บทที่ 19
รักฉันไหม
“ฉันรู้...ไม่เป็นไรฉันไปช่วยตัวเองในห้องน้ำก็ได้ ไม่ต้องกลัวว่าฉันจะบังคับขืนใจเธอหรอกนะ” บาสเตียนรู้ดีว่ามันไม่ควร แต่ตอนนี้เขามีความต้องการมากเหลือเกิน แต่สิ่งที่ทำได้ในตอนนี้นั่นคือการช่วยตัวเองเท่านั้น จึงทำท่าจะลุกขึ้นจากเตียงไปแต่ทว่าอินทิรากลับคว้าหมับที่แขนรั้งตัวไว้เสียก่อน
“นายจะไปไหนอ่ะ”
“ก็จะไปช่วยตัวเองไงล่ะ ปล่อยมือฉันได้แล้ว” ชายหนุ่มพูดเสียงอ่อยราวกับงอนอีกฝ่ายเสียเหลือเกิน
“ไม่ต้องไปแล้วเดี๋ยวฉันช่วยเอง” อินทิรายิ้มให้เขา
“จริงๆ นะ ฉันรักเธอที่สุดในโลกเลย” เมื่อได้ยินอย่างนั้นบาสเตียนก็เบิกตาโพลงด้วยความดีใจ รีบทะยานตัวเข้าไปกอดอีกฝ่ายไว้ทันที
“ปล่อยฉันก่อนดิหายใจไม่ออกแล้วเนี่ย”
“โอเคๆ ปล่อยแล้วครับ ปล่อยแล้ว” บาสเตียนคลายอ้อมกอดปล่อยให้อีกฝ่ายเป็นอิสระ จากนั้นก็รีบจัดการถอดกางเกงบ็อกเซอร์ออกโดยเร็ว
อินทิราเองก็ปลดเปลื้องเสื้อสายเดี่ยวตั
บทที่ 20ผู้มาเยือนเข้าสู่เดือนที่สาม...“นายฉันหิว”“หิวก็เดินไปกินเองดิฉันกำลังทำงานอยู่” บาสเตียนกำลังงุ่นอยู่กับการทำงานในแล็ปท็อป ไม่แม้แต่จะหันไปสนใจเจ้าหล่อนเลยสักนิด“ไม่เอา...ฉันอยากให้นายไปเอาให้” คนที่นั่งข้างกันกอดแขนไว้แน่น ซบแก้มขาวแนบชิดต้นแขนอย่างออดอ้อน“ฉันยุ่งอยู่ไม่เห็นรึไง” บาสเตียนทำท่าจะไม่ยอม แต่อินทิราเองก็ไม่ยอมเช่นเดียวกัน“จะไปไม่ไป ฉันอยากกินมะม่วงน้ำปลาหวาน เมื่อวานนี้บอกให้ป้าสมัยไปซื้อให้แล้ว ไปเอามาซะดีๆ” ในเมื่ออ้อนไม่ได้ผล อินทิราจึงต้องเล่นบทโหดแทน“โอเคๆ ไปก็ไปนั่งรออยู่ตรงนี้ล่ะ” ชายหนุ่มจิ๊ปากก่อนจะลุกขึ้นจากโซฟาอย่างอิดออด“รีบมานะฉันเปรี้ยวปากจะแย่แล้ว”“ครับเจ้านาย” บาสเตียนพูดประชดประชันก่อนจะเดินตรงเข้าไปในครัวอินทิรายิ้มแก้มแทบปริขณะมองตามหลังอีกฝ่ายไป ช่วงที่ผ่านมาอินทิราแทบไม่ยอมให้บาสเตียนห่างกายแม้แต่วินาที
บทที่ 21บอกรักบาสเตียนยังคงนั่งจ้องมองหน้าจอมอนิเตอร์อย่างตั้งใจ เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าดังแว่วเข้ามาใกล้เรื่อยๆ เจ้าตัวจึงเงยหน้าขึ้นไปยิ้มให้เพราะคิดว่าเป็นอินทิรา แต่ทว่าสิ่งที่เห็นมันกลับไม่ใช่ ชายหนุ่มหน้าถอดสีเมื่อเห็นดวงหน้าสวยที่คุ้นเคยเป็นอย่างดี ภาพในอดีตฉายซ้ำขึ้นในความคิดหวนให้ความเจ็บปวดรุกรานหัวใจอีกครั้งหนึ่ง“สวัสดีค่ะบาสเตียน” พลอยดาวเป็นฝ่ายเอ่ยทักชายหนุ่มด้วยรอยยิ้ม ราวกับเรื่องที่ผ่านมามันเป็นเหมือนฝันแค่นั้นเอง“ไสหัวออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้!” บาสเตียนลุกขึ้นยืนชี้หน้าหญิงสาวไล่ออกจากบ้าน จ้องเขม็งด้วยสายตาอันเกรี้ยวกราด ใบหน้าคมแดงก่ำราวกับลูกตำลึงสุก กำหมัดไว้แน่นจนสั่นเทา บ่งบอกว่าอีกฝ่ายมีอิทธิพลต่อจิตใจเขามากแค่ไหน“ทำไมไล่คนคุ้นเคยออกจากบ้านอย่างนี้ล่ะคะ พลอยคิดถึงคุณมากเลยรู้ไหม” เจ้าหล่อนยังคงยิ้มไม่รู้สึกผิดกับสิ่งที่เคยทำกับอีกฝ่ายไว้เลยสักนิด“แต่ฉันขยะแขยงเธอ คนอย่างเธอมันก็แค่ผู้หญิงไร้ค่า ที่ใครจะหิ้วไปไหนต่อ
บทที่ 22ป๋าพลอยดาวเดินลงมาชั้นล่างในเช้าวันใหม่พร้อมกับชุดเดรสรัดรูปสีดำนิล ใบหน้าสวยถูกแต่งแต้มไปด้วยเครื่องสำอางแบรนด์ดังขับความงามให้โดดเด่นขึ้นไปอีกเป็นเท่าตัว เจ้าหล่อนยุรยาตรเยื่องย้ายไม่ต่างจากเจ้าหญิงในคฤหาสน์หรู ราวกับที่นี่คืออาณาจักรของเธอซะอย่างนั้น“นี่เธอตั้งโต๊ะเสร็จรึยัง” เมื่อเห็นนงคราญเดินผ่านหน้าเจ้าหล่อนจึงเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้าง“คุณบาสเตียนกับคุณอินออกไปข้างนอกเลยไม่ได้ตั้งสำรับเช้าค่ะ” นงคราญตอบอย่างไม่ยี่หระ เพราะป้าสมัยเป็นคนสั่งให้เมินเฉยต่อผู้หญิงคนนี้นั่นเอง“แล้วฉันล่ะ” พลอยดาวตวาดใส่สาวใช้อย่างไม่ไว้หน้า“คุณก็ไปหากินในครัวเองสิคะ” พูดจบนงคราญก็เดินหนีไปโดยเร็ว ปล่อยให้อีกฝ่ายยืนทุรนทุรายด้วยความโมโหร้ายเพียงลำพัง“กรี๊ดดดด!! อีบ้า คอยดูเถอะฉันจะบอกบาสเตียนให้เฉดหัวแกออกไป”“เฉดหัวใครเหรอคะคุณพลอยดาว” ป้าสมัยเดินมาได้ยินเข้าพอดีจึงเอ่ยถามด้วยโทนเสียงไม่เป็นมิตร
บทที่ 23ฉันหวงทั้งสองกำลังจะเดินออกจากห้างเพื่อเดินทางกลับ ก็เจอกับแม็กซ์เวลล์เข้าโดยบังเอิญ แต่ทว่าอีกฝ่ายไม่ได้มาคนเดียวยังมีแหม่มคนสวยอยู่ในอ้อมแขน สีหน้ายิ้มแย้มดูท่าทางสนิทสนมราวกับเป็นคู่รัก อินทิราเห็นแล้วก็นึกถึงใบหน้าอันเศร้าสร้อยของแอนดริวขึ้นมาทันที คงเป็นอย่างที่เพื่อนของเธอพูด ว่าแม็กซ์เวลล์คงไม่สามารถมารักกับผู้ชายได้จริงๆ เจ้าหล่อนนึกหมั่นไส้ที่แม็กซ์เวลล์มีความสุขแต่เพื่อนของเธอกลับเอาแต่ทุกข์ใจเพราะลืมผู้ชายคนนี้ไม่ได้“อ้าว! คุณแม็กซ์เวลล์” อินทิราเอ่ยทัก“อ้าว! คุณอินพาหมาที่บ้านออกมาเดินเล่นเหรอครับ”“ไอ้ห่า! อยากกินลูกตะกั่วรึไง แล้วนี่มึงมากับใคร” บาสเตียนแสร้งถามเพราะรู้อยู่แล้วว่าเป็นสาวคนใหม่ของเพื่อน“นี่เจสสิก้าแฟนกูเอง”“โอ้โห...แอบไปมีแฟนตั้งแต่ตอนไหววะเนี่ย สวัสดีครับคุณเจสสิก้า” บาสเตียนเอ่ยทักทายแหม่มผมทองหน้าตาสะสวยที่เพื่อนกำลังโอบไหล่อยู่ตรงหน้า“สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้รู้
บทที่ 24ก้างขวางคอภายในคอนโดสุดหรูใจกลางเมืองลาสเวกัส หนุ่มร่างเพรียวกำลังละเมียดละไมกับการแต่งตัวเพื่อออกไปทำงาน เมื่อมั่นใจว่าดูดีแล้วจึงละจากหน้ากระจกเงาแล้วเดินไปหยิบกระเป๋าที่เตียงเพื่อเดินออกไปจากห้องมือเรียวเอื้อมไปหมุนลูกบิดประตูเพื่อเปิดห้อง กำลังจะก้าวขาเดินออกไปก็ต้องตกใจจนสะดุ้งโหยงเมื่อเจอกับใครบางคนที่เขาไม่อยากจะเห็นหน้าในวินาทีนี้“คุณแม็กซ์เวลล์!”เมื่อตั้งสติได้แอนดริวจึงรีบปิดประตูไว้ แต่อีกฝ่ายกลับเบียดตัวเข้ามาจนสำเร็จ จากนั้นแม็กซ์เวลล์ก็ปิดประตูล็อกไว้เดินย่างสามขุมเข้ามาหา แอนดริวทำได้เพียงเดินถอยหลังไปเรื่อยๆ ด้วยความระแวดระวัง เพราะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมาด้วยจุดประสงค์อันใด“ตกใจมากเลยเหรอที่เป็นฉัน” แม็กซ์เวลล์แสยะยิ้มมองอีกฝ่ายปานจะกินเลือดกินเนื้อเสียให้ได้ เขาอยากมาดูให้เห็นกับตาว่าผู้ชายคนนั้นมันจะหล่อมากกว่าเขาสักแค่ไหนกันเชียว“คุณมาที่นี่ทำไม?” แอนดริวเดินถอยจนหลังประชิดผนังห้อง ทำให้ตอนนี้โดนกักตัวด้วยวงแขนแกร่
บทที่ 25จุดจบของนางร้าย“ฉันไม่อยากฟังคำแก้ตัวอะไรทั้งนั้น เพราะนับจากนี้ฉันจะอภัยให้เธอแล้ว เรื่องระหว่างเราจะถือว่ามันไม่เคยเกิดขึ้น” บาสเตียนบอกกับหญิงสาวเมื่อได้ยินอย่างนั้นพลอยดาวก็เริ่มยิ้มออก เธอไม่นึกไม่ฝันว่าบาสเตียนจะคำนี้ออกมา ทั้งที่แต่ก่อนเอาแต่ก่นด่าเธอทุกครั้งที่เจอหน้ากัน“ขอบคุณนะคะบาสเตียน”“ที่ฉันยอมเพราะอินทิราเป็นคนขอร้อง ฉันไม่อยากให้เมียฉันต้องคิดมากกับเรื่องนี้อีก คงเข้าใจแล้วนะว่าทำไมเธอถึงเทียบอินทิราไม่ติดเลยสักนิด” บาสเตียนเอ่ยพลางกระชับอ้อมแขนโอบไหล่อินทิราให้แน่นขึ้นไปอีกพลอยดาวแทบเปลี่ยนอารมณ์ไม่ทัน เมื่อบาสเตียนสาธยายความจริงให้เธอได้รับฟัง เขาพูดราวกับว่าเธอไม่ได้มีค่าในสายตาเลยสักนิด เป็นเพราะอินทิราคนเดียวที่ทำให้เรื่องทุกอย่างมันแย่ลงอย่างนี้ นั่นทำให้เธอเกลียดอินทิราเข้าไส้มากขึ้นไปอีก“กรี๊ดดดด!!! ทำไมต้องเอาพลอยไปเปรียบเทียบกับผู้หญิงคนนี้ด้วย ผู้หญิงชั้นต่ำที่เอาตัวเองมาแลกกับเงินอย่างนี้”
บทที่ 26กลับบ้านเมื่อเดินเข้าไปในบ้านก็พบบาสเตียนกำลังนั่งปลอบใจอินทิราอยู่โซฟา โดยหญิงสาวกำลังร้องไห้ร้องห่มราวกับเจอเรื่องทุกข์ใจมาอย่างแสนสาหัส เห็นอย่างนั้นผู้มาใหม่ทั้งสองจึงรีบเดินตรงไป เพื่อจะถามไถ่ถึงเรื่องราวความเป็นมา“เกิดอะไรขึ้นครับบอส” แอนดริวเอ่ยถาม“นั่นสิทำไมคุณอินถึงได้ร้องไห้หนักขนาดนี้ เมื่อครู่กูเห็นพลอยดาวโดนการ์ดลากตัวออกไปหรือว่าเป็นฝีมือพลอยดาว” แม็กซ์เวลล์ถามต่อ“เพราะยัยนั่นล่ะ” บาสเตียนพูดด้วยสีหน้ายุ่งเล็กน้อย เห็นอินทิราไม่สบายใจอย่างนี้ก็ทำให้เขารู้สึกแย่ตามไปด้วย“ทิ้งมึงไปแล้วยังจะกลับมาหาหอกอะไรอีกวะ แถมยังมาทำร้ายคุณอินอีกต่างหาก” แม็กซ์เวลล์เป็นเดือดเป็นร้อนแทนเพื่อนรักซะเต็มประดา“กูถึงได้ไล่ออกจากบ้านไปยังไงล่ะ”“ว่าแต่พลอยดาวทำอะไรคุณอินวะ ถึงได้ร้องไห้ร้องห่มอย่างนี้” แม็กซ์เวลล์ถามต่อ“ยัยนั่นให้เพื่อนที่เมืองไทยไปบอกแม่อินทิราว่ามารับจ้างเป็นแม่
บทที่ 27แม่ยายจ๋าหลังจากเครื่องแลนดิ้งลงบนผืนแผ่นดินไทยแล้ว ทั้งสองก็รีบเดินทางไปยังโรงพยาบาลในทันที นั่นเพราะมารดาของอินทิรากำลังพักฟื้นอยู่ที่นั่นตั้งแต่เมื่อครั้งเกิดเรื่องขึ้นนั่งแท็กซี่มาถึงโรงพยาบาลแล้ว ทั้งสองก็รีบขึ้นมายังห้องพักฟื้น บาสเตียนยื่นมือมาให้อีกฝ่ายประสานไว้อย่างแนบแน่น ส่งยิ้มให้กำลังใจกันและกัน ชายหนุ่มออกแรงบีบมือเจ้าหล่อนเบาๆ เพื่อเตือนสติให้รับรู้ว่า เขาพร้อมที่จะอยู่ข้างกันอย่างนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น“พร้อมแล้วใช่ไหม”“อื้อ...ฉันพร้อมแล้ว”จากนั้นบาสเตียนจึงเปิดประตูจูงมือคนรักเข้าไปในห้อง ก็เจอกับน้องชายที่กำลังป้อนข้าวผู้เป็นมารดาอยู่บนเตียง แวบแรกที่เห็นอินทิราถึงกับปล่อยโฮออกมา นั่นเพราะใบหน้าของมารดาซีดเซียวแตกต่างจากครั้งล่าสุดที่เธอเห็น บนศีรษะก็มีหมวกไหมพรมสวมไว้ เพื่อปกปิดอาการผมร่วงจากการทำคีโมนั่นเอง“แม่! ฮือ...” อินทิรารีบโผเข้าไปกอดผู้เป็นมารดา แต่ทว่ากลับได้รับการปฏิเสธจากทั้งคำพูดและการกระทำ จนเจ้า
บทที่ 33อวสานหลังจากเปลี่ยนดอกไม้ในแจกันบนโต๊ะหมู่บูชาแล้ว อินทิราก็บอกให้ลูกทั้งสองคนกราบพระประธานที่ตั้งตระหง่านอยู่ข้างบนสุด จากนั้นก็หันไปมองยังมุมห้องที่มีโกศเล็กๆ วางอยู่พร้อมกับรูปถ่ายของผู้เป็นมารดา อินทิราส่งยิ้มให้มารดาทุกครั้งที่เข้ามาในห้องแห่งนี้“กราบคุณยายสิคะ” เจ้าหล่อนบอกกับลูกทั้งสองคนด้วยรอยยิ้ม“ทำไมมัมต้องพาพวกเรามากราบคุณยายทุกวันด้วยครับ” แมทธิวเอ่ยกับมารดาด้วยสีหน้าสงสัย“คุณยายเคยเลี้ยงดูเรามาตั้งแต่เด็ก เราจะปล่อยให้คุณยายเหงาได้ยังไง ถ้ามัมไม่อยู่แล้วแมทธิวเองก็ต้องทำอย่างนี้เหมือนกันเข้าใจไหมครับ”“เข้าใจแล้วครับมัม ผมจะมากราบคุณยายพร้อมมัมทุกวันเลยครับ คุณยายจะได้ไม่เหงา”“ดีมากจ๊ะลูก” อินทิราลูบกลางกระหม่อมลูกชายเบาๆ อย่างเอ็นดู “แล้วแอนนาล่ะคะ”“กราบ...ยาย” เด็กหญิงตอบรับเป็นคำๆ ราวกับเข้าใจเป็นอย่างดีเช่นเดียวกันจากนั้นเด็กทั้งสองก็ก้มกราบโกศสีทองแ
บทที่ 32พลอยดาวสามปีต่อมาในสถานบันเทิงชื่อดังใจกลางเมืองลาสเวกัส นักท่องราตรีหลากหลายเชื้อชาติต่างก็เข้ามาหาความสุขกันอย่างไม่ได้นัดหมาย ดนตรีเพลงละตินดังก้องโลกทำให้บรรดาหนุ่มสาวเกิดความคึกคะนอง ต่างก็โยกย้ายส่ายสะโพกกันอย่างสนุกสนานฉายภาพมาที่ห้องวีไอพีสุดหรูซึ่งเป็นธุรกิจแอบแฝงของที่นี่ กลุ่มนักดื่มสูงวัยผิวสีสามสี่คนกำลังโอบกอดหญิงสาวชาวเอเชียที่แต่งตัววับแวมล่อเสือล่อตะเข้ คอยเอาอกเอาใจแขกคนสำคัญอย่างรู้งาน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือพลอยดาวหลังจากวันที่โดนไล่ละเพิดออกมาจากคฤหาสน์ของบาสเตียน เจ้าหล่อนก็บังเอิญเจอกับมาเฟียหนุ่มใหญ่เจ้าของซ่องที่ใหญ่ที่สุดในลาสเวกัส ตอนแรกเขาต้อนรับเธอเข้ามาอยู่ในฐานะเมียดูแลซะดิบดี แต่ทว่าพอเบื่อแล้วเจ้าหล่อนก็เป็นเพียงแค่หนึ่งในบรรดาสาวๆ ที่ต้องเข้าไปทำงานในซ่องพลีกายให้กับบรรดานักธุรกิจแก่ตัณหากลับหลากหลายเชื้อชาติ ที่เข้ามาใช้บริการด้วยวงเงินที่สูงพอตัวพลอยดาวกำลังนั่งบนตักลูกค้าผิวสีคนหนึ่งอายุราวหกสิบเห็นจะได้ แม้ว่าเขาจะถูกใจเธอมากเป็นพิเศษ แต
บทที่ 31ห้องนอนน้อยๆหลังจากทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดีแล้ว ทุกคนก็แยกย้ายกันเข้านอน ภายในห้องนอนเล็กๆ ซึ่งเป็นที่ซุกหัวนอนของอินทิรามาตั้งแต่เด็กจนโต ข้าวของทุกอย่างยังคงถูกวางไว้ที่เดิม ไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนแปลงแม้ว่าจะไม่ได้อยู่เสียนานเตียงนอนขนาดเล็กทำให้ไม่สามารถนอนพร้อมกันได้สองคน บาสเตียนจึงต้องปูฟูกนอนอยู่ข้างเตียง นุ่งผ้าขาวม้านอนคุยไลน์กับเลขาส่วนตัวเรื่องงาน ส่วนอินทิราก็นอนจ้องมองเพดานห้องลูบท้องตัวเองเบาๆ ใบหน้าสวยมีรอยยิ้มน้อยๆ ฉายออกมาตลอดเวลา บ่งบอกว่าเจ้าหล่อนมีความสุขมากแค่ไหน“เธอ…นอนยัง?” เสียงคนที่นอนอยู่ข้างล่างเอ่ยเรียก อินทิราจึงเอียงใบหน้าสวยหันไปมองยังต้นเสียง แม้จะมองไม่เห็นหน้าเขาก็ตามที“ยัง...ทำไมเหรอ?”“ฉันไม่ได้นอนกอดเธอ...นอนไม่หลับอ่ะ”“แล้วจะให้ฉันทำยังไงล่ะ” อินทิรายิ้มน้อยๆ รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังต้องการอะไร“ฟูกข้างล่างนุ่มมาก แถมยังกว้างอีกด้วยนะ”“แล้วจะบอกฉันทำไม
บทที่ 30ความเข้าใจ“มาแล้วคร้าบบบ”หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่แล้ว บาสเตียนจึงรีบวิ่งลงมาจากห้องเพื่อร่วมวงทานข้าว เมื่อมาถึงก็พบว่าทั้งสามได้นั่งรออยู่ก่อนแล้ว ที่บ้านของอินทิราใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายมาโดยตลอด เพราะทุกคนคุ้นชินกับการปูเสื่อนั่งล้อมวงทานข้าวกันมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว แต่สำหรับบาสเตียนมันคือเรื่องแปลกใหม่มากๆ“นั่งลงสิ” อินทิราเงยหน้าขึ้นไปเอ่ยเมื่อเห็นบาสเตียนเอาแต่ยืนมองดูไม่ยอมนั่งลงเสียที“คงจะรับไม่ได้สินะที่ต้องมานั่งกินข้าวแบบบ้านๆ อย่างนี้” แก้วกันยาเอ่ยประชด“ทำไมจะไม่ได้ล่ะครับคุณแม่ ผมอยู่ง่ายกินง่ายไม่เลือกมากคร้าบบ” บาสเตียนนั่งขัดสมาธิอย่างเก้ๆ กังๆ โปรยยิ้มให้ทุกคนก่อนจะหยิบช้อนแกงในจานข้าวจะไปตักอาหาร แต่กลับไม่คุ้นชินเมนูที่อยู่ในจานเลยอย่างบาสเตียนลังเลใจอยู่นานกว่าจะเลือกได้ และสุดท้ายหวยก็มาลงที่จานไข่เจียวขณะเคี้ยวข้าวตุ้ยๆ อยู่นั้นบาสเตียนก็หันไปมองอินทิราด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ยัก
บทที่ 29ตัวหอมหลังจากทำเคมีบำบัดครั้งสุดท้ายเสร็จสิ้นลง คุณหมอจึงอนุญาตให้แก้วกันยากลับไปพักฟื้นที่บ้านได้ แม้ว่าช่วงเวลาที่อยู่ในโรงพยาบาลบาสเตียนก็เอาอกเอาใจแม่ยาย ทำหน้าที่ยิ่งกว่าลูกแท้ๆ เสียอีก แต่ทว่าท่าทีของแก้วกานดากลับยังไม่อ่อนลงเลยสักนิด ตรงกันข้ามสำหรับอินทิราสถานการณ์กลับเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ ไม่ได้ออกปากไล่ตะเพิดเหมือนเมื่อครั้งที่เจอกันตอนแรกแล้วบาสเตียนไม่เคยปรนนิบัติพัดวีใครอย่างนี้มาก่อนนอกจากมารดาของตัวเอง แต่ทว่าสำหรับความรักครั้งนี้เจ้าตัวทุ่มหมดหน้าตัก เพื่อจะได้มีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบอย่างที่เคยมีในวัยเด็กอีกครั้งอาณัฐพยุงผู้เป็นมารดาลงมาจากรถแท็กซี่เข้าไปในบ้าน โดยมีอินทิราและบาสเตียนเดินตามหลังมาติดๆบ้านไม้สองชั้นเก่าๆ ริมคลอง มีเรือหางยาวแล่นผ่านเป็นระยะๆ ทำให้บาสเตียนเกิดความสนใจเป็นพิเศษ ตั้งแต่เกิดมาเขาไม่เคยเห็นบรรยากาศแบบนี้มาก่อน ทำให้รู้สึกผ่อนคลายไม่วุ่นวายเหมือนเมืองที่เคยอยู่มาตั้งแต่เกิดอย่างลาสเวกัสเลยสักนิด“บ้านเธอน่าอยู่ดีนะ” บาสเต
บทที่ 28ลูกเขยเจ้าเล่ห์วันต่อมา“อาร์ออกมาคุยกับพี่หน่อยสิ” บาสเตียนเอ่ยเรียกอาณัฐออกมาที่หน้าห้องพักผู้ป่วย ขณะคุณหมอเข้ามาตรวจผู้เป็นมารดาภายในห้องเดินออกมาถึงหน้าห้องแล้วบาสเตียนก็ยื่นบัตรเครดิตให้“อะไรครับพี่” อาณัฐมองหน้าอย่างงงๆ“บัตรเครดิตไง พี่ให้ไปช้อปปิ้ง เราดูแลแม่มานานคงอยากจะไปเที่ยวบ้าง จัดให้เต็มที่เลยนะเดี๋ยวพี่กับอินทิราจะดูแลคุณแม่ให้เองไม่ต้องห่วง”“ขอบคุณครับพี่” อาณัฐยกมือไหว้ด้วยความดีใจ ยิ้มไม่ยอมหุบ ก่อนจะยื่นมือไปรับมา “แล้วมันใช้ได้เท่าไหร่ครับพี่”“ไม่อั้น” บาสเตียนส่งยิ้มน้อยๆ ให้“เยส!!! ขอบคุณมากๆ ครับพี่” อาณัฐโผเข้ากอดบาสเตียนก่อนจะรีบเดินออกไปอย่างอารมณ์ดีบาสเตียนยิ้มส่ายหน้าเบาๆ ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้อง“แม่คะทานข้าวนะเดี๋ยวหนูป้อน” อินทิรายกถาดข้าวต้มพร้อมทั้งแก้วน้ำดื่มมาวางไว้ข้างเตียง เตรียมพร้อมสำห
บทที่ 27แม่ยายจ๋าหลังจากเครื่องแลนดิ้งลงบนผืนแผ่นดินไทยแล้ว ทั้งสองก็รีบเดินทางไปยังโรงพยาบาลในทันที นั่นเพราะมารดาของอินทิรากำลังพักฟื้นอยู่ที่นั่นตั้งแต่เมื่อครั้งเกิดเรื่องขึ้นนั่งแท็กซี่มาถึงโรงพยาบาลแล้ว ทั้งสองก็รีบขึ้นมายังห้องพักฟื้น บาสเตียนยื่นมือมาให้อีกฝ่ายประสานไว้อย่างแนบแน่น ส่งยิ้มให้กำลังใจกันและกัน ชายหนุ่มออกแรงบีบมือเจ้าหล่อนเบาๆ เพื่อเตือนสติให้รับรู้ว่า เขาพร้อมที่จะอยู่ข้างกันอย่างนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น“พร้อมแล้วใช่ไหม”“อื้อ...ฉันพร้อมแล้ว”จากนั้นบาสเตียนจึงเปิดประตูจูงมือคนรักเข้าไปในห้อง ก็เจอกับน้องชายที่กำลังป้อนข้าวผู้เป็นมารดาอยู่บนเตียง แวบแรกที่เห็นอินทิราถึงกับปล่อยโฮออกมา นั่นเพราะใบหน้าของมารดาซีดเซียวแตกต่างจากครั้งล่าสุดที่เธอเห็น บนศีรษะก็มีหมวกไหมพรมสวมไว้ เพื่อปกปิดอาการผมร่วงจากการทำคีโมนั่นเอง“แม่! ฮือ...” อินทิรารีบโผเข้าไปกอดผู้เป็นมารดา แต่ทว่ากลับได้รับการปฏิเสธจากทั้งคำพูดและการกระทำ จนเจ้า
บทที่ 26กลับบ้านเมื่อเดินเข้าไปในบ้านก็พบบาสเตียนกำลังนั่งปลอบใจอินทิราอยู่โซฟา โดยหญิงสาวกำลังร้องไห้ร้องห่มราวกับเจอเรื่องทุกข์ใจมาอย่างแสนสาหัส เห็นอย่างนั้นผู้มาใหม่ทั้งสองจึงรีบเดินตรงไป เพื่อจะถามไถ่ถึงเรื่องราวความเป็นมา“เกิดอะไรขึ้นครับบอส” แอนดริวเอ่ยถาม“นั่นสิทำไมคุณอินถึงได้ร้องไห้หนักขนาดนี้ เมื่อครู่กูเห็นพลอยดาวโดนการ์ดลากตัวออกไปหรือว่าเป็นฝีมือพลอยดาว” แม็กซ์เวลล์ถามต่อ“เพราะยัยนั่นล่ะ” บาสเตียนพูดด้วยสีหน้ายุ่งเล็กน้อย เห็นอินทิราไม่สบายใจอย่างนี้ก็ทำให้เขารู้สึกแย่ตามไปด้วย“ทิ้งมึงไปแล้วยังจะกลับมาหาหอกอะไรอีกวะ แถมยังมาทำร้ายคุณอินอีกต่างหาก” แม็กซ์เวลล์เป็นเดือดเป็นร้อนแทนเพื่อนรักซะเต็มประดา“กูถึงได้ไล่ออกจากบ้านไปยังไงล่ะ”“ว่าแต่พลอยดาวทำอะไรคุณอินวะ ถึงได้ร้องไห้ร้องห่มอย่างนี้” แม็กซ์เวลล์ถามต่อ“ยัยนั่นให้เพื่อนที่เมืองไทยไปบอกแม่อินทิราว่ามารับจ้างเป็นแม่
บทที่ 25จุดจบของนางร้าย“ฉันไม่อยากฟังคำแก้ตัวอะไรทั้งนั้น เพราะนับจากนี้ฉันจะอภัยให้เธอแล้ว เรื่องระหว่างเราจะถือว่ามันไม่เคยเกิดขึ้น” บาสเตียนบอกกับหญิงสาวเมื่อได้ยินอย่างนั้นพลอยดาวก็เริ่มยิ้มออก เธอไม่นึกไม่ฝันว่าบาสเตียนจะคำนี้ออกมา ทั้งที่แต่ก่อนเอาแต่ก่นด่าเธอทุกครั้งที่เจอหน้ากัน“ขอบคุณนะคะบาสเตียน”“ที่ฉันยอมเพราะอินทิราเป็นคนขอร้อง ฉันไม่อยากให้เมียฉันต้องคิดมากกับเรื่องนี้อีก คงเข้าใจแล้วนะว่าทำไมเธอถึงเทียบอินทิราไม่ติดเลยสักนิด” บาสเตียนเอ่ยพลางกระชับอ้อมแขนโอบไหล่อินทิราให้แน่นขึ้นไปอีกพลอยดาวแทบเปลี่ยนอารมณ์ไม่ทัน เมื่อบาสเตียนสาธยายความจริงให้เธอได้รับฟัง เขาพูดราวกับว่าเธอไม่ได้มีค่าในสายตาเลยสักนิด เป็นเพราะอินทิราคนเดียวที่ทำให้เรื่องทุกอย่างมันแย่ลงอย่างนี้ นั่นทำให้เธอเกลียดอินทิราเข้าไส้มากขึ้นไปอีก“กรี๊ดดดด!!! ทำไมต้องเอาพลอยไปเปรียบเทียบกับผู้หญิงคนนี้ด้วย ผู้หญิงชั้นต่ำที่เอาตัวเองมาแลกกับเงินอย่างนี้”