำได้ ก็ทำเลยค่ะ" หญิงสาวขู่กลับ ก่อนจะลุกออกจากตักอังเดร มุ่งหน้าไปยังเวทีของไนต์คลับที่มีดีเจหนุ่มกำลังเปิดเพลงอย่างสนุกสนาน "คู่หมั้นของมึงจะทำอะไรวะเดย์" แม็กซ์เวลล์เอ่ยถามเสียงเรียบ สายตาจดจ่ออยู่ที่คู่หมั้นของเพื่อนสนิทด้วยความอยากรู้ "ช่างแม่ง" "คงอยากร้องเพลงละมั้ง" ออสตินพูดแล้วกระดกเครื่องดื่มเข้าปาก "ทุกคนคะ~ ฟังทางนี้หน่อย" "...." เมื่อเสียงลูเซียร์ดังลอดผ่านไมโครโฟนที่แย่งดีเจหนุ่มมา ผู้คนที่มาเที่ยวไนต์คลับก็พากันพลันสายตาไปมองเจ้าของเสียงหวานอย่างพร้อมเพรียง "ทุกคนเห็นผู้ชายคนนั้นไหมคะ ที่นั่งทำหน้านิ่งๆ เหมือนรูปปั้นมีชีวิต เขาชื่ออังเดร เขาเป็นคู่หมั้นของเซียร์ แต่เขาไม่สนใจเซียร์เลย~" "...." "เมื่อกี้เขาเพิ่งบอกว่าจะส่งเซียร์กลับนิวยอร์ก เขาอยากให้เซียร์ไปไกลๆ เพราะเขาไม่อยากแต่งงานกับเซียร์" "ยัยบ้าเอ๊ย" อังเดรสบถออกมาอย่างหงุดหงิด เขาลุกขึ้นแล้วเดินตรงไปหาลูเซียร์ เมาแล้ววุ่นวายจริงๆ ไมโครโฟนในมือลูเซียร์ถูกแย่งไปโดยอังเดร แววตาคู่หมั้นหนุ่มดูไม่พอใจกับการกระทำของหญิงสาวเป็นอย่างมาก ทว่าก็ยังยิ้มแย้มอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร "ทำบ้าอะไรของเธอ" "ประกาศให้คนรู้ไงคะ ว่าพี่เดย์มีเจ้าของแล้ว" "เธอมันตัววุ่นวาย" "พี่เดย์เป็นของเซียร์ เซียร์ไม่ยอมแบ่งพี่เดย์ให้ใครง่ายๆ หรอก" พอลูเซียร์พูดจบ สองแขนเรียวก็คล้องลำคออังเดรลงมาหา ก่อนที่ริมฝีปากสีระเรื่อจะแตะสัมผัสลงปากหยักได้รูป ภาพนั้นทำเอาคนภายในไนต์คลับต่างตกใจแต่สุดท้ายก็ยิ้มออกมา แก๊งเพื่อนอังเดรมองภาพนั้นแล้วยิ้มกริ่มอย่างภูมิใจ ก่อนที่ต่างคนจะต่างหยิบโทรศัพท์ออกมาถ่ายภาพนั้นไว้เป็นที่ระลึก "กูว่าคนนี้แหละ ที่จะสยบไอ้เดย์ได้อยู่หมัด" แม็กซ์เวลล์พูดแล้วลอบยิ้มมุมปาก คนเย็นชาอย่างอังเดร ต้องเจอผู้หญิงแบบลูเซียร์"พี่เดย์ปล่อยเซียร์ลงเดี๋ยวนี้นะคะ~" ลูเซียร์ร้องบอกอังเดรซึ่งกำลังอุ้มตัวเองพาดบ่าออกจากไนต์คลับท่ามกลางสายตาของแขกที่มองมาอย่างให้ความสนใจ มาเฟียหนุ่มไม่ได้สนใจสายตาคนมอง เขาเดินตวัดขามายังลานจอดรถสำหรับวีไอพี โดยมีลูเซียร์ใช้มือตีหลังเพื่อทำให้เขาปล่อยเธอเขายัดลูเซียร์ใส่รถราวกับเธอเป็นกระสอบข้าวสาร การกระทำของลูเซียร์ตอนนั้นทำให้เขาไม่พอใจเป็นอย่างมาก เขาพยายามระงับอารมณ์คุกรุ่นที่ก่อตัวขึ้นมาเพื่อไม่ให้เผลอพลั้งมือทำอะไรคู่หมั้นถ้าเป็นคนอื่น เชื่อเถอะว่าไม่ได้มานั่งมองเขาตาหวานเยิ้มแบบนี้หรอก"พี่เดย์ขา~""หุบปากของเธอไปซะ" ลูเซียร์ได้ฟังก็ทำปากยู่ใส่อังเดร มาเฟียหนุ่มพยายามสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดเพื่อระงับอารมณ์คุกรุ่น ก่อนจะทำการคาดเข็มขัดนิรภัยให้คู่หมั้น ส่วนตัวเองเดินอ้อมไปฝั่งคนขับแล้วเข้ามานั่งหน้าพวงมาลัยรถ"พี่เดย์~""เลิกเรียกชื่อฉันสักที" เขาพูดด้วยน้ำเสียงลอดไรฟัน พยายามอดทนเป็นอย่างมากกับลูเซียร์ ไม่รู้ว่าเขาจะอดทนกับเธอได้นานแค่ไหน "ทำไมเกรี้ยวกราดจัง""เมาแล้วก็อยู่เฉยๆ อย่าวุ่นวาย""ใครบอกว่าเซียร์เมา ไม่ได้เมาสักหน่อย พี่เดย์นั่นแหละเมา" น้ำเสียงหย่อนยานเถียงก
ลูเซียร์ทำหน้างุนงงกับคำพูดกำกวมของอังเดร ด้วยความที่เมาบวกกับไม่มีสติทำให้เธอเอนตัวนอนหนุนหมอนใบใหญ่ที่คู่หมั้นหนุ่มใช้นอนทุกคืน เพียงแค่เริ่มหลับตาลง ก็รับรู้สึกถึงแรงยุบของเตียงนอน พอเปิดเปลือกตาขึ้นมาก็พบเข้ากับอังเดรซึ่งกำลังคร่อมร่างตัวเองอยู่"พี่เดย์อยากให้เซียร์กล่อมนอนเหรอ มาม๊ะ เดี๋ยวเซียร์จะกล่อมพี่เดย์นอนเองนะ" หญิงสาวพูดจบก็ใช้แขนทั้งสองโอบรัดลำคออังเดรแล้วรั้งลงมาเพื่อให้เขานอนแนบลงอก ทว่าเขากลับจับข้อมือทั้งสองของคู่หมั้นสาวแล้วกดลงเตียงนอน"พี่เดย์ทำอะไรคะเนี่ย ไม่อยากให้เซียร์กล่อมนอนแล้วเหรอ""อยากนอนกับฉันนักไม่ใช่เหรอ นี่ไง ฉันกำลังสงเคราะห์ให้""พี่เดย์ก็ลงมานอนข้างๆ เซียร์ดีๆ สิคะ" เหมือนกับว่าตอนนี้ลูเซียร์จะเข้าใจความหมายของอังเดรผิด รอยยิ้มบนริมฝีปากหยักได้รูปปรากฏขึ้นพร้อมเสียงในลำคอที่ดังลอดออกมาเบาๆคู่หมั้นของเขาช่างไร้เดียงสาจริงๆ นัยน์ตาสีดำมองต่ำมายังหน้าอกอวบอึ๋มของลูเซียร์ ร่องอกที่โผล่พ้นออกมาพลันทำให้อารมณ์ปรารถนาในตัวเขาตื่นขึ้น"หึ ตัวเล็กแต่ว่าซ่อนรูปดีเหมือนกันนิ" เขาพูดพร้อมเลื่อนสายตามามองใบหน้าแดงก่ำของลูเซียร์ ก่อนจะเริ่มเคลื่อนนิ้วมือมา
เช้าวันต่อมาลูเซียร์ที่นอนหลับมาหลายชั่วโมงเริ่มขยับตัวไปมา เปลือกตาสีขาวค่อยๆ ปรือขึ้นอย่างยากลำบาก ทันทีที่รู้สึกตัวความปวดร้าวระบมตามร่างกายก็ถาโถมเข้าใส่คราวเดียวจนไม่อยากขยับตัวไปไหน โดยเฉพาะตรงบริเวณนั้นที่เจ็บมากกว่าส่วนอื่นๆ กลิ่นเหม็นฉุนของควันบุหรี่ทำให้เธอดึงสายตามามองแผ่นหลังเปลือยเปล่าที่นั่งอยู่ปลายเตียงนอน เธอค่อยๆ ดันตัวขึ้นมานั่งอย่างยากลำบาก พลางก้มมองสภาพตัวเองตอนนี้ เธอมีเพียงผ้าห่มผืนเดียวที่ห่อหุ้มร่างกายเอาไว้เนื่องจากเธอ...ไม่ได้สวมใส่อะไรเลย"เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ" เงียบสองนาน กว่าจะตัดสินใจเอ่ยถามอังเดรกับเรื่องที่เกิดขึ้น แม้ว่าสภาพตัวเองตอนนี้จะตอบคำถามทุกอย่างที่อยากรู้แล้วก็ตาม แต่ก็ยังเลือกถามอีกฝ่ายอยู่ดี"แล้วคิดว่าเมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้นล่ะ"มาเฟียหนุ่มถามกลับ พลางอัดควันของบุหรี่ที่คีบไว้ในมือเข้าปากแล้วพ่นควันสีเทากลิ่นฉุนออกมาอย่างใจเย็น"...." เธอนิ่งเงียบ หัวใจเริ่มเต้นแรงขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง แสดงว่าทุกอย่างที่คิดไว้คือเรื่องจริง เธอได้มีอะไรกับคู่หมั้นตัวเองไปแล้วเมื่อคืน "เสียใจเหรอที่ได้ขึ้นเตียงกับฉัน""เซียร์...""เมื่อคืนฉันเตือนเธอแล้วแต่เธ
ครืด ครืด~หน้าจอโทรศัพท์ของลูเซียร์ซึ่งกำลังเขี่ยเล่นถูกแทนที่ด้วยเบอร์จากคนเป็นแม่ เธอปัดหน้าจอเพื่อรับสายแล้วแนบเอาลงใบหู"ว่าไงคะแม่"(เป็นยังไงบ้างเซียร์ ไม่เห็นโทรมาหาแม่กับพ่อเลย)"ขอโทษค่ะ พอถึงไทยเซียร์ก็ออกไปเที่ยวกับเพื่อนเลย ขอโทษที่ไม่ได้โทรบอกคุณพ่อคุณแม่นะคะ"(เดี๋ยวนี้ลูกสาวแม่เที่ยวเป็นกับเขาแล้วเหรอ) ปลายสายตอบกลับด้วยรอยยิ้ม ปกติลูเซียร์ไม่ค่อยออกไปเที่ยวหรือสังสรรค์กับเพื่อนเท่าไร ทางบ้านไม่ได้เคร่งเรื่องพวกนี้ ปล่อยให้ใช้ชีวิตได้เต็มที่ แต่ต้องรู้หน้าที่ของตัวเองด้วย"เซียร์ชอบนะคะ สนุกดี"(เห็นลูกมีความสุขพ่อกับแม่ก็ดีใจ แล้วอยู่กับอังเดรลูเซียร์ดื้อไหม พี่เขาดูแลเซียร์ดีรึเปล่า)"เซียร์ไม่ดื้อค่ะ พี่เดย์ดูแลเซียร์ดีมากๆ แถมยัง...ใจดีอีกด้วย" เธอเลือกที่จะไม่พูดความจริงเพราะไม่อยากทำให้คุณแม่พลอยกังวลตามไปด้วย (ได้ยินแบบนี้แม่ก็สบายใจ ถ้าขาดเหลืออะไรโทรมาหาแม่ได้ทุกเมื่อเลยนะ แค่นี้แหละ แม่จะออกไปประชุมแล้ว)"ค่ะ" เธอวางสายลงจากคนเป็นแม่ จากนั้นดันร่างตัวเองขึ้นจากเตียงนอนแล้วเดินไปหายามาทาน เพราะรู้สึกเริ่มครั่นเนื้อครั่นตัว "จำได้ว่าเอามาด้วยนะทำไมไม่มี" เธ
(นี่แกดูแลเซียร์ยังไงให้น้องเขาไม่สบายแบบนี้!) น้ำเสียงทรงพลังของอนาคินดังออกมาจากลำโพงโทรศัพท์เครื่องหรูหลังรู้เรื่องลูเซียร์ไม่สบายจากปากลูกชาย"ลูเซียร์เป็นคู่หมั้น ไม่ใช่ลูกของผม"(บร๊ะ!ไอ้ลูกคนนี้ ฉันควรทำยังไงกับแกดี ถึงฉันจะเคยพูดไว้ว่า ภายในสามเดือนถ้าแกไม่ได้รักใคร่หนูเซียร์ฉันจะยกเลิกงานแต่งให้ ฉันเป็นคนพูด ฉันก็ยกเลิกคำพูดฉันได้)"ผมนึกไว้แล้วว่าพ่อไม่มีทางทำแบบนั้นได้"(หึ ยิ่งแกไม่อยากแต่งงานกับหนูเซียร์มากเท่าไร ฉันยิ่งจะทำให้แกต้องแต่งงานกับหนูเซียร์)"ผมอยากรู้จริงๆ ว่าลูเซียร์มีอะไรดี พ่อถึงรักและเอ็นดูยัยเด็กแก่แดดคนนั้นเหลือเกิน"(พูดเหมือนครั้งนึงแกไม่เคยเอ็นดูน้องอย่างนั้นแหละ)"...."เขานิ่งเงียบกับประโยคนั้นของคนเป็นพ่อ เอ็นดูอย่างนั้นเหรอ? เขาแค่นหัวเราะออกมาอย่างเย้ยหยัน แค่ลองคิดภาพตอนเอ็นดูลูเซียร์ในหัวเขายังไม่อยากทำเลย(ฉันไม่รู้นะว่าทำไมแกถึงเกลียดน้องนักหนา แต่ระหว่างสามเดือนนี้ แกช่วยทำตัวดีๆ กับน้องหน่อยได้ไหม)"ไม่จำเป็น"(ปากดีแบบแก ระวังจะกลืนน้ำลายตัวเองเข้าสักวัน) "หึ ผมไม่มีวันกลืนน้ำลายตัวเอง"(ฉันจะรอดูคนเก่ง ว่าจะเก่งไปได้สักกี่น้ำ)"อย่าพูดเ
@โกดังเก็บสินค้าตุ้บ! ผัวะ! ผัวะ!อังเดรยืนมองภาพชายสี่คนที่กำลังโดนลูกน้องตัวเองรุมกระทืบด้วยสายตาเย็นชา เขายกบุหรี่ขึ้นมาดูดก่อนจะพ่นควันสีเทาออกมาอย่างใจเย็น มุมปากหยักได้รูปปรากฏรอยยิ้มเล็กๆ ด้วยความพอใจ คนพวกนั้นคิดผิดที่กล้าลอบวางเพลิงโกดังเก็บสินค้าของเขา เขามองภาพตรงหน้าสองนาน สภาพแต่ละคนแทบแยกไม่ออกว่าเป็นใครเพราะเนื้อตัวเต็มไปด้วยคราบเลือด เขาส่งสัญญาณบางอย่างให้ลูกน้อง ไม่นานนักชายฉกรรจ์ก็ถือถังน้ำผสมเกลือไปสาดใส่ชายทั้งสี่คน บาดแผลเมื่อเจอกับน้ำเกลือมักไม่เป็นมิตรต่อกัน เสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดเรียกรอยยิ้มจากมาเฟียหนุ่มได้ดีไม่น้อย"ใครจ้างพวกมึงมา" เนิ่นนานกว่าอังเดรจะยอมปริปากเอ่ยถามชายกลุ่มนั้น"ปะ...ปล่อยพวกผมไปเถอะครับ" หนึ่งในสี่คนเอ่ยพูดพลางประนมมือขึ้นขอชีวิตจากอังเดร เนื้อตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว "กูถามว่าใครจ้างพวกมึงมา" น้ำเสียงอังเดรเริ่มเย็นลงทำเอาคนฟังพานเสียวสันหลังวาบตามไปด้วย"ถ้าพวกเราบอก คุณจะปล่อยพวกเราไปใช่ไหมครับ""อยู่ที่ว่าคำตอบของพวกมึงจะมีประโยชน์มากน้อยแค่ไหน""พวกเราไม่รู้ว่าใครเป็นคนจ้าง ส่วนมากพวกเรารับงานผ่านการโทรเท่านั้น จะไม่เป
ลูเซียร์เม้มริมฝีปากเข้าหากัน พยายามไม่สบสายตากับอังเดรที่กำลังถอดกางเกงขาสั้นของเธอออกตามด้วยชั้นใน หัวใจดวงน้อยเริ่มเต้นแรงอย่างบ้าคลั่งเมื่อจุดอ่อนไหวไร้สิ่งปกปิด "อื้อ!" หญิงสาวสะดุ้งขึ้นด้วยความตกใจทันทีที่นิ้วของมาเฟียหนุ่มเขี่ยไปมาตรงติ่งเกสร มือเล็กเริ่มกำหมอนใบใหญ่ที่ตนหนุนนอนแน่น ใบหน้ารู้สึกร้อนผ่าวเพราะมีสายตาคมเข้มคอยจ้องมองความสวยงามไม่ละไปไหนมาเฟียหนุ่มใช้นิ้วแยกกลีบกุหลาบสีระเรื่อจนสามารถมองเห็นทุกส่วนของความสวยงามนั้นอย่างชัดเจน สิ่งนี้ยังคงบวมช้ำไม่หายดีอย่างที่เธอบอกไว้ คืนนั้นเขาค่อนข้างทำรุนแรงโดยไม่ได้สนใจว่านี่คือครั้งแรกของเธอ"พี่เดย์ ซะ...เซียร์เจ็บ" เธอร้องประท้วงขึ้นมาเมื่ออังเดรดันนิ้วเข้าไปในร่องรักบวมช้ำที่ไร้น้ำหล่อลื่น"ฉันไม่เคยทำแบบนี้กับใคร เพราะฉะนั้นฉันจะลองทำกับเธอ"ลูเซียร์ทำหน้างงงวยหลังจากอังเดรพูดประโยคนั้น ดวงตากลมโตเบิกโพลงด้วยความตกใจทันทีที่เห็นคู่หมั้นหนุ่มโน้มใบหน้าลงไปยังกายสาว ลมหายใจอุ่นที่เป่ารดเนินสามเหลี่ยมอวบอูมพลันทำให้หญิงสาวหายใจไม่ทั่วท้อง"อื้อ!" หัวใจเธอกระตุกวาบเมื่อถูกลิ้นร้อนชื้นสัมผัสลงจุดอ่อนไหว เนื้อตัวพลันสั่นเกร็ง
เช้าวันต่อมาหญิงสาวในอ้อมกอดของมาเฟียหนุ่มค่อยๆ ปรือตาขึ้นมาอย่างยากลำบากท่ามกลางความเย็นจากเครื่องปรับอากาศ กลิ่นหอมคุ้นเคยที่คลุ้งกระจายออกมาจากร่างกายอีกฝ่ายทำให้ลูเซียร์สูดดมเข้าไปอย่างถือวิสาสะ ลูเซียร์ค่อยๆ จับแขนแกร่งที่วางบนเอวบางแล้วจากนั้นก็ดันออกจากอ้อมแขนของคู่หมั้นหนุ่ม เธอทอดสายตามองเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาไร้ที่ติด้วยรอยยิ้ม ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทุกส่วนบนใบหน้าเขานั้นเพอร์เฟกต์หาที่ติตรงไหนไม่ได้ เวลาเขาหลับช่างดูเหมือนเด็กน้อยไร้พิษภัยคนหนึ่ง หากแต่พอตื่นขึ้นกลับกลายเป็นปีศาจร้ายเสียอย่างนั้น เธอเอื้อมมือไปหมายจะสัมผัสใบหน้าอังเดร ทว่าอีกฝ่ายกลับลืมตาขึ้นมาเสียก่อน"จะทำอะไร" "เปล่านิคะ" "แน่ใจ?""แน่ใจค่ะ เซียร์กลับห้องนอนของตัวเองก่อนนะคะ" เมื่อพูดจบก็ผลุนผลันเตรียมก้าวลงจากเตียงนอนของอังเดร ไม่ทันที่เท้าจะสัมผัสพื้น เสียงเข้มคุ้นเคยก็ดังขึ้นมาเสียก่อน"ฉันอนุญาตให้เธอกลับห้องตัวเองแล้วเหรอ" ลูเซียร์หันกลับมามองอังเดร"คะ?""เมื่อคืนฉันให้เธอนอนกับฉัน คราวนี้เธอต้องตอบแทนฉันกลับ""ตอบแทนอะไรเหรอคะ?" เธอเอ่ยถามด้วยสีหน้าใสซื่อ"อาบน้ำให้ฉัน""...." คำตอบของอังเดรทำให้
หนึ่งอาทิตย์ต่อมาหมับลูเซียร์เดินเข้ามากอดคนรักซึ่งกำลังยืนทำอาหารเช้าในห้องครัว "หอมจัง..." "ตื่นแล้วเหรอ" เขาหันไปพูดกับลูเซียร์ด้วยรอยยิ้มเล็กๆ ก่อนจะดึงสายตากลับมามองข้าวต้มกุ้งซึ่งเป็นของโปรดคนข้างหลัง"ตื่นแล้วทำไมไม่ปลุกเซียร์ล่ะคะ""เห็นเซียร์กำลังหลับสบายเลยไม่อยากกวน"เธอไม่ตอบอะไรอีกฝ่ายกลับ ยืนชะโงกใบหน้ามองข้าวต้มกุ้งที่อังเดรกำลังทำอย่างตั้งใจเงียบๆ ระหว่างนั้นก็แอบลอบมองใบหน้าหล่อเหลาของคนรักเป็นระยะด้วยความหลงใหลเธออยากเก็บเขาไว้ดูแบบนี้คนเดียว เวลาเห็นผู้หญิงมองเขาอย่างให้ความสนใจ เธอก็อดเกิดอาการหวงขึ้นมาไม่ได้"เซียร์ไปนั่งรอที่โต๊ะนะ เดี๋ยวพี่ยกข้าวต้มไปให้""เซียร์อยากช่วยถือ""ไปนั่งรอ เดี๋ยวพี่ทำเอง" "กลัวเซียร์ซุ่มซ่ามทำถ้วยข้าวต้มหลุดมือเหรอคะ" "หึ...เปล่า แค่ไม่อยากให้ทำเพราะพี่อยากทำให้ ตอนนี้เซียร์กำลังท้องอยู่ อุ้มท้องอย่างเดียวก็พอ เดี๋ยวอย่างอื่นพี่ทำให้เอง""น่ารักจัง" เธอพูดด้วยรอยยิ้ม อังเดรหมุนตัวกลับมาหาคนตัวเล็ก มองคนตรงหน้าด้วยแววตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก ก่อนจะโน้มใบหน้าลงไปหาแล้วประทับริมฝีปากลงหน้าผากบาง สัมผัสอ่อนโยนจากมาเฟียหนุ่มพล
หลายวันต่อมา@บริษัทอังเดรแกร๊กลูเซียร์เปิดประตูเข้ามาในห้องทำงานของอังเดรหลังจากที่ขอเขาลงไปซื้อของกิน ริมฝีปากสีระเรื่อเตรียมขยับเพื่อทักทายคนรัก แต่ทว่าต้องชะงักเมื่อสายตามองเห็นเขากำลังนั่งคุยกับอนาคินคนเป็นพ่อ จากที่ต้องทักทายอังเดร กลับกลายเป็นทักทายพ่อคนรักแทน"สวัสดีค่ะคุณละ...เอ่อ..คุณพ่อ" เธอเกือบพลั้งปากเรียกอนาคินว่า 'คุณลุง' อย่างที่เคยเรียกชินปาก ดีที่ดึงสติกลับมาได้ทันจึงไม่ได้เอ่ยคำๆ นั้นออกมา"หนูเซียร์ก็อยู่ที่นี่ด้วยเหรอ""ค่ะ พอดีว่าเซียร์ลงไปซื้อของกินมาน่ะค่ะ""อืม ได้ยินอังเดรบอกว่าทั้งสองคนคืนดีกันแล้วเหรอ""ใช่ค่ะ พี่เดย์เขาบินไปง้อเซียร์ถึงนิวยอร์กเลย""อะแฮ่ม.." เขากระแอมในลำคอเพื่อปรามไม่ให้ลูเซียร์พูดถึงเรื่องนั้น แต่คงไม่ทันการณ์เสียแล้ว"หนูเซียร์มานั่งเล่าตอนเจ้าเดย์ง้อให้พ่อฟังทีสิ นานๆ ทีจะเห็นลูกชายง้อผู้หญิง""ได้ค่ะ" เธอยิ้มและตอบรับอย่างไม่ปฏิเสธโดยไม่สนใจสีหน้าที่กำลังไม่พอใจของอังเดร ในอดีตเขาทำกับเธอไว้เยอะ คราวนี้ตาเธอเอาคืนแล้ว"ถ้าพ่อหมดธุระกับผมแล้วก็กลับไปได้แล้ว""ฉันยังไม่อยากกลับ นานๆ ทีจะมาบริษัทแก ขออยู่นานๆ ก่อนสิ" อนาคินหันไปมองลู
วันต่อมาลูเซียร์นั่งมองคนเป็นพ่อซึ่งกำลังเดินเข้าสู่ประตูวิวาห์กับคนรักใหม่ด้วยแววตาอาลัยอาวรณ์และรู้สึกเสียดาย การหย่าร้างของพ่อแม่ในครั้งนี้ แม้ว่าทั้งสองคนจะตกลงว่ายังคงทำหน้าที่พ่อและแม่ให้เธอเหมือนเดิม มาฉลองด้วยกันทุกเทศกาลและวันสำคัญของเธอ ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังรู้สึกเสียดายช่วงเวลาดีๆ ที่ครอบครัวเคยทำด้วยกันและเกิดความคิดไม่อยากให้พ่อแต่งงานใหม่ เธอรู้ดีว่าพ่อแม่แต่งงานกันเพราะถูกผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายจับคลุมถุงชน ทั้งสองคนอาจมีความรู้สึกดีๆ ต่อกัน แต่ใช่ว่าจะรักกันเหมือนคู่รักอื่นๆ ใครบอกว่าความใกล้ชิดเป็นบ่อเกิดของความรัก น้อยคนนักที่จะโชคดีดังคำพูดนั้นแต่ก็นะ...ในเมื่อพ่อเจอความสุขของตัวเองแล้ว เธอก็ควรยินดีและยอมรับในการตัดสินใจของพ่อ "คุณแม่ไม่รู้สึกเสียดายคุณพ่อเหรอคะ?" เธอเอ่ยถามคนเป็นแม่ซึ่งนั่งอยู่ตรงหน้า"แม่เคารพการตัดสินใจของพ่อ อีกอย่าง ต่อให้พ่อกับแม่อยู่ด้วยกันเหมือนเดิมก็พลอยแต่จะทำให้ฝ่ายใดฝ่ายนึงไม่มีความสุขเปล่าๆ""....""แม่รู้ว่าเซียร์เสียใจ พวกเราสองคนเองก็เสียใจที่ต้องให้ลูกรู้ว่าพวกเราไม่สามารถไปต่อกันได้อีกแล้ว""นี่เป็นครั้งแรกเลยนะคะที่เซียร์เห็นคุณพ
อังเดรและลูเซียร์เดินจูงมือกันเข้ามายังร้านอาหารชื่อดังแห่งหนึ่งของตัวเมืองนิวยอร์กในช่วงหนึ่งทุ่ม ทั้งสองคนเดินมาถึงห้องอาหารสำหรับวีไอพีโดยมีชายชุดดำสองคนยืนเฝ้า เมื่อชายชุดดำเห็นอังเดรและลูเซียร์มาถึงจึงเปิดประตูออกให้ทั้งสองคนเดินเข้ามาในห้องอาหารวีไอพีซึ่งมีครอบครัวของลูเซียร์นั่งคอยอยู่ ความจริงเลยเวลานัดมาหลายนาทีแล้ว แต่อังเดรเกิดมีอาการคลื่นไว้อาเจียนขึ้นมากะทันหันทำให้มาเลทจากเวลานัดราวยี่สิบนาที"สวัสดีครับ" เขาเอ่ยทักทายพร้อมยกมือไหว้พ่อและแม่ของลูเซียร์ เคยเจอครอบครัวลูเซียร์มาก็หลายครั้ง แต่ทว่าครั้งนี้เขากลับรู้สึกประหม่าขึ้นมาเล็กน้อย"ขอโทษที่มาช้านะคะ""ไม่เป็นไร พ่อกับแม่ก็เพิ่งมาถึงเมื่อกี้เหมือนกัน" พ่อของลูเซียร์เป็นคนเอ่ยพูด "สั่งอาหารกันแล้วเหรอคะ?""ยังเลย กะจะรอสั่งตอนเซียร์และเดย์มาถึงแล้ว" แม่ของลูเซียร์ตอบกลับมาด้วยรอยยิ้มเห็นลูกสาวและอังเดรอยู่ด้วยกันแบบนี้เธอก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาระดับหนึ่ง เพราะก่อนหน้านั้นลูเซียร์บอกว่าอยากถอนหมั้น และหลังจากจบจากงานแต่งคนเป็นพ่อ ลูเซียร์ก็จะบินไปที่ปารีสทันที แต่เหมือนว่าตอนนี้ลูกสาวเธอจะเปลี่ยนใจแล้ว...ทั้งสี่คนเริ
หมับมาเฟียหนุ่มเดินมาสวมกอดลูเซียร์ที่กำลังยืนรับลมชมวิวอยู่ระเบียงที่พักจากข้างหลัง หญิงสาวแอบสะดุ้งเล็กน้อยด้วยความตกใจ เพราะอีกฝ่ายมาไม่ให้ซุ่มให้เสียง "คิดอะไรอยู่เหรอ""ไม่ได้คิดอะไรค่ะ แค่เห็นว่าตรงนี้วิวสวยดีเลยออกมาดู" ไออุ่นจากอ้อมกอดเขาพลอยทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย ครั้งแรกเลยก็ว่าได้ที่อังเดรกอดเธอด้วยความอ่อนโยนแบบนี้"กลับไทยเมื่อไหร่ เดี๋ยวพาไปฝากครรภ์นะ""ค่ะ" เธอตอบรับสั้นๆ ก่อนจะก้มมองมือหนาที่เลื่อนมาสัมผัสหน้าท้องแบนราบของเธอราวกับกำลังทักทายอีกหนึ่งชีวิตในท้อง"คิดไม่ถึงเลยว่าวันนึงจะมีลูกเป็นของตัวเอง จากเคยได้ยินลูกของตินและแม็กซ์เรียกพวกมันสองคนว่าพ่อ ใครจะคิดล่ะว่าวันนึงตัวของฉันเองก็กำลัง...กลายเป็นพ่อคนแล้วเหมือนกัน""พี่เดย์รู้สึกยังไงบ้างคะตอนที่รู้ว่ากำลังกลายเป็นพ่อคน""ทั้งอึ้งและช็อก แต่หลังจากนั้นก็ดีใจและตื่นเต้นที่ตัวเองกำลังมีลูก""ตอนแรกเซียร์คิดว่าพี่เดย์จะรับไม่ได้ที่มีลูกกับเซียร์ซะอีก" เธอพูดออกมาเสียงแผ่ว ก่อนหน้าที่เขาพาเธอไปโรงพยาบาล เธอแอบกลัวว่าถ้าผลออกมาว่าเธอท้อง อังเดรอาจจะรับไม่ได้ คงทิ้งเธอและลูกไป แต่ในความเป็นจริงกลับไม่ใช่อย
"ความจริงแล้วเธอไม่เคยรักฉันข้างเดียวเลยนะ"กึก...สิ่งที่อังเดรได้เอื้อนเอ่ยออกมาทำให้ลูเซียร์ที่กำลังร้องไห้อย่างบ้าคลั่งชะงักลงไปอัตโนมัติ ใบหน้าสวยหวานเปื้อนเขรอะด้วยน้ำตาเคลื่อนมามองคู่หมั้นหนุ่มพร้อมหัวใจที่เริ่มเต้นแรงเธอไม่อยากคาดหวังอะไรจากคำพูดนั้นของเขาเลย แต่ในขณะที่อีกใจก็เผลอคาดหวังไปแล้ว แววตาที่เขากำลังมองมาต่างไปจากทุกวันโดยสิ้นเชิง จากเคยมีแค่ความว่างเปล่าและเดาอะไรไม่ได้ ตอนนี้กลับมีอีกความรู้สึกจุดประกายออกมาอย่างไม่ปิดบัง"เธอไม่เคยรักฉันแค่ข้างเดียวเลยนะลูเซียร์""มะ...หมายความว่ายังไงคะ" ตอนแรกเธอเผื่อใจเอาไว้ พยายามไม่คาดหวังมากเกินไป แต่พอได้ยินเขาพูดแบบนี้ออกมา เธอกลับคาดหวังไปมากจนไม่สามารถเผื่อใจเอาไว้ได้"จอดรถก่อน" เขาหันไปสั่งไทจิไทจิเมื่อได้รับคำสั่งก็ตบไฟเลี้ยวเพื่อหาที่จอดรถ ไทจิและโซลเปิดประตูลงไปรอเจ้านายนอกรถ ปล่อยให้อังเดรและลูเซียร์ได้คุยกันตามลำพัง"จำตอนเด็กๆ ที่เธอบอกว่าอยากแต่งงานกับฉันได้ไหม""จำได้ค่ะ""หลังจากเธอกลับบ้านไป ไม่รู้อะไรดลใจให้ฉันไปบอกพ่อกับแม่ ว่าโตขึ้นอยากแต่งงานกับเธอ อยากใช้ชีวิตคู่กับเธอไปจนกว่าจะตายกันไปข้างนึง"เธอนั่
ปัง!"อึก...อ้วก~" ร่างสูงวิ่งตรงไปยังห้องน้ำของห้องพักในโรงแรมที่พักอยู่กับลูเซียร์ อัวเดรเปิดประตูห้องน้ำอย่างแรงจนกระแทกกับผนังหนา ก่อนที่จะเข้าไปโก่งคออาเจียนลงชักโครกอย่างห้ามสิ่งที่ดันขึ้นมากองบนคอหอยไว้ไม่ได้อาหารที่ทานเข้าไปก่อนหน้านี้ถูกขับออกมาจนแทบหมดไส้หมดพุง ลูเซียร์วิ่งตามคู่หมั้นหนุ่มเข้ามาในห้องน้ำด้วยความเป็นห่วง เธอยกมือลูบแผ่นหลังกว้างเบาๆ ก่อนหน้านั้นนั่งทานอาการกันดีๆ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนกระทั่งขึ้นมาบนที่พัก อังเดรก็เริ่มมีอาการคลื่นไส้อาเจียนอย่างที่เห็น "พี่เดย์ไหวไหมคะ""ไหว..." เขาเอียงใบหน้าไปตอบลูเซียร์ด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ก่อนจะหันไปโก่งคออาเจียนอีกรอบแทบไม่ทัน"เซียร์ว่าพี่เดย์ไปหาหมออีกรอบดีไหมคะ ให้หมอเขาตรวจให้ละเอียดว่าพี่เดย์เป็นอะไรกันแน่" เขายกมือข้างหนึ่งขึ้นโบกมาเป็นการปฏิเสธ บางครั้งเขาก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมอยู่ดีๆ ถึงมาป่วยกะทันหันแบบนี้ได้ ปกติเขาออกกำลังกายเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ แถมร่างกายยังแข็งแรงไม่ใช่คนป่วยง่ายขนาดนี้ ผิดกับคราวนี้ ที่อยู่ดีๆ ก็มีอาการแบบนี้เกิดขึ้นหลังจากอาเจียนเสร็จ อังเดรดึงตัวเองขึ้นจากพื้นพลางเอื้อมมื
หลายชั่วโมงต่อมาคนตัวเล็กที่นอนหลับใหลบนเตียงนอนหนานุ่มขนาดใหญ่เริ่มขยับตัวไปมา เปลือกตาสีขาวค่อยๆ ปรือขึ้นอย่างยากลำบาก ข้างกายที่เคยมีคู่หมั้นหนุ่มซึ่งนอนด้วยกันมาตั้งแต่แรก ตอนนี้กลับว่างเปล่าไร้ซึ่งวี่แววของเขาคนนั้นเธอดึงตัวเองขึ้นมานั่งพิงหัวเตียงในอาการง่วงซึมพลางยกมือขึ้นมาขยี้ดวงตาตัวเองเบาๆ หลังจากนั้นจึงกวาดสายตามองหาอังเดร แต่กลับพบเพียงความว่างเปล่าเช่นเดิม เริ่มคิดแล้วว่าเรื่องราวก่อนหน้านั้นคือความจริงหรือความฝัน ทว่าช่วงล่างที่รู้สึกเจ็บแปลบเล็กน้อยมันทำให้เธอได้คำตอบว่า...นี่ไม่ใช่ความฝัน"ถ้าเขาอยู่ที่นี่จริงๆ แล้วเขาหายไปไหนแล้ว...ช่างเถอะ" เธอสะบัดไล่ความคิดที่อยู่ในหัวออก ก่อนจะเหวี่ยงขาทั้งสองข้างลงจากเตียงนอนแล้วเดินตรงไปยังห้องน้ำเพื่อล้างหน้าหลังจากเสร็จจากตรงนั้น เธอเดินออกมาจากห้องน้ำออกมานอกห้องนอน แต่ทว่าต้องชะงัก เมื่อสายตาพลันเห็นคนที่ตัวเองมองหาตอนตื่นนอนใหม่ๆ ซึ่งตอนนี้เขากำลังยืนกินมะม่วงคนเดียวตรงเคาน์เตอร์ครัวเขาไม่ได้หายไปไหน...แต่แค่ออกมาหาอะไรกินเท่านั้น"ตื่นแล้วเหรอ" เขาเอ่ยทักทายลูเซียร์พลางยกมะม่วงขึ้นมากัดกินอย่างเอร็ดอร่อย"พี่เดย์เอาม
@นิวยอร์ก ณ โรงแรมระดับห้าดาวเธอก้าวขาลงจากรถหรูที่คุณพ่อส่งมารับถึงสนามบิน โดยมีคนขับรถของคุณพ่อเดินมาเปิดประตูรถให้ เธอยิ้มให้ชายในชุดสูทสีดำอย่างเป็นมิตร ก่อนจะเดินตามพนักงานที่มารอต้อนรับเข้าไปข้างใน โรงแรมนี้เป็นของคุณพ่อซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองนิวยอร์ก เธอเป็นคนเลือกเองว่าจะพักที่โรงแรมแทนที่บ้าน เพราะยังทำใจเรื่องที่พ่อแม่หย่ากันไม่ได้อยู่นิดนึง เลยเลือกพักที่โรงแรม เธอเดินตามพนักงานโรงแรมมายังห้องพักระดับวีไอพีแถมยังเป็นห้องสวีทอีกต่างหาก เธอไม่ได้จัดการเรื่องห้องพักเพราะคุณพ่อทำให้เรียบร้อยทุกอย่าง"ขอบคุณนะคะ" เธอพูดกับพนักงานที่ช่วยถือกระเป๋าเดินทางเข้ามาในห้องด้วยภาษาอังกฤษ"ยินดีครับ" พนักงานชายของโรงแรมตอบกลับ ก่อนจะเดินออกมาจากห้องพักลูเซียร์ เธอวางกระเป๋าสะพายลงโซฟา ก่อนจะเดินมาทิ้งตัวลงนอนแผ่หลาบนเตียงนอนด้วยความเหนื่อยล้าจากการเดินทางมาร่วมหลายชั่วโมง เปลือกตาค่อยๆ ปิดลงอย่างช้าๆ ในจังหวะกำลังเคลิ้มหลับ เสียงปลดล็อกประตูจากสักที่ของที่พักก็ดังเข้ามาในหู ทำให้เธอลืมตาขึ้น"มาถึงเหนื่อยๆ อาบน้ำสักหน่อยได้ไหม" เสียงเข้มคุ้นเคยที่ดังเข้ามาในหูทำให้ลูเซียร์มองหาต้นเ